รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
รีวิวหนังไทย สืบเนื่องจากความสำเร็จของ ATM เออรัก เออเร่อ (2555) ที่ทำรายได้รวมกว่า 150 ล้าน กับ พี่มากพระโขนง (2556) ที่ยอดรวมทะลุหลักพันล้าน บวกกับความล้มเหลวเมื่อกลางปี 2557 ของ ฝากไว้..ในกายเธอ ทางค่ายหนังไทยยักษ์ใหญ่จึงต้องฝากความหวังครั้งสุดท้ายของปีไว้กับ เมษ ธราธร ผู้กำกับฯ เจ้าของผลงาน ATM เออรัก เออเร่อ ให้กอบกู้ชื่อเสียงและหน้าตากลับมาสู่ GTH อีกครั้ง!
ถ้าอ้างอิงจากผลงานเก่าๆ ที่ทะลุ 100 ล้านแบบลอยตัวของ GTH จะเห็นว่าหลายเรื่องเป็นหนังแนวตลก (comedy) เช่น กวน มึน โฮ, ATM เออรัก เออเร่อ, และ พี่มากพระโขนง ซึ่งวิเคราะห์ที่มาของรายได้ได้หลายทาง
การพีอาร์และการตลาดที่สายแข็งเหนือยุทธภพของค่าย
ดารานักแสดงที่ไม่ได้หล่อสวยโอเวอร์แต่มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ และเข้าถึงง่าย
กระแสปากต่อปาก และพลังแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ก (ทั้งทางบวกและทางลบ)
มุกตลกที่เน้นสายแมสและชนชั้นกลางเป็นหลัก
“ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานหนังตลกของ GTH ที่มีจุดแข็งตาม 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น (โดยเฉพาะคลิปพระนางเต้นเพลง “ABC ชักกระตุก” นี่เราชอบมาก) แต่แข็งแกร่งกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมาของ GTH ตรงที่ “อาศัยกินบุญเก่า” ของชื่อค่าย, ชื่อ ATM เออรัก เออเร่อ, ชื่อของพระนาง รวมถึงชื่อตัวประกอบอย่างบร๊ะเจ้าโจ๊ก (เช่นเดียวกับกรณีตุ๊กตาผี Annabelle ที่มีคนหลงไปดูเยอะเพราะความฮอตของ The Conjuring) ได้อย่างสบายๆ
สำหรับเนื้อเรืองก็ประมาณว่า คายะ(แสดงโดยโซระอาโออิ) ต้องการจะเลิกกับแฟนของเธอ ยิม(ซันนี่) ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เข้ากันได้เรื่องเดียวคือเรื่องจุดจุดจุด….คือไม่ต้องการการสื่อสารอะไรใดๆทั้งสิ้นว่างั้น คายะก็เลยวานให้ติวเตอร์เพลง(ไอซ์ ปรีชญา)ไปแปลคำพูดเพื่อบอกเลิกเป็นภาษาไทยให้(จากภาษาอังกฤษ) ครูเพลงเป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่ท่าทางจะชื่อดังและร่ำรวยพอสมควรดูจากบ้านและไลฟ์สไตล์ของเธอ
คายะติดสินบนให้กับครูเพลงเป็นกระเป๋าหลุยส์ เธอจึงยอมตกลงรับงานนี้ โดยเมื่อเธอไปแปลให้ยิม บอกว่าคายะไปอเมริกาแล้วและเธอก็คงไม่กลับมาอีกขอให้ยิมโชคดี ส่วนยิมก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเนื่องจากแฟนหนี เขาจึงบังคับให้ติวเตอร์เพลงมาติวภาษาอังกฤษเพื่อไปตามคายะ โดยขู่ติวเตอร์เพลงจนติวเตอร์เพลงต้องยอมจำนนทำงานนี้ ในระหว่างนั้นทั้งสองคนก็ค่อยๆรักกันค่ะหลังจากนี้จะเป็นสปอยล์และความรู้สึกหลังดูนะคะ ใครไม่อยากดูอย่าเลื่อนลงไปนะ
เอาเรื่องความรู้สึกก่อนคือหนังก็ทำได้ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโอ้ว ว้าว วู้ว เฮ้ยยย สนุกโคตรๆๆๆๆหรืออลังการโคตร อะไรแบบนี้ค่ะ มันเป็นแบบมาตรฐานหนังไทยตลกฟีลกู้ดทั่วๆไป มุขแป้กไม่แป้กมั่ง หนังดำเนินเรื่องเร็วส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษไม่มีแปลเลยสงสารแม่ที่ไปดูด้วยดูไม่เข้าใจตอนนั้นๆ เพราะบางตอนทำได้ดีมากเช่น ตอน 1 minute speech ที่ให้พูดถึงคำว่า mole
แล้วพฤกษ์(ตัวละครในเรื่องที่นางเอกเคยชอบตอนแรก) บอกว่า mole หรือไฝนั้นเลือกที่ๆมันจะเกิดขึ้นมาไม่ได้ คนเรามักจะตามหาคนที่มีไฝที่เดียวกันเพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตแต่มันอาจจะไม่เจอเลยก็ได้ทั้งชีวิต น่าแปลกที่ว่าไฝนั้นเหมือนกันกับโชคชะตา โชคชะตาเลือกที่จะเกิดที่จะเป็นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะลิขิตชีวิตตัวเองได้ หลังจากนั้นพฤกษ์ก็เอาปากกามาจุดเป็นไฝที่เดียวกันนางเอก เป็นคำพูดหรูหราโลกสวยที่น่าประทับใจค่ะ เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
อีกตรงหนึ่งก็คือตอนจบที่นางเอกบอกว่า เจ้าหญิงซิลเดอเรลล่าในโลกแห่งความเป็นจริง อาจจะไม่ได้ต้องการเจ้าชายรูปงาม แต่ต้องการช่างทำรองเท้าธรรมดา และช่างทำรองเท้า อาจจะไม่ต้องการซินเดอเรลล่าก็ได้ เรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่จบแบบสมบูรณ์หรือ happily ever after เสมอไป แสดงถึงเรื่องของความรัก คนไปดูหนังรักมักจะเจอฉากจบที่ตัวละครแต่งงาน แฮปปี้ แต่ดูๆไปพบว่านั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นของชีวิตคู่ นอกจากนี้หลายคู่ต้องจบด้วยการเลิกกัน
ส่วนมุขในเรื่องดูขาดๆเกินๆสนุกดีแต่มันดูล้น บางอันดูขาด แต่ตัดภาพได้ดีมากค่ะ ตัดต่อได้ดึงอารมณ์คนทั้งๆที่เป็นฉากธรรมดาๆแต่ทำให้ซึ้งหรือรู้สึกน่ารักกินใจได้ ชีวิตนางเอกดูสมบูรณ์เกินไป เรื่องดูเวอร์ๆ แต่อย่างว่ามันเป็นหนัง ต้องทำใจว่าความเว่อร์มันก็มีอยู่แล้ว ถ้าไปดูหนังชีวิตเรียลมันก็คงไม่สนุก
ความต่างระหว่างพระเอกกับนางเอกมีมาก พระเอกดูจน ดูซกมก นางเอกดูไฮโซ และกลับไม่เลือกคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าบางครั้งความรักเราก็เลือกไม่ได้ว่าจะรักคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน หรือคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าหรือแม้จะฝืนหลักการของสังคมเช่น ติวเตอร์รักกับนักเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสียจรรยาบรรณในสายตาคนส่วนใหญ่
นางเอกจึงมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ตอนท้ายสุดและยินยอมที่จะคบกับพระเอกในที่สุด นางเอกน่ารักค่ะเรื่องนี้ เต้นตลกดีตอนจบ ด้วยความที่เป็นหนังรักสำหรับวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นๆเราไปดูแล้วเลยไม่อินมาก แต่ก็ตลกมุขพี่โจ๊กฆ่าจิ้งจกด้วยง่ามตูดนี่แหละ ฮามาก แล้วก็มุขของพฤกษ์ที่บอกว่าผมมีชีวิตเพื่อเพลง ไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต มุขนี่อย่างฮา
บางมุขก็แนวตึ่งโป๊ะคาเฟ่ไปนิด สรุปหนังดูเพลินอย่าไปคิดมากอีกเรื่องหนึ่ง อ้อ พระเอกนี่ก็ประหยัดจริงจังคือเอาน้ำซุปข้าวมันไก่มารวมทำเป็นซุปมาม่า สุดยอดเลยวิธีนี้ ขนาดซุปแข็งเป็นวุ้นยังเวฟได้ แถมกัขฬระนักเลงจนน้องที่ไปดูด้วยกันบอกเป็นตูๆเลือกคุณพฤกษ์แสนไฮโซ
มุขที่เราชอบ ชอบตอนพระเอกสัมภาษณ์งานค่ะ มันมั่วได้ใจมาก นางเอกก็ช่างเก็งข้อสอบมาถูกเหลือเกิน ช่วยเหลือพระเอกขนาดนี้เราว่าเป็นใครๆก็หลงรักนะ ชุดตอนเธอไปกับพระเอกที่เป็นล่ามที่บอกว่าให้ใส่ชุดคล้ายงานแต่งสวยมากค่ะ สรุปรวมๆอีกที ไปดูอย่าไปคาดหวังอะไรมาก เอาฟีลกู๊ดแนว GTH พอค่ะ
ที่เราชอบคือโซระ อาโออิ เธอแสดงดีนะคะ น่ารักมากด้วยถึงแม้จะออกแนวอีโรติคไปนิด แต่มันไม่ได้น่าเกลียดมากค่ะ แค่ส่อ ซันนี่เล่นได้เข้ากับบทดี ดูดีมาก ไอซ์นางเอก น่ารักทุกท่วงท่า ส่วนไม่ชอบคือ มันไม่เรียลเลย ไม่เหมือนโลกแห่งความเป็นจริง ออกการ์ตูนๆ เข้าใจว่าเป็นฟีลนิยมหนังสมัยนี้ และก็ไม่ได้ซึ้งขนาดนั้นตามที่หนังรักควรจะเป็น เผลอๆบางคนไปเชียร์คุณพฤกษ์พระรองด้วยซ้ำ ให้คะแนนความเพลิน
ในวันหยุดที่เป็นวันพุธอย่างนี้ อาจจะดูเป็นเรื่องดีก็ได้ที่มีหนังใหม่รอบสื่อให้ดู ไม่ต้องรีบต้องร้อนตะเกียกตะกายไปดู แต่ที่ไหนได้ กลับพบตัวเองติดแหง็กอยู่บนถนนท่ามกลางจราจรที่ติดขัด เหมือนตัวเองคิดผิดที่เลือกเดินทางในแบบนี้ แม้ว่าสุดท้ายจะมาถึงโรงหนังทันเวลา และได้พบกับหนังเรื่องใหม่จากค่ายหนัง GTH หนังคอมิดี้ที่ผสมเอาความโรแมนติกพ่วงเอาสิ่งที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของค่ายๆ นี้เสมอมาอยู่ในนี้ด้วย
สองนักแสดงนำจากหนัง ‘ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้’
หนังเรื่องนี้มีทั้ง ไอซ์ ประกบ ซันนี่ ‘ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้’ จากผู้กำกับจากหนัง ‘ATM เออรัก..เออเร่อ’ ที่กลับมาพร้อมกับนางเอกคนเดิม แต่เรื่องราวเปลี่ยนไป จากเรื่องเพี้ยนๆ ฮาๆ กลายเป็นเรื่องที่รับกับการเข้ามาของ AEC
เรื่องราวของวิศวกรช่างซ่อมบำรุงอย่าง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ที่กำลังถูกแฟนสาวชาวญี่ปุ่นอย่าง “คายะ” (โซระ อาโออิ) ขอบอกเลิกและบอกลาไปอยู่อเมริกาด้วยเหตุผลที่พวกเขาคุยกันไม่รู้เรื่อง และเพราะเขาไม่รู้ภาษาอังกฤษจึงเลือกที่จะเรียนรู้ภาษาเพื่อสอบสัมภาษณ์ให้ผ่านไปทำงานที่เดียวกับเธอให้ได้ และนั่นทำให้เขาเลือกมาเรียนกับ “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ซึ่งดันเป็นติวเตอร์คนเดียวกันที่สอนภาษาอังกฤษให้กับคายะอีก ทำให้เพลงต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก
ว่าจะเป็นตัวกลางในการเลิกกันดี หรือทำให้สองคนกลับไปพบกันอีกครั้งดี
แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้นหรอก เมื่อเพลงเองก็รู้สึกดีอยู่กับศิษย์หนุ่มหล่อรวยที่ดูจะเก่งภาษาซะจนไม่รู้มาเรียนทำไม อย่าง “คุณพฤกษ์” (ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) เรื่องชุลมุนวุ่นรักเกิดขึ้น ก็เมื่อความรักของเธอกับศิษย์หล่อรวยกำลังถูกป่วนจากศิษย์ผู้หยาบคายที่พูดอังกฤษไม่ได้เอาเสียเลยน่ะสิ หนังฟรี หนังใหม่
ความคิดเห็นส่วนตัว
สิ่งที่คิดหลังดูหนังเรื่องนี้จบก็คือ จากที่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะมีแต่ฉากตลก ขำ ฮากลิ้ง กลับกลายเป็นว่าหนังมีมากกว่านั้น มันคือหนังที่รวมทั้ง Comedy และ Romance เข้าด้วยกัน ครึ่งแรกเราอาจจะชวนหัวไปกับมุกโน่นนี่นั่นที่บ้างก็ทำได้อยู่หมัด แม้บ้างก็ฟังแล้วฝืดๆ บ้างก็ดูน่าเกลียดเกินก็มี แต่กับครึ่งหลัง ‘ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้’ ทิ้งเทไปที่แง่มุมความรักมากขึ้นและก็ทำได้ค่อนข้างดี เมื่อหยิบจับเอาภาษาอังกฤษ(ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหากับมัน)มาเป็นแกนในการสร้างพล็อตและใช้ได้อย่างลงตัว
ถ้าจะพูดนักแสดงเป็นคนๆ ไป อาโออิในเรื่องนี้ไม่ได้รับบทบาทแค่เป็นสาวสวยญี่ปุ่นหุ่นดีที่มารักกับพระเอก แต่กลับได้บทบาทที่มีสำคัญต่อการกระทำของพระเอก เธอมีบทพูดมากขึ้น แม้สำเนียงอังกฤษของเธอจะฟังยากอยู่สักหน่อย โจ๊ก โซคูล และตุ๊ยตุ่ย คือส่วนผสมที่สร้างความฮาให้กับหนัง อาจจะยังดูไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าฮาตุ๊ยตุ่ยมาก อีกคนที่ฮาได้อย่างเซอร์ไพรส์ก็คือ ตู่ ภพธร บทหนุ่มหล่อรวยดูจะไปกันได้กับภาพลักษณ์ของเขา แถมยังได้บทพูดที่คมคายพอๆ กันกับไอซ์ ที่นอกจากจะสวยแล้ว ยังแสดงบทตลกได้ดีเช่นเคย ส่วนซันนี่ คงไม่ต้องสงสัยในความเป็นตลกหน้าตายของเขามากนัก เพราะเขาก็ทำมันได้มาตลอดอยู่แล้ว
แต่บางมุกในหนังเรื่องนี้ยังดูจะเซอร์ไพรส์เมื่อเขากล้าจะเอามาเล่น
ซึ่งก็แน่นอนว่า คงไม่ใช่ทุกมุกที่ผมจะชื่นชอบ แต่เมื่อดูโดยรวมของหนังแล้วพาร์ทโรแมนติกของหนังทำได้น่าประทับใจมาก จากที่จะมานั่งขำ กลับกลายว่าต้องมานั่งน้ำตาไหลในหนังตลก ดูๆ ไปก็ให้รู้สึกว่า คุณครูเพลงนี่จะแต่งตัวสวยเซ็กซี่ไปไหน แต่ครูก็น่ารักมากจนบางครั้งก็หลุดโฟกัสจากเรื่องไปเลย หนังมีกำแพงอยู่หน่อยๆ เรื่องภาษาและการอ่านซับไตเติล แต่นั่นกลับเป็นส่วนหลักๆ เลยที่ให้มันกลายเป็นหนังเรื่องนี้ขึ้นมา
บทหนังร้อยเรียงไว้อย่างดี หยิบจับเอามาใช้ได้เหมาะเจาะ ทำให้ฉากโรแมนติกช่างแสนพีค ขณะมุกเลี่ยนๆ ก็ถูกวางเอาไว้อย่างถูกที่ การ tie-in สินค้าในหนังทำได้ค่อนข้างแนบเนียนไม่ดูโดด แถมยังสอนคนดูให้รู้จักภาษาอังกฤษอีกต่างหาก ไม่พอ ยังมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเป็น Easter Egg ให้แฟนตัวยงของค่ายนี้ได้ยิ้มย่องเมื่อยามได้เห็น ดูเหมือนว่า…หนัง GTH เริ่มจะกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้งแล้วนะ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์