Tag Archives: รีวิวหนัง2023

รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญ

รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย

รีวิวหนังไทยมาใหม่ และในวันนี้เราก็มี รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย ก็สงสัยอยู่ว่า หนังจะเป็นแบบไหน จะใกล้เคียงกับอะไรที่เราเคยคุ้นกันหรือเปล่า ดูจากตัวอย่างก็เริ่มรู้ว่า มันเป็นหนังวัยรุ่นสไตล์สยองขวัญ เรื่องราวของเด็กสี่คนที่ไปเที่ยวด้วยกันก่อนที่จะการตายของหนึ่งตัวละครจะเกิดขึ้น

ตัวอย่างก็บอกไว้เพียงเท่านี้ ไม่มีใครรู้อะไรอีกหลังจากนั้น จนกว่าจะได้ดูหนังเต็มๆ การจะบอกเล่าอะไรลงไปในข้อเขียนนี้ จึงกลายการสปอยล์เรื่องราวต่างๆ ไปในทันที เอาเป็นว่า ลองดูตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนได้ที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ นักแสดงนำหลักๆในเรื่องก็ได้แก่ 

จิรายุ ละอองมณี รับบท สิงห์ , สุทัตตา อุดมศิลป์ รับบท มีน , พิมพกานต์ ​แพร่คุณธรรม​ รับบท จอย , เอกวัฒน์ นิรัตน์วรปัญญา รับบท ติ่ง , กฤษ สถาปนพิทักษ์กิจ รับบท กานต์ , กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ รับบท แม่ติ่ง/แม่จอย ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแบบไหนมาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อมๆกันในบทความนี้ได้เลยนะคะ

กำกับ กิตติธัช ตั้งศิริกิจ

สิทธิศิริ มงคลศิริ

ษรัณยู จิราลักษม์

บทภาพยนตร์ คงเดช จาตุรันต์รัศมี

เนื้อเรื่อง ภัทรา พิทักษานนท์กุล

วรฐิติ มโนสร้อย

ทินพัฒน์ บัญญัติปิยพจน์

ชนากานต์ คำกิโล

อำนวยการสร้าง ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์

คงเดช จาตุรันต์รัศมี

พิมพกา โตวิระ

นักแสดงนำ จิรายุ ละอองมณี

สุทัตตา อุดมศิลป์

พิมพกานต์ ​แพร่คุณธรรม​

เอกวัฒน์ ​เอกอัจฉริยา

กฤษ สถาปนพิทักษ์กิจ

กำกับภาพ สยมภู มุกดีพร้อม

ผู้จัดจำหน่าย Talent 1 Movie Studio

วันฉาย 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย

ผลงานกำกับโดย กิตติธัช ตั้งศิริกิจ,สิทธิศิริ มงคลศิริ และษรัณยู จิราลักษม์

หนังสยองขวัญหรือหนังผีเป็นหนังที่เราชอบดูหลังหนังแอคชั่น เพราะดูแล้วก็ขนลุกดี และผู้เขียนชอบดูมากจนปิดห้องดูคนเดียว และต้องปิดไฟด้วย ถ้าอยากได้อารมณ์ที่สุดต้องดูตอนกลางคืนเงียบๆ เราสามารถดูได้หมดทั้งหนังผีไทย ฝรั่ง หรือจีน บางทีก็มีหนังผีเกาหลีด้วย การดูในรูปแบบต่างๆ และประเภทต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในชีวิตจริงเราไม่เคยกลัวเลย

หนังไทยที่น่าดูมีน้อยมากเพราะทุกวันนี้หนังผีหรือหนังสยองขวัญก็ทำแนวตลกเดิมๆจนต้องหาเนื้อเรื่องและฉากใหม่ๆมาดึงดูดคนดูให้ถูกใจ ลองดูสิ. เพราะตอนนี้ผู้ฟังไม่ได้โง่อีกต่อไปแล้ว ฉลาดกว่าเดิมมากจะได้ตั๋วไปดูหนังในโรง น่าจะมีอะไรแปลกใหม่มาขายโชว์บ้าง

รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย

ส่วนหนังไทยจาก GTH ก่อนจะเปลี่ยนเป็น GDH ผู้เขียนเองก็ชอบหนังผีหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ลัดดาแลนด์ รายการหน้าอาฆาตแค้น หรือฤดูร้อนนั้นฉันตาย

หรือจะเป็นทางแยกสี่ทาง ทางแยกห้าทาง และเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมาย และวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับภาพยนตร์ ฤดูร้อนนั้นฉันตาย พระเอกและนางเอกเป็นดาราวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงในวงการดารา

เรื่องย่อ Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย

Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย เล่าเรื่องของ หญิงสาวกะชายหนุ่มที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ชายหนุ่มชอบหญิงสาวมาก เพื่อนของฝ่ายชายวางยาโดยผสมใส่ไปในเบียร์ให้ฝ่ายหญิงกิน

โดยที่ฝ่ายหญิงกินเข้าไปเกิดอาการช็อกน้ำลายฟูมปากและสิ้นใจตายในห้องพัก ทั้งเพื่อนของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต่าง ๆ วิ่งเข้าไปดูแต่ก็ช่วยไม่ทันซะแล้ว ฝ่ายหญิงได้ตายไปแล้ว ฝ่ายชายได้ต่อว่าเพื่อนของตัวเองว่าใส่ยาเยอะไปหรือเปล่า  

เมื่อเห็นว่าฝ่ายหญิงนั้นตายแน่แล้ว และฝ่ายชายได้กลัวความผิด จึงนำเอาหญิงสาวไปยัดใส่กระเป๋าเดินทางสีแดงใบใหญ่ ก่อนที่จะใส่ลงไปได้ฝ่ายชายได้หักแขนหักขาของหญิงสาว เพื่อให้ยัดใส่เข้ากระเป๋าไปได้ และนำไปทิ้งลงในทะเลที่อยู่ใกล้กับที่พัก 

ต่อมาตอนเช้าเมื่อเพื่อนของฝ่ายหญิงมองที่ระเบียงชั้นบน กับเห็นกระเป๋าใบสีแดงที่ใส่ศพของฝ่ายหญิง ได้ลอยมาติดที่ชายฝั่ง ฝ่ายชายจึงตัดสินใจนำกระเป๋าใส่ศพยัดใส่ท้ายรถเก๋งและขับออกไปเพื่อจะนำกระเป๋าใส่ศพฝ่ายหญิง ไปทิ้งในที่ไกล ๆ เพื่อทำลายหลักฐาน 

แต่ระหว่างที่ขับไปกลับได้ยินเสียงประหลาด ๆ อยู่ตลอดเวลา เปิดวิทยุฟังก็ได้ยินเสียงแปลกแทรกเข้ามาในวิทยุตลอด จนคนในรถเริ่มประสาทเสีย คิดและกลัวกันไปต่าง ๆ นานา เมื่อขับรถไปได้ไกลแล้วฝ่ายชายได้จอดรถเพื่อนำกระเป๋าใส่ศพฝ่ายหญิงลงไปทิ้ง

และกลับเห็นภาพหลอนเป็นฝ่ายหญิงมายืนถือปืนถือมีดเพื่อจะฆ่า จนตำรวจทราบเรื่องเพราะมีคนเห็นท่าไม่ดีจึงไปแจ้งตำรวจ และระหว่างที่ตำรวจจะจับฝ่ายชายได้ใช้ปืนไฟแช็คเพื่อป้องกันตัว และได้เกิดโรงงานดอกไม้ไฟระเบิดและเผาร่างฝ่ายชายจนตาย

การดำเนินเรื่อง

เรื่องราวที่มีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าที่เราได้เห็นจากในตัวอย่างที่่บอกเราเพียงแค่การตายอย่างไม่ทันคาดคิดของ “จอย” (อาย-พิมพกานต์ แพร่คุณธรรม) ตัวละครสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งในทริปครั้งนั้น 2 หนุ่ม (สิงห์ แสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี และกานต์ 

แสดงโดย สบาย – กฤษ สถาปนพิทักษ์กิจ) กับ 1 สาว “มีน” (ปันปัน – สุทัตตา อุดมศิลป์) ที่เหลือเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก ได้แต่คิดเพียงเอาตัวรอด จึงเลือกจะเก็บศพยัดใส่กระเป๋าเดินทางแล้วนำไปทิ้งเท่านั้น แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด ศพยังคงเลือกที่จะติดตามเขาตลอดมา

มีน กับ จอย นั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ แต่เมื่อเพื่อนของเธอเสียชีวิตอย่างน่ากังขาในทริปเดทกับอีกสองหนุ่มที่ยังไม่รู้จักกันดี หนึ่งในนั้น คือ สิงห์ ที่จอยนึกชอบเขาอยู่ สิ่งที่เธอเลือกทำ ไม่สิ พวกเขาทั้งหมดเลือกทำนั่นแหละที่สะท้อนถึงผลที่จะตามมา

ความรู้สึกหลังรับชม

หนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย (2556) เป็นหนังผีวัยรุ่นที่ถ่ายทอดบทเรียนความหวาดกลัวในสิ่งที่ตนเองทำของคนเราซึ่งชีวิตจริง นับวันจะเริ่มแปลงจากผู้แสดงสีเทาเป็นสีดำกันมากยิ่งขึ้นทุกครั้ง โดยมีผีหน้าจอยที่รอตามหลอกเพื่อพวกเขาได้ยอมรับความผิดพลาดบาปในสมัยก่อนที่ปกปิดคนอื่นๆ เรื่องของคุณหลายแบบมานานและก็ทำให้ทุกคนที่คิดร้ายต่อคุณได้รับกรรมตามทันอย่างเร็ว 

แม้กระทั้งมีนที่เป็นเพื่อนสนิทโดยความเป็นจริงก็รอแอบแกล้งคุณลับหลังรวมทั้งอิจฉาเธอ แม้กระทั้งคนภายในครอบครัวก็ด้วยเหมือนกัน ซึ่งราวกับหนังอยากทำให้พวกเรามีความคิดเห็นว่าไม่มีผู้ใดที่จะดีกับทุกคนที่สุด เพราะว่าสิ่งที่มีความต้องการของตนย่อมแอบแฝงไว้ภายใต้มิตรภาพแล้วก็ความเกี่ยวพันของคนเราในสังคมที่แนบเนียนแล้วก็เมื่อถึงเวลาก็จะเบาๆแสดงออกมา 

แม้กระนั้นท้ายที่สุดเมื่อทำผิดไปแล้ว บาปที่ตนเองก่อก็จะตามมาโจมตีผู้ทำในตอนหลังไม่แตกต่างกับวิญญาณหน้าจอยที่เคียดแค้นเลย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สอนให้เรารู้ว่า เมื่อคุณคิดจะคบกับใครในฐานะเพื่อน คนใกล้ชิด หรือคนรัก

จงอย่าลืมว่าอาจไม่ใช่ทุกคนที่ตั้งใจเข้าหาคุณด้วยมิตรภาพจริง แต่เป็นเพราะผลประโยชน์หรืออาจจะต้องการเป็นที่ยอมรับด้วยก็ได้ ฉะนั้นอย่าได้ไว้ใจใครให้มากหากเขาไม่ใช่ร่างกายของเราเอง!

รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย จุดเด่นของหนัง

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนเป็นหนังผีเป็นตอนๆ ในรูปแบบของซีรีส์ หนังแบ่งออกเป็น 3 ภาค ภาค 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนสนิทของนางเอกที่อิจฉาที่นางเอกเรียนเก่งกว่า

และถูกผีนางเอกหลอกหลอนจนต้องกระโดดลงมาจากตึกเพื่อฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายก็เป็นน้องชายของนางเอกที่เปิดเผยทุกอย่าง

Summer ที่แล้ว ฤดูร้อนที่ฉันตายไป ตอนที่ 3 จะพูดถึงน้องชายของนางเอกที่เป็นคนทำร้ายเธอ เป็นนางเอกเปิดกล้องกับพระเอก

มันเหมือนกับการเปิดกล้องเพื่อให้ผู้ชายเห็นกางเกงในของเขา ส่วนน้องชายเขาเป็นคนลงคลิปนั้นเอง ทำให้นางเอกคิดมากจนกลายเป็นผีและมาแก้แค้นน้องชายของตัวเอง

สรุปรีวิวเนื้อหา

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า เป็นหนังผีที่ดำเนินเรื่องดี เปิดหัวนางรองก็ตาย แต่นางเอกก็ตายตอนจบเรื่อง เราชอบเนื้อเรื่องของหนัง มีฉากที่น่าตื่นเต้นและน่าตกใจตลอดทั้งเรื่อง ไม่น่ากลัวจนโจ่งแจ้ง ผู้กำกับหนังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง เราชอบนักแสดงนำทุกคน 

รีวิวหนัง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย

บอกเลยว่าสตูดิโอหนัง GTH ทำหนังดีมาก ก็สนุกเหมือนกัน นานๆจะได้ดูหนังผีแบบนี้บ้าง ว่ากันว่ามีหลายรสชาติในหนังเรื่องเดียว ลดความน่าเบื่อได้มาก เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของตลาดหนังสยองขวัญ ให้ 10 เต็ม 10 เลยจ้าา

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม หนังสยองขวัญแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม หนังสยองขวัญแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม

รีวิวหนังไทยมาใหม่ สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคนและนี่คือกลับมากำกับภาพยนตร์อีกครั้งหลังจากรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง ปรัชญา ปิ่นแก้ว กับผลงานล่าสุด SisterS กระสือสยาม นำตำนานผีไทยมาตีความใหม่ให้มีความทันสมัยและเข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นไซไฟแฟนตาซีผสมกับแอ็คชั่นเล็กน้อย งานนี้มี 2 สาว โจ้ พลอยยุคล และ มิวนิก นันท์นภัส รับบทนำ ร่วมกับ หญิง รฐา และ ต๊อก สุภากร 

ชื่อหนัง กระแสสยาม / SisterS

ผู้กำกับภาพยนตร์ : ปรัชญา ปิ่นแก้ว

ผู้เขียนบท: Four Red Fruits

นักแสดงนำ : นันทภัทร์ เลิศนำเชิดสกุล (มิวนิก BNK48), โจ-พลอยยุคร โรจนกตัญญู, ฟลุ๊ค-ชินภัทร กิติชัยวรางกูร, ชิม่อน-วชิรวิชญ์ เรืองวิวัฒน์, หญิง-รฐา โพธิ์งาม, ต๊อก-ศุภกร กิจสุวรรณ

ความยาว: 106 นาที

ปี: 2019

ประเภท/ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, แอ็คชั่น

อัตราส่วนภาพ:

ประเทศไทย

อัตรา: ไทย/, MPAA/

วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 4 มีนาคม 2019

สตูดิโอ/ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล, บารมี, สำนักงาน BNK48

ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม ผลงานผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว

เป็นเรื่องน่าเสียดายและโชคดีที่กระแสสยาม โดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว (ผู้กำกับองค์บากและต้มยำกุ้ง) เข้าฉายพร้อมๆ กับแสงกระสือที่เพิ่งเข้าฉายเมื่อเดือนก่อน ส่วนที่เราถือว่าโชคดีคือ แสงกระสือ ซึ่งทำได้ดีตามมาตรฐานหนังไทย ช่วยเหลือคนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เปิดใจรับภาพยนตร์ไทยและความเชื่อเกี่ยวกับกระแสมากขึ้น และส่วนที่เราคิดว่าน่าเสียดายคือ แสงกระสือ ทำได้ดีเกินมาตรฐานของหนังไทย จนมาสร้างหนังกระแสสยาม เทียบได้กับไม่มีอะไรดีเลย

เราพยายามอย่างหนักที่จะไม่เปรียบเทียบทั้งสอง เราพยายามมองว่าทั้งสองเรื่องนี้มีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้วเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กระแสสยามโดยปราศจากแสงกระสือแวบเข้ามาในจิตใจของเรา หากเราพยายามพูดอย่างเป็นกลาง เราจะพูดถึงกระแสสยามซึ่งผลิตโดย BNK48 และจัดจำหน่ายโดยสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล เขาตั้งใจจะทำให้ดูเป็นชายมากขึ้น

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม

จากการตั้งชื่อเรื่องและใช้สถานที่สร้างรังกระสือในสยาม อยากให้คนดูเพื่อความบันเทิงทั่วไป มีฉากแอ็คชั่นและมนต์ดำต่อสู้กันระหว่างคนกับกระแส ในขณะที่แสงกระสือเน้นเรื่องความรักโรแมนติกและจิตวิญญาณของกระแส รวมถึงความสำคัญของศิลปะและความพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมีการตีความใหม่ที่ลึกซึ้งและจริงจังมากขึ้น

มันเลยเป็นสไตล์ที่แตกต่าง สุดท้ายก็แล้วแต่บุคคล คุณชอบกระเสือกประเภทไหนมากกว่ากัน? แต่สำหรับเรากระแสสยามไม่ตรงกับใจเราเลย คุณจะบอกว่าฉันไม่ชอบมันจริงๆ สิ่งเดียวที่ฉันชอบคือภาพที่สวยงาม อ้อ…และนักแสดงหน้าตาดีด้วย

เรื่องย่อ SisterS กระสือสยาม

เรื่องราวก็คือ เรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของ “พี่น้องสองสาว”ที่ไม่อาจจะเลือกวิถีชีวิตรวมทั้งความเป็นไปของตนได้ทั้งสองได้รับการอุปการะมาไม่เหมือนกัน

และก็จำเป็นต้องแยกกันอยู่ด้วยสิ่งที่จำเป็นบางสิ่งบางอย่างวันหนึ่งชะตากรรมก็ทำให้สองพี่น้องจำเป็นต้องมาดำรงชีวิตด้วยกัน เมื่อ“วีณา” พี่สาวผู้ยอมเสียสละทั้งชีวิตเพื่อคุ้มครอง “โมรา”น้องสาวผู้อ่อนแอ

ให้รอดพ้นจาก “ราตรี”นางพญาผีกระสือซึ่งคอยวันที่โมราจะเปลี่ยนร่างในวัย 16 ปีเพื่อหมายฆ่าจากความแค้นที่ฝังลึกในสมัยก่อนกับเชื้อสายของพวกคุณรวมทั้งเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏทั้งสองจำเป็นต้องต่อสู้แล้วก็ก้าวผ่านความไม่ลงรอยกัน

อันร้ายแรงนี้ไปให้ได้ในที่สุดแล้วพวกคุณจะปลดปล่อยให้เป็นไปตามวิถีชีวิตที่ไม่มีช่องทางของแต่ละคนหรือจะดิ้นรนฝืนโชคชะตานี้เพื่อได้กลับมาอยู่เป็น“ครอบครัวเดียวกัน” อีกที…

ความรู้สึกหลังรับชมหนัง กระสือสยาม

หากเราพยายามพูดอย่างเป็นกลาง เราจะพูดถึง กระสือสยาม ซึ่งผลิตโดย BNK48 และจัดจำหน่ายโดยสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล เขาตั้งใจจะทำให้ดูเป็นชายมากขึ้น จากการตั้งชื่อเรื่องและใช้สถานที่สร้างรังกระสือในสยาม อยากให้คนดูเพื่อความบันเทิงทั่วไป

มีฉากแอ็คชั่นและมนต์ดำต่อสู้กันระหว่างคนกับกระแส ในขณะที่แสงกระสือเน้นเรื่องความรักโรแมนติกและจิตวิญญาณของกระแส รวมถึงความสำคัญของศิลปะและความพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมีการตีความใหม่ที่ลึกซึ้งและจริงจังมากขึ้น

มันเลยเป็นสไตล์ที่แตกต่าง สุดท้ายก็แล้วแต่บุคคล คุณชอบกระเสือกประเภทไหนมากกว่ากัน? แต่สำหรับเรากระแสสยามไม่ตรงกับใจเราเลย คุณจะบอกว่าฉันไม่ชอบมันจริงๆ สิ่งเดียวที่ฉันชอบคือภาพที่สวยงาม อ้อ…และนักแสดงหน้าตาดีด้วย

โดยส่วนตัวนั้นค่อนข้างถูกจริตกับความบ้านๆ ของ แสงกระสือ เสียมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบ กระสือสยาม ด้วยความที่หนังได้ตีความเรื่องนี้ออกมาแบบไซไฟแฟนตาซี ให้กระสือเปรียบเสมือนโรคชนิดหนึ่งและสัตว์ประหลาด

แล้วนำมาผูกกับเรื่องราวการล้างแค้น ภาพรวมก็ถือว่าหนังทำออกมาได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้สนุกมาก แต่ก็ดูได้เพลินๆ แอบใส่จังหวะตุ้งแช่ให้ได้ตกใจกันหลายรอบอยู่ แต่การตีความกระสือใหม่มันยังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควร

บทบาทนักแสดงนำ

สำหรับน้องมิวนิคกับน้องโจโจ้ ส่วนตัวพวกเรามีความรู้สึกว่ายังไม่ไหวจริงๆแม้กระนั้นมองเห็นอยู่ล่ะว่าน้องตั้งอกตั้งใจเล่นยอดเยี่ยมแล้ว ส่วนใดส่วนหนึ่งที่พวกเราว่าไม่โอเค อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากบทของน้องมันงี่เง่า โง่เง่า และไม่น่าเอาใจช่วยกันเลย แม้กระทั้งบทของดาราเบอร์ใหญ่อย่าง ต๊อก ศุภมือ กับญาญ่าญิ๋ง ก็ไม่โอเค นักแสดงราวกับจะเก่ง

แต่ว่าในที่สุดก็ง่อยเปลี้ยเสียขารวมทั้งทำอะไรที่ผู้ชมอย่างพวกเราเข้าไม่ถึง อย่างเช่น จังหวะนางพญาผีกระสือสามารถฆ่าวีณาได้ไพเราะวีณาสลบไป นางก็ไม่ฆ่า ฆ่าแม้กระนั้นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ทั้งๆที่ปากก็พูดว่ารอเวลาเอาคืนและก็ทรมาทรกรรมอีครอบครัวนี้มาตลอดชีพ และก็ปลดปล่อยให้วีณาตามมาเอาคืนนางกำนัลตอนองก์ในที่สุดซะอย่างงั้น

แล้วก็หากกล่าวว่าหนังย้ำเรื่องพี่น้อง นี่ก็ไม่อินจ้า คู่วีณา-โมรา นี่น่าลำไยมากมาย เขียนมาได้ว่ามีกันอยู่เพียงแค่สองคนพี่น้อง จะบ้าหรอ ไม่คิดจะปรับนิสัยกับสังคมหรือมีสหายมีฝูงบ้างหรอ แหม อันนี้ถูกทำโทษบทขุ่นบิดาก่อนด้วย ที่สอนลูกสอนหลานแปลกๆสอนวิชาให้หลาน บังคับหลานทำโน่นทำนี่เพื่อน้อง

(ซึ่งก็คือบุตรสาวในไส้ตนเองที่เป็นผีกระสือ) ไม่ให้หลานได้ทำอะไรที่หลานต้องการทำ หลานมิได้ดำเนินชีวิตเลย จำเป็นต้องมารอตามน้อง น้องก็โง่ เพราะว่าบิดามันเลี้ยงแบบไม่ถูกๆไม่สอนลูกให้อยู่กับเรื่องจริง ไม่บอกเรื่องจริงแล้วก็สาเหตุใดใด มัวแต่ปกปิดเรื่องจริงลูก อื่นๆอีกมากมาย ในที่สุด เมื่อตัวละครที่เป็นตัวเอกมันไม่น่าเอาใจช่วย ก็จบ.

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

และฉากแอคชั่นและฉากไคลแมกซ์ในรังของกระสือก็ไม่คู่ควรกับชื่อเสียงของผู้กำกับในภาพยนตร์แอคชั่น แต่… มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะวีณา ซึ่งเป็นสาวมัธยมปลายร่างผอมมีความรู้ เป็นเพียงเวทย์มนตร์อันชาญฉลาด

(เธอเรียนรู้จากพ่อโมรา (ตอนนั้นฉันเพิ่งเรียนรู้จากแม่ของวีณาได้ไม่กี่เดือนเช่นกัน) ไปต่อสู้กับกระสือหลายสิบตัว และหนึ่งในนั้นคือ ราชินีกระสือที่มีพลังวิเศษ ( ไม่รู้มาจากไหน) อีกทั้งฉาก CGI ที่กระแสหมีสู้กับกระแสก็รับได้ แต่ประเด็นคือ ตลกมากกว่าตื่นเต้น ดูแล้วก็ถอนหายใจ เหนื่อยที่หนุ่มกระแสต้องทน ทำสิ่งนี้

เราแอบคิดว่ากระแสสยามอาจเป็นหนังที่ดีกว่าที่เราคิด เพราะวิธีการเล่าเรื่องราวในยุคแรกๆ นั้นเป็นสากลมาก อีกทั้งยังมีฉากที่น่าสนใจในโลกของผีและวิญญาณรวมถึงปีศาจด้วย กระตุ้นให้ผู้ชมอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

เพราะจริงๆ แล้ว หนังแบบนี้ค่อนข้างจะคาดเดาได้ ความสนุกจึงอยู่ที่การรอคอยระหว่างทาง มากกว่าจะมีทริคอะไรมาทำให้ว้าว และถ้าต้นเรื่องทิ้งเบาะแสไว้มากมายขนาดนี้ ไคลแม็กซ์คงจะสุดยอดมาก หากคุณหยิบของที่กระจัดกระจายมาเล่นให้ถูกเวลา

อนิจจา เหมือนท้ายๆ ตัวหนังรู้สึกว่า “ฉันวางนู่นนั่นนี่เยอะไปแล้ว” เพราะงั้นก็เลยกระทำการ “ช่างมัน” โยนความน่าสนใจทุกอย่างทิ้งแล้วน้อมนำคำสอนของตาเอก HRK ขอพุ่งทางตรงไถเรื่องให้จบแบบง่ายๆ งงๆ ตรงๆ ทื่อๆ ชนิดที่ไม่แคร์สื่อ แคร์เงื่อนไข หรือต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น นัยว่า “ก็จะจบอ่ะ แล้วมันผิดตรงไหน!

ซึ่งมันน่าเสียดายเพราะเหตุว่าพวกเรามองเห็นประสิทธิภาพลางๆว่ามันสามารถไปได้ไกลกว่านี้มากมาย แม้กระนั้นหนังกลับเลือกที่จะหยุดซะก่อน แถมดันหยุดในจุดที่พวกเรามองเห็นปัญหาซึ่งจำนวนมากจะมาพร้อมกับบทที่แปลกๆกับโปรดักชั่นซึ่งว่ากันตรงๆก็ไม่ค่อยดีนัก

โดยยิ่งไปกว่านั้นกับ CG ที่ส่วนท้ายๆตอนจุดไคลแมกซ์หลุดได้น่ารังเกียจมากมาย มีเฟรมตกหรือภาพแบน ภาพยืด ในบางฉากอีก ไม่นับองค์ท้ายที่สุดกับผลสรุปที่เชิญชวนปวดหัวอีก

แต่ว่าน่าผิดหวังที่สุดเป็นการที่ประเด็นนี้โปรโมทหน้าหนังว่าจะเป็นหนังบู๊แอคชั่น แต่ว่าซีนพวกนั้นกลับลวกๆจนถึงเกินความจำเป็น บางฉากปราศจากความดุเดือดมิได้ลุ้น บางฉากที่บิวต์มาดิบดีเกือบจะอีกทั้งเรื่องก็กลับตัดฉับไม่ให้มองเสียอย่างงั้น

ซึ่งทำเอาผู้เขียน หงุดหงิดเป็นอย่างมาก ถ้าหากบทห่วยแม้กระนั้นถ้าหากซีนต่อสู่น่าดึงดูดอย่างที่ได้โปรโมตไว้มันก็ยังเพียงพอมีคุณค่ามากขึ้นบ้าง แต่ว่าพอเพียงเป็นอีหรอบนี้เรียนตามจริงว่าเชียร์ไม่ขึ้นจริงๆ

บทสรุปรีวิวเนื้อหาโดยรวม

กระนั้นถ้าเกิดจะหาสิ่งดีๆของหนังก็อาจเป็นฝีมือการแสดงของน้องมิวนิคที่ไม่ได้ห่วยเลย ดียิ่งกว่าที่คาดไปมาก แม้กระนั้นก็นั่นแหละนะค่ะ ดาราเล่นได้โอเคตามหน้าที่

แม้กระนั้นถ้าหาก “หน้าที่” มิได้ส่งให้การแสดงดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมองมีคุณค่าขึ้นมามันก็ดูเหมือนเท่านั้น และก็ผลสรุปของศึกผีกระสือ 2019 ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่หลายคนคาด เมื่อ “แสงสว่างผีกระสือ” ส่องแสงเจิดจ้า “ผีกระสือไทย” ที่มาแบบขมุกขมัวคลุมเครือสำหรับการเสนอสักด้าน ก็ยากจะต่อต้านหรือประมือด้วยได้จริงๆ

ถ้าเกิดจะกล่าวในเรื่องความสามารถของ ต๊อก ศุกภร แล้วก็หญิง รฐา แล้ว ก็ถือว่าทำเป็นดีไม่มีตกหล่น ที่จะมีปัญหาก็คือบทที่ออกจะไม่ใส่จะมีผลให้นักแสดงมีมิติ

รีวิวหนัง SisterS กระสือสยาม

สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาอีกสองสามอย่างของ ‘SisterS’ ก็คือ ความไม่เหมือนจริงของเรื่องราว การไล่ล่าที่ชักชวนผู้ชมให้ลุ้นหนักแต่ว่าเรื่องราวกลับเกิดขึ้นราวกับผู้แสดงที่ลุ้นคุ้นเคย คนที่อยู่รอบข้างเสมือนจะไม่สำคัญกับเรื่องราว

อีกส่วนก็อาจจะเป็นฉากการต่อสู้ที่มิได้น่าละลานตาเท่าที่มุ่งหวัง กับ CG ที่ค่อนข้างจะดีในฉากถอดหัวแต่ว่าไม่เวิร์กในฉากแอคชั่น สุดท้ายอย่างไรก็ตามหนัง SisterS กระสือสยา ก็เป็นหนังไทยหนังผีแนวใหม่ที่ ไม่ยึดติดวิธีการเล่าเรื่อง หรือการหลอกหลอนแบบเดิมๆอีกต่อไป

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนัง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับกีฬาอีสปอร์ต (E-Sports)

รีวิวหนัง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับกีฬาอีสปอร์ต (E-Sports)

รีวิวหนัง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่

รีวิวหนังไทยมาใหม่ สวัสดีค่ะทุกคนและในวันนี้ผู้เขียนก็มี ภาพยนตร์เกี่ยวกับอีสปอร์ตเรื่องแรกของไทย” มานำเสนอทุกคน นั่นก็คือ Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ แนวคอเมดี้-แอคชั่นฟอร์มยักษ์ มีเนื้อเรื่องเป็นการดวลกันระหว่าง “แม่” ซึ่งเป็นครูที่ปิดรับเกี่ยวกับเรื่องระบบโซเชียล ต้องมาปะทะกับ “ลูก” ผู้ซึ่งเป็นโปรเพลย์เยอร์มือฉกาจ

โดยภายในเริ่องจะมีการใช้กีฬาอีสปอร์ตเป็นตัววัด กล่าวอย่างสั้นๆหนังเล่าความไม่ลงรอยกันระหว่าง เบญจมาศ (พิยดา อัครเศรณี) อาจารย์คณิตศาสตร์ที่เห็นว่าโทรศัพท์มือถือเป็นศัตรูต่อการศึกษาเล่าเรียน กับ โอม (ต้นหน ตันตำหนิเวชกุล) ลูกชายนักกีฬาอีสปอร์ตที่เหตุเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากข้างแรกไปขวางความฝันของลูกชาย

แล้วก็เพื่อวิถีทางในสายกีฬาอีสปอร์ตจำต้องดับลง ต้นเบญจมาศก็เลยก่องานเลี้ยงตั้งกลุ่มอีสปอร์ตชื่อ Ohm Gaga ร่วมกับ กอบศักดิ์ (ลภัส งามเชวง) เด็กนักเรียนข้างหลังห้องจอมเก๋าในฐานะสมัยก่อนสมาชิกของกลุ่ม Higher ที่โอมขึ้นตรงต่ออยู่เพื่อหวังล้มกลุ่มของลูกชาย

โดยไม่รู้เรื่องเลยว่าการปฏิบัติของคุณกำลังให้บทเรียนสำคัญในฐานะแม่แล้วก็อาจารย์ ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแบบไหนมาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อมๆกันในบทความนี้ได้เลยนะคะ ช่องทางการรับชม  ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่

ผลงานผู้กำกับ ผู้กำกับ: ยรรยง คุรุอังกูร

เสือ ยรรยง คุรุอังกูร ยังคงทำหนังวัยรุ่นในภาษาที่รู้เรื่องวัยรุ่นเจนนี้อย่างแท้จริง โดยในเกมเมอร์เกมแม่ก็มี ROV ที่กำลังเดินทางมาทดลองความเชื่อมโยงของแม่กับลูกชายวัยรุ่นสมัยที่การเล่นเกมเปลี่ยนเป็นกีฬาที่ทำเงินได้

แล้วก็ความเคลื่อนไหวของสังคมที่เบญจมาศแม้จะเป็นแม่ที่ยังมิได้ชราในด้านสังขารแต่ว่าจำเป็นต้องสารภาพว่าสังคมที่เด็กกล้ากล่าวกล้าทำรวมทั้งวิชาความรู้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องกล้วยๆๆน้อยๆอย่างการเล่นเกมที่เปลี่ยนเป็นอาชีพก็กลับผลักไสเธอให้แปลงเป็นคนตกยุคอย่างช่วยไม่ได้

สำหรับคอเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับเกม ROV คงจะอินกับเรื่องราวในหนังได้อย่างง่ายๆ ด้วยเหตุว่าตลอดทั้งเรื่องพวกเราจะได้มองเห็นการเล่าเรื่อง สลับการการแข่งขันเกมอันรุนแรง ที่ได้เหล่า Pro Player มีชื่อเสียงในชีวิตจริง มาเป็นที่ปรึกษาด้านบท แถมยังพาเหรดกันมาร่วมแสดงสมทบกันอย่างแน่น

แต่ว่าสำหรับคนมิได้เล่นเกมอย่างพวกเรา กลับรู้สึกสนอกสนใจข้อความสำคัญของหนัง ที่เสนอเรื่องราวของ “เกม” ที่ชอบถูกมองดูเป็นมิจฉาชีพเสมอในสายตาของคนแก่

มาเล่ากล่าวผ่านมุมมองของความต่างระหว่างตอนวัย สะท้อนภาพครอบครัวช่วงปัจจุบัน ที่เทคโนโลยียิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างคนเป็นพ่อแม่กับลูก ยิ่งถูกขยายกว้างมากยิ่งกว่าเดิม

เรื่องย่อ Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่

เกมเมอร์เกมแม่ เรื่องย่อ เล่าราวของ “ต้นเบญจมาศ” อาจารย์สอนเลขระเบียบปฏิบัติจัด ผู้มีศรัทธาฝังหัวว่า การเล่าเรียนเพียงแค่นั้น ที่มีความหมายสูงสุดในชีวิตของเด็กๆแถมยังต้านเทคโนโลยีทันสมัยแบบสุดๆเนื่องจากว่าเห็นว่าเป็นภัยรุกรามต่อการศึกษาของเด็ก

ซึ่ง ต้นเบญจมาศ ก็ได้ปลูกฝังความศรัทธานี้ให้กับ “โอม” ลูกชายคนโปรดผู้เดียวของคุณ ทำให้ โอม เติบโตขึ้นมาพร้อมทั้งความมุ่งมาดผสมบีบคั้นอันเป็นอย่างมากจากแม่ ว่าจำเป็นต้องตั้งอกตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดีๆเพื่อปูทางไปสู่อนาคตที่ดีอย่างที่คนแก่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเชื่อกัน

แต่ว่าความลับที่ โอม แอบซ่อนเอาไว้จากแม่ตลอดมา โน่นเป็นความสามารถพิเศษสำหรับเพื่อการเล่นเกมระดับมือโปร ซึ่งสามารถทำเงินได้ก้อนใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย

ในขณะที่ ต้นเบญจมาศ เห็นภาพลูกชาย เป็นผู้เรียนดีเด่นสุดเนิร์ด ผู้ส่งผลการศึกษาเล่าเรียนดีที่สุดอย่างที่คุณตั้งอกตั้งใจให้เป็น แต่ว่าในอีกโลกหนึ่ง เขาเป็น โอม Sonic Fighter ผู้เล่น E-Sports ระดับ Pro Player ดาวรุ่งที่มาแรงที่สุดที่สมัย

รวมทั้งเมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงข้อนี้ ต้นเบญจมาศก็เลยไม่ยินยอมให้เกมมากีดกันทางสู่อนาคต ที่คุณใส่ใจปูเอาไว้ให้ลูกชายโดยเด็ดขาด ซึ่งแนวทางที่คุณเลือกใช้ เป็นการปั้นกลุ่ม E-Sports ของตนขึ้นมา เพื่อเอาชนะลูกชายให้ได้บนทางสายเกมเมอร์

โดยได้รับการเกื้อกูลจาก “กอบอำนาจ” จอมเกกมะเหรกประจำสถานศึกษา และสมาชิกกลุ่ม ที่กอบอำนาจคัดสรรมาเองกับมือ แปลงเป็นการรบระหว่างแม่กับลูก บนสังเวียนกีฬา E-Sports

การดำเนินเรื่อง

ถ้าหากจะพูดว่า นี่เป็น “หนังไทยที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคาดหมายในตอนนี้” ก็อาจจะไม่ผิดไปซักเท่าไหร่ เพราะเหตุว่าด้วยคณะทำงาน และก็ตัวดาราวัยรุ่นมีชื่อ บวกกับพล๊อตที่ใกล้ตัวเด็กยุคนี้อย่าง

เกมโทรศัพท์มือถือมีชื่อ ROV ก็นำมาซึ่งความน่าดึงดูดใจจากคนภายนอกแวดวงอีสปอร์ท แล้วก็ผู้ชมหนังธรรมดา ว่าจะเอาโลกทั้งคู่ที่ผิดแผก

มารวมถูกกันแล้วถ่ายทอดออกมาอย่างไรให้สนุกสนาน และก็ทัชจิตใจผู้ชมได้ ซึ่งภายหลังมองจบ ผู้เขียนจะต้องบอกเลยว่า “พี่เสือ รวมทั้ง คณะทำงาน แกทำเป็นจริงๆ”

ในส่วนของเรื่องราว จะพากเพียรกล่าวถึงเอามุมมองของคนสองสมัย สองวัย ในมุมมอง คนแก่สมัยเบบี้บูม ก็จะเห็นว่า “วัยรุ่น + โทรศัพท์มือถือ = ติดเกม” ตอนที่ในมุมของ วัยรุ่น พวกเขาคิดว่า “เกม = ความฝัน+เกียรติศักดิ์ + การยินยอมรับ +รายได้ ”

จุดผิดแผกแตกต่างทางความนึกคิด ความเชื่อถือ ในเรื่องถูกพรีเซ็นท์ออกมาด้วยการวางเรื่องที่ แยบคาย และก็ จิกกัด หัวข้อหลายๆอย่าง ทั้งยังการเรียนรู้ไทย มุมมองของคนแก่หัวเก่า ที่แอนตี้เทคโนโลยีและไม่พากเพียรรู้เรื่องเด็ก

หรือแม้กระทั้งเด็กๆที่พวกเราคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กมีปัญหา ที่จริงจริงแล้ว พวกเขาก็บางครั้งก็อาจจะรอคอย “มือที่จะหยิบยื่นจังหวะให้เขาเปล่งแสงในแนวทางที่เขารัก”

ถึงแม้ว่าหนังจะเดินตามสูตรสำเร็จแนวๆกีฬา แต่ว่าหนังถ่ายทอกออกมาได้บันเทิงใจ ไม่มีตอนน่ารำคาญ หรือเนือยๆพองๆเลย ดีไม่ดีนี่ยังว่าเล่าเร็วจัดๆไปด้วย แปปๆจะสิ้นเรื่องแล้ว

เรื่องราวปัญหาวัยรุ่นและความไม่เข้าใจของพ่อแม่

ส่วนพาร์ทดราม่าของเรื่อง ผู้เขียนรำลึกถึงภาพยนตร์ไทยในอดีตกาลอย่างเรื่อง “น้ำพุ” ที่ออกฉายเมื่อปี พุทธศักราช 2527 ที่ว่าด้วยเด็กที่มีปัญหาครอบครัว ไม่รู้เรื่องในตัวลูกชายที่เป็นวัยรุ่น กระทั่งเอามาสู่การติดยา…

แม้กระนั้นในหนังมิได้เล่นข้อความสำคัญหนักโลกขนาดนั้น แม้กระนั้นจะต้องสารภาพว่า ปัญหาวัยรุ่น ความไม่รู้เรื่องของบิดามารดานั้น คือปัญหาที่อยู่คู่กับครอบครัวไทยตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย แล้วก็มีการเสนอมาทำหนัง

ทำนิยายได้เรื่อยในประเด็นนี้ โชคดี ที่ลูกมิได้ติดยาเสพย์ติด แต่ว่าติดเกมแทน ซึ่งติดกระทั่งเป็นโปรเพลเยอร์ สร้างงาน สร้างรายได้ แต่ว่าก็นั่นแหละ หากการเล่นเกม คือปัญหาครอบครัว มันก็จะต้องมีที่มาจากครอบครัว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

หนังมิได้จับเรื่องนี้มาขยี้นัก แม้กระนั้นเพียงพอสัมผัสได้ว่า มันกำเนิดปัญหาอย่างงี้จริงๆในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทางความนึกคิดของคนสองสมัย…รวมทั้งแม้ว่าผลสรุปของเรื่อง จะทำออกมาได้ตามสูตร แต่ว่าก็ไม่พึงใจอะไร เนื่องจากว่ามันก็ควรจะจบอย่างนี้ล่ะ เหมาะสมที่สุดต่อทุกนักแสดงในเรื่องแล้ว

ในด้านของการลำดับเรื่อง พวกเรามีความคิดว่ามีความคล้ายคลึงการ์ตูน หรือซีรี่ส์จีน “เทพยุทธ์ เซียนกลอรี่” มาซีดๆเรื่องราวของการประลอง กลุ่ม การโยกย้ายหน้าที่ ส่วนประกอบกลุ่ม eSport กลุ่มนึง

มันไม่แน่นอนจริงๆซึ่งหนังเพียรพยายามสร้างโลกของหนังให้ผู้ชมได้กระโจนไปสู่ดินแดนที่ชี้วัดกันด้วยการแข่งขันเกม แล้วทำสำเร็จเสียด้วย ด้วยเหตุว่างานภาพ วิชวลต่างๆที่หลายๆซีนสื่อ มันปฏิบัติหน้าที่พาผู้ชมไปถึงจุดนั้นๆได้จริงๆไม่ว่าจะซีนอารมณ์ ครุ่นคิด

หรือแม้กระทั้งแอคชั่นต่างๆแม้ว่าจะดูเล่นใหญ่ เว่อวัง แต่ว่าถ้าเกิดเทียบกับโทนหนังโดยรวม จัดว่าเข้ากันได้โดยไม่เคยรู้สึกฝ่าฝืน ซ้ำยังมองสนุกสนานด้วย พวกเราไม่ค่อยมองเห็นภาพยนตร์ไทยขายงานภาพ Surreal อย่างนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว ตั้งแต่ “ฉลาดเกมส์โกง” โน่นเลย

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

ด้านคนสายหนังที่ไม่อินสายเกม ก็อาจจะจำเป็นต้องมาดูกันที่เรื่องราว Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ เล่าโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ คุณครูเบญจมาศ (อ้อม พิยดา) ที่คิดว่าชีวิตของเด็กจะดีได้ควรมีทางการค้นคว้าที่ดีและไม่ควรจะออกนอกทาง

ก่อให้เกิดแนวทางการแบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสถานศึกษา ในอีกหน้าที่การเป็นแม่เลี้ยงผู้เดียวก็ทำให้คุณครัดเคร่งกับลูกด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นที่น่าตลกเป็น โอม (ตน ต้นหน) ลูกชายนั้นกลายเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตดาวรุ่งในกลุ่มดัง เมื่อลูกไม่อยู่ในทางที่แม่ขีดไว้ แม่ก็เลยตั้งกลุ่มอีสปอร์ตขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับลูกเสียเลย…

รีวิวหนัง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่

จะว่าไปด้วยเรื่องราวที่ว่าด้วยการกีดกั้นความฝันของลูกบางทีอาจจะมองร้ายแรงไปเสียหน่อย แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า มันเป็นหัวข้อเริ่มที่ทำให้หนังมีความน่าดึงดูดใจแล้วก็เชิญชวนติดตาม

ซึ่งตัวหนังเองก็มิได้พรีเซนเทชั่นออกมาในเชิงของแม่ใจดำหวังทำลายลูกอะไร แต่ว่าคุณครูต้นเบญจมาศถูกวางให้เสมือนเป็นผู้แทนของคนแก่ แม่ที่ตั้งกลุ่มอีสปอร์ตขึ้นมาแข่งขันกับลูก ก็ราวกับเป็นการพาผู้ชมก้าวเข้าสู่แวดวงเกม

เป็นหลักสูตรเร่งรัดที่จะขยายมุมมองให้กว้างขึ้น ว่านี่เป็นอีกสังคมหรือแวดวงที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากวงการอื่นๆมีอีกทั้งด้านดี ด้านไม่ดี มีเสร็จ มีล้มเหลว เป็นอาชีพ หรือจนกระทั่งความฝันในชีวิตของคนอีกจำนวนไม่น้อย

บทสรุปโดยรวมของภาพยนตร์

บางทีอาจจะรู้เรื่องว่า Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ เน้นย้ำไปที่เรื่องราวของการแข่งขันเกม แม้กระนั้นเอาเข้าจริงๆหนังก็มีประเด็นสำคัญอื่นอีกหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อมโยงระหว่างแม่แล้วก็ลูก ความเกี่ยวเนื่องระหว่างมิตรสหายจากกลุ่มอีสปอร์ต ไปจนกระทั่งหัวข้อการเล่าเรียน ที่ถูกใส่เข้ามาเพื่อหนังมีมิติที่กว้างขึ้น อย่างไรก็แล้วแต่ นี่ดูเหมือนเป็นข้อเสียสำคัญของหนังเรื่องนี้…

หนังเทเวลาไปกับการเริ่มต้นของความไม่ลงรอยกัน แต่ไม่ว่างมากพอสำหรับในการคลี่คลายเรื่องราวให้เลิกลงในแบบที่ให้คำตอบหรือบางสิ่งแก่ผู้ชม ที่ทำให้รู้เรื่องทั้งยังมุมของวัยรุ่นรวมทั้งมุมของคนแก่ต่อสิ่งที่เรียกว่าเกม ผลเลยเป็นข้อสรุปที่บางเบาทางความรู้สึก

ที่ถ้ามีเวลาให้ขยี้หัวข้อพวกนี้อีกนิด หนังจะยกฐานะตนเองมากยิ่งกว่าเพียงแค่หนังที่เล่าราวของเกมรวมทั้งแวดวงเกม โน่นทำให้ความเข้มข้นทางดราม่าก็เลยจะต้องพึ่งพิงพลังทางการแสดงของดาราหนังเป็นหลัก ซึ่ง อ้อม พิยดา ก็นับว่าเป็นเดอะหามของหนังหัวข้อนี้ ปฏิบัติภารกิจของตนได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด

รีวิวหนัง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่

สรุปแล้วหนังเรื่อง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ บางทีอาจไม่ใช่งานที่บริบูรณ์นัก แต่ว่าถ้าหากเห็นว่านี่เป็นหนังเรื่องแรกที่ว่าด้วยเรื่องแวดวงเกม ที่มาพร้อมการออกแบบการเล่าเรื่องที่ประดิษฐ์แล้วก็น่าติดตาม

ก็พอเพียงที่หนังประเด็นนี้จะเป็นผู้แทนวัยรุ่นยุคนี้ที่ต้องการติดต่อสื่อสารให้คนแก่ฟังเสียงของพวกเขาบ้าง ว่าเรื่องราวของเกมก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแม้กระนั้นเป็นอีกหนึ่งความฝันที่อยากคนแก่ที่รู้เรื่องรวมทั้งส่งเสริม

รีวิวหนัง แดง พระโขนง หนังสยองขวัญเรื่องใหม่ของตำนานบทใหม่ของทุ่งพระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

รีวิวหนังไทยมาใหม่ กลับมาพบกันในวันนี้เราก็มีภาพยนตร์เรื่อง แดง พระโขนง ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังได้รับการโปรโมตเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของ “แจ็ค แฟนฉัน” และเพื่อนสนิทของเขา “เอ็กซ์-วัชรพงศ์ ปัทมา” ผู้คิดไอเดียนี้

ก่อนจะนำไปปรึกษากับ “หม่ำ จ๊กมก” ที่เคยร่วมแสดงและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยการสร้างบางฝ้ายฟิล์มของเขา แต่จริงๆ แล้ว แจ็คเพิ่งจะเปิดเผยว่าเขาไปสถานที่ถ่ายทำในฐานะผู้กำกับ เพียง 2 คิวเท่านั้น (แต่เขาก็ยังได้รับเครดิตเป็นผู้กำกับ)

แดงพระโขนงยังมาพร้อมกับหนังไทยสไตล์ดั้งเดิมที่กลืนได้ยาก แม้ว่าจะมีแนวคิดที่น่าสนใจอยู่บ้างก็ตาม แต่การเล่าเรื่องและกลั่นกรองเป็นบทภาพยนตร์ก็ยังค่อนข้างล้มเหลว มันไม่ต่างจากหนังตลกไร้สาระที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้ความบันเทิง

เรื่องตลกเต็มไปด้วยความคิดโบราณที่ล้าสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลกเหยียดเชื้อชาติหรือการเลือกปฏิบัติต่ออัตลักษณ์ส่วนบุคคล สมัยนี้ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ แต่เป็นการคุกคามทางวาจาประเภทหนึ่งอยู่แล้ว และเรื่องราวทั้งหมดในภาพยนตร์นั้นจะเป็นอย่างไร มาติดตามอ่านต่อได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ ช่องทางการรับชม  ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง ข้อมูลภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่อง แดง พระโขนง เต็มเรื่อง ผลงานการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของ เอ็กซ์ วัชรพงษ์ และ แจ็ค เฉลิมพล (แจ็ค แฟนฉัน) พร้อมทั้งการคุมงานสร้างของ หม่ำ จ๊กมก พวกเขาพาเรากลับไปยังทุ่งพระโขนงอีกครั้ง ผ่านการแสดงของน้องเมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน

หรือน้องวันเฉลิมวัยเด็กน้อย จากละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า ที่ในวันนี้โตขึ้นมามากแล้วจนสามารถแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้ด้วยตัวเองการแสดงของน้องคือสิ่งที่น่าชื่นชม เพราะน้องสามารถถ่ายทอดความสดใสของเด็ก, ความเศร้าและความเหงาของคนที่ถูกทิ้ง หรือกระทั่งฉากโกรธเองก็ทำได้ยอดเยี่ยม

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: วัชรพงษ์ ปัทมะ, เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์
นำแสดงโดย: เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน, มาชิดา สุทธิกุลพานิช, ภูวรักษ์ คำสิงห์
ความยาว: 97 นาที
กำหนดฉายในไทย: 31 มีนาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

เรื่องย่อ แดง พระโขนง

สำหรับเรื่องย่อของหนัง แดง พระโขนง เรื่องย่อ จะเล่าเรื่องราวของทุ่งพระโขนง ที่ยังไม่เคยถูกพูดถึง ความหลอน ความน่ากลัว และเสียงหัวเราะ กำลังจะนำมาซึ่งความประทับใจ ที่ยากจะลืมเลือน มิตรภาพแห่งวัยเยาว์ที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาขวางกั้น กับความสนุกสนาน ที่จะทำให้คุณหัวเราะจนลั่นทุ่ง รอระเบิดความหลอนจนขนหัวลุก พร้อมความฮาจนท้องแข็ง

แดง พระโขนง บอกเลยว่าเป็นหนังผีไทยที่เบิกบานมากมายอีกเรื่องหนึ่งเลยล่ะ เต็มไปด้วยความฮาพร้อมทั้งความน่ารักน่าเอ็นดูของเหล่าเด็กๆที่มองได้ทุกเพศทุกวัยเลยนะ ในหนังแทรกความเฮฮามาในทุกอณูเลยค่ะ เอาเป็นว่าแต่เห็นหน้านักแสดงก็ฮาแล้วนะ ส่วนฉากผีส่วนตัวคิดว่าหนังทำออกมาได้น่าขนลุกพอเหมาะพอควร

และก็มีฉากตุ้งเปิดเผยมากอีกด้วย นอกจากยังมีฉากเชิญซึ้งจนกระทั่งน้ำตาคลอหน่วยอีกด้วยนะ แล้วก็สิ่งที่ไม่ต้องการที่จะอยากไม่ให้พลาดกันซึ่งก็คือ

ฉากสุดเซอร์ไพรส์ในช่วงท้ายที่บอดเลยว่าว้าวกันแน่ๆนะ แล้วผู้ใดกันที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ความหลอนผสมเสียงเฮแบบงี้ก็ไม่สมควรพลาด

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง แดง พระโขนง

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: วัชรพงษ์ ปัทมะ, เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์
นำแสดงโดย: เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน, มาชิดา สุทธิกุลพานิช, ภูวรักษ์ คำสิงห์
ความยาว: 97 นาที
กำหนดฉายในไทย: 31 มีนาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวละครไทย นางนาค สะใภ้พระโขนง นางนาคฉบับใหม่ที่ นำแสดงโดย เก้า จิรายุ และ มายด์ 4EVE

การดำเนินเรื่อง

เวลาเดียวกันการแสดงของกลุ่มเด็กๆด้านในเรื่องก็ช่วยปรับให้หนังเรื่องนี้มีชีวิตชีวา แม้กระนั้นสิ่งที่มีปัญหาก็คือ บทของภาพยนตร์ แล้วก็การตัดต่อที่ฉีกอารมณ์ระหว่างดูไปพอควร

สิ่งที่พวกเราติดอกติดใจในบทภาพยนตร์ของหัวข้อนี้ก็คือ พาร์ทดราม่าของเรื่อง ที่เล่นเกี่ยวกับหลักสำคัญความรู้สึกของลูกกำพร้า และก็การที่คนภายในหมู่บ้านที่แม้ว่าจะกลัว แดง เท่าไรก็แต่ว่าดูแลเจ้าผีน้อยคนนี้มาตลอด

แม้กระนั้นส่วนที่ทำให้ทุกสิ่งพังทลายไปพอควรเลยก็คือ มุกเฮฮาที่มันไม่ตรงเป้าเอาเสียเลย มันถูกตัดต่อมาใส่แบบผิดที่ถูกเวลา

หรือมาแบบไม่มีใจความสาระที่จะทำให้เรื่องราวเดินไปด้านหน้า เมื่อมาผสมกับการตัดต่อออกจะไม่อาจจะต่ออารมณ์ได้ด้วยแล้ว มันก็ค่อนข้างจะดึงอารมณ์พวกเราไปในหลายๆฉากเช่นกัน

การเล่าเรื่องที่พยายามยัดเยียดให้เห็นถึงมิตรภาพของแก๊งเด็กทุ่งพระโขนง ให้ความรู้สึกเหมือนย้ำคิดย้ำทำ ฉากละแวกนี้คล้ายกับนั่งดูละครก่อนข่าวที่ยืดไปมาและนำไปตัดเข้าโฆษณาได้

เนื้อเรื่องแทบจะไม่เดิน เด็ก ๆ ก็ต้องมาเล่นมุกตลกที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้เล่นไปตามน้ำ เป็นอะไรที่พยายามจะทำให้ตลก แต่กลับไม่ตลก เพราะมุกที่พวกเด็ก ๆ เล่นออกมานั้น คือการเหยียดมนุษย์กันเองทั้งนั้น

ฉากโปรดักชั่นและนักแสดงนำ

ซาวน์ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่…ทำให้รำคาญ เริ่มมาเริ่มต้นก็รู้สึกเพลิดเพลินดีอยู่ เพราะว่าหนังใช้ซาวน์ประกอบเดียวกันกับ นางนาก หนังเวอร์ชั่นปี 2542 ที่ทำให้มีความรู้สึกน่ากลัวรวมทั้งขนลุกไปกับความจำที่รู้สึกนึกถึง

แต่ว่าเพียงพอหนังดำเนินไปเรื่อยแบบไม่ค่อยได้เขยื้อนเรื่องราวไปไหน ซาวน์ที่ว่าน่าคลั่งไคล้นี้กลับกลายสิ่งที่รู้สึกรำคาญที่สักครู่ตัดใส่ๆวนไปเรื่อยๆอยู่เสมอทั้งยังเรื่อง

กลุ่ม นักแสดงของ แดง พระโขนง ก็นับว่ามีความมากมายหลายดี แต่ว่าไม่มีอะไรเด่นเลยแม้แต่น้อย เป็นดาราตลกที่หยอดเข้าไปเป็นตัวโจ๊กคนละเล็กคนละน้อย บางผู้แสดงใส่มาให้เต็ม บางค้างแรกเตอร์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีก็ได้

แม้กระนั้นแคสติ้งดาราเด็กๆก็นับว่าพวกเขาทำออกมาได้ออกจะถูกใจ แม้ว่าจะยังมิได้ดีงามอะไร แม้กระนั้นก็มีสมรรถนะพอเพียงที่สามารถจะช่วยกันประคองหนังอีกทั้งเรื่องให้ไปตลอดรอดฝั่ง ในแบบอารมณ์หวานอมขมกลืน

แต่กระนั้น รีวิวแดง พระโขนง ที่กระท่อนกระแท่นกับการเล่าเรื่องราวแล้วก็พรีเซนเทชั่นไปแทบจะอีกทั้งเรื่อง กลับสามารถกลับหน้ามือเป็นหลังมือได้ทันทีทันใด เพียงในระยะเวลา 10 นาทีท้ายที่สุดของเรื่อง

กับอีสเตอร์เอ้กของหนังที่เปลี่ยนเป็นส่วนประกอบที่เหมาะสมที่สุดของหัวข้อนี้ไปโดยปริยาย เพียงแค่ฉากเดียวสามารถกลับเหตุการณ์ให้กับ แดง พระโขนง ไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ กระทั่งจะต้องยอมสารภาพตรงๆเลยว่าเผลออุทานร้อง “ว้าวววว!” ออกมาอัตโนมัติอย่างยิ่งจริงๆ

รีวิวหนัง แดง พระโขนง จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

จุดที่ดีที่สุดของเรื่องอยู่ในตอนท้าย หลังฉากไคลแม็กซ์ที่ไต่อารมณ์มาจนสุกงอม พวกเขาก็ซัดหมัดน็อคใส่คนดูด้วย ‘เซอร์ไพร์ส’ ที่คนที่รู้จัก แม่นาค ดี จะต้องตื่นเต้นและขนลุกอย่างแน่นอน พร้อมด้วยพลังการแสดงที่แม้จะมาในเวลาสั้น ๆ แต่ก็สามารถส่งมาถึงและทำเอาเราน้ำตาซึมได้เลย

แต่หนังก็ยังเป็นหนังมันต้องมีความขัดแย้งให้เรื่องเดินได้ ดังนั้นบทจึงให้ชาวบ้านในเรื่องเลือกไม่บอกพวกลูกหลานเรื่องไอ้แดงเป็นผี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนิทกันไม่ตะขิดตะขวงใจ ทำให้เกิดสถานการณ์เด็กหัวโจกเริ่มสงสัยไอ้แดงและพยายามพิสูจน์ว่าเป็นผีด้วยวิธีต่าง ๆ ที่พอได้เห็นในตัวอย่างหนังบ้างแล้ว

ประการต่อมา เราเห็นน้องเมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน ที่มารับบท ไอ้แดง และน่าจะเห็นพ้องต้องกันว่ามีความคล้าย แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สมัยเล่นหนัง ‘แฟนฉัน’ ไม่น้อย ซึ่งก็ทราบว่าเป็นความตั้งใจของแจ็คจริง ๆ

อันนี้ทำให้เข้าใจได้ว่าแจ็คก็อยากลองเลียนสูตรสำเร็จบางประการคือถึงพรสวรรค์ไม่สูง แต่พรแสวงและประสบการณ์ที่คลุกคลีทีมงานหนังที่ประสบความสำเร็จมานาน ก็ก่อร่างสร้างแจ็คที่มีแนวทางการทำหนังของตนเองได้

หนังยังมีงานภาพ ทำสีคุมโทนหนังที่ดูดี รวมทั้งมีฉากโชว์ซีจีบางฉากที่มองว้าวด้วย อย่างฉากบ้านที่เบาๆแปรไป รวมทั้งพวกการแต่งหน้าผีหลายฉากก็รู้สึกทำเป็นดีให้อารมณ์ภาพยนตร์ไทยอดีตสมัยที่แต่งหน้าทาปากผีกันชั่วร้ายมากมาย

แต่ว่าก็จำเป็นต้องเห็นด้วยว่ายังมีซีจีหลายฉากที่มันยังมองลอยๆอยู่บ้างได้แก่พวกยืดแขนยืดขา แต่ว่าก็ไม่ใช่จุดที่รุนแรงเนื่องจากราวกับคนทำหนังก็ทราบข้อเสียดีและไม่ได้เอามาเป็นฉากโชว์ขนาดนั้น อย่างฉากมะนาวตกใต้ถุนที่มีในหนังตระกูลแม่นาคทุกเรื่องนี่ จัดว่าเรื่องนี้ก็หลีกเลี่ยงซีจีได้ฉลาดมากทีเดียว

รวมทั้งความแปลกใจในที่สุดเป็น10 นาทีในที่สุดของหนัง ราวกับปัญหาของคนทำหนังมีว่าพยุงหนังให้ผู้ชมต้องการมองไปถึงช่วงท้ายหนังให้ได้ก็นับว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว ด้วยเหตุว่า 10 นาทีท้ายที่สุดนี่เป็นที่สุดจริงๆเป็นจากที่ผ่านมาที่ว่ามาทั้งผองพวกเราจะไม่ประหลาดใจเลย

ถ้าหากส่วนท้ายเรื่องจะมี ใหม่ ดาวิกา หรือ มาริโอ้ มาโผล่รับเชิญในหนังที่เป็นเสมือนจักรวาลเดียวกันหัวข้อนี้ แม้กระนั้นหนังหัวข้อนี้ขยี้ได้ร้ายกาจไปนอกเหนือจากนั้นอีก

และก็ทำให้ ‘แดง พระโขนง’ เป็นหนังที่ยกฐานะตนเองขึ้นไปอีกขั้น ไม่ประหลาดใจเลยที่คนจะตบมือให้กันทั้งยังโรงในข้อสรุปของหนัง ชื่นชอบเลยจ้า

บทสรุปโดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้

หนังมีความเป็น ‘แฟนฉัน’ ในบางแง่มุม มันบอกเรื่องมิตรภาพที่บริสุทธิ์มากมายๆรวมทั้งแบบเด็กๆอะไรที่ผิดแผกจากความธรรมดาน้อยก็บางทีอาจขยายเปลี่ยนเป็นเรื่องสำคัญได้เสมือนแบบยุคเด็กสหายเหยียบขี้หมา

ก็แบบจะไล่ให้ออกจากกรุ๊ปไปหรือบางทีอาจล้อกันผ่านเดือน แต่ว่านี่เพื่อนฝูงเป็นผีมันก็ยิ่งเกิดเรื่องใหญ่ แม้กระนั้นในด้านมุมที่ดีเป็นเด็กเขาดีกันง่ายแล้วก็คิดไม่เยอะแยะเท่าผู้ใหญ่ ทำให้อารมณ์ของหนังไม่หนักเหลือเกิน มองได้ทั้งยังครอบครัว

แต่ก็มีจุดแย้งบ้างว่าหนังยังมีแนวคิดแบบไทยคะ (ซึ่งรู้เรื่องได้ไพเราะกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวไทยวงกว้าง) ที่ยังเล่นตลกกับเรื่องรูปพรรณสัณฐาน ผิวดำ ตัวอ้วน ตาเหล่ ยิ่งพวกเราพึ่งมี

เรื่องมีราวเมียของ วิล สมิธ ในงานออสการ์มาด้วยมันก็เป็นอารมณ์แปลกๆดีที่สังคมบ้านพวกเราก็ยังถูกใจดูหนังที่ใช้จริตอย่างนี้กันอยู่ได้ตลอด อันนี้ไม่โทษคนทำหนังด้วยด้วยเหตุว่าเห็นด้วยว่าคนไทยก็ยังตลกกับอะไรแบบงี้จริงๆแต่ว่าก็แค่ตะหงิดไม่ถึงกับทำให้หนังดูไม่ดีหรอก เพียงแค่ต้องการฝากเอาไว้ในอนาคต

และหนังเรื่องนี้ก็เลยน่าแปลกใจที่ว่ามันมีตลกเบอร์ใหญ่มาร่วมแสดงคนจำนวนไม่น้อยมากมาย กระทั่งพวกเราก็เสียวว่าความอ่อนบารมีของแจ็คแล้วก็เอ็กซ์จะมีผลให้คุมหนังไม่อยู่ไหม เป็นถ้าหากมันจะเป็นหนังจั่วมุกรัวๆแบบ ‘โกยเถอะโยม’ ก็ไม่ผิดอะไร

แต่ว่ามันก็มีให้มองเห็นหลายเรื่องที่มีเส้นเรื่องดราม่าแต่ว่าพอเพียงเอาตลกโปกฮามาเล่นมากมายๆก็ชอบแป้กหรือก็ตลกขบขันกันหลงเส้นเรื่องไปเลย แต่ว่าหัวข้อนี้ผู้กำกับจัดว่าประคับประคองอยู่

หนังให้อารมณ์ฟีลกู้ดแบบรสกลางไม่ฟินจัดแบบพวกหนัง GDH แต่ก็พอได้กระทั่งไม่รู้เรื่องสึก รวมทั้งเพียงแค่รักษาโทนนี้ได้โดยมีสารพัดตลกรุ่นใหญ่มาพร้อมปล่อยของ เท่านี้ก็มีความรู้สึกว่าผู้กำกับทำหน้าที่ได้ดีมากแล้ว

หากพูดโดยสรุปแล้วสำหรับผู้เขียนคิดว่า แดง พระโขนง เป็นภาพยนตร์ที่ทำได้ดีในระดับพอใช้ เส้นเรื่องเนื้อหาน่าสนใจและมีวัตถุดิบที่ดีอย่างครบถ้วน

แต่มันกลับถูกปรุงออกมาเหมือนแกงสองอย่างที่รสชาติต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ดันต้องมาอยู่รวมในหม้อเดียวกัน จนเราแอบคิดว่า ถ้าตัดพาร์ทตลกออกไปเลย หนังอาจจะออกมาดีกว่านี้ก็ได้

รีวิวละครไทย นางนาค สะใภ้พระโขนง นางนาคฉบับใหม่ที่ นำแสดงโดย เก้า จิรายุ และ มายด์ 4EVE

นางนาค สะใภ้พระโขนง

พี่มากก็เท่ซะด้วย..ทีนี้ก็ลำบากว้าวุ่นแม่นาคเลย แฮ่!!! สวัสดีจ้าาาเพื่อนๆ ทุกคนและในวันนี้เรามีละครโทรทัศน์ไทย แนวไลฟ์สไตล์คอมเมดี้ มาแนะนำเพื่อนๆทุกคนนะจ๊ะ นั่นก็คือเรื่อง นางนาค สะใภ้พระโขนง

โดยละครเรื่องนี้ก็ เล่าเรื่องราวความรักของนางนาคและพี่มาก เรื่องราวอุปสรรคความรักระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ ที่เป็นกุญแจสำคัญในเหตุการณ์ต่างๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานสะใภ้พระโขนง

เป็นผลงานการผลิตโดย รฤก โปรดั๊กชั่น และกำกับการแสดงโดย นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ แสดงนำโดย จิรายุ ละอองมณี พระเอกสุดหล่อ เจ้าของวลีฮิต (ทีนี้ก็ลำบากว้าวุ่นเลย) ตอนนี้นั่นเอง , อาทิตยา ตรีบุดารักษา (มายด์ 4EVE)

และ รัดเกล้า อามระดิษ ละครเรื่องนี้ได้ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ทุกวันจันทร์ถึงวันพุธ เวลา 19:00 น. และตอนนี้มาฉายทางสตรีมมิงบนเน็ตฟลิกซ์แล้วด้วยนะคะ  โดยเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักครั้งนี้ของคนและผีจะเป็นอย่างไร ? ติดตามต่อได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยจ้า  ช่องทางการรับชม  ดูหนังฟรีออนไลน์

นางนาค สะใภ้พระโขนง

เรื่องย่อ นางนาค สะใภ้พระโขนง

นางนาค สะใภ้พระโขนง เรื่องย่อ เรื่องราวความรักของ มาก (เก้า จิรายุ) ชายหนุ่มพระโขนงที่ตกหลุมรัก นาค (มายด์ 4EVE) สาวสวยลูกขุนนางแห่งอยุธยาที่ตัดสินใจหนีตามมากมาเป็นสะใภ้ที่พระโขนง กลับพบปัญหาความรักเมื่อแม่เหมือน (ต๊งเหน่ง รัดเกล้า) ไม่ถูกในสะใภ้คนนี้ เพราะตนมีคนที่หมายมั่นอยากที่จะให้เป็นสะใภ้อยู่แล้ว ก็เลยคอยกลั่นแกล้งนาคสารพัดสารพัน 

จนถึงวันที่พี่มากจำต้องออกไปรบ ทำให้นาคที่ตั้งท้องจำเป็นต้องอยู่คนเดียวรวมทั้งเสียชีวิตเพราะเหตุว่าออกลูก ซึ่งเอามาสู่เรื่องราวความอลหม่านเมื่อนาคจำเป็นต้องกลายเป็นผี ไม่ยอมไปสู่สุขคติ และตามพยาบาทผู้ที่เคยทำร้ายตนเอาไว้

โดยละครเรื่อง นางนาค สะใภ้พระโขนง เป็นละครที่ออกอากาศทางช่อง Workpoint Channel เชื่อว่าหลายๆ คนกำลังรอละครเรื่องนี้ เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องผีที่นำมาสร้าง

เป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครเวที ฯลฯ แล้ว เรื่องนี้ ก็คุ้นเคยกับเราเช่นกัน เรื่องนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ “เก้า จิรายุ ละอองมณี” และ “มายด์ อธิตยา ตรีบูดารักษ์” (Mind 4EVE) ร่วมแสดงด้วย 

สิ่งที่น่าสนใจมากต่อไปคือแม่สามีและลูกสะใภ้ที่พา เนื้อหาของเรื่องจึงกลายมาเป็น “นางนาค” และ “พี่มาก” อุปสรรครัก เป็นเรื่องราวที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ่งพลาดไม่ได้แล้ว มาติดตามอ่านต่อกันได้เลยค่ะ

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิวหนังไทยย้อนยุค ส่วนตัวผู้เขียนหลังจากดูจบแล้ว ต้องบอกว่าเป็นละครที่ชวนให้ชมตั้งแต่ตัวอย่างหนังออกฉาย ผู้เขียนยอมรับตามตรงว่า เราถูกน้องมายด์ 4EVE ตกเข้าเต็มๆเลยค่ะ โดยเฉพาะหน้าตาและรอยยิ้มหวานๆ เหมาะกับตัวละคร นางนาค จริงๆ

แต่เวอร์ชั่นนี้แตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อนมาก ตรงที่ผ๔้ชมได้เห็นถึงที่มาและที่ไป ว่าทำไม แม่นาค จึงบ้าดีเดือดหลังจากการตายของพี่มาก รวมไปถึงมุมหวาน ๆ น่ารัก ๆ ของ แม่นาค ก่อนที่จะกลายเป็นสะใภ้พระโขนง

ส่วน เก้า จิรายุ ก็ยังคงเป็นนักแสดงมากความสามารถเหมือนเดิม ไม่ว่าจะบททะเล้น ตลก ประทับใจ หรือเศร้าก็ทำให้ผู้ชมอินตามได้

ซี่งพี่มากในเรื่องนี้ก็ดูมีหลากหลายมุมที่น่าติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าคู่ตั้งแต่จีบกันก่อนพากันมาพระโขนง เป็นเคมีที่ความหวานฟิน แล้วก็ชวนหัวเราะได้ตลอดทั้งซีนเลย

ความเป็นมาของละคร นางนาค สะใภ้พระโขนง

“แม่นาคพระโขนง” แม้จะถูกสร้างขึ้นมาหลายครั้งเพื่อความบันเทิงก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ได้รับความสนใจก็เพราะเนื้อหาของเรื่องเป็นตำนานที่สืบทอดกันมาเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพระโขนงในอดีต

เล่าเรื่องราวของ “แม่นาค” ผีที่ตายแล้วที่ชาวบ้านยังคงเห็นมารออยู่ที่ท่าเรือทุกคืนเพื่อตามหาสามีสุดที่รัก “พี่มาก” ที่ถูกเกณฑ์เข้ากองทัพ ดังที่คุณเห็นแม่นาคมีผมยาว มีเข็มขัด และผ้าเตี่ยว อุ้มทารกไว้ในอ้อมแขน

เมื่อพี่มากกลับมาเห็นภรรยาและลูกๆ รออยู่ ก็ดีใจมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลูกๆ อยู่กับแม่นากที่บ้านเหมือนคู่แต่งงานธรรมดาโดยไม่รู้ว่าอยู่กับผี ชาวบ้าน และเพื่อนสนิทพยายามบอกความจริงแต่ก็ไม่ฟัง จนได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าแม่นาคเป็นผี

จึงหนีไปที่วัด ทำให้แม่นาคโกรธมาก และโกรธมาก รบกวนเธอจนชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว แต่ในที่สุดแม่นาคก็ยอมรับความจริงว่าเธอเป็นผีและไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนได้

เรื่องราวก็จบลงเช่นนี้ ด้วยเรื่องหลักนี้ “แม่นาค” หรือ “นางนาค” จึงกลายเป็นเรื่อง “ผี” ยอดนิยม มีการตีความในรูปแบบใหม่ เล่าเรื่องราวใหม่ๆ ในการผลิตภาพยนตร์และละคร

แต่ว่ายังคงฉากเรื่องราวสำคัญไว้ อาทิเช่น ฉากแม่นาคยืนคอยพี่มากที่ท่าน้ำ ฉากแม่นาคตำน้ำพริกแล้วมะนาวตกลงไปที่ใต้ถุน จึงใช้มือยาวๆหยิบมะนาวขึ้นมา อื่นๆอีกมากมาย

และ “แม่นาค” มีทั้งที่สะกดด้วย ก. ไก่ (แม่นาค) และสะกดด้วยค.ควาย (แม่นาค) ชื่อเรื่องก็แตกต่างกันไป “แม่นาค” บ้าง “พี่มาก” บ้าง แต่ก็ยังคงความเป็นเรื่องราวของ “แม่นาคพระโขนง” ไว้นั่นเอง

รวมทั้งสำหรับละครเรื่องนี้ ใช้ชื่อว่า “นางนาค สะใภ้พระโขนง” เล่าเรื่องราว “นางนาค” ผิดแผกแตกต่างกว่าทุกๆเรื่องที่เคยสร้างกันมา โดยเล่าราวชีวิตของ “นาค” ที่เจอ “พี่มาก” หนแรก จนถึงไปเป็นลูกสะใภ้อยู่ที่พระโขนงว่ากำเนิดอะไรขึ้นบ้างก่อนจะตายตั้งกลม !

เคมีความน่ารักของพระเอก-นางเอก

ซึ่งละคะเรื่องนี้ก็ได้นักแสดงนำอย่าง “เก้า จิรายุ”พระเอกหนุ่มหล่อที่ตอนนี้กำลัง มีวลีฮิตเต็มทั่วบ้านทั่วเมือง  และ “Mind 4EVE” ร่วมงานกันครั้งแรก เคมีน่ารัก ของทั้งสองคู่เข้ากันดีมาก “เก้า” รับบท “พี่มาก” ชายหนุ่มที่เพิ่งมีรักแรกพบ เขาได้พบกับ “มายด์” 

และมีความน่ารักในตัวละคร “นางนาค” เขามีความเข้มงวดเหมือนชายหนุ่มและมีความไร้เดียงสาที่น่าประทับใจ ฉากพี่มากเล่นลิเกจีบนางนาคบนเวทีเป็นฉากเฮฮาและเก้าก็น่ารักมากเลยค่ะ

ผู้เขียนขอบอกเลยว่าเริ่มเห็นใจนางนาคตั้งแต่ยังไม่ได้เดินทางมาพระโขนงกันอย่างยิ่งจริงๆ เรียกว่าอินไปกับรายละเอียดของเรื่องได้ตั้งแต่ฉากแรกที่แม่เสมือนเผยตัวกันอย่างยิ่งจริงๆ อีกผู้แสดงที่พวกเราถูกใจมากมายๆก็คือ “เชิด” ที่รับบทโดย “เจแปน”

ชอบเคมีความเป็นมิตรรักของ “เชิด” กับ “พี่มาก” ที่รับส่งบทกันได้อย่างเข้าขากันแบบกวนๆจะว่าไปก็ถูกใจทั้งสองมาตั้งแต่ “ตลกหกฉากครับจารย์” แล้ว เมื่อมาร่วมงานกันอีกในเรื่องนี้จึงไม่พลาดที่จะติดตามไปทุกๆตอนอย่างแน่อน

รายชื่อนักแสดงนำคนอื่นๆในเรื่อง

ต๊งเหน่ง รัดเกล้า อามระดิษ  รับบท  แม่เหมือน (แม่ของพี่มาก)

เฟม ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล  รับบท  เรือง

เจแปน ภาณุพรรณ จันทนะวงษ์  รับบท  เชิด

ปิงปอง ธงชัย ทองกันทม  รับบท  กาก้า

โอนีล ฐิตินันท์ คลังเพชร  รับบท  หมวยลั้ง

เทล เดชาธร วสุรัตต์  รับบท  เปี๊ยก

นางนาค สะใภ้พระโขนง

แอน วาสนา พูนผล  รับบท  แม่ทองคำ (แม่ของนาค)

กลิ้ง กฤตย์ อัทธเสรี  รับบท  ขุนประจัน (พ่อของนาค)

ต๊อก ศุภกร กิจสุวรรณ  รับบท  หมื่นไวพลานุภาพ

หมู กลศ อัทธเสรี  รับบท  ตาโย่ง (พ่อเลี้ยงของพี่มาก)

เด๋อ ดอกสะเดา  รับบท  ตาฉ่ำ

พวง เชิญยิ้ม  รับบท  หลวงตามั่น

หยา จรรยา ธนาสว่างกุล  รับบท  ป้าจันทร์

ภาพรวมของละครเรื่อง นางนาค สะใภ้พระโขนง

ผู้เขียนขอให้คะแนนละครเรื่องนี้ 9/10 คะแนนเลยจ้า เคมีพระนางใหม่ดีมาก เข้ากับตัวละครและสามารถเข้าใจอารมณ์ของตัวละครได้ มีเรื่องราวตีความที่น่าสนใจหลายรสชาติ

บ้างก็ซึ้ง บ้างก็ตลก บ้างก็ดราม่า และยังมีเครื่องแต่งกาย รูปภาพ และเสียงที่ดูเหมาะสมและลงตัวอีกด้วย หากใครเป็นแฟนละครแม่นาคอยู่แล้วรับรองว่าต้องชอบ

นางนาค สะใภ้พระโขนง

เป็นละครที่มีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เนื้อเรื่องกระชับ ตัดต่อได้รวดเร็ว EP.1 ควรแนะนำนักแสดงหลักและแสดงตัวละครของแต่ละคนให้ชัดเจน โดยเฉพาะตัวละครที่ “เหมือนแม่” นำไปสู่โศกนาฏกรรมของเรื่องราวความรักลูกสะใภ้ทำให้เราผู้ชมไม่ชอบตั้งแต่ต้น

ตำนานรับของพี่มากและนางนาคในครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบไหน แฟน ๆ สามารถติดตามได้พร้อมกันในละคร นางนาค สะใภ้พระโขนง

รีวิวหนัง ขุนบันลือ ภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา

รีวิวหนัง ขุนบันลือ

รีวิวหนังไทยมาใหม่ สวัสดีค่ะกลับมาพบกันในวันนี้เราจะมารีวิวหนังเรื่อง ขุนบันลือ ภาพยนตร์ไทยแนว คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ซึ่งภาพยนตร์เริ่มเรื่องราวทั้งสิ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

ซึ่งในยุคนั้นมีขุนบันลือเป็นขุนนางในกระทรวงมหาดไทย เขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปทําธุระให้กับ พระยาปันตานัยนิรัณ เมืองจังหวัดเชียงราย

เรื่องราววุ่นวายก็เลยได้เริ่มขึ้นในในเวลานั้น ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแบบไหนมาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อมๆกันในบทความนี้ได้เลยนะคะ

ข้อมูลภาพยนตร์

กำหนดฉาย: 27 ธันวาคม 2561

แนว: ตลก

นำแสดง: เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, เอ็นดู วงษ์คำเหลา, สุนารี ราชสีมา, เพทาย วงษ์คำเหลา, ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ, ธนา ฉัตรบริรักษ์, ศักราช  ศรีวังพล, เจสสิก้า เอสพินเนอร์, สายสิน วงษ์คำเหลา, สมรักษ์ คำสิงห์, นพรุจ  แย้มขะมัง, นก วนิดา  เชิญยิ้ม, ปลาคราฟ เชิญยิ้ม, อรชร  เขิญยิ้ม, นงค์ เชิญยิ้ม, โรเบิร์ต สายควัน, เอกชัย ศรีวิชัย, ณัฐรภัทร์ กริษฐาเมธาสิริ, ไนกี้ นิธิดล ป้อมสุวรรณ

กำกับ: เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา

รีวิวหนัง ขุนบันลือ

รีวิวหนัง ขุนบันลือ ผลงานการกำกับของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา

เป็นอีกรอบที่พี่หม่ำกลับมาเล่นเอง ควบคุมเอง กับหนังสไตล์ตลกโปกฮาเบาสมอง ซึ่งส่วนตัวแล้วเห็นว่ามันเป็นการมัดเรื่องของมุกตลกขบขันคาเฟ่ จะยิง 5 บาท 10 บาท ก็เอาหมด แนวๆเดียวกับละครชิงร้อยชิงล้านนั่นแหละ

เพียงแค่มีเนื้อหาที่มากขึ้น มีการเชื่อมโยงเรื่องหละหลวมๆซึ่งมันก็จะไม่ใช่หนังที่มีบทคงที่เท่าไรนัก หลายๆครั้งเลยทำให้บทพังทลาย เพราะว่าผู้กระทำระกระโดดของฉาก (เป็นถ่ายซีนมุกไว้เป็นชอตๆแล้วตัดมาต่อกันเพื่อเก็บได้ทุกมุก แล้วก็มองเป็นการเป็นงาน)

ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หลังจากห่างหายไปนานกว่า 4 ปี นับจาก ทาสรักอสูร (2014)

งานนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้จะสามารถทำรายได้เทียบเท่าผลงานของลูกสาว เอ็ม บุษราคัม จาก ส่มภัคเสี่ยน (2017) ในแนวตลกที่กวาดรายได้ทั่วประเทศทะลุ 100 ล้านบาทได้หรือไม่นะ?  ช่องทางการรับชม  ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง ขุนบันลือ

หนังเรื่องนี้เองก็ไม่ได้หนีพ้นไปจากหนังในกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากว่าพี่หม่ำ รวมทั้งคณะละครในหนังประเด็นนี้ล้วนขบขัน …หนังมันเลยเฮฮา

ซึ่งในส่วนของมุก มีหลายมุกที่ทำเป็นดี ยิงตรงเป้า บางมุกก็บางทีก็อาจจะแป้กไปบ้าง แม้กระนั้นรวมๆรวมทั้งเป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินนะ

เพียงแค่พวกเราบางครั้งก็อาจจะจำต้องรู้จักพี่กินดีโดยประมาณนึง เนื่องจากมุกที่เล่นในประเด็นนี้ก็จะวนๆแถวจังหวัดเชียงราย แถวครอบครัวพี่หม่ำ

เรื่องย่อ ขุนบันลือ

เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัย ร.ศ. 123 (พ.ศ. 2447) เมื่อ ขุนบันลือ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ได้รับมอบหมายให้ไปราชการที่เมืองเชียงราย แต่ขุนบันลือเองกลับกังวลใจ เพราะถูก มด (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) ทาสหญิงที่ขุนบันลือแอบมีความสัมพันธ์ด้วย จับได้ว่าท่านขุนเคยมีซัมติงกับซัมวันที่เมืองเชียงรายมาก่อน 

รวมถึงความชุลมุนวุ่นรัก เมื่อเพื่อนรักของท่านขุน พาลูกสาวลูกชายมาฝากให้ช่วยดูแลระหว่างที่ไปราชการต่างประเทศ และทั้งคู่กลับมีเรื่องชอบพอกับบรรดาทาสในเรือนท่านขุนซะอีก

เรื่องราวความรักระหว่างชนชั้นจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยันรุ่นลูก ท่านขุนจะหาทางออกอย่างไร มาติดตามอ่านรีวิวกันต่อเลยค่ะ

เรียกว่าการกลับมากำกับและพ่วงตำแหน่งนักแสดงนำของ หม่ำ เพ็ชรทาย ครั้งนี้เรื่องราวของหนังก็ยังคงเป็นความตลกโปกฮาที่เป็นจุดขายของเจ้าตัวเหมือนเดิม คราวนี้ได้หยิบเอาเรื่อง

ส่วนตัวเกี่ยวกับการนอกใจภรรยาไปมีเมียน้อยเชียงรายที่แก๊งตลกสามช่าอำกันจนหลายคิดว่าเป็นเรื่องจริงมาปรับเป็นบทภาพยนตร์หวังให้แฟนๆ ได้ฮากัน

พร้อมด้วยการพาบรรดาคนในครอบครัวทั้งภรรยา ลูกชาย และน้องชายมาร่วมแสดง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ได้สร้างความสนุกเฮฮากันท้องคัดท้องแข็งได้มากอย่างที่คาดหวังไว้

ด้วยมุกตลกที่ปรากฏอยู่ในหนังนั้นไม่ได้มีความแปลกใหม่เลย ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นมุกเหล่านี้ในโชว์ตามรายการต่างๆ หรือภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของ หม่ำ เพ็ชรทาย จังหวะในการตบส่งมุกรวมก็ดูธรรมดาสร้างเสียงฮาได้เพียงน้อยนิดพอได้ขำในลำคอ

ในส่วนของพล็อตเรื่องที่ดูเหมือนจะน้ำเน่าอารมณ์คล้ายละครย้อนยุคสมัยก่อน แม้จะมีการแทรกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาเป็นช่วงๆ ก็ไม่ได้ทำให้หนังน่าสนใจมากขึ้น ดูๆ ไปก็แอบเบื่อเล็กน้อย และเชื่อว่าหลายคนน่าจะเดากันออกและมันก็ไม่สร้างเสน่ห์อย่างที่ควรจะเป็นเลย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตั้งความหวังเพื่อที่จะไปสนุกเฮฮากับ ขุนบันลือ netflix นั้นช่างเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร เหตุผลก็ดังที่กล่าวมาข้างต้นว่าหนังค่อนข้างจะซ้ำซาก

แต่ถ้าไม่ได้คิดอะไรมากหวังดูเอาแค่เพลินๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะบางครั้งบางเรื่องราวก็อาจจะทำให้คนเราหัวเราะได้ไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้

ความน่าสนใจของภาพยนตร์

ด้วยการตัวทีเซอร์หนัง มีจุดน่าสนใจตรงที่มาเซตฉากเป็นแบบย้อนยุค แอบให้ความรู้สึกควันหลงจาก บุปเพสันนิวาส หน่อย ๆ แต่เส้นเรื่องของแต่ละตัวละครไม่ได้มีอะไรที่หนังหยิบมาขยายอะไรแบบจริงจัง

หนังไม่ได้โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของ ขุนบันลือ กับหญิงสาวคนไกลที่เป็นปริศนามากอย่างที่คิด แต่จะวนเวียนอยู่กับเรื่องราวในชีวิตประจำวันมากกว่า แล้วก็ขยันปล่อยมุก 5 บาท 10 บาท

รีวิวหนัง ขุนบันลือ

บวกกับความตลกหน้าตายในแบบหม่ำสไตล์มาสร้างจุดขายเหมือนหนังของแกเรื่องอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าด้วยความที่มีนักแสดงรับเชิญหลากหลายมาสร้างสีสัน

นี่คือจุดที่ช่วยพยุงหนังให้ดูเพลินได้เรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วง 20 นาทีแรก ทุกอย่างดูสมูทกว่าที่คิด ที่หนังดูจะมีบรรยากาศที่ดี ไม่พยายามตลกเกินไป

ความรู้สึกหลังรับชม

คือถามว่ามันตลกมั้ย ผมว่ามันตลกนะ หลายๆชอตที่ยิงมานี่ฮาจริง แต่ถ้าคนไม่รู้ว่าเชียงรายคืออะไร พี่หม่ำมีประเด็นอะไรกับที่บ้าน ก็อาจจะงงๆ ไม่เกทมุกก็เป็นได้ แต่ถ้าเกทกับเรื่องที่เค้าแซวๆพี่หม่ำกันบ่อยๆ 

ที่เหลือก็คือเข้าไปเสพความฮาล้วนๆ โดยรวมมองว่านี่เป็นหนังตลกส่งท้ายปีที่เรียกเสียงหัวเราะได้ดี สำหรับคนที่ชอบตลกสไตล์พี่หม่ำค่ะ หลายมุกหลายตัวละครปูมาดี เพื่อมาขยี้มุกซ้ำทีหลังก็มี

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเน้นไปทางความฮาเสียส่วนใหญ่ เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมากมาย ไม่ได้มีปนของตัวละคร หรือความซับซ้อนใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาภาพยนตร์ไว้ดูคลายเครียด กับภาพยนตร์เรื่อง ขุนบันลือ

รีวิวหนัง ขุนบันลือ จุดเด่นและจุดด้อยหนัง

อย่างไรก็ดี เนื่องจากว่าตัวหนังมันมิได้มีเส้นเรื่องที่จะพัฒนาต่อได้เป็นชิ้นเป็นอัน มันมีแต่ชายหญิงแต่ละคู่มองเห็นหน้าสบตากันแว้บแรกแล้วปิ๊ง แล้วไปจบกัน หรือไม่ก็มีเงื่อนที่เกี่ยวเนื่องกันมาก่อนแล้ว ที่ผ่านมามองเห็นกันเดินไปเดินมาในบ้านไม่คิดอะไร

แม้กระนั้นพอเพียงอยู่ๆไปก็เกิดอารมณ์เปลี่ยว อารมณ์เหงาหงอย อารมณ์คัน (ฮา) ความสัมพันธ์ของผู้แสดงที่เป็นข้ารับใช้ในเรือนกับตัวขุนนางนั้นเลยไม่ค่อยจะมีมากมายอย่างที่จะต้องเป็น

ทั้งยังหนังก็มิได้ตั้งใจจริงกับข้อความสำคัญประเด็นการเลิกขี้ข้าอีกเช่นเดียวกัน จริงๆจำเป็นต้องกล่าวว่าหนังมีพลอตซึ่งสามารถสร้างโอกาสต่างๆเข้ามาใส่ไว้ในเรื่องให้แข็งแรงขึ้นได้

และก็บางทีอาจครบรสมากยิ่งกว่าภาพยนตร์ตลกที่มาในอารมณ์เฮฮาคาเฟ่แต่ก่อน หลายมุก หลายเหตุการณ์ดูก็รู้ว่ามาแบบด้นสด ไหลไปบ่อย

ราวกับมองตลกคาเฟ่คณะ ป๋าเทพ เล่น เพียงแค่ตัวมุกไม่ค่อยฉีก รวมๆเลยค่อนข้างจะจาง จะมีตัดคะแนนหน่อยตรงที่จังหวะจะโคนไม่ค่อยดี จะไปงัดฉากตลกมาใช้ซะโดยมาก

ซึ่งนี่ก็เป็นเยี่ยมในสิ่งที่อยู่คู่หนังหม่ำมาตลอด พอๆกับหนังพชร์ แต่เข้าใจได้ว่ามันยังเวิร์กและเข้าถึงฝูงชนมองอีกกลุ่มนั่นแหละ

อันที่จริงดู ๆ ไป นี่เหมือนกับจะเป็นหนังที่หม่ำเคลียร์ตัวเองประเด็น ‘คนเชียงราย’ ให้ชัด ๆ กับเมียแกเองมากกว่าค่ะฮ่าๆ ซึ่งก็เป็นความโรแมนติกแบบกระด้าง ๆ ตามสไตล์คนขี้เขินแบบแกเอง ขณะที่น้องมิกซ์ ก็ได้ออกมาโชว์สกิลแร็พอยู่หลายซีน

โดยภาพรวม หนังขุนบันลือ เต็มเรื่อง สร้างความบันเทิงได้ในระดับที่ดูได้เรื่อย ๆ ไม่รู้สึกติดขัดหรือรำคาญอะไรมากนักค่ะ

บทสรุปโดยรวมของภาพยนตร์

ส่วนฝ่ายนักแสดงสมทบก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว ตัวแจมที่ต้องยกให้เขาเลยอย่าง “โรเบิร์ต สายควัน” ก็ทำออกมาได้ดี ทำให้หนังมีความน่าดูมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ใครที่กำลังหาหนังตลกดูคลายเครียด หัวเราะไปจนจบเรื่องล่ะก็ หนังขุนบันลือ เต็มเรื่อง พากย์ไทย ก็เป็นหนังที่แนะนำอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

หากว่ามุกขำขันรวมๆจะมองแกนๆจางแต่ว่าในช่วงท้าย หนังก็หมวดเงื่อนเข้าด้วยกันก้าวหน้าในเรื่องครอบครัว ที่จริงดูๆไป

นี่อย่างกับจะเป็นหนังที่กินจัดการตนเองประเด็น ‘คนจังหวัดเชียงราย’ ให้ชัดๆกับภรรยาเอ็งเองมากยิ่งกว่าฮ่าๆ ซึ่งก็เป็นความโรแมนติกแบบแข็งกระด้างๆตามสไตล์คนขี้เขินแบบแกเอง

ช่วงเวลาที่น้องมิกซ์ ก็ได้ออกมาโชว์สกิลแร็พอยู่หลายซีน ก็แค่ยังไม่ถึงกับฉายแววเมื่อมาอยู่บนหนัง อย่างไรก็แล้วแต่ ในรูปภาพรวม ขุนกึกก้อง สร้างความสนุกสนานได้ในระดับที่มองได้เรื่อยไม่เคยรู้สึกขัดข้องหรือหงุดหงิดอะไรเท่าไรนัก

และจะต้องดูว่าจุดหนึ่งที่ถูกใจเป็นเรื่องของการเก็บเนื้อหาในฉาก-รูปร่างหน้าตาสไตล์การแต่งตัว ทำเป็นดีมากกว่าที่คิดอย่างยิ่งจริงๆ‪

โดยภาพรวมหนังไม่ได้น่าเกลียด ไม่ได้แย่เข้าขั้นวิกฤต แน่นอนล่ะ..หนังแนวนี้เราไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขา ถ้าใครดูตัวอย่างหนังแล้วชอบ สนุกกับมุกในตัวอย่าง บอกเลยว่ามุกที่เหลือทั้งหมดในเรื่องคุณผู้ชมก็จะสนุกกับมันเช่นกัน

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า หนังตลกไทยใหม่ล่าสุด นำแสดงโดย โอ๊ต ปราโมทย์ และ ป๊อป ปองกูล

รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า หนังตลกไทยใหม่ล่าสุด นำแสดงโดย โอ๊ต ปราโมทย์ และ ป๊อป ปองกูล

รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า

รีวิวหนังไทยมาใหม่ สวัสดีเช้าวันอังคารที่แสนสดใสนะคะ เริ่มต้นวันใหม่แบบนี้ เพื่อน ๆ คนไหนหาหนังตลกสุดฮาดูกันอยู่ไหมเอ่ย ? มาจ้าาา วันนี้ผู้เขียนก็มีหนังไทยที่พึ่งจะเข้าฉายทาง Netflix และติดอันดับ 1 – 10 เรียบร้อยแล้ว

นั่นก็คือเรื่อง อาตมาฟ้าผ่า เต็มเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นผลงานการผลิตโดยความร่วมมือระหว่างเอ็ม พิคเจอร์ส บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)

และบริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด สามยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงของไทย และจะเข้าฉายในปี 2566

ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะมาสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี มีอีกทั้งมุกตลกขบขัน และก็ข้อคิดเตือนใจสำหรับเพื่อการดำเนินชีวิตเติมแต่งเข้ามาอย่างกลมกล่อมละมุนละไม รุมล้อมไปด้วยความสนุกสนานร่าเริงจากเหล่านักแสดงที่คนทัพมาอย่างคับคั่ง ช่องทางการรับชม  ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า

เรื่องราววุ่นๆของพระ ที่ต้องปะทะกับสายฟ้าฟาด

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น ผลงานการกำกับภาพยนตร์ของ พิพัฒน์ จอมเกาะ และควบคุมการผลิตโดย ยอร์ช ฤกษ์ชัย

ในส่วนของ เรื่องย่อ อาตมาฟ้าผ่า เกิดเรื่องราวของ พระจืด (โอ๊ต ปราโมทย์) พระที่มีชะตาชีวิตแปลกและน่าอัศจรรย์ เขาต้องมาวิ่งหนีฟ้าผ่าด้วยเหตุว่าดันไปผูกกรรมร่วมกับหมอผีที่ชื่อ ปักเป้า (ปิอป ปองกูล) เอาไว้ภายในชาติปางก่อน

ถ้าเกิดหมอปักเป้าทำเวรทำกรรมอะไรไว้ วิบากกรรมทั้งปวงก็จะเกิดขึ้นกับพระจืด แถมหมอปักเป้าดันไปให้คำปฏิญาณต่อฟ้า

เพื่อเอาอกเอาใจสาวที่ตัวเองจีบ พระจืดเลยโดนลูกหลงถูกฟ้าผ่าไปด้วย ก็เลยเกิดเป็นเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายของพวกเขาที่จำเป็นต้องข้ามผ่านปัญหานี้ไปร่วมกัน

ประเภท: คอมเมดี้ / ตลก
ผู้กำกับ : พิพัฒน์ จอมเกาะ
นำแสดงโดย : ปราโมทย์ ปาทาน, ปองกูล สืบซึ้ง, ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล
ความยาว : 93 นาที
กำหนดฉายในไทย : 6 เมษายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

การดำเนินเรื่อง

ทีมเด็กวัดกับพระในเรื่องก็ เปิดฉากความสนุกโดยนำเนื้อหาทางพุทธศาสนามาด้วยทัศนคติเชิงบวก เตรียมผูกปมกับตัวละครของคุณให้พร้อมในเวลาไม่นาน

เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวพระรอดและพระสงฆ์ที่น่าสนใจจึงทำให้เกิดความขัดแย้ง ก่อนจะเข้าสู่แก่นของเรื่องอย่างรวดเร็ว

พระจืดต้องยอมรับกรรมที่เกิดจากหมอปักเปา มีการดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่าย หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น วิธีแก้ปัญหาคืออะไร? เล่าเรื่องด้วยวิธีที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทีละขั้นตอน

เมื่อพระจืดออกเดินทาง พร้อมกับการประกบด้วยทีมเด็กวัด ในส่วนนี้สามารถเรียกรอยยิ้มออกมาได้ดีพอสมควร หลายคนอาจได้รับชมจากวิดีโอตัวอย่างสำหรับบทของ ลิงจ้อย ซึ่งเป็นไปตามแบบอย่างมีความกวนชวนยิ้มออกมาได้ในทันทีทันใด

รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า

แม้กระนั้นสิ่งที่ไม่เหมือนอย่างที่คิดคือทั้งทีมเด็กวัดไม่ได้มีบทสำหรับพูด หรือฉากตลกโปกฮาที่หวือหวามากเท่าไรนัก จะเป็นบทพูดที่ออกจะเรียบนิ่งไปสักนิด

ส่วนตัวมีความรู้สึกว่ากลุ่มนี้ควรสร้างความฮาได้มากกว่านี้ อย่าง อาไท ความสามารถสำหรับเพื่อการแสดง และก็จังหวะการเล่นตลกที่เคยผ่านผลงานมาก็ค่อนจะสร้างรอยยิ้มได้อยู่พอควร

แต่ว่าในเรื่องนี้บทบางครั้งอาจจะไม่ได้ส่งไปทางตลกขำก๊ากมากเท่าไรนัก การดำเนินรายละเอียดออกจะเรื่อยๆเรียบๆไม่มีจุดไหนที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าไคลแมกซ์ อารมณ์พุ่งปรี๊ด แต่ว่าเป็นการเล่าแบบเพลิดเพลินเจริญใจยิ้มไปในทุกๆฉากนั้นๆ

โดยเมื่อเข้าถึงตอนคลายเงื่อนหนังมีการแทรกสอดแง่คิดสำหรับในการดำเนินชีวิตมาเสริมเข้าไปอย่างกลมกล่อมละมุนละไม

ก่อนที่จะคลี่คลายเรื่องราวหลักที่เป็นแก่นของเรื่อง และก็ตามมาด้วยการคลี่คลายนักแสดงนั้นๆอย่างครบบริบรูณ์ ไม่ทิ้งให้เลือนหายไประหว่างทาง ซึ่งถือข้อดีของหนังอีกหนึ่งอย่าง

ข้อดีและข้อเสียของภาพยนตร์

เรามาดูส่วนอื่นที่มีประสิทธิภาพของภาพยนตร์กันดีกว่า สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือการถ่ายภาพยนตร์ องค์ประกอบ การตัดต่อ และเอฟเฟ็กต์ CG ล้วนถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว

เช่น ฉากฟ้าผ่า พญานาค และกระสือ ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่ม CGI ส่งผลให้ได้รูปลักษณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เรามาเข้าฉากกันต่อ ส่วนประกอบ

โดยปกติแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ใช้ฉากหลายฉาก ตัวอย่างเช่น ฉากหลักสองฉาก ได้แก่ บ้านปักเป้าและวัด จะถูกจัดวางในลักษณะทั่วไป

นอกจากนี้ยังมักตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย การตัดต่อภาพยนตร์สามารถถ่ายทอดหลายอารมณ์ได้ในคราวเดียว และมีการหยุดทางอารมณ์เพื่อให้เราผ่อนคลายอยู่เสมอ มุมมองของตัวละครถือว่าได้ผล

การวิเคราะห์การกระทำของนักแสดงและการถ่ายทอดตัวละครได้อย่างแม่นยำนั้นยอดเยี่ยมมาก เช่นตัวละครหลัก พี่โอ๊ต-พี่ป๊อบ ก็จะมีตัวละครที่แฟนๆชื่นชอบ

หลายๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วนไหนของภาพยนตร์ที่จะคงตัวละครเดิมไว้เมื่อเข้ามา? และปรับให้เข้ากับบทภาพยนตร์มากขึ้น ทั้งคู่สามารถแสดงออกได้อย่างไม่เกรงกลัวต่อความลำบากใจ

รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า

มีข้อความสร้างแรงบันดาลใจทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เตรียมแสดงความสามารถในฐานะนักดนตรีด้วย บุคคลอีกคนหนึ่งที่เราชื่นชมมากคือคาริสสา

ความสามารถของเธอยอดเยี่ยมมาก เล่นใหญ่ ไร้กังวล สวยงาม และอำนวยความสะดวกส่งเสริมความเพลิดเพลินเพิ่มเติม

ส่วนเด็กวัดทั้ง 4 คน ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า บทสนทนาอาจไม่ได้มีเจตนาเพื่อตนและอาจไม่ตลก 100% เท่าที่ควร มันค่อนข้างโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตาม

มีนักแสดงคนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือหลิงจ่อย ถ้าจอยไม่อยู่ เรื่องราวบางเรื่องก็คงจะต้องจบลง แม้แต่ฝน ศนันธฉัตร ก็ปรากฏตัวทั้งตอนต้นและตอนท้ายด้วย

อย่างไรก็ตามความน่ารักของเธอยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ติดตามผู้จงรักภักดี สุดท้ายนี้ขอพูดถึงบทบาทของเอี๊ยง สาวนี แม่ของพระเชื้อ

ซึ่งเป็นที่รู้จักในบทคุณป้านิ่มในเพลงประกอบภาพยนตร์ เธอยังคงรักษาความสามารถในการแสดงอย่างเต็มที่ หนักหน่วงกับทุกอารมณ์

ความรู้สึกหลังรับชม

แง่มุมหนึ่งของหนังที่เรารู้สึกว่าสร้างความเสียหายอย่างมากก็คือการเล่าเรื่องที่ขาดเนื้อหาที่แท้จริง ถ้าเปรียบหนังกับความรู้สึกของเรา เนื้อเรื่องจะใช้เวลาประมาณ 20% ของเวลาทั้งหมด

เรื่องตลกและความเกียจคร้านของหนังจะกินเวลาประมาณ 80% ของเวลาทั้งหมด จึงทำให้หนัง 93 นาทีดูเป็นหนังสั้น อย่างไรก็ตาม มันยังค่อนข้างกว้างขวางคล้ายกับเรื่องนี้

นอกจากนี้เรื่องตลกของหนังก็ไม่มีผลสำหรับเรา (เราไม่แน่ใจว่ามีใครเคยดูเรื่องนี้แล้วหัวเราะหรือเปล่า ) สำหรับเรา ไม่มีช่วงเวลาใดที่เราคิดว่ามีอารมณ์ขันในหนังเรื่องนี้ สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการหัวเราะในลำคอ

เราเชื่อว่าข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือบางส่วนของหนังมีการนำเสนออย่างตลกขบขันจนทำให้คุณรู้สึกหดหู่มากกว่าการล้อเลียน

สิ่งที่น่ายกย่องคือความสามารถของนักแสดงในการทำงานร่วมกันในขณะที่พวกเขาพูดตลกซ้ำๆ กันได้อย่างราบรื่น หนังดูมีสีสันน่าดู อย่างไรก็ตาม

สิ่งนี้ไม่ได้เพิ่มคุณค่าความบันเทิงของภาพยนตร์ ลูกเล่นหลายอย่างในหนังมีอยู่ทั้งที่นี่และที่นั่น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น หนังโดยรวมจึงดูขาดความหลงใหล

อาตมาฟ้าผ่า netflix ยังเป็นภาพยนตร์ตลกจากระรุกที่มีผู้ชมชาวไทย ดูเหมือนจะไม่มีฟีเจอร์ความบันเทิงหรือตลกใหม่ๆ เลย ดูเหมือนว่าองค์ประกอบ น้ำเสียง

และมุกตลกจะเคยถูกนำมาใช้มาก่อน ข้อดีอย่างเดียวของเราคือนักแสดงที่มีส่วนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ปรากฏ อย่างไรก็ตาม การนอนยังถือว่าเป็นความลับแบบเปิดเผย

โดยหนังบทหนังจาก โอ๊ต-ป๊อป ก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แฟนๆ หลายคนติดตาอยู่แล้ว ซึ่งพอเข้ามาในหนังก็อาจจะมีส่วนที่ทั้งคงคาแรคเตอร์เดิม

และปรับให้เข้ากับบทหนังเพิ่มเติม ซึ่งทั้งสองคนสามารถแสดงออกมาได้อย่างไม่มีสะดุด มีฉากที่สามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อย่างจุใจ

รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า ฉากที่ประทับใจ

ส่วนตัวผู้เขียนเองเป็นแฟนคลับของโอ๊ต-ป๊อป รวมทั้งงานหนังของพี่ยอร์ชอยู่ห่างๆโดยเหตุนั้นแล้วจะดีจะร้ายก็ยังคงมีความคิดว่า มันควรจะมีอะไรสักอย่างในหนังที่โดนเส้นพวกเราบ้าง

ซึ่งก็คิดถูกค่ะ เนื่องจากว่าอย่างน้อยๆก็มีฉากตลกโปกฮาใหญ่ๆที่เล่นเอาขำจนกระทั่งเจ็บท้องอยู่ 2 – 3 ซีน

แบบว่าซีนที่พวกเรารู้ดีว่าคุณจะมาเล่นตลก รวมทั้งเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่คุณยังมีผลให้มันตลกโปกฮากระทั่งเจ็บท้องได้ อันนี้เป็นโคตรยอดเลยล่ะ แต่ว่าก็อย่างที่เกริ่นไว้ เพราะว่านอกเหนือจากความขำขันแล้ว ส่วนประกอบอื่นๆมันน้อยลงมากมายๆ

เริ่มจากเรื่องราวที่เรียบแบนราบ การจัดการข้อแม้ของหนังที่ง่ายแสนง่าย กลุ่มตัวเอกที่น่าดึงดูดมีความไซอิ๋วหน่อยๆแต่ไม่ได้มีฉากร่วมเสี่ยงอันตรายกันซักเท่าไหร่ หรือการที่หนังมีสิ่งที่น่าดึงดูดอย่างกระสือหรือพญานาค แต่กลับผูกมันให้มันเหมาะอย่างบางๆ

ก็ออกจะน่าเสียดาย ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ฟ้าผ่า” ที่น่าจะดูเป็นพระเอก ดู อันตราย หรือมีหน้าที่มากยิ่งกว่านี้ ก็กลายเป็นเพียงแค่ตัวประกอบตอนกลางเรื่องแค่นั้น

แน่ๆว่ามันไม่ถึงขนาดห่วยแตกเลอะเทอะอะไร แม้กระนั้นมันเพลนไปๆมาๆกๆไม่ถึงกับขนาดดีจนกระทั่งสามารถออกปากชมได้อย่างสนิทใจ

ก็ออกจะน่าเสียดาย ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ฟ้าผ่า” ที่น่าจะดูเป็นพระเอก ดู อันตราย หรือมีหน้าที่มากยิ่งกว่านี้ ก็กลายเป็นเพียงแค่ตัวประกอบตอนกลางเรื่องแค่นั้น

แน่ๆว่ามันไม่ถึงขนาดห่วยแตกเลอะเทอะอะไร แม้กระนั้นมันเพลนไปๆมาๆกๆไม่ถึงกับขนาดดีจนกระทั่งสามารถออกปากชมได้อย่างสนิทใจ

การผจญภัยผจญกรรมของพระจืดเลยจบเพียงแค่เป็นภาพยนตร์ตลกซึ่งสามารถดูเพื่อผ่อนคลายความเครียดพอได้

แต่บางทีอาจไม่น่าจดจำอะไรนัก เคมี โอ๊ต-ป๊อป นั้นอยู่ในระดับดีเลิศอยู่แล้ว ถึงสามารถแต่งตั้งฉากสุดฮาที่เยี่ยมที่สุดของหนังได้ แต่ว่าพอเพียงมานึกถึงในรูปภาพรวม

สรุปภาพยนตร์ อาตมาฟ้าผ่า ควรค่าแก่การรับชมไหม ?

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าหนังเรื่อง อาตมาฟ้าผ่า hd เป็นหนังที่เด่นด้านตลกอย่างเดียวเลยยย !!! ถ้าเพื่อน ๆ หาอะไรดูคลายเครียดหรือหาหนังดูชิล ๆ

เรื่องนี้ก็บางทีอาจเหมาะสมกับทุกคนก็ได้ค่ะ เพราะอย่างน้อย ๆ มันก็ทำจุดที่ต้องการจะขายได้ดีล่ะนะ

แต่ก็นั่นแหละ ผู้เขียนอยากจะเชียร์มันให้ได้เต็มปากมากกว่านี้ น่าเสียดายจริงๆ บทภาพยนตร์อาจไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับหนังตลกเต็มตัวเรื่องอื่นๆสักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถดูเพื่อความเพลิดเพลินไปกับมันได้ คล้ายๆกับที่เราเคยดูมาแล้ว เพราะเราว่ามันสนุกอยู่นะคะ ได้อยู่ = ?

ในส่วนของประสิทธิภาพก็ถือว่าจับต้องได้ดีพอสมควรนอกจากนี้ อีกทั้งการทุ่มเทในบทบาทที่ได้รับจำเป็นต้องยกนิ้วให้เลย ต่อมาอีกด้านที่ชูโรงได้ดิบได้ดีคือการตัดต่อ

เอฟเฟกต์ CG ที่เสริมกองทัพเข้ามาทำให้หนังพอดีมากขึ้นเรื่อยๆ เหมาะสำหรับรับชมวันสบายๆ หนังเรื่อง อาตมาฟ้าผ่า ก็รอให้ทุก ๆ มาเฮฮาไปด้วยกันค่ะ

ทั้งนี้การรีวิวเป็นความชอบและเป็นความรู้สึกของเราเท่านั้น เราไม่ได้ตัดสินว่าเรื่องไหนดีหรือไม่ดีเพราะรสนิยมความชอบไม่เหมือนกัน ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย ถ้าชอบกดติดตามได้เลยจ้า ครั้งหน้าจะมารีวิวเรื่องอะไร อย่าลืมติดตามกันนะ

ติดตามรีวิวหนังเรื่องนี้ รีวิวหนัง Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์ 2023

รีวิวหนัง Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์ 2023

Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์

หนังไทยมาใหม่  วันนี้อยากจะขอมานำเสนอเรื่อง Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์ เป็นหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีตพระเอกอย่าง มิตรชัย บัญชา พระเอกขวัญใจคนไทย ที่สมัยก่อนนักเร่ฉายหนังขายยาต้องมีหนังที่เขาแสดงติดรถไว้เพื่อฉายเรียกลูกค้า

และเขายังสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนด้วย เรียกได้ว่าเป็นข่าวดี 2 เด้งของคอหนังไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ ข่าวแรกก็คือ นี่คือการกลับมากำกับหนังไทยของพี่อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์แถวหน้าของไทย

เจ้าของผลงานระดับตำนานทั้ง ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ (2540), ‘นางนาก’ (2542) และ ‘จัน ดารา’ (2544) และอีกข่าวก็คือ Netflix เองก็มีออริจินัลคอนเทนต์ที่แปลกใหม่มากขึ้น

โดยคราวนี้เลือกที่จะหยิบเอากลิ่นอายเมืองไทยช่วงทศวรรษ 2510 ซึ่งเป็นยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ไทย หรือที่เรียกกันว่ายุค ‘มิตร-เพชรา’ หรือยุคฟิล์ม 16 มม. มาบอกเล่าผ่านอาชีพเล็ก ๆ ที่สูญหายไปแล้วในยุคนี้อย่าง ‘หนังขายยา’

และอาชีพนักพากย์หนัง ด้วยตัวเส้นเรื่องถือว่าน่าสนใจมาก ๆ หลังจากดูจบแล้วเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ และเพื่อนๆสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง ดูหนังฟรีออนไลน์ สุดยอดเว็บดูหนังฟรี ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ

Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์

มนต์รักนักพากย์ (2023) เรื่องย่อ

เรื่องราวของ มนต์รักนักพากย์ เต็มเรื่อง เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2513 หน่วยเร่ขายยาหน่วยที่ 18 ของบริษัทขายยาโอสถเทพยดา ที่ประกอบไปด้วย มานิตย์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หัวหน้าและนักพากย์ประจำหน่วย, ไอ้เก่า (จิรายุ ละอองมณี) ไอ้หนุ่มพนักงานดูแลเครื่องฉาย

และ ลุงหมาน (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) คนขับรถ จนกระทั่งพวกเขาได้เจอกับ เรืองแข (หนึ่งธิดา โสภณ) หญิงสาวหัวก้าวหน้าผู้อยากมีอนาคต มาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วย

พวกเขาทั้ง 4 คนต้องออกตระเวนฉายหนัง พากย์หนังกลางแปลง และขายหยูกยา ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาเปลี่ยนแปลงอาชีพของพวกเขา

ในแง่หนึ่ง การหยิบเอาเรื่องราวของอุตสาหกรรมหนังไทยในช่วงปี 2513 ถือว่าเป็นอะไรที่โดดเด่นไม่น้อย เพราะแทบไม่มีหนังไทยที่เคยพูดถึงวงการหนังในยุคนี้มาก่อน

แต่ในอีกแง่หนึ่งมันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เรื่องราวที่พ้นสมัยไปแล้วมีความน่าสนใจมากกว่าเป็นแค่สารคดีเฉย ๆ ตัวหนังให้น้ำหนักกับการสร้างมวลบรรยากาศของหนังไทย ที่คอหนังไทย คนทำหนัง และนักดูหนังน่าจะชอบค่ะ

การดำเนินเรื่อง

ตัวหนังแอบหยอดและสอดแทรกสิ่งละอันพันละน้อย ที่เป็นการแสดงความเคารพหนังไทยยุคนั้นเอาไว้เต็มไปหมด รวมทั้งการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน

อุตสาหกรรมหนังไทยยุค 16 มม. ตั้งแต่การถวิลหาความสมจริงในหนังมากขึ้น การเข้ามาของสื่อโทรทัศน์ที่มีผลต่อธุรกิจขายยา รวมทั้งการเสียชีวิตกะทันหันของ มิตร ชัยบัญชา

ที่เปรียบกับการสิ้นสุดของเสาหลักของวงการหนังไทย ทั้งในมุมของคนดู และคนทำงานตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีหนังสือเล่มไหนเขียนถึง (และก็น่าจะมีอีกเยอะที่ไม่มีใครพูดถึงเช่นกัน)

เอก เอี่ยมชื่น ผู้เขียนบท เลือกที่จะให้ตัวละครของหนังเป็นตัวเดินเรื่องแบบกึ่ง ๆ Road Movie ที่มีบรรยากาศและองค์ประกอบย้อนยุคครอบคลุมอยู่

และปล่อยให้ตัวละครเดินเรื่องและพบกับ Conflict ไปเรื่อย ๆ ผ่านบรรยากาศและองค์ประกอบ โดยมีเส้นเรื่องเกาะเกี่ยวไว้แบบบาง ๆ

ความฝันของทุกคนล้วนแตกต่าง

มนต์รักนักพากย์ หนังไทย แม้จะมีกลิ่นอายของยุคสมัยก่อน แต่เส้นเรื่องก็ยังคงดำเนินไปด้วยความฝันทั้งของ มานิตย์ เรืองแข เก่า และลุงหมาน ทุก ๆ การเดินทางพวกเขาต้องแบกความฝันที่เขามีไปด้วย และหวังว่าสักวันมันจะเป็นจริงขึ้นได้

ด้วยความพยายามของพวกเขาแม้ความฝันของพวกเขาจะแตกต่าง แต่จุดหมายคือความสุขและสิ่งที่พวกเขารัก และพวกเขาก็สามารถก้าวผ่านความกลัวใจใจไปได้ ดูแล้วสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว

ซึ่งเอาจริง ๆ ตัวหนังค่อนข้างจะเดินตามโครงเรื่องแบบที่คุ้นเคยกัน และหลาย ๆ จุดในหนัง เอาเข้าจริงก็แอบ Cliché ประมาณหนึ่งเลยแหละ อีกจุดก็คือ

พอหนังเน้นเล่าบรรยากาศ พล็อตของตัวละครบางส่วนจึงยังไม่ลงตัวนัก โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์ที่ยังดูฉาบฉวย และมีช่องโหว่อยู่บ้าง

แต่ก็ต้องชื่นชมว่า ด้วยรายละเอียดโครงเรื่อง การอธิบายตัวละคร การสร้างบรรยากาศที่สมจริงและเข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งการมีเซตของตัวละครที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่นกันคนละแบบ

ช่วยให้ตัวหนังมีเสน่ห์และตามดูได้เพลิน ๆ รวมทั้งการที่ตัวหนังฉลาดด้วยการหาทางลงให้กับตัวละครได้สมจริงมาก ๆ

เหมือนเป็นตัวบ่งบอกว่า ในช่วงชีวิตของวงการหนังไทย ล้วนผ่านวัฏจักรการล้มหายตายจากมาไม่มากก็น้อย แต่ก็จะมีบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาทดแทน สิ่งที่ตัวละครทำได้ก็คงมีแค่โอบรับ เข้าใจ และปล่อยให้อดีตผ่านไปช้า ๆ เท่านั้นเอง

บรรยากาศชวนให้นึกถึงวันวาน

ถ้าใครเกิดทันในยุคหนังกลางแปลงที่กำลังเฟื่องฟู คงจะอินน่าดู เพราะเนื่องด้วยรายละเอียดของหนังหลาย ๆ อย่างทำออกมาได้ดีจนว้าว แม้จะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย ๆ หนังเขาก็ใส่ใจ เช่น สลากล็อตเตอรี่ในยุคนั้น ร้านรวงต่าง ๆ การแต่งตัวในยุคนั้น

ซึ่งเราไม่มีทางเคยเห็นแน่นอน และการเร่รถไปในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อฉายหนังและขายยา แต่ถ้ายุคหลัง ๆ อย่างตัวเราเองก็อาจจะไม่ทัน แต่หนังก็ทำให้เห็นภาพของบรรยากาศในยุคนั้นจึงทำให้คนดูอินกับหนังได้ไม่ยาก

Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์

วิธีการเอาตัวรอดในเรื่องอาจจะยังมีกลุ่มคนที่มองเพศหญิงเป็นเครื่องทางเพศ ในเรื่องเราจะเห็นว่าตัวดวงแขมีการปกป้องตัวเองอย่างไร

เมื่อต้องมาอยู่ในทีมที่มีแต่ผู้ชาย และจะได้เห็นวิธีการปกป้องพวกพ้องจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ผู้กำกับใส่เข้าไปแล้วรู้สึกว่าลงตัวมาก ๆ

มนต์รักนักพากย์ (2023) การรำลึกถึงพระเอกขวัญใจหนังไทยในอดีต

เรื่องนี้มีการผสมความรำลึกถึงพระเอกที่เฟื่องฟูในยุคนั้น มิตร ชัยบัญชา ในเรื่องได้เสริมรายละเอียดของเนื้อหาเข้าไป และเขาก็เป็นแรงบรรดาใจให้ผู้คนมากมายในสมัยนั้น

แต่กลับต้องมาจากไปในวัยอันควร มีฉากที่เรื่องนี้หยิบยกขึ้นมาให้คนที่ไม่เคยรู้มาก่อนได้เห็นเช่นฉากยกร่างของมิตรชัยบัญชาให้ประชาชนดู

เพื่อพิสูจน์ว่าเขาได้เสียชีวิตจริง ๆ ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าเป็นเพียงการแสดง ๆ แต่เมื่อได้ย้อนดูภาพเก่า ๆ แล้ว มันคือเรื่องจริง ที่หนังหยิบยกขึ้นมาแสดงให้คนรุ่นหลังได้รู้

ทีมงานและนักแสดง นักแสดงทุกคนทำออกมาได้ดี การสื่ออารมณ์การเข้าสวมบทบาทได้สมจริง ฉากร้องไห้ก็ทำให้ดูแบบเสียใจจริง ๆ เลือกนักแสดงมาได้ดีมาก ๆ

ตัวละครที่เราชอบเลยคือ หนูนา หนึ่งธิดา ไม่คิดว่าจะเล่นออกมาดีขนาดนี้ ตัวละครดวงแขบุคลิกดูก้านโลก แต่ก็อ่อนหวาน หนูนาทำให้เราเชื่อบุคลิกนั้นจริง ๆ ซึ่งเราประทับใจมาก

หลังจากดูหนังเรื่องนี้ทำให้รู้สึกอยากย้อนกลับไปในวันวาน แม้ว่าตอนนั้นเราอาจจะยังเด็กมาก ๆ แต่ก็ยังคงไม่ทันหนังขายยาที่มีพากษ์สดอยู่ดี

จะมาทันช่วงยุคหนังกลางแปลง ล้อมวิก แล้วก็ตาม แต่เราก็ยังคงอินกับกลิ่นอายของยุคนั้น ๆ อยู่ดี โดยส่วนตัวชอบหนังโทนนี้มาก ๆ สำหรับใครถ้าชอบหนังแนวนี้สามารถดูได้ที่ Netflix

บทสรุปโดยรวมของภาพยนตร์

ผู้เขียนมองว่าทีมงานมีความฉลาดในการ casting ตัวละครหลักและการเลือกโลเคชัน และสถานที่ถ่ายทำก็ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครในเรื่องได้

บางซีนมันอาจจะดูเชยๆ ดูชนบท แต่ผู้เขียนก็รู้สึกถูกใจเป็นอย่างมาก พล็อตเรื่องดี ภาพสวย ตัวละครมีเรื่องราวที่น่าสนใจ แม้ในเรื่องจะยาวไปนิดหนึ่งในเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งย่อเนื้อเรื่องให้กระชับขึ้นได้

โดยรวมหนังให้ความรู้สึกเต็มอิ่มและไม่น่าเบื่อเลย ซึ่งหลังรูจบให้อารมณ์ครบทุกรสเลยทั้งตลก เศร้า และสนุกสนาน รวมถึงน่าสงสาร

ผู้เขียนเกิดทันในช่วงที่หนังกลางแปลงดังในตลาดแถวบ้านของผู้เขียนซึ่งเอาจริงๆผู้เขียนไม่รู้เลยว่าในชีวิตนั้นมีอาชีพนักพากย์หนังกลางแปลงด้วย เรื่องนี้เล่าและตีแผ่เบื้องหลังการทำอาชีพพากย์หนังกลางแปลงอยู่ด้วย

Once Upon A Star มนต์รักนักพากย์

ซึ่งเหมือนเราได้กลับไปย้อนยุคในสมัยก่อนที่จะมีสมาร์ทโฟนจริงๆ และได้รับรู้และเข้าใจว่าในสมัยก่อนนั้นคนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตนั้นเขาใช้ชีวิตกันยังไง

และหนังไทยเรื่องนี้ทำออกมาดีกว่าที่ผู้เขียนเคยคาดคิดหรือคาดหวังเอาไว้ในตอนแรกก็ดูตามกระแสเฉยๆเพราะติดกระแส top 10 ในช่อง Netflix แต่มันกลับดีกว่าที่คิดเอาไว้

แล้วทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาที่เรายังเป็นเด็กและไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆและคอยซื้อของในตอนที่เดินเล่นในตลาดจริงๆ หนังไม่ได้เน้นไปที่ประเด็นความรักมากนัก

แต่เน้นไปที่การทำอาชีพของตัวเอกมากกว่าเลย เป็นความประทับใจแบบที่หาได้ยากในเสน่ห์ของหนังไทย การแสดงของนักแสดงก็ค่อนข้างดีดู เป็นธรรมชาติในเรื่อง ไม่ล้นเกิน ไม่ขาดเกิน กำลังดีเลย

สำหรับหนังมนต์รักนักพากย์ (Once Upon A Star) เราให้คะแนน 9/10 ถือเป็นหนังที่ให้ความรู้สึกดี มองดูแล้วมีกลิ่นอายของยุค 60 ที่ดูอบอุ่น ดูของวินเทจ

และวิถีชีวิตของคนในยุคนั้นด้วย และที่สำคัญตัวหนังยังพาเราไปสัมผัสประสบการณ์การฉายหนังขายยาที่ทุกวันนี้หาดูไม่ได้อีกแล้ว เพื่อนๆสามารถชมภาพยนตร์ได้ที่ทาง Netflix

หรือเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากรับชมรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิว The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย ซีรีส์ไทยแนวระทึกขวัญ/สืบสวนสอบสวน

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย ซีรีส์ไทยแนวระทึกขวัญ/สืบสวนสอบสวน

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย

สวัสดีค่ะ หนังไทยมาใหม่ กลับมาพบกันในวันนี้เรามี ซีรีส์ไทยแนว ระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวน มาแนะนำให้กับทุกๆคนได้อ่านกัน นั่นก็คือเรื่อง The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย

เปิดฉากด้วยความสยองบนชั้น 8 อพาร์ทเมนต์หรู เมื่อ “ลิเดียร์” (จอย รินลานี) อดีตเจ้าของห้อง 801 นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของ “นาน่า” (เบียร์ ภัทรนันท์) เจ้าของห้อง 807 และผู้ถือมีดนั่งใกล้ศพทำหน้าตาตกใจสุดขีดคือ “นนท์” เจ้าของห้อง 801 คนใหม่

ซึ่งประกาศแบบเดียวกับที่เขากล่าวหนักแน่นว่า เขาไม่ใช่ฆาตกร!! และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ต้องมองหา ใครฆ่าลิเดีย ? ที่ในวันนี้ผู้เขียนขอมารีวิวความสนุกและความน่าติดตามของซีรีส์เรื่องนี้ให้ได้อ่านกันค่ะ

และเพื่อนๆสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง ดูหนังฟรีออนไลน์ สุดยอดเว็บดูหนังฟรี ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย เรื่องย่อ

นนท์ (อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร) เป็นสถาปนิกที่ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งใจกลางเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ทำให้เขาตัดสินใจซื้ออพาร์ทเมนต์ใหม่ผ่าน นายหน้าขายห้อง (ธน ฉัตรบริรักษ์)

ในราคาถูกมาก เทียบกับได้ห้องสวยหรู พร้อมอยู่ใจกลางเมือง และที่สำคัญเขาไม่ต้องไปทำงานสายอีกต่อไป รุ่ง (ครีม เปรมสินี) ภรรยา มิ้นท์ (นารา เทพนุภา)

ลูกสาวชั้นมัธยมปลาย และลูกชาย (นายซูยวน พัง) ลูกชายชั้นประถมศึกษา พวกเขาทุกคนชอบบ้านใหม่ แม้ว่ามิ้นต์จะรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ร่วมกับครอบครัวใหม่ของพ่อ

แต่แจแมว ประธานคณะกรรมการกฎหมายของอพาร์ทเมนท์ซึ่งพักอยู่ที่ห้อง 805 ได้เชิญผู้อยู่อาศัยบนชั้น 8 ให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับครอบครัวนนท์ เพื่อนบ้านใหม่ของพวกเขา บนชั้นดาดฟ้าของอพาร์ทเมนต์

นนท์และครอบครัว เขาได้พบกับ ครูศร (ทศ ทศพร) รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง ห้อง 802 เกด (ไดญา โทณะวณิก)

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย

เจ้าของเพจ หมาซึมเศร้า และแมวป่วย ห้อง 803 โต (วิทย์ พัชรพล) ​​และ จ๋า (ปรางปรางทิพย์) สามีภรรยาที่เปิดร้านขายน้ำหอม ห้อง 804 หมอกิต เจ้าของคลินิกเสริมความงาม โดยมี คุณหญิง ภรรยา และลูกสาว น้ำชา (ด.ญ.นราจา จันทสิน) ห้อง 806 นานา

ดาราสาวแสนสวย ห้อง 807 และแชมป์เปี้ยน (เปรม วรุณ) YouTuber ทำรายการล่าผี เจ้าของช่อง The Champions Channel ห้อง 808 แต่มิตรภาพดีๆก็เริ่มต้นขึ้น ไม่นานหลังจากจุดเริ่มต้น เหตุการณ์เลวร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อ “ลิเดียร์” (จอย รินลณี) อดีตเจ้าของห้อง 801 ถูกฆาตกรรมภายในอพาร์ตเมนต์

ภาพที่ทุกคนเห็นคือนนท์ถือมีดอยู่กับศพของลิเดีย ทำให้ทุกคนเข้าใจว่านนท์คือฆาตกร! แต่เนื่องจากนนท์ทะเลาะวิวาทกับครอบครัวจึงพยายามบอกทุกคนว่านนท์ไม่ใช่ฆาตกร

เมื่อเจ้าของทุกห้องบนชั้น 8 ได้รับกล่องลึกลับที่บรรจุอะไรบางอย่างอยู่ ทุกคนที่เห็นก็ตกตะลึง ชาวบ้านทั้ง 8 ห้องเริ่มสงสัยกัน ทุกคนกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะกล่องถูกส่งมาจาก “ลิเดีย” ที่เสียชีวิต !!!!

ข้อมูลซีรีส์

ผลงานกำกับซีรีส์โดย มนิตย์ สนับแน่น
ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง TrueID
เริ่มออกอากาศ 22 กันยายน 2566
เวลาออกอากาศ 20:00 – 21:00 น.

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย

นำแสดงโดย
รินลณี ศรีเพ็ญ รับบทเป็น ลิเดียร์
อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร รับบทเป็น นนท์
เปรมสินี รัตนโสภา รับบทเป็น รุ้ง
นารา เทพนุภา รับบทเป็น มิ้นท์
วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ รับบทเป็น แชมป์
ทศพล ศิริวิวัฒน์ รับบทเป็น ครูศร
ไดญา โทณะวณิก รับบทเป็น เกด
พชรพล จั่นเที่ยงรับบทเป็น โต
ปราง ปรางทิพย์ แถลง รับบทเป็น จ๊ะ
วัลลภ มณีคุ้ม รับบทเป็น เจ้แมว
สวิช เพชรวิเศษศิริ รับบทเป็น หมอกิต
แวนดา สหวงษ์ รับบทเป็น หญิง
ภัสรนันท์ อัษฎมงคล รับบทเป็น นาน่า

ใครฆ่าลิเดียร์ ?

ด้วยความที่ผู้เขียนชื่นชอบซีรีส์แนวสืบสวนระทึกขวัญ เมื่อ “กล่องหลอน ซ่อนตาย” เปิดทีเซอร์ด้วยการถามคำถามว่า “ใครฆ่าลิเดีย” และบอกเล่าเรื่องราวการตายของ “ลิเดีย” รับบทโดย “จอย รินลานี”

ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเธอ แต่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดอาศัยอยู่บนชั้นเดียวกันของอพาร์ตเมนต์ ต้องติดตามกันต่อไป เริ่มที่ “กล่องผีสิง ความตายที่ซ่อนอยู่” The Box EP.0 ตอน “กล่องลับ แฟ้มคดีผีสิง”

เพื่อทำความรู้จักกับตัวละครและใครคือใคร และติดตามชมตอนแรก EP.1 ศพลึกลับ ที่มาพร้อมรีวิวสนุกๆ ที่ชวนให้ติดตาม หลังจากที่ได้ดูแล้วสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดู ยังมาไม่ถึงและสนุกตื่นเต้นไปด้วยกัน

ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของการฆาตกรรมผ่านชีวิตของหลายครอบครัวที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน และทุกคนต่างก็มีความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้าน

คาแรคเตอร์ของตัวละคร

ปริศนาใครฆ่าลิเดียร์ ? ทำให้น่าติดตามตัวละครแต่ละตัวเป็นอย่างมาก เชื่อว่าหลังจากการฆาตกรรมเกิดขึ้นแล้ว กล่องปริศนาถูกส่งมาหน้าห้องของทุกคน ด้วยสิ่งของภายในกล่องที่แตกต่างแต่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ตาย

นอกจากตัวละครที่ทุกคนอยู่บนชั้น 8 ของอพาร์ทเมนต์ก็มองตากันด้วยสายตาที่แตกต่างกัน เริ่มถามคำถามว่าใครเป็นฆาตกร คนดูอย่างเราก็เริ่มพิจารณาตัวละครด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจใครเลย

เพราะตราบใดที่เรายังไม่รู้ว่าใครคือฆาตกร โอกาสที่ทุกคนจะเป็นฆาตกร เป็นไปได้สำหรับทุกคน นี่คือความสนุกและเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำให้พลาดไม่ได้

และถ้าถามผู้เขียนว่ามีอะไรที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับซีรีย์เรื่องนี้บ้างไหม? บอกได้เลยว่าจบเร็วมากทุกคน เราตื่นเต้นและสนุกกับมัน ว้าว มันจบแล้ว ต้องรออ่านตอนต่อไปพร้อมกับคำถามในใจ ใครคือฆาตกร?

The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย เพลงประกอบซีรีส์

นอกจากจะติดตามชม “กล่อง กล่องผีสิงที่ซ่อนคนตาย” แล้ว อย่าลืมฟังเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ด้วย “เพลงทิ้งอดีต” ของ “นนท์ ห้อง 801” หรือ “เล็ก เลี่ยน คาเฟ่” เป็นเพลงที่มีทำนอง เนื้อหาของเพลงและเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“…ทิ้งอดีตของฉันไว้ อย่าเสียเวลามองย้อนกลับไป

มาพักที่นี่กันเถอะ ตอนนี้รับได้ไหม? วันที่เรายังมี…”

“เดอะบ็อกซ์” บอกเล่าเรื่องราวผ่านอดีตที่จะส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคต บางครั้งการปล่อยวางอดีตอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อชีวิตของใครหลายๆ คน หากเราพบว่าใครคือฆาตกร! อดีตของคนหนึ่ง..อีกหลายคน…ต้องค่อยๆ เผย ไม่ว่าคุณจะอยากได้หรือไม่ก็ตาม!!

บทสรุปรีวิวเนื้อหาโดยรวม

หลังจากซีรีส์ต้นฉบับจาก True ID ซีรีส์ระทึกขวัญสืบสวนสอบสวนเรื่อง “The Box กล่องหลอน ซ่อนตาย” ล่าสุดได้จัดพิธีบวงสรวงไปสู่ชัยชนะในเดือนพฤศจิกายน 2565

ล่าสุดผู้กำกับทีมผู้เขียนบทและทีมนักแสดงนำโดย “เปรม วรุณ, นรา เทพนุภา, จอย รินลานี, อุ้ม อมรินทร์ “พร้อมด้วยนักแสดงคนอื่นๆ เช่น แมน ลาโคนิค, วิทย์ AF1, ครีม เปรมสินี , ไดยะ โทณวณิก, เบียร์ ภาสรานันท์, สาววิทย์ เพชรวิเศษสิริ, โบว์ แวนด้า, ทศพร สิริวิวัฒน์

มาอ่านบทกันเพื่อทำความเข้าใจตัวละคร เตรียมการแสดงก่อนที่กล้องจะเริ่มถ่ายทำ และมีแผนจะออกอากาศ ในวันที่ 22 กันยายนที่จะถึงนี้ ทางทรูไอดี

สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ชมคนไหนที่กำลังมองหาซีรีส์ไทยแนวสืบสวนสนุกๆ อยากให้ลองมาดูซีรีส์เรื่อง The Box กล่องหลอนซ่อนตาย เพราะซีรีส์เรื่องนี้เนื้อเรื่องซับซ้อน ลุ้นระทึก และสนุกครบรสมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวครอบครัว ความสัมพันธ์ ผู้มีอิทธิพล การไขคดี

อีกทั้งยังรวบรวมนักแสดงมากฝีมือไว้ในเรื่องเดียวกัน รับรองว่าตรงโจทย์ตรงใจมากค่ะ และตอนนี้ซีรีส์มาครบทุกตอนแล้ว สามารถติดตามดูย้อนหลังแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ TrueID

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนัง เพื่อน.. ที่ระลึก การทวงคืนคำสัญญาที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต