รีวิว น้องพี่ที่รัก

รีวิว น้องพี่ที่รัก

รีวิว น้องพี่ที่รัก

 

 

 

รีวิวหนังใหม่ล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของสตูดิโอ GDH

สำหรับเรื่องนี้ไม่ได้เน้นเป็นหนังรักโรแมนติกของคนรักแบบนั้นอ่ะแต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องครอบครัวไรงี้มากกว่า ประมาณว่าน้องสาวเก่งและเป็นคนดีมาก แต่พี่ชายสินิสัยแย่มาก ทำอะไรก็ไม่เคยดีเลยทุกอย่างมันก็เลยเกิดการเปรียบเทียบกันกับสองพี่น้องคู่นี้
รีวิว น้องพี่ที่รัก
นักแสดงนำโดย คุณญาญ่า รับบทเป็น (น้อง)
ส่วนคุณซันนี่ รับบทเป็น (พี่)
และคุณนิชคุณ รับบทเป็น (ที่รัก)
ติส
เนื้อเรื่อง
เป็นเรื่องราวของ “ชัช” พี่ชายแสนห่วย กับ น้องสาวสุดเนี้ยบ ในเรื่องชัชไม่เคยทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่ดีให้น้องสาวได้เลย แต่ถ้าเวลามีคนมาจีบน้องสาวตัวเองนะ เขาจะเข้ามาทำตัวเป็นพี่ชายทันที ประมาณว่าหวงน้องสาว และชอบทำตัวกร่างไล่หนุ่ม ๆ ที่เข้ามาจีบน้องหนีหายไปหมด แต่วันหนึ่ง “เจน” ก็มีแฟนชื่อ “โมจิ” เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น เธอปิดบังเรื่องนี้กับพี่ชาย เพราะกลัวว่าพี่ชายของเธอจะทำความรักครั้งนี้พังเหมือนที่ผ่านมาอีกหน่ะสิ แต่สุดท้ายทัชพี่ชายของเธอ ก็รู้ความจริงจนได้ ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น เมื่อชัชไม่ยอมให้
รีวิว น้องพี่ที่รัก
ทั้งสองคบหากัน เขาจะหาวิธีทำลายความรักของเธอให้ได้  จนทำให้เธอกับพี่ชายต้องทะเลาะกันรุนแรงเพราะเรื่องนี้ และไหนจะเรื่องอื่นที่พี่ชายไม่เคยช่วยหรือทำอะไรให้มันดีขึ้นมาเลย เรียกได้ว่าสร้างความปวดหัวให้เธอแทบทุกเรื่อง จึงเกิดความอัดอั้นและทนไม่ไหวของ “เจน” ต้องเด็ดขาดกับพี่ชายจริง ๆ  เธอตัดสินใจย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นกับแฟน เพราะอยู่กับพี่ชายแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เมื่อต่างคนต่างอยู่ไกลกัน จึงเกิดความค้างคาของพี่น้องคู่นี้ ที่ไม่ได้พูดมันออกไป และเมื่อเวลาผ่านไปทำให้พี่ชายแสนห่วยกลับคิดได้ขึ้นมาในตอนที่น้องสาว
เดินทางไปต่างประเทศแล้ว

รีวิว น้องพี่ที่รัก

รีวิว น้องพี่ที่รัก

ฉากที่ประทับใจมากที่สุด
1. ฉากตอนจบ
ส่วนตัวชอบฉากสุดท้ายอ่ะ เหมือนประมาณว่า ฉากสุดท้ายที่ซันนี่ร้องไห้ เขาเหมือนได้ปลดปล่อยความเป็นห่วงน้องออกมา เพราะได้มาเห็นเจนมีชีวิตที่ดี โดยแค่เพียงมองหน้ากัน มันเหมือนแบบ ความเป็นพี่น้องกันอ่ะ รู้ ๆ กันอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดหรืออธิบายอะไรเลยก็เข้าใจและรู้สึกถึงกัน ชัชไม่ต้องขอโทษเจนก็รู้สึกสื่อถึงได้ ว่าพี่ชายตัวเองมีความรู้สึกในใจยังไง อาจจะเคยทะเลาะกันแทบตาย แต่สุดท้ายแค่มองหน้ากันก็หายโกรธแล้ว เป็นฉากที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริง ๆ
2. ฉากตกปลา
ฉากที่ชัชพยายามตกปลา เหมือนเป็นสัญลักษณ์จะบอกคนดูว่า ชัชพยายามที่จะหาปลากินเอง ชัชพยายามหาปลานานมากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปลา
ผลสุดท้ายชัชก็ทำไม่สำเร็จ กลับไปซื้อปลากิน
ประมาณว่า ถ้าชัชตกปลาได้จะเอาไปให้น้องสาวตัวเองที่งานแต่งรึปล่าวอ่ะ เหมือนว่าประชด ว่านี่ไง อย่างน้อยกูก็หาปลากินเองได้นะ 5555

ความรู้สึกหลังดูจบ

เป็นหนังที่ไม่ได้โรแมนติกเท่าไหร่นะ ออกแนวตลกคอมเมดี้มากกว่าในช่วงต้นเรื่องจนไปถึงกลางเรื่องเลย แล้วก็มีแบบดราม่าหนักมากช่วงท้ายเรื่อง  มันจะเน้นไปทางความรักของพี่น้องมากกว่านะในฉาก มีบางช่วงที่เรารู้สึกเหมือนมันยังอั้น ๆ อยู่ เหมือนว่าในฉากมีเด็กสาวออฟฟิศ เดียร์ เข้ามาได้รับบทบาทบ่อยหลายซีนเลย คอยมาช่วยพระเอก ในหลาย ๆ เรื่อง แต่จริง ๆ แล้ว เดียร์ นางก็แค่อยากมีพี่ชายเพราะนางก็ปูมาตลอดว่านางเป็นลูกคนเดียว ที่มาสนิทกับชัช เพราะเดียร์อยากมีพี่ชาย สายตาของเดียร์ที่มองชัชคือพี่ชายที่ดี  แต่พอชัชจะจูบเดียร์ เดียร์เลยผิดหวังที่ชัชไม่ได้รักเดียร์แบบน้องสาว
สุดท้ายตอนจบก็ไม่ได้คบหากัน กลายเป็นว่าใจรู้สึกไปคนละแบบ ทั้งที่เหมือนจะเลิฟซีนกันอยู่แล้วนะไรงี้ แอบจิ้นนิดนึงเลยเสียดาย เพราะรู้สึกว่าเหมือนคู่รัก ไม่รู้สึกถึงความรักของพี่น้องอ่ะ
อาจเป็นหนังที่ไม่ได้ชอบทุกซีน แต่เป็นหนังที่อยากชวนคนไปดูอ่ะ เพราะโดยรวมก็สนุกดีนะ มีฉากฮา ๆ เยอะเลย แต่ถ้าใครอยากดูแบบโรแมนติกมาก ๆ ผ่านก่อนเลย เรื่องนี้เน้นคอมเมดี้มากกว่า ซึ่งพี่ซันนี่ทำได้ดีอยู่แล้วในเรื่องของบทบาทแนวนี้เราจะเห็นกันบ่อย ไม่รู้พี่แกตีบทแตกตลอด หรือแกเล่นเป็นตัวเองนะ 555
ด้วยความเครดิตดีของค่ายหนังจีดีเอช เรื่องก่อนหน้าอย่าง พรจากฟ้า ,ฉลาดเกมส์โกง ,เพื่อน…ที่ระลึก ต่างก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี ทำให้ภาพยนตร์ของค่ายนี้ถูกคาดหวังเป็นอย่างมาก และ น้อง.พี่.ที่รัก (ในชื่อภาษาอังกฤษ Brother of the Year) ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมผิดหวัง โดยได้ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ มาเล่นเป็นพี่น้องกัน กำกับโดย บอล วิทยา ทองอยู่ยง ผู้กำกับที่ดูจะมาทางคอมเมดี้ที่สุดในค่าย ในผลงานก่อนหน้าอย่าง เก๋า..เก๋า (2549) และ บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) โดยในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแนวมาเล่าถึงความสัมพันธ์ของพี่น้องที่ไม่ถูกกัน โดยพี่ชายพยายามขัดขวางความรักของน้องสาว
หลายคนที่ได้ดูตัวอย่างของภาพยนตร์อาจจะรู้สึกถึงความเป็นคอมเมดี้ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วก็มีบ้าง แต่ในหนังเล่นเรื่องความสัมพันธ์ของพี่น้องได้ดีจนบางซีนเราถึงกับน้ำตาซึม จะเรียกได้ว่าทั้งพาร์ทตลก และ ซึ้ง ก็แบ่งสัดส่วนกันออกมาได้ดีและลงตัว
บทความนี้จะพยายามไม่พูดถึงเนื้อหาหลักของเรื่อง ดังนั้น ไม่มีสปอย หรือถ้าหากใครสนใจไป ดูหนังน้อง พี่ ที่รัก สักรอบก่อนอ่านบทความ ก็สามารถไปรับชมกันได้ที่เว็บไซต์ทรูไอดี (TrueID)
ภาพยนตร์ น้อง พี่ ที่รัก เล่นประเด็นความสัมพันธ์ที่คนในสังคมส่วนใหญ่เข้าถึงคือ ความเป็นพี่เป็นน้อง หนังสามารถสร้างความรู้สึกรีเรทกับตัวละครได้ดี เพราะถ้าหากใครที่มีพี่น้องอยู่ก็คงรู้ว่าไม่ได้รักกันดีตลอด มีทะเลาะ มีงอน แต่สุดท้ายก็ยังมีความห่วงใยต่อกันในสายเลือด และหนังเรื่องนี้ก็เล่นประเด็นดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นจุดยากของหนัง เนื่องจากจำเป็นต้องเขียนบทภาพยนตร์ให้คนดูหนังอินไปกับเนื้อเรื่องได้หมด ไม่ว่าจะมีพี่น้องหรือไม่มี
ด้วยการแสดงของญาญ่าและซันนี่ ทำให้เราได้เห็นและเชื่อได้เลยว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการพูด การแสดงออก หรือการใช้สีหน้า ก็ทำออกมาได้น่ารักและเข้าถึงตัวละครมาก
ความท้าทายของการทำหนังพี่น้อง
อย่างที่เกริ่นไปว่า ความท้าทายของเรื่องนี้ คือการเล่าประเด็นพี่น้องที่ไม่เพียงแต่ต้องให้ผู้ชมเข้าถึง แต่ต้องนำเสนอให้น่าสนใจ และอยากติดตามต่อจนจบโดยไม่เบื่อ ซึ่งในหนังจริง ๆ ก็อาจจะมีช่วงที่เอื่อย ๆ บ้าง บางคนที่ไม่ชอบเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายก็อาจจะมีผิดหวัง เพราะหนังไม่ได้พาเรานั่งรถไฟเหาะแล้วมีจุดไคล์แม็กซ์ก่อนตกลงมา แต่เน้นสร้าง
บรรยากาศระหว่างการเดินทางเสียมากกว่า จากนั้นจึงค่อยจบด้วยหมัดฮุกหนัก ๆ ซึ่งด้วยสไตล์หนังแบบจีดีเอช การสอดแทรกมุก ประเด็นเล็ก ๆ หรือเส้นเรื่องของตัวละครย่อย ๆ ก็โยงกับเนื้อเรื่องหลัก ทำให้เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งเรื่อง สนุกสนานคนละแบบกับหนังที่พยายามสร้างความตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา
ด้วยความที่หนังนำเสนอเรื่องราวของพี่น้องเพียงคู่เดียวบนจอภาพยนตร์ พยายามจะเล่นประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ที่อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกบ้าน ประกอบกับบอกเล่าถึงลักษณะนิสัยพี่กับน้องอย่างสุดโต่งเกินไป (แต่ตัวหนังไม่สามารถทำได้สุดซักทาง) ทำให้เกิดความไม่เมคเซ้นส์หลาย ๆ อย่าง ทั้งบทและการกระทำของตัวละคร แต่มันก็เป็นส่วนเล็กน้อยที่เราสามารถมองข้ามไปได้
สรุปโดยรวม
น้อง พี่ ที่รัก (Brother of the Year) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการสังคมไทยได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องด้านบท การกระทำของตัวละคร และปมประเด็นต่าง ๆ ที่เล่นได้ไม่สุดเท่าไหร่ ใครที่คาดหวังจะมาดูมุกฮา ๆ อมยิ้มไปตลอด ก็อาจจะไม่สมหวังนัก (เพราะตัวอย่างก็ตัดหลอกได้เนียนมาก ๆ) แต่ก็ยังคงเป็นหนังฟีลกู๊ดที่
ดี มีทั้งความสนุกสนาน ความตลก ความรัก และความเศร้า เป็นอีกเรื่องที่ครบเครื่อง และควรหามาดูให้ได้สักครั้ง ‘เรียนเก่งให้เท่าน้องก่อนเถอะ’ นี่คือคำพูดที่ผมยังจำได้เมื่อครั้งทะเลาะกับพี่สาวสมัยประถม ตอนนั้นผมยังเด็กมาก ที่พูดแบบนั้นเพราะอยากเอาชนะพี่ที่เรียนห่วยกว่า เรียกได้ว่าเราทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเป็นนักมวยคงมี Rematch จนนับไม่หวาดไม่ไหว
แล้วคุณเคยทะเลาะกับพี่หรือว่าน้องกันบ้างไหมครับ? ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยต้องเคยกันมาบ้าง เพราะถ้าเปรียบว่าคู่รักคือลิ้นกับฟันที่ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง น้องกับพี่นี่ก็คงเป็นขอบประตูกับนิ้วเท้าเลยล่ะครับ เรียกได้ว่าพร้อมจะพุ่งชนกันได้ทุกเมื่อ
น้อง.พี่.ที่รัก เป็นหนังที่อธิบายว่าการทะเลาะกันเป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของพี่น้อง ที่เป็นเสมือนผงชูรสที่ถ้าใส่พอดีก็จะอร่อย แต่ถ้าใส่มากไปก็อันตรายกับสุขภาพ ความสัมพันธ์ก็เช่นกัน บ่อยครั้งที่หลังจากการทะเลาะแล้วคืนดีกัน เราจะได้เรียนรู้ที่จะ ‘ทำยังไงให้ไม่ทะเลาะกันอีก’ เสมอ
“ไอ้พี่ห่วย” ประโยคคลาสสิกที่ใช้อธิบายภาพของชายที่เกิดก่อนน้องได้อย่างชัดเจน และ พี่ชัช-แสดงนำโดย ซันนี่-สุวรรณเมธานนท์ เป็นภาพรวมของเหล่าพี่ชายห่วย ๆ ของสยามประเทศอย่างแท้จริง ผ้าไม่ซัก กับข้าวไม่ทำ จานชามไม่ล้าง พาสาวที่ไหนก็ไม่รู้มานอนบ้าน ทุกสิ่งอย่างของพฤติกรรมแย่ ๆ ที่พี่ชายห่วย ๆ พึงจะมี พี่ชัชฟาดเรียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *