Category Archives: รวมรีวิว

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

 

ประเภท: ระทึกขวัญ / สยองขวัญ สปอยหนัง

ผู้กำกับ: เลิศศิริ บุญมี, วุฒิชัย วงศ์นภดล

นำแสดงโดย: กรภัทร์ เกิดพันธุ์, เฌอปราง อารีย์กุล, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์

ความยาว: 113 นาที

กำหนดฉายในไทย: 21 เมษายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

slr กล้องติดตาย หนังไทยสยองขวัญแอ็คชั่น ผสมจิตวิทยาแนวใหม่ กับหลายความเชื่อ ทั้งเรื่องปีศาจ และความเชื่อของคนโบราณ ที่ว่าการถ่ายภาพคือ การดูดพลังและวิญญาณ เนื้อหาชวนติดตาม มุมภาพใหม่ โทนเร้าอารมณ์ ภาพยนตร์สยองขวัญแอ็คชั่น จิตวิทยา ผสานแนว coming of ageแนวใหม่ กับความเชื่อโบราณที่ว่า การถ่ายภาพ คือ การถูกดูดวิญญาณ

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

slr มาจากคำว่า single lense reflex หรือ กล้องฟิล์ม นั่นแหละ หนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ผี แต่เป็น ปีศาจ ไม่เหมือนกับ shutter

ความเชื่อเรื่อง การถ่ายภาพ = การถูกดูดพลังหรือวิญญาณ ที่มาจากความเชื่อของคุณยายของ ผู้กำกับ มาร์ค-เลิศศิริ บุญมี ว่าคนสมัยก่อนไม่ชอบถ่ายรูปเพราะเชื่อว่าจะถูกดูดพลังไป แต่มาร์คมองว่ามันก็สอดคล้องวิทยาศาสตร์ตรงที่ กล้องคือกล่องเก็บภาพ ภาพคือแสง แสงคือพลัง กล้องเก็บแสงคือเก็บพลังส่วนหนึ่งของเรา ไปไว้ในฟิล์มนั่นเอง ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ slr กล้องติดตาย

แดน (นนน-กรภัทร์) นักศึกษาหนุ่มที่กำลังมุ่งมั่นทำธีสิสจบ ด้วยการถ่ายภาพ แต่ถ่ายยังไงก็ไม่โดนใจอาจารย์เอ็ม อาจารย์เจ้าของธีสิส ทำให้เขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ไปตามฝันที่นิวยอร์ก พร้อมกับ เพื่อนและคนรัก อย่าง น้ำ และ เกรซ (เฌอปราง) (นนท์-ศดานนท์) จนกระทั่ง อาจารย์เอ็ม ได้มอบกล้อง slr ตัวหนึ่งมาให้แดน แนะให้ใช้กล้องตัวนี้ ทำธีสิส ให้ได้ โดยโจทย์คือ ถ่ายภาพบุคคลมาให้ได้ 7 คน ภายใน 14 วัน แต่ใครจะรู้ว่า… หลังจากถ่ายภาพไป คนที่ถูกแดนถ่าย กลับทยอย เสียชีวิตไปทีละคน จนกลายเป็นพวกเขา เข้าไปพัวพันกับความเชื่อในลัทธิปีศาจ ที่มีความตายเป็นเดิมพัน!

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

มาต่อคิวกันด้วยอีกหนึ่งหนังไทย ที่เดี๋ยวนี้เสิร์ฟต่อเนื่องกันทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ล่าสุดติดเทรนด์ฮอตตั้งแต่วันแรกกับ #ชวนดูslrฉายวันแรก ที่เป็นการปรับโหมดมาสู่ความสะพรึงกลัวในหนังที่ดูเบื้องต้นแล้ว อาจจะรู้สึกซ้ำซากจำเจ กับ “slr กล้อง ติด ตาย” แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่า อย่าเพิ่งตัดสินหนังจากเพียงแค่ตัวอย่างและใบปิดหนังเลย เพราะจะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้ที่ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไปสุด ๆ ปนเปอารมณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็พอที่จะเป็นหนังผีไทยที่แตกต่างและพอจะพาไปไหนมาไหนด้วยได้อยู่

 

ผลงานหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของ 2 ผู้กำกับหนุ่มรุ่นใหม่ “เลิศศิริ บุญมี” กับ “วุฒิชัย วงศ์นภดล” ที่พวกเขาแทบจะยังไม่มีชื่ออยู่ในวงการหนังไทยหรอก แต่ก็นับว่าเป็นการประเดิมเดบิวต์ผลงานเรื่องนี้ได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะส่วนหนึ่งเป็นการปลุกปั้นผลักดันของผู้กำกับมือฉมัง “โขม ก้องเกียรติ” ที่มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและที่ปรึกษาให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย เมื่อได้ครูที่ดี ผลงานออกมาจึงออกมาได้ในระดับที่พอถูไถไปได้

slr กล้อง ติด ตาย ที่ถ้าใครได้เห็นทีเซอร์ แน่นอนว่าจะต้องพาให้นึกไปถึงหนังไทยในตำนานอย่าง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ อะไรประมาณนั้นใช่ไหม? แต่บอกไว้เลยว่า…หนังเรื่องนี้แตกต่างจากทิศทางนั้นอย่างสิ้นเชิง เดินกันคนละทาง และมีคอนเซ็ปต์คนละแบบ เพียงแค่ใช้วิชาการถ่ายรูปเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนกันเพียงเท่านั้น โดยหนังเรื่องนี้มีแก่นเรื่องและจุดประสงค์ที่ค่อนข้างแข็งแรงและชัดเจนดี

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

ถึงแม้ว่าบทหนังจะยังคงค่อนสะเปะสะปะ ติดอยู่กับปัญหาจุดเดิม ๆ ของหนังไทยที่ยังแก้ไม่หาย บทหนังที่มีแก่นเรื่องหนักแน่นดี แต่ยังไม่กลมกล่อม และใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ยังไม่มีกิมมิกลูกเล่นอะไรที่ดึงดูดความสนใจได้มากเท่าไหร่ เพราะดันไปติดกลิ่นอายความเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำของฝั่งฮอลลิวูดมาปนเปเอาไว้รายทาง จึงพลอยทำให้หนังเกือบ 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ มีจังหวะที่ดีปะปนไปกับจังหวะที่ยังไม่ดี

บอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่อะไรที่คาดเดาได้ยากเลย ทุกอย่างปูทางและเปิดทางเอาไว้ให้คนดูกระจ่างตั้งแต่ตอนปูเรื่อง พอจะคาดถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ยากเย็นหนัก แต่การหยิบเอาประเด็นความเชื่อที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน แหวกแนวไปจากหนังผีไทยเดิม ๆ ตรงจุดนี้ต้องชื่นชมในกล้าหาญของหนังเรื่องนี้ เพราะนี่อาจจะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างไกลตัวคนไทย และอาจจะทำให้คนดูไม่รู้สึกคล้อยตามไปด้วยซ้ำ แต่ถือว่าผู้สร้างมีจุดยืนในเจตนานี้ด้วยดี และได้ปรุงแต่งรสชาติออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่กับวงการหนังไทย แต่ยังธรรมดา ๆ ไปเหมือนเทียบกับแวดวงหนังสากล slr กล้องติด รีวิว

 

นักแสดงจุดอ่อนของเรื่อง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย กลุ่มนักแสดงที่ตอนแรกดูจะเป็นจุดอ่อนของเรื่องที่สุด กลับกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของเรื่อง เคมีอาจยังดูไม่เข้ากันในที และอาจต้องใช้เวลาจูนกันอีกนิด แต่บทบาทส่วนตัวของแต่ละคนทำออกมาได้ดีและเกินคาดมาก โดยเฉพาะ นนน ที่ระเบิดฟอร์มอย่างเด่นชัด กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงน่าจับตาไปโดยปริยาย

 

 

ในขณะที่มายเมนเฌอปรางมีพัฒนาการจากตอน homestay ได้อย่างน่าดูชม เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังทั้งเรื่อง แต่ชอบเป็นพิเศษคงเป็นช่วงแรกของเรื่องที่แสดงความเป็นคาแรคเตอร์ของสาวขี้เล่นขี้หยอดได้น่ารักมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยได้เห็นเลยเวลาเธออยู่ในวง รู้สึกตกหลุมรักขึ้นมาอีกรอบเลย SLR กล้อง ติด นักแสดง

แม้ว่า slr จะโปะหน้าว่าเป็นหนังสยองขวัญ และมีจัมป์สแกร์เป็นบางช่วง แต่ส่วนตัวรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้เอาตายขนาดนั้น จริตของมันไปทางหนังสยองตะวันตกมากกว่า มีการพูดถึงความเชื่อ การบูชาซาตาน

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้รู้สึกประทับใจใน slr หนังผี ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบงานสร้างและดีไซน์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนัง โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ทั้งฉากที่รู้สึกพิถีพิถันและแปลกตาจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ดี การออกแบบมุมกล้องและแสงสีที่ใช้หนังเรื่องนี้ ผสมด้วยความเป็นหนังลึกลับอินดี้แบบฝรั่งหน่อย ๆ เข้าไป เป็นจุดเล็กน้อยที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าจังหวะในการเล่าเรื่องของหนังจะค่อนข้างโดดไปมา และพลอยทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องอยู่เนือง ๆ บ่อยก็ตาม

อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิธีการเล่าเรื่องในหนัง slr กล้องติดตาย ยังไม่ใช่สิ่งที่โปรดปรานโดยส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก หนังยังมีจุดขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ความพยายามที่จะกระตุกขวัญผู้ชมด้วยมุกเดิม ๆ อาจจะเป็นการสร้างความน่ารำคาญ หรือความสุดโต่งในการถ่ายทอดเรื่องราว ที่ยอมรับว่าเกือบจะไปได้สุด แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนังยังเก้กังติดอยู่กลางทางอยู่บ้าง เป็นองค์ประกอบที่น่าเสียดาย ที่ตรงจุดนี้หนังยังไม่สามารถซื้อใจไปได้

 

 

ขณะที่นักแสดงของ slr กล้องติดตาย ก็ถือว่าใช้งานนักแสดงเจนใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพทุกคน ไม่ว่าจะ “นนท กรภัทร์”, “เฌอปราง bnk48” หรือ “นนท์ ศดานนท์” พวกเขาทุ่มเทถ่ายทำบทบาทของตัวเองในหนังเรื่องนี้ได้เต็มที่ และหนังก็สามารถเกลี่ยบทให้กับทุกตัวละครนำได้ค่อนข้างดีใช้ได้ เพียงแต่มิติของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ เหล่านั้นยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากแค่หนุ่มสาว 3 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวบนความเชื่อของพวกเขา ทั้งที่น่าจะสามารถเค้นออกมาได้มากกว่านี้ แต่ก็เหมือนว่าการแสดงยังอยู่ในจุดเซฟโซนไปสักหน่อย

ว่ากันว่า ปี 2565 วงการหนังไทยจะรุกตลาดกับกระแสจักรวาลหนังมอนสเตอร์ไทย ๆ ชุดใหญ่ แต่คงต้องบอกว่า slr กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะถูกยังอยู่ในจักรวาลนั้นไปด้วยเรื่องหนึ่งแล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่เป็นหนังผี แต่ยังใส่ความสัตว์ประหลาดเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างแยบยล ถึงได้บอกว่าเป็นความทะเยอทะยานที่ไม่ค่อยจะเคยเห็นในวงการหนังไทยมาก่อน มันเป็นการพัฒนาที่ดี เพียงแต่ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกกว่านี้ แต่ก็นับว่าหนังไทยเรื่องนี้พยายามมาได้ค่อนข้างถูกทางในระดับหนึ่งแล้ว SLR กล้อง ติด เต็มเรื่อง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง ภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 3 The Holy Man III เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นน้อย วงพรู ที่มารับบทเป็น น้อย ในอดีตเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์ แต่เมื่อเขาเริ่มอยากพยายามจะหลีกหนีความวุ่นวาย และความจริงที่เขากำลังจะต้องเผชิญ เขาจึงเลือกทางที่หวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ

การบวชเป็นพระ ซึ่งเมื่อเป็นพระแล้วเขาก็ยังเป็นพระที่ขวางโลกและรักความยุติธรรมเช่นเดิม คนต่อมาคืออุ๋ย บูดาเบลส มารับบทเป็น พระประเสริฐ คนต่อมาคือโยกเยก เชิญยิ้ม มารับบทเป็น พระโยกเยก คนต่อมาคือโน้ต เชิญยิ้ม มารับบทเป็น ตาส่ง มัคนายกประจำวัด และคนต่อมาคือเอ็ม บูดาเบลสและแจ็ค แฟนฉัน ที่มารับบทเป็น เด็กวัดตัวแสบ ที่มักจะคอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่ประจำๆ โดยภาพยนตร์เรื่อง หลวง พี่ เท่ ง 3 Netflix 

 

เรื่องย่อ หลวงพี่เท่ง 3

เปิดเรื่องราวมาที่ น้อย ชายหนุ่มที่ในอดีตนั้นเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์มาก่อน แต่ด้วยความที่ในใจเขานั้นอยากจะพบความสงบและพยายามจะหลีกหนีจากโลกรวมไปถึงเรื่องราวความจริงสุดเลวร้ายที่เขานั้นยังไม่พร้อมจะรับมือและหนทางที่เขาเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ การเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง จากที่ในอดีตเคยเป็นนักร้องหนุ่ม ปัจจุบันเป็นพระ

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

โดยถึงแม้จะเป็น พระน้อย แล้วเขาก็ยังคงความเป็นตัวเองเอาไว้ เขายังคงขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจาขวานผ่าซากและเป็นคนตรงๆเหมือนไม้บรรทัดอยู่ โดยอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาได้ตัดสินใจมาบวชก็คือเขาเบื่อสังคม เบื่อความแตกแยก แต่ดูเหมือนอะไรๆก็ไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง เพราะขนาดในวัดที่เค้าบวชก็ยังมี เหล่าพระ และเด็กวัดตัวแสบที่มักจะคอยมาสร้างความวุ่นวายใจให้เขาและวัดอยู่เสมอ แล้วเรื่องราวของพระน้อยจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาจะสามารถ ปรับตัวให้เขากับชีวิตใหม่ได้ไหม ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

การทำภาพยนต์ หลวงพี่เท่ง 3 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง การทำภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันสำคัญๆ นั้น ผู้กำกับหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจะทำ อาจจะเป็นเพราะว่าเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ และเมื่อทำออกมาแล้วก็เสี่ยงกับการถูกเซ็นเซอร์จากทาง ก.บ.ว. ตัดในส่วนที่ทางผู้กำกับตั้งใจนำเสนอออกไป เหตุผลเพราะว่า ไม่สมควรที่จะอ้างหรือกล่าวถึงในสถาบันนั้นๆ สถาบันครอบครัวอาจจะไม่เท่าไหร่

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

แต่ถ้าเลื่อนขึ้นไปเป็นสถาบัน “ศาสนา” ด้วยแล้ว อัตราการเสี่ยงที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม “โน้ต เชิญยิ้ม” ผู้กำกับดาวตลกมือทองของไทยเรา ก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ และทันทีที่ได้ทราบข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง “หลวงพี่เท่ง 3” ผ่านกองเซ็นเซอร์ ก็ถึงกับน้ำตาไหล ที่รอดพ้นกรรไกรจากกองเซ็นเซอร์อย่างหวุดหวิด ก็อย่างที่บอก ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพระเกี่ยวกับศาสนาทำง่ายซะที่ไหน!!

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่ เท่ ง 2 ปัญหาจากกองเซ็นเซอร์ที่ผ่านไปก็คงเหมือนการยกภูเขาออกจากอก เพราะก่อนหน้านั้นปัญหาในการหาตัวนักแสดงที่จะมาเล่นเป็น “หลวงพี่เท่ง” ในภาคนี้ก็สาหัสสากรรจ์ไม่แพ้กัน เพราะติดปัญหาบางประการที่จะเอาพระเองตลกอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” มาเล่นได้ ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นแล้วในภาคที่สอง ในภาคนั้นแก้ปัญหาโดยการให้ “โจอี้บอย” มาเล่นแทน ส่วนภาคนี้แก้ปัญหาโดยให้ “น้อย” วงพรู มาเล่น

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

หลวงพี่เท่ง 3 เป็นเรื่องราวของ “น้อย” (น้อย วงพรู) นักร้องหนุ่มมาดเซอร์ ที่พยายามจะหลีกหนีจากโลกที่วุ่นวาย และความจริงที่ตนเองได้รับ โดยหนทางที่เค้าเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้น คือการบวช แต่ “พระน้อย” ยังคงเป็นตัวของตัวเอง เป็นพระที่ขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจากำปั้นทุบดิน เป็นคนตรงเหมือนไม่บรรทัด ที่มาบวชเพราะเบื่อสังคม เบื่อคนไทยไม่รักกัน เบื่อความแตกแยกแต่เส้นทางในชีวิตเส้นนี้ไม่เป็นไปดังหวัง เพราะในวัดที่บวช ยังมี “พระประเสริฐ” (อุ๋ย บูดาเบลส), “พระโยกเยก” (โยกเยก เชิญยิ้ม), “ตาส่ง” (โน๊ต เชิญยิ้ม) มัคทายกประจำวัด และเด็กวัดตัวแสบอีก 2 คน

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

ที่คอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นพระน้อยยังต้องพบกับเหตุการณ์อลหม่านป่วนจิตจนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับพวกแก๊งขโมยเศียรพระอีกต่างหาก งานนี้พระน้อยจะสงบเหมือนดังที่หวังไว้หรือไม่ต้องเข้าไปติดตามเองครับ ก่อนอื่นผมขอปรบมือดังๆให้กับ คุณโน้ต เชิญยิ้ม ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สามารถนำเรื่องของศาสนามาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ถึง 3 ภาคแล้วและโดยเฉพาะภาคนี้ แม้ว่ามุขตลกในเนื้อเรื่องทั้งหมดยังคงเท่าๆเดิมหรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยแต่สิ่งที่เห็นชัดๆเลยคือเรื่องการสอดแทรกในเรื่องของ “ธรรมะ” ที่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้มากขึ้นกว่าสองภาคที่ผ่านมาและคำสอนต่างๆก็กลมกลืนไปกับบทหนัง

ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดในหลักคำสอนต่างๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าจากประสมการณ์สองเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คุณโน้ตเห็นจุดบกพร่องต่างๆ และนำมาแก้ไขปรับปรุงจนเกือบจะเข้าที่ได้ในภาคนี้ การโน้มนาวให้คนดูเชื่อในคำสอนของศาสนาหรืออย่างน้อยก็ผ่านหูผู้ดูให้คิดตามได้ คุณโน้ตก็ทำได้อย่างแนบเนียน เนื้อเรื่องที่ไหลไปตามเหตุการณ์ต่างๆ เกือบดีแล้ว ถ้าไม่มีฉากที่ต้องการแสดงมุข อย่างฉากนักมวยซึ่งไม่มีก็ได้เข้าใจว่าต้องการเล่นมุขมากกว่าในฉากนี้ หรือในฉากที่เด็กวัดตัวแสบสองคนนอนแช่อยู่ในน้ำแล้วคุยกัน ไม่ต้องมีก็ได้ ถึงไม่มีก็ไม่ทำให้หนังเสียแต่ก็เขาใจว่าต้องการเล่นมุขก็ไม่ว่ากัน มีอยู่ฉากเดียวที่ผมคิดว่าเป็นฉากที่แย่มากๆ หลวงพี่เท่ง 3 037

 

 

ก็คือฉากที่มีหมอทำขวัญนาคทั้งสามคน ออกมาแหล่ขวัญนาคโดยพูดถึงพ่อแม่ของนาคในทางที่ไม่ดี ผมว่าทางผู้สร้างต้องการเล่นมุขตลก แต่มุกนี้ไม่ตลกเลยมุกนี้เล่นเอาพ่อแม่มาว่าในงานมงคลของลูกถึงแม้ว่าเรื่องที่หมอทำขวัญนากกล่าวออกมาจะเป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่สมควรเอามาพูดในงานบวชเช่นนี้ฉากนี้ไม่ตลกเลยแถมแย่มากอีกต่างหาก ส่วนเรื่องธรรมมะที่แทรกเข้ามาตั้งแต่ต้นเรื่องและแทรกมาเรื่อยๆ จนถึงจบเรื่องก็ยังมีคำสอนอยู่ อันนี้ดีครับอันนี้เห็นด้วยมากๆ เลย ในเรื่องของการแสดง ผมว่าคุณน้อย แสดงเหมือนพระโรคจิตจัง แต่แค่เหมือนเฉยๆนะเพราะในเรื่องก็ไม่ได้บอกว่า คุณน้อยเป็นโรคจิต เพียงแต่ว่าเป็นคนที่ขวางโลก และอาจจะพูดตรงไปสักหน่อย เวลาพูดมักใส่อารมณ์ ดูแล้วทำให้นึกถึงคาแร็คเตอร์ในตอนที่คุณน้อยเล่นเรื่อง “13 เกมสยอง” เลยเหมือนจริงๆในบทของพระประเสรินั้น จะเรียกเสียงฮาเสียมากกว่า แต่ผมว่าคุณอุ๋ยเล่นดีนะครับเหมือนเป็นพระจริงๆ ส่วนพระเด๋อ หรือ หลวงตาเชื่อมนั้น ยังไม่สำรวมเท่าไหร่

 

เรื่องราวของหนัง หลวงพี่เท่ง 3

หลวงพี่เท่ง 3 สปอย สำหรับหลวงพี่เท่ง 3 นี้ มี “น้อย วงพรู” มารับบท “พระน้อย” หนังเปิดเรื่องด้วยคาเฟ่แห่งหนึ่งที่มีคนหน้าเหมือนทีมชิงร้อยฯ หม่ำ เท่ง โหน่ง ตุ๊กกี้ และ อุ๋ย บุดดาเบลส ที่แต่งหญิง กำลังเล่นตลก เรียกเสียงฮาให้กับบรรดาเสี่ยๆ ที่มาใช้บริการ มุกแรกนี้มีฮาบ้าง แต่ทว่าดูเหมือนว่าพอเห็นว่าตลกก็ปล่อยนาน จนกลายจากฮา มาเป็นความจืด และมาปิดฉากที่ “น้อย โพธิ์งาม” ที่รับบทแม่ของ “เซิร์ช” มานั่งพร้อมกับเครื่องบายศรี เพื่อต้องการให้ลูกชายบวชเรียน และอุ๋ยบอกแม่ว่า จะบวชให้..และเมื่อถึงเวลาบวช มุกก็ถูกปล่อยมาอีกครั้งอย่างที่เห็นในหนังตัวอย่าง ที่อุ๋ยต้องถูกลงแป้งจนขาวโพลน ก็ไม่แน่ใจว่านี่ถือเป็นการล้อเล่นกับศาสนาหรือเปล่า?

กระทั่งถึงคราวแห่นาค ก็นำ “ซูซี่ ตีสิบ” มานำขบวนโห่ ซึ่งซูซี่มีบทบาทแค่นี้จริงๆ น้อยกว่า “ยายแหวว ตีสิบ” ที่ยังพอมีบทบาทคู่กับจตุรงค์ ม๊กจ๊กกับการโต้คารมกันทุกเช้าเวลาใส่บาตรให้กับหลวงตาเชื่อม ซึ่งถ้าจะดูกันจริงๆ แล้ว ทั้งซูซี่ ทั้งยายแหวว ความจริง ไม่จำเป็นเลยสำหรับในหนัง แต่น่าจะเพราะมาจากรายการตีสิบทั้งคู่ จึงเหมือนนำมาเพื่อปั่นกระแสกะให้ดังเหมือนโปงลางฯ

 

 

และระหว่างที่ เสริฐ บวชนี่เองที่ “น้อย วงพรู” มาเห็นจึงอยากบวชบ้าง กลายเป็นว่า ครั้งนี้มีพระบวชใหม่ 2 รูป คือ พระประเสริฐ หรือเจ้าตัวเรียกร้องให้เรียก พระ Search (เซิร์ช) และ พระน้อย

การทำภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันสำคัญๆ นั้น ผู้กำกับหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจะทำ อาจจะเป็นเพราะว่าเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ และเมื่อทำออกมาแล้วก็เสี่ยงกับการถูกเซ็นเซอร์จากทาง ก.บ.ว. ตัดในส่วนที่ทางผู้กำกับตั้งใจนำเสนอออกไป เหตุผลเพราะว่า ไม่สมควรที่จะอ้างหรือกล่าวถึงในสถาบันนั้นๆ สถาบันครอบครัวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเลื่อนขึ้นไปเป็นสถาบัน “ศาสนา” ด้วยแล้ว อัตราการเสี่ยงที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม “โน้ต เชิญยิ้ม” ผู้กำกับดาวตลกมือทองของไทยเรา ก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ และทันทีที่ได้ทราบข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 1

รีวิวหนังไทย อันธพาล

รีวิวหนังไทย อันธพาล

รีวิวหนังไทย อันธพาล

 

 

สปอยหนัง “อันธพาล” ผลงานกำกับล่าสุดของผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ น่าจะเป็นอีกหนังไทยที่โดดเด่นของปีนี้ และน่าจะได้เข้าชิงรางวัลด้านภาพยนตร์จากหลายสำนักเมื่อมีการประกาศกันปีหน้าครับ เพราะเป็นหนังไทยที่มีงานสร้างที่มีความละเอียด ปราณีต มีการแสดงอันยอดเยี่ยม และมีวิธีการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์และน่าสนใจในแบบที่ยังไม่เคยเห็นหนังไทยเรื่องไหนทำมาก่อน นอกจากนี้แล้วยังเป็นหนังไทยที่ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าควรให้การสนับสนุนครับ

 

เนื้อเรื่อง อันธพาล

เรื่องราวของ อันตรธาน ครองเมือง บอกเล่าเกี่ยวกับนักเลงดังแห่งพระนครในยุคร็อคแอนด์โรลล์ สมัยที่เจมส์ ดีน และ เอลวิส เพรสลี่ เป็นแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นยุคนั้น มีตัวละครอันเป็นที่คุ้นเคยเพราะเคยถูกบอกเล่าเป็นหนังมาก่อนอย่างแดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด และดำ เอสโซ่ ใน “2499 อันธพาลครองเมือง” ของผู้กำกับนนทรีย์ นิมิบุตร แต่อย่างที่ชื่อหนังที่ดูจะกินความกว้างกว่า ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นเหตุการณ์ในพ.ศ.ไหน “อันธพาล”ของก้องเกียรติมีขอบเขตของเรื่องราวที่กว้างกว่า มีตัวละครเด่นเยอะกว่า และขณะที่ “2499 อันธพาลครองเมือง” เน้นไปที่แดง ไบเล่ หนัง “อันธพาล” จะเน้นไปที่ตัวละครจ๊อด เฮาดี้ มือขวาและมิตรแท้ข้างกายของแดง ไบเล่ แทน

 

รีวิวหนังไทย อันธพาล

 

ดูเหมือนว่าจุดมุ่งหมายในการสร้างหนัง “อันธพาล” ของก้องเกียรติ ก็คือต้องการสร้างหนังแนวแก๊งสเตอร์ว่าด้วยวงการมาเฟียในประเทศไทย และอยากบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนเหล่านี้ในแง่ของความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา แต่ก็ยังขยายขอบเขตของเรื่องราวไปถึงแง่มุมทางประวัติศาสตร์ วิถีและเส้นทางชีวิตของคนที่เข้ามาในวงการนี้ว่าต้องเจอกับอะไรและจะมีจุดจบอย่างไร มุมมองของผู้คนที่ร่วมสมัยกับตัวละครต่อวงการนี้เป็นอย่างไร ซึ่งก้องเกียรติมีวิธีการในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจด้วยการเอาการเล่าเรื่องแบบหนังปกติทั่วไปมาผสมกับรูปแบบของสารคดี โดยให้จ๊อด เฮาดี้ (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) เป็นจุดศูนย์กลางและจุดเชื่อมต่อของทั้งหมดที่กล่าวมา ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

สิ่งที่ผู้กำกับนำเสนอเรื่อง อันธพาล

รีวิวหนังไทย อันธพาล ผู้กำกับก้องเกียรติให้เรารู้จักกับจ๊อด เฮาดี้ ก่อน ด้วยภาพของคนหนุ่มขี้เกรงใจ สุภาพ เป็นที่รักของทั้งแม่และน้องสาว ก่อนที่จะได้เห็นภาพที่ตรงกันข้ามในฐานะนักเลงใจเด็ดที่ฆ่าคนได้โดยไม่ยั้งมือ และโหดเหี้ยม ผู้เป็นมือขวาและมิตรคู่กายของแดง ไบเล่ (สมชาย เข็มกลัด)

จ๊อดเป็นเด็กช่างกลมาก่อน และเข้าสู่วงการนักเลงโดยการชักชวนของแดง ซึ่งจ๊อดรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณตอนที่มาช่วยเขาระหว่างมีเรื่องวิวาทกับโรงเรียนช่างกลคู่อริ แดงพาจ๊อดไปเป็นนักเลงลูกน้องของเฮียหลอ มาเฟียกระหายอำนาจและปลิ้นปล้อน

 

รีวิวหนังไทย อันธพาล

 

ขณะที่แนะนำให้เรารู้จักและบอกเล่าเรื่องราวของจ๊อด ผู้กำกับก้องเกียรติก็ใช้เทคนิคของหนังสารคดีด้วยการให้ผู้คนที่รู้เรื่องราวของยุคโน้นมาช่วยเล่าในลักษณะการให้สัมภาษณ์ พร้อมทั้งแทรกภาพข่าวเก่าๆ มาประกอบ เพื่อช่วยบอกเล่าส่วนที่เป็นภาคผนวกและเกร็ดทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตัวละคร และวงการนี้ เช่นฉากที่จ๊อดดวลกับเฮียเซ้ง (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ผู้กำกับก็ให้คนที่รู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาเล่าเสริมถึงวิธีการดวลที่เรียกว่า “มัดมือดวลมีด” ที่จ๊อดกับเฮียเซ้งใช้นั้นเป็นยังไง หรือขณะที่พูดถึงตัวละครบางตัวเช่นแดง ไบเล่ หรือ ปุ๊ ระเบิดขวด ก็ให้ผู้คนมาเล่าเสริมว่ามุมมองที่คนสมัยนั้นที่มีต่อทั้งคู่เป็นยังไง เป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ผู้กำกับก้องเกียรติให้สัมภาษณ์ว่าได้แรงบันดาลใจจาก District 9 ส่วนตอนที่ผมดูนั้นนึกถึงหนังฉายทีวีเรื่อง Execution of Justice ว่าด้วยการคดีฆาตกรรมฮาร์วี่ มิลค์ ที่ใช้การสัมภาษณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาเล่าคู่ไปกับส่วนที่เป็นภาพยนตร์

 

รีวิวหนังไทย อันธพาล

นอกจากนี้แล้ว ยังมีการเล่าเรื่องวงในของมาเฟียผ่านมุมมองของเปี๊ยก (กฤษฎา สุภาพพร้อม) เด็กวัยรุ่นที่อาศัยและทำงานอยู่ในโรงหนังที่แดงกับจ๊อดชอบไปดูหนังบ่อยๆ เปี๊ยกมีเพื่อนรักชื่อธง (สาครินทร์ สุธรรมสมัย) และทั้งคู่ก็มีแดงกับจ๊อดเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต มองภาพของนักเลงรุ่นใหญ่ยุคนั้นว่าเป็นอะไรที่เท่ ใครไปไหนก็เกรงกลัวและนบนอบ จึงอยากที่จะเข้าแก๊งและเจริญรอยตาม ทำให้หนังมีส่วนคล้ายคลึงกับ The Godfather: Part II เพิ่มเข้ามา และหนึ่งชั่วโมงแรกของหนังก็ใช้วิธีการเล่าเรื่องทั้งสามขนานกันไป มีการตัดต่อสลับไปมา มีการเล่าเรื่องทั้งไปข้างหน้าและย้อนหลังแบบโดดไปโดดมาคล้าย The Social Network

ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมในการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างลูกเล่นของการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ และน่ายกย่องในความกล้าหาญที่จะฉีกขนบการเล่าเรื่องหนังให้แตกต่างจากหนังไทยด้วยกัน แต่อย่างไรก็ดี ผู้กำกับก้องเกียรติยังใช้การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่เหล่านี้ได้ยังไม่ลงตัวดีพอ โดยเฉพาะช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกของหนัง ทั้งนี้เพราะทั้งสามวิธีการเล่าเรื่องเหมือนจะมีเรื่องราวของมันเอง และหนังเล่าเรื่องโดยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามส่วนเกือบเท่าๆกัน มีการให้รายละเอียดที่ยิบย่อยเกินไป ทำให้มาชิงความเด่นของกันและกัน และฉุดรั้งไม่ให้อารมณ์ดราม่าของหนังในช่วงนี้ไปได้สุดทาง แม้ว่ามันจะดูเก๋ไก๋ก็ตาม อันธพาน คลองเมือง 2555

 

รีวิวหนังไทย อันธพาล

 

เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังของหนังที่หลังจากจ๊อด เฮาดี้พ้นโทษออกจากคุกหลังจากการปราบปรามอันธพาลด้วยกฎหมายอันเฉียบขาดของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หนังมีวิธีการเล่าเรื่องที่ลงตัวมากขึ้น และทำให้ความเข้มข้นตามแบบหนังแก๊งสเตอร์กลับมาน่าติดตามมากขึ้น หนังลดทอนส่วนที่เป็นสารคดีให้มาเป็นเพียงส่วนเสริมจริงๆ มากขึ้น ขณะที่ส่วนที่เป็นมุมมองของเปี๊ยกก็ค่อยๆ ลดหน้าที่ลงกลายเป็นการทำหน้าที่ของโครงเรื่องรองแทน

เรื่องราวครึ่งหลังเน้นไปที่การแย่งชิงความเป็นใหญ่ของมาเฟีย โดยแต่ละเจ้าพ่อก็มีนักเลงเด่นๆเป็นลูกน้องของตัวเอง จ๊อดยังคงเป็นหมากในเกมชิงอำนาจของเฮียหลอ โดยมีเปี๊ยก, ธง, และน้าหำ (บุญส่ง นาคภู่) เป็นลูกน้อง แล้วกลายเป็นม้าศึกที่จะถูกฆ่าหลังเลิกใช้เมื่อเฮียหลอหันไปเลือกใช้โอวตี่ (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) นักเลงนักฆ่าที่ทั้งบ้า ทั้งเหี้ยมโหด เป็นหมากตัวใหม่ ทำให้แก๊งของจ๊อดต้องแตกคอกัน ขณะเดียวกัน จ๊อดก็ต้องหนีการตามล่าของผู้การคำนึง (วสุ แสงสิงแก้ว) ผู้ที่ไม่เคยคำนึงถึงวิธีในการปราบมาเฟีย และสะท้อนด้านมืดของผู้มีอำนาจทางกฎหมาย ทำพาไปสู่ฉากตามล่าล้างแค้นในตอนจบที่ทั้งตื่นเต้น ลุ้น และสะเทือนใจ

 

รีวิวหนังไทย อันธพาล

องค์ประกอบที่ควรได้รับการยกย่องอีกอย่างของหนังก็คือองค์ประกอบด้านศิลป์ ทั้งการสร้างฉาก การกำกับศิลป์ การออกแบบเครื่องแต่งกายและทรงผม งานเทคนิคภาพ และดนตรีประกอบ ที่ช่วยเนรมิตรพระนครยุค 60-70 ได้อย่างเนียบจนเหมือนพาเราหลุดเข้าสู่ยุคนั้นไปด้วยได้เลย ทั้งยังเสริมโทนดิบเถื่อนและรุนแรงอันเป็นลายเซ็นเฉพาะตัวของผู้กำกับก้องเกียรติให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้อยู่ในเกณฑ์พอใช้และดีมาก แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือบุญส่ง นาคภู่ เป็นบทน้าหำ นักเลงเก่าขี้คุยผู้ที่อยากหลุดพ้นจากเส้นทางนักเลงไปใช้ชีวิตเหมือนผู้คนทั่วไป เป็นบทที่ทั้งดูเป็นธรรมชาติเหมือนคนที่เราเคยเห็นว่ามีอยู่จริง และบางขณะก็ทรงพลัง ส่วนกฤษดา สุโกศล แคลมป์ ก็ยอดเยี่ยมในการสร้างบุคลิกของจ๊อดให้ดูเป็นปุถุชนทั่วไป และมีเสน่ห์ขึ้นจอ พาให้ชวนติดตามหนัง

 

 

“อันธพาล” อาจไม่ใช่หนังที่ดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบเต็มร้อย แต่เป็นหนังที่มีองค์ประกอบทุกส่วนของงานสร้างดีเลิศ และมีความพยายามอันน่าชื่นชมของผู้กำกับก้องเกียรติในการสร้างหนังเรื่องนี้ให้มีลูกเล่นที่แปลกแตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเพียงแค่นี้ก็เป็นเหตุผลพอให้นักดูหนังควรให้การสนับสนุนหนังเรื่องนี้ครับ นางเอก หนัง อันธพาล

นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้อยู่ในเกณฑ์พอใช้และดีมาก แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือบุญส่ง นาคภู่ เป็นบทน้าหำ นักเลงเก่าขี้คุยผู้ที่อยากหลุดพ้นจากเส้นทางนักเลงไปใช้ชีวิตเหมือนผู้คนทั่วไป เป็นบทที่ทั้งดูเป็นธรรมชาติเหมือนคนที่เราเคยเห็นว่ามีอยู่จริง และบางขณะก็ทรงพลัง ส่วนกฤษดา สุโกศล แคลมป์ ก็ยอดเยี่ยมในการสร้างบุคลิกของจ๊อดให้ดูเป็นปุถุชนทั่วไป และมีเสน่ห์ขึ้นจอ พาให้ชวนติดตามหนัง

 

วิจารณ์เรื่อง อันธพาล

รีวิวหนังไทย อันธพาล โครงสร้าง โครงเรื่องแบบ Classical Design เป็นโครงเรื่องที่พบบ่อยที่สุดสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชม ผู้ฟังในวงกว้างได้อย่างมากตัวละครเอกของเรื่องมักจะต่อสู้กับอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับชีวิต ตัวละครที่เป็นอุปสรรคของเค้าเองโดยการทำทุกวิธีทางให้ตัวเองเป็นผู้นำ เหตุการณ์ในเรื่องมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ไปจนถึงบทสรุปตอบจบของต่ละฝ่าย ในชีวิตระหว่างกลุ่มวัยรุ่น ที่ทำให้ชีวิตของแต่ละคนเปลี่ยนไป

ความขัดแย้ง ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ความขัดแย้งเช่นนี้พบบ่อยที่พระเอกจะเป็นฮีโร่โดย พระเอกจะออกแนวบุคลิกที่เรียกว่าใจเย็นมีน้ำใจกว่า เปรียบเหมือนเป็นฝ่ายธรรมะ ไม่ต่อยหาเรื่องใครก่อน ส่วนเพื่อน อีกฝ้านเปรียบเหมือนฝ่าย อธรรม ที่ชอบทะเลาะวิวาท หาเรื่องคนไปทั่ว

ตัวละคร อัน ต พา ร คลอง เมือง 2012 นักแสดง ตัวละครมีบุคลิกกลม ( Round Character ) เป็นตัวละครที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัว มีความลึกซึ้งและเข้าใจได้ยากกว่าตัวละครที่มีบุคลิกแบน มีลักษณะคล้ายชีวิตจริงของคนในสังคม เพราะพระเอก จะรักเพื่อนมาก ช่วยเหลือเพื่อน พิชิตพาล อภิบาลคนดี แต่ในอีกมุมนึงบางครั้งก้อ ลืมคนรักของเค้าไปชั่วคณะ แต่เค้าก็รักและเคารพแม่ ถึงแม้จะมีเหตุการทะเลาะวิวาทอยู่บ่อยครั้ง

 

 

แก่นเรื่อง เป็นแก่นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิต มุ่งนำเสนอเรื่องจริงของชีวิต ประสปการณ์การณ์ธรรมชาติ ของมนุษย์ และจุดจบของความเป็นนักเลง และ อันธพาล

ฉาก ตรอกไบเลย์ ย่านพระนคร หรือ กรุงเทพ ในปัจจุบัน และ เพราะ ที่อยู่อาศัยของพระเอก และเพื่อนๆของเค้าอยู่ย่านนั้นกันหมด และ มีฉากที่อู่ตะเภาด้วย เพราะ พระเอก หรือ แดง และพวกเพื่อนๆ ถูก รัฐบาล สั่งจับตาย

สัญลักษณ์พิเศษ มีการใช้สัญลักษณ์พิเศษทางภาพ คือ ล๊อกเกต เจมส์ดีน ของพระเอกกับนางเอก เพลง Elvis Presley ที่เปิดประกอบฉาก และ น้ำยี่ห้อ ไบเลย์ และปืนคู่กายของพระเอก และ กางเกงยีน Wrangler ที่นิยมกันในสมัยนั้น ดูหนังออนไลน์

มุมมองในการเล่าเรื่อง มีการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของบุคคลที่ 3 โดยการเล่าเรื่องผู้เล่าเป็นเพื่อนสนิทของพระเอก จะเป็นผู้ดำเนินเรื่อง เล่าเรื่อง ชีวิตวัยโก๋ เพราะบุคคลผู้เลานสี้ เป็นคนสนิทของพระเอกในเรื่อง

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

 

สปอยหนัง ณ ปางน้อยในปี 1997 ดิว (โอม-ภวัต) เด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาจากเชียงใหม่ได้พบและก่อความสัมพันธ์กับ ภพ (นนท์-ศดานนท์)เด็กหนุ่มลูกครึ่งจีนในพื้นที่ แต่ด้วยยุคสมัยที่ยังต่อต้านความรักระหว่างเพศเดียวกันก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพรากจากกัน จนกระทั่ง 23 ปีต่อมา ภพ (เวียร์ ศุกลวัฒน์) ได้หวนกลับมาเป็นครูยังปางน้อยอีกครั้งโดยมี อร (ญารินดา บุนนาค)ภรรยาของเขาติดตามมาด้วย แต่ในใจเขาก็ยังคงอยากตามหาดิวเพื่อสะสางเรื่องราวที่ติดค้างกันในอดีต ส่วนที่โรงเรียน ภพ ก็ได้มีโอกาสพบกับ หลิว (ปั๋น-ดริสา) เด็กสาวหัวดีแต่ดื้อที่ครูใหญ่ฝากให้ดูแล แต่แล้วความใกล้ชิดระหว่าง ภพ กับ หลิว ก็ทำให้เกิดข้อครหาขึ้น

 

เนื้อเรื่อง ดิว ไปด้วยกันนะ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า เนื้อหาต่อไปนี้พยายามจะเขียนไม่ให้สปอยล์ที่สุด แต่สำหรับใครที่เคยผ่านตาผลงานต้นฉบับของเกาหลีอย่าง Bungee Jumping of Their Own (번지점프를 하다) หนังโรแมนติกปี 2001 ที่ขึ้นชื่อเรื่องสร้างความเหวอแตกระดับหลายริกเตอร์กับบทสรุปความสัมพันธ์ของคู่รักที่ถูกความตายพลัดพรากในครึ่งเรื่องแรกที่สร้างทั้งความซาบซึ้งและชวนฉงนกับฉากจบอันเป็นปริศนาที่ให้คนดูคิดเอาเองก็ย่อมพอจะเดาปลายทางที่ ดิว..ไปด้วยกันนะ จะเดินทางไปถึงได้ไม่ยากนัก แต่โดยส่วนตัวแล้ว แม้จะถูกระบุยี่ห้อว่าเป็นหนังรีเมก แต่กับ Bungee Jumping of Their Own ก็ถือเป็นโจทย์ยากระดับคณิตศาสตร์โอลิมปิกเลยทีเดียว ด้วยว่าหนังผสมผสานทั้งความแฟนตาซี ความเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ไปจนถึงความเลื่อนไหลทางเพศ ที่หนังต้นฉบับถ่ายทอดไว้ได้น่าประทับใจและชวนคิดจนถึงทุกวันนี้ แต่ในเมื่อมันมาอยู่ในมือของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีรกุล ที่เล่นยกเครื่องปั้นหน้าหนังและตัดสลับเหตุการณ์ตลอดจนเปลี่ยนรายละเอียดจนแทบเหมือนหนังคนละม้วนแล้วผสมผสานเรื่องราวบาดแผลในช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่ตนถนัดลงไปก็ย่อมไม่อาจคาดหวังอะไรที่น้อยไปกว่าผลงานที่ท้าทายความคิดคนดูเหมือนผลงานที่ผ่านมา ดิวไปด้วยกันนะ เรื่องย่อ

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

ความกล้าหาญแรกที่มะเดี่ยวเลือกตัดผ่ายกเครื่องบทหนังโดยหยิบยกจุดพีคที่คอหนังต้นฉบับซูฮกมาไว้ในครึ่งแรกแทน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องแลกกับการทิ้งเซอร์ไพร์สที่ Bungee Jumping of Their Own เคยมอบให้คนดู โดยหนังเปลี่ยนรายละเอียดความรักคู่พระนางต้นฉบับในวัยเรียนมหาวิทยาลัย กลายมาเป็น ดิว กับ ภพ วัยรุ่น ม.ปลายในโรงเรียนชนบทยุค 90 ที่เพลงอัลเธอเนทีฟอย่าง ก่อน ของโมเดิร์นด็อก หรือ ดีเกินไป ของ สไมล์ บัฟฟาโล ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนทางเลือกใหม่ ๆ ทั้งที่สังคมในสมัยนั้นยังใช้คำว่า เบี่ยงเบนทางเพศ และใช้กระบวนการทางทหารและแพทย์มาใช้บำบัดพฤติกรรมรักร่วมเพศอยู่เลย ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าการเซ็ตสถานการณ์ภายใต้การควบคุมของทหารเอย การจำกัดกรอบเรื่องเพศเอย เป็นกลไกของบทหนังที่พยายามบีบบังคับให้ตัวละครไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ และแม้เราจะไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าการจำกัดกรอบโลกทัศน์เรื่องเพศในหนังเป็นความจริงสักกี่มากน้อย แต่ในทางกลับกันมันก็ให้ภาพสังคมไทยที่ไร้ประชาธิปไตย หมดสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตตัวเองโดยเฉพาะกับเพศทางเลือกอย่าง LGBTQ และกล่าวอย่างไม่เกินจริงบทหนังของมะเดี่ยวยังละเอียดลออด้วยรายละเอียดด้านชาติพันธุ์ ความเชื่อ ที่ถูกส่งต่อผ่านระบบครอบครัวของทั้ง ดิว และ ภพ ที่ช่วยทำให้เรื่องราวมีมิติมากกว่าแค่เรื่อง เด็กผู้ชายสองคน มาจิ้นกันแบบผิวเผินและที่สำคัญประเด็นบาดแผลระหว่างทางเติบโตของวัยรุ่นที่มะเดี่ยวเคยปูไว้ตั้งแต่ รักแห่งสยาม เกรียนฟิกชัน หรือตอนแรกของ โฮม ความรัก ความสุข ความทรงจำ ก็ถูกนำมาเน้นย้ำผ่านเรื่องราวของดิวและภพจนสามารถเชื่อมต่อเป็นจักรวาลหนังวัยรุ่นของมะเดี่ยวได้อย่างไม่ขัดเขินเลยทีเดียว ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

แต่แน่นอนล่ะว่าพอผ่าตัดและเปลี่ยนองค์ประกอบบทหนังใหม่ความท้าทายของมะเดี่ยวคือ ครึ่งเรื่องหลังที่ต้องคิดว่าทำยังไงให้ยังคงเรื่องราวความสัมพันธ์ต้องห้ามแบบหนังเกาหลีต้นฉบับไว้ได้ ซึ่งต้องยอมรับนะครับว่าพอย้ายจุดพีคมาไว้ตอนต้นและทำท่าเหมือนจะพูดเรื่องความหลากหลายทางเพศไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่กลับถูกบังคับให้เดินจุดพลิกผันตามบทหนังต้นฉบับจนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้การพูดเรื่อง LGBTQ แผ่วบางและหมดพลังทั้งที่อุตส่าห์ปูไว้ตอนต้นเรื่องเสียน่าสนใจและหนักแน่นจนไม่อาจคาดหวังอะไรที่น้อยไปกว่าความดุเดือดได้ แต่เมื่อถึงครึ่งหลังและหนังจำต้องเดินไปในทางที่ถูกกำหนดเลยกลายเป็นพลังของหนังมันแผ่วตามไปด้วย และแน่นอนอย่างที่บอกไปแล้วว่า ความเหวอแตก มันถูกยกไปกล่าวถึงในครึ่งเรื่องแรกแล้วเลยกลายเป็นว่าครึ่งหลังกับแนวทางที่หนังพยายามเดินไปให้เห็น “การซ้ำรอย” เพื่อนำไปสู่บทสรุปความรักของหัวใจดวงเดิมก็เลยดูไม่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก ยังดีที่ได้การแสดงอันหนักแน่นของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ญารินดา บุญนาค และ ปั๋น-ดริสา มาโอบอุ้มเรื่องราวภายใต้การกำกับที่ยังคงแม่นยำของมะเดี่ยวก็คงพอจะยกประโยชน์ให้จำเลยได้อยู่บ้าง

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

เช่นเคยที่หนังของมะเดี่ยวมักจะสร้างนักแสดงวัยรุ่นฝีมือฉกาจไว้ประดับวงการเสมอ สำหรับ ดิว..ไปด้วยกันนะ ก็ได้ นนท์-ศดานนท์ ที่เอาลุคแบดบอยมาทำให้ ภพ กลายเป็นหนุ่มในฝันของสาว ๆ ได้ไม่ยาก แถมบทดราม่าก็ยังแสดงได้ลื่นไหลทีเดียว รวมถึง ปั๋น ดริสา ที่บอกเลยว่างานเดบิวต์เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรที่น้อยไปกว่าบททดสอบโหดหินเลย ทั้งต้องรับบทเด็กมัธยมปลายหัวดื้อที่รู้สึกแปลกแยกจนต้องคบกับผู้ชายถ่อย ๆ แถมเธอยังต้องแบกจุดพลิกผันของเรื่องราวและถ่ายทอดออกมาให้น่าเชื่อถือที่สุด ซึ่งจากผลงานที่เห็นด้วยตาเปล่าแล้วก็ต้องบอกว่าเธอสอบผ่านได้อย่างสวยงาม และถือว่ามะเดี่ยว เคี่ยวกรำและเค้นเอาการแสดงที่ดีที่สุด ธรรมชาติที่สุดของเธอออกมาจนคนดูอดหลงรักเธอไม่ได้แน่นอน และไม่เพียงรุ่นเล็กเท่านั้นรุ่นใหญ่อย่าง อาภาศิริ นิติพน ก็ไม่ให้เสียชื่อ แม่แห่งชาติ เพราะเธอสามารถถ่ายทอดบทแม่ของดิวได้ชวนใจสลายมาก ๆ ใครดูซีนสารภาพความในใจกับดิวแล้วไม่ร้องไห้ก็ถือว่าใจแข็งมาก ส่วน เวียร์ ศุกลวัฒน์ ก็สานต่อโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือบนจอเงินถัดจากหนังมนิลา โดยเขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่ติดค้างในใจของ ภพ ที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีบาดแผลได้อย่างน่าชื่นชม

 

หนังแนะนำ ดิว ไปด้วยกันนะ

กล่าวอย่างเป็นกลางที่สุดแล้ว ดิว…ไปด้วยกันนะ ก็จัดเป็นงานหนังไทยคุณภาพในระดับที่น่าสนับสนุนนั่นแหละครับ เพียงแต่การต้องเดินตามร่องรอยของหนังต้นฉบับอาจทำให้หนังไม่สามารถพูดประเด็นหลักอย่างเสรีภาพของ LGBTQ ในไทยได้อย่างหนักแน่นเหมือนที่ปูไว้ตอนแรก แต่เหนืออื่นใดมันคือหนังที่ดูแล้วทำงานกับหัวใจที่สุดเรื่องหนึ่งของปี ตั้งแต่ต้นเรื่องยันหนังจบขึ้นต้นเอนด์เครดิตว่าอุทิศให้แก่ นพดล ขันรัตน์ ผู้ถ่ายทอดช็อตโดรนสวย ๆ สื่อความหมายอันลึกซึ้งให้หนังแต่ไม่มีโอกาสได้ชมผลงานในวันนี้เนื่องจากเขาเสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน ดังนั้นช็อตโดรนต่าง ๆ ในหนังจึงเป็นเหมือนของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาได้มอบให้ผู้กำกับและคนรักของเขาแทนคำขอบคุณที่อยู่ข้างกันตลอดเวลาที่เจ็บป่วย และคงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่ามันเป็นของขวัญที่งดงามที่สุดในโลก…

บรรยากาศภาคเหนือในปีพ.ศ. 2539 ที่ทำออกมาได้ถึงจนเราคิดถึง

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

ทั้งบรรยากาศเก่า ๆ ของเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งในภาคเหนือ เมืองที่ใครทำอะไรก็รู้กันทั้งเมือง วิถีชีวิตของเด็กที่ต้องเข้าตัวเมืองเพื่อไปเรียนพิเศษ เพลงที่ฟังกันในสมัยนั้น การคุยกันผ่านเพจเจอร์ เสื้อผ้าหน้าผมในยุค 90 บรรยากาศในโรงเรียนมัธยมที่เราจะต้องคิดถึงไม่ว่าเราจะเป็นคนยุคไหน ดิวไปด้วยกันนะ ต้นฉบับ

ถึงแม้ว่าคอนเท้นท์เกี่ยวกับยุค 80-90 ในตอนนี้จะมีให้เราเห็นจนชินตา แต่เรื่องนี้ก็ทำออกมาได้เป็นธรรมชาติมากเรื่องหนึ่งจนเราไม่รู้สึกขัดอะไร แถมในพาร์ทอดีตยังเป็นเรื่องราวที่สวยงามที่สุดในเรื่องนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

ประเด็นเรื่องการรักเพศเดียวกันที่หนักหน่วงกว่าเรื่องอื่นๆ ไม่เพียงการเน้นประเด็นที่ว่าการรักเพศเดียวกันเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเดียว แต่ยังมีประเด็นโรคเอดส์ระบาดโดยเฉพาะในกลุ่มของชายรักชาย ทำให้โรงเรียนปางน้อยออกกฎให้คนที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศต้องไปรับการฝึกอบรมกับทหารอีกด้วย มันเริ่มทำให้เราเห็นความอึดอัดตั้งแต่เริ่มเรื่องกับประเด็นหนัก ๆ นี้ คนที่แสดงออกชัดเจนก็จะโดนแกล้งจากเพื่อน ๆ ส่วนคนที่ยังไม่แสดงออกก็ไม่กล้าที่จะเปิดตัว หรือแม้แต่การต้องออกไปฝึกกับค่ายทหารจนดึกเพื่อแก้พฤติกรรมเบี่ยงเบน แสดงให้เห็นว่าการรักเพศเดียวกันยังคงเป็นเรื่องที่ผิดในสังคม

 

 

หรือจะเป็นการโดน Bully จากเพื่อนๆ เมื่อรู้ว่าดิวชอบผู้ชายเหมือนกัน การไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวลามไปจนถึงการแตกหักกันในที่สุด ถึงแม้ในปัจจุบันจะดีขึ้นแล้ว แต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วทำให้เห็นว่ามันยังเป็นปัญหาใหญ่มากจริง ๆ จนหลายเรื่องผ่านไปอย่างไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก

อีกประเด็นหนัก ๆ อย่างเรื่องของศีลธรรม ความถูกต้อง และความรัก ด้วยความที่ภพแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่เมื่อกลับมาเจอคนที่ทำให้คิดถึงอดีต ก็ทำทุกอย่างเหมือนว่าจะรื้อฟื้นเรื่องที่ฝังอยู่ในใจ แถมยังเป็นความรักของครูกับลูกศิษย์ที่ไม่สามารถมองแค่ความรักอย่างเดียวได้ แต่ต้องมีความถูกต้องเข้ามาเกี่ยวด้วย

 

จุดไฮไลท์ของหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

จุดไฮไลท์ Climax ของเรื่องอย่างการกระโดดบันจี้จัมพ์ ที่ไม่ได้ทำให้เชื่อมากพอว่าตัวละครมีความสนใจจริง ๆ จนต้องเลือกทางเดินแบบนั้นในตอนจบของเรื่อง เลยทำให้เรารู้สึกว่าประเด็นมันอ่อนกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้เห็นว่ากล้าเล่นให้แตกต่างจากเรื่องอื่น ทำให้กลายเป็นหนังรักที่ไม่ธรรมดาเรื่องหนึ่งเลย ดิวไปด้วยกันนะ ช่อง7

สำหรับใครที่คาดหวังว่าดิวไปด้วยกันนะจะเป็นหนังชายรักชายคงจะผิดหวังนิดหน่อยด้วยหลายปมที่อยู่ในเรื่อง พาร์ทที่มีทั้งดิวและภพในอดีต พาร์ทปัจจุบันที่กลายเป็นภพกับหลิว แต่มันคือหนังรักแบบที่ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย เพราะความผิดพลาดในอดีตที่ทำให้ตัวละครเลือกทางที่คิดว่าดีที่สุดในตอนนี้ มุ่งไปกับความรักอย่างเต็มที่เพราะไม่อยากจะสูญเสียไปอีก

หลายประเด็นในเรื่องนี้ทำให้เป็นหนังที่หากชอบก็ชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ชอบไปเลยเหมือนกัน จึงเป็นอีกเรื่องที่อยากให้เข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าเราจะเลือกเชื่อและอินไปกับสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอหรือเปล่า
“ดิว” เป็นหนังที่ใช้คำว่า “ภาพยนตร์ดัดแปลง” ได้อย่างเหมาะสมมาก ต้นฉบับคือ Bungee Jumping of Their Own ภาพยนตร์จากปี 2001 ของเกาหลี เป็นยุคที่หนังเกาหลีเพิ่งจะพัฒนาหลังจากกระแสความสำเร็จของ il Mare ในปี 2000 ซึ่งการที่ผมเลือกไม่ใช้คำว่า รีเมคก็เพราะว่า ตัวละครถูกเปลี่ยนไปมากแบบสลับขั้วกันเลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้อาจจะเพราะความมีเอกลักษณ์ของพี่มะเดียวล่ะมั้ง เพราะตอนแรกที่ได้เห็นทีเซอร์ของหนังเรื่องนี้ผมยังงงๆ เลยว่า ระดับมะเดียว จะมาทำงานรีเมคจริงหรอ? และเมื่อได้ดูผมก็บอกเลยว่าใช้คำว่า “รีเมค” ไม่ได้หรอก

 

 

ผมบอกไว้ตรงนี้ก่อนว่าผมชอบ “รักแห่งสยาม” มาก และหน้าหนังของ “ดิว” ไม่ว่าจะเป็นทีเซอร์ หรือโปสเตอร์ก็เป็นแบบที่ผมสนใจ ทำให้อยากดูเรื่องนี้สุดๆ

ว่ากันด้วยเรื่อง “ดิว ไปด้วยกันนะ” เพียวๆ แบบไม่เคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีมาก่อน
ย้อนกลับไป 23 ปีก่อน หนังเปิดฉากมาด้วยเมืองเล็กๆ ที่โคตรสงบอย่าง “ปางน้อย” ดิว นักเรียนชายที่เพิ่งย้ายมาใหม่ กำลังเดินทางไปโรงเรียนผ่านเมืองที่ไม่มีผู้คนสักคนเดียว และถูกทักโดย “ภพ” พระเอกของเรา ทั้งคู่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่สื่อถึงกันจนสนิทกันอย่างรวดเร็ว แต่ในสมัยนั้นความรักระหว่างเพศเดียวกันถือเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด และยอมรับไม่ได้ในสังคม ทำให้ทั้งคู่จำเป็นต้องจากกันในที่สุด แต่หลังจากนั้น 23 ปีให้หลัง โชคชะตาก็นำให้ ภพ และ ดิว ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช้การกลับมาพบกันแบบธรรมดาๆ ทั่วไป และนั่นก็นำพาเรื่องราวทั้งหมดไปสู่ตอนจบที่อินดี้สุดๆ ดิวไปด้วยกันนะ pantip

สิ่งที่สะดุดตา และเหมือนเป็นลายเซ็นของพี่มะเดียวก็คงเป็นการหา โลเคชั่น, อุปกรณ์ย้อนยุค และการถ่ายภาพที่สวยมากๆ เอาจริงๆ นี่มันงานศิลปะชัดๆ มุมกล้องก็มีมุมแปลกใหม่ให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ และก็อย่างที่หลายๆ คนรู้ว่าต้นเรื่องมาของหนังก็เปิดประเด็น LGBTQ เลย แต่นักแสดงนำทุกคนถือว่าเล่นได้ดีนะ ดูมันค่อนข้างพอดีไม่เยอะไป ไม่น้อยไป ค่อนข้างดูเป็นชายที่ต้องแอบรักชายดี ก่อนดูผมแอบกังวลเรื่องนักแสดงเด็กอยู่เหมือนกัน แต่พอดูแล้วผมว่าผ่าน ทุกคนเลย

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

 

 

สปอยหนัง ผลงานกำกับของ ศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์ และ ภูวนิตย์ ผลดี (สองผู้กำกับจาก โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง ที่ออกฉายไปเมื่อปีพ.ศ. 2560)
ดูแลการผลิตโดย วิสูตร พูลวรลักษณ์ รับชมได้แล้วทาง Netflix

ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์นับเป็นค่ายหนังไทยที่กล้าผลิตหนังแนวทางใหม่ ๆ มาสร้างความคึกคักให้วงการหนังไทยเสมอตั้งแต่ปรากฎการณ์นางนาก หนังไทยร้อยล้านเรื่องแรก จนต่อมาได้ร่วมทำหนังกับ GMM ก็ยังได้ผลิตผลงานคุณภาพขวัญใจมหาชนออกมานับไม่ถ้วน หรือจะเป็นก่อนหน้านี้ที่ได้ร่วมงานกับ Mono Films ทำค่าย T-Moment ที่แม้จะมีหนังแค่ 3 เรื่องถ้วนได้แก่ โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง, App War แอปชนแอป และ The Pool นรก 6 เมตรก็ยังนับว่าได้สร้างความแปลกใหม่ให้วงการหนังไทยอีกครั้ง

และหลังเปิดตัวความร่วมมือล่าสุดกับทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์จนได้เปิดค่าย ไทเมเจอร์ และถือเป็นการร่วมงานกันอย่างเป็นทางการของคนตระกูลวรลักษณ์ ทั้งวิสูตร (ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์) และ วิศรุต (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์) ก็ทำให้ความคาดหวังที่มีต่อบิ๊กวงการหนังทั้ง 2 อยู่ในระดับสูงสุดและผลงานประเดิมค่ายที่ขอออกฉายชิมลางก็ได้แก่ บอสฉัน..ขยันเชือด หนังสแลชเชอร์คอมเมดี้เรื่องนี้นี่เอง หนังไทยมาใหม่

 

เนื้อเรื่อง บอสฉัน ขยันเชือด 

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด หนังเล่าเรื่องราวของเหล่าพนักงานบริษัทนกกระทาคู่ เมื่อ เมษา, โบกี้ และ หลิน สามสาวแห่งทีมมาร์เกตติ้งของบริษัท ได้แอบไปล่วงรู้เรื่องราวความลับอันดำมืดของ คุณต้น บอสใหญ่ของพวกเขาว่าน่าจะเป็นฆาตกรโรคจิตฆ่าต่อเนื่องที่ออกตามล่าฆ่าพนักงานสาวออฟฟิศ เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว พวกเธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ปฏิบัติการขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความจริงที่แสนระทึกจึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยมี ดร. อัง เป็นผู้ให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง

ตัวหนังเริ่มเรื่องด้วยคลิปจากแชนแนล ‘กี้ษาท้าพิสูจน์’ ที่ช่วยแนะนำให้เรารู้จักกับ โบกี้ (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) และเมษา (มุกดา นรินทร์รักษ์) อดีตคู่หูยูทูบเบอร์สมัยมัธยมที่ปัจจุบ้นต้องใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทผลิตเสื้อยืด แต่หลังจากวันดีคืนดีที่พวกเธอรวมถึง หลินฮุ่ย (ผักกาด-พอวิไล อภิรัชฎาพร) ได้พบเจอแฟลชไดร์ฟของนอท (นอท-สัณหณัฐ ทิราชีพ) หนุ่มไอทีที่ทำวิดีโอเปิดเผยว่าคุณต้น (สหรัถ สังคปรีชา) บอสประจำบริษัทเป็นฆาตกรต่อเนื่อง พวกเธอจึงต้องหาทางพิสูจน์ความจริงก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป บอสฉันขยันเชือด เรื่องย่อ

 

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

 

หนังได้ ภูวนิตย์ ผลดี จาก โอเวอร์ไซส์ทลายพุง และ ศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์ มาร่วมกันรังสรรค์เรื่องราวแนบสืบสวนสอบสวนคอมเมดี้ที่มีกลิ่นอายแบบหนังสแลชเชอร์ซึ่งนับเรื่องได้สำหรับวงการหนังไทย โดยหากพิจารณาจากไอเดียตั้งต้นที่มันตั้งใจหยอกล้อกันระหว่างงานออฟฟิศที่ฆ่าความฝันกับฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเหยื่อสาวออฟฟิศแล้วโยนความไม่น่าไว้วางใจให้กับเจ้านายอย่างคุณต้นก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
อีกทั้งการได้มุกดานักแสดงสาวช่อง 7 ที่เคมีการแสดงเข้ากันกับไอซ์ ปรีชญาอย่างดีก็ทำให้ตัวหนังมีจุดที่ทำให้คนดูติดตามและลุ้นไปกับทั้งคู่ได้แม้หนังจะไม่ได้มีพระเอกเหมือนหนังไทยเรื่องอื่น ส่วนก้อง สหรัถก็ขายเสน่ห์บอสหนุ่มใหญ่สุดหล่อที่ดูอันตรายไม่น่าไว้วางใจ แค่นี้ตัวหนังก็สามารถเล่นสนุกกับคาแรกเตอร์ที่สร้างมาได้เป็นอย่างดีแล้ว เพียงแต่ตัวบทหนังก็ยังคงมีช่องโหว่ที่ยิ่งหนังเดินเรื่องไปก็ยิ่งถ่างออกจนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

ข้อสังเกตประการแรกที่หนังไม่น่าพลาดเลยคือการปูความสัมพันธ์ของตัวละครโบกี้กับเมษานี่แหละที่บอกตามตรงว่าแม้ฉากเปิดเรื่องจะเปิดด้วยคลิปของทั้งคู่ แต่กว่าหนังจะมาปูความขัดแย้งของทั้งคู่ก็ปาไปองก์สองของหนังแล้ว ที่สำคัญความขัดแย้งของทั้งคู่ยังนำเสนอออกมาในลักษณะเพื่อนสาวที่ง้องแง้งกันมากกว่า และยังไม่พอหนังยังเพิ่มหลินฮุ่ยตัวละครเพื่อนสาวคนใหม่ของเมษาที่แทบไม่มีความจำเป็นกับเรื่องราวเท่าไหร่เข้าไปอีก
ประการต่อมาคือการตัวอย่างหนังที่ตัดออกมาโปรโมตคนดูอดคาดหวังไม่ได้เลยว่าตัวหนังควรออกมาระทึกและมีคนตายรายทางจนสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมา ปรากฎว่าทั้งเรื่องการฆาตกรรมเป็นเพียงอดีตที่เกิดขึ้นนานนับปีแค่ศพเดียว แล้วหนังก็เสียเวลาจับแพะชนแกะรายทางเอาทั้งความสงสัยแบบลอย ๆ ไปคุยกับดร.อัง (โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน) หรือพี่ปั่น (เผือก พงศธร จงวิลาส) จนเราอดสงสัยในระดับสติปัญญาของนักสืบ 3 สาวไม่ได้เลย ที่สำคัญคือจุดหักมุมของมันก็มาในแบบจับยัดมากกว่าจะมีการปูปมนี้มาแต่ต้นไปอย่างน่าเสียดาย

ประการสุดท้ายเลยคืองานกำกับของหนังยังไม่สามารถทำให้คนดูลุ้นระทึกตามตัวละครหรือสถานการณ์ในเรื่อง ทั้งที่หนังมีฉากที่เอื้อต่อการทำให้คนดูตามติดและอกสั่นขวัญแขวนได้เพียบทั้งฉากในห้องล้างรูปบ้านของบอสต้น ไปจนถึงไคลแมกซ์ของหนังที่แม้จะทำให้คนดูได้หัวเราะและสนุกสนานบ้าง แต่จังหวะของมันก็เอื่อยจนผิดฟอร์มหนังทริลเลอร์ ทั้งการกำกับการแสดงที่เหมือนผู้กำกับเองก็ไม่มั่นใจว่าจะให้ตัวละครรีแอ็กกับเหตุการณ์ตรงหน้ายังไงจนดูประดักประเดิด มุกที่ให้หลินฮุ่ยเอาตัวชนกับฆาตกรก็ดูเป็นมุกสังขารที่เกินความเข้าใจไปหน่อยจนมันดูกระอักกระอ่วนเกินจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ครับ

 

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

 

แต่กระนั้นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีมาก ๆ แต่ดันมาตอนจบคือคำพูดของฆาตกรที่ว่าด้วยสังคมการทำงานแบบไทย ๆ โดยเฉพาะเรื่องเส้นสายที่เอาคนรู้จักหรือมีความสัมพันธ์เข้ามาทำงานด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งหากหนังปูเรื่องส่วนนี้ดี ๆ มันจะกลายเป็นหนังไทยที่มีบทหนังวิพากษ์สังคมการเมืองที่ทำงานที่เฉียบคมมาก ๆ อย่างไรก็ดีหากใครจะเข้าไปเสพหนังสนุก ๆ สักเรื่องที่มีดารามีเสน่ห์มาเพ่นพ่านกันบนจอ บอสฉัน..ขยันเชือดก็ถือว่ายังตอบโจทย์อยู่ดีครับ
บอสฉันขยันเชือด (My Boss is a Killer) ภาพยนตร์เรื่องแรกจากค่าย TAI Major ของคุณ วิสูตร และ วิชา พูลวรลักษณ์ ซึ่งแต่เดิมได้วางกำหนดการฉายเป็นวันที่ 28 มกราคม 2564 แต่ต้องถูกพิษโควิด-19 ที่ระบาดรอบใหม่สังเวยไป จนต้องเลื่อนโปรแกรมฉายมาเป็น 1 เมษายน 2564 แทน บอสฉันขยันเชือด pantip

 

ความรู้สึกหลังดูจบ บอสฉัน ขยันเชือด

หนังเล่าเรื่องได้ไม่ค่อยสนุกเลยฮะ เดินเรื่องวนเวียนไม่ไปข้างหน้าซะที และด้วยความยาวหนังประมาณ 2 ชั่วโมงจึงกลายเป็น 2 ชั่วโมงที่อืดอาดยืดยาดมาก แถมปูมหลังของตัวละครที่พยายามสอดแทรกเข้ามาก็ไม่ได้ช่วยให้หนังมันเมคเซนต์อะไรเท่าไหร่นัก

ก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวผู้กำกับเองหรือได้โจทย์มาจากทางค่ายนะฮะ ถึงได้ตีความและเล่าหนังออกมาในทิศทางแบบนี้ คือหนังไม่มีความชัดเจนในแนวทางใดแนวทางหนึ่งเลย เราจึงได้เห็นว่าหนังมีทั้งความ “พยายาม” ที่จะเป็นหนังตลก (จุดนี้จะเห็นได้ตั้งแต่โปสเตอร์แล้วที่ทำให้คนดูรับรู้ว่านี่เป็นหนังตลกนะ) แต่มันก็ไม่ตลกเลย มุกแป๊กมาก ก็มีบางซีนที่พอให้ขำ หึหึ ได้บ้างแต่จากที่สังเกต คนดูทั้งโรงก็ไม่ได้ หึหึ กันทุกคนนะ

 

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

 

หนังมีทั้งความ “พยายาม” จะเป็นหนังตลกร้ายจิกกัดสังคมแต่ก็ทำออกมาได้ไม่ถึง ทั้งๆ ที่เรื่องราวในแวดวงพนักงานออฟฟิศ มีอะไรให้เอามาเล่นได้อีกเยอะ แต่หนังก็ไม่เอามาเล่น (แค่แตะๆ พอให้เห็นว่ากำลังเล่าเรื่องของพนักงานบริษัทอยู่นะ)

และสุดท้ายหนังยังมีความ “พยายาม” ที่จะเป็นหนังทริลเลอร์ระทึกขวัญหักมุม ซึ่งในพาร์ทนี้แมวโอเคนะ โดยเฉพาะในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องเนี้ย ทำออกมาได้ดีใช้ได้เลย เพียงแต่ว่ามันถูกความอืดอาดยืดยาดน่าเบื่อที่ทำให้มีความรู้สึกว่าเมื่อไหร่หนังจะจบครอบงำมาเกือบทั้งเรื่องแล้ว พอมาถึงจุดไคลแมกซ์อารมณ์มันเลยไม่พีคอย่างที่ควรจะเป็น

 

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด

สิ่งที่ต้องขอชมเชยมากที่สุดสำหรับเรื่องนี้เลยก็คือการแสดงของคุณ ดีเจเผือก ฮะ เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นพัฒนาการและศักยภาพทางด้านการแสดงของเขาอย่างชัดเจนเลยฮะ สามารถทำให้เรา “เชื่อ” ในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อกับเราได้
หนึ่งในหนังไทยกองทัพใหญ่ที่จะเรียงคิวฉายต่อเนื่องในเดือนเมษายนนี้ ก็คือ “บอสฉัน..ขยันเชือด” หรือมีชื่อภาษาอังกฤษเก๋ๆ ว่า My Boss is a Serial Killer ที่ถือว่าเป็นหนังที่ประเดิมเปิดค่าย ไท เมเจอร์ ของ คุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เดิมจะออกฉายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่เพราะโควิด-19 ยังเล่นอยู่ ก็ได้เลื่อนฉายมาเรื่อยๆ และลงตัวในช่วงใกล้เทศกาลวันสงกรานต์แบบนี้ บอสฉันขยันเชือด วิกิ

บอสฉัน..ขยันเชือด มาพร้อมกับเรื่องราวชวนพิศวงในออฟฟิศ เมื่อแก๊งหนุ่มสาวอยู่ๆ ก็ไปแอบล่วงรู้ความลับของเจ้านายตัวเองว่า บอสใหญ่ของพวกเขาเคยมีอดีตเป็นฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง แล้วเรื่องนี้จะแอบอยู่เฉยได้อย่างไร เมื่อออฟฟิศลุกเป็นไฟ ปฏิบัติขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความลับอันแสนระทึกที่มาพร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะจึงได้เกิดขึ้น

 

 

ก่อนอื่นใดก็ต้องยอมรับเลยว่า My Boss is a Serial Killer นับว่าเป็นหนังไทยที่ค่อนข้างมีสไตล์ที่แปลกและแหวกแนวจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมา เราไม่ค่อยจะได้เห็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนแกมตลกโปกฮา กลิ่นอายคล้ายๆ กับนิยายของ ‘อกาธา คริสตี’ อะไรทำนองนั้น แต่ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ออกมาในท้ายที่สุด หนังไทยเรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตีโจทย์และถ่ายทอดเรื่องราวที่หนังควรจะเป็นได้ออกมาได้ถูกที่ถูกทางในแบบที่ควรจะเป็น

กลายเป็นว่า บอสฉัน..ขยันเชือด จะเป็นหนังสืบสวนสอบสวนก็ไปไม่สุดทาง จะเป็นหนังตลกก็แทบไม่มีอะไรให้หัวเราะ หรือจะเป็นหนังฆาตกรรมเขย่าขวัญหักมุมก็ยังไม่ได้ ผลลัพธ์ที่ออกมาของหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นความสะเปะสะปะ หากเปรียบเป็นเมนูอาหารสักชามหนึ่ง ก็เป็นแกงที่ค่อนข้างจืด เผลอๆ เกือบจะไม่มีรสชาติอะไรเลยด้วยซ้ำ

 

โครงเรื่อง บอสฉัน ขยันเชือด

รีวิวบอสฉัน ขยันเชือด โครงเรื่องของหนังค่อนข้างน่าสนใจ แต่กลับตีความและตีโจทย์ออกมากับบทหนังที่อ่อนปวกเปียกที่เป็นปัญหาหลักๆ ของหนังไทยส่วนใหญ่ บทของหนังเรื่องนี้ไม่สามารถสร้างมิติใดๆ ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเห็นถึงความพยายามมากๆ แล้วก็ตาม แต่ที่ส่งออกมาถึงคนดูกลายเป็นความไม่ลงตัวอะไรเลยสักอย่าง กลายเป็นหนังที่แค่…ดูได้เรื่อย แอบน่าเบื่อไปสักหน่อย ถึงจะได้ทีมนักแสดงที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว
ทีมนักแสดงชั้นนำในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ก้อง สหรัถ”, “ไอซ์ ปรีชญา”, “มุกดา นรินทร์รักษ์” หรือ “เผือก พงศธร” พวกเขาต่างทำหน้าที่การแสดงของตัวเองได้อย่างเต็มที่และค่อนข้างโดดเด่นดี โดยเฉพาะ น้องมุกดา ที่ออร่าเฉิดจรัสในหนังเรื่องนี้มาก เมื่อผนวกขึ้นจอคู่กับ ไอซ์ ยิ่งส่งเสริมให้คนดูจับตาจอได้เป็นอย่างดี แต่การแสดงของพวกเขากลับไม่ช่วยอะไรเลย เพราะความอ่อนของบทหนังที่เหมือนหลงทางอยู่เรื่อยๆ

 

 

ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของหนัง มีทั้งมุมที่น่าติดตามและมุมที่น่าหงุดหงิด หนังมีการปูเรื่องออกมาค่อนข้างน่าพอใจ แต่อยู่ๆ ก็ทิ้งเอาไว้กลางทาง และการจับนู้นโยงนี่ใส่เข้ามาแบบไม่สนใจความสมเหตุสมผลเลยสักนิด แน่นอนว่าหนังมีประเด็นหักมุมและฉากที่ไม่คาดคิด แต่แล้วยังไง…เพราะสุดท้าย หนังเรื่องนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลยสักนิดเดียว บอสฉันขยันเชือด เต็มเรื่อง พากย์ไทย

รีวิว ขุนพันธ์ 2

รีวิว ขุนพันธ์ 2

รีวิว ขุนพันธ์ 2

 

 

สปอยหนัง เมื่อกฎหมายที่ตนเองศรัทธาเล่นงานจนถูกพักราชการ ขุนพันธรักษ์ราชเดช (อนันดา เอเวอริงแฮม) จึงตัดสินใจเล่นนอกกฎด้วยการแทรกซึมเข้าไปอยู่ในกลุ่มโจรเชิ้ตดำที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสุพรรณบุรีนำโดย เสือฝ้าย (พ.อ. วันชนะ สวัสดี) และเสือไบ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) จนอุดมการณ์ตำรวจถูกสั่นคลอนด้วยคำสัตย์ของโจร และขณะเดียวกันทางการตำรวจก็ส่ง อัศวิน (นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์) นายตำรวจหนุ่มนักเรียนนอกไฟแรงมาประจำที่สุพรรณบุรีเพื่อปราบปรามเหล่าโจรเรียกศรัทธาจากประชาชน และยิ่งขุนพันธ์อยู่กับโจรนานเท่าไหร่เบื้องหลังสกปรกในวงการตำรวจก็ยิ่งถูกขุดขึ้นมาจนสุดท้ายขุนพันธ์ต้องเลือกว่าจะอยู่ข้างโจรที่เป็นดั่งวีรบุรุษหรือเข้าข้างตำรวจที่เลวยิ่งกว่าอาชญากร

หลังห่างหายไป 2 ปีในที่สุด ก้องเกียรติ โขมศิริ ก็ได้ฤกษ์นำขุนพันธ์ ๒ ออกฉาย แม้ว่าเสียงวิจารณ์ของภาคแรกจะออกมาแบบก้ำกึ่ง คือเสียงส่วนใหญ่ก็บอกว่าหนังสนุกดีแต่บทหนังดูจะมั่วซั่วมากและซีจีเข้าขั้นโคม่า แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าการแสดงและการดีไซน์คาแรกเตอร์ตัวละครที่โดดเด่นคือจุดแข็งสำคัญของหนังภาคแรก ซึ่งก็น่าดีใจที่ ก้องเกียรติ ยังคงสานต่อจุดดีของหนังภาคแรก แถมยังกลับมาเล่นใหญ่กว่าเดิมเพราะต้องเล่าเรื่องราวของตัวละครใหม่ที่มีเรื่องราวของตัวเองทั้ง เสือฝ้าย และ เสือไบ ที่ออกแบบมาอย่างเท่จนผู้พันเบิร์ดและเป้ อารักษ์ ได้ควงปืนเล่นฉากแอ็คชั่นสุดเว่อร์วังได้ระดับน้องๆหนังฮีโร่มาร์เวลเลย แถมพัฒนางานเทคนิคด้านภาพให้สมศักดิ์ศรีหนังเกี่ยวกับอาคม แนบเนียนขึ่้นเยอะ และบทหนังยังสร้างประเด็นที่น่าสนใจทั้งเรื่องของคำสัตย์สาบานในหมู่โจร และการต่อสู้ในใจของขุนพันธ์เองว่าเขายังคงเป็นตำรวจหรือไม่สร้างความเข้นข้นให้เรื่องราวน่าสนใจอยู่ตลอด 2 ชั่วโมงของหนัง

 

รีวิว ขุนพันธ์ 2

 

นอกจากนี้หนังยังดีไซน์ตัวละครแวดล้อมได้น่าสนใจดีท้้ง อัศวิน นายตำรวจที่ถูกไฟคลอกจนต้องแปลงร่างเป็น เรด สกัล เอ้ย..เป็นมนุษย์หน้ากากดูน่าขนลุกอย่างกับผู้ร้ายหลุดมาจากหนังฮีโร่มาร์เวล หรือจะเป็นบรรดาตัวละครสาวๆทั้ง บุศรา (ก้อย รัชวินทร์ วงศิวิริยะ) มาเฟียสาวเจ้าของบาร์เหล้าเขตปลอดกฎหมายก็ให้อารมณ์นางนกต่อทรงเสน่ห์สุดอันตราย และ ทับทิม (อาภา ภาวิไล) คนรักของเสื้อไบที่มีปูมหลังแสนเศร้า ก็สร้างสีสันได้เป็นอย่างดีจนทำให้ขุนพันธ์ ๒ กลายเป็นหนังที่อุดมด้วยตัวละครที่ถูกออกแบบมาอย่างน่าสนใจมากมายเดินไปเดินมาในเรื่อง แม้ว่าท้ายที่สุดจะกลายเป็นภาระที่บทหนังยังคงไม่สามารถเล่าเรื่องได้ลงตัวเท่าใดนักแต่อย่างน้อยคราวนี้ก้องเกียรติก็ไม่ได้ให้เราเสียเวลาดูฉาก เซนๆ อย่าง “ศึกนี้อยู่ที่ใจ” อันเป็นของแสลงจากหนังภาคแรกแล้ว

 

จุดที่ยังผิดพลาดของหนัง ขุนพันธ์ 2

รีวิว ขุนพันธ์ 2 จุดที่ยังคงผิดพลาดอย่างน่าเสียดายเช่นเดิมคงหนีไม่พ้นว่า ผ่านมาภาค 2 แล้วเราก็ยังไม่ได้รู้จัก ขุนพันธ์ ดีขึ้นกว่าเดิมนัก เพราะแม้ว่าประวัติของท่านจะแพร่หลายแต่ในเชิงสื่อภาพยนตร์เราก็อยากรู้จักตัวละครนี้มากกว่าแค่สถานะ ตำรวจผู้แก่กล้าอาคม โดยมียังมีจุดที่หนังละเลยที่จะสำรวจทั้งทัศนคติของตนต่อกฎหมายในมือมาเฟีย หรือแม้กระทั่งว่าอะไรที่หล่อหลอมให้ท่านมาสนใจเรื่องวิชาอาคมก็จะมีส่วนช่วยให้เรารู้จักตัวละครและอยากลุ้นกับภารกิจต่างๆมากขึ้น แต่กลับไปเล่าเรื่องราวของเสือไบเป็นตุเป็นตะจนเรารู้จักเรื่องราวของมหาโจรมากกว่าตัวพระเอกเองเสียอีก ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว ขุนพันธ์ 2

 

แม้จะเต็มไปด้วยรอยแผลในระหว่างทางแต่อย่างน้อย ขุนพันธ์ ๒ ก็ยังมีมนตร์มากพอจะทำให้คนดูสนุกไปกัยหนังได้ตลอดความยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที หนังก็สามารถเอนเตอร์เทนเราด้วยฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ คาแรกเตอร์เท่ๆของเสือไบของ เป้ อารักษ์ และหน้าสวยๆของ ก้อย รัชวินทร์และ แม็กกี้ อาภา แค่นี้ก็เพลินจนลืมเวลาแล้วครับ ดูหนังฟรี

 

รีวิว ขุนพันธ์ 2

วันนี้เจอกันอีกแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำอะไรดูหนังไทยกันดีกว่า หลังจากที่ดูหนังฝรั่งมาหลายวันแล้ว วันนี้คิดยังไงไม่รู้เลยไป ค้นหาหนังขุนพันธ์ 2 มาดูซึ่งเรื่องนี้จำได้ว่าเคยดูมานานมากแล้ว ต้องดอีกรอบเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำกันอีกรอบ จะได้มาสปอยล์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันเพราะดูนานมากแล้ว ก็รู้สึกจะหลง ๆ ลืม ๆไปบ้างแล้ว พร้อมแล้วเราไปอ่านสปอยล์หนังขุนพันธ์ 2 กันดีกว่าค่ะ

ในเรื่องจะกล่าวถึงขุนพันธ์ซึ่งถูกพักราชการ เนื่องจากได้ทำการจับกุมเกินกว่าเหตุ และทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ขุนพันธ์ต้องปราบขุนโจรชุดดำ นั้นก็คือเสือฝ้ายและเสือใบผู้มีวิชาอาคมที่ปล้นคนรวยช่วยคนจน ในขณะที่ขุนพันธ์ถูกพักราชการอยู่นั้นขุนพันธ์ ใช้วิธีเข้าพวกชุมโจรผ่านแม่สื่อที่โรงเหล้า ผู้รู้ทุกเรื่องในสุพรรณบุรี

เสือฝ้าย เสือใบ และเสือบุตรต้องดื่มน้ำร่วมสาบานว่า ทั้งสามคนจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป ถ้าใครผิดคำสาบานให้มีอันเป็นไป ตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด แต่แล้วมาวันนึงเสือฝ้ายได้ถูกล้อมยิงจนบาดเจ็บ ต้องใช้วิชาอาคมคลายกระสุนออกจากร่างกาย เมื่อหายดีจึงรู้ว่าเพื่อนเป็นคนสั่งมาเก็บ เสือฝ้ายต้องไปตามเก็บเพื่อนเขาทิ้ง ขุนพันธ์ 2 เต็มเรื่อง ตอน จบ

 

รีวิว ขุนพันธ์ 2

 

ในขณะที่ขุนพันธ์พักราชการได้มีคนมาเป็นสารวัตรคนใหม่ เพื่อมาประจำการแทนขุนพันธ์ แต่ก็ต้องโดนยิงและโดนไฟเผา แต่เขาไม่ตายเพราะเขาได้เรียนรู้วิชาอาคม เพื่อที่จะปราบเสือฝ้าย แต่ก็มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อนายใหญ่ของทางการได้สั่งเก็บชุมโจรชุดดำ เสือฝ้ายที่คิดจะมาเป็นใหญ่ จึงได้หักหลังชุมโจร ทำให้เสือใบกับเสือบุตรนั้นต้องร่วมมือกัน

ในขณะที่เสือฝ้ายกำลังขับรถอยู่ได้ถูกซุ้มยิ่ง และใช้ค้อนทุบที่หัวจนตาย เสือบุตรได้เผยตัวเองว่าเป็นขุนพันธ์ จนทำให้เสือใบได้รู้ความจริง ขุนพันธ์ได้บอกกับเสือใบให้มอบตัว แต่เสือใบได้ตอบกลับไปว่า เรื่องมอบตัวไม่น่าเป็นไปได้ ต่อมาทั้งสองคนก็ได้ถูกตำรวจไล่ตามมาเอาของกลางที่ผิดกฎหมาย ในการต่อสู้ครั้งนี้ต้องใช้วิชาอาคมสู้กันอย่างดุเดือด การต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงยังไง และจะเป็นการสู้กันครั้งสุดท้ายหรือไม่ ต้องไปติดตามทาง Netflix หรือทางกล่องทรูไอดีทีวีนะคะ
จากกระแสที่ได้รับการตอบรับจากภาคแรกเป็นอย่างดี จึงได้ดีภาคสองตามมา เปิดภาคสองมาก็ยิงกระหน่ำ กันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ยังคงคุณภาพต่อจากภาคแรกได้ดี และมีการปรับปรุงพัฒนาหลายอย่างให้ดีกว่าเดิม สนุก ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟค ภาพ เสียง การแสดงและยังคงความมันแอคชั่นไว้ได้ยอดเยี่ยม ตอนจบยังขัดใจคนดูอยู่ ยังจบไม่ค่อยสมบูรณ์ คิดว่าน่าจะมีภาค 3 ต่อหรือเปล่าไม่แน่ใจ

ชอบมากค่ะ ถึงจะเดาได้บ้างแต่ก็หักมุมเล็กน้อย แล้วก็ได้แง่คฺิดดีค่ะ หนังไม่น่าเบื่อดูแล้วไม่ง่วง ส่วนตัวก็ดูสนุกดีค่ะ ดีกว่าภาคแรกเยอะ หวังว่าภาคต่อไป จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะขุนพันธ์ตายไปแล้ว

 

พล็อตเรื่อง ขุนพันธ์ 2

พล็อตเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยซับซ้อน สามารถเดาตอนจบได้ แม้ว่าเราจะพอเดาตอนจบได้ แต่เรากลับเดาตัวละครไม่ได้เลยว่าจะเอายังไงกับชีวิต ซึ่งนั่นทำให้เราอยากรู้ว่า ทำไมตัวละครนี้ทำแบบนี้ไปเพื้ออะไรทำเพื่ออะไร
จุดที่ยังคงผิดพลาดอย่างน่าเสียดายเช่นเดิมคงหนีไม่พ้นว่า ผ่านมาภาค 2 แล้วเราก็ยังไม่ได้รู้จัก ขุนพันธ์ ดีขึ้นกว่าเดิมนัก เพราะแม้ว่าประวัติของท่านจะแพร่หลายแต่ในเชิงสื่อภาพยนตร์เราก็อยากรู้จักตัวละครนี้มากกว่าแค่สถานะ ตำรวจผู้แก่กล้าอาคม โดยมียังมีจุดที่หนังละเลยที่จะสำรวจทั้งทัศนคติของตนต่อกฎหมายในมือมาเฟีย หรือแม้กระทั่งว่าอะไรที่หล่อหลอมให้ท่านมาสนใจเรื่องวิชาอาคมก็จะมีส่วนช่วยให้เรารู้จักตัวละครและอยากลุ้นกับภารกิจต่างๆมากขึ้น แต่กลับไปเล่าเรื่องราวของเสือไบเป็นตุเป็นตะจนเรารู้จักเรื่องราวของมหาโจรมากกว่าตัวพระเอกเองเสียอีก

 

 

แม้จะเต็มไปด้วยรอยแผลในระหว่างทางแต่อย่างน้อย ขุนพันธ์ ๒ ก็ยังมีมนตร์มากพอจะทำให้คนดูสนุกไปกับหนังได้ตลอดความยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที หนังก็สามารถเอนเตอร์เทนเราด้วยฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ คาแรคเตอร์เท่ๆของเสือไบของ เป้ อารักษ์ และหน้าสวยๆของ ก้อย รัชวินทร์และ แม็กกี้ อาภา แค่นี้ก็เพลินจนลืมเวลาแล้วครับ หนัง ขุนพันธ์ 2 เต็มเรื่อง movie2free

 

รีวิว ขุนพันธ์ 2

ด้วยความที่ภาคแรกสร้างความเซอร์ไพรส์ในเรื่องของการหยิบเอาตัวละครขุนพันธ์ บุคคลที่มีอยู่จริงมานำเสนอในรูปแบบหนังไทยตัวละครเท่ๆ ลุยแอ็กชั่นดุเดือดได้อย่างอึกทึกถึงใจเกินคาด นั่นจึงทำให้เราค่อนข้างคาดหวังกับภาคสองพอสมควร เพราะการที่หนังไทยสร้างคาแร็กเตอร์ตัวละครให้คนดูอยากเห็นภาคต่อตามมาได้ แสดงว่าคาแร็กเตอร์นั้นต้องแมสและได้ใจคนดูได้มากยังไงล่ะ แน่นอนว่าขุนพันธ์ก็เป็นหนึ่งในคาแร็กเตอร์ที่น่าจดจำ
การมีภาคสอง ที่ใช้ชื่อตอนในหนังว่า ‘ปราบเสือสุพรรณ’ ออกมา จึงถือเป็นโจทย์ที่หิน จะทำให้คนดูฟินเหมือนเดิมมั้ยนั้น คำตอบที่ได้รับกลับกลายเป็นว่า ไม่เหมือนเดิมแฮะ แน่นอนว่าพอภาคแรกประสบความสำเร็จ ภาคนี้จึงเพิ่มสเกลของเรื่องให้ซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการใส่ตัวละครเข้ามาอีกเพียบ เอาดีๆ เหมือนจะเฉียบ แต่พอตัวละครเยอะ ปมบางอย่างเลยออกมาเลอะเทอะไปหน่อย จนบางประเด็นก็เหมือนเล่นใหญ่ตอนแรกๆ พอบทจะหาข้อสรุป ก็กลับเล่นท่าง่ายๆ ซะงั้น
แต่นั่นไม่ใช่จุดด้อยที่ทำให้หนังดร็อปนะ เอาตรงๆ คือหนังไม่เวิร์กเท่าภาคแรก แต่แปลกที่เรายังสนุกไปกับมันได้ทั้งเรื่อง ด้วยความที่หนังยังมาเบอร์แอ็กชั่นไทยๆ ในสไตล์หนังเควนติน ทาแรนติโน่ ผสมงานแฟนตาซีที่พาขุนพันธ์ไปสู่การเป็นเอ็กซ์เมนอย่างเต็มตัวนี่แหละ สามารถทำให้เราบันเทิงไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังได้ พูดง่ายๆ คือชวนติดตามดี อาจจะมีการตัดต่อที่ขาดความสมูธไปบ้าง โดยภาคนี้ท่านขุนต้องแฝงตัวไปอยู่กับโจรหล่อ
ยิงกันกระหน่ำ เลือดฉ่ำจอเลยจ้าในส่วนของตัวอนันดากับบทขุนพันธ์ ก็ยังคงเป็นอนันดาในแบบที่เราคุ้นชินกันดี ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ขนาดมีฉากเปลือยเห็นก้นยังไม่รู้สึกว้าวอะไร ที่โดดเด่นเลยในภาคนี้จริงๆ ต้องยกให้บทเสือใบของเป้ อารักษ์ คือเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก กวนดี เท่ด้วย แม้จะสมทบ แต่ก็ขโมยซีนได้ตลอด ถือว่าเขียนคาแร็กเตอร์นี้ได้ดูสมเหตุสมผลมากที่สุดแล้วในหนัง (สามารถขยายจักรวาลของหนังขุนพันธ์ด้วยตัวละครนี้ต่อได้เลย) ขณะที่บทเสือฝ้ายของผู้พันเบิร์ด ก็ไม่ค่อยพลิกเท่าไหร่ เพราะมาดดูมีอำนาจอยู่แล้ว ขุนพันธ์ 2 037

 

 

ส่วนสตรีสองนางที่เสริมเข้ามาในเรื่องอย่างบุษรา (ก้อย รัชวิน) และทับทิม (แม็กกี้ อาภา) ที่มาแนวนางโลมตัวแม่และตัวลูก ก็ถือเป็นไม้ประดับที่ยังไม่จับใจเท่าไรนัก น่าจะมีลูกเล่นให้โชว์มากกว่านี้ และสุดท้ายเลยตัวร้ายหลักๆ ของเรื่อง นายตำรวจอัศวิน คือพี่จะมาแนวตัวร้ายแบบหนังแอ็กชั่นฮีโร่ค่าย Marvel หรือ DC จริงๆ เหรอ แอบขาดความสมเหตุสมผลสุด แต่ก็สร้างสีสันแบบจิตๆ ดีนะเออ (นี่ตอนใส่ชุดเอี๊ยม นึกว่ามนุษย์เพนกวิน แงๆ) ใครอยากเสพหนังไทยแอ็กชั่นโหดๆ เส้นเรื่องตำรวจปราบโจรที่เล่าเรื่องชวนติดตาม ต้องลองไปตำ!

 

สรุป ขุนพันธ์ 2

รีวิว ขุนพันธ์ 2 วีรบุรุษนักรบของกรมตำรวจ บุรุษร่างเล็กนัยต์ตาคมดุดุจตาเสือ หนวดเขี้ยว คิ้วหนา ประหนึ่งนักรบกล้าแห่งบางระจัน อดีตนักเรียนนายร้อยสามพราน รุ่น พ.ศ. 2472 ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า (ยอดวิชาคงกระพัน / นะจังงัง / มหาอุด ผิวกายคงทนต่อศาสตราวุธ) เพราะเป็นศิษย์ฆราวาสแห่งสำนักเขาอ้อ นอกจากนี้ยังเชี่ยวชาญเพลงมวยไทย เพลงดาบสายทักษิณ กระบี่กระบองและวิชาการต่อสู้อีกหลายแขนง และชำนาญในวิชาแพทย์แผนโบราณ ว่านและสมุนไพรต่างๆ
วีรกรรมที่เด่นชัดที่สุดคือกการปราบโจรร้ายต่างๆทั้ง เสือฝ้าย เสือดำ เสือมเหศวร (โดย เสือมเหศวรนี่ เป็นตัวละครพระเอกหนัง “ฟ้าทะลายโจร” แต่ตัวจริงถูกวิสามัญโดยขุนพันธ์) และการปราบ “อะแวสะดอ ตาเละ” เจ้าพ่อเขาบูโด นอกจากนี้ขุนพันธ์ฯยังได้รับพระราชทานรางวัลจากเจ้าเมืองรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ส่งมีดพกเล่มหนึ่ง มาให้ ดูหนัง ขุนพันธ์ 2 เต็ม

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

 

สปอยหนัง วันเลขสวยอย่าง 9.09.2009 มีหนังที่หลายคนคงรอชมอยู่แน่ๆ “5 แพร่ง”(phobia 2) หนังภาคต่อจาก “4 แพร่ง” ที่ฮิตมากเมื่อปีก่อน กระแสหนังผีเป็นตอนๆ มาเรียงร้อยกันแบบนี้ฮิตสร้างกันมาหลายเรื่องแล้วทั้ง อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต,ผีสามบาท แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ จนมาถึง 4 แพร่ง ของค่าย GTH นี่เอง

 

เรื่องย่อ 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง งวดนี้มี 5 ตอนจาก 5 ผู้กำกับชั้นนำของ GTH ผมได้ดูแล้วค่อนข้างชื่นชม และสนุกไม่แพ้ภาคก่อน ตอนแรกกังวลนิดหน่อยว่า เพิ่มมาอีกตอนเวลาน้อยลงจะทำให้ห้วนและไม่สนุก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ยังคงแนวทางจากภาคก่อนไว้อย่างเหนียวแน่นทีเดียว หนังอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เคยขึ้นหน้า1 หนังสือพิมพ์มาเป็นไอเดียในการเขียนเป็นบทหนัง เพราะฉะนั้นความสดใหม่ของเรื่องราวเป็นจุดนึงที่ทำให้ 5 แพร่งน่าติดตามจนแทบต้องกั้นลมหายใจไปด้วยทีเดียว ผมขอไม่เล่าเนื้อเรื่องนะครับอยากให้คนดูไปรับรู้เอาเองไม่งั้นจะเป็น การ spoil ไม่สนุกกันพอดี เริ่มจาก ดูหนังฟรี

หลาวชะโอน
นักแสดงนำ เก้า-จิรายุ ละอองมณี
ผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ยันต์สั่งตาย)
เรื่องนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์ปาหินที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกทีในเวลานี้ มุมที่หนังเล่าผมว่าคงสะใจใครหลายๆคนทีเดียว นับว่าเป็นตอนที่ผมเองก็อยากรู้มากว่าจะลงเอยเช่นไร ข้อดีของหนังสั้นก็คือจับประเด็นสำคัญ ที่ต้องการเล่าและพุ่งเป้าไปที่ตรงนั้น อย่างตอนนี้ เรื่อง “กรรม” เป็นสิ่งที่หนังต้องการจะเล่า และเรื่องเล่านี้ทำได้กระแทกใจคนดูมากทีเดียวเป็นยังไงต้องไปดูกัน รวมๆผมชอบครับห้องเตียงรวม

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

นักแสดงนำ แดน-วรเวช ดานุวงศ์
ผู้กำกับหน้าใหม่ วิสูตร พูลวรลักษณ์
เชื่อไหมครับว่าตอนนี้พอผมทราบว่าใครจะกำกับ ผมนี้เฝ้ารอเลยทีเดียว คุณวิสูตร บอสของค่ายลงมากำกับซะเอง ฝีไม้ลายมือไม่เลวเลยทีเดียวแม้ พล็อตเรื่องจะทำให้นึกถึงหนังฝรั่งอย่าง skelaton key ไปบ้างแต่ก็เล่นเอาคนข้างๆผมที่ไปดูด้วยกระตุกหลายครั้งทีเดียว และเป็นตอนที่เรียกเสียงกรี๊ดในรอบที่ผมไปดูได้เยอะสุดด้วยไม่รู้ว่าเค้า กรี๊ดแดนหรือกรี๊ดหนังกันแน่นะครับ รวมๆก็สนุกไม่เลวแม้จะไม่แปลกใหม่แต่ก็ได้เห็นฝีมือผู้กำกับใหม่(ใหญ่)ที่ น่าติดตามอีกท่านนึง มุมกล้องแปลกๆในตอนเปิดเรื่องและหลายๆช็อตเป็นรายละเอียดที่ผู้กำกับใช้เวลาน้อยแต่เล่า เนื้อเรื่องได้มากอย่างดี ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

นักแสดงนำ แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์
ผู้กำกับ ทรงยศ สุขมากอนันต์ (เด็กหอ)
ผมว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยถ้าได้ดูเรื่องนี้คงไม่ชอบใจนัก เพราะคงทำให้นักท่องเที่ยวคงกลัวที่จะมาเที่ยวบ้านเรา ตอนนี้คือการตั้งคำถามว่า ในตู้คอนเทนเนอร์ นั้นมีอะไรอยู่ ? ตรงกับข่าวอะไรนั้นผมว่าคุณๆคงเดากันได้หนังมีแตะเรื่องการลักลอบเข้าเมืองของบ้านพี่เมืองน้องของไทยด้วยเพื่อจูงเข้าเรื่อง หลักๆตอนนี้ผมว่าผู้กำกับอยากทำอะๆไรที่แหวกพล็อกเรื่อง และ charactor ผีไทยออกไปบ้างโดยการหยิบ “ยาเสพติด” มาเป็นประเด็น ผมดูจบนึกถึงหนังฝรั่งหลายเรื่องทีเดียว แม้จะดูสนุกแต่ถือว่าเป็นตอนที่เนื้อหาจับต้องได้น้อยสุด แม้จะชอบเป็นส่วนตัวจากการแสดงของคุณบุ๋มบิ๋ม ที่แรงดีครับ

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

รถมือสอง
นักแสดงนำ นิโคล เทริโอ
ผู้กำกับ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (เที่ยวบิน 224)
ถ้าตอนที่แล้วจะทำให้การท่องเที่ยวฯ เค้าค้อนเอาให้ สำหรับตอนนี้ ผู้กำกับคงเดินเข้าเต๊นท์รถมือสองไม่ได้แน่ๆ เพราะเล่นเอาไอเดีย(ความจริง) มาบอกชาวบ้านเค้าหมดเลย แล้วนี้จะมีใครกล้าซื้อรถมือ 2 อีกไหม ประเด็นของตอนนี้เล่นกับการ “การโกหก หลองลวงและความซื่อสัตย์” นิโคลเล่นดีครับ plot เรื่องว่ากันตรงๆ เดาจุดจบได้ไม่ยากจะเป็นอย่างไร การใช้มุมกล้องล่อหลอกคนดู รวมถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดทำให้ผมค่อนข้างอินกับตอนนี้มาก นับเป็นอีกตอนที่เล่นเอากระอักกระอ่วนกับบทสรุปของหนังได้ไม่แพ้ตอนแรกเลยทีเดียว

 

เรื่องที่ 5 ของหนัง 5 แพร่ง

คนกอง
นักแสดงนำ มาช่า วัฒนพานิช
ผู้กำกับ บรรจง ปิสัญธนะกูล (คนกลาง)
ตอนสุดท้าย ต้องบอกว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เป็นตอนที่ผ่อนให้คนดูถอนหายใจได้ยาวๆ นอกจากเรียกเสียงกรี๊ดในโรงมาหลายตอนแล้วเป็นหนังซ้อนหนังอีกที สมกับเป็นตอนจบปิดท้ายของหนังที่ทำให้คนดูเดินออกจากโรงได้อย่างสบายใจ การนำนักแสดงทั้งสี่จากตอน “คนกลาง” ใน 4 แพร่งกลับมา ไอเดียดีจนทำให้ผมคิดว่า คุณบรรจงผู้กำกับ น่าจะทำหนังใหญ่ที่แยกตัวออกมาทำเองกำกับเอง ทั้งเรื่องได้แล้วหลังจากเป็นผู้กำกับร่วมทั้ง shutterและแฝด ร่วมกันจนฮิตมาแล้ว ผมคนนึงล่ะที่จะขอตามไปดูเลยทีเดียว ประเด็นเรื่อง “ความรับผิดชอบ” และสำนวนที่ว่า the show must go on แท้ๆทำให้มุขที่สอดแทรกเข้ามาตลอด กับการเล่นเอาล่อเอาเถิดกับคนดู แพรวพราวมาก ขอปรมมือให้ดังๆเลยทีเดียว และช๊อคมากกับบทบาทของ มาช่าที่ปล่อยกันเต็มที่เลยทีเดียว ขอปรมมือให้ดังๆเลยครับ โดยเฉพาะมุขในห้องน้ำนี่เล่นเอาผมอึ้ง ทึ่ง เสียวเลยทีเดียว ไม่นึกว่าทั้งผู้กำกับและมาช่าจะกล้าเล่นมุขนี้ ชูนิ้วโป้งสองนิ้วให้เลย ที่สำคัญผมคิดเล่นๆนะครับถ้าจะแยกนักแสดงทั้งสี่มาทำเป็นซี่รีย์ ซักชุดน่าจะมันดีครับ ทุกคนเล่นดีรับส่งมุขกันน่าดู สนุกมาก อยากดูอีกคร้าบบบคุณบรรจง

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

สรุปภาพรวมของภาคนี้มีดีจนน่าติดตามครับ ทั้งประเด็นต่างๆของหนังที่สอดแทรกลงไป น่าจะทำให้วัยรุ่นอันเป็นกลุ่มหลักของหนังน่าจะฉุกคิดได้บ้างอย่างน้อยก็ทำให้เรื่อง บาปบุญคุณโทษไม่ใช่ของเชยที่หลุดยุคนี้ไปได้

 

ความประทับใจหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง ล่าสุดได้ข่าวมาว่าหนังทำรายได้วันแรกทุบสถิติหนังผีทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่นางนากได้สำเร็จหนังทำเงินแน่ๆแต่ทำได้เท่าไหร่และจะทุบสถิติภาคแรกได้ไหมคงต้องรอดูผลกันอีกในสุดสัปดาห์นี้ก็ทราบและพยากรณ์กันได้แล้วครับ
ไปชมกันครับ สนุกและมีดีอย่างที่บอกครับ
บทเรียนสอนใจได้ดี มีมุมสะเทือนใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ทีเดียว

โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล สร้างความประทับใจ “คนกลาง” ในภาคก่อนด้วยความน่ากลัวบวกความฮา มาในภาคนี้ก็ไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวังอย่างเคย เพียงแต่สิ่งที่อาจจะทำได้ไม่เท่า “คนกลาง” ก็คงจะเป็นที่ “คนกอง” ดูจะไม่น่าสะพรึงกลัวสักเท่าไหร่ หากเน้นไปที่ความฮาเสียมากกว่า สังเกตได้จากเสียงหัวเราะลั่นโรง เมื่อได้ทีมนักแสดงกลุ่มเดิมที่มากันอย่างครบถ้วน พร้อมตัวชูโรงตัวใหม่ กับการล้อเลียนหนังผีอีกหน โดยเฉพาะ “แฝด” ที่ มาช่า วัฒนพานิช คนเดิมเคยฝากความทรงจำเอาไว้ เรื่องราวในฉากหนึ่งของการถ่ายทำหนังผี ที่น้องคนนั้นที่เล่นเป็นผี เธอเกิดตายระหว่างถ่าย แต่ห่วงว่างานแสดงครั้งแรกของเธอจะไม่ลุล่วง จึงกลับมาป่วนกองถ่ายอีกครั้ง แพร่งนี้ คุณจะได้พบกับมาช่าในมุมที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหน
ความเห็นนี้ อาจจะไม่ตรงกับบางคนได้ อย่าว่ากันเลยนะ
ฉากที่ดูร้ายแรงที่สุด คงเป็นตอนจบของมัน ที่บ่งบอกอะไรบางอย่างได้ดี

 

 

ผมยอมรับว่า ประทับใจกับหลายแพร่งในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่แพร่งที่ดูจะได้ใจจากผมไปน้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็น “ห้องเตียงรวม” ของผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เลือก แดน วรเวช ดานุวงศ์ มารับบทหนังส่วนใหญ่เอาไว้เกือบจะคนเดียว กับเรื่องราวของ ตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาเรียกร้องห้องเดี่ยวแต่กลับต้องมาอยู่ร่วมห้องกับชายแก่ที่รอวันถอดเครื่องช่วยหายใจ การดำเนินเรื่องทำได้ดีในการสร้างความน่ากลัว แต่กลับสอบตกเรื่องการอธิบายที่มาที่ไป และไม่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการสื่อ
เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของมาช่าจริงๆ

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สลัดภาพจากแฟนฉัน และเด็กหอ โตขึ้นเป็นหนุ่มบนรถบรรทุก ที่รับสองหนุ่มสาว “Backpackers” ชาวญี่ปุ่นนักโบกขึ้นร่วมทาง ก่อนที่จะได้เห็นว่าอะไรที่เขาขนมา จากหนังตัวอย่าง เราคงได้เห็นภาพคล้ายซอมบี้วิ่งตามไล่ล่ารถบรรทุกคันนั้น ในแพร่งนี้ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ เปิดเผยที่มาที่ไปของพวกมัน เขาหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้าควบรวมจนกลายเป็นหนังซอมบี้ขึ้นมา หนังมีที่มาที่ไปอยู่พอควร แต่อาจจะไม่ทำให้บางคนเข้าใจมากนัก อันนี้ มันเป็นสไตล์ ซอมบี้ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้จากหนังผีไทยนัก แต่มันถูกนำมาใช้เพื่ออธิบาย “ความบ้า” ของบางสิ่งหรือเปล่า

 

 

โดยรวม ผมประทับใจตรงแง่มุมของหลายแพร่งที่ผู้กำกับพยายามนำเสนอ โดยส่วนตัว ผมไม่ได้กลัวผีในแต่ละแพร่งแต่อย่างใด แต่ผมรู้สึกสนุกดีที่เห็นคนข้างๆ ผมรู้สึกกลัวภาพบนจอยักษ์ และเห็นคนอีกข้างก็ดูจะกลัวเอามากเช่นกัน เห็นปิดหน้าปิดตาใหญ่เชียว มุกตกใจถูกนำมาใช้ไม่บ่อยนัก ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่มันทำให้ผมสะดุ้งได้ในจังหวะที่เขาอยากให้ผมสะดุ้ง แต่ละเรื่อง ผมรู้สึกถึงจุดร่วมที่พูดถึง “เหตุบนท้องถนน” ทั้งการปาหินเข้าใส่รถ ความประมาทที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ การขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย ธุรกิจที่มาหากินกับสมบัติของคนตาย ส่วนอีกแพร่งที่ดูเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ก็ยังมีฉากอุบัติเหตุบนท้องถนน ผมไม่มีปัญหากับการเรียงเรื่อง เรียงแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว คนดูอื่นๆ ก็น่าจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

 

ความจริงชื่อของอีเรียมซิ่งผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ในโปรแกรมมาตั้งแต่ต้นปี 2020 แล้วและนี่น่าจะเป็นหนังไทยตกค้างมาจากช่วงการระบาดของโควิด-19 เมื่อตอนต้นปีที่อยู่ในการรับรู้ของคนไทยมากที่สุดแล้ว และหลังจากที่เลื่อนไปมาจนลงตัวในที่สุดเราก็จะได้เห็นเบลล่า ราณี แคมเปน ในมาดอีเรียมวีรสตรีแห่งบางน้ำกร่อยกันแล้ว สปอยหนัง

เนื้อเรื่อง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง เมื่อโจรปากแดงสุดโฉดออกล่าพรหมจรรย์สาว ๆ เพื่อความเป็นอมตะ และจุดหมายของมันคือ อีเรียม (ราณี แคมเปน) สาวแสบแห่งบางน้ำกร่อยที่ต้องรวบรวมความกล้าและของดีของหลวงพ่อไปช่วยแม่และแรม (ณปภา ตันตระกูล) พี่สาวกุลสตรีแสนเรียบร้อยของนาง

แต่งานนี้อีเรียมไม่ได้สู้เพียงลำพังเพราะยังมีพรรคพวกสุดแสบทั้งฟักทอง (เดียร์ริส สุภัทรภณ กสิกรรม) เพื่อนกะเทยร่วมเรือน, ศรฆ้อนมหากาฬ (น้าค่อม ชวนชื่น), โตโล่บิน (โรเบิร์ต สายควัน) และ หมอ (บอล เชิญยิ้ม) หมอยาสมุนไพรวิเศษ งานนี้อเวนเจอร์แห่งบ้านบางน้ำกร่อยจะช่วยครอบครัวจากโจรร้ายได้หรือไม่ หนังไทยมาใหม่

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

เมื่อโจรปากแดงสุดโฉดออกล่าพรหมจรรย์สาว ๆ เพื่อความเป็นอมตะ และจุดหมายของมันคือ อีเรียม (ราณี แคมเปน) สาวแสบแห่งบางน้ำกร่อยที่ต้องรวบรวมความกล้าและของดีของหลวงพ่อไปช่วยแม่และแรม (ณปภา ตันตระกูล) พี่สาวกุลสตรีแสนเรียบร้อยของนาง แต่งานนี้อีเรียมไม่ได้สู้เพียงลำพังเพราะยังมีพรรคพวกสุดแสบทั้งฟักทอง (เดียร์ริส สุภัทรภณ กสิกรรม) เพื่อนกะเทยร่วมเรือน, ศรฆ้อนมหากาฬ (น้าค่อม ชวนชื่น), โตโล่บิน (โรเบิร์ต สายควัน) และ หมอ (บอล เชิญยิ้ม) หมอยาสมุนไพรวิเศษ งานนี้อเวนเจอร์แห่งบ้านบางน้ำกร่อยจะช่วยครอบครัวจากโจรร้ายได้หรือไม่ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

สิ่งที่ทำให้คนดูสนใจในตัวหนังอย่าง อีเรียมซิ่ง คงหนีไม่พ้นบรรดามุกกาว ๆ สไตล์หนังผจญภัยตลกและการได้เห็นเบลล่า ราณีมาทำหน้าเป็นและเล่นมุกสไตล์ตลกคาเฟ่พร้อมเสริมทัพด้วยบรรดานักแสดงตลกขาประจำทั้งน้าค่อม คุณโรเบิร์ต สายควันและคุณบอล เชิญยิ้มที่เห็นหน้าก็การันตีได้เลยว่าหนังต้องสนุกสนานและสร้างเสียงหัวเราะได้แน่นอน แต่ผิดคาดเราไม่แน่ใจว่าด้วยความที่หนังออกฉายช้าหรือตัวหน้งจริงมีปัญหาการถ่ายทำอะไรหรือเปล่าถึงทำให้มันออกมาเป็นต้มยำที่ไม่จี๊ดจ๊าดและดูจืดชืดเกินไปหน่อย

ปัญหาแรกต้องยอมรับเลยว่าตัวบทหนังดูจะยังไม่สามารถทำให้เรารักอีเรียมได้มากพอจะเอาใจช่วยนางเท่าไหร่นัก คือจากตัวอย่างเราเห็นเรียมเปิ่นฮาและก๋ากั่นยังไงตัวหนังจริงก็ไม่ได้ให้อะไรเรามากกกว่านั้นสักเท่าไหร่ และยิ่งการให้เบลลาเล่นมุกตลกแบบรวมฮิตทั้งมุก “ท่านเกียรติผู้มีแขก” มุกปักตะไคร้ หรือบรรดามุกสังขารต่าง ๆ ก็ทำให้เบลลาดูเป็นหุ่นยนต์ก๊อปปี้มุกตลกมากกว่าจะสร้างเสน่ห์ให้เธอเหมือนอย่างบทแม่การะเกดในบุพเพสันนิวาส แม้ว่าต้องยอมรับว่าเธอก็เล่นตลกแบบไม่ห่วงสวยจนสร้างความครื้นเครงให้หนังได้อยู่บ้างก็ตามส่วนปัญหาต่อมาแม้ว่าหนังจะมีคอนเซ็ปต์การเป็นหนังผจญภัยสไตล์นิยายเพชรพระอุมาที่มีทั้งจระเข้ยักษ์

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

งูเห่าเพลิง มีคาถาอาคมแต่ด้วยคุณภาพงานสร้าง CG ต่าง ๆ ที่ทำได้ไม่ถึงพอมันอยู่ในหนังก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นอะไรนักและด้วยจังหวะหนังที่เหมือนถูกบังคับท่าไม้ตายให้เป็นหนังตลกหรือเปล่าก็ไม่ทราบมันเลยถูกนำเสนอแบบขอไปที แถมยังต้องเจียดเวลาของหนังมาให้น้าค่อม โรเบิร์ตสายควันและบอล เชิญยิ้ม ได้เล่นมุกสังขารปากบวมตัวบวมอะไรอีก จนฉากผจญภัยที่ควรสร้างความตื่นเต้นหมดพลังไปอย่างน่าเสียดาย

แต่กระนั้นตัวหนังก็ยังมีจุดที่ทำให้เราได้สนุกไปกับมันอยู่บ้างโดยเฉพาะการมีอยู่ของแพท ณปภา ตันตระกูล ที่สามารถฉายเสน่ห์ในมุกโดนวางยาว่านราคะที่ทั้งเซ็กซี่และฮาสุด ๆ รวมไปถึงมุกบีตบ็อกซ์ที่ต้องยอมรับเลยว่าขโมยซีนเบลลาเห็น ๆ แถมการปรากฎโฉมของแพทในชุดเกาะอกแบบไทย ๆ ยังน่าจะได้ใจหนุ่ม ๆ ได้ไม่ยากเลยทีเดียว ดูหนังอีเรียมซิ่ง netflix

และอีกส่วนที่ดีงามมากของหนัง อีเรียมซิ่ง คือคอนเซ็ปต์ของการแอบหยอกหนังนอกทั้งดนตรีประกอบฉากที่อีเรียมเตรียมไฝ่ว์นี่อย่างกับดนตรีในเทรลเลอร์ Wonder Woman 1984 หรือการคิดคอนเซ็ปต์ให้บรรดาแก๊งน้าค่อม คุณโรเบิร์ตและคุณบอลได้กลายเป็น Thor, Captain America และ Doctor Strange แบบเพี้ยน ๆ ก็เรียกเสียงฮาได้ดีเลยทีเดียว และเป็นจุดแข็งแรงที่ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของนักแสดงตลกทั้ง 3 ท่านที่ถือเป็น MVP ที่ทำให้หนังอย่าง อีเรียมซิ่ง ยังคงมีความสนุกอยู่บ้าง

 

อีเรียมซิ่ง หนังใหม่ไทยที่มาพร้อมกับความฮา

อีเรียมซิ่ง เป็นภาพยนตร์ไทยซึ่งอันที่จริงต้องเข้าฉายไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นๆ แต่เพราะพิษ Covid-19 ทำให้ต้องเลื่อนฉายมาจนป่านนี้ และกลายเป็นงานภาพยนตร์ลำดับสุดท้ายของพี่โรเบิร์ต สายควัน ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ และหากใครกำลังมองหางานที่จะรับชมเพื่อ Tribute ให้แก อีเรียมซิ่งก็สามารถเป็น 1 ในตัวเลือกนั้นได้อย่างไม่ยากไม่เย็น แต่ถ้าจะไปดูเอาสนุก เอาบันเทิงตามที่หน้าหนังได้โฆษณาไว้… อีเรียมซิ่งก็ยังเป็นคำตอบที่ใช่อยู่ดี เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยฮาจัดส่งท้ายปีที่สามารถไปดูกันได้โดยไม่ติดขิดตะขวงใดๆ

อีเรียมซิ่ง เป็นผลงานกำกับลำดับที่ 4 ของผู้กำกับ “ตุ๋ย” พฤกษ์ เอมะรุจิ ถัดจาก ป้าแฮปปี้ She ท่าเยอะ และ ไบค์แมนทั้ง 2 ภาค ซึ่งส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าแกเป็นเหมือน Legacy ของ “ยอร์ช” ฤกษ์ชัย พวงเพชร อดีตผู้กำกับดังที่ตอนนี้ก็นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ค่าย “รฤกษ์” ซึ่งทำหนังเรื่องนี้นี่แหละ เนื่องจากพวกจังหวะยิงมุกหรือการคัทฉากเพื่อให้เกิดเป็นซีนลั่นๆ ขึ้นมานี่คล้ายสไตล์ของคุณยาร์ชสมัยทำหนังซีรีส์ “ส่ายหน้า” มากๆ อี เรียมซิ่ง 037

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

และด้วยความที่ผมค่อนข้างซื้อมุกสไตล์นี้อยู่พอสมควร เลยค่อนข้างไฮป์ตอนไบค์แมนภาคแรกมากๆ แม้ภาค 2 จะดรอปมาหน่อยแต่ในภาพรวมผู้กำกับพฤกษืก็ยังไม่สิ้นเครดิตในสายตาผมนัก และผมยินดีจริงๆ ที่อีเรียมซิ่งเหมือนเป็นงานคืนฟอร์มเบาๆ ของแกอีกครั้ง แม้เนื้อเรื่องกับพล็อตจะธรรมดาไปหน่อย แต่การเล่าเรื่องที่จงใจให้คอนทราสต์กับยุคสมัยและการรัวมุกจากดาวตลกและดาราสายฮาระดับแถวหน้าของเมืองไทย ก็ช่วยให้อีเรียมซิ่งกลายเป็นเมนูธรรมดาที่อิ่มอร่อยไปโดยปริยาย

อีเรียมซิ่ง เป็นหนังตลกที่มาแรงมากมาก เข้าฉายเพียงไม่นานก็ปักธงจะมุ่งสู่ร้อยล้านแล้ว ด้วยหน้าหนังตอนแรก แอบนึกว่านี่เป็นหนังตลกที่ออกมาดาษดื่น แต่พอได้ข้อมูลว่าเป็นของค่ายรฤก เราก็แอบวางใจ เพราะผลงานของค่ายนี้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าแม้จะเป็นหนังตลกตบมุก แต่ก็ได้เสียงหัวเราะแน่นอน

 

พล็อตของหนัง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้จริง ๆ แล้ว ไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องของ เรียม ที่อิจฉา แรม พี่สาวของตน ซึ่งมีคนรักเยอะ เพราะเป็นสาวเรียบร้อย ตามแบบอย่างกุลสตรีในอุดมคติ แบบกรอบของสังคมสมัยก่อน ในขณะที่เรียมเป็นสาวห้าว ทะมัดทะแมง เล่นต่อสู้กับผู้ชาย

บทหนังเดินเป็นเส้นตรง ๆ ตามสไตล์หนังขายตลกในลักษณะคาเฟ่ แต่ก็มีการผูกโยงเรื่องกันแบบหลวม ๆ แม้ว่าโครงเรื่องหลักจะเดาได้ไม่ยาก แต่ก็ทำออกมาได้ตลก และมีมุกที่อาศัยเซอไพร์สหลายอย่าง ซึ่งบางมุกอาจจะเหมาะกับคนที่ตามข่าวสารวงการบันเทิงอยู่แล้วนิดหน่อย แต่ถึงไม่ได้ตามผมก็ว่ายังฮาได้ครับ โดยรวมหนังเรื่องนี้ขายขำ เอาฮา ใครอยากดูหนังคลายเครียดผมแนะนำเลยครับ จังหวะตบมุกเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย ใครชอบหนังของค่ายนี้อย่าง ไบค์แมน เรื่องนี้ก็มาในสไตล์เดียวกันครับ ดูหนังอีเรียมซิ่ง doomovie

 

 

สิ่งที่ทำให้คนดูสนใจ

สิ่งที่ทำให้คนดูสนใจดูหนังออนไลน์ในตัวหนังอย่าง อีเรียมซิ่ง คงหนีไม่พ้นบรรดามุกกาว ๆ สไตล์หนังผจญภัยตลกและการได้เห็นเบลล่า ราณีมาทำหน้าเป็นและเล่นมุกสไตล์ตลกคาเฟ่พร้อมเสริมทัพด้วยบรรดานักแสดงตลกขาประจำทั้งน้าค่อม คุณโรเบิร์ต สายควัน และคุณบอล เชิญยิ้มที่เห็นหน้าก็การันตีได้เลยว่าหนังต้องสนุกสนานและสร้างเสียงหัวเราะได้แน่นอน แต่ผิดคาดเราไม่แน่ใจว่าด้วยความที่หนังออกฉายช้าหรือตัวหน้งจริงมีปัญหาการถ่ายทำอะไรหรือเปล่าถึงทำให้มันออกมาเป็นต้มยำที่ไม่จี๊ดจ๊าดและดูจืดชืดเกินไปหน่อย

แม้ว่ามุกตลกในหนังที่ใส่เข้ามาจะไม่ได้มีอะไรหวือหวาและแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่นัก แต่การแสดงของ เบลล่า ราณี ก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เธอสามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัด โชว์ทักษะการแสดงบ้าๆ บอๆ และไม่กลัวสวยออกมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะการหยอดมุกที่ดูเข้าขากับนักแสดงตลกมืออาชีพได้อย่างลงตัวและไม่มีติดขัดสักฉาก หากดูที่หน้าจอทีวีในเวลาก็น่าจะเป็น เบลลา ราณี

ในอีกคาแรกเตอร์กับละครเรื่องแซ่บ แต่หากมาอยู่บนจอใหญ่ก็จะได้เห็นเธอในอีกคาแรกเตอร์ที่พลิกขั้วเป็นสาวชาวบ้านที่แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์ความก๋ากั๋น และสร้างอารมณ์ขันได้เป็นอย่างดี จึงเป็นการงัดทักษะการแสดงของนักแสดงสาวผู้นี้ออกมาและได้ปล่อยของในอีกมุมอีกด้านที่ไม่ค่อยได้เห็นเธอในมุมนี้เท่าไหร่

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

ปัญหาแรกต้องยอมรับเลยว่าตัวบทหนังดูจะยังไม่สามารถทำให้เรารักอีเรียมได้มากพอจะเอาใจช่วยนางเท่าไหร่นัก คือจากตัวอย่างเราเห็นเรียมเปิ่นฮาและก๋ากั่นยังไงตัวหนังจริงก็ไม่ได้ให้อะไรเรามากกกว่านั้นสักเท่าไหร่ และยิ่งการให้เบลลาเล่นมุกตลกแบบรวมฮิตทั้งมุก “ท่านเกียรติผู้มีแขก” มุกปักตะไคร้ หรือบรรดามุกสังขารต่าง ๆ ก็ทำให้เบลลาดูเป็นหุ่นยนต์ก๊อปปี้มุกตลกมากกว่าจะสร้างเสน่ห์ให้เธอเหมือนอย่างบทแม่การะเกดในบุพเพสันนิวาส แม้ว่าต้องยอมรับว่าเธอก็เล่นตลกแบบไม่ห่วงสวยจนสร้างความครื้นเครงให้หนังได้อยู่บ้างก็ตาม

ส่วนปัญหาต่อมาแม้ว่าหนังจะมีคอนเซ็ปต์การเป็นหนังผจญภัยสไตล์นิยายเพชรพระอุมาที่มีทั้งจระเข้ยักษ์ งูเห่าเพลิง มีคาถาอาคมแต่ด้วยคุณภาพงานสร้าง CG ต่าง ๆ ที่ทำได้ไม่ถึงพอมันอยู่ในหนังก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นอะไรนักและด้วยจังหวะหนังที่เหมือนถูกบังคับท่าไม้ตายให้เป็นหนังตลกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ มันเลยถูกนำเสนอแบบขอไปที แถมยังต้องเจียดเวลาของหนังมาให้น้าค่อม โรเบิร์ตสายควันและบอล เชิญยิ้ม ได้เล่นมุกสังขารปากบวมตัวบวมอะไรอีก จนฉากผจญภัยที่ควรสร้างความตื่นเต้นหมดพลังไปอย่างน่าเสียดาย

แต่กระนั้นตัวหนังก็ยังมีจุดที่ทำให้เราได้สนุกไปกับมันอยู่บ้างโดยเฉพาะการมีอยู่ของแพท ณปภา ตันตระกูล ที่สามารถฉายเสน่ห์ในมุกโดนวางยาว่านราคะที่ทั้งเซ็กซี่และฮาสุด ๆ รวมไปถึงมุกบีตบ็อกซ์ที่ต้องยอมรับเลยว่าขโมยซีนเบลลาเห็น ๆ แถมการปรากฎโฉมของแพทในชุดเกาะอกแบบไทย ๆ ยังน่าจะได้ใจหนุ่ม ๆ ได้ไม่ยากเลยทีเดียว และอีกส่วนที่ดีงามมากของหนัง อีเรียมซิ่ง คือคอนเซ็ปต์ของการแอบหยอกหนังนอกทั้งดนตรีประกอบฉากที่อีเรียมเตรียมไฝ่ว์นี่อย่างกับดนตรีในเทรลเลอร์ Wonder Woman 1984 หรือการคิดคอนเซ็ปต์ให้บรรดาแก๊งน้าค่อม  ดูหนังออนไลน์

 

 

คุณโรเบิร์ตและคุณบอลได้กลายเป็น Thor, Captain America และ Doctor Strange แบบเพี้ยน ๆ ก็เรียกเสียงฮาได้ดีเลยทีเดียว และเป็นจุดแข็งแรงที่ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของนักแสดงตลกทั้ง 3 ท่านที่ถือเป็น MVP ที่ทำให้หนังอย่าง อีเรียมซิ่ง ยังคงมีความสนุกอยู่บ้าง

โดยรวม

โดยภาพรวมของ อีเรียมซิ่ง ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์คนดูในทุกๆ ทาง แม้ว่าจะเป็นเพียงหนังตลกสูตรสำเร็จเรื่องหนึ่งก็ตาม แต่ภายใต้ความสำเร็จรูปในแบบต่างๆ ก็สามารถสร้างอรรถรสความบันเทิงให้กับคนดูได้อย่างตรงไปตรงมา ตลอดระยะเวลากว่าชั่วโมงครึ่งของหนังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้คนดูได้ ผ่อนคลายและปล่อยเสียงหัวเราะออกมาได้แบบไม่เคอะเขิน และที่สำคัญหนังยังมาพร้อมกับการเซอร์ไพรส์แบบคำโตๆ ที่ทำให้คนดูต้องร้องว้าวที่เป็นไฮไลท์เด่นอีกส่วนหนึ่งของหนัง และยิ่งเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับหนังเข้าไปอีก ดูอีเรียมซิ่ง hd พากย์ไทย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

 

สปอยหนัง yes or no อยากรัก ก็รักเลย เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2553 กำกับโดยสรัสวดี วงศ์สมเพ็ชรนำเสนอมุมมองการรักเพศเดียวกันในผู้หญิง เป็นเรื่องราวของนักศึกษามหาวิทยาลัยในที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมห้องพักเดียวกัน ดูแลกันจนพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นความรัก บทภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือสองเล่มโดย ลลนล “yes รักนี้ใช่เลย” และ “no ก็ว่าจะไม่รัก” โดยสำนักพิมพ์สีม่วงอ่อนและ comeon

 

เนื้อเรื่อง yes or no อยากรัก ก็รักเลย

พาย (ออม-สุชารัตน์) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหา’ลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง “เจน” (ดิว-อริสรา) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้พายเองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง “คิม” (ติ๊นา-ศุภนาฎ) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก..การมาเรียนวันแรกที่นี่ของคิม ทำให้ เจน ที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที หนังไทยย้อนยุค

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

แต่ พาย เธอกลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของคิมที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็กๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจากพายเท่าไหร่นัก

การมาอยู่หอพักในมหา’ลัยของ พาย นั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม “แวน” (บอล-สรณัฐ) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของพาย โดยเฉพาะแม่ของพายที่คาดหวังว่าพายและแวน จะได้เป็นแฟนกัน และแน่นอน แวน นั้นแอบรักพายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ตัวละครเรื่อง yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปของตัวละครทีละขั้นและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นโดยตัวละครและคนรอบข้าง เดิมพายและแม่เกลียดทอม ส่วนคิมก็ไม่เคยชอบใครไม่ว่าหญิงหรือชาย เมื่อทั้งสองคนได้มาเป็นเพื่อนร่วมห้องพักกัน ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปเป็นลำดับ ขณะที่มีพี่แวนมาจีบพายและเจนมาจีบคิม คิมและพายต้องค้นหาตัวเองและฝ่าฟันอุปสรรคในบริบทของสังคมไทยเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักที่ตนเองต้องการ จนในที่สุดสองคนก็รักกันและคบกันอย่างเปิดเผยโดยที่สังคมรอบข้างและคนใกล้ตัวรับรู้

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

yes or no 2.5 เต็มเรื่อง อยากรัก ก็รักเลย ถูกจัดอยู่ในเรต 4 “น 15+” ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งดูจากหน้าปก ก็แน่นอนว่าเป็นนิยายวัยรุ่นแนว y ตามสมัยนิยม เดี๋ยวนี้วัยรุ่นเค้าไม่อ่านนิยายรักแล้ว

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

พายมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องในหอพักจึงต้องย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับคิม แรกทีเดียวนั้นพายรังเกียจที่คิมมีพฤติกรรมคล้ายทอม ทั้งหน้าตาและอากัปกิริยาคล้ายผู้ชาย จึงลากเทปสีแดงกั้นเขตในห้อง ห้ามมิให้คิมล่วงล้ำข้ามไปถึงตัวพาย คิมปฏิเสธว่าตนเองมิใช่ทอมและถามว่าทอมคืออะไร คิมบอกพายว่ายังไม่เคยชอบใครไม่ว่าหญิงหรือชาย และพูดต่อไปว่าถ้าเราชอบใครสักคน ชอบที่จะอยู่กับเขา ชอบที่จะเล่นกับเขา แต่เขาดันเป็นผู้หญิง เราก็กลายเป็นทอมเลยใช่หรือเปล่า แล้วความเป็นเราจะเปลี่ยนไปไหม เราก็ยังเป็นคนเดิม แต่จะมีใครมองเห็นบ้างไหมนอกจากจะตราหน้าว่าเราเป็นทอม yes or no 3 เต็มเรื่อง

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

คิมผูกมิตรกับพายด้วยการทำอาหารในหม้อหุงข้าวแล้วชวนให้พายทาน โดยยื่นข้ามเส้นแดงไปให้ ทั้งสองจึงรู้จักกันมากขึ้น คิมเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว ส่วนพายชอบเลี้ยงปลา คิมได้โอกาสจึงถามพายว่าทำไมเลี้ยงปลาตัวเดียว พายจึงอธิบายให้ฟังว่าปลาดุต้องเลี้ยงตัวเดียว คิมจึงถือโอกาสแซวว่าเหมือนเจ้าของ และถามต่อว่ามีปลาที่เป็นทอมหรือปลาที่ไม่ชอบทอมบ้างไหม พายตอบได้เพียงว่ามีปลาที่รักเพศเดียวกัน แต่พายงอนไปเมื่อรู้ว่าคำถามถึงปลาที่ไม่ชอบทอมเป็นการกระทบตนอีก คิมต้องตามหาร้านน้าอินเพราะพ่อฝากไวน์มาส่ง คิมหาร้านไม่พบจนในที่สุดพายต้องพาไปโดยถือเป็นการตอบแทนอาหารของคิม ตั้งแต่นั้นมาคิมก็ไปมาหาสู่ที่ร้านน้าอิน ทั้งไปทานขนม เล่นดนตรี และได้น้าอินเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ

ฝนตกน้ำเข้าห้องพักของทั้งคู่ เตียงของพายเปียก คิมจึงข้ามเส้นแดงเข้าช่วยเหลือ และเสนอให้พายนอนเตียงคิม ส่วนคิมนอนพื้นได้เพราะคิมเป็นลูกชาวสวน จากนั้นฟ้าคะนองจนไฟฟ้าดับคิมจึงเข้าไปกอดพาย ทั้งสองจุดเทียนเล่นเงาเป็นรูปนกอยู่ในห้อง ความสัมพันธ์จึงพัฒนาขึ้นเป็นลำดับโดยไม่ถูกกีดกันโดยเส้นแดงแบ่งเขตอีกต่อไป ทั้งสองเรียนรู้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายชอบและไม่ชอบและเลื่อนเตียงมาติดกัน

 

ด้านการแสดงและด้านต่างๆ yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิวหนัง yes or no อยากรัก ก็รักเลย ด้านการแสดง ขอพูดถึงนางเอกของเรื่อง ออม-สุชารัตน์ ที่เคยผ่านผลงานจากภาพยนตร์ ปายอินเลิฟ มาแล้ว ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง yes or no อยากรักก็รักเลย ถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของสาวออม ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยความสามารถที่มีเกินร้อยของเธอบวกกับด้านการศึกษาที่จบเอกการแสดงจากรั่วมหา’ลัย มามาดๆ ทำให้สาวออมได้คะแนนด้านการแสดงไปเต็มๆกับบทนี้ มากันที่พระเอกสาวหล่อของเรื่อง ติ๊นา-ศุภนาฎ เรียกว่าเป็นน้องใหม่แกะกล่อง แต่ก็เป็นกล่องคุณภาพซะด้วย น้องติ๊นาทำได้ดีมากในเรื่องของการแสดง เรียกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แจ้งเกิดสาวหล่อดาวรุ่งคนใหม่ขอวงการ ที่สาวๆเห็นเป็นต้องกรี๊ด ด้วยบุคลิคน่ารักอบอุ่นของติ๊นาทำให้เรื่องนี้เธอได้คะแนนจากเหล่าชะนีเทียมไปไม่น้อย ส่วนนักแสดงท่านอื่นก็แสดงได้ดีมาก

 

 

ด้านภาพ แสง สี เสียง ก็อยู่ในเกณฑ์ดี ภาพสวย วิวและโรเกชั่นก็สวย ถึงฉากสวยใหญ่จะอยู่ในห้องและมหาวิทยาลัย แต่ก็นับว่าเป็นการเลือกมุมภาพที่ลงตัว ถ่ายทอดออกมาได้สวยงาม yes or no คนที่ใช่ ใครที่ชอบ

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

ชื่อภาษาไทย Yes or No อยากรัก ก็รักเลย จัดจำหน่ายโดย Come On Sweet กำหนดฉาย 16 ธันวาคม 2553 เรื่องย่อ Yes or No อยากรัก ก็รักเลย “พาย” (ออม-สุชารัตน์) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหา’ลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง “เจน” (ดิว-อริสรา) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้พายเองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง “คิม” (ติ๊นา-ศุภนาฎ) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก..การมาเรียนวันแรกที่นี่ของคิม ทำให้ เจน ที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที แต่ พายเธอกลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของคิมที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็กๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง

ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจากพายเท่าไหร่นัก.. การมาอยู่หอพักในมหา’ลัยของ พาย นั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม “แวน” (บอล-สรณัฐ) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของพาย โดยเฉพาะแม่ของพายที่คาดหวังว่าพายและแวน จะได้เป็นแฟนกัน และแน่นอน แวน นั้นแอบรักพายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว… เรื่องราว ความรักของทั้งสี่ คน มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจ ความวุ่นวาย สับสน ในใจของ เธอและเธอ บทสรุปแล้ว..มันจะเป็นอย่างไร…? เพราะคำว่า “รัก”…เกิดขึ้นกับใครก็ได้ กับเพศไหนก็ได้ …เพราะสุดท้ายรักก็คือ “รัก” รายชื่อนักแสดงนำ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ออม-สุชารัตน์ มานะยิ่ง ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา บอล-สรณัฐ ยุปานันท์ อิน บูโดกัน ผู้กำกับ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร

 

 

ถือว่าเป็นหนังรักทางเลือกใหม่ ที่ผู้กำกับ นาย-สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ตั้งใจนำเสนอ แม้จะไม่เคยผ่ายงานด้านการกำกับภาพยนตร์มาก่อน แต่สำหรับ yes or no? อยากรักก็รักเลย ดูจะเป็นคำตอบให้ผู้กำกับหญิงคนนี้สอบผ่านได้แบบสวยงาม เพราะการถ่ายทอดเรื่องราวที่กลมกร่อมและลงตัว ได้เห็นความน่ารักของตัวละคร ความใสซื่อของพระเอกที่มีต่อนางเอก และที่สำคัญเข้าใจถึงอารมณ์ของหนังได้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังรักฉาบฉวย แต่เป็นความอบอุ่นความจริงใจที่ตัวละคร คิม มีต่อ พาย ถึงแม้จะเป็นหนังรักฟอร์มเล็กๆ แต่ฝีมือการกำกับไม่ทำให้ตกฟอร์มอย่างแน่นอนค่ะ ขอเป็นกำกัลใจให้คุณผู้กำกับ

เรียกว่าเป็นหนังรักทางเลือกใหม่ จากค่ายเล็กๆ ที่ดูจะเปิดตัวแรง ด้วยการกล้าที่จะส่งหนังรักโรแมนติก “หญิงรักหญิง” ออกสู่ตลาดภาพยนตร์ แต่ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป เพราะคนดูเริ่มจะรับได้กับสิ่งที่ผู้ผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์(ไทย) กล้าที่จะนำเสนอภาพยนตร์ในแง่มุมที่แตกต่างไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะหนัง “ชายรักชาย” หรือ “หญิงรักหญิง” ก็ดูจะกลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว เลยทำให้รู้สึกได้ว่าวงการภาพยนตร์ไทยเปิดกว้างมากขึ้นที่จะทำหนังรักทางเลือกใหม่ ออกสู่สายตาคนดู ที่จะมีภาพยนตร์ที่หลากหลายแนว หลากหลายรูปแบบมาให้คนดูได้เลือกชมกัน

ซึ่ง yes or no อยากรักก็รักเลย ก็เป็นหนังไทยอีกเรื่อง ที่น่าชม และทำในเข้าใจมุมมองของคำว่า “หญิงรักหญิง” เพิ่มมากขึ้น หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงแค่รักฉาบฉวย แต่คุณค่าของมันกลับทำให้รู้ว่า ผู้หญิงห้าว หรือ สาวหล่อ ก็มีดีไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน yes or no อยากรัก ก็รักเลย pantip

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

 

สปอยหนัง หากคุณอยากกลับไปนึกถึงคนแรกที่ทำให้คุณได้รู้จักคำว่า “รัก” อีกครั้งและเขาก็ยังคงเป็นรักแรกที่ติดตรึงอยู่ในหัวใจคุณตลอดเวลา มาวันนี้เรามีหนังที่จะพาคุณย้อนเวลาไปสู่ชีวิตวัยมัธยมซึ่งมีแต่ความสนุกสนาน มิตรภาพ เสียงหัวเราะ และน้ำตาอีกครั้งกับหนัง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” หนังไทยnetflix

ซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักกันดี ยิ่งใครอยู่มัธยมตอนที่หนังเรื่องนี้เพิ่งออกมาก็คงจะยิ่งติดใจจนดูซ้ำหลายรอบแน่นอน หนึ่งในนั้นก็คือเราค่ะ เพราะเรื่องนี้เลยทำให้เรารู้จักกับคำว่า “รักแรก” เหมือนกันเรื่องย่อของหนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก
หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “น้ำ”เด็กมัธยมหน้าตาขี้เหร่ถึงขั้นถูกเรียกว่า “ปลวก” เพราะไม่ค่อยสนใจดูแลตัวเองซึ่งน้ำได้ไปตกหลุมรัก “พี่โชน” รุ่นพี่ที่เป็นหนุ่มหล่อประจำโรงเรียน แต่เพราะมีคู่แข่งมากมาย
เธอจึงต้องลบคำสบประสามและทำให้เขาหันมาสนใจเธอให้ได้ ภารกิจแปลงโฉมจากปลวกน้อยให้กลายเป็นหงส์จึงเริ่มขึ้นท่ามกลางมิตรภาพของเพื่อนและความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟที่มีแววจะปั่นป่วนมากกว่าที่คิด ดูหนังออนไลน์

 

เนื้อเรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการตกหลุมรักรุ่นพี่ของน้ำ ซึ่งพี่โชนคนนี้ก็เป็นหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน แต่น้ำก็ไม่กล้าบอกกับพี่โชนไปตรง ๆ ว่าแอบรัก ก็ได้แต่ทำทุกวิถีทางให้พี่โชนสนใจในตัวเธอ สาวน้อยตัวดำ ๆ ก็ได้พวกเพื่อน ๆ ที่รู้มาโดยตลอดว่าแอบรักรุ่นพี่คนนี้มานานแล้ว ช่วยกันหลาย ๆ วิธีเพื่อที่ให้เพื่อนรักได้สมหวัง เริ่มจากการช่วยขัดสีฉวีวรรณเนื้อตัวให้ดูดีขึ้น สวยขึ้น แล้วไปสมัครเข้าชมรมการแสดง ไปเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ตั้งใจเรียน จนในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นสาวฮอตของโรงเรียน

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

จุดพีคมันอยู่ที่พี่โชนก็แอบหลงรักน้ำมานานแล้วเหมือนกัน แอบชอบตั้งแต่ตอนที่น้องน้ำยังมีหน้าตาขี้เหร่ และพี่โชนก็แอบตามถ่ายรูปเก็บและจดบันทึกไว้เป็นอัลบั้มเลย (แอบเขิน แอบมโนว่าตัวเองเป็นน้ำ) แต่สิ่งที่ทำให้พี่โชนกับน้ำไม่ได้เป็นแฟนกันสักที ก็เพราะว่าเพื่อนรักของพี่โชนที่ชื่อท็อปก็ดันตัดหน้าขอน้ำเป็นแฟนไปซะก่อน แถมทั้งสองก็เคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่เอาแฟนเก่าของเพื่อนมาเป็นแฟนของตัวเองเด็ดขาด (อิหยั่งว่ะ) จนวันที่น้ำตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกรักพี่โชนในวันที่พี่โชนจบการศึกษา ในวันนั้นเองที่ทำให้น้ำของเราต้องเศร้าใจอย่างหนัก เพราะพี่โชนได้ตกลงคบกันกับปิ่น ที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่นเอง แต่ลึกๆ แล้วเราก็ดูออกแหละ ว่าพี่โชนยังรักน้ำอยู่สิ่งเล็กๆ ดูหนังฟรี

 

ความน่าสนใจของหนัง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก มีความน่าสนใจตรงที่มีการถ่ายทอดให้เห็นถึงบุคลิกและชีวิตของตัวละครวัยมัธยมหลายตัวที่มีความเป็นธรรมชาติทำให้เรานึกถึงชีวิตของตัวเองในวัยมัธยมซึ่งมีโมเม้นต์หลายอย่างแบบนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแอบรักใครสักคน การคบหากับกลุ่มเพื่อนที่มีความเหมือนกันแม้จะไม่ใช่เพื่อนที่มีอะไรโดดเด่นแต่ก็ร่วมเป็นร่วมตายได้ตลอด

บทจะกรี๊ดรุ่นพี่ผู้ชายก็จะดี๊ด๊าเหมือนกันเป็นกลุ่มแบบสุมหัวเงียบ ๆ เพื่อนกันบางทีเราอยากทำอะไรก็มีอายเพราะกลัวโดนล้อ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้ช่วยเราเหมือนกับเพื่อนในกลุ่มที่ช่วยน้ำแปลงโฉมและใช้วิธีให้ของแทนใจแก่พี่โชนต่าง ๆ พยายามเข้าชมรมที่ทำให้มีคนสนใจซึ่งก็ได้เป็นชมรมละครเวทีที่น้ำในแสดงเป็นสโนไวท์

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

บอกเลยว่าฉากนี้เราฟินจิกหมอนตอนพี่โชนผู้น่ารักต้องมารับบทเจ้าชายจำเป็นและจูบลง สมองนี่คิดไปไกลก่อนนางเอกแล้วจ้า ตั้งแต่นั้นนางเอกก็เริ่มหน้าตาดีมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนซึ่งพี่โชนก็เริ่มจะเข้าหาเธอมากขึ้น แต่กับมีมารผจญคือเพื่อนพระเอกที่มาชอบนางเอกนี่ล่ะ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ดูได้ทางไหน

เราเสียน้ำตาให้กับฉากท้ายๆ หลายฉากมากไม่ว่าจะเป็นฉากที่นางเอกซึ่งห่างเหินจากเพื่อนๆ เพราะเอาแต่อยู่กับพวกพระเอกไปง้อจนกอดคอกันร้องเพลงวัน เดือน ปี และฉากที่นางเอกร้องไห้เปิดไดอารี่ซึ่งพระเอกเอามาให้ ในนั้นมีแต่รูปนางเอกทีเผลอที่พี่โชนแอบถ่ายไว้หลายรูปพร้อมข้อความบอกความในใจมากมายทำให้เราได้รู้ว่าพระเอกชอบนางเอกตั้งแต่ตอนหน้าปลวกแล้ว คือหน่วงมาก ณ จุดนี้ แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการค่ะ

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักทำให้เราได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพความรักของการเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างกันและกัน แม้ว่าเราจะทำตัวอย่างไรสายใยระหว่างเพื่อนก็ไม่สามารถตัดได้ขาด และในมุมมองของความรัก สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวตนจนบรรลุเป้าหมายให้อยู่ในสายตาเขามากแค่ไหน แต่เขาก็รักที่คุณเป็นตัวของคุณที่นิสัยด้วยนะ

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

หากอยากให้เขาอยู่ในสายตา วิธีที่สุดคือ เราอาจจะเข้าหาเขา คอยช่วยเหลือ ให้เขารู้จักเรามากขึ้นและเมื่อเริ่มสนิทแล้วจึงค่อยบอกความในใจไป แม้จะเร็วแต่ก็ดีกว่าเราบอกช้าจนถูกคนอื่นแซงหน้านะ
หนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งรับบทเป็น ” น้ำ ” กับ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ” พี่โชน ” ทั้งสองคนมีผลงานการแสดงก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วมากมาย แต่การรับบทบาทในหนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงและจดจำทั้งสองคนไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศจีนถึงขั้นคลั่งไคล้พี่โชนอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนิดที่ว่าต้องรู้จักพี่โชนกันแทบทุกคน และเมื่อปี 2562 ประเทศจีนก็ได้ทำภาพยนตร์ซึ่งมีเค้าโครงมาจากหนังเรื่องนี้โดยให้ชื่อว่า ” A Little Thing Called First Love ” มาริโอ้จึงกลายเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ ตราบจนทุกวันนี้ และใบเฟิร์นเองก็ยังแสดงได้น่ารักและสมบทบาทในภาพยนตร์อีกด้วย สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก จีน wetv

 

สรุปและให้คะแนน สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว หนังเรื่องนี้ฉายในปี 2553 ซึ่งถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ทุกครั้งที่ได้กลับมาดู ก็ยังสามารถทำให้หัวใจของเราพองโตได้เสมอ ไม่เพียงแค่สื่อถึงความรักใสใสในวัยเรียนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของความรักของเพื่อนแทรกเข้ามาให้รับรู้ และให้รู้สึกถึงความรักความผูกพัน ความหวังดีที่เพื่อนมีให้ต่อกัน ดูกี่ครั้งก็ยังแอบน้ำตาซึมได้กับฉากเดิม ๆ ตัวละครในเรื่องมีความลงตัวมาก ๆ ทั้งนักแสดงนำ พระเอก นางเอก ดูแล้วฟินตาม ส่วนตัวประกอบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพ้องเพื่อนของน้ำ ที่ดูบ้าน ๆ มีความน่ารัก ตลก ฮา ๆ แบบเป็นธรรมชาติ ซึ่งตั้งใจทำให้ต่างกับกลุ่มนักเรียนอีกกลุ่มที่มีแต่คนสวย ๆ เด่น ๆ ให้เห็นถึงความแตกต่างกันไปเลย กลุ่มตัวละครเสริมอีกกลุ่มก็คือเหล่าคณะครูอาจารย์ ที่ได้ตุ๊กกี้มาร่วมทีมสร้างความตลกให้ภาพยนตร์ได้มีเสียงหัวเราะอีกด้วย

เราให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 10/10 ไปเลย เพราะหนังสามารถย้อนกลับไปดูและยังทำให้เราอินกับตัวละครได้ไม่เบื่อ ทุกครั้งที่ดูก็ยิ่งทำให้เรานึกถึงตอนที่แอบชอบรุ่นพี่เมื่อครั้งที่เรายังเรียนอยู่มอต้น สปอยให้ฟังขนาดนี้แล้ว ใครที่ยังไม่เคยดูก็ควรไปหามาดูแก้เครียดนะคะ เผื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตอน 14 อีกครั้ง สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก ตอนที่ 1

 

 

บอกเลยว่าฉากนี้เราฟินจิกหมอนตอนพี่โชนผู้น่ารักต้องมารับบทเจ้าชายจำเป็นและจูบลง สมองนี่คิดไปไกลก่อนนางเอกแล้วจ้า ตั้งแต่นั้นนางเอกก็เริ่มหน้าตาดีมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนซึ่งพี่โชนก็เริ่มจะเข้าหาเธอมากขึ้น แต่กับมีมารผจญคือเพื่อนพระเอกที่มาชอบนางเอกนี่ล่ะ

เราเสียน้ำตาให้กับฉากท้าย ๆ หลายฉากมากไม่ว่าจะเป็นฉากที่นางเอกซึ่งห่างเหินจากเพื่อน ๆ เพราะเอาแต่อยู่กับพวกพระเอกไปง้อจนกอดคอกันร้องเพลงวัน เดือน ปี และฉากที่นางเอกร้องไห้เปิดไดอารี่ซึ่งพระเอกเอามาให้ ในนั้นมีแต่รูปนางเอกทีเผลอที่พี่โชนแอบถ่ายไว้หลายรูปพร้อมข้อความบอกความในใจมากมายทำให้เราได้รู้ว่าพระเอกชอบนางเอกตั้งแต่ตอนหน้าปลวกแล้ว คือหน่วงมาก ณ จุดนี้ แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการค่ะ
หนังเล่าเรื่องผ่านมุมมองของน้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) หญิงสาวหน้าปลวก (คำที่ใช้ในหนัง) เธอแอบชอบหนุ่มฮ็อตของโรงเรียนอย่างพี่โชน (มาริโอ เมาเร่อ) โดยตลอดทั้ง 3 ปีที่พี่โชนและน้ำเรียนอยู่ที่เดียวกัน เธอทำทุกอย่างเพื่อให้พี่โชนหันมาสนใจเธอ เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทั้งหน้าตาและการเรียน การยอมรับตำแหน่งสุดหินอย่างดรัมเมเยอร์ และทำอะไรหลายอย่างเพื่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัว และสุดท้าย เธอก็ได้บทเรียนเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อน ชีวิต ความรัก ครอบครัว และการไล่ตามความฝันของตัวเอง

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

ชมรมคนต่อต้านหนังฟีลกู้ดฟีลเลี่ยนทั้งหลายอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เพราะตัวหนังจริงๆ ทำได้ลงตัวและสนุกกว่าที่ผมเล่าให้ฟังในบรรทัดที่แล้วซะอีก การที่ผมซึ่งไม่ชอบหนังสไตล์ฟีลกู้ดแต่สนุกไปกับหนังเรื่องนี้นั้น ตอนแรกผมคิดว่า เป็นเพราะความ Pure และความสมจริงของหนัง แต่พอผมดูหนังเรื่องนี้รอบที่สอง ผมก็ได้ฉุกคิดว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้เพียวหรือสมจริงขนาดนั้น แต่หนังมันมีจุดเด่นตรงที่หนังสามารถกลบความ fantasy เอาไว้ได้อย่างพอเหมาะ จนคนดูหลับตาให้กับความ fantasy และความไม่สมจริงในหนังเรื่องนี้ได้อย่างสะดวกใจ หรืออีกนัยหนึ่งคือ หนังสามารถทรงตัวอยู่บนเส้นด้ายบางๆ ที่คั่นระหว่าง reality และ fantasy ได้อย่างน่าชื่นชม

หากพูดแบบหยาบๆ ก็คือ หนังเรื่อง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ก็คือ “ซินเดอเรลล่า” ที่ถูก ดัดแปลงให้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง ซึ่งถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คงต้องยกตัวอย่างหนังเรื่อง Ever After (1998, แอนดี้ เทนแนนท์) ซึ่งเป็นหนัง ”ซินเดอเรลล่า” ที่ลดโทนเทพนิยาย (นางฟ้า, แม่มดใจร้าย, รถฟักทอง) ลงไป เหลือแต่ฉากหลังในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวความคิดที่แฝงอยู่ใน Ever After ยังคงเป็น fantasy อยู่ดี ทั้งการที่นางเอกได้เลื่อนชนชั้นไปเป็นคู่รักของเจ้าชายได้อย่างรวดเร็วหรือ อุปสรรคในเรื่องถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย จนถึงแม้องค์ประกอบหนังจะถูกทำให้เป็น reality โคตรๆ ขนาดไหนก็ไม่ทำให้หนังดู real ขึ้นมาในภาพรวมได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับ Memories of Matsuko (2006, เท็ตซึยะ นาคาชิมะ) ซึ่งถึงแม้ภาพในหนังจะโอเว่อร์เหนือจริงขนาดไหน แต่ด้วยโทนเรื่องหลักก็ได้ทำให้ Memories of Matsuko กลายเป็นหนังสะท้อนชีวิตจริงได้อย่างน่าขนลุก!

 

 

หนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งรับบทเป็น ” น้ำ ” กับ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ” พี่โชน ” ทั้งสองคนมีผลงานการแสดงก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วมากมาย แต่การรับบทบาทในหนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงและจดจำทั้งสองคนไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศจีนถึงขั้นคลั่งไคล้พี่โชนอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนิดที่ว่าต้องรู้จักพี่โชนกันแทบทุกคน และเมื่อปี 2562 ประเทศจีนก็ได้ทำภาพยนตร์ซึ่งมีเค้าโครงมาจากหนังเรื่องนี้โดยให้ชื่อว่า ” A Little Thing Called First Love ” มาริโอ้จึงกลายเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ ตราบจนทุกวันนี้ และใบเฟิร์นเองก็ยังแสดงได้น่ารักและสมบทบาทในภาพยนตร์อีกด้วย สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักเต็มเรื่อง movie2free