Tag Archives: ดูหนังออนไลน์

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน (2023) รีวิวหนังไทยกลิ่นยุค Y2K

You & Me & Me ภาพปก

You & Me & Me เรื่องราวรักวุ่น ๆ ของวัยรุ่น Y2K

กลับมาในวันนี้เราอยากจะมา แนะนำหนังไทยมาใหม่ ภาพยนตร์อีกเรื่องที่มีกระแสดีมาก ๆ นั่นก็คือเรื่อง You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน (2023) ภาพยนตร์แนวโรแมนติกฟีลกู้ดในยุคมิลเลนเนียลของไทยที่เข้าฉายให้ชมกันแล้ว มีให้รับชมทาง Netflix ด้วย 

ใครที่เคยสงสัยว่า หนังฟีลกู๊ด ของสไตล์ค่าย GDH (หรือค่ายก่อนหน้านั้น) การรอคอยกำลังจะจบลง กับผลงานใหม่อย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่จะชวนคุณผู้ชมย้อนอดีตสู่ความทรงจำในวัยเด็ก และความรักครั้งแรกของวัยรุ่น

แต่ความแตกต่างของโปรเจกต์นี้ คือการใช้ตัวละครนำเป็นฝาแฝด และพาคุณผู้ชมเข้าสู่โลกของฝาแฝดที่มีรายละเอียดมากมายที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนผ่านสองผู้กำกับฝาแฝดหญิง วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ผู้ที่ทำงานเบื้องหลังของค่ายหนังนี้มาอย่างยาวนาน

กำกับการแสดงโดยผู้กำกับพันล้าน โต้ง บรรจง ก่อนจะได้รับโอกาสกำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องแรกพร้อมเครดิตการันตี

สำหรับใครที่พลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ เพื่อน ๆ ทุกคนสามารถร่วมย้อนยุคและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของปี 1999 ได้ที่ (เว็บหนัง) หรือจะลองแวะอ่านรีวิวของเราที่ด่านล่างนี้ได้เลยค่ะ

“You and Me & Me” (ยู แอนด์ มี แอนด์ มี) เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าสัญชาติไทย อำนวยการสร้างโดย GDH จะพาผู้ชมย้อนกลับไปในปี 1999 และสัมผัสบรรยากาศของแมลงยุคสหัสวรรษ ผู้เขียนบทและผู้กำกับ: แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์, แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์

สิ่งแรกที่ชื่นชมคือการแสดงของทุกคนในเรื่องที่เรียลมาก มีเพียงเล็กน้อยที่ทำให้นักแสดงรู้สึกแข็งกระด้างหรือไม่เข้าที่สำหรับบทบาทนี้ ส่วนนักแสดงหลักอย่าง “ใบปอ-ธิติยา จิรพรศิลป์” ที่รับบทแฝดยูมิได้อย่างยอดเยี่ยม 

หลายคนเข้าใจผิดว่าเธอมีฝาแฝดจริงๆ รวมถึงอีกหนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้ซึ่งต้องเป็นสแตนด์อินของยูมี

นอกจากนั้น การแสดงของนักแสดงที่เหลือในละครก็ดีมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของยูและมีมี่ ย่าของยูและมีหมาก (ครูสอนพิณ) หรือแม้แต่ลูกๆ ที่มาเรียนพิณจากครู โดยส่วนตัวชอบ ยู กับ มี้ เด็กสองคนที่เล่นพิณมาก เธอพบว่าผมหยิกน่ารักมาก

สามารถรับชม You and Me & Me เต็มเรื่อง ความชัดระดับ 4K ได้ที่ doonungvip.com

You & Me & Me ฉากวิวสวย

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน เรื่องย่อ

เธอกับฉันกับฉัน เรื่องย่อ หนังเล่าถึงเรื่องราวของฝาแฝดตัวน้อย ยู และ มี ที่ใช้ทุกอย่างในชีวิตร่วมกันตั้งแต่เกิด ทุกคนคือโลกของกันและกัน จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันชื่อ หมาก ได้เดินเข้ามาในชีวิตของพวกเขา

เขากลายเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา พวกเขาจะผ่านช่วงเวลาแห่งความสับสนนี้ไปได้หรือไม่? มาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

นางเอก

ข้อดีของหนังเรื่องนี้คือ mood and tone โดนใจวัยรุ่น ภาพสวย เรื่องราวย้อนไปในปี 1999 ปีแห่งสหัสวรรษใหม่ ปีนี้กับประเด็น Y2K ที่คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

จริงๆ แล้วเป็นประเด็นที่ผุดขึ้นมาหลายครั้งในวัฒนธรรมสมัยนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่เรื่องราวก็ดีพอๆ กับที่หนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และมันก็เข้ากับการกลับมาของแฟชั่นเก่าแก่นับพันปี

ดังนั้นจึงมีบรรยากาศที่หวนคิดถึงฝูงชน โดยมีไข่อีสเตอร์จำนวนมากเพื่อดึงดูดผู้คนเหล่านั้นให้เข้ามา จึงเป็นหนังฟีลกู้ดในแบบซิกเนเจอร์ของจีดีเอช

และที่เด็ดไม่พูดถึงไม่ได้คือเสน่ห์และแสงดาวของดาราหน้าใหม่ “น้องใบปอ” ที่เล่นแฝด “ยูแอนด์มี” เนียนมาก นึกว่าเป็นอีกคนจริง ๆ แถมน้องก็น่ารัก (เสียดายหน้าม้าก็แค่นั้น) แววดีมีอนาคต และอนาคตนั้น ใบเฟิร์น 2 ก็ได้ (แต่ไม่เอาดีกว่าเพราะเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด)

ส่วนน้องแอนโทนี่ก็น่ารักเป็นธรรมชาติ ถ้าคนจริงๆ เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรเหมือน “หมาก” ในเรื่อง อนาคตของหนุ่มสาวคงไม่ยากเย็นนัก

You & Me & Me ความสัมพันธ์ในครอบครัวแตกแยก

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้คือความสัมพันธ์ที่วุ่นวายระหว่างตระกูล Yu และตระกูล Mi และครอบครัวของไหม

การที่พ่อแม่ของไหมเลิกกัน ทำให้ไหมต้องออกจากโรงเรียนจากกรุงเทพฯ และย้ายไปอยู่ที่จังหวัดนครพนม ด้วยเหตุผลเดียวกัน ยูกับมี้จึงต้องไปบ้านคุณย่าที่นครพนมในช่วงปิดเทอม

ส่วนตัวชอบฉากที่ไมบอกไม่รักแล้วบอกเลิก ดีที่สุดคืออยู่กับความสัมพันธ์ เพราะในชีวิตจริงมีหลายครอบครัว พ่อแม่ก็คิดถึงลูกและหวังว่าครอบครัวจะได้อยู่ร่วมกัน แม้ว่าการเลิกกันอาจจะดีกว่าทะเลาะกับลูก

You & Me & Me พระเอก

เป็นอีกฉากหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจ  เพราะหลายคนที่มีพี่น้องต้องเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะลูกแฝดที่จะรู้สึกได้เวลาที่อีกฝ่ายรู้สึกแย่หรือมีเหตุการณ์อันตราย ราวกับมีลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อาจเป็นเพราะผู้กำกับหนังเรื่องนี้ คุณวรรณแววและคุณแวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ เป็นฝาแฝดกันด้วย แม้ว่าสิ่งนี้อาจไม่ใช่ความสามารถพิเศษที่แท้จริง แต่เป็นความผูกพันแบบพี่น้อง แต่ชอบซีรี่ย์นี้มาก

You & Me & Me เรื่องราวความสัมพันธ์แบบพี่น้อง

นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนพบว่าเป็นจริง นี่คือความสัมพันธ์ของฝาแฝดหรือพี่น้องที่มีอายุใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ฉันจำความได้ มีคนอีกคนเข้ามาในชีวิตฉัน อาจมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ

แต่พอนึกถึงวันที่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีเขา นึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง ข้อดีของการมีพี่น้องก็เหมือนมีเพื่อนซี้มาทั้งชีวิต ถึงจะมีจุดบกพร่องแต่ก็มีบางอย่างที่ต้องต่อสู้และต่อสู้เพื่อให้ได้มา 

เหตุการณ์ Y2K ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ทรงผม ดนตรี นิตยสาร โทรศัพท์บ้าน ทามากัส ฯลฯ รวมถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่บอกว่าโลกกำลังจะถึงกาลอวสาน

ในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เหตุการณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามาในปี 2000 มากกว่าเรื่องอื่นๆ เช่น ระบบคอมพิวเตอร์และเลขฐานสอง แต่จะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่ทำนายวันสิ้นโลกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมน้อยลง

คู่แฝด

สิ่งหนึ่งที่คิดว่าไม่เหมาะกับเรื่องนี้ น่าจะเป็นฉากเลิฟซีน ที่ดูจะไม่เข้าที่ในปี 2542 เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงไทยมักถูกปลูกฝังให้รู้จักรักตนเอง และยังไม่เปิดกว้างหรือเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกเหมือนในปัจจุบัน แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้

มีฉากหนึ่งยูเสนอตัวว่าอยากจูบกับหมาก มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกเล็กน้อยกับฉากนี้ ถึงจะรู้สึกว่าฉากนี้ยังไม่เหมาะกับยุคนี้แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นหนังรัก ต้องมีบางฉากที่รวดเร็ว

You & Me & Me เป็นหนังที่อบอุ่น เรียบง่าย ฟีลกู๊ด

บางคนอาจจะบอกว่าเป็นการเห็นแก่ตัวของ “มี” ที่จะบอกว่าวันนั้นไปสอบแทน “ยู” แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของมีนะ ตัวละครในเรื่องล้วนเป็นคนธรรมดา โลภ และหลงธรรมชาติ ทั้งคู่อิจฉาฝาแฝดของพวกเขา ทั้งคู่ต่างอิจฉาที่แฝดมีแฟน และเข้าใจว่า “ยู” อยากคบกับมาร์คทั้งสองขนาดไหน หรือความรู้สึกว่าแม่รักเราน้อยกว่าลูกคนอื่น ๆ ล้วนนำเสนอสถานการณ์ทางอารมณ์ที่แตกต่างกันไป

ทั้งหมดทำให้ซีนอารมณ์ต่างๆของตัวละครในหนัง เธอกับฉันกับฉัน ค่อนข้างที่จะมีมิติ ตัวละครมีความเป็นสีเทาๆ ไม่ได้ขาวหรือดำจนแบนเกินไป

You & Me & Me ฉากเศร้า

‘เธอกับฉันกับฉัน’ คือหนังที่ค่อยๆพาผู้ชมเข้าสู่โลกของฝาแฝด ที่ทั้งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

หลายอย่างอาจจะเป็นมุมอินไซด์ที่คนทั่วไปอาจไม่ได้รู้มาก่อน ทำให้เกิดพล็อตที่ทั้งสนุกสนานและยุ่งเหยิงได้มากมาย จากการที่เธอทั้งสองหน้าเหมือนกัน แทบจะเป็นคนๆเดียวกัน และในขณะเดียวกัน มันก็ถูกเล่าผ่านโครงเรื่องในลักษณะ รักแรก ผสมกับ รักสามเส้า ทำให้นอกจากมุมดีต่อใจแล้ว

ผู้ชมสามารถคาดเดาได้เลยว่า จะได้เจอมุมบีบหัวใจอย่างแน่นอน ทำให้หนังนอกจากจะน่าติดตามในปมเรื่องแฝดแล้ว ยังน่าจะทำให้ผู้ชมอินในประเด็นรักแรก หรือรักในวัยเรียนได้อีกด้วย

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน บทสรุป

แต่สุดท้ายแล้ว เธอกับฉันกับฉัน นี่คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องดูซ้ำ (หรืออาจไม่จำเป็นต้องไปดูในโรงเลยก็ได้ อย่างที่เราบอก) เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรใหม่หรือมีคุณค่าอะไรมากไปกว่าการนำความทรงจำในวัยเยาว์กลับคืนมา รักแรกของวัยรุ่น ปิดเทอม อารมณ์เสีย ฯลฯ

ในส่วนของความรักสามารถเดาใจความของเรื่องได้ตั้งแต่ 5 นาทีแรกว่าพระเอกรักใคร ความวุ่นวายที่ตามมาจะเป็นรูปแบบใด? (ไม่นับเทรลเลอร์ที่เล่าเกือบหมด) และความรักแบบเด็กๆ ก็มักจะโหยหา (เช่น เด็กงอแง จะทำมั้ย) เลยทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราไม่อยากช่วยเท่าไหร่

นักแสดงหญิงคู่แฝด

ปัญหาการหย่าร้างบางส่วนหรือการแยกครอบครัวได้รับการแก้ไขแล้ว การแยกทางน่าจะเป็นประเด็นหลักของหนัง เพราะหนังซ่อนอะไรไว้เยอะ ทั้งฉากฮาๆ แบ่งเป็นซาลาเปา แบ่งฉากกินไอศกรีมยักษ์คู่กัน เป็นต้น

จะเห็นว่าขยี้ได้ถ้าตั้งใจจะขยี้แต่หนังไม่ขยี้ ก็ไปไม่สุด เพราะหนังเน้นความรัก ของสองพี่น้องฝาแฝดสุดมหัศจรรย์ ตอน รักสามเส้า (ถึงน้องใบปอกับน้องแอนนี่จะฮาก็เถอะ)

ความรู้สึกหลังรับชม You & Me & Me

เนื่องจากผู้กำกับเป็นแฝดเอง แวว-แวววรรณ จึงถ่ายทอดเรื่องราวของแฝดหญิงได้อย่างละมุนละไมและอบอุ่น อีกทั้งงานภาพที่วิจิตรงดงามโดยใช้นักแสดงคนเดียวด้วยเทคนิคที่หลากหลาย

นอกจากนี้ ยังพยายามทำให้ตัวละครของ You และ Me โดดเด่นในใจผู้ชม มีทั้งรูปลักษณ์ ปาน ทรงผม สีเสื้อผ้า แม้กระทั่งนิสัยใจคอ อย่างหลังเป็นของ น้องใบปอ ที่เล่น 2 บทบาท แม้ว่านี่จะเป็นเพียงหนังเรื่องแรกแต่ออร่าของเธอก็ชัดเจนมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไปได้ไกลในอาชีพการแสดงของเธอ

You & Me & Me ฉากจบ

สรุปแล้วหนังเรื่อง เธอกับฉันกับฉัน เป็นภาพยนตร์ที่สะเทือนอารมณ์ อบอุ่นใจ ซาบซึ้ง และดราม่า และทำให้คุณรู้สึกดีกับความสัมพันธ์ของฉันกับฝาแฝด ของยูกับมี

แม้ว่าบางคนที่ผ่านมันมาจะเดาได้ก็ตาม ถือเป็นหนังโรแมนติกฟีลกู๊ดที่ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องมีบทวิเคราะห์หรือทฤษฎีมากมายมาให้ปวดหัว สามารถดูได้เพลินๆ

พล็อตเรื่องเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่น้องและครอบครัว แม้ว่าตัวโลเคชั่นจะเป็นต่างจังหวัดซะเยอะ และเต็มไปด้วยสิ่งที่หนังนำเสนอ เป็นหนังที่ทุกคนที่เกิดก่อนปี 1990 สามารถหวนนึกถึงยุค Y2K ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับผู้เขียนหรือ ใครชอบหนังแนวย้อนยุคหรืออยากย้อนเวลาสัมผัสบรรยากาศยุคนั้นก็ไม่ควรที่จะพลาดรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้

ถ้าอ่านจบแล้วยังอารมณ์ค้าง เราขอแนะนำรีวิวหนังเรื่อง ทิดน้อย ผลงานเรื่องสนุกของ เท่ง เถิดเทิง เชิญไปอ่านรีวิวกันก่อนได้เลยค่ะ

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ หนังอาร์ต Netflix ได้พี่หม่ำมาร่วมแจมด้วย

เมอเด้อเหรอ ภาพปก

รีวิวหนัง เมอเด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ หนังไทยแนวสืบสวน

เมอร์เด้อเหรอ ฉากเลิฟซีน

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นสมาชิกของแอพสตรีมมิ่งอับดับหนึ่ง Netflix ก็คงจะได้สัมผัสประสบการณ์การดูหนังไทยเรื่องใหม่ที่มีชื่อเรื่องว่า The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ   

อ่านรีวิวจบแล้วเชิญทุกท่านรับชม เมอร์เด้อเหรอ หนังไทยNETFLIX แบบเต็มเรื่องได้ที่ doonungvip.com

ซึ่งทุกๆ คน อาจจะกังวลว่ามันเป็นภาพยนตร์อาชญากรรมอย่างแท้จริงหรือไม่  และบางคนก็อาจยังไม่ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ หรือยังไม่มั่นใจว่าควรดูหรือไม่ ในวันนี้เราจะมาเสนอรีวิวเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ให้คุณฟังกันค่ะ 

The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ จาก Netflix เป็นหนังไทยที่มีความจริง และความเข้มข้นในตัวเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้กำกับ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นผู้ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์สักเท่าไหร่

ตัวเขาเองจึงตัดสินใจทำลงสตรีมมิ่ง ด้วยการเขียนบทหนังอย่างเรื่อง DEEP แต่ผลงานเรื่องนี้ออกมาแย่มาก 

จากนั้นเขาได้ทำ The Whole Truth ซึ่งดีขึ้นเล็กน้อย ต่อมาเขาตัดสินใจทำหนังแนวตลกไทย 

และคิดว่าอาจจะดีกว่าถ้าทำหนังลงโรงภาพยนตร์เพื่อเก็บเงินค่าตั๋ว แต่เขากลับพบว่ายากกว่าที่จะได้ผ่านนายทุนได้ เพราะไอเดียคอนเซ็ปต์หลายๆ อย่างที่มีความแปลกเกินไปจริงๆ

โดยเนื้อหาเรื่องนี้ มีความน่าดู เหมือนตัวอย่างในวีดีโออย่างแรกตั้งแต่ต้น ด้วยไอเดียที่สร้างความสนุกสนาน และน่าสนใจในแบบ ของแนวคาแรคเตอร์อีสานไทย

ซึ่งไม่เคยมีภาพยนตร์ ที่ไหนปรากฏมาก่อน ใครก็ตามที่ดูในช่วงแรกย่อมต้องมีความสนุกขี้นอย่างแทบจะทุกคน ที่เรื่องหยิบเรื่องเหล่านี้มารับชม

สิ่งเหล่านี้เช่น รอยสักไทย หรือมวยไทยตามแบบผู้ที่ชื่นชอบมวยไทย อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความเป็ยไทย เรื่องเงินหรือทองเท่าไหร่ก็ตามว่า งานฝีมือดีจนเป็นที่สุด

และคนไทยที่ดู ก็ต้องรู้ทั้งหมดเพราะไอเดียเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่เราเห็นตลอดเวลา แต่หนังเรื่องนี้ใช้ไอเดียเหล่านั้น ทำให้เกิดเรื่องราวที่น่าประทับใจ และตื่นเต้นกับสิ่งที่เป็นที่จับตามองดูได้อย่างชัดเจน

เรื่องย่อ เมอเด้อเหรอ

เมอร์เด้อเหรอ เรื่องย่อ หนังเริ่มต้นด้วยการฆาตกรรม 7 ศพในคืนเดียว ที่เกิดขึ้นในฉากเดียวกัน 

แต่วิธีการเล่าเรื่องใช้การสืบสวนของสารวัตร หม่ำ จ๊กมก ซึ่งมีอคติเสี่ยงเข่าฝรั่งแต่งงานกับคนอีสานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 

วิธีการเล่าเรื่องนี้ทำให้เรื่องมีความเร็ว และน่าติดตามมากโดยใช้ขั้นตอนในการสืบสวนพยานแต่ละคน หลักฐาน และเอกสารพัดที่พบมาเป็นตัวฉาก 

และไม่เล่าเรื่องตามลำดับ ย้อนกลับไปกลับมาในการสอบสวน โดยทุกคนจะมีซีนที่เป็นของตัวเอง

เมอร์เด้อเหรอ นักแสดง สุนารี

บางครั้งอาจตัดฉาก ที่เล่าเรื่องให้เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์สมมุติ แต่สุดท้ายผู้ชมจะต้องประเมินหาว่าสิ่งใดเป็นเรื่องจริงว่าจะเชื่อหรือไม่

ซึ่งนี่คือแนวทางในการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ของหนังไทยมันไม่ใหม่สำหรับคนที่ชอบดูหนังสืบสวนแฟนตาซีแปลกๆแบบนี้ 

แต่ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะใช้รูปแบบนี้ซ้ำ แต่เนื่องจากเป็นหนังไทยที่พูดอีสานเป็นหลัก ฝรั่งเป็นรอง และภาษากลางก็มีบ้าง พร้อมกับเหตุการณ์วุ่นวายแบบอีสานบ้านนา บวกฆาตกรรม 7 ศพ ทำให้เรื่องราวที่เล่ามาดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

การดำเนินเรื่อง เมอร์เด้อเหรอ

และในหนังเรื่องนี้ ก็มีความสนุกสนใจตั้งแต่ต้นเรื่องด้วยไอเดียตลกในอีสานไทยที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะมีหนังไทยตลกพื้นบ้านฉายออกมาก่อนแล้ว

เมื่อดูช่วงแรกนั้นทำให้เราหัวเราะไปทุกครั้งที่มีสิ่งตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏขึ้น อย่างเช่น สักลายมวยไทยติด และชอบมวยไทย 

การสักตัวของคนไทยต่ออาหาร ที่อร่อยและคล้ายคลึงกัน หรือแม้แต่คำพูดและพฤติกรรมของฝรั่งเกี่ยวกับเรื่องเงินและทอง ฉะนั้นคนที่ได้ดูเรื่องนี้จะต้องรู้สึกความสนุกตามมุกทุกตัวที่มีในเรื่องเนื่องจาก ไอเดียด้านบนเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในสังคมทั่วไป แต่ในกรณีนี้นำมาใช้เพื่อเล่าเรื่องให้น่าสะดุดตามได้อย่างเต็มที่

โดยที่หนังเรื่องนี้เล่าถึงการวางพล็อตเรื่อง เป็นเหตุที่ทำให้ ผกก.วิศิษฏ์ ตัดสินใจนำเสนอด้านภาพที่เขาถนัด

เมอร์เด้อเหรอ หม่ำ จ๊กม๊ก นักแสดงนำชาย

ในหนังมีการเล่นสีสันสไตล์จัดจ้าน โดยใช้สีขั้วเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม โดยผลงานนี้มีความดำเนินเนื้อเรื่องคล้ายกับหนังเรื่อง ฟ้าทะลายโจร

แต่ดูโบราณมากกว่าหนังเรื่อง “หมานคร” แน่นอนว่าผลงานเหล่านี้เป็นผลงานชั้นนำระดับโลกของผู้กำกับ วิศิษฏ์ทั้งหมด 

และเมื่อมีนักแสดงหน้าตลกยอดเยี่ยมของไทยอย่าง พี่หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ร่วมงานเข้ามา 

ก็ทำให้เกิดความสัมพันธ์กับผลงานการกำกับของหม่ำที่มีสีสันอีสานโดดเด่นเช่น “แหยม ยโสธร” 

โดยผู้ชมจะรับรู้ได้ว่าหนังนี้ต้องมีความขบขัน แต่เมื่อรับชมแล้วจะพบว่าหนังยังคงเล่าเรื่องอย่างจริงจังในครึ่งแรก ทำให้ผู้ชมอยากรู้คำตอบว่าเนื้อเรื่องจะไปในทิศทางไหน 

ดังนั้นเมื่อเรื่องมีความซับซ้อน ผกก.วิศิษฏ์ จึงพยายามใช้การเรียบเรียงที่ไม่ทำให้สับสนมากเกินไป หมายความว่า 

ตัวเรื่องอาจจะมีการเล่าเนื้อหาโดยการเปลี่ยนแปลงคำศัพท์และผลัดกัน แต่เนื้อหาจะยังคงเดินไปตามลำดับของเหตุการณ์

จนกระทั่งมีการทวนเหตุการณ์อีกครั้งในส่วนสุดท้ายของเรื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องที่กล่าวถึงถือเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนที่น่าสนใจ แต่ไม่ยากเกินไป โดยยังสามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ความรู้สึกหลังรับชม เมอร์เด้อเหรอ

ส่วนตัวเราที่ได้รับชมหนังเรื่องนี้แล้วนั้น คิดว่าภาพรวมของเหล่าดาราในเรื่องนี้เล่นได้ดีกว่าทุกเรื่องที่ดูมาใน Netflix

โดยเฉพาะเรื่องของ เจมส์ ลีฟเวอร์ ที่ไม่มีความจำ แต่เครดิตบอกว่าเขาเคยเล่นใน Netflix และเล่นในหลายเรื่องของโลก ในเรื่องนี้เขากลายเป็นเขยอีสานที่อยากช่วยเพื่อนแฟนและพ่อแม่ แต่เขาไม่รวยและมีความคิดอคติตลอดเรื่อง 

ในบทของเขา ที่แสดงเป็นตำรวจที่อคติได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ชมจะได้เกิดความสนุกกับรอยแผลที่อยู่ตรงปากทุกครั้งที่หนังฉาย

เมอร์เด้อเหรอ หม่ำ ฉากสอบสวน

แต่บทของเขาไม่ชัดเจนมากนัก (เพราะว่าเรื่องราวมีลักษณะคนย้อนอดีตหลายตัวละคร) แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือนางเอกที่แสดงโดยอิษยา ฮอสุวรรณ (เกรซจากหนังฉลาด เกม โกง) ที่สวยน่ารักทุกฉาก 

และบทที่เล่นเข้ากับรูปร่างและหน้าตาของเธอ ซึ่งเธอคือตัวดึงให้ผู้ชมติดตามเรื่องที่ดีกว่าเขยอีสานตัวเอกซึ่งเป็นคนร่างกายเธออย่างเดียว

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

ก่อนอื่นผู้เราต้องขอชื่นชมทีมแคสนักแสดงของภาพยนตร์ ที่สามารถแสดงบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยมเลยค่ะ 

โดยเฉพาะนักแสดงหลักที่ เล่นเป็นตัวละครเด็กที่สดใสออกมาได้ดีมากๆ โดยมีการเล่นบทที่น้องต้องเล่นคู่กับนักแสดงหลักที่เรียกว่าพี่หม่ำซึ่งทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ 

เพราะยิ่งพี่หม่ำสอบสวนน้องแสดง นั้นเราจะรู้สึกว่าทั้งคู่มีความลึกซึ้งอยู่ในใจ งานแสดงของทั้งคู่เป็นอย่างดีที่ไม่ค่อยพบในภาพยนตร์ไทยบ่อย ๆ

จุดเด่นภาพยนตร์ เมอร์เด้อเหรอ น่าสนใจมากๆ เพราะเรื่องราวของหนังดึงดูดใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคมความทุกอย่างให้จบแบบที่ไม่มีคำถามค้างอยู่ ซึ่งเป็นลายเซ็นของผู้กำกับอยู่แล้ว 

และสำคัญที่สุดคือความเรียบง่าย ในการเรียบเรียงและเล่าเรื่องของหนังนี้ที่ถูกคิดโดยดีแล้ว ซึ่งหลังจากดูเราจะไม่เจองานระดับนี้ในภาพยนตร์ไทยเท่าไหร่นัก

เมอร์เด้อเหรอ ฉากตลก หนังไทย

หากพูดถึงความละเอียด ของทีมผู้สร้างหนังที่ดีมาก ๆ ตั้งแต่คอสตูม ชุดของจูน และการเสียดสีเกี่ยวกับเมียฝรั่ง ผู้หญิงที่ทำงานที่บาร์ เราคิกว่าหนังเรื่องนี้ไม่พูดถึง มากจนเกินไปค่ะ

ส่วนทางด้าน จุดด้อยเกี่ยวกับหนัง ซึ่งเริ่มต้นด้วยเรื่องตลกแต่ที่สิ้นสุดเป็นเรื่องสืบสวนฆาตกรรม มีประเด็นที่ทำให้ผู้ชมสงสัยว่าฆาตกรคือใครและศพตายได้อย่างไร ส่วนนี้เป็นเรื่องสำคัญมากในการสื่อสารหนัง

แต่กลับไม่มีการเฉลยที่น่าตื่นเต้นตามมา การเล่าเรื่องยาวและเปิดเผยทั้งหมดฉบับเต็ม ทำให้ผู้ชมประทับใจอย่างมาก 

ซึ่งเป็นคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน ซึ่งภาพรวมของหนัง มีคนหลายคนที่ไม่ชอบการพลิกสุดขั้วแบบนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังทำให้เรื่องดู ไม่สมเหตุผลมากขึ้น เหมือนหนังอินเดียที่พลิกตอนจบโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนทั้งหมด

รีวิวหนัง The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ภาพยนตร์เว้าอีสานเรื่องแรกจาก Netflix

สำหรับหนังเรื่องนี้ น่าจะถูกชื่นชมเพราะได้กระตุ้นความรู้สึกของผู้ชม ให้สนุกสนานอย่างมากภายในแนวหนัง นอกจากนี้ยังมีการเล่นแบบดราม่าที่น่าเชื่อถือจากนักแสดงอุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ ในบทของทราย พยานที่เป็นเมียฝรั่ง เอี้ยง สวนีย์ อุทุมมา 

ในบทของพยานคนที่ 2 เป็นแม่ของทรายที่มาแบบไม่เด่นมาก แต่สามารถประคองทุกคนให้เข้าร่องได้อย่างดี และชนันทิชา ชัยภา ในบทของจูน ตัวหลักในเรื่องราว

พยานเด็กคนสุดท้ายที่เล่นหน้าเล่นตาได้น่ารักน่าชัง นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสายละครเวทีเช่นเจมส์ เลเวอร์ ในบทของเอิร์ล เป็นเขยฝรั่งสามีของทรายและผู้ต้องสงสัยหลักที่ทำให้เรารู้สึกสับสนว่าเขาน่าสงสารหรือน่ากลัวกันแน่

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกร

หนังเรื่องนี้ใช้ตัวละครหม่ำ เป็นตัวแทนในการค้นหาความจริงแทนผู้ชม ผู้ชมรู้สึกงุนงงและได้เข้าใจอารมณ์ของหม่ำได้ง่าย 

เพราะมีการเข้าถึงง่ายและความสนใจคุ้นเคยกับตัวละครหม่ำ เราสามารถเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้ใช้กลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นผู้ชมในหลายวิธี

จุดที่สามารถพูดคำวิจารณ์เกี่ยวกับหนังได้ที่ไม่ใช่เรื่องหลักของเรื่องราวที่มุก นอกจากนี้ยังมีคำวิจารณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพในกราฟฟิกแสดงอารมณ์ของภาพ เช่น 

การเล่นสีที่ไม่เนียนตาในบางฉาก ชาววิจารณ์ยากที่จะกล่าวว่ามันเป็นความจงใจที่จะทำให้ดูดิบเหมือนหนังโบราณหรือไม่ แต่ถ้าทำให้เนียบเป็นไปตามสมัยก็น่าจะดี

สรุปโดยรวม

โดยสรุปแล้วหนัง ฆาตกรรมอิหยังวะ  ก็คือหนังไทยที่สร้างโดยผู้กำกับให้ฉายกับ Original Netflix คือคุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นหนังที่ดีกว่าเรื่องก่อนอย่างมาก 

แต่ยังมีปัญหาเดิมๆ เกี่ยวกับเรื่องบทที่แปลกๆ ซึ่งไม่ลงตัวจนทำให้ไม่สามารถพูดถึงว่าเป็นหนังที่ดีได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีความสนุกในการเล่าเรื่องที่มีความแปลกๆ

เมอเด้อเหรอ หม่ำ จ๊กม๊ก ตำรวจสอบสวนคดี

และไอเดียจิกกัดของ คนอีสานที่ยังค่อนข้างจะต้อง ยิ้มได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นขอแนะนำให้คนดูได้ แต่ก็อย่าคาดหวังมากเกินไปก็พอค่ะ เพราะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ หนังสไตล์แบบนี้

ทีมงานกระซิบมาว่า เห็นหนังสีสดๆแบบนี้แล้วกลับทำให้นึกถึง หนังผีโมโนโทน The Medium ร่างทรง ถึงแม้สีสันของฟิล์มหนังจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ความน่ากลัวระดับ 10 กระโหลก ยังทำให้ใครหลายคนบอกว่า จนถึงวันนี้ยังไม่กล้าเข้านอนคนเดียว

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

รีวิวหนังไทยย้อนยุค  จะมา รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางการเมือง 2549 ที่ พลอย และลูกของเธอ เขากำลังใช้ช่วงเวลาเป็นคืนสุดท้ายกับ ปาล สามีซึ่งเป็นนักการเมือง ก่อนที่เขาจะเดินทางลี้ภัยตามคำสั่งคณะรัฐประหารไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา ติดตามรับชมกันได้เลย ที่ เว็บดูหนังเถื่อน

เนื้อเรื่องของหนัง

เหตุการณ์เรื่องราวของภาพยนตร์ พญาโศกพิโยคค่ำ  เป็นการเอารูปจากปี  2516 ตอนที่ พลอย อายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น กำลังป่วยเข้าขั้นโคม่า ปราสาท ผู้เป็นพ่อหายตัวไปอย่างไร้วี่แวว ส่วน ไพลิน แม่ของเธอที่เพิ่งฟื้นตัวจากการรักษาอาการป่วยทางจิต กลับมาพบกับหมอประจำตระกูลอีกครั้ง เกิดเป็นรักในความลับที่ชวนเสน่หา

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

เมื่อสุริยุปราคาได้เข้ามาบดบังจนทุกสิ่งอย่างมันมืดดำ เรื่องราวบางอย่างก็เปลี่ยนแปลง เงาสุริยุปราคานั้นได้กลืนกินหมอให้หายไป และคายปราสาทที่หายตัวไปให้กลับมา บาดแผลจากอดีต ก่อตัวขึ้นเป็นความมืดมิดภายในใจ ห้วงเวลาที่สุริยุปราคาพาทุกอย่างให้หยุดนิ่งไป ชะตากรรมและอนาคตของครอบครัวนี้ ถูกครอบงำไว้ด้วยความรุนแรงและความหวาดกลัว ไม่มีใครรู้ว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงเมื่อใด

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ THEEDGE OF DAYBREAK หนังดี

ปี 2564 น่าจะเป็นปีที่ ไทยดูห่างหายไปเยอะเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในสายการประกวดนานาชาติแล้วหนังไทยก็ยังคงไม่ได้ห่างหายไปตามจำนวนการสร้างที่ลดลง และ ‘พญาโศกพิโยคค่ำ (The Edge of Daybreak)’ ของ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์

พญาโศกพิโยคค่ำ HDมาสเตอร์  เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ไปคว้ารางวัล FIPRESCI Prize จากเวที International Film Festival Rotterdam 2021 (IFFR) จากประเทศเนเธอร์แลนด์มาได้สำเร็จ ในสายประกวด Tiger Awards Competition

หนังเรื่องนี้ได้ทำมาเลียนแบบ หนังเรื่อง ‘Wonderful Town เมืองเหงาซ่อนรัก’ (2550) ‘Mundane History เจ้านกกระจอก’ (2552) ‘Eternity ที่รัก’ (2554) และ ‘Vanishing Point’ (2558) ซึ่งเราคงเห็นได้ว่านี่คือตระกูลหนังที่ไม่ได้เน้นเรื่องของการขายวงกว้าง แต่เป็นหนังที่เน้นการถ่ายทอดตัวตนของผู้สร้างและบูชาความเป็นศิลปะในภาพยนตร์เสียมากกว่า

THEEDGE OF DAYBREAK หนังเอเชีย

อย่างเช่นเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ นั้น เล่าถึงการเมืองเรื่องภายนอกบ้าน ที่กัดกินจิตใจของหญิงสาว 3 รุ่นในครอบครัวนี้ บ้านเมืองที่เขาบอกว่ามันเป็นประชาธิปไตย แต่หลายครั้งหลายหนมันกลับอยู่ในคราบของเผด็จการ ทั้งยังถูกฝังกลบไม่ให้คนไทยส่วนใหญ่ได้จดจำ บ้านนี้เมืองนี้กลายเป็นเศษซากที่เน่าเปื่อยผุพัง รอวันชำระล้าง

เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่สุดยอดมากเพราะได้ไปโชว์บนเวทีโลกเมื่อช่วงต้นปีนี้ก็คือ “The Edge of Daybreak” ต้องเรียกว่าเป็นหนังนอกกระแสที่ชือไทยๆ คือ “พญาโศกพิโยคค่ำ” ผลงานของผู้กำกับ “ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์” ที่ได้ไปเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัม 2021 ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่จัดขึ้นครบรอบ 50 ปีในปีนี้ โดยหนังเรื่องนี้ได้รับโอกาสไปเปิดตัวฉายเป็นรอบปฐมทัศน์โลก และยังมีชื่อติดเข้าประกวดในสาย Tiger Competition เพื่อลุ้น “ไทเกอร์ อวอร์ดส์” และล่าสุดผลรางวัลก็ได้ประกาศออกมาแล้ว

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

The Edge of Daybreak Pantip  เป็นผลงานยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับรางวัล FIPRESCI Award จากเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัม 2021 โดยรางวัลดังกล่าวเป็นเสียงโหวตและคะแนนความนิยมจากสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากทั่วโลก นั่นเท่ากับว่าบรรดาตัวแทนนักวิจารณ์จากที่ต่างๆ รู้สึกประทับใจและชื่นชมในผลงานหนังไทยเรื่องนี้ และได้เทใจเทคะแนนให้ ก่อนมอบรางวัลนี้ให้ เพื่อการสนับสนุนผลงานในฐานะหนังคุณภาพที่ควรค่าแก่นำไปพัฒนาต่อ

เรื่องราวปัญหาภายในสังคมและครอบครัว

โดยรวมๆแล้วในงานเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัมที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นการจัดงานณูปแบบออนไลน์ทั้งหมด และในงานประกาศผลรางวัลก็จัดขึ้นในรูปแบบสตรีมมิ่งเช่นเดียวกัน โดยรางวัลใหญ่ ไทเกอร์ อวอร์ดส์ ปีนี้ตกเป็นของ “Pebbles” หนังดราม่าเรื่องเล็กๆ จากทีมผู้สร้างหนังชาวอินเดีย ขณะที่ “The Dog Who Wouldn’t Be Quiet” หนังจากประเทศชิลี คว้ารางวัลใหญ่ในหมวด Big Screen Competition

ทั้งนี้ เรื่องย่อ พญาโศกพิโยคค่ำ นับว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกเลยที่ได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีระดับโลก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีหนังไทยนอกกระแสหลายๆ เรื่องคว้ารางวัลมาครองได้สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น “Vanishing Point” ของผู้กำกับ “เก่ง จักรวาล” หรือ “Wonderful Town” ของ “อาทิตย์ อัสสรัตน์”

พญาโศกพิโยคค่ำ เป็นหนังที่ดีมากเกี่ยวกับ ปัญหาของครอบครัวที่ประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากการประท้วงในอดีต และเหตุการณืได้ต่อเนื่องมาจนถึงเหตุรัฐประหารปี 2006 ที่กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ทุกคนล้วนแต่มีจิตใจที่บอบช้ำจากการเจริญเติบโตกับเหตุการณ์ต่างๆ นำแสดงโดย “โดนัท มนัสนันท์”, “ชลัฏ ณ สงขลา” และ “สุนิดา รัตนากร” ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดเข้าฉายเมืองไทยแต่อย่างใด

แนะนำให้ลองรับชมดูนะครับเผื่อจะชอบ

ได้เห็นจากข่าวแล้วเราจะรู้ได้ว่า The Edge of Daybreak ดูฟรี หรือ พญาโศกพิโยคค่ำ เป็นหนังอีกเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนดูและได้รับความนิยมจากคนดูในเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัมประจำปีนี้ แต่น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ ไทเกอร์ อวอร์ดส์ กลับมาเชยชมที่เมืองไทยได้ แต่อย่างน้อยหนังก็ยังได้อีกหนึ่งรางวัลติดมือกลับบ้านได้อยู่

หนังได้ทำการเล่าเรื่อง สลับกันไปมา น่าสนใจมากๆ แต่มีสิ่งที่ไม่เหมือนหนังเรื่องอื่นคือ งานภาพที่เปลี่ยนเป็นสีขาวดำทั้งหมด ทำให้แม้แต่เลือดก็มองเห็นเป็นเพียงน้ำสีดำ แต่เพราะดนตรีประกอบนี่แหละที่ส่งเสริมให้ภาพต่าง ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้นไปอีก

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ เป็นหนังที่ไม่มีสีเลยสักนิด นัยยะของมันคือหนังงานศพดี ๆ นี่เอง ให้อารมณ์เหมือนจะไว้อาลัยให้กับการจากไปของบางสิ่ง เมื่อรวมกับดนตรีประกอบที่ใช้เครื่องดนตรีสองสามอย่างเล่นไม่เชิงเป็นทำนอง แต่ระคายหูสั่นเครือ เจือความเศร้าและปวดร้าวอยู่ข้างใน

นี่คือหนัง The Edge of Daybreak เต็มเรื่อง  ที่มีความยาวๆมากเรื่องแรกของผู้กำกับคนนี้  เขาได้สร้างหนังออกมาแนวศิลปะในแกลเลอรี่ ภาพทุกช็อต รวมเข้ากับดนตรีประกอบ สามารถวางตัวเป็นงานศิลป์ในแกลเลอรี่ได้ทั้งหมด เป็นส่วนที่ต้องใช้ความคิดในการตีความ ซึ่งก็ต้องอาศัยทั้งเวลาและประสบการณ์ของผู้ชม

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ตัวละครทุกคนในเรื่องนี้ แสดงได้ดีมากๆเลยทีเดียว แต่ที่โดดเด่นสุดก็เป็นโดนัทที่แสดงทั้งสีหน้า แววตา ของคนที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ ของคนที่เฝ้ารอคอยสามีมาตลอด ของคนที่เหงา ว่างเปล่า และรู้สึกผิด เธอทำได้ดีอย่างน่าทึ่งในฉากที่ต้องพูดไดอะล็อกยาว ๆ

จะเรียกว่า The Edge of Daybreak รีวิว บางคนคิดว่าเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะดูยาก ผมคิดว่าอยู่ที่คนชอบนะ  เพราะว่าหลายๆฉากที่ชวนสงสัยว่า เขากำลังสื่อสารอะไร บางช่วงอาจพางุนงงในทีแรก ก่อนที่เรื่องราวจะถูกบอกเล่าจนเค้าลางบางอย่างมันชัดเจนขึ้น แต่ก็คงไม่แปลก ถ้าดูในครั้งแรกแล้วพบความไม่เข้าใจในหลายจุด จนอาจจะต้องใช้การพูดคุยสนทนาหาข้อมูล แล้วกลับไปดูซ้ำใหม่ซึ่งก็ย่อมจะเข้าใจได้มากขึ้น

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

สิ่งที่ชอบและชื่นชมก็คือ งานองค์ประกอบภาพที่ผสานกับงานดนตรีประกอบ ต่างส่งเสริมกันให้  ออกมาดูทรงพลัง แม้จะยังตีความได้ไม่ครบนัก เป็นงานหนังที่มีความเป็นศิลปะอยู่สูง แต่ก็เป็นกลิ่นใหม่ ๆ ที่นายแพทได้พาตัวเองเข้าไปพบ และก็หวังว่าใครหลายคนที่ได้อ่านบทรีวิวนี้จะได้ลองเปิดใจพาตัวเองเข้าไปพบเจอบ้าง สนใจติดตามรับชมหนังเรื่องอื่น ได้ที่ บอดี้ ศพ19

ชื่อภาพยนตร์ พญาโศกพิโยคค่ำ / The Edge of Daybreak
ผู้กำกับ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์/Taiki Sakpisit
ผู้เขียนบท ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์/Taiki Sakpisit
นักแสดง มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, ชลัฏ ณ สงขลา, สุนิดา รัตนากร, ชมัยภร แสงกระจ่าง
แนว/ประเภท Drama, History
เรท
ความยาว 114 นาที
ปี 2021
เข้าฉายในไทย 16 ธันวาคม 2021
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย 185 Films, Common Move, White Light, FahFuenFactory, SAC Gallery, Purin Pictures
The Edge of Daybreak

รีวิว ผ้าผีบอก Ghost cloth หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

หากใครนอนอยู่บ้านเหงาๆ อยากหาหนังไทย สนุกๆดูซักเรื่อง วันนี้มีหนังมาแนะนำ เว็บดูหนังเถื่อน เป็นหนังแนว สยองปนฮา ของ 5 สาว BNK48, หยิ่น อานันท์, วอร์ วนรัตน์ และ บอส สหรัฐ  มาในเรื่อง  รีวิว ผ้าผีบอก Ghost cloth เริ่มต้นที่ชวนให้คิดว่าน่าจะออกมาเป็นหนังผี ยิ่งตัวอย่างหนังก็ยิ่งบอกชัดว่า นี่ท่าจะมาทางสายหนังฮาแต่ว่ามีผีเป็นส่วนประกอบ

เมื่อไปดูจริงๆ จึงได้พบว่า ‘ผ้าผีบอก’ เป็นหนัง รีวิวหนังไทยย้อนยุค  แฟนตาซีลึกลับตลก บวกโรแมนติกหน่อยๆ  บอกเลยว่าสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ได้อย่างมากโดยเฉพาะภาคเหนือ และ ภาคอีสาน ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นได้ที่นี่ 13 หมูป่า เรื่องเล่าจากในถ้ำ

รีวิว ผ้าผีบอก หนังผีไทย

มาตอนนี้ ได้มีโปรแกรมที่จะผลิตหนังขึ้นมา  iAM Films  ยังทำออกมาได้ดีเสมอเลยนะ ค่ายเองก็พยายามจะหาส่วนผสมใหม่ ๆ ให้กับภาพยนตร์ แม้ว่าจะดูโยนหินถามทางไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นการเสิร์ฟอะไรใหม่ ๆ ให้แฟนคลับและคนดูหนังอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ส่วนผสมแบบหนังอินดี้ (Where We Belong) การใส่ความเป็นอีสานบ้านเฮาใน ‘ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้’ (2563) หรือการใส่ส่วนผสมแนวแคนดิดใน ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ (2564)

โดยมีหนังล่าสุดเรื่อง ‘ผ้าผีบอก’ เรื่องนี้ก็เหมือนเดิม ยังมีส่วนประกอบที่แม้จะยังไม่ได้ถึงกับกระชากฟีลจากไทบ้านมากนัก เพราะตัวหนังก็ยังหยิบเอาวัฒนธรรมภาคเหนือ-อีสานมาปรับใช้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ส่วนผสมสูตรนี้ มาจากโปรดิวเซอร์อย่าง ‘มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ และได้ ‘อั้ม-ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์’ นักแสดงจากภาพยนตร์ของพี่มะเดี่ยว ทั้ง ’13 เกมสยอง’ (2549), ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ (2551) และ ‘หลุดสี่หลุด’ (2554) และเคยผ่านงานมิวสิกวิดีโอของทั้ง BNK48 และ CGM48 มานั่งแท่นผู้กำกับครั้งแรก

เรื่องย่อ ผ้าผีบอก

เหตุการณ์ได้เล่า บอกเหตุการณ์ เมื่อ พันปีก่อน เรื่องมีอยู่ ว่า พระมหาเทวีศรีมอย ซึ่งเป็นแม่ ของ ‘เจ้าหลวงรังสิมันต์’ (หยิ่น- อานันท์ หว่อง) เจ้าเมืองเวียงไชยเชษฐ์บุรี จึงได้มีการจัดการแข่งขัน ทอผ้า เพื่อเลือกหญิงสาว ที่เหมาะสมในการขึ้นมาเป็นชายา คู่บัลลังก์ เพราะเจ้าเมืองท่านทรงพระง้องแง้ง ไม่ยอมเลือกมเหสีสักที แต่กลายเป็นว่า ‘อัญญานางหอมนวล’ (วี- วีรยา จาง) แห่งนครผางาม หนึ่งในผู้แข่งทอผ้าในครานั้น กลับถูกรัดคอตายอย่างลึกลับในระหว่างทอผ้า โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

และหนังได้เล่ามาจนถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน ‘บักคูณ/อชิ’ (วอร์ – วนรัตน์ รัศมีรัตน์) เป็นคนจัดทีมขึ้นมา เพื่่อที่จะถ่ายไลฟ์สด รายการผี  ได้ไปสัมผัสผ้าโบราณผืนหนึ่งที่บ้านของยายทวด วิญญาณของอัญญานางหอมนวลจึงปรากฏตัว เพื่อตามหาคนร้ายที่ฆ่านาง โดยมีผู้ต้องสงสัยคือเจ้านางองค์อื่น ๆ

ได้มีการให้เข้าร่วมการแข่งขันการทอผ้า ทั้ง ‘เก็ดถะวา’ (โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค), ‘สะบันงา’ (ปูเป้-จิรดาภา อินทจักร) และ ‘สาระปี’ (น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน) พ่วงมาด้วยข้าประจำตัวอย่าง ‘คำเคิบ/วีว่า’ (จีจี้- ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล) ร่วมเป็นผู้ต้องสงสัย การสืบสวนหาคนร้ายจากยุคพันปีก่อนจึงต้องเริ่มต้นขึ้น ก่อนที่อชิและพวกจะต้องเผชิญกับอาถรรพ์ครั้งใหญ่

พล็อตเรื่องของหนัง

จริง ๆ แล้วตัวพล็อตเองมีความน่าสนใจล่ะนะครับ เพราะถือว่าเป็นส่วนผสมที่แปลกใหม่ดีสำหรับหนังไทยเลยแหละ โดยเฉพาะส่วนผสมของ “คอมมีดี้-สยองขวัญ-พีเรียด-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน” แถมยังจับเรื่องตำนานพื้นบ้าน ผสมกับแนวทางของละครแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่ดูโบราณ แต่บอกไม่ได้ว่าอยู่ในยุคสมัยไหน

ทั้งหมดนี้เป็นแค่สถานที่ ที่สร้างมาไม่ได้เป็นสถานที่จริงแค่ สมมุติขึ้นมา (เฉย ๆ ว่าเป็นล้านนา) แอบแซวนิยายพีเรียดผ้าผลงานของ ‘พงศกร’ และก็มีแนวทางของหนังสไตล์ Whodunit (ไผฆ่าหอมนวล ? ) แถมยังบวกไซไฟนิด ๆ โรแมนติกหน่อย ๆ ด้วย (อืม ตกลงนี่มันหนังอะไรแล้วเนี่ย (555)

และในที่สุดก็เริ่มเดาเหตุการณ์กันออกแล้วสินะ ว่าตัวหนังจะออกมาเป็นอย่างไร ใช่ครับ มันออกมากาวมาก การ์ตูนโคตร ๆ แม้ตัวหนังในช่วงเริ่มแรกพยายามจะปูเรื่องให้เรารู้สึกน่ากลัว รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมของคนที่ฆ่าหอมนวล แต่หลังจากนั้นตลอดทั้งความยาวหนัง 100 นาที มันก็กลายเป็นความกาว เหมือนกำลังดูอนิเมะอะไรแบบนั้นเลยครับ คือถ้าใครที่จะดูเอาความสยอง ดูความ Whodunit อยากเป็นนักสืบปัวโรต์ ไรงี้ ขอให้ล้มเลิกความคิดนั้นซะเลยนะครับ

โครงเรื่องของหนัง

พอดูไปเรื่อยๆ เราจะรู้ได้เลยว่า ผู้กำกับ คิดจะวางโครงเรื่อง ให้ดูซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เหมือนเวลาเราดูหนัง Whodunit ผนวกกับการเล่าเรื่องกรรมแต่ชาติปางก่อน ที่แต่ละคนล้วนมีความผูกพันกันอย่างบังเอิญไปด้วย แต่เพราะตรรกะและการกระทำของตัวละครนี่คือแบบ…เมิงจะไม่เอาจริงเอาจังอะไรกันซักอย่างบ้างเลยเรอะ (555) ทุกการกระทำ เหตุผลของตัวละคร ล้วนเป็นไปเพื่อความกาวล้วน ๆ แถมตัวละครยังมีพลังพิเศษ ก็ยิ่งดูเบียวเข้าไปอีก

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

โดยรวมทั้งหมดแล้ว หนังได้ทำออกมาแบบไร้ขีดจำกัดมากเกินไปนะ คือมันบันเทิงและฮาด้วยความเบียวและความอีหยังวะของมันจริง ๆ ทุกการกระทำในบทหรือด้นสด นี่คือคิดตามด้วยความ Realistic ไม่ได้จริง ๆ ยิ่งเล่าไปเรื่อย ๆ เหมือนทีมเขียนบทมันมือ ยิ่งใส่ความเบียว ความเหวอแตกหนักข้อขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งบางอันก็ได้ผล ดูแล้วก็ยังพอจะฮาไปกับความบ้าบอของมันได้ แต่บางอันก็ดูจะฝืน ๆ อยู่เหมือนกัน จนถึงไคลแม็กซ์ท้าย ๆ นี่คือเวรี่เบียวจนเหวอแตกกันไปเลยยยยย

หนังผีที่ตลกมาก

แต่ก็ด้วยความเป็นหนังที่ ค่อนข้างจะติดตลดไปหน่อย และหนังได้ทำออกไปแนว เหวอแตก จนแทบจะกลายเป็นหนังคัลต์ของ BNK48 แทรกแก้เลี่ยนด้วยพาร์ตดราม่าซึ้ง ๆ ที่ตัวบทขมวดปมไว้แล้วเก็บกลับได้ดี แต่ไอ้ความเล่น ๆ มันก็กลายเป็นข้อสังเกตได้เหมือนกัน เพราะบทที่ดูเหมือนจะออกแบบมาประมาณหนึ่ง

แต่พอมัวแต่เหวอไปกับความเบียวมาก ๆ แก่นสารของเรื่องก็เลยดูกลายเป็นการสั่งสอนแบบธรรมดา ๆ ไปเสียอย่างนั้น รวมถึงบทและการเรียบเรียงเรื่องราวในบางจุดดูจะยังเก็บงานไม่เรียบร้อยเท่าใดนัก เลยทำให้การเล่าเรื่องบางพาร์ตยังดูงง ๆ ไม่เข้าที่เข้าทางไปด้วย รวมทั้งยังทิ้ง Plot Hole ไว้เยอะมากแทบจะทั้งเรื่องเลย

และในด้านของนักแสดงต่างๆของเรื่องนี้  ยกตัวอย่างที่เด่นๆเลยก็ มี BNK48 เรามักจะเห็นปัญหาของการเฉลี่ยบทบาทของเมมเบอร์ที่จะหนักเฉพาะเมมเบอร์บางคน หรือการที่เมมเบอร์รับบทบาทในหนังบางเรื่องได้ไม่เข้าปากเข้าบท แต่กับหนังเรื่องนี้ ต้องชื่นชมว่าสามารถแก้เกมตรงจุดนี้ได้ค่อนข้างดีนะครับ อาจจะเพราะว่าจำนวนเมมเบอร์+หยิ่นวอร์+ทีมแก๊งรายการผีนั้นถือว่ากำลังดี ไม่เยอะเกิน สามารถเฉลี่ยแอร์ไทม์ได้ค่อนข้างดีเลย

รีวิว ผ้าผีบอก บทสรุป

และที่เป็นประเด็นหลักๆของหนังคือ การพัฒนาบทการแสดงของตัวละครแต่ละคน ที่ถือว่าค่อนข้างได้ผลเลยล่ะครับ สามารถหยิบเอาเสน่ห์ของแต่ละคน และแทรกความตลกออกมาได้น่าสนใจ ซึ่งแฟนคลับน่าจะพอดูออกครับว่าคาแรกเตอร์ไหนที่เอามาจากตัวเมมเบอร์จริง ๆ และนั่นก็ทำให้การแสดงของ BNK48 ถือว่าโตขึ้นไปอีกระดับ

แต่ในส่วนของตัวเอกของเรื่อง  คงจะหนีไม่พ้น ‘หอมนวล’ (วี BNK48) และ ‘บักคูณ’ (วอร์ วนรัตน์) ตัวพระนางหลักของเรื่อง ที่งานนี้ถือว่ามีความน่ารักชวนจิ้น วอร์เล่นได้ทั้งบทฮา ซึ้ง โรแมนติก ส่วนน้องวีก็ถือว่าสวยและขึ้นกล้องมากจริง ๆ ครับ เรียกว่างานนี้ #วอร์วี ต้องมาละนะครับ

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

สรุปแล้วหนังเรื่อง ‘ผ้าผีบอก’  นี่อาจเป็นหนังที่คล้ายๆกับเรื่อง ‘หอแต๋วแตก’ เวอร์ชัน BNK48 ก็ได้ เพราะมันอุดมไปด้วยความวาไรตี้ครบรส ที่ใช้ความเบียวขั้นสุด ความกาว ล่อฮากันแบบไม่ต้องเกรงใจใคร

ในขณะเดียวกัน มันก็ยังเกาะเกี่ยวความสยองขวัญ ตำนานผี และความบันเทิงแบบจักร ๆ วงศ์ ๆ มาสับ ๆ คลุกเคล้าจนกลายเป็นหนังผีตลกที่เหมาะกับการถอดสมองระหว่างดู เหมือนกำลังนั่งกินหมกกบอยู่หน้าฮ่านอย่างไรก็อย่างนั้นเลยครับ

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

 

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ

ผู้กำกับ: เฉลิม วงศ์พิมพ์

นำแสดงโดย: โรเบิร์ต สายควัน, เบิ้ล ปทุมราช, ค่อม ชวนชื่น, ลาดา อาร์สยาม

ความยาว: 122 นาที

เข้าฉาย: 22 ตุลาคม 2020

หลวงพี่กะอีปอบเต็มเรื่อง netflix แม้ว่าชื่อจะดูเหมือน หนังไทยมาใหม่ สยองขวัญ-ตลกยอดนิยม แต่ด้วยกลิ่นอายของหนังเรื่องขุนพันธ์ โรเบิร์ต เสกวรรณ (ประยุทธ์ ภูมิรัตน์) รับบทเป็นที่จับตามองในสไตล์หนังที่มีเด็กๆ อย่างสุทธธร รับบทเป็น แบคกึม เพื่อนสนิทของตำรวจ โครงเรื่องไปข้างหน้า

ล่าสุดจากเฉลิม วงษ์พิมพ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่เป็นที่รักมากที่สุดคนหนึ่ง กับผลงานสุดมันส์ อาทิ 7 Battles, People Flying Fire เป็นต้น หลังจากออกจากภาพยนตร์เรื่อง “อีเห็ดสด เผด็จการ” เมื่อ 10 ปีที่แล้ว กลับมาทำงาน 2 ปีติดต่อกัน เริ่มจาก Thieves Exchange เมื่อบาทหลวงเปิด ปีที่แล้วกับปีนี้ ต่างจากผลงานที่ผ่านมาของเฉลิมเล็กน้อย ดูหนังออนไลน์

 

เรื่องย่อ

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

เกิดคดีแปลกประหลาดเรื่อง ปอบอีหวึ่ง ขึ้นที่หมู่บ้านทุ่งหมาหอนอันไกลโพ้น เป็นเหตุให้ทางราชการตัดสินใจส่งนายตำรวจฝีมือดีอย่าง หมวดศัจธร เพื่อให้ไปดำเนินการสืบหาความจริงพร้อมกับ บักกึ่ม เพื่อนวัยเด็กของอีหวึ่งที่เข้าเมืองมาหวังจะเป็นตำรวจสักวัน แม้หมวดศัจธรจะไม่ค่อยเต็มใจกับการเดินทางครั้งนี้มากนัก เพราะข่าวลือที่เกิดขึ้นมีเรื่องของผีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาก็จำใจต้องยอมตกปากรับคำ เพราะผู้บังคับบัญชาอย่างหม่อมบาง ยื่นคำขาดในการทำงานครั้งนี้ ดูหนังฟรี

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

บอกเล่าเรื่องราวหลวงพี่กะอีปอบ doomovieความรักข้างเดียวกับเพื่อนของเธอ หยู ยี่หยิง ​​ตั้งแต่วัยเด็ก สาวสวยบ้านนอกที่ถูกลือกันว่าเป็นผีปอบ รับบทโดย รดา อาร์สยาม (อาภาพัทธ์ สุขสวัสดิ์ชน) เพราะอีวิงให้เพื่อนรุ่นเดียวกับเธออย่างสุดใจ บักมิดแมน ได้รับการต้อนรับจาก ตูมตาม เดอะสตาร์ (ยุทธนา พึ่งกลาง) ที่เดินทางไปแดนไกลเพื่อรับใช้จ่าสิบเอก

ภาพยนตร์เรื่องนี้รวมเอาหลากหลายแนว ทั้งแอ็คชั่น, ระทึก, นักสืบ, ผี, ตลก, โรแมนติก และดนตรี (และการร้องเพลง!) พร้อมตัวละครที่คัดสรรมาเล็กน้อย แต่มีสีสันในตัวเอง เช่น แก๊งค์ตำรวจ นอกจาก สุทธพล และ แบ็คกึม เป็นตัวแทนของคนดู และ จ่าแหนม ตำรวจที่ถูกหลอกให้บ้า รับบทโดย ต้า เฟ็ดเฟ่ (กิตติศักดิ์ เวชประสาร) ที่มาสร้าง สถานการณ์เฮฮาทุกครั้ง เวลา. ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวของตำรวจและป้าคุง (อาคม ปรีดากุล) ที่หลวงพ่อและเด็กคู่หนึ่งซึ่งวิ่งหนีไปขโมยฉากตลอดทั้งเรื่อง เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้เมื่อเนื้อหาเริ่มเฉลยเงื่อนปอบฆ่าคนในหมู่บ้าน หนังก็เสริมกลุ่มตัวละครเจ้าพ่ออย่าง โก เต็ก รับบทโดย นุ้ย เชิญยิ้ม (ชูเกียรติ เอี่ยมสุข) ประกบด้วย บอล เชิญยิ้ม (ชัชชัย จำเนียรกุล) มาเสริมเรื่องเข้าอีก และเซอร์ไพรส์ก็คงเป็นการมารับบทรับเชิญในช่วงท้ายของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ในบทคนเลี้ยงปอบด้วยนั่นเอง

เห็นอย่างนี้คงพอเดาได้ว่าหนังน่าจะมีกลิ่นแปลกตาจากหนังตระกูลปอบ หรือหนังผี-ตลกอื่น ๆ ไม่น้อย และน่าจะเปิดช่องให้เล่นมุกกันได้อย่างเมามัน เพราะนักแสดงแต่ละคนก็ฮาตัวกลั่นรับส่งมุกกันอย่างเคยชินอยู่แล้ว โดยเฉพาะแก๊ง บริษัทฮาไม่จำกัด อย่าง โรเบิร์ต น้าค่อม นุ้ย และบอล นั่นเอง

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์นั้นน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะเฉลิมผู้กำกับยึดเอาตามบทหนังมากเกินไป คือพอมองออกว่าบทหนังเขียนมาแบบคงฮาไม่น้อยตอนอ่าน แต่แทนที่จะได้มุกธรรมชาติ มุกสด อันเป็นของถนัดเหล่าตลกอาชีพมาเสริมให้หนังแกร่ง กลับกลายเป็นนักแสดงฝืนธรรมชาติมาเล่นแบบจังหวะไม่เข้ารูปเข้ารอย ทำให้ตลกแนวซิตคอมตามบทหนังก็ไปไม่สุด ส่วนแนวตลกแนวคาเฟ่ก็กลืนหาย ทำให้หนังตลกน้อยกว่าที่ควร

ตัวหนังยังมีความโบราณในตัว (ในทางคารวะ) ชวนให้นึกถึงหนังไทยยุค 2530 สมัย พันนา ฤทธิไกร หรือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังเป็นพระเอกอย่าง ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ที่ผีจะมาแบบดิบ ๆ การแต่งหน้าแบบโหด ๆ ในตอนที่ซีจียังไม่ระบาดเท่าปัจจุบัน

ในขณะเดียวกันกลยุทธ์การสู้รบปรบมือกับพวกผีและผู้มีอาคมแก่กล้าฝ่ายร้าย ก็ยังชวนให้นึกถึงหนังอย่าง ผีกัดอย่ากัดตอบ หรือ สยึมกึ๋ย ที่ต้องงัดสารพัดเครื่องมือเครื่องไม้มาฟาดฟัน ทั้งฮาทั้งลุ้น รวมถึงต้องทำเงื่อนไขยาก ๆ ตามตำราโบราณให้สำเร็จเป็นอาทิ ต้องยอมรับว่าถึงหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ช่วยเติมเต็มความต้องการดูหนังสไตล์เก่า ๆ นี้ ที่เคยเป็นของโปรดปรานของคอหนังไทยยุคหนึ่งได้อย่างดี

เรียกว่าใครโหยหาหนังไทยแนวนี้คงสมใจ และยิ่งเป็นแฟนคลับโรเบิร์ต สายควัน นี่คือหนังที่เขาเป็นพระเอกของแท้เรื่องสุดท้ายเลยก็ว่าได้

 

วิจารณ์หนัง

เป็นหนึ่งในโครงการหนังผีตลกที่ทางค่ายพระนครฟิลม์…ภูมิใจนำเสนอ เพราะพยายามช่วยกันปลุกปั้นมาสักระยะ กว่าจะลงตัวออกมาเป็นหนังฉบับสมบูรณ์ในที่สุด การมาของ “หลวงพี่กะอีปอบ” จึงออกมาด้วยอรรถรสของหนังผีขำขันสไตล์ไทยๆ ที่อาจจะไม่ได้แปลกไม่อะไรเลย แต่กลับเป็นที่น่าสนใจอย่างพิลึก โดยเฉพาะเห็นได้จากความพยายามผลักดันให้เกิดเป็นจักรวาลหนังชุดใหม่ ไม่แน่…เราอาจจะได้เห็นแฟรนไชส์หนังไทยเรื่องใหม่เกิดขึ้นก็ได้

หลวงพี่กะอีปอบ อาจจะนับได้ว่าเป็นงานสุดท้ายของของดาราตลก “โรเบิร์ต สายควัน” เพราะในหนังเรื่องนี้เขาก็เปรียบเสมือนเป็นพระเอกและตัวละครหลักในการนำเรื่องก็ว่าได้ หนังเล่าเรื่องราวกับคดีประหลาดที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านทุ่งหมาหอน ทำให้ทางการได้ส่งหมวดศัจธรลงพื้นที่ไปสืบหาความจริง โดยมี บักกึ่ม เด็กรับใช้บ้านหม่อมที่ฝันอยากเป็นตำรวจได้ำนทางและติดตามไปด้วย หลวงพี่กะอีปอบเต็มเรื่องฟรี

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

เมื่อพวกเขาไปถึงหมู่บ้านกับพบกับความเงียบสงบชวนวังเวง ก่อนจะเจอดีกับสิ่งประหลาดตามหลอกหลอนทำให้ต้องไปพึ่งพา หลวงพี่แข่ว พระอาวุโสประจำหมู่บ้าน จึงได้ทราบว่า อีหวึ่ง หญิงสาวในหมู่บ้านถูกร่ำลือว่าเป็นผีปอบออกอาละวาด แต่เธอยังคงรอคอยชายคนรักกลับมาจากสงครามอยู่ใจปรารถนา ทำให้ภารกิจเผชิญหน้าและกำปราบผีปอบในหมู่บ้านครั้งนี้จึงเกิดความครื้นเครงขึ้น

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

หนังเรื่องหลวงพี่กะอีปอบเต็มเรื่อง hd พากย์ไทย นี้เป็นผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “เฉลิม วงษ์พิมพ์” ที่มีผลงานยอดเยี่ยมอย่าง “7 ประจันหน้า” ในภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง เพื่อให้ออร่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเน้นย้ำจุดเด่นของผลงานที่ผ่านมา แต่ตัวหนังเองก็ต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยใกล้กับเมืองหลวง รวมถึงระบบบริการแฟนคลับของนักแสดงนำชายที่ผสมผสานระหว่างความดีและความชั่ว

แม้ว่าคุณพ่อคาปอปจะยังคลุมเครืออยู่ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถส่งข้อความที่สนุกสนานและตลกขบขันให้กับผู้ชมได้ แม้ว่าบทหลักจะไม่แข็งแกร่งเท่าหนังไทยก็ตาม แต่การกลับไปเป็นตัวเอกในระดับหนึ่งก็ช่วยซัพพอร์ตให้แข็งแกร่งขึ้น

ที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องคงจะต้องยกให้ โรเบิร์ต สายควัน ที่มารับหน้าที่แบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกของหนัง นับว่าเป็นตัวละครที่ช่วยเดินเรื่องไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แม้ว่าน่าเสียดายไปสักหน่อยที่ช่วงครึ่งหลังของหนัง ตัวละครของเขาถูกทิ้งขวางไปเพราะดันสอดแทรกเลิฟไลน์ที่พยายามดันขึ้นมาบดบังแทน

 

 

ในขณะที่อีกคาแรกเตอร์ของ “เบิ้ล ปทุมราช” ที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักของหนังเรื่องนี้ นับว่าเป็นการฉายศักยภาพอีกด้านของเขาเลยทีเดียว ทั้งที่บทของเขาแทบจะไม่มีมิติอะไรเลยก็ตาม เสน่ห์และอินเนอร์ของเบิ้ลถ่ายทอดออกมาได้ดีในตัวหนัง ซ้ำยังมีฉากเซอร์วิสแฟนคลับออกมาประปรายด้วย แต่ในซีนอารมณ์อาจจะยังทำได้ไม่ถึงดี แต่ก็ถือได้ว่าเขาน่าจะเป็นอีกหนึ่งนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่ที่น่าจะไปได้สวยในการผันตัวมาเล่นก็ได้

แต่หนังกลับล้มเหลวอย่างน่าเสียดายกับการขับเคลื่อนตัวละครของ “ค่อม ชวนชื่น” ที่รับบทเป็น พระแข่ว ทั้งที่สมควรจะได้รับความเอาใจใส่มากกว่านี้ เนื่องจากคาแรกเตอร์ของเขาถูกใช้เป็นชื่อหนังเลยทีเดียว แต่ตัวหนังที่เห็นได้ชัดว่ามีการปรับเปลี่ยนบทและความโดดเด่นบางอย่าง ทำให้ตัวละครนี้ถูกลดทอนบทลงไปอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นว่าหลวงพี่ (แต่ในหนังเรียกหลวงพ่อ) เป็นตัวละครที่ถูกลืมไปอย่างน่าสงสาร

 

หนังมีช่วงดร็อปเหมือนกัน อัดเพลงเข้ามาจนแทบจะเป็น MV เพลงอยู่แล้ว

แต่การมีอยู่ของ น้าค่อม , พี่บอล เชิญยิ้ม และ จารย์นุ้ย เชิญยิ้ม ก็ถือเป็นการช่วยหนังไว้ได้เยอะเหมือนกัน ถ้ามีตั๊กกับแจ๊สตามมานี่ก็คงจะเหมือนได้ดูบริษัทฮาฯที่โปรดักชั่นใหญ่ขึ้นกว่าเป็นรายการทีวีและมีแขกรับเชิญเป็น เบิ้ล ปทุมราช กับ นางเอก นั่นแหละ ใครเป็นแฟนๆ รายการนี้ ก็น่าจะพอเดาทางกันได้ งานด้านโปรดักชั่นถือว่าทำได้ดีทีเดียว

 

 

หนังเหมือนจะบอกให้รู้ว่ามีภาคต่อแน่ๆ เพียงแต่ไม่มีน้าเบิร์ตแล้ว คนที่น่าจะพอแทนๆกันได้ ขอเดาเลยว่า ก้อง ห้วยไร่ ก็เหมาะ อาจะมาเป็นนายตำรวจมือปราบคนใหม่ที่จะต้องมาจับคู่กับ เบิ้ล ปทุมราช ในภาคต่อไปไรงี้

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

 

บทประพันธ์ : จินโจว

บทโทรทัศน์ : สร้างสรรค์/นุขหน้าจอ

กำกับการแสดง : ชุดาภา จันทเขตต์

แนวละคร : พีเรียด คอมเมดี

ผลิต : บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด

ผู้จัด : ปิยะ เศวตพิกุล, ชุดาภา จันทเขตต์

สปอยหนัง แค่ปล่อยคลิปฮาเรียกน้ำย่อยตัวแรกออกมาเป็นน้ำจิ้ม ก็ทำเอาทวิตเตอร์แทบแตก!! กดไลค์กดแชร์กันกระหน่ำถูกจริตชาวโซเชี่ยลอย่างแรง ส่งให้คลิปละคร “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” เวอร์ชั่น “ท่าโฉลง The Rapper #รับยาช่อง 3” ติดเทรนด์ทวิตเตอร์พุ่งขึ้นสู่อันดับ 4 ตั้งแต่ละครยังไม่ได้บอกวันดีเดย์ออกอากาศ ฟีดแบคดีเว่อร์เบอร์นี้ 2 ผู้จัด ค่ายโซนิกซ์ บูม 2013 ชุดาภา จันทเขตต์ ซึ่งพ่วงตำแหน่งผู้กำกับ, ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล และก๊วนนักแสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ, ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม ฯลฯ ไม่ปลื้มปริ่มยังไงไหว เตรียมปล่อยขบวนคลิปฮา un-cut ของ “ชาวท่าโฉลง” ออกมาอีกรัวๆ เรียกว่าไม่ทิ้งช่วงให้แฟนคลับได้หายใจหายคอ

 

เรื่องย่อ ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

“การเป็นหมอที่ดี คือคำนึงถึงคนไข้ ไม่ว่ายาไทย หรือยาเทศ ถ้าทำให้คนป่วยหายได้รักษาชีวิตไว้ได้ ยานั้นย่อมมีสรรพคุณที่ดี ไม่มีแบ่งแยกว่าอะไรวิเศษไปกว่ากัน”

พุทธศักราช ๒๔๑๙ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทองเอก หรือเจ้าเอก ถือกำเนิดมา ณ มณฑลกรุงเก่า ในครอบครัวของหมอยาที่สืบเนื่องวิชาแพทย์แผนไทยโบราณมาแต่ครั้งอยุธยายังเป็นราชธานี แต่เมื่อถึงวัยเพียง ๘ ปีโรคร้ายก็มาคร่าชีวิตของพ่อกับแม่ที่ยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงในฐานะหมอยา เพื่อรักษาคนไข้โรคห่า(กาฬโรค) ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนั้น ทิ้งเจ้าเอกที่ถูกแยกตัวให้ไปอยู่กับปู่ต้องเป็นกำพร้าแต่นั้นมา

พ่อหมอทองอิน ปู่ของเอก เคยเป็นหมอยาชื่อดัง แต่ครั้งหนึ่งขุนนางใหญ่แห่งกรุงเก่าได้สั่งให้ปู่รักษาลูกที่โดนหมาบ้ากัด ปู่อินรักษาอย่างสุดกำลังก็ไม่อาจยื้อชีวิตของเด็กน้อย หมอยาคู่แข่งของปู่ยุยงจนขุนนางนั้นโกรธแค้นว่าปู่รักษาไม่ดี เนรเทศปู่ไม่ให้รักษาใครอีก ปู่อินไม่ได้เกรงกลัวอะไรแต่รู้สึกเสียใจที่ทำให้เด็กตาย จึงย้ายมาอยู่บ้านท่าโฉลงอันไกลแสนไกลพร้อมกับวัยของทองเอก ที่กำลังเป็นหนุ่มหน้ามน มีความซุกซน และรักสนุก โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง

ด้วยจรรยาแพทย์ที่มีอย่างท่วมท้น ปู่หมอทองอินก็ไม่อาจเพิกเฉยเมื่อเห็นชาวบ้านที่น่าสงสารเจ็บป่วย ปู่ยื่นมือเข้าช่วยโดยได้รับการสนับสนุนจากหลวงตาเพชร ผู้เป็นที่เคารพนับถือประหนึ่งศูนย์รวมใจของชาวบ้าน หลวงตาส่งลูกศิษย์วัดคือ เปียก กับตุ่น มาศึกษาตำรายาของปู่หมอทองอิน คู่กับทองเอก ปู่หวังว่าจะช่วยทำให้ผู้คนในบ้านท่าโฉลงสุขภาพแข็งแรง จะได้เกิดปัญญา อยู่ในศีลในธรรม แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะคนในชุมชนบ้านท่าโฉลง มีความเชื่อในภูติผีอยู่เป็นทุน และยังมีหมอผีเล่นอาคมได้ครอบงำจิตใจชาวบ้านจนแยกแยะไม่ได้ระหว่างศรัทธากับงมงาย

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

มีตำนานเล่าขานสืบกันมาว่าตรงท่าโฉลงนี้คือที่เอาศพลงทิ้งน้ำ คนจึงกลัวฝังใจไม่ใคร่จะมีคนกล้าย้ายมาอยู่จนกลายเป็นหมู่บ้านเงียบๆเหงาๆ ไม่ครึกครื้นเหมือนใครเขา ตกเย็นก็พากันปิดบ้านหนีผี มีแต่ความเงียบไม่มีใครกล้าออกมาเดินเพ่นพ่าน ทองเอก เปียก และตุ่น หนีปู่ไปเที่ยวซุกซน จนไปเจอกับผีปอบ(คนป่วย) ต้องหนีกันวุ่นวาย พอเช้ามาทองเอกก็ยังมาได้เห็นวิธีการไล่ผีอันแสนทารุณของหมอผีมั่นอีกด้วย

“กรี๊ดดด” “อีผีร้าย มึงออกไปจากร่างของเด็กสาวประเดี๋ยวนี้!” หมอผีมั่นฟาดหวายอาคมไปที่สาวน้อย ยิ่งสาดน้ำมนต์ใส่นางก็ยิ่งตัวสั่น ยิ่งสั่นหมอผีก็ยิ่งฟาด ยิ่งฟาดนางก็ยิ่งกรี๊ดจนเป็นลมไป“ผีออกแล้ว”ผู้คนแซ่ซ้องสรรเสริญความเก่งกาจของหมอผีมั่น แต่ทองเอกอดรนทนไม่ได้ตะโกนบอกว่าเด็กสาวเป็นเพียงไข้สูงกำลังเพ้อมาโดนน้ำแบบนี้จะยิ่งไปกันใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ตกใจว่าทองเอกลบหลู่วิญญาณ แต่ก็มีบางคนเห็นคล้อยตามทองเอก ทำให้หมอผีมั่นโกรธจัดประกาศตัวเป็นศัตรูกับทองเอกแต่นั้นมา ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

กว่าจะจบแฮปปี้เอนดิ้งก็ทำคนดูหัวหมุนไปหลายตลบ กับละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ทางช่อง 3 ที่แม้ว่าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วก็ใส่ความฮาตลกทั้งท่าโฉลงส่งท้ายละครจนเกือบออกทะเล

เรียกว่าปิดฉากไปอย่างแฮปปี้ทุกคู่ ทุกบ้านท่าโฉลงจ้า ละครที่มีแต่ความฮาให้ได้หัวเราะหน้าจอกันตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย ที่แฟนละครรอติดตามแต่ก็มีความดราม่าเบาๆ กับเรื่องราวในละครที่ดูจะออกทะเลไปช่วงหนึ่ง เมื่อตัวละครนางเอกอย่าง ชบา (คิมเบอร์ลี) กลายเป็นแม่นาคพระโขนงแขนยาวเก็บมะนามขณะกอดกับ ทองเอก (มาริโอ้) ทำเอาแฟนละครตกใจและพูดถึงเป็นอย่างมาก แต่เมื่อสุดท้ายกลายเป็นฝันของตัวละครทองเอกที่กังวลจนฝันแปลกไป ก็ทำเอาโล่งใจกันทั้งท่าโฉลงและหน้าจอทีวีด้วย โดยละครทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ทำเรตติ้งตอนจบไปได้ถึง 8.5 ถือเป็นเรตติ้งที่สูงที่สุดของละคเรื่องนี้ ทองเอก หมอ ท่าโฉลง ตอนจบ

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

ฟีดแบคของคนดูทางทวิตเตอร์ที่พูดถึงละครผ่านแฮชแท็ก #ทองเอกหมอท่าโฉลง ep15 จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันจ้า

 

คาแรคเตอร์ตัวละคร

ทองเอก : ,มาริโอ้ เมาเร่อ
หนุ่มหน้ามนวัย 23 ปี มีความเฉลียวฉลาด และความชำนาญในเรื่องยาสมุนไพร สามารถ สัมผัส ดู ลิ้มชิมรส ดม แยกแยะตัวยา และสรรพคุณได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน อารมณ์ดี รักสนุกตามวัย โดยเฉพาะวัยที่แตกเนื้อหนุ่ม มุ่งหวังอยากจะมีคนรัก และมุ่งหวังจะเป็นหมอยาสมุนไพรเพื่อสืบเนื่องวิชาแพทย์แผนไทยโบราณให้คงอยู่ตลอดไป

ชบา : คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส
หญิงสาวที่อ่อนหวาน เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ (เฉพาะเวลาที่ต้องออกงานหรืออยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่คุ้นเคย) ความเป็นจริงแล้ว ชบาค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง และนิสัยออกไปทางแก่นกล้า คล้ายเด็กผู้ชาย ไม่กลัวใคร แม้จะมีหน้าตาที่สะสวย แต่ความแก่นของชบาก็ไม่สามารถพิชิตใจของทองเอกได้ แต่ในที่สุด ความดี ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้อื่นของชบาต่างหาก ที่เอาชนะใจของทองเอกได้ในที่สุด

กล้า : ปรมะ อิ่มอโนทัย
ลูกชายเศรษฐีนีโรงสีข้าว ที่นอกจากจะมีเงิน เขายังมีความรักที่มั่นคงต่อชบา ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชบา แต่กล้าก็ยังเผลอไผลไปกับความงามของผ่อง และความที่กล้าเป็นคู่อริกับทองเอก ทำให้กล้าแย่งชิงผ่องมาเป็นผู้หญิงของตนเองเพื่อเอาชนะ แต่ผู้หญิงที่กล้ารักจริงๆ และอยากจะได้มาเป็นภรรยา คือชบาคนเดียวเท่านั้น

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

ผ่อง : ภูริตา สุปินชุมภู
หญิงงาม กริยามารยาทเรียบร้อย ต่อหน้าคนทั่วไป ที่ครั้งนึงเคยเป็นโรคตุ่มน้ำพอง จนแม่(หมอผีมั่น) ต้องแยกให้ไปอยู่กลางป่าตามลำพัง และผู้คนยังคิดว่าเป็นผีปอบ ต่อมาทองเอกรักษาจนหาย กลายร่างเป็นสาวงามในพริบตา ทั้งสองคิดว่ามันคือ ชะตาฟ้าลิขิต ที่สวรรค์ส่งสาวงามมาเป็นคู่ของทองเอก แต่ความจริงผ่องไม่ได้มีจิตใจที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น ผ่องกลับมีความทะเยอทะยาน เชื่อในคารมของแม่ว่า ผู้ชายรวยเท่านั้นที่จะเหมาะกับผ่อง

กลิ่น :ชญานิศ จ่ายเจริญ
น้องสาวผู้เรียบร้อยของกล้า ในขณะที่พี่ชายเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย กลิ่นกลับมีนิสัยตรงกันข้าม พูดน้อย(ต่อยหนักไม่รู้ตัว) เรียบร้อย ชอบอ่านบทกวี ร่ายคำกลอนแอบหลงรักเพิ่ม ก็ไม่กล้าจะคุย จะพูดจาด้วย จะมีก็แต่ต่อบทกวีกันไปมาให้ได้เขินอายกันไป

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

ความเป็นมา : เป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยสมัยก่อน ในสี่หัวข้อหลัก คือ

 

 

  • ความรัก ครอบครัว ชุมชนและสังคม
  • ธรรมะ และพุทธศาสนา
  • ไสยศาสตร์ ภูติผีวิญญาน
  • ยารักษาโรค สมุนไพรไทย

โดยมีตัวละครในเรื่อง นำพาเรื่องไปในแนวทางคอมเมดี้ และสอดแทรกความรู้ ธรรมะ ความเชื่อ ยาสมุนไพรไทย ตลอดจนการรักษาแผนปัจจุบันที่เข้ามาในท้ายเรื่อง โดยมิได้ชักนำว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก เพราะเราเชื่อว่า ศรัทธาทำให้เกิดปฏิหาริย์ได้ ! ทองเอกหมอท่าโฉลงทุกตอน

 

การดำเนินเรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

 

โดยการดำเนินเรื่อง จะทำให้คนดูแยกแยะ และเลือกที่จะเชื่อได้ด้วยตัวเอง เช่น ยาไทยก็ดี รักษาโรคได้มาช้านาน แต่เมื่อมียาฝรั่งและการแพทย์สมัยใหม่เข้ามา ที่รักษาตรงไปที่โรค ที่เชื้อโรค มิใช่แนวแก้อาการแบบยาไทย และยาไทยยังมิได้ถูกคิดค้น พัฒนาไป ณ จุดนั้น แต่อีกทางหนึ่ง เพียงแค่น้ำมนต์ของพระเกจิอาจารย์ดัง ก็สร้างศรัทธาหมู่ ให้ชาวบ้านหายจากโรคระบาดได้ (จากคอลัมน์ ห่าลง..โรคระบาดรุนแรงในอดีต โดย ท่าพระจันทร์ วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ 2557) ทำให้ตัวละครหลักของเรื่อง เข้าใจจิตใจมนุษย์เพิ่มมากขึ้น ว่าทำไมเราถึงต้องมีศรัทธา เพราะศรัทธาสร้างกำลังใจ ทำไมมนุษย์ทุกคนต้องมีศาสนา และไม่ว่าศาสนาไหน ก็สอนให้คนเป็นคนดี ทองเอกหมอท่าโฉลง ep1

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

 

เด็กใหม่ ซีซั่น 1 Girl from Nowhere Season 1 (2561 TV series ) นับเป็น หนังไทยnetflix ที่มีความแปลกประหลาด รวมทั้งมีความน่าดึงดูดใจเป็นอย่างมากสำหรับการพรีเซนเทชั่นรายละเอียดที่ขวานผ่าซาก กับการวิเคราะห์วิจารณ์สังคม และก็เปิดเผย นิสัยดิบของความเป็นคน รวมกับการผลิตผู้แสดงที่มีเอกลักษณ์แจ้งชัด ซึ่งเมื่อแรกฉายก็กระตุ้นให้เกิดกระแส แนนโน๊ะฟรีเวอร์” ไปทั่วทั้งประเทศ ความน่าดึงดูดใจของซีรีส์ประเด็นนี้จะเป็นยังไงบ้าง โปรดติดตามการรีวิว การวิเคราะห์ รวมทั้งความซาบซึ้งในซีรีส์ประเด็นนี้ได้เลยนะครับ

 

พล็อตเรื่อง

พล๊อตเรื่องอย่างคร่าวๆของซีรีส์เด็กใหม่ เกิดเรื่องราวของวัยรุ่นหญิงคนหนึ่ง ที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก ไม่รู้เรื่องว่าคุณมาจากไหน คุณเป็นผู้ที่มีลักษณะท่าทางแปลก ไว้ผมหน้าม้า บริเวณใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลห์กล มีลับลมคมในตลอดระยะเวลา คุณจะย้ายสถานศึกษาใหม่ในทุกตอน และก็มีท่าทางการเปิดตัวที่คล้ายคลึงกัน กับคำบอกเล่าแนะนำตัวว่า แนนโน๊ะนะคะ

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

แนนโน๊ะซีซั่น 1 จะมีความรู้ความเข้าใจพิเศษในด้านการมองมองเห็น หรือการหยั่งลึกเข้าไปในจิตใจของคนเราบางบุคคล ที่มีความอ่อนแอ บอบบาง หรือบางบุคคลที่อุตสาหะจะกดด้านมืดของตนเอาไว้ แม้กระนั้นก็พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเวลา หรือผู้ที่มีพฤติกรรม หรือความนึกคิดผิดไม่สมควร ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

และก็เมื่อแนนโนะมองเห็นเหยื่อ คุณจะเข้าไปจัดแจงทางจิตวิทยากับเค้าเหล่านั้น ด้วยแนวทางที่เจ็บแสบ หรือบางบุคคลก็จัดแจงด้วยแนวทางแบบโหดเหี้ยมไปเลย ซึ่งแนนโนะจะจัดแจงกับคนพวกนี้อย่างไรบ้าง ก็ขอให้ไปติดตามรับดูต่อเองได้ทาง Netflix ครับผม

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

เด็กใหม่ นับเป็นซีรีส์ไทยที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และเป็นกระแสทันทีนับตั้งแต่ฉายตอนที่ 1 ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่ย้ายเข้ามาใหม่ในโรงเรียนแห่ง สามารถจัดการกับครูจอมหื่นได้อย่างเจ็บแสบซึ่งเป็นตอนที่เปิดตัวแนนโน๊ะ หญิงสาวที่มีบุคลิกแรง มีความชัดเจน และมีความมุ่งมั่นในการกระทำอะไรบางอย่างให้เกิดผลสำเร็จ

ซึ่งในตอนนี้ค่อนข้างมีความรุนแรง และแสดงให้เห็นถึงวิธีการจัดการของแนนโนะที่เจ็บแสบมาก เชื่อว่าหากใครได้ดูตอนที่ 1 ก็จะต้องติดกับของแนนโน๊ะอย่างแน่นอน แล้วมันจะดึงให้เราดูไปจนจบทั้งซีซั่นได้ทันที

แนนโน๊ะได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นอย่างชัดเจน และรวดเร็ว เพราะหนังทั้งหมดมันสื่อถึงความเป็นวัยรุ่น มันสื่อถึงภาวะความไม่มั่นคงทางจิตใจของวัยรุ่นมันสื่อถึงภาวะความอิจฉา ความอยากได้อยาก มีอยากเป็น อยากเด่น อยากดัง อยากมีตัวตนของวัยรุ่น และก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงบริบทต่าง ๆ ของวัยรุ่น เช่นความรักของครอบครัว ความรักของเพื่อน ปัญหาครูกับนักเรียน ปัญหาระบบการศึกษา

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

บทสนทนาก็ใช้ภาษาแบบวัยรุ่น ใช้คำว่า “มึง-กู” และด่ากันแบบไม่ต้องเกรงใจ บางคนก็ด่าครูแบบเจ็บ ๆ บางคนก็แก้แค้นสถานศึกษาแบบเจ็บแสบสิ่งนี้มันทำให้วัยรุ่นเมื่อดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ก็เหมือนกับว่ าซีรีส์นี้ได้พูดแทนพวกเขาในทุกประเด็น ด่าแทนพวกเขาในทุกประเด็น ดูแล้วก็มีความสะใจวัยรุ่นไม่น้อย

เขาทำให้เราเห็นว่าซีรีส์เรื่องนี้ กล้านำเสนอในสิ่งที่ซีรีส์อื่นไม่ค่อยกล้าทำนัก เช่นการนำเสนอเรื่องเพศ การใช้คำพูดที่รุนแรง การกระทำที่รุนแรงที่ส่งผลต่ออารมณ์ และจิตใจของคนดูอย่างชัดเจน แล้วมันตรงกับใจคนดู ซึ่งเนื้อหาหลายตอนนั้น มันก็คือภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการบูลลี่ในสังคมวัยรุ่น เรื่องการคล้อยตามในกระแสข่าวของ Social Media เรื่องราวความโสมมของระบบการศึกษา เรื่องราวความแตกร้าวในครอบครัว และที่สำคัญก็คือความดัดจริตภายในจิตใจของมนุษย์ และมันก็มีอยู่ในสังคมไทยอย่างแท้จริง

เราทุกคนต่างรับรู้ ต่างเห็นว่ามี แต่เราก็ปล่อยมันผ่านไป เราทนกับมันทั้ง ๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ผิด บางครั้งเราก็ยอมรับมันและทำตาม ๆ กัน และเมื่อซีรีส์ที่นำเสนอในแง่มุมที่มีความชัดเจนขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจ ที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอย่างรวดเร็ว

 

ความโดดเด่นของซีรีส์

บางตอนมีลักษณะแบบเอาคืน บางตอนมีลักษณะแบบแก้แค้น บางตอนก็ทำให้เห็นในแบบลักษณะของการเตือน บางตอนก็มีความรุนแรงมากในการลงโทษ บางตอนก็ดูโหดร้าย บางตอนก็ดูหวานแหวว การสลับไปสลับมาโดยการเปลี่ยนแปลงวิธีการของแนนโนะนั้น มันทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ ปรับสมดุลอารมณ์ของคนดูตลอด 13 ตอนได้ดี มันไม่ได้เริ่มต้นจากเบาไปหาหนัก แต่มันสลับกันไปเบาบ้างหนักบ้าง

แต่ละตอนจะมีความสนุกแตกต่างกัน เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดู ก็จะต้องตั้งตาว่า ในแต่ละตอนว่าแนนโน๊ะจะมีวิธีการจัดการกับคนยังไง เธอจะกระชากความดัดจริตของมนุษย์ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน และมันจะดำเนินเรื่องอย่างไร ซึ่งถือว่า ทุกตอนนี้ความสนุกไม่แพ้กัน

แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ แนนโนะเป็นใคร เชื่อว่าทุกคนก็ต้องตั้งคำถามกับประเด็นนี้ แล้วก็ตีความไปต่างอๆนานา อาจเป็นคนธรรมดา ผี ปีศาจ หรือซาตาน หรือจิตใต้สำนึกด้านมืดของมนุษย์ หรือด้านมืดของสังคม หรืออีโก้ หรืออาจเป็นสัญลักษณ์ของกิเลสตัณหา ราคะ ซึ่งเป็นได้ทั้งหมด ความเป็นตัวตนของแนนโน๊ะ ก็เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของตัวละครที่แนนโน๊ะจะไปจัดการ เด็กใหม่ กำเนิด ยู ริ

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

แนนโน๊ะคือใคร ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย เอาไปฝังดินก็แล้ว ตกจากตึกสูงก็แล้ว ก็ยังไม่ตาย ย้ายโรงเรียนทุกตอน วิธีการจัดการกับผู้คนหลายตอนก็มีความประหลาดมาก บางตอนออกไปทางแฟนตาซีด้วยซ้ำ นี่แหละคือน่าสนใจของตัวละครนี้

ความคิดส่วนตัวของผม แนนโน๊ะมีความใกล้เคียงกับซาตานมากที่สุด เพราะพฤติกรรมของเธอนั้นชอบทดสอบมนุษย์ โดยเฉพาะการทดสอบในด้านจิตใจ ชอบค้นหาด้านมืดของมนุษย์ และก็ล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป ทั้ง ๆ ที่มนุษย์คนนั้นก็พยายามข่มเอาไว้แล้ว แต่แนนโน๊ะก็จะไปขุดขึ้นมาจนได้ และจัดการกับบุคคลนั้นอย่างสาสม

แนนโน๊ะจะเล่นกับคนที่มีความเปราะบางทางด้านจิตใจ ทำให้คนหลายคนเผยด้านมืดของตัวเองออกมา โดยที่เธอจะเข้าไปยุยง เสนอแนวทาง หรือปั่นกระบวนการทางความคิด หาใครที่มีจิตใจไม่มั่นคงเพียงพอ ไม่ยึดมั่นในความดีของตัวเองเพียงพอ ก็จะทำให้คนนั้นระเบิดกิเลศของตนเองออกมาอย่างเต็มที่และเชื่อไหมว่า แนนโน๊ะไม่ได้ทำร้าย ทำลายใครด้วยน้ำมือของเธอเลย บุคคลต่าง ๆ ที่เธอเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ล้วนแต่ทำร้าย ทำลายตัวเอง ด้วยน้ำมือและสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของตัวเองทั้งสิ้น

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

แนนโน๊ะรู้ว่าคนเรามีทั้งด้านสว่างและด้านมืด ไม่มีใครหรอกจะดีงามไปหมด ซึ่งคนที่เขาดีนั้น เขาก็แค่ใช้ด้านสว่างกดด้านมืดเอาไว้ ให้อยู่ในที่ที่มันควรอยู่ ให้อยู่ในกรอบของสังคม สมกับคำว่าเป็นคนดี แต่คนดีอาจไม่ดีจริง ถ้ามีความคิดที่เลวร้ายแฝงอยู่ แล้วถ้าเธอเห็นเธอจะดึงสิ่งนี้ออกมา

แต่ก็ใช่ว่าแนนโน๊ะ จะเป็นคนที่มีความโหดร้ายเสมอไป บ่อยครั้ง แม้เธอจะให้โทษกับบุคคลต่าง ๆ แต่ก็มีอยู่บางครั้งที่เธอต้องการ จะให้คนกลับตัวกลับใจ ให้โอกาสกับคนกลับตัว ตอนนี้ทำให้แนนโน๊ะเปลี่ยนจากซาตานกลายเป็นนางฟ้าเลยทันทีครับ

อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก ๆ ก็คือ การสร้างบุคลิกของตัวละครที่มีความชัดเจน ตัวละครที่จะสร้างคำถามกับสังคม ตัวละครที่ตอบคำถามของสังคม เป็นตัวละครที่จัดระเบียบสังคมนี้ ในแบบที่ใครหลายคนมีความคิดว่าอยากจะจัดการ นั่นก็คือตัวแนนโน๊ะนั่นเอง แนนโน๊ะ นักแสดงทั้งหมด

 

 

แนนโน๊ะจะทำหน้าที่สื่อสารกับคนดูโดยตรง ตั้งคำถามกับคนดูโดยตรง และก็เปิดโอกาสให้คนดูตอบคำถามแบบปลายเปิด

แนนโน๊ะมีบุคลิกที่ชัดเจนมาก นัยน์ตาแฝงเลศนัย รอยยิ้มของเธอแฝงไว้ด้วยความไม่ไว้วางใจ พฤติกรรมและการกระทำของเธอนั้น มันสะท้อนภาพความดัดจริตของมนุษย์ออกมาได้อย่างชัดเจนมาก ๆ ส่วนตัวแล้ว ผมขอยกย่องว่านี่คือการออกแบบตัวละครที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งของวงการบันเทิงไทยเลยทีเดียว

แต่มันจะประสบความสำเร็จไปไม่ได้เลย หากขาดคนที่จะมารับบทเป็นแนนโน๊ะ ซึ่งก็คือ น้องคิทตี้-ชิชา อมาตยกุล เธอถ่ายทอดทุกอย่างของความเป็นแนนโน๊ะได้ออกมาอย่างชัดเจน ฝีมือเธอเก่งกาจอย่างที่สุด ในแบบที่ตัวละครนี้จะเป็นได้

บอกเลยว่าหากมีการทำซ้ำหรือทำใหม่ในอนาคต ผมก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครมารับบทนี้ได้เหมือนเธอ หรือหากมีคนมารับบทนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะดีเท่าเธอหรือไม่ ขอชื่นชมจากใจจริงครับ

 

นักแสดง

นักแสดงแนนโน๊ะ ss1ประกอบเกือบทั้งหมดของเรื่อง ทางทีมสร้างเข้าก็ใช้เด็กใหม่แทบทั้งหมด หลายคนเราไม่รู้จักหน้าตาเลย บางคนก็จะออกมาให้เราเห็นในโฆษณาบ้างเล็กน้อย ส่วนตัวแล้วผมว่านี่คือสิ่งดี มันทำให้เราไม่ยึดติดกับภาพพจน์ของคนที่มาแสดง มันทำให้เราไม่รู้ว่าใครจะเป็นยังไง หลายคนเล่นดีแบบใช้ได้เลย ก็ถือว่าเป็นคลื่นใหม่ที่น่าจับตา

แต่ในบางบทบาทที่การต้องใช้ทักษะในการแสดงสูงมาก ๆ เขาก็ยังใช้บริการของนักแสดงแสดงรุ่นเก่า เพื่อมาทำให้ซีรีส์ในแต่ละตอนนั้นมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

Ep. 4 ตอน Hi-so แสดงโดย เบสท์ ณัฐสิทธิ์ นักแสดงวัยรุ่นมากคุณภาพ การันตีฝีมือการแสดงคือรางวัลสุพรรณหงส์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม มารับบทเป็นเด็กนักเรียนที่ทำตัวเป็นคนไฮโซ ซึ่งเขาก็แสดงบทบาทให้ได้อย่างยอดเยี่ยม

Ep. 9 ตอน กับดัก ซีรีส์ใช้บริการของ โอ อนุชิต นักแสดงมากความสามารถ การันตีฝีมือคือรางวัลสุพรรณหงส์สมทบชายยอดเยี่ยม และรางวัลอีกมากมาย เขามารับบทเป็นครู ที่ต้องติดอยู่ในห้องกับนักเรียน เขาสามารถสะท้อนภาพของครู ที่ถูกเด็กนักเรียนตั้งคำถามถึงบทบาทของครูได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

Ep.10 ตอน ขอบคุณค่ะคุณครู แสดงโดยคลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา นี่คือหนึ่งในนักแสดงที่มากความสามารถ มารับบทเป็นครู ที่ต้องการให้ระบบการศึกษาไทยดีขึ้น แต่เธอก็ต้องแบกรับอะไรไว้หลายอย่าง โดยเฉพาะความแตกร้าวในชีวิตคู่ของเธอ สำหรับนักแสดงคนนี้ผมถือว่าเป็น The Best ของนักแสดงรับเชิญในเรื่องนี้เลย

Ep. 11 ตอน The rank แสดงโดยป๊อก ปิยธิดา เรื่องนี้แม้ว่าเธอจะไม่ได้แสดงฝีมือมากนัก แต่รอยยิ้ม ใบหน้า ลีลาการพูด และน้ำเสีย มันก็เป็นการสร้างให้ซีรีส์ตอนนี้มีความสมบูรณ์และลงตัวมาก

และโดยส่วนตัวของผมแล้ว ซีรีส์เด็กใหม่ที่ใช้นักแสดงรุ่นเก่ามานำแสดงในบาลงตอน ผมถือว่าเป็นหนึ่งตอนที่ดีที่สุดของซีรีส์ทั้งหทดเลยทีเดียว

โดยส่วนตัวแล้ว หากนำตอนทั้งหมดของซีรี่ส์เด็กใหม่ให้ผมจัดอันดับความชอบ 3 ลำดับ ก็จะได้ดังนี้

ชอบมากที่สุดก็คือ Ep.9 ตอนกับดัก เล่าเรื่องราวของครูคนหนึ่ง กับเด็กนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง ติดอยู่ในห้องเรียน แล้วต้องหลบซ่อนอยู่ในห้องนั้น เนื่องจากว่ามีข่าวฆาตกรโรคจิตปลอมตัวเป็นนักเรียนเข้าฆ่านักเรียนไปหลายคน ในตอนนี้นำเสนอเกี่ยวกับสันดานดิบของมนุษย์ได้ดีมาก การตั้งคำถามของการทำหน้าที่ของบุคคลได้ดีมาก รวมถึงการตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของผู้ใหญ่ การทำหน้าที่ของผู้บริหารประเทศ การทำหน้าที่ของครู การทำหน้าที่ของพ่อแม่ การทำหน้าที่ของนักเรียน การทำหน้าที่ของเพื่อนต่อเพื่อน ความรับผิดชอบของคน ถือว่าเป็นตอนที่ดีมาก ดำเนินเรื่องดีสนุก ชัดเจน แถมยังสรุปได้ดีมากด้วย

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

 

 

ประเภท : โรแมนติก/ดราม่า

ผู้กำกับ : นิธิวัฒน์ ธราธร

เข้าฉาย : 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นักแสดงนำ : เรย์ แมคโดนัลด์ รับบท ตั้ม/ พิสิทธ์ , ชุติมา ทีปะนาถ รับบท เชอรี่ , จรินทร์พร จุนเกียรติ ,รับบท นุ่น, มธนากร ชินกูล รับบท ตั้ม (ไทย)

หนีตามกาลิเลโอ (อังกฤษ: Dear Galileo) (เดิมชื่อ กาลิเลโอ เพราะโลกมีแรงดึงดูดเป็น หนังไทยมาใหม่ แนวโรแมนติก/ดราม่า มีระบุเข้าฉายในโรงหนังวันที่ 23 ก.ค. พุทธศักราช 2552 ควบคุมโดย นิธิวัฒน์ พระนารายณ์ โดยภาพยนตร์หัวข้อนี้ไปถ่ายทำไกลถึง ประเทศ เมืองเป็นลอนดอน อังกฤษกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แล้วก็ เวนิส ประเทศอิตาลี ภาพยนตร์ทำรายได้ 30.34 ล้านบาท

 

เรื่องย่อ

นุ่นกับเชอรี่เป็นเพื่อนรักกัน เริ่มเรื่องที่ทั้งสองไปเล่นบันจี้จั๊มพ์ด้วยกัน และเล่าเรื่องปัญหาของตัวเองให้ฟัง “นุ่น” (จรินทร์พร จุนเกียรติ) มีปัญหารักเพราะเพิ่งจะเลิกกับแฟนที่ชื่อว่า “ตั้ม” (ธนากร ชินกูล) และพยายามที่จะลืมเรื่องของตั้ม ส่วน “เชอรี่” (ชุติมา ทีปะนาถ) มีปัญหาเรื่องเรียนเพราะอยากจะเข้าใช้ห้องเขียนแบบ แต่อาจารย์ไม่มาจึงปลอมลายเซ็น จึงถูกพักการเรียน 1 ปีเต็ม ทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันตามลำพังโดยไป อังกฤษ-ฝรั่งเศส-อิตาลี (ลอนดอน-ปารีส-เวนิส และปิดท้ายด้วยที่หอเอนพีซ่า เมืองพีซ่า) แถวบ้านเกิดของกาลิเลโอ

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

 

ระหว่างที่ไปอยู่ที่อังกฤษทั้งสองได้ที่พักของญาติ และหารายได้ด้วยการไปทำงานที่ร้านอาหารไทยในอังกฤษ ซึ่งต่อมาได้ถูกให้ออก เพราะขาดงานไปเที่ยว ทั้งสองจึงออกเดินทางไปฝรั่งเศส และได้ไปพบกับ “ตั้ม หรือ พิสิทธิ์” (เรย์ แมคโดนัลด์) ที่นั่น ตั้ม พิสิทธิ์ทำให้ทั้งสองได้คิดว่า “คนอื่นเขามาต่างประเทศก็เพื่อมาเที่ยว แต่สองคนนี้มาอยู่แต่ในครัว” ต่อมาเชอรี่ได้แสดงฝีมือทางสถาปัตย์ของตน ในงานแสดงผลงานศิลป์ที่จัดโดยตั้ม พิสิทธิ์ และเพื่อน ทำให้ได้รู้จักกับชาวอิตาลีที่สนใจงานของเชอรี่ และเสนอให้เธอไปร่วมงานด้วย ซึ่งเชอรี่ดีใจที่จะได้ทำงานที่ตนชอบ และได้อยู่ทึ่ประเทศอิตาลี ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

จากนั้นทั้งสองไปที่อิตาลี และทำงานที่ร้านอาหารอิตาลีในเวนิสโดยบังเอิญ เชอรี่วางแผนโกงเงินเจ้าของร้านกับนุ่น ซึ่งนุ่นทำเสียแผนแล้วถูกจับได้ และโดนส่งกลับประเทศไทย เชอรี่รู้สึกผิดและถ่ายคลิปขอโทษไว้ เมื่อถึงวันเกิดของกาลิเลโอตามที่ทั้งสองได้สัญญาไว้ว่าจะมาที่หอเอนพีซ่า เพื่อจะมาพิสูจน์ว่าหอมันจะล้มหรือเปล่า แต่นุ่นไม่มา เชอรี่จึงส่งเมสเสจไปหา และนุ่นก็ส่งเมสเสจกลับมาว่า “ใครคิดถึงบ้านบ้าง ยกมือขึ้น!!!” ทำให้เชอรี่ซึ้งใจกลับไปประเทศไทย แล้วทั้งสองก็เป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม หนีตามกาลิเลโอ netflix

 

พล็อตเรื่อง

ประโยคปลอบประโลมใจเพื่อนพ้องของ เชอร์รี่ (เล่นบทโดย ต่าย ชุติมาคุณถูกพักการศึกษาหลังจากปลอมลายเซ็นอาจารย์เพื่อเข้าห้องเขียนแบบ ส่วนเพื่อนซี้ของเธอ นุ่น (แสดงโดย เต้ย จรินทร์พรพึ่งเลิกกับแฟนชายหนุ่มชื่อตั้มมาหมาดๆสองสาวที่เหมือนชีวิตกำลังพบเจอกับปัญหา ก็เลยตกลงจะไปดำรงชีวิตต่างถิ่นเพื่อลืมเรื่องที่ประเทศไทย โดยจะไปสามอังกฤษ อิตาลี รวมทั้งประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแนวถิ่นกำเนิดกาลิเลโอ ส่งผลให้เกิดเป็นชื่อหนัง หนีตามกาลิเลโอนั่นเองจ้ะ

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

ประเทศแรกที่ทั้งคู่มาถึง อย่างเช่น ลอนดอน อังกฤษ ซึ่งทั้งคู่ได้ดำเนินการในห้องอาหารไทยเพื่อหารายได้เป็นคนทำอาหารในห้องอาหารไทย ชีวิตที่ดูเหมือนจะง่าย ได้ออกมาต่างชาติ แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็โดนไล่ออกเพราะเหตุว่าไม่ได้มาทำงานท่องเที่ยว ในตอนที่อยู่อังกฤษนั้น ทั้งคู่ก็ได้พบพ่อครัวชายหนุ่มใหญ่ที่มาอยู่ต่างถิ่นแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ปฏิบัติงานเป็นพ่อครัวเพื่อส่งเงินกลับไปอยู่ที่บ้าน คำกล่าวตบท้ายของชายหนุ่มใหญ่ อยู่เมืองนอกถึงจะได้เงินมากมาย แต่ว่าก็ไม่เสมือนอยู่บ้าน ที่นี้เหงาหงอย และไม่นานเขาก็โดนตำรวจจับได้และก็ส่งคืนไปบ้าน

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

สองสาวจึงเดินทางต่อไปยังเมืองโรแมนติก ปารีส ประเทศฝรั่งเศส พวกเขาก็ได้พบกับหนุ่มไทยอินดี้ นามว่า ตั้ม พิสิทธิ์ (แสดงโดย เรย์ แมคโดนัลด์) ท่ีอยู่ในปารีสในโรงงานเก่า ๆ แต่ดัดแปลงเป็นบ้าน หากตำรวจมาจับก็จ่ายค่าปรับให้ หนุ่มตั้มเป็นคนที่ช่างสังเกต เขามักจะให้ความคิดที่ได้จากการสังเกต เช่น ฉากที่เจอกับสาวนุ่น เธอกำลังข้ามถนน แต่ไม่มองรถ ทำให้หนุ่มตั้มรู้ว่าเป็นคนไทย ข้ามถนนไม่มองไฟจราจร

จนตามมายังบ้านที่เป็นโกดัง สาวนุ่นบอกว่าไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ อยู่ได้ยังไง หนุ่มตั้งก็ตอบแบบง่าย ๆ คิดว่าอยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าคิดว่าอยู่ได้ก็อยู่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา เขามาจับก็จ่ายค่าปรับ เพราะเรามาขอเขาอยู่ฟรี ทุกสังคมมีกฎ มีกติกา เรามาแอบอยู่ก็ต้องยอมเขาไป หนุ่มตั้มยังให้ฝากคำพูดจี๊ด ๆ อย่าง แปลกน่ะ มาเที่ยว แต่กลับมาหั่นผักอยู่ในครัว และไม่นานทั้งสองก็เดินทางมายังประเทศสุดท้าย บ้านเกิดกาลิเลโอ นั่นก็คือ เมืองปิซ่า ประเทศอิตาลี

ทั้งสองได้ทำงานที่ร้านพาสต้า เป็นพนักงานขาย จนเชอร์รี่ได้คิดกลโกงจากเจ้าของร้าน แอบขายพาสต้าที่เหลือ จนนุ่นโดนจับได้และถูกส่งกลับ เชอร์รี่รู้สึกผิดและเสียใจมาก เพราะเธอกลับนึกถึงตัวเองที่เคยโกงลายเซนต์อาจารย์ ถึงกลับต้องหนีมาต่างประเทศ และยังคิดว่าตัวเองถูก เรื่องนี้ทำให้เธอนั้นสำนึกผิดว่าตัวเองนั้นทำผิดจริง ๆ หนีตามกาลิเลโอ pantip

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

 

เชอร์รี่นั้นเป็นพวกแหกกฎ มักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ โลกหมุนรอบตัวเอง ไม่โทษตัวเอง ชอบจะโกงเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์โดยไม่สนว่าใครจะเดือดร้อน จนสุดท้ายเธอต้องกลับมายอมรับว่า เธอนั้นไม่เหมือนกับกาลิเลโอที่ คิดว่าตัวเองถูกเรื่องทฤษฎีโลกไม่ได้เป็นจุดศุนย์กลางของจักรวาล จนเขาตายไปแล้วถึงจะถูกพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก แต่เธอนั้นทำผิดจริง ๆ โกงยังไงก็ถือว่าโกงค่ะ เพราะสิ่งที่เธอทำมันผิดจริง ๆ

หนังกาลิเลโอยังมีหนังในดวงใจของเราอีกเรื่องหนึ่ง ที่ให้ข้อคิดแก่วัยรุ่น ช่วงที่เรามักคิดว่าทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจ อยากจะทำในสิ่งตรงข้ามโดยไม่สนสิ่งรอบข้างว่าจะมีผลร้ายอย่างไร มีพ่อแม่ พี่น้องเป็นห่วงเราอย่างไร และการใช้ชีวิตที่อาจจะเหมือนว่าง่าย ไม่ว่าจะใช้ชีวิตที่ไหนก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์ของสังคม เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราค่ะ เราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่งเหมือนทฤษฎีโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เรื่องนี้จึงเป็นหนึ่งโปรดของเราด้วยปราการฉะนี้ค่ะ

 

เกร็ดจากภาพยนตร์

 

  • ผู้กำกับ ต้น นิธิวัฒน์ ใช้วัยรุ่นสาวไทย 2 คนเป็นตัวละครนำในเรื่องนี้ เนื่องจากประสบความสำเร็จจากสูตรนี้มาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตัวละคร เชอรี่ ที่รับบทโดย ต่าย ชุติมา มีปัญหาต้องหยุดเรียน 1 ปี เพราะทำผิดกฎที่เธอคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เหตุการณ์นี้คล้ายกับชีวิตจริงของผู้กำกับ ต้น นิธิวัฒน์ ที่เคยเกือบไม่ได้รับปริญญาเพราะมีเรื่องทะเลาะกับอาจารย์
  • 1 ในตอนแรก ผู้กำกับไม่แน่ใจว่า ต่าย ชุติมา และ เต้ย จรินทร์พร ที่อายุห่างกัน จะสามารถแสดงเป็นเพื่อนวัยเดียวกันได้หรือไม่ แต่เมื่อให้ทั้งคู่ลองแสดงด้วยกัน ผู้กำกับเห็นว่าไม่มีปัญหาน่าหนักใจเลย ต่ายและเต้ย จึงรับบท เชอรี่และนุ่นตามลำดับ
  • 2 ในตอนแรก ผู้กำกับกำหนดตัวละคร ตั้ม มีอายุประมาณ 26-27 ปี จึงไม่แน่ใจว่า เรย์ แมคโดนัลด์ ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี จะเหมาะสมกับบทหรือไม่ แต่เมื่อให้เรย์ลองแสดงแล้ว ต้นคิดว่าเรย์ ทำให้ตัวละครตั้ม มีความน่าเชื่อถือ มีมิติ และน่าสนใจยิ่งขึ้น หนีตามกาลิเลโอ เต็มเรื่อง 037
  • แผนกคัดเลือกนักแสดงหาคนที่มารับบท พี่ทอม อยู่นาน จนกระทั่ง จิระ มะลิกุล ผู้อำนวยการสร้างแนะนำให้เลือก ชำนิ ทิพย์มณี เพราะชำนิเคยเดินทางไปอยู่ต่างประเทศด้วยตนเอง แล้วยังดิ้นรนทำงาน และเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับทอมในเรื่อง อนึ่งชำนิเป็นช่างภาพมืออาชีพฝีมือดี ผู้สร้างจึงให้ชำนิช่วยถ่ายภาพใบปิด (โปสเตอร์) ของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

คงต้องบอกว่า คนที่เคยจากบ้านไปเรียนเมืองนอก หรือไปอยู่หอ คงจะซึ้งกับเรื่องนี้น่าดู เพราะหนังแสดงอารมณ์ของความเป็นห่วงของพ่อแม่ต่อลูกที่ต้องจากบ้านไปไกล และอารมณ์ของโรคโฮมซิก คิดถึงบ้านได้อย่างละเอียดดีมาก

ในส่วนของการใช้ชีวิตเมืองนอก ก็เก็บรายละเอียดการใช้ชีวิตในทุกๆแง่มุมได้ดีมาก เรียกได้ว่า สมาคมศิษย์เก่านักเรียนนอก ดูแล้วต้องอมยิ้ม ว่า ?ตูก็โดนมาแล้ว? หรือคนที่กำลังอยากจะไปหาความศิวิไลซ์เมืองนอกก็จะได้รู้และเตรียมตัวไว้ก่อนเลยว่า ?มันไม่ใช่อย่างที่คิด?

 

 

การดำเนินเรื่องพูดกันตามตรงว่ามีความเรื่อยเฉื่อยอยู่บ้าง แต่ในความเรื่อยเฉื่อยนั้น ได้ปูเรื่อง และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ให้คอยลุ้นว่าจะเกิดอะไรต่อไป หรือไม่ก็อมยิ้มกับมุกกุ๊กกิ๊กได้ตลอดเวลา และได้สร้างบรรยากาศให้กับผู้ชมอย่างดีไปสู่ฉากตอนจบให้ได้รับคำตอบของชีวิต ของผู้หญิงสองคนนี้ อย่างไม่ต้องแปลความอะไรกันอีก ได้ข้อคิดที่ชัดเจน

ขอชมเชย น้องต่ายที่เล่นได้อารมณ์ เหงา กวน ลองดี ภูมิใจ ได้อย่างชัดเจนเป็นธรรมชาติ และเรย์ แมคโดนัลด์ที่ ?กวนโอ๊ย? ได้อย่างลงตัว เป็นถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจของเรื่องนี้ ส่วนตัวประกอบบางคนดูไร้อารมณ์ไปหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้เนื้อเรื่องเสียรสชาติ น้องเต้ยก็เล่นได้น่ารักแต่ซีนอารมณ์ยังไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ หนีตามกาลิเลโอ เต็มเรื่อง hd

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

 

 

ส่วนตัวถูกใจชื่ออังกฤษมากยิ่งกว่าชื่อไทยอีกสำหรับ Brother of The Year 2018 ที่ให้อารมณ์กระทบกระแทกแดกดันรวมทั้งกวนบาทาใช่ย่อย ส่วนชื่อไทย น้อง.พี่.ที่รัก ก็เล่นคำก้าวหน้าทั้งยังมีสัมผัสเสียง หนังไทยมาใหม่ อีกทั้งการแบ่งส่วนที่จะถูกเล่าได้อย่างเห็นได้ชัดเป็น น้องสาวแสนสวย พี่ชายแสนหวงที่กั้นกึ่งกลาง แล้วก็แฟนชายหนุ่มแสนสวย ยังไม่รวมทั้งการมีจุดกั้นระหว่างกันให้รู้สึกถึงความไม่เชื่อโยงมีความขัดแย้งเล็กด้วย ก็จัดว่าคิดจัดเตรียมบ้านมาดีสมกับเป็นหนังค่าย GDH ที่ช่ำชองประเด็นการทำหนังตามมาตรฐานอยู่แล้ว

หนังเรื่อง น้อง.พี่.ที่รัก เต็มเรื่อง พากย์ไทย นี้เป็นการกลับมาท้าตลาดครั้งที่ แบบงานคนเดียว สำหรับ บอล – วิทยา ทองอยู่ยง ผู้กำกับที่ตั้งใจกับสายตลกขบขันนำ ที่คงจะมีอยู่ไม่กี่คนภายในค่าย GDH ที่จะมุ่งทางชัดขนาดนี้ ทั้งยังจาก เก๋า..เก๋า (2549) รวมทั้ง บ้านฉัน..ตลกขบขันไว้ก่อน (พ่อสอนไว้คราวนี้ไม่มี .. ในชื่อหนัง แม้กระนั้นใช้ เดี่ยวคั่นแทน ก็จะถือว่าเป็นลายเซ็นของบอลอย่างหนึ่งได้แล้วมั้งกับเรื่องการมี ในชื่อหนัง รวมทั้งคราวนี้มีถึง 

เลยด้วย นั่นเลยหวังได้ว่ามันคงมีอะไรมัน ๆ ขึ้น  (ฮา) คือส่วนตัวเลยยอมรับว่าชอบงานที่ไม่สมบูรณ์แบบของเขานะ มันมีความสดและความดิบใน เก๋า..เก๋า พอสำเร็จระดับหนึ่งเขาก็ลองเพิ่มความละมุนลงไปใน บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน แต่ก็ยังไม่ทิ้งเรื่อง “ตลก” ที่เป็นสิ่งที่เขาสนใจไป และแม้ตลาดอาจไม่ได้ตอบรับหนังของบอลในระดับยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับงานเรื่องดังของค่าย แต่ก็ต้องบอกว่า บอล มีแฟนคลับของเขาที่เข้มข้นพอสมควรทีเดียว และน่าชื่นชมที่เขาไม่พยายามเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ใช่

เรื่องนี้เขาได้องค์ประกอบนักแสดงที่เด็ดดวงยิ่งกว่าครั้ง เก๋า..เก๋า ที่ตอนนั้นก็นับว่าเด็ดจนไม่น่าจะทำได้ในยุคนี้อีกแล้ว เพราะรอบนี้ได้ดาราเบอร์ต้นของประเทศมาแสดงนำถึง 3 คนเลย (ซึ่งทั้งเรื่องก็เหมือนจะเน้นแค่นี้จริง ๆ) คือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ในบท ชัช พี่ชายจอมป่วนหวงน้องสาว) ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ในบท เจน น้องสาวสุดเพอร์เฟกต์) และแม่เหล็กอันดับหนึ่งแห่งวงการติ่งเกาหลีไทย คุณ – นิชคุณ หรเวชกุล (ในบท โมจิ หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นสุดคิ้วท์)

 

เรื่องราว

เรื่องราวว่าด้วยสายสัมพันธ์ของพี่น้องที่อาจจะรักกันแบบซึน ๆ หน่อย จนกลายเป็นทั้งความดราม่า และความตลกฮาไปพร้อมกัน เมื่อน้องสาวที่มีพี่ชายไม่เอาอ่าว และพยายามขัดขวางความรักของน้องสาวทุกทาง เธอจะต้องสู้เพื่อความรัก และเอาตัวปัญหาออกจากชีวิตให้ได้ ซึ่งในอีกทางคำว่าพี่น้องมันก็ตัดกันไม่ขาด แล้วจะลงเอยอย่างไร เพราะตัวพี่ก็แสบเสียเหลือเกิน

ด้วยเนื้อหาที่เอาจริง ๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเหมาะเป็นหนังไหม หรือควรแค่ซีรีส์ แต่ด้วยฝีมือการเขียนบทของ GDH ก็สามารถหากิมมิกนู่นนี่มาเสริมเนื้อหา ให้มีแง่มุมมากขึ้นได้อย่างน่าสนใจ ทั้ง

การที่ซันนี่เป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านเพราะพ่อที่เป็นฝรั่งทิ้งไปตั้งแต่เด็ก ลุงที่เป็นเหมือนพ่อก็แปลงสภาพเป็นคุณป้า เขาต้องแบกรับความเป็นตัวแทนพ่อจนอาจเกิดความกดดันและหนีปัญหาเมื่อพบว่าตัวเองห่วยเกินกว่าจะเป็นผู้นำครอบครัวให้น้องภูมิใจ ด้วยการทำตัวเละเทะเกินเยียวยาให้ทุกคนสนใจแทน

 

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

 

น้องสาวอย่างญาญ่าที่รู้ตัวอีกที พี่ที่เป็นโรลโมเดลตอนเด็กจนทำให้เธอสนใจความเป็นญี่ปุ่นทุกอย่าง ทั้งจากการ์ตูนที่พี่อ่าน เบสบอลที่พี่ชอบเล่น จนได้สอบชิงทุนไปญี่ปุ่นสำเร็จ แล้วก็พบว่าจริง ๆ พี่ชายคือตัวปัญหา ตัวภาระ ที่โยนทุกอย่างมาให้น้อยสาวอย่างเธอจัดการ แต่เธอแม้จะปากว่าหน้าร้ายกับพี่ แต่ลึก ๆ เธอก็ห่วงและพยายามช่วยพี่ชายทุกทาง

นิชคุณในบทหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นที่ตกหลุมรักญาญ่าแบบแทบจะทันที เขาพร้อมยอมแลกทั้งหน้าที่การงาน ทั้งชีวิตที่เหลือหากต้องทิ้งญี่ปุ่นมาอยู่ไทย และเงินสินสอดที่พี่ชายจอมป่วนพยายามสร้างกำแพงขวางไว้ เขาคือความมุ่งมั่นความรักของผู้ชายอบอุ่นในแบบที่ซันนี่ให้ไม่ได้กับครอบครัวนี้

แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ หนังไม่ได้ใช้โมเม้นท์ใดมาขยายเพิ่มมิติทางตัวละครได้คมคายพอ ทั้งเรื่องปมในตัวซันนี่ ที่สุดท้ายก็มาแค่คำพูดว่า จริง ๆ รักน้องสาวแต่เกลียดความห่วยของตัวเอง ซึ่งจนแล้วจนรอดจนจบหนังเราก็ไม่ได้เห็นความพยายามในการเป็นฝ่ายให้น้องสาวใด ๆ เลย ไม่มีมุมแบบที่รู้สึกเลยว่าคนเป็นพี่ชายเป็น ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

จุดอ่อนหนัง

เป็นหนังเรื่องแรกของ GDH เลยมั้ง ที่รู้สึกว่าบทพร่องมากจนเราไม่อิน พร่องถึงขนาดว่าตัวละครหลักไม่มีพัฒนาการใด ๆ ต้นหนัง กลางหนัง และจบหนัง ซันนี่คือคนเดิมที่เพิ่มเพียงคำพูดเก๋ ๆ  และการกระทำที่เกิดมาก็แค่ไหลไปตามสถานการณ์ ไม่ได้พิสูจน์ตัวอะไรเลยว่าจริง ๆ เขารักน้องสาว ไม่มีการเสียสละอะไรเลยสักอย่างทั้งแรงกายแรงใจในแบบพี่ชาย ซึ่งในขณะที่ทุกคนในหนังทั้งตัวน้อง ตัวแฟน ตัวแม่ ทุกคนเป็นฝ่ายให้ตัวพี่ชายมาตลอด จนถึงสุดท้ายเราอาจโอเคกับบทสรุปฟีลกู้ด แต่เราก็ยังไม่อินกับสายสัมพันธ์คู่นี้จริงๆ ว่ามันเป็นพี่น้องซึน ๆ ที่รักกัน คือหนังฟีลกู้ดที่มีคนห่วย ๆ แต่รักจริง มันก็จะใช้ความจริงใจแบบห่วย ๆ แสดงการกระทำแบบทื่อ ๆ จริงใจ ๆ เรียกน้ำตาได้

 

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

 

เพราะความรักที่ไม่มีการกระทำมายืนยัน มีแค่คำพูด มันก็ถือว่าไม่ได้รักนั่นล่ะ

 

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

กิมมิกย่อย ๆ ที่ปกติทำงานได้ดีกับบทหนังค่ายนี้ที่ชอบทิ้งไว้แล้วเอามาตีหน้าคนดูตอนท้ายให้จุกซึ้งได้ประจำ กับเรื่องนี้กลายเป็นว่าพยายามเข้ามาเพื่อสร้างมุกแต่ไม่มีผลอะไรเลย ทั้งนกฮูกที่ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ นอกจากตั้งใจเอามาสร้างความแปลกใจ ซึ่งจริง ๆ ในแง่เนื้อหาหน้าที่การต้องมีอยู่ของมันจะเป็นหมา แมว เสือดำ ก็ไม่ต่างกันเลย น้องพี่ที่รักเต็ม pantip

 

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

 

ฉายาของซันนี่อย่าง พี่ขอย ที่มันต้องมีอะไรแน่ ๆ เรารอความหมายที่แท้จริงของมันมาตลอดว่ามันต้องกระแทกเราแน่ ๆ ในตอนเฉลยแบบที่หนังค่ายนี้ชอบวางกลไว้กับคนดู แต่แล้วเอาเข้าจริงฉายามันกลับไม่มีอะไรเลย ความหมายคือคำเหยียดหยันที่มาจากน้องที่บอกว่ารักพี่คนนั้นด้วยซ้ำ แถมไม่มีแง่มุมความสำนึกผิดที่น้องสาวทำให้ทุกคนเรียกพี่แบบนี้มาจนโตแม้แต่นิดเดียว มันไม่ได้มีแง่มุมของความรักซ่อนอยู่ในชื่อฉายานี้แต่อย่างใดเลยจริง ๆ (สรุปรักกันหรือเปล่าเริ่มไม่แน่ใจ?)

 

สปอยหนัง น้อง.พี่.ที่รัก

คำถามพวกนี้ยังตามราวีไปถึงต้นถึงกลางเรื่อง เมื่อพี่น้องเริ่มกลั่นแกล้งกันรุนแรง ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินเลยลิมิตชีวิตปกติที่พี่น้องที่ยังรักกันจะแกล้งกัน เพราะมันลากไปถึงขนาดทำลายอาชีพการงานกันได้ คือมันถูกใส่เพื่อพัฒนาสถานการณ์เพื่อสร้างมุกล้วน ๆ  ซึ่งมันตลกจริง ๆ ล่ะ แต่มันทำลายความน่าเชื่อถือของหนังที่พยายามจะไปดราม่าตอนท้าย เพราะเราไม่รู้สึกอะไรเลยจริง ๆ ว่ามันแอบมีมุมรักกันอยู่ ถ้าบอกว่าเกลียดกันจนมีฝ่ายหนึ่งตายแล้วคนที่เหลือถึงสำนึกมันยังดูมีแง่มุมให้เข้าใจมากกว่า

การพยายามเป็นทั้งหนังตลก และหนังดราม่า สร้างปัญหาไม่แพ้กัน เพราะแนวทางมุกที่หนังพยายามเป็นในช่วงครึ่งแรกมันคือมุกสไตล์ญี่ปุ่นที่เว่อ ๆ แฟนตาซี การ์ตูน ๆ นิด ๆ แบบใน เมย์ไหนฯ แต่ดันยืนบนพื้นที่ดูเรียลดูชีวิตจริงจนไม่เข้ากัน ยิ่งพอดราม่ามันจริงจังขึ้น เราเลยยิ่งไม่อิน ทั้งยังทำลายความน่าเชื่อบางอย่างไปด้วย อย่างมุกจีบกันตอนสัมภาษณ์งานที่ให้นิชคุณนินทาเป็นภาษาญี่ปุ่นโต้ง ๆ

 

 

ต่อหน้าญาญ่า มันขัดคาแรกเตอร์คนญี่ปุนที่จะนินทาคนชาติอื่นแบบเปิดเผยขนาดนั้นในที่ทำงาน ทั้งยังแสดงความโง่ของพระเอกที่คาแรกเตอร์ดูฉลาดลงด้วยเพราะไม่รู้แม้แต่นางเอกเรียนจบญี่ปุ่นมาทั้งที่อยู่ในใบสมัครงาน นี่คือตัวอย่างเล็ก ๆ ที่หนังที่จะขายความจริงจังในดราม่าความสัมพันธ์ได้เตะตัดขาตัวเองด้วยการพยายามให้ตลกตั้งแต่ต้นๆ เรื่อง น้องพี่ที่รัก ดูได้ที่ไหน

‘ครอบครัวเดียวกันทั้งในจอและนอกจอ’ Zoë Kravitz คือลูกเลี้ยงของ Jason Momoa ผู้รับบท Aquaman

คือมองว่าเลือกทางตลกผิดจริง ๆ ในหนังเรื่องนี้ ตลกคาเฟ่อุ่น ๆ ดราม่าอย่างใน บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อนฯ หรือจะบ้าให้สุดอย่างใน เก๋า..เก๋า ยังเนียนกว่า คือต้องเลือกสักอย่าง

 

หนังค่ายGDH

แต่พูดไปขนาดนั้นใช่ว่าหนังจะไม่น่าดูนะครับ เพราะเอาจริงๆ คือหนังมีมาตรฐานสูงตามสไตล์ GDH มีดาราที่ทรงพลัง การแสดงที่ไม่ได้บทส่งแต่ก็ยังเอาอยู่ โดยเฉพาะฉากดราม่าหลังตักบาตรช่วงท้ายหนังคือสิ่งยืนยันที่เชื่อว่าทุกคนถูกสั่นสะเทือนหัวใจด้วยพลังการแสดงของจริง – น่าเสียดายที่เรารู้สึกกับหนังจริง ๆ แค่ฉากนี้ในส่วนดราม่า ซันนี่ ญาญ่า นิชคุณ คือสิ่งที่ลงตัวมาก ๆ มีเสน่ห์มาก ๆ แม้คนที่จะน่าจดจำจริง ๆ มีแค่ซันนี่ก็ตาม แต่ต้องบอกเลยว่าทีมดาราสมควรได้รับการชื่นชมทุกคนครับ

 

 

และสำหรับคนที่แสวงหาความบันเทิงมุกตลกของมันก็ทำงานได้เยอะ ได้เพลิน เป็นอีกหนังที่ดูเพื่อผ่อนคลายได้ดีมาก ๆ น้องพี่ที่รัก พากย์ไทย

หนังเข้าฉายแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจ้า ยังแนะนำนะ ไปดูมุกตลกกับการแสดงและหน้าหล่อ ๆ สวย ๆ ก็ยังคุ้ม เราอาจไม่ชอบมาก แต่คุณอาจชอบสุด ๆ ไปเลยก็ได้ ต้องไปพิสูจน์เองจ้า

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

 

 

ภาพยนตร์ Action 3D ที่จะทำให้ท่านมันไปกับสุดๆขั้นของการต่อสู้ครั้งใหม่ โดย จาพนม หนังไทยย้อนยุค เมื่อปัจจัยการฆาตกรรมของอาเสี่ยสุชาติเจ้าข­องปางช้างผู้กว้างขวาง เป็นการเช็ดกกระแทกเข้าอย่างจังในจุดตาย ที่โดยผู้ที่มีความชำนาญด้านการต่อสู้ หลักฐานทั้งหมดทั้งปวงระบุผูกตัว ไอ้ขาม (จาพนม ยีรัมย์) เนื่องด้วยเขาเป็นคนในที่สุดที่ถูกเจออยู่ในท­ี่เกิดเหตุกับคนเสียชีวิต เขาก็เลยจะต้องแอบหนีจากการเข้าจับกุม แล้วก็การตามล่าเพื่อชำระแค้นจากหลานสาวแฝดข­องอาเสี่ยสุชาติ (จีแรงญาณิน วิสมิตะนันทน์ และก็ธีรดา คำเลื่องลือศรีดีเลิศ แม้กระนั้นโชคยังเข้าข้างเมื่อระหว่างการแอบหนี ขาได้รับการเกื้อกูลจากนายสิบมาร์ค(กิน จ๊กม๊ก) ตำรวจสากลที่ถูกส่งมาจากซิดนีย์เพื่อจัดกา­รภารกิจบางสิ่งบางอย่าง

ขาหนีการตามล่า พร้อมทั้งการตามหา ขอน ช้างตัวเดียวที่เป็นเหมือนทั้งเพื่อนรวมทั้งพี­่น้อง ซึ่งถูกขโมยไปเมื่อนับเป็นเวลาหลายวันก่อน ยิ่งหนี ขาม ก็ยิ่งจำต้องเข้าไปพันพัวกับหน่วยงานลึกลับที่­ถูกควบคุมด้วย แอล ซี (RZA)นายใหญ่ผู้ลุ่มหลงการสั่งสมนักสู้จาก­ทั้งโลกอย่างลับทำให้เหล่านักสู้ที่ถูกตีตราด้วยจำนวน ไม่ว่าจะเป็น เวนตี้ (Twenty — หญิง รฐา โพธิ์สวยหรือ Number2 (มาริส) ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายอยู่ที่การจัดการ ไอ้ขาม เพื่อจุดหมายบางสิ่งของนายใหญ่ จัดเตรียมเจอกับการต่อสู้แบบสุดๆขั้นของ จา พนม ด้วยศิลป์การต่อสู้นานาประเภท เสี่ยงตายทุกวินาที และก็การออกแบบฉากต่อสู้เสี่ยงตายทุ่มทุนสร้­างสูงสุดของภาพยนตร์แอ๊คชั่นไทยที่ทั่วทั้งโลก­จำต้องจับตา พร้อมการถ่ายทำในระบบ มิติทุกขั้นตอน

 

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ การเดินทางข้ามโลกของ “ขาม” (จา พนม ยีรัมย์) เด็กหนุ่มบ้านป่าที่ชีวิตต้องพลิกผันโดยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่ลักพาช้างพลายสองพ่อลูก ซึ่งเด็กหนุ่มและ “พ่อของขาม” (โสรธร รุ่งเรือง) เขารักดั่งชีวิต และมีความมุ่งหมายอันสูงสุดที่จะมอบเป็นคชบาทแด่ในหลวง ไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือและรักษาชีวิตของช้างอันเป็นที่รักของเขาได้ นั่นก็คือ การบุกตะลุยถึงถิ่นเสือ โดยการเดินทางข้ามโลก

 

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

 

เรื่องไม่ง่ายอย่างใจคิด แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก “จ่ามาร์ค” (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทยและ “ปลา” (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ก็ตาม แต่ที่นั่น เขากลับต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งค์มาเฟียที่นำโดย “มาดามโรส” (จิน ซิง) ที่มีลูกสมุนต่างชาติที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้อย่าง “จอห์นนี่” (จอห์นนี่ เหงียน) และ “ทีเค” (นาธาน โจนส์) พร้อมลูกสมุนย่อยที่มีฝีไม้ลายมือทางการต่อสู้เหลือรับอย่าง “คาโปเอร่า” (ลาธีฟ คราวเดอร์) และ “วูซู” (จอน ฟู) อย่างไม่ได้ตั้งใจ ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ พ่อใหญ่ และ ขอน ช้างพ่อลูก ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ถึง อานุภาพของ “ไม้มวยไทยโบราณ” ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ “ตำนานมวยคชสาร”
ตั้งเครื่อง “ต้มยำกุ้ง”

 

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

 

การกลับมาแท็กทีมกันอีกครั้งของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร, พนม ยีรัมย์ (โทนี จา) และ หม่ำ จ๊กม๊ก” ในภาพยนตร์แอคชั่นที่มาเพื่อสร้างปรากฏการณ์ทางรายได้ในระดับเมกาบล็อกบัสเตอร์ ทุ่มทุนสร้างกว่า 300 ล้านบาท สูงสุดรองจาก “สุริโยไท” (2544) ลงทุนยกกองไปถ่ายทำใน “ซิดนีย์ ออสเตรเลีย” พร้อมการมาถึงของแอคชั่นดีไซน์ที่สุดขั้วยิ่งกว่า “องค์บาก” (2546)

ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้องได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ “พ่อใหญ่” และ “ขอน” ช้างพ่อลูกที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ถึงอานุภาพของ “แม่ไม้มวยไทยบทใหม่” ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ “ตำนานมวยคชสาร” หนัง ต้มยำกุ้ง 1 pantip

 

พล็อตหนัง

ขามเป็นวันสุดท้ายของสายครอบครัวของยามที่เคยดูมากกว่าพระมหากษัตริย์ไทย ‘s ช้างศึก ตามเนื้อผ้า มีเพียงช้างที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่านั้นที่สามารถปกป้องบัลลังก์ได้สำเร็จ และได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดีในการเลี้ยงดูพวกมัน คำเติบโตขึ้นมาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับช้าง พ่อใหญ่ และลูกวัวของเขา Kohrn ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ช้างถูกขโมยไปโดยได้รับความช่วยเหลือจากนายสุเทพส.ส.ท้องถิ่นและลูกชายของเขาที่ร่วมมือกับคนล่าช้าง คำบุกบ้านนายสุเทพ ทุบตีนายพราน เขาไก่ชนสุเทพเข้าไปบอกเขาว่าช้างที่มีอยู่ในมือของจอห์นนี่ที่เวียดนาม คนร้ายที่ทำงานร้านอาหารไทยชื่อต้มยำกุ้ง Otob ในซิดนีย์ , ออสเตรเลีย

 

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

 

คำมาถึงซิดนีย์และถูกจับเป็นตัวประกันโดยทันทีโดยขโมยที่ปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่ มาร์ค เจ้าหน้าที่ตำรวจซิดนีย์( เพชรใต้ วงษ์คำเหลา ) ชาวไทย-ออสเตรเลียและริค หุ้นส่วนของเขา เข้ามุมโจรขณะจับขามด้วยปืนจ่ออย่างไรก็ตาม สารวัตรวินเซนต์ ตำรวจคนที่สองได้ติดตามขามตั้งแต่ออกจากสนามบิน อันดับแรกเขายิงขโมย หลังจากที่โจรตายเขาก็พยายามจะยิงใส่ขาม มาร์คที่งงกับการกระทำของวินเซนต์ ตั้งคำถามว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น Vincent โต้แย้งว่าคำไม่ใช่ตัวประกันและสั่งให้ Mark และ Rick นำตัวเขาไปซึ่งในที่สุดพวกเขาก็ทำ ในรถ คำบอกมาร์คว่ากำลังตามหาญาติ(แต่ไม่ได้บอกโดยตรงว่าคือช้าง) ระหว่างทาง พวกเขาพบจอห์นนี่ที่ร้านอาหารต้มยำกุ้ง ดูหนัง ต้มยำกุ้ง 2

 

สปอยหนัง ต้มยำกุ้ง 1

คำเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอยและกระตุ้นให้มาร์คกับริกจับกุมเขา แต่มาร์คแย้งว่าเขาทำไม่ได้เพราะคำไม่ได้เสนอหลักฐานการก่ออาชญากรรม คำทำให้รถชนกันหนีตำรวจ เขาตามจอห์นนี่ไปที่สะพาน แต่จอห์นนี่หนี บังคับให้ขามต่อสู้กับพรรคพวกของเขาคำบังคับลูกน้องคนหนึ่งให้พาเขาไปยังที่ซ่อนของจอห์นนี่ ขัดขวางการค้ายาเสพติด จอห์นนี่โกรธจัดเรียกผู้ชื่นชอบกีฬาผาดโผนนับไม่ถ้วนมาต่อสู้กับขาม หลังจากเอาชนะพวกอันธพาล คำก็หมดแรงและผล็อยหลับไปในตรอก โสเภณีชื่อปลา( บงกช คงมาลัย )ซึ่งพบคำก่อนหน้านี้เมื่อเขาเผชิญหน้ากับจอห์นนี่ พาเขาไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ ในยามหลับใหล เขาฝันถึงการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับช้างศึกและจตุรังคบาตผู้พิทักษ์ช้าง เมื่อปลาจากไปขามก็ตื่นมาเพราะเสียงไซเรนตำรวจจึงต้องหนี

มาร์คและริกถูกนำออกจากคดีนี้และได้รับมอบหมายใหม่เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยสำหรับการประชุมผู้บัญชาการตำรวจกับนายซิม ในการประชุมครั้งนั้นปลาทำหน้าที่เป็นสาวปฏิคมและนักเต้นให้กับชายทั้งสอง ในระหว่างการประชุม คุณซิมและกรรมาธิการถูกฆ่าโดยใครบางคนที่วินเซนต์จ้าง อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมนั้นถูกจับได้จากกล้องของผู้บัญชาการ วินเซนต์ฆ่าริคและโยนความผิดให้มาร์ค มาร์คหนีแต่ถูกจับได้ในเวลาต่อมา

 

 

ด้วยความช่วยเหลือของปลา คำจึงเข้าไปในต้มยำกุ้งโอตอบ เขาต่อสู้เพื่อเข้าไปในพื้นที่ VIP และไปถึงห้องอาหารที่อยู่ด้านบนสุด คำถาม “ช้างของฉันอยู่ที่ไหน” และพบกับเสียงหัวเราะของจอห์นนี่และลูกน้องของเขา จอห์นนี่เยาะเย้ยขามด้วยระฆังของคาน สิ่งนี้ทำให้ Kham เดือดดาลและเขาต่อสู้และเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขา เขาเข้าไปในพื้นที่เก็บของซึ่งมีสัตว์ต่างถิ่นมากมายพร้อมที่จะฆ่าและกิน คำพบและปล่อยตัวมาร์คและคนให้เป็นอิสระ โดยหลบหนีไปได้ไม่กี่นาทีก่อนที่ตำรวจจะมาถึง ในขณะเดียวกัน มาดามโรสได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแก๊งชาวจีนคนใหม่หลังจากที่เธอสังหารผู้สืบทอดที่เป็นไปได้อีกสองคน

 

สรุปหนัง

สารวัตรวินเซนต์เริ่มต้นการค้นหาคำและมาร์คที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในที่พุทธอาราม ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป อารามถูกจุดไฟเผาโดย Vincent และคนของเขา มาร์คและขามเชื่อว่าวัดและผู้อยู่อาศัยอาจตกอยู่ในอันตรายจึงตัดสินใจหันหลังกลับ เมื่อพวกเขามาถึง Kham ได้พบกับนักฆ่าสามคน: คาโปริสต้าที่ดุร้าย(ลาทีฟคราวเดอร์ ),ผู้เชี่ยวชาญวูซู( จอน ฟู )ที่ถือดาบและนักมวยปล้ำร่างยักษ์( นาธาน โจนส์ )คำเอาชนะผู้เชี่ยวชาญคาโปริสตาและวูซูแต่นักมวยปล้ำรายใหญ่พิสูจน์แล้วว่าแข็งแกร่งเกินไปสำหรับขาม นักมวยปล้ำได้เปรียบเหนือขาม แต่ตำรวจมาถึง และมาร์คก็มาช่วยเขาหนี พอรุ่งเช้าขามก็ออกเดินทางมาร์คถูกตำรวจหลายคนค้นพบและถูกส่งตัวไปจัดการกับสารวัตรวินเซนต์ ซึ่งปลาได้เปิดเผยว่าเป็นฆาตกร หนังต้มยำกุ้งภาค 2

คำมาถึงห้องประชุมที่มาดามโรสกำลังแถลงข่าว โคห์นวิ่งเข้ามาทำให้ทุกคนหวาดกลัวในขณะที่ขามต่อสู้กับพวกอันธพาล มาร์คจับกุมวินเซนต์ แต่จอห์นนี่มาถึงและยิงวินเซนต์จนเสียชีวิตเพื่อ “ตัดสิน”

 

 

คำพบว่าตัวเองอยู่กับ Kohrn ในห้องขนาดใหญ่ และเขาได้แสดงโครงกระดูกของพ่อใหญ่ที่ประดับด้วยเพชรพลอยเพื่อเป็นของขวัญให้กับมาดามโรส จากนั้นคนของเธอก็โจมตีขามและโจมตีพวกเขาอย่างโหดเหี้ยมกว่าที่เคยเห็นมาโดยหักแขนและขาของผู้ชายจำนวนมาก นักมวยปล้ำจากวัดถูกเรียกเข้ามาพร้อมกับอีกสามคน โคห์นถูกเหวี่ยงทะลุกำแพงแก้ว และขามถูกกระแทกเข้ากับเครื่องประดับช้าง ทำให้กระดูกขาทั้งสองหลุดออกมา คำตระหนักดีว่าเส้นเอ็นเป็นส่วนที่เปราะบางและสำคัญที่สุดของช้างที่ต้องปกป้อง และด้วยความรู้นี้ เขาจึงเอาชนะนักมวยปล้ำที่ดุร้ายทั้งสี่โดยใช้ปลายกระดูกช้างที่แหลมคมผ่าเอ็นของพวกมัน เขาหยุดมาดามโรสก่อนที่เธอจะสามารถหลบหนีด้วยเฮลิคอปเตอร์และทั้งคู่ก็พุ่งเข้าชนห้องด้านล่าง การร่วงของขามหักด้วยงาของพ่อใหญ่

กลับมาที่ล็อบบี้ มาร์คเห็นปลา และสารวัตรลามอนด์เจ้านายของเขาให้อภัย เขาได้รับคู่หูใหม่ที่พูดภาษาไทย มาร์คถูกนักข่าวสัมภาษณ์เกี่ยวกับคำ ในที่สุดก็ได้ยินเสียงบรรยายจากมาร์ค พร้อมแสดงฉากในวัยเด็กของขาม มาร์คอธิบายว่าคนไทยปฏิบัติต่อช้างเหมือนเป็นพี่น้องกัน และเกลียดชังคนที่ทำร้ายช้าง คนไทยรักความสงบ แต่ไม่ชอบคนใช้เสรีภาพ ในที่สุดขามก็กลับมาพบกับโคห์นอีกครั้ง หนังต้มยำกุ้งภาค1