หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง ภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 3 The Holy Man III เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นน้อย วงพรู ที่มารับบทเป็น น้อย ในอดีตเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์ แต่เมื่อเขาเริ่มอยากพยายามจะหลีกหนีความวุ่นวาย และความจริงที่เขากำลังจะต้องเผชิญ เขาจึงเลือกทางที่หวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ

การบวชเป็นพระ ซึ่งเมื่อเป็นพระแล้วเขาก็ยังเป็นพระที่ขวางโลกและรักความยุติธรรมเช่นเดิม คนต่อมาคืออุ๋ย บูดาเบลส มารับบทเป็น พระประเสริฐ คนต่อมาคือโยกเยก เชิญยิ้ม มารับบทเป็น พระโยกเยก คนต่อมาคือโน้ต เชิญยิ้ม มารับบทเป็น ตาส่ง มัคนายกประจำวัด และคนต่อมาคือเอ็ม บูดาเบลสและแจ็ค แฟนฉัน ที่มารับบทเป็น เด็กวัดตัวแสบ ที่มักจะคอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่ประจำๆ โดยภาพยนตร์เรื่อง หลวง พี่ เท่ ง 3 Netflix 

 

เรื่องย่อ หลวงพี่เท่ง 3

เปิดเรื่องราวมาที่ น้อย ชายหนุ่มที่ในอดีตนั้นเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์มาก่อน แต่ด้วยความที่ในใจเขานั้นอยากจะพบความสงบและพยายามจะหลีกหนีจากโลกรวมไปถึงเรื่องราวความจริงสุดเลวร้ายที่เขานั้นยังไม่พร้อมจะรับมือและหนทางที่เขาเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ การเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง จากที่ในอดีตเคยเป็นนักร้องหนุ่ม ปัจจุบันเป็นพระ

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

โดยถึงแม้จะเป็น พระน้อย แล้วเขาก็ยังคงความเป็นตัวเองเอาไว้ เขายังคงขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจาขวานผ่าซากและเป็นคนตรงๆเหมือนไม้บรรทัดอยู่ โดยอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาได้ตัดสินใจมาบวชก็คือเขาเบื่อสังคม เบื่อความแตกแยก แต่ดูเหมือนอะไรๆก็ไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง เพราะขนาดในวัดที่เค้าบวชก็ยังมี เหล่าพระ และเด็กวัดตัวแสบที่มักจะคอยมาสร้างความวุ่นวายใจให้เขาและวัดอยู่เสมอ แล้วเรื่องราวของพระน้อยจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาจะสามารถ ปรับตัวให้เขากับชีวิตใหม่ได้ไหม ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

การทำภาพยนต์ หลวงพี่เท่ง 3 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง การทำภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันสำคัญๆ นั้น ผู้กำกับหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจะทำ อาจจะเป็นเพราะว่าเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ และเมื่อทำออกมาแล้วก็เสี่ยงกับการถูกเซ็นเซอร์จากทาง ก.บ.ว. ตัดในส่วนที่ทางผู้กำกับตั้งใจนำเสนอออกไป เหตุผลเพราะว่า ไม่สมควรที่จะอ้างหรือกล่าวถึงในสถาบันนั้นๆ สถาบันครอบครัวอาจจะไม่เท่าไหร่

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

แต่ถ้าเลื่อนขึ้นไปเป็นสถาบัน “ศาสนา” ด้วยแล้ว อัตราการเสี่ยงที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม “โน้ต เชิญยิ้ม” ผู้กำกับดาวตลกมือทองของไทยเรา ก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ และทันทีที่ได้ทราบข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง “หลวงพี่เท่ง 3” ผ่านกองเซ็นเซอร์ ก็ถึงกับน้ำตาไหล ที่รอดพ้นกรรไกรจากกองเซ็นเซอร์อย่างหวุดหวิด ก็อย่างที่บอก ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพระเกี่ยวกับศาสนาทำง่ายซะที่ไหน!!

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่ เท่ ง 2 ปัญหาจากกองเซ็นเซอร์ที่ผ่านไปก็คงเหมือนการยกภูเขาออกจากอก เพราะก่อนหน้านั้นปัญหาในการหาตัวนักแสดงที่จะมาเล่นเป็น “หลวงพี่เท่ง” ในภาคนี้ก็สาหัสสากรรจ์ไม่แพ้กัน เพราะติดปัญหาบางประการที่จะเอาพระเองตลกอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” มาเล่นได้ ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นแล้วในภาคที่สอง ในภาคนั้นแก้ปัญหาโดยการให้ “โจอี้บอย” มาเล่นแทน ส่วนภาคนี้แก้ปัญหาโดยให้ “น้อย” วงพรู มาเล่น

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

หลวงพี่เท่ง 3 เป็นเรื่องราวของ “น้อย” (น้อย วงพรู) นักร้องหนุ่มมาดเซอร์ ที่พยายามจะหลีกหนีจากโลกที่วุ่นวาย และความจริงที่ตนเองได้รับ โดยหนทางที่เค้าเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้น คือการบวช แต่ “พระน้อย” ยังคงเป็นตัวของตัวเอง เป็นพระที่ขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจากำปั้นทุบดิน เป็นคนตรงเหมือนไม่บรรทัด ที่มาบวชเพราะเบื่อสังคม เบื่อคนไทยไม่รักกัน เบื่อความแตกแยกแต่เส้นทางในชีวิตเส้นนี้ไม่เป็นไปดังหวัง เพราะในวัดที่บวช ยังมี “พระประเสริฐ” (อุ๋ย บูดาเบลส), “พระโยกเยก” (โยกเยก เชิญยิ้ม), “ตาส่ง” (โน๊ต เชิญยิ้ม) มัคทายกประจำวัด และเด็กวัดตัวแสบอีก 2 คน

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

ที่คอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นพระน้อยยังต้องพบกับเหตุการณ์อลหม่านป่วนจิตจนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับพวกแก๊งขโมยเศียรพระอีกต่างหาก งานนี้พระน้อยจะสงบเหมือนดังที่หวังไว้หรือไม่ต้องเข้าไปติดตามเองครับ ก่อนอื่นผมขอปรบมือดังๆให้กับ คุณโน้ต เชิญยิ้ม ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สามารถนำเรื่องของศาสนามาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ถึง 3 ภาคแล้วและโดยเฉพาะภาคนี้ แม้ว่ามุขตลกในเนื้อเรื่องทั้งหมดยังคงเท่าๆเดิมหรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยแต่สิ่งที่เห็นชัดๆเลยคือเรื่องการสอดแทรกในเรื่องของ “ธรรมะ” ที่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้มากขึ้นกว่าสองภาคที่ผ่านมาและคำสอนต่างๆก็กลมกลืนไปกับบทหนัง

ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดในหลักคำสอนต่างๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าจากประสมการณ์สองเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คุณโน้ตเห็นจุดบกพร่องต่างๆ และนำมาแก้ไขปรับปรุงจนเกือบจะเข้าที่ได้ในภาคนี้ การโน้มนาวให้คนดูเชื่อในคำสอนของศาสนาหรืออย่างน้อยก็ผ่านหูผู้ดูให้คิดตามได้ คุณโน้ตก็ทำได้อย่างแนบเนียน เนื้อเรื่องที่ไหลไปตามเหตุการณ์ต่างๆ เกือบดีแล้ว ถ้าไม่มีฉากที่ต้องการแสดงมุข อย่างฉากนักมวยซึ่งไม่มีก็ได้เข้าใจว่าต้องการเล่นมุขมากกว่าในฉากนี้ หรือในฉากที่เด็กวัดตัวแสบสองคนนอนแช่อยู่ในน้ำแล้วคุยกัน ไม่ต้องมีก็ได้ ถึงไม่มีก็ไม่ทำให้หนังเสียแต่ก็เขาใจว่าต้องการเล่นมุขก็ไม่ว่ากัน มีอยู่ฉากเดียวที่ผมคิดว่าเป็นฉากที่แย่มากๆ หลวงพี่เท่ง 3 037

 

 

ก็คือฉากที่มีหมอทำขวัญนาคทั้งสามคน ออกมาแหล่ขวัญนาคโดยพูดถึงพ่อแม่ของนาคในทางที่ไม่ดี ผมว่าทางผู้สร้างต้องการเล่นมุขตลก แต่มุกนี้ไม่ตลกเลยมุกนี้เล่นเอาพ่อแม่มาว่าในงานมงคลของลูกถึงแม้ว่าเรื่องที่หมอทำขวัญนากกล่าวออกมาจะเป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่สมควรเอามาพูดในงานบวชเช่นนี้ฉากนี้ไม่ตลกเลยแถมแย่มากอีกต่างหาก ส่วนเรื่องธรรมมะที่แทรกเข้ามาตั้งแต่ต้นเรื่องและแทรกมาเรื่อยๆ จนถึงจบเรื่องก็ยังมีคำสอนอยู่ อันนี้ดีครับอันนี้เห็นด้วยมากๆ เลย ในเรื่องของการแสดง ผมว่าคุณน้อย แสดงเหมือนพระโรคจิตจัง แต่แค่เหมือนเฉยๆนะเพราะในเรื่องก็ไม่ได้บอกว่า คุณน้อยเป็นโรคจิต เพียงแต่ว่าเป็นคนที่ขวางโลก และอาจจะพูดตรงไปสักหน่อย เวลาพูดมักใส่อารมณ์ ดูแล้วทำให้นึกถึงคาแร็คเตอร์ในตอนที่คุณน้อยเล่นเรื่อง “13 เกมสยอง” เลยเหมือนจริงๆในบทของพระประเสรินั้น จะเรียกเสียงฮาเสียมากกว่า แต่ผมว่าคุณอุ๋ยเล่นดีนะครับเหมือนเป็นพระจริงๆ ส่วนพระเด๋อ หรือ หลวงตาเชื่อมนั้น ยังไม่สำรวมเท่าไหร่

 

เรื่องราวของหนัง หลวงพี่เท่ง 3

หลวงพี่เท่ง 3 สปอย สำหรับหลวงพี่เท่ง 3 นี้ มี “น้อย วงพรู” มารับบท “พระน้อย” หนังเปิดเรื่องด้วยคาเฟ่แห่งหนึ่งที่มีคนหน้าเหมือนทีมชิงร้อยฯ หม่ำ เท่ง โหน่ง ตุ๊กกี้ และ อุ๋ย บุดดาเบลส ที่แต่งหญิง กำลังเล่นตลก เรียกเสียงฮาให้กับบรรดาเสี่ยๆ ที่มาใช้บริการ มุกแรกนี้มีฮาบ้าง แต่ทว่าดูเหมือนว่าพอเห็นว่าตลกก็ปล่อยนาน จนกลายจากฮา มาเป็นความจืด และมาปิดฉากที่ “น้อย โพธิ์งาม” ที่รับบทแม่ของ “เซิร์ช” มานั่งพร้อมกับเครื่องบายศรี เพื่อต้องการให้ลูกชายบวชเรียน และอุ๋ยบอกแม่ว่า จะบวชให้..และเมื่อถึงเวลาบวช มุกก็ถูกปล่อยมาอีกครั้งอย่างที่เห็นในหนังตัวอย่าง ที่อุ๋ยต้องถูกลงแป้งจนขาวโพลน ก็ไม่แน่ใจว่านี่ถือเป็นการล้อเล่นกับศาสนาหรือเปล่า?

กระทั่งถึงคราวแห่นาค ก็นำ “ซูซี่ ตีสิบ” มานำขบวนโห่ ซึ่งซูซี่มีบทบาทแค่นี้จริงๆ น้อยกว่า “ยายแหวว ตีสิบ” ที่ยังพอมีบทบาทคู่กับจตุรงค์ ม๊กจ๊กกับการโต้คารมกันทุกเช้าเวลาใส่บาตรให้กับหลวงตาเชื่อม ซึ่งถ้าจะดูกันจริงๆ แล้ว ทั้งซูซี่ ทั้งยายแหวว ความจริง ไม่จำเป็นเลยสำหรับในหนัง แต่น่าจะเพราะมาจากรายการตีสิบทั้งคู่ จึงเหมือนนำมาเพื่อปั่นกระแสกะให้ดังเหมือนโปงลางฯ

 

 

และระหว่างที่ เสริฐ บวชนี่เองที่ “น้อย วงพรู” มาเห็นจึงอยากบวชบ้าง กลายเป็นว่า ครั้งนี้มีพระบวชใหม่ 2 รูป คือ พระประเสริฐ หรือเจ้าตัวเรียกร้องให้เรียก พระ Search (เซิร์ช) และ พระน้อย

การทำภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันสำคัญๆ นั้น ผู้กำกับหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจะทำ อาจจะเป็นเพราะว่าเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ และเมื่อทำออกมาแล้วก็เสี่ยงกับการถูกเซ็นเซอร์จากทาง ก.บ.ว. ตัดในส่วนที่ทางผู้กำกับตั้งใจนำเสนอออกไป เหตุผลเพราะว่า ไม่สมควรที่จะอ้างหรือกล่าวถึงในสถาบันนั้นๆ สถาบันครอบครัวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเลื่อนขึ้นไปเป็นสถาบัน “ศาสนา” ด้วยแล้ว อัตราการเสี่ยงที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม “โน้ต เชิญยิ้ม” ผู้กำกับดาวตลกมือทองของไทยเรา ก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ และทันทีที่ได้ทราบข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 1

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *