Tag Archives: สปอยหนังใหม่ 2022

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

สปอยหนัง สำหรับใครที่เป็นคอดูหนังผีแนวที่หลอน ๆ แต่ไม่ถึงกับน่ากลัวจนต้องปิดตา และมีความตลกฮาสไตล์วัยรุ่นระหว่างผีกับคน เราขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดดูหนังเรื่อง “มหาลัยเที่ยงคืน”เลย ยิ่งใครที่กำลังรู้สึกท้อกับการเรียน ทำโปรเจ็กหรืองานไม่ผ่าน ต้องแก้โน่นแก้นี่ ลองพักมาดูหนังเรื่องนี้ดูแล้วคุณจะรู้สึกเหมือนมีเพื่อนหัวอกเดียวกันคอยให้กำลังใจ

 

เรื่องย่อ มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “สตาร์” เซเลปนักศึกษาควบตำแหน่งดาวประจำมหาลัยที่ติดเอฟวิชาภาษาอังกฤษของท่านรองคณบดีฯ ท่านจึงตัดสินใจว่าจะช่วยแก้เกรดให้เธอเรียนจบหากสตาร์ยอมเข้าเรียนและทำข้อสอบซ่อมเสริมห้องศูนย์การศึกษาเก่าตอนดึกอีกครั้ง

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

ซึ่งเธอก็สามารถหาเพื่อนเรียนครบทีมอย่าง “โอตาคุ” ตากล้องถ่ายผีสุดเนิร์ด ,”หมู,หมึก,กุ้ง” แก๊ง 3 ปู่ นักศึกษาปี 8 และ “อ้วนพาย” ติ่งตัวยงของสตาร์ แต่การเรียนในห้องศูนย์การศึกษาตึกเก่าดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะที่แห่งนี้มีผีนักศึกษาที่เรียนไม่จบรอวันพ้นจากบ่วงเต็มไปหมด แล้วพวกเขาจะทำเช่นไรดี! ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ความน่าสนใจของหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

มหาลัยเที่ยงคืน สปอย เป็นหนังผีอีกเรื่องที่มีความน่าสนใจจากการใช้พล็อตเจาะกลุ่มเด็กวัยเรียนผ่านตัวของสตาร์ที่เอาแต่เที่ยวเล่นทำตัวชิลล์ไปวัน ๆ จนเผลอติดเอฟวิชาภาษาอังกฤษของท่านรองคณบดี ทำให้เธอต้องเข้าไปเรียนในตึกผีสิง ซึ่งตรงนี้เราจะได้เห็นว่าแม้แต่กลุ่มเพื่อนที่คบกันมาแบบสนิทสนมก็ยังเอาตัวเองรอดไม่สนใจสตาร์แม้แต่น้อยด้วยความกลัว ทำให้เธอต้องไปหานักศึกษาคนอื่นที่ไม่ผ่านเช่นเดียวกันมาเรียนที่ห้องศูนย์เป็นเพื่อนเพื่อให้สามารถเรียนจบไปด้วยกัน

ตรงนี้เราจะได้เห็นถึงสิ่งที่ตัวหนังอยากบอกเกี่ยวกับสังคมมหาวิทยาลัยที่เพื่อนแท้หายากกว่ามัธยมมาก หลายคนที่คบกันก็มักจะร่วมสุขได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถร่วมทุกข์ไปด้วยกันได้ ตรงข้ามกับคนที่เราไม่เคยเห็นข้อดีของพวกเขา แต่กลับเป็นพวกเขาเองที่มาร่วมสู้ไปด้วยกันกับเรา นี่ล่ะคือมิตรภาพของเพื่อนแท้ มหา ลัย เที่ยงคืน เรื่อง จริง

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

และเหล่าวิญญาณก็ยอมรับว่าแต่งหน้าได้น่ากลัวจริงแบบโอเวอร์ตั้งใจหลอกหลอนคนดูเต็มที่จนคล้ายล้อเลียนผีในหนังสยองขวัญมากมายกลาย ๆ พวกสไตล์ตุ้งแช่ก็มีแบบเราสามารถรู้ได้เอง ไม่มีหลอกมาตุ้งแช่ทีหลัง แต่ผีหล่ออย่างคุณเขาก็มีนะ คอยช่วยเหลือสตาร์หลายอย่าง และผีหล่อคนนี้เองที่จะเป็นกุญแจไขปมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องศูนย์เมื่อหลายปีก่อนและตัวของรองคณบดีที่มีความสัมพันธ์กันแบบซึ้งมาก

เหมาะที่จะดูกับเพื่อน แถมยังประทับใจฉากที่วิญญาณพากันมาสอบอย่างที่ตัวเองรอคอยอีกด้วย น้ำตาไหลได้เลย คือผีก็ช่วยคน คนก็ช่วยผี

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

พล็อตว่าด้วยกลุ่มนักศึกษาที่สอบไม่ผ่าน (นำโดย มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า) พวกเขาเลยถูกนัดมาเพื่อเรียนคาบซ่อมพิเศษในยามราตรี ซึ่งคาบที่ว่านี้สอนโดยท่านรองอธิการครับ โดยเวลาเรียนจะเริ่มดึกๆ ไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน แต่ท่านรองก็พยายามกำชับว่าพอเลิกแล้วให้รีบออกจากห้องก่อนเที่ยงคืน

เหตุผลก็คงเดาได้น่ะนะครับ ก็เพราะถ้ามันเกินเที่ยงคืนไปล่ะก็ อาจจะมีผีสางมาเรียนเป็นเพื่อนด้วยนั่นเอง แต่ก็นั่นแหละครับ มันก็ต้องมีคนไม่เชื่อพยายามลองของ สุดท้ายก็เจอของสมใจอยาก เพราะปรากฏว่ามีผีปรากฏตัวในอาคารแห่งนี้หลังเที่ยงคืนจริงๆ

เมื่อดูจนจบแล้ว ผมโอเคนะ จริงๆ คือค่อนข้างชอบในครึ่งหลังของหนังจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าครึ่งแรกหนังลดทอนช่วงที่มันต๊องๆ ออกไป หรือมีแค่ไม่ต้องเยอะ แล้วหันมาเน้นประเด็นหลักอย่างเดียวเลยมันน่าจะโอเคกว่านี้เยอะ ดีไม่ดีอาจจะทำได้ใกล้ๆ กับ “น้ำ ผีนอง สยองขวัญ” ก็ได้

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

อย่างเรื่องน้ำ ผีนองนั้น ผมว่ามันพอดีน่ะครับ ขำก็ขำแบบเต็มๆ แต่หนังก็ไม่ลืมว่าตัวเองกำลังจะเล่าเรื่องอะไร เรียกว่าความขำเป็นแค่ส่วนประกอบ แต่แก่นหลักจริงๆ ที่เป็นสิ่งที่มีสาระและความประทับใจนั้นหนังก็ไม่ได้ทิ้งให้หายไปไหน และพยายามย้ำสิ่งเหล่านั้นอยู่เรื่อยๆ จนทำให้หนังกลายเป็นความสนุก สยอง แบบพอดีไป

เรื่องนี้ถ้าไม่นับตอนต้นๆ แล้ว หนังก็ถือว่ามีทิศทางชัดอยู่ครับ พวกนักศึกษาสอบตกมาสอบซ่อมแล้วก็เจอดี วิ่งหนีผีจนแทบไม่กล้ามาเรียน แต่ขณะเดียวกันก็มีปมให้ตัวละครตามสืบว่าแล้วตกลงมันเพราะอะไรผีถึงต้องมาโผล่ที่นี่หลังเที่ยงคืน ซึ่งปมที่ว่าก็ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย คือมันอาจไม่ได้ใหม่น่ะครับ แต่หนังนำเสนอได้พอเหมาะดี มหาลัยเที่ยงคืน pantip

แล้วพอปมเฉลยแล้ว หนังก็ยังต่อด้วยประเด็นดีๆ อย่างเรื่องความพยายาม, ความรับผิดชอบ อีกทั้งมิตรภาพประดังกันเข้ามาในตอนไคลแม็กซ์ เรียกว่าเป็นการลงเอยที่ดีเลยครับ มันทำให้หนังเรื่องนี้เป็นมากกว่าแค่หนังวัยรุ่นฮาๆ วิ่งหนีผี เพราะมันมีประเด็นดีๆ มาสอนใจให้คนคิดตามด้วย

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน ในแง่การแสดงถือว่าดีเลยครับ มาร์กี้เล่นได้น่ารักดี ตอนแรกก็มีคำถามนะว่าทำไมมาร์กี้ถึงมาเล่น พอดูแล้วก็พบว่าหลายฉากมันเป็นซีนอารมณ์ครับ แล้วมารฺ์กี้เองก็สามารถดึงอารมณ์ในซีนนั้นๆ ได้ดีด้วย แต่ที่ทึ่งมากหน่อยคือโทนี่ รากแก่นครับ เล่นไม่ห่วงลุค (จริงๆ ตัวละครของเขาอยู่ตรงโปสเตอร์นะครับ แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า 555) และก็แน่นอนว่าเขาเล่นได้ดีเช่นเคยครับ

บทสมทบรอบๆ ก็ถือว่าโอเคเช่นกันครับ เสริมอารมณ์ฮาได้ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าตอนต้นๆ หนังใช้เวลาไปกับเรื่องนอกลู่นอกทางค่อนข้างเยอะ ชนิดที่ถ้าหนังฉายตามฟรีทีวีแล้วเราเปิดไปดูเข้าล่ะก็ ความรู้สึกสนใจใคร่ดูของหลายๆ คนอาจหดหายก็ได้ เพราะมันดูไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร

ก็เลยอยากจะบอกให้รู้กันไว้ครับ ว่าหากรู้สึกว่าตอนต้นมันเลอะๆ ก็อย่าเพิ่งเลิกดู ขอให้รออีกสักหน่อยครับ รอจนพวกนักศึกษาเริ่มเรียนและเริ่มเจอผีหลอกก่อน แล้วความน่าติดตามมันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ (สารภาพเลยครับว่าถ้าผมไม่ใช่คนประเภท “ดูแล้วต้องดูให้จบ” ล่ะก็ ผมก็คงหยุดดูตั้งแต่ 30 นาทีแรกเหมือนกัน)

โดยรวมแล้วถือเป็นหนังผีผสมฮาที่ทำได้เข้าท่าเลยครับ จนทำให้ผมอยากเห็นหนังผีสไตล์นี้ออกมาอีกนะ ประเภทหนังผีผสมฮาแล้วแทรกสาระดีๆ (ที่หากพิจารณาดีๆ แล้วก็สามารถเอาไปใช้ประกอบกับชีวิตจริงของเราได้เลยล่ะ) หนังแบบนี้ดูได้เรื่อยๆ ครับ

 

 

เป็นหนังที่มีความบันเทิงหลายอารมณ์ รวมๆ แล้วเป็นหนังผีที่ไม่เน้นความน่ากลัวเท่าไหร่นะ ออกจะไปในทางตลกโปกฮาซะมากกว่า น่ากลัวนิดๆ ตุ้งแช่หน่อยๆ ดราม่าก็ได้.. บรรยากาศในหนัง และฉากผีหลอกแต่ละตอน ไม่ได้แปลกใหม่ แต่ก็ถือว่าทำได้น่ากลัวดีนะ แอบเสียดายที่มีอยู่น้อยไปหน่อย ถ้าผสมกันอย่างพอดีกว่านี้ระหว่างความน่ากลัว กับตลก หนังจะสนุกขึ้นมากเลยทีเดียว

ตัวหนังมีเนื้อหาที่มีแก่นไอเดียน่าสนใจที่ว่า ห้องเรียนที่สร้างมาเพื่อให้นักศึกษาที่ตายไปก่อนเรียนจบ ได้กลับมาเรียนมาสอบเพื่อจบการศึกษา จะได้ไปเกิดแบบไม่มีห่วง แต่ก็อย่างที่บอก มันน่าจะสนุกกว่านี้ได้อีกเยอะนะ แต่ที่มาที่ไป ไปๆ มาๆ กลับดูไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไหร่.. มุกตลกในหนังถือว่ามีเยอะมาก เรียกว่าตั้งใจหามายัดใส่คนดูรัวๆ แบบไม่สนใจคุณภาพ บางมุกก็พอได้ บางมุกก็แป๊กไปเลย เงียบกริบ บางฉากยาวเกินไปที่จะใช้เพื่อเล่นมุกมุกหนึ่ง และตัวนักแสดงที่ต้องตลก กลับเอาไม่อยู่เลยสักคนเดียว ตั๊ก บริบูรณ์ ที่ว่าฮา มาเล่นเรื่องนี้กลับเละซะงั้น.. ส่วนตัวคิดว่า มุกตลกในหนังผีที่ดีเนี่ย มันต้องทำให้เราลุ้นไปกับความสยอง และแฝงความตลกระหว่างที่กำลังลุ้นไปด้วยพร้อมๆ กัน

มาร์กี้ กับหนังเรื่องแรก ก็ถือว่าเล่นได้น่ารักสดใสตามสไตล์ของเธอ ที่เราคุ้นตากันในจอโทรทัศน์ แต่กลับไม่เหมาะกับบทของเรื่องนี้เท่าไหร่ และที่อดพูดถึงไม่ได้คือ โทนี่ รากแก่น กับบทบาทโอตาคุหื่นๆ ที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่ๆ เรียกว่าแย่งซีนคนอื่นหมดเลยทีเดียว

 

ข้อคิดดี ๆ จากหนังมหาลัยเที่ยงคืน

มหา ลัย เที่ยง คืน ภาค 2 ได้ทำให้เราเห็นความสำคัญของการเรียนว่าหากคุณมีความตั้งใจที่จะศึกษาจนจบได้สำเร็จก็จะรู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ระหว่างเรียนจะรู้สึกเบื่อหน่ายและบ่นตามเรื่อง แต่พอจบแล้วคุณก็จะคิดถึงความทรงจำ มิตรภาพระหว่างเพื่อนและครูอาจารย์มาก สิ่งต่าง ๆ เป็นประสบการณ์ให้คุณสามารถนำไปใช้เมื่อทำงานได้แน่นอน เมื่อมีโอกาสก็จงตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตของเราเถอะ
สำหรับคะแนน รีวิวหนัง มหาลัยเที่ยงคืน เริ่มที่ส่วนของนักแสดง ผมต้องชม “มาร์กี้ ราศรี” ที่ในเรื่องนี้เธอเล่นได้น่ารักมากมาย เป็นตัวของตัวเอง ดูเป็นธรรมชาติ และอีกคนที่ต้องชมเชยเป็นพิเศษ คือ “โทนี รากแก่น” ที่รับบทเป็น “โอตาคุ” เขาเล่นได้เนิร์ดดี และ ดูโรคจิตมากๆ คือฉีกจากบทบาทเดิมๆ ที่เราชินตา ผมค่อนข้างทึ่งในความสามารถทางการแสดงของเขาในเรื่องนี้ ในส่วนของนักแสดงนำ

ในส่วนของความฮาและความสนุกสนาน ในหนังเรื่องนี้จะทำอะไรที่ดูบ้าๆ บอๆ ออกมา จนกลายเป็นขำมากกว่าน่ากลัว แม้หลายมุกจะแป๊กไปบ้าง แต่ยังมีมุกที่เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมในโรงได้เป็นระยะๆ ถือว่าสอบผ่านไปได้ในส่วนนี้ สำหรับในส่วนของการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวผมมองว่า นี่คือจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ เพราะการดำเนินเรื่องไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร หลายฉากหลายตอนที่ไม่จำเป็นต้องมี ก็กลับมีขึ้นมา หลายฉากก็ไม่เห็นมีที่มาที่ไปคือ คนดูๆ แล้วก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีฉากนี้ด้วย จริงๆ แล้วเนื้อเรื่อง มหาลัยเที่ยงคืน ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่วิธีการเล่าเรื่องกับการลำดับเรื่องราวต่างๆ ยังไม่โดนใจผมเท่าไร ในส่วนนี้ผมให้ไว้ที่ 7.5/10

 

 

สรุปคะแนน รีวิวหนัง มหาลัยเที่ยงคืน ผมให้ที่ 8.5/10 ดูเอาขำดูเอาฮา ดูความน่ารักของมาร์กี้ และดูบทบาทความเนิร์ดของ โทนี่ รากแก่น รับรองไม่ผิดหวัง แต่หากต้องการดูเพื่อสยองขวัญน่ากลัว แบบมีเหตุผล มีที่มาที่ไป ชวนให้ขบคิดตามไปด้วย ท่านอาจจะผิดหวัง อย่างไรก็ตามโดยรวมถือเป็นหนังผีที่เรียกเสียงหัวเราะได้ค่อนข้างดีอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ และตามความเห็นส่วนตัว ผมชอบหนัง “มหาลัยเที่ยงคืน” นี้มากกว่าหนังผีอีกเรื่องของค่ายเดียวกันก่อนหน้านี้
เป็นหนังผีที่ดูแล้วได้อารมณ์ทูอินวันครับ ในแง่หนึ่งคือมันมีทั้งอารมณ์สยองขวัญผีๆ สางๆ ผสมกันความตลกตามสไตล์หนังผีไทย… แต่ “ทูอินวัน” ที่ผมบอกตอนต้นนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องโทนของหนังเท่านั้นหรอกครับ

ทูอินวันที่ว่าคือ ช่วงต้นๆ เรื่องของหนังมันทำให้ผมรู้สึกเรื่อยๆ ในบางโมเมนต์มันทำให้ผมคิดด้วยซ้ำว่าหนังคงจะไม่มีอะไรเด่น ดูเป็นหนังผีวัยรุ่นขำๆ ที่มีอะไรต๊องๆ เป็นพักๆ หรือไม่ก็สถานการณ์เว่อร์ๆ ที่ดูแล้วเข้าใจน่ะครับว่าพยายามจะขายขำ แต่บางอารมณ์ก็รู้สึกว่ามันเลอะๆ อยู่เหมือนกัน

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

 

สปอยหนัง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” หนังเรื่องแรกของทีมงานเดิมในชื่อใหม่ GDH ที่เลือกเปิดตัวด้วยหนังโรแมนติคคอมมีดี้ ผลงานของ โต้ง บรรจง ผู้กำกับมือต้น ๆ ของ GTH เดิมที่เคยมีผลงานกวาดรายได้เข้าค่ายเป็นล่ำเป็นสันมาแล้วจาก “กวน มึน โฮ”(2553) และ “พี่มาก”(2556) รอบนี้ทางค่ายดำเนินตามสูตรสำเร็จตามอย่างที่ “กวน มึน โฮ” เคยทำไว้ ด้วยการใช้ เต๋อ ฉันทวิชช์ ประกบนางเอกใหม่ในบรรยากาศหนังรักที่ใช้ฉากหลังแสงสีสวย ๆ ในต่างประเทศ คราวนี้ย้ายมาเป็นฮอกไกโด เรื่องนี้จับเต๋อ เปลี่ยนลุคจากหนุ่มขี้เล่นกวนตีน มาเป็น “เด่น” หนุ่มไอที หัวหยิกใส่แว่น ติ๋ม ๆ ยิ้มอาย ตลอดทั้งเรื่อง เขาแอบรัก นุ้ย เซลส์คนสวยประจำบริษัท แต่เด่น ก็อยู่ในฐานะหมามองเครื่องบิน เพราะนุ้ยเลือกที่จะอยู่ในสถานะเมียน้อยของ ท็อป เจ้าของบริษัทที่มีลูกเมียแล้ว แต่โอกาสก็มาถึง เมื่อบริษัทยกขบวนพนักงานไปเที่ยวที่ฮอกไกโด แล้วนุ้ยเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อมชั่วคราวเพียงวันเดียว เด่น เลยสวมรอยว่าเขาและเธอเป็นแฟนกัน แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อความจำของ นุ้ย จะกลับมา เด่น จะทำอย่างไรต่อไป แฟน เดย์ เต็มเรื่อง youtube

 

เรื่องย่อ แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

เด่นชัย (เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) พนักงานฝ่ายไอทีสุดเนิร์ด แอบเป็นหมาแหงนมองเครื่องบินอย่าง นุ้ย (มิว นิษฐา จิรยั่งยืน) มาร์เก็ตติ้งสาวสวยมาเป็นเวลาหลายปี โดยมีคุณคู่แข่งคือคุณท็อป (ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล) เจ้าของบริษัทที่ทั้งสองทำงานอยู่

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

วันหนึ่ง บริษัทพาพนักงานไปเที่ยวที่ฮอกไกโด เด่นชัยขอพรกับระฆังว่า ขอให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ย…แค่หนึ่งวันก็ยังดี แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก นุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกี พอฟื้นขึ้นมา เธอก็มีอาการความจำเสื่อมชั่วคราว (Transient Amnesic Syndrome หรือ TGA) แปลว่า เธอจะความจำเสื่อมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เด่นชัยจึงใช้โอกาสนี้ในการสวมรอยเป็นแฟนนุ้ยและพาเธอเที่ยวต่อ… แม้จะแค่วันเดียวก็ตาม ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

ยังจำเด่นชัยกันได้อยู่ไหม จำความน่ารักสดในของนุ้ยกันได้หรือเปล่า ตอนนี้เรื่องราวของเขาสองคนบินไกลไปถึงเมืองจีนกันแล้วนะ ในชื่อใหม่ รูปลักษณ์ใหม่และสถานที่ใหม่ที่พวกเขาจะไปสร้างความทรงจำดีๆ ชั่วข้ามคืนด้วยกัน อีกครั้ง

 

แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว เวอร์ชั่นจีน

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว เวอร์ชันรีเมคเป็นภาพยนตร์จีนในชื่อว่า 明天你是否依然爱我 I Remember (พรุ่งนี้คุณจะยังรักฉันไหม) เชื่อว่าแฟนเดย์เป็นภาพยนตร์ที่แฟน ๆ ชาวไทยหลายคนทั้งอิน ฟิน หัวเสีย จนถึงเข้าอกเข้าใจในการตัดสินใจของ เด่นชัยที่มีต่อ นุ้ย ในบทสรุปของเรื่องราวความรักของทั้งคู่ สารภาพตรงนี้เลยว่าอิชั้นเป็นคนหนึ่งที่โมโหเด่นชัยอยู่เหมือนกันละค่ะ ทำไมตัดสินใจแบบนี้แต่ก็ดันเข้าใจในเวลาเดียวกัน
สำหรับเวอร์ชันจีนรีเมกมีการปล่อยโปสเตอร์และหนังตัวอย่างมาเมื่อเช้าวันที่ 24 กันยายนนี่เอง กำหนดเข้าฉายต้อนรับคริสมาสต์นี้พอดิบพอดีคือ 24 ธันวาคม 2020 แต่มีการเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้สองพระนางไปฟินกันที่ฟินแลนด์บ้านเกิดของซานต้าแทนฮอกไกโด

“เมื่อความรักกลายเป็นเหตุผลที่ต้องเสี่ยง” ปลายทางแห่งการจากลาที่ทำเอาแฟน ๆ ชาวไทยน้ำตาตก จะไปสร้างความสะเทือนใจให้แฟน ๆ ชาวจีนได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องรอพิสูจน์

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

พนันเอาไว้ว่าเรื่องนี้ต้องมีคนเสียน้ำตาแน่ ๆ นำแสดงโดย หยางหยิง杨颖 หรือ Angelababy และหลี่หงฉี 李鴻其 李鸿其 饰เรื่องราวของหนุ่มไอที (หลี่หงฉี) และจ้าวซีมาน (หยางหยิง) หญิงสาวพราวเสน่ห์ที่มีช่วงเวลาแห่งความรักแท้อันสั้นจุ๊ด เป็นความทรงจำดี ๆ ที่ควรจะประทับอยู่ในความรู้สึกไปนานแสนนาน แต่คนเขียนบทเจ้ากรรมที่แสนจะใจร้าย กลับลบความรู้สึกนั้นไปชนิดที่ว่า ไม่หลงเหลือ (ณ จุดนี้ขอยัดเยียดความผิดให้เขาไปค่ะ)

ซึ่งใน weibo ก็มีการเปิดเผยโปส์เตอร์และตัวอย่างหนังออกมาอย่างคึกคัก เผยให้เห็นฉากสวีทหวาน ลากเลื่อน เล่นหิมะกันสนุกสนาน แถมพระเอกยังเอาอกเอาใจด้วยการแปลงกายเป็นลุงซานต้าเข้าไปอีก ฟินกระจัดกระจายไปเลยจ้ะ ขอแอบกระซิบหน่อยนึงว่าว่าเวอร์ชันนี้ Angelababy แอบเหมือน มิว นิษฐา อยู่เหมือนกันนะเนี่ย

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

พูดได้เต็มปาก ว่านี่คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่มีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาก ลงลึกเรื่องบุคลิกลักษณะตัวละครได้อย่างละเอียด เนื้อหาลื่นไหลชวนติดตาม ไม่มีรูรั่วให้เกิดคำถามสะดุดระหว่างดู รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หยอดไว้หยิบมาใช้ประโยชน์ได้หมด หนังแบ่งเป็น 3 องก์ , องก์แรกแนะนำให้เรารู้จักตัวตนของเด่น และ นุ้ย ว่าทำไม เด่น ถึงได้ไปหลงรักนุ้ย แล้วก็ปูเข้าองก์ที่ 2 ส่วนสำคัญของเรื่องคือ 1 วันที่ทั้งสองได้เป็นแฟนกัน ให้เราได้เห็นพัฒนาการค่อยเป็นค่อยไป จากที่นุ้ยความจำเสื่อมแล้วต้องอึ้งกับหนุ่มติ๋มที่ยืนอยู่ข้างหน้า ที่มาบอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ จากท่าทีที่นุ้ยไม่ไว้ใจ แต่เด่นก็ใช้ความซื่อและจริงใจให้นุ้ยเชื่อจนสนิทใจได้ในที่สุด หนังใช้เวลากับองก์นี้ลากยาวไปถึงชั่วโมงกว่า ขมวดปมวิกฤตการณ์ของเรื่องไว้ขีดสุด สามารถลากความสนใจคนดูได้อยู่หมัด ให้ร่วมลุ้นกับบทลงเอยของทั้งคู่ในองก์ที่ 3 หนังแฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เต็มเรื่อง hd

Fanday ค่อนข้างให้รสชาติที่แตกต่างจากหนังรอมคอมฮิต ๆ ที่ผ่านมาของ GTH ด้วยการพูดถึงด้านร้ายของความรักพอ ๆ กับด้านที่สวยงามของมัน ทั้งความเจ็บช้ำจากการแอบรักของเด่น และ นุ้ย สาวสวยที่ยอมตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของเจ้าของบริษัท รอคำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ที่เขาจะทิ้งลูกเมียมาแต่งงานกับเธอ หนังตอกย้ำให้เห็นว่าความรักในความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย แตกต่างจากความรักวันเดียวของทั้งคู่ซึ่งเด่นเชื่อว่าเกิดจากปาฎิหารย์นั้นกลับสดใสสวยงาม ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักจริงจัง

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

สัดส่วนดราม่ากินไปกว่า 70% ของเรื่องเหลือพื้นที่ให้ยิ้มหัวเราะได้เพียงส่วนน้อย แต่ในด้านดราม่าของหนังก็ล้วนส่วนที่ดีของหนังที่หยิบสังคมรอบตัวที่เผชิญกันอยู่มาขยายเป็นเรื่องราว เรื่องชู้สาว คนแอบรักกันในออฟฟิศ เจ้านายแอบกินลูกน้องสวย ๆ ซึ่งหลาย ๆ สถานการณ์ที่อยู่บนจอหนังดูไปแล้วก็เกิดคำถามกับตัวเราว่าถ้าเป็นเราจะทำแบบเดียวกับตัวละครนี้ไหม มุกที่ใส่เข้ามาก็เป็นเพียงส่วนเสริมในระดับยิ้ม ๆ ไม่ได้ถึงขั้นหัวเราะเสียงดังอย่างเช่นเรื่องก่อน ๆ ซึ่งล้วนผิดคาดจากที่เห็นในตัวอย่างไปมาก แต่กับฉากดราม่าก็ทำได้ซึ้งพอดูมองเห็นรอบ ๆ ข้างก็เช็ดน้ำตาป้อย ๆ กัน ตรงนี้ก็ต้องชื่นชมผู้กำกับโต้ง ที่สร้างชื่อจากหนังสยองขวัญ”ชัตเตอร์ฯ”มาทำหนังดราม่าที่พาอารมณ์คนดูไปได้ถึงจริง ๆ

 

ด้านความรักของเรื่องนี้ แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ด้านความรักของเด่นและนุ้ยก็ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังโรแมนติกที่แท้จริง ฉากกุ๊กกิ๊กน่ารักเยอะมาก ดูแล้วยิ้มไปกับความรักของเด่นและนุ้ยได้ ดูๆ ไปก็นึกว่า เออชอบฉากนี้นะน่ารักดีแต่แล้วก็ยังมีอีกมีอีกที่ทำได้ถึงอารมณ์และถึงขั้นเป็นซีนจดจำองค์ประกอบทุกอย่างทำหน้าที่เพียบพร้อมทั้งภาพและเสียง ดนตรีประกอบของหัวลำโพงริดดิม เจ้าประจำของ GTH ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ส่งอารมณ์ทุกฉากให้ไปถึงจุดได้ ไม่ขับจนล้นเกิน และเลือกจะหยุดเงียบในฉากตึงเครียด,บทสนทนาถูกเขียนมาได้อย่างสละสลวย บทพูดโดนใจเต็มไปหมด เชื่อว่าจะต้องมีกระทู้รวมบทพูดซึ้งๆ โดนๆ ในพันทิปแน่นอน และจะต้องมีภาพคำคมจากหนังให้ส่งต่อกันอีกมาก แบบที่กวนมึนโฮเคยสร้างกระแสแบบนี้ได้

 

 

เต๋อ เปลี่ยนลุคไปมากปล่อยน้ำหนักขึ้นโชว์พุง คงจะให้เข้ากับลักษณะของหนุ่ม IT บทเขียนให้เด่นเป็นหนุ่มซื่อจริงใจ น่ารัก และโคตรสุภาพบุรุษซึ่งการกระทำของเด่นในฉากสำคัญหนุ่มๆ ดูแล้วคงจะขัดใจ ด่าว่าโง่ แต่กับสาวๆ คงจะประทับใจว่านี่คือความรักที่บริสุทธิ์จริงใจและเด่นน่าจะเป็นพระเอกในใจของสาวมากมายหลังจากที่ได้ชมเรื่องนี้กันไป แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว 037

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

ภาพลักษณ์ “นุ้ย” ของมิว ทำให้เชื่อได้จริงว่านี่คือเซลส์สาวสวยมีเสน่ห์ดูมั่นใจร่าเริงผมเห็นมิวในตัวอย่างหนังก็เฉยๆนะ ยังนึกว่านี่ GDH ไปเอาใครมาเล่นเป็นนางเอกในหนังประเดิมค่ายเนี่ยแต่พอได้ดูมิวในหนังก็ทำให้หลงเสน่ห์ของเธอได้เต็มๆ ซีนน่ารักเยอะมาก โดยเฉพาะรอยยิ้มของมิวเชื่อว่า “Fanday” ดันให้มิวแจ้งเกิดได้เหมือนที่เคยดันให้ หนูนา แจ้งเกิดสำเร็จจาก “กวนมึนโฮ” และชอบที่ทีมงานเลือกตุ้ย ธีรภัทร์ มารับบทท็อป หนุ่มเจ้าของบริษัทตุ้ยดูเหมาะมากกับมาดหนุ่มไฮโซเจ้าสำอาง ที่ทำให้นุ้ยรักและเฝ้ารอได้

 

 

ที่ชื่นชมอีกอย่างคือการที่หนังโปรโมทเพลง “วันหนึ่ง” ของชาติ แต่ในหนังกลับใช้ “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้ ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์มากสำหรับหนังของแกรมมี่ ที่เลือกใช้เพลงของค่ายอื่นมาเป็นเพลงหลัก และใช้เวอร์ชั่นต้นฉบับด้วยไม่คัฟเวอร์ ชื่นชมครับที่เอาอารมณ์และสารในเพลงเป็นหลักมากกว่าเหตุผลทางการค้า ตรงนี้ผู้กำกับโต้ง บอกว่าเขาชอบเพลงพี่แจ้ และเป็นคนเลือกเพลงนี้เอง รอดูรอเชียร์ครับว่า “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้จะกลับมาดังมั้ย “ฝันลำเอียง” ในหนังยังได้ทำหน้าที่สัญลักษณ์ของหนังด้วย เนื้อหาของเพลงของพี่แจ้ช่างตรงกับเรื่องราวของหนังรวมถึง “เทศกาลหิมะซัปโปโร”เองก็ถูกใช้ทำหน้าที่สัญลักษณ์แทนความรักของทั้งคู่ได้ลงตัว แทนภาพความสวยงามที่อยู่ได้เพียงชั่วคราวแล้วก็ถูกทำลายทิ้ง

Fanday เป็นหนังเปิดตัว GDH ได้อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยทุกองค์ประกอบล้วนทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ได้ซึ้งน้ำตาซึมได้ยิ้มไปกับความรักของเด่นและนุ้ยแต่ทั้งนี้ก็เผื่อใจไว้นิดว่าหนังไม่ได้สดใสใส่มุกแน่นเหมือนอย่างเรื่องก่อนๆ ของ GTH นะครับ อีกอย่างหนังยาวมากครับ 2 ชั่วโมง 16 นาที แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ออนไลน์

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

 

สปอยหนัง เป็นซีรีส์ที่รีเมคมาจากเกาหลีอีกที จากเรื่อง “Oh My Ghost ผีสาวกระตุกต่อมรัก” ที่มีให้ดูทาง Netflix ทั้งสองเรื่อง ส่วนสาเหตุที่ต้องมาดูเรื่องนี้ก็เป็นเพราะแฟนของผมเป็นคนชอบดูหนังผี แต่ผมดันชอบดูแนวโรแมนติก มันก็เลยขัดกัน ผมเลยต้องหาเรื่องเกี่ยวกับผี ๆ และก็มีโรแมนติกด้วยผสมกัน แบบว่าพบกันครึ่งทางครับ เรื่องนี้มีความชอบส่วนตัวที่ทำให้อยากดูบทบาทของ หนูนา ว่าจะทำได้แตกต่างจากเวอร์ชั่นเกาหลียังไง และก็ชอบหนูนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากครับ

 

เรื่องย่อ ผีป่วน ชวนรัก

เรื่องราววุ่นๆของ ข้าวปุ้น (ยิปซี-คีรติ) ผีสาวตนหนึ่งที่ยังไปผุดไปเกิดไม่ได้เพราะยังติดห่วงบางอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่คิดเอาเองว่าก่อนตายเธอยัง “เวอร์จิ้น” อยู่เมื่อตายไป “ห่วง” ที่ติดอยู่ก็คือเรื่่องอย่างว่าผีสาวตนนั้นจึงเร่ร่อนด้วยการสิงร่างหญิงสาวคนนั้นคนนี้เพื่อหาผู้ชายที่จะปลดปล่อยให้เธอได้ไปเกิดแบบหมดห่วง! แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไปเกิดใหม่ไม่ได้สักที…

จนวันหนึ่งในขณะที่ข้าวปุ้นผีสาวที่กำลังหนีการตามล่าของป้าปู (ท็อป-ดารณีนุช) หมอผีเธอก็ได้เข้าไปแอบสิงอยู่ในร่างของจิ๋ว (หนูนา-หนึ่งธิดา) สาวดวงตกพนักงานสารพัดประโยชน์ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคนมีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้แต่ความสามารถนี้ไม่ใช่สิ่งที่ “จิ๋ว” ต้องการเลยเพราะผลพวงจากความสามารถนี้ทำให้เธอถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆไม่มีเพื่อนขาดความมั่นใจร่างการอ่อนแอจนไม่เป็นอันทำอะไรและยังทำให้เธอต้องเกือบถูกไล่ออกจากงาน

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

แต่หลังจากที่ “จิ๋ว” ถูก “ข้าวปุ้น” ผีสาวจอมหื่นเข้าสิง “จิ๋ว” ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนจากคนขี้แพ้อ่อนแอกลายเป็นคนมั่นใจในตัวเองและในระหว่าง “ข้าวปุ้น” ที่อยู่ในร่างของเธอก็เกิดไปปิ๊งพระเอก “เชฟอาทิตย์” (เป้-อารักษ์) ซึ่งเป็นเชฟสุดฮอตชื่อดังเจ้าของร้านอาหารที่ “จิ๋ว” ทำงานอยู่และยังเป็นคนที่ “จิ๋ว” แอบปิ๊งอยู่ด้วยเช่นกันผีสาวเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้แหละที่จะช่วยปลดปล่อยวิญญาณของเธอได้ด้วยการมีอะไรกับเชฟผีสาวสุดหื่นจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กุ๊กกิ๊กกับ “เชฟอาทิตย์” แต่ทว่าผีสาวอยู่ในร่างนางเอกจอมซึมนี่สิ!

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ “ข้าวปุ้น” เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตายแต่จริงๆแล้วไม่ใช่….แต่เป็นเพราะเธอถูกฆาตกรรมและฆาตกรก็เป็นคนที่คาดไม่ถึงการสืบหาในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นพร้อมๆกับความวุ่นวายของความรักอลวนระหว่างคนและผี เธอคนไหน “คน” หรือ “ผี” จะเป็นผู้พิชิตใจ “เชฟอาทิตย์” ได้ติดตามความสนุกนี้ได้ในละครเรื่องนี้…ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

คาแร็กเตอร์นักแสดง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ: เชฟอาทิตย์ เชฟใหญ่สุดหล่อเจ้าของร้านอาหารชื่อดังอายุ 33 ปีอีโก้จัดปากร้ายมั่นใจในตัวเองเกินร้อยจนเป็นที่หมั่นไส้ของลูกน้องแต่แท้จริงแล้วเป็นคนจิตใจดีที่ต้องการสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเองเนื่องจากมีปมในวัยเด็ก

หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ: จิ๋ว พนักงานร้านอาหารอายุ 27 ปีสาวน้อยร่างเล็กขี้กลัวไม่มีความมั่นใจในตัวเองวันหนึ่งเธอถูกผีสาวลัลล้าบ้ากามเข้าสิงเธอก็กลายเป็นสาวมั่นจอมยั่วยวนจ้องจะเผด็จศึกเชฟใหญ่เจ้าของร้านคนที่นางเอกแอบปิ๊งอยู่แต่พอผีออกเธอก็กลับเป็นสาวขี้กลัวคนเดิมสร้างความสับสนให้กับเชฟใหญ่เป็นอย่างมาก

ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ : ข้าวปุ้น หญิงสาวผู้เสียชีวิตตอนอายุ 27 ปีกลายเป็นผีสาวผู้แสนลั้ลล้าแสนหื่นที่สูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับการตายของตัวเองไปและเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนจะกลายเป็นผีร้ายเธอต้องแก้บ่วงของเธอให้ได้จึงจะได้ไปเกิดใหม่จิตใจดีเป็นจอมลุยรุกหนักจนผู้ชายอกสามศอกยังต้องถอย ยิปซี เล่น ละคร เรื่อง

ณัฐ-ศักดาทร นิยมพานิช : หมวดปริญ ตำรวจหนุ่มอ่อนละมุนแสนดีอายุ 32 ปีผู้มีความเป็นสุภาพบุรุษและเป็นมิตรกับทุกคนแต่ลึกๆมีปมที่ชวนค้นหาเป็นน้องเขยของเชฟใหญ่และเป็นชายในดวงใจของผีสาวจอมลั้นล้าเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่แต่เขาก็มีอีกด้านหนึ่งซึ่งต้องเรียกว่าเป็นด้านมืดที่ปิดบังเอาไว้ไม่ให้ใครรู้

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

ปอปปี้-บุญยิสา จันทราราชัย : น้ำมนต์ สาวน้อยอายุ 27 ปีน้องสาวเชฟอาทิตย์สาวน้อยผู้แสนดีผู้อาภัพเพราะขาพิการจากอุบัติเหตุนิสัยส่วนตัวเป็นคนมองโลกในทางบวกจนกระทั่งเสียขาแต่เธอก็กลับมาเป็นคิดบวกอีกครังหลังจากพบรักกับหมวดปริญสามีผู้เพียบพร้อม

มายด์-วรัทยา ว่องชยาภรณ์: ไอด้า โปรดิวเซอร์รายการทีวีคนเก่งอายุ 33 ปีสาวสวยฉลาดบ้างานเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของเชฟอาทิตย์และเชฟอาทิตย์ก็แอบชอบเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจนปัจจุบันก็ยังคงแอบชอบ แต่ไม่กล้าบอกเธอ

ซี้ด-ชโยดม สอนลี: นาวิน ผู้ช่วยเชฟจบจากกอร์ดองเบลออายุ 28ปี เป็นหนุ่มหล่อนักเรียนนอก มีเชฟอาทิตย์เป็นไอดอล แอบหลงรักจิ๋ว แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดความรู้สึกออกไปเป็นคนอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นโอปป้าเกาหลีของสาวๆคอยห่วงใยดูแลเทคแคร์จิ๋วอยู่ตลอดเวลา

ตี๋-วิวิศน์ บวรกีรติขจร : เรน เชพรองเป็นหนุ่มกะล่อนกร่างกวนมีพรสวรรค์ในการทำอาหารสูงแต่เรียนเป็นเชฟในเมืองไทยไม่ได้เรียนเมืองนอกเหมือนคนอื่น เลยพยายามลบปมตัวเองด้วยการวางอำนาจในร้านเวลาเชฟใหญ่ไม่อยู่ไม่ค่อยชอบหน้านาวินเพราะเรียนนอกและหล่อกว่าแต่จริงๆเป็นคนป๊อดขี้กลัวและไม่มีพิษมีภัย

เจม-จิตตริน กุลกัลยาดี: เชฟตุ๋ย ผู้ช่วยเชฟผู้มีความหวังมุ่งมั่นอยากมีร้านอาหารของตัวเองตุ๋ยที่จริงอายุ 35 แต่โกหกว่าตัวเองอายุ 30 เพื่อเรียนรู้งานเลยต้องคอยเป็นลูกไล่ของเรนด้วยความจำเป็น แต่จริงๆ แล้วหมั่นไส้เรนมากและหวังว่าสักวันจะเอาคืน

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

ส้วม-สุขพัฒน์ โล่ห์วัชรินทร์: พอล คุณชายในมาดผู้ช่วยเชฟเป็นคนประณีประนอมพร้อมไหลตามน้ำได้เสมอความจริงแล้วเป็นคุณชายจากบ้านมหาเศรษฐีปลอมตัวมาเรียนรู้การใช้ชีวิตทุกครั้งแวลากลับบ้านจะมีรถเบนซ์มาแอบรอรับอยู่หน้าปากซอย ผีป่วนชวนรัก ep 14 ดูย้อนหลัง 

ท็อป -ดารณีนุช : ป้าปู หมอดูร่างทรงปากร้ายใจดีตรงไปตรงมามีญานทิพย์เห็นผีและติดต่อกับสวรรค์ได้จริงมีพลังในการปราบผีได้จับผีได้ได้รับภารกิจต้องจับวิญญาณข้าวปุ้นให้ได้และเพราะตามจับข้าวปุ้นไม่ได้สักทีพลังของป้าปูก็ลดลงจนลูกค้าน้อยลงจนเริ่มไม่มีจะกินและก็ได้มีเรื่องมาสนิทกับจันทร์เจ้า

สุ่ย-พรนภา เทพทินกร : จันทร์เจ้า คุณแม่ยังสาวอายุ 51 ปีของเชฟอาทิตย์เป็นคุณแม่วัยทีนสุดเปรี้ยวเพราะมีลูกตั้งแต่อายุ 19 ปี สามีตายหลังจากมีลูกคนที่ 2 เป็นคนฉลาดเรียนเก่งได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโท-เอกจนไม่มีเวลาให้ลูกเป็นแม่ที่แสดงความรักไม่เก่งและมักเชื่อในเรื่องหมอดูและสิ่งลี้ลับจนสนิทกับป้าปูหมอดู

อาวอ-จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร : ลุงไข่ ชายแก่ใจดีวัย 60 ปีผู้สูญเสียลูกสาวเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆเป็นพ่อของข้าวปุ้นและโจ๊กภรรยาเสียต้ังแต่ลูกวัยรุ่นจึงมีลูกสาวคนโตเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการทำร้าน

ไบรท์-วิชเวช เอื้ออำพน : โจ๊ก น้องชายของข้าวปุ้นวัย 28 ปีเป็นวัยรุ่นไม่เอาถ่านติดเกมส์ชอบดื่มเหล้าขี้เกียจไม่ชอบช่วยขายของมีเพียงข้าวปุ้นที่ก็คอยกำราบได้

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

ธีมของซีรีส์ดำเนินไปในบรรยากาศของร้านอาหาร ที่มีความอบอุ่น สนุก และมีความเป็น คอมิดี้ แทรกนิดหน่อย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเชฟ และการทำอาหาร คนที่ชอบซีรีส์แนวเข้าครัวคงจะถูกใจไม่น้อยเลยเพราะเป็นฉากในร้านอาหารเกือบทั้งเรื่อง ดูแล้วอยากเป็นเชฟขึ้นมาตะหงิด ๆ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ซัน” หนุ่มมาดเท่ห์เจ้าของร้านอาหารที่จิ๋วเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟ ตกหลุมรัก จิ๋ว สาวที่มีสองบุคลิกเพราะโดนผีข้าวปุ้นสิงร่าง เลยทำให้เธอมีสองโหมดคือโหมดคลั่งรักที่พยายามจะปล้ำพระเอกตลอดเวลา และแบบปกติที่เป็นคนเงียบ ๆ ขี้กลัว ไม่มั่นใจตนเอง และนี่ก็เป็นสเน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้เลยครับ ที่ทำให้เรารอดูตอนนางเอกโดนผีเข้าสิง เพราะชอบบุคลิกของข้าวปุ้นสาวขี้เล่น ขี้เอาอกเอาใจ ทะลึ่งทะเล้น ชอบกวนใจและป่วนตลอดเวลา กับบุคลิกของ จิ๋ว สาวน้อยร่างเล็กที่น่าทะนุถนอม ขาดความมั่นใจ ที่เวลาร้องไห้ทีไรน้ำตามันปริ่ม ๆ ทุกที และการแสดงของหนูนาก็ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ กับบทบาทที่ต้องแสดงสองบุคลิกในคน ๆ เดียว หัวใจ เรือพ่วง วิ กิ พี่ เดีย

 

 

มีหลายฉากที่ทำเอาผมต้องเสียน้ำตา เพราะนักแสดงเล่นได้ดีจริง ๆ ครับ ซีนอารมณ์มาเต็ม ๆ โดยเฉพาะซีนความรักระหว่างพ่อกับลูกสาวที่ทำผมน้ำตาไหลในหลาย ๆ ฉาก เรียกว่าดนตรีขึ้นมาทีไร น้ำตาไหลทุกที ทุกตัวละครเล่นได้ดีเข้าถึงอารมณ์ ทำให้เราคล้อยตามได้ มีแอบยิ้ม หัวเราะ น้ำตาซึม ไปตามเนื้อเรื่อง เวอร์ชั่นเกาหลีว่าซึ้งแล้ว พอมาดูของไทย ซึ้งกว่าเดิม เพราะสอดแทรกเรื่องของไทย ๆ เข้าไปในเรื่อง เลยทำให้เราเข้าใจในตัวละครลึกซึ้งขึ้นมากกว่าเดิม หนังสอนให้เรารู้ว่า จะทำอะไรก็รีบทำในตอนที่เรายังมีโอกาสยังมีชีวิตอยู่ เพราะไม่งั้นมันอาจจะสายเกินไป และพอถึงเวลานั้นแล้วอาจจะย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้อีก และกลายเป็นเรื่องที่ติดในใจไปตลอด และพอตายไปก็กลายเป็นเรื่องที่ค้างคาให้ต้องมาตามแก้ไข

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

“OMG ผีป่วนชวนมารัก” ออนแอร์ ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 22:00 น. ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง24 และมีให้รับชมย้อนหลังบน Netflix ทันที ถือว่ารวดเร็วมาก รอดูกันได้เลย

ผีป่วนชวนมารัก (อังกฤษ: OMG) เป็นละครโทรทัศน์แนว โรแมนติก-ดราม่า-คอมเมดี สร้างจากบทประพันธ์ของ สายขิม / กุศลิน / วาณี นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางทรูโฟร์ยู ในปี 2561 ผลิตละครโดย บริษัท สตูดิโอ ดราก้อน จำกัด โดยผู้จัด True CJ สร้างจากละครเกาหลี สาวขี้อายกับยัยผีจอมหื่น (Oh My Ghost) กำกับการแสดงโดย นพโรจน์ โชติมั่นคงสิทธิ์ นำแสดงโดย อารักษ์ อมรศุภศิริ, หนึ่งธิดา โสภณ, คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์, ณัฐ ศักดาทร, บุญยิสา จันทราราชัย, วรัทยา ว่องชยาภรณ์ ออกอากาศทุกคืนวันจันทร์ – วันอังคาร เวลา 22.00 – 23.30 น. เริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561 ต่อจากละคร My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก

 

ผีป่วน ชวนรัก ซีรี่ย์น่ารัก เบาสมอง

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก ถ้าใครกำลังมองหาซีรีส์เบาๆสมอง ดูเพลินๆอยู่ ลองไปดเรื่องนี้ กับซีรีส์ผีสุดน่ารัก “OMG ผีป่วนชวนมารัก” สร้างจากซีรีส์เกาหลีสุดฮิตที่รู้จักกันในชื่อว่า “Oh My Ghost” เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและโด่งดังไปทั่วเอเชียสร้างความสนุกสนานและประทับใจไว้ คราวนี้มาถึงผลงานในเวอร์ชั่นไทยบ้าง เป็นเรื่องราวของ เรื่องราววุ่น ๆ ของ “ข้าวปุ้น” ผีสาวที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด เพราะยังติดห่วงบางอย่างที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่คิดเองว่าก่อนตายเธอยัง “เวอร์จิ้น”อยู่ เมื่อตายไป “ห่วง” ที่ติดอยู่ก็คือเรื่องอย่างว่า ผีสาวข้าวปุ้น จึงเร่ร่อนสิงร่างหญิงสาวคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อหาผู้ชายที่จะปลดปล่อยให้เธอได้ไปเกิดแบบหมด “ห่วง” จนวันหนึ่ง ขณะที่ข้าวปุ้นกำลังหนีจากการตามล่าของหมอผี เธอได้แอบเข้าไปสิงร่างของ “จิ๋ว”สาวน้อยดวงตกที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้ ในระหว่าง “ข้าวปุ้น” สิงอยู่ในร่างของ “จิ๋ว” เกิดไปปิ๊งกับ “เชฟอาทิตย์” ซึ่งเป็นเชฟสุดฮอตชื่อดัง เจ้าของร้านอาหารที่จิ๋วทำงานอยู่ และเป็นคนเดียวกับที่ “จิ๋ว” แอบชอบอยู่ห่างๆ ด้วยเช่นกัน ผีสาว “ข้าวปุ้น” เข้าใจว่า “เชฟอาทิตย์” คือผู้ชายคนที่จะปลดปล่อยวิญญาณของเธอได้ด้วยการมีอะไรกับ “เชฟอาทิตย์”

 

.
ผีสาวสุดหื่นจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กุ๊กกิ๊กกับ “เชฟอาทิตย์” แต่เรื่องมันไม่ง่าย เพราะว่าผีสาวไปสิงร่างของ “จิ๋ว” สาวจอมซึมนี่แหละ ที่ทำให้ “เชฟอาทิตย์” และบรรดาเชฟในร้านต่างปรับอารมณ์ตามจิ๋วไม่ถูกที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนขี้แพ้อ่อนแอ กลายเป็นคนมั่นใจตัวเองสูง เรื่องราวกลับเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ “ข้าวปุ้น” เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริง ๆ แล้วเธอถูกฆาตกรรมโดยฆาตกรที่คาดไม่ถึง การสืบหาฆาตกรจึงเกิดขึ้นไปพร้อมๆกับความวุ่นวายของความรักที่อลวนวุ่นวายวังเวงของคนและผี ยิปซี ยิ ป โซ การศึกษา

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง Detention Netflix อาถรรพ์โรงเรียนเลือด ซีรีส์ไต้หวัน ดัดแปลงจากเกมสยองขวัญในชื่อเดียวกัน เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ก่อนจะกลายมาเป็นซีรีส์ล่าสุดนี้ โดยในส่วนของเวอร์ชั่นภาพยนตร์ จะเป็นเรื่องราวของ ฟานรุ่ยซิง จากในยุค 1962 สำหรับในฉบับซีรีส์ จะเป็นการเล่าในยุค 1990s บอกเล่าเรื่องราวของ หลิวอวิ๋นเซียง ที่ย้ายเข้ามาในโรงเรียนกรีนวูดแห่งเดียวกัน รับชมได้ใน Netflix ทั้งหมด 8 ตอนจบ

 

เรื่องย่อ อาถรรพ์โรงเรียนเลือด

เรื่องย่อ ความตาย การต่อต้าน และความสิ้นหวัง ทั้งหมดเกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมของไต้หวันยุคทศวรรษ 1960 เหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างได้ถูกลบกลบไว้ในอาคารร้างของโรงเรียนและถูกสั่งให้ใครก็ตามห้ามเข้าใกล้ จนกระทั่งนักเรียนใหม่คนหนึ่งได้รุกล้ำเขตหวงห้ามและค้นพบความลับที่น่าตกใจในอีกหลายสิบปีต่อมา

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

จากเกมแก้ปริศนาแนวสยองขวัญสัญชาติไต้หวันที่ลือชื่อของค่าย Red Candle Games ในปี 2017 ได้รับการกล่าวขวัญในแง่การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและแหลมคม ในการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์เลือด White Terror ของไต้หวันในยุคต่อต้านเผด็จการและการล่าสังหารคอมมิวนิสต์ในช่วงทศวรรษ 1960 มาผสมผสานกับเนื้อหาชวนติดตามกับความลับของตัวละครที่แสนจะดราม่าสะเทือนอารมณ์ แถมยังเวียนวนอยู่กับความเชื่อ ผี ปีศาจที่หลอกหลอนไม่ให้เราได้หลุดพ้นไปจากฉากหลังที่เป็นอาคารร้างในโรงเรียนได้โดยง่าย ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง จะปล่อยตอนใหม่ออกมาเป็นรายสัปดาห์ ยาวจนถึงช่วงสิ้นปี โดยจะมีจำนวนตอนทั้งหมด 8 ตอนด้วยกันซึ่งเนื้อเรื่องจะเล่าผ่านตัวนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ได้ค้นพบกับความลี้ลับสุดดำมืดที่โรงเรียนของเธอซ่อนอยู่ พร้อมเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ถาโถมเข้ามาพร้อมจะเอาชีวิตของเธอ

Detention ฉบับทีวีซี่รี่ส์เป็นผลงานจากการร่วมมือของ Netflix และช่อง PTV ของประเทศไต้หวัน โดยมีดาราแสดงนำคือ Lingwei Lee แสดงเป็น Yunxiang Liu และ Ning Han แสดงเป็น Ruixin Fang

และนอกจากการที่ตัวเกม Detention ถูกนำไปดัดแปลงเป็นซี่รี่ส์ฉบับบคนแสดง ทางทีมผู้พัฒนาอย่าง Red Candle ยังออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่าสองเกมของพวกเขาทั้ง Detention และ Devotion ยังถูกบันทึกชื่อไว้ในหมวด “สื่อเอเชียตะวันออกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์” จากมหาวิทยาลัย Harvard อีกด้วย กลายเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่ทางค่ายเกมคุณภาพแบบนี้สมควรได้รับอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเหมือนเป็นฟ้าหลังฝนหลังจากประเด็นร้อนที่ทางค่ายต้องเจอจากเหล่าแฟนๆ เกมชาวจีนที่พากัน Review Bomb เกมใหม่ของพวกเขาอย่าง Devotion เนื่องจากภายในเกมมีภาพโปสเตอร์ว่าร้ายประธานาธิบดีของประเทศจีน จนเป็นเหตุให้ในตอนนั้น Devotion ถูกถอนจากร้านค้า Steam เป็นการชั่วคราว

อีกด้านหนึ่ง Detention พาเราย้อนกลับไปในยุค 1960 จะบอกเล่าเรื่องราวของ Fang Ray Shin เด็กนักเรียนความจำเสื่อมที่ติดอยู่ในโรงเรียนร้างแถมยังเต็มไปด้วยปริศนาและเหตุการณ์แปลกๆ มากมายที่ทำให้เธอต้องพยายามเอาตัวรอดออกมาให้ได้ ตลอดเกมก็จะมีการไขปริศนาไปทีละนิดๆ ทำให้เรารู้ว่าเบื้องหลังของ Fang  อาจจะไม่สวยงามอย่างที่คิด

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

งานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ การเล่นแบบมุมมองด้านข้างที่แปลกตา และการเล่าเรื่องสุดซับซ้อน คือความสำเร็จของเกมในปี 2017

ความดีในการเล่าเรื่องที่ดั่งนิยายดี ๆ หรือหนังดี ๆ เรื่องหนึ่ง จึงไม่พ้นที่สุดท้ายมันก็ได้รับการตีความเป็นฉบับหนังโรงจนได้ในปี 2019 ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมในการดัดแปลงวิธีการเล่าเรื่องให้เหมาะสมขึ้นได้ ทั้งยังรักษาความดีของเรื่องเล่าในเกมได้อย่างครบถ้วน และในปีนี้เน็ตฟลิกซ์ก็ได้รับไม้ต่อในการพัฒนาฉบับซีรีส์ของ Detention และความน่าสนใจคือตัวซีรีส์ก็มีวิธีการเล่าที่ฉีกออกไปได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

หากเล่าอย่างรวบรัดถึงความต่าง โดยพิจารณาจาก 2 ตอนแรกของซีรีส์ ที่เห็นได้ชัดคือตัวซีรีส์ได้เปลี่ยนตัวละครนำที่แทนสายตาผู้ชมจากเดิมในฉบับเกมและหนังจะเป็น นักเรียนในยุค 1960 อย่าง ฟาง และ เว่ย ที่ตื่นขึ้นมาในโรงเรียนที่กลายสภาพเป็นอาคารร้าง และสิ่งแปลกประหลาดราวกับมิติสยองขวัญใน Silent Hill ซึ่งต้องหาทางแก้ปริศนาเพื่อออกจากโรงเรียนให้ได้ ในขณะเดียวกันก็จะได้รับรู้อดีตที่หายไปจากความทรงจำของทั้งคู่และคำเฉลยที่กระชากอารมณ์ผู้ชม

 

ฉบับหนังปี 2019 ที่ให้บรรยากาศแบบ Silent Hill

แต่สำหรับซีรีส์ จะพลิกมาเล่าเหตุการณ์ในช่วงปี 2000 ผ่านสายตาของนักเรียนใหม่ที่ย้ายมาจากอังกฤษ และมีอาการผิดปกติเห็นภาพหลอนอย่าง อวิ๋นเซียง ที่ต้องปรับตัวกับการแปลกถิ่นในชนบท ทั้งวัฒนธรรมอำนาจนิยมที่ฝังอยู่ในการเล่าเรียน ผู้ใหญ่กำหนดกรอบให้เด็กในทุกเรื่องผ่านคำว่า วินัย มีการลงโทษคนที่พฤติกรรมแย่ที่สุดของทั้งชาย-หญิงในห้อง ด้วยการให้แขวนป้ายคอคำว่า มาร ให้เพื่อน ๆ รุมรังเกียจ

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

หนึ่งในฉากที่ตัวเอกมาโรงเรียนใหม่ครั้งแรก สะท้อนดั่งการเดินเข้าสู่คุกหรือกรมทหารจากทั้งภาพและเสียง

และการขบถแรกของเด็กหัวนอกอย่างอวิ๋นเซียง คือการแอบขึ้นไปสำรวจเขตหวงห้ามของโรงเรียนอย่างอาคารร้างหานชุ่ย ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ตามมา ทั้งการได้พบกับนักเรียนเลวของห้องอย่าง เหวินเลี่ยง ที่อยากจะหนีออกจากกรงขังที่เรียกว่าเมืองชนบทไปเมืองหลวง และเลิกสืบทอดกิจการผู้ดูแลศาลเจ้าประจำเมืองของครอบครัวเสียที นอกจากนี้พวกเขายังได้เป็นพยานในการฆ่าตัวตายอย่างเป็นปริศนาของรุ่นพี่สาวที่มากระโดดตึกตายต่อหน้าพวกเขา และอวิ๋นเซียงก็เริ่มเข้าไปพัวพันกับวิญญาณในอดีตทีละน้อย อาถรรพ์โรงเรียนเลือด พากย์ไทย

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด จากซีรี่ย์สู่เกม

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง สำหรับใครที่เล่นเกมหรือดูหนังมา จะรู้สึกว่าตัวซีรีส์มีการเล่าที่ดึงดูดน้อยกว่า ฮุกเข้าเรื่องช้ากว่า แต่กลับน่าสนใจในการแทรกรายละเอียดที่เราจะได้เห็นความเกี่ยวเนื่องกับตัวเอกในฉบับเกมและหนังอยู่โดยตลอด ทั้งบ้านที่อวิ๋นเซียงย้ายมาอยู่น่าจะเป็นบ้านหลังเดิมของฟาง ขณะที่ทางเหวินเลี่ยงก็จะต้องดูแลลุงเว่ยที่ดูไม่ปกติมีอาการสั่นกลัวตลอดเวลา นอกจากนี้ภูมิหลังเรื่องครอบครัวของอวิ๋นเซียงก็ยังละม้ายกับฟางมาก และเหตุการณ์ครูหนุ่มหัวทันสมัยก็ยังชูกลิ่นของรักสามเส้าในชั้นเรียนอีกครั้งด้วย

เรียกว่าดึงกลิ่นของเนื้อหาออริจินอลมาใช้ต่อยอดเป็นเสมือนภาคต่อ ที่มีการยั่วล้อคล้ายคลึงของเดิมราวกับเหตุการณ์จะกลับมาซ้ำรอยกรรมอีกครั้งร่ำไป ซึ่งก็น่าสนใจอยู่สำหรับแฟนเดิม แม้ว่ากันตามตรงว่าความสนุกมันยังไม่ค่อยโดนใจนัก เพราะเนื้อหาต้องยืดและปูให้เป็นซีรีส์ยาว และยังไม่เปิดโอกาสให้ซีจีหนัก ๆ ทำงานนัก แต่เท่าที่ใช้แบบง่าย ๆ และโผล่มาแค่ไม่กี่นาทีใน 2 ตอนนี้ก็ได้บรรยากาศหลอนเอาการเหมือนกัน น่าเสียดายว่าผีตัวหลักนั้นยังไม่ค่อยน่ากลัวมากเท่าไร

และสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมดูหนังมาก่อน ซีรีส์นี้ก็ค่อย ๆ หยอดปมสงสัยให้ผู้ชมอยู่เรื่อย ๆ จัดได้ว่าเป็นแนวดราม่าสยองขวัญที่เนิบ ๆ หน่อย อาจจะถูกโฉลกคอหนังที่ชอบรายละเอียดและการแตกแขนงเส้นเรื่องความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในขณะที่สายหวือหวาผาดโผนน่าจะยังไม่โดนเท่าใดนัก เพราะผียังทำงานไม่ค่อยหนัก แถมดูทรงที่เรื่องปูมาในตอนที่ 2 ก็พอจับเค้าลางได้ว่าอาจจะพลิกไปเล่าเรื่องในแบบพวกละครน้ำเน่าความสัมพันธ์ตัวละคร มากกว่าการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อย่างเดิม อาถรรพ์โรงเรียนเลือด pantip

แต่กระนั้นการเปรียบเปรยที่ซีรีส์ใช้ในการเล่าว่าการศึกษาในยุคใหม่ ที่ยังกรอบจำกัดและริดรอนอิสระทางการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ของเด็ก ด้วยวิธีคิดแบบผู้ใหญ่ที่รักในอำนาจและเรียกร้องความเคารพยำเกรงด้วยการข่มขู่ ก็ยังคงเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เด็กที่รู้สึกต้องการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นนักเรียนเลวอยู่ทุกยุคสมัย และก็อาจเป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ผู้ใหญ่อาศัยอำนาจในมือทำการริดรอนใบอ่อนทางความคิดของเยาวชนที่กำลังแตกช่อชูสวยงามลง ซึ่งบางครั้งก็เป็นการถอนรากถอนโคนริดรอนชีวิตของเหล่านักเรียนเลวเหล่านั้นลงด้วย น่าสนใจทีเดียว

 

 

เปิดตำนานโรงเรียนสยอง

Detention ดำเนินเรื่องราวในประเทศไต้หวันปี 1960 ในยุคที่ประเทศมีศึกสงครามระหว่างกลุ่มคอมมิวนิสต์จากแผ่นดินใหญ่ และไต้หวันที่ต่อเนื่องยาวนานมาหลายปี มีการประกาศกฎอัยการศึกจัดการผู้เห็นต่างอย่างโหดเหี้ยม นำพาไปสู่เหตุการณ์สยองมากมาย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Wei Chung Ting และ Fang Rei Shin ที่ต้องติดอยู่ในโรงเรียน Greenwood เนื่องจากมีพายุใหญ่เข้ามาตัดเส้นทางสัญจรจนไม่สามารถกลับบ้านได้ จนกระทั่งเกิดอะไรบางอย่างขึ้นทำให้ Wei ตายไปโดยที่ Rey ไม่ทราบสาเหตุ การเดินทางรอบโรงเรียนผีสิงเพื่อค้นหาสิ่งที่เกิดขึ้นจึงเริ่มต้นขึ้น ดูหนัง อาถรรพ์โรงเรียนเลือด พากย์ไทย

หากดูผิวเผินเราจะเห็นว่า Detention ใช้พลอตเรื่องที่มีอยู่ค่อนข้างโหลและใช้กันจนเกร่อในตลาดหนังผีฝั่งเอเชีย ทั้งตัวเอกหญิง เรื่องลึกลับในโรงเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็ต้องบอกว่าจุดหักมุมและการดำเนินเรื่องของเกมนี้นั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลย ตัวเกมค่อย ๆ เฉลยปมที่ถูกซ่อนเอาไว้ในจิตใจของตัวละครออกมาเรื่อย ๆ และสอดแทรกประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงในไต้หวันยุคของเจียงไคเช็คที่มีการปราบปรามผู้เห็นต่างในช่วงนั้นอย่างเข้มข้น ผนวกรวมกับความเชื่อทางศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าได้อย่างลงตัว ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นฝั่งเอเชียในบ้านเรานั้น “อิน” กับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนขอยกให้ Detention เป็นเกมผีที่มีเนื้อเรื่องดีมากเกมหนึ่ง เพราะมันสามารถผนวกรวมเหตุการณ์จริง ความเชื่อทางศาสนา หลอมรวมกับช่วงเวลาชีวิตในวัยเรียนได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ลึกล้ำ แสดงให้เราเห็นถึงห้วงความคิดของวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่วุ่นวายได้เป็นอย่างดี นำพาไปสู่ฉากจบที่คาดไม่ถึงได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

โดยรวมแล้วเนื้อเรื่องของเกมจัดว่ายอดเยี่ยมมาก มีการวางปมปริศนาที่น่าติดตามและค่อย ๆ เฉลยแบบให้ผู้เล่นรู้สึกอินได้ไม่ยากนัก คนที่ชอบเสพย์และติดตามเนื้อเรื่องนั้นไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

สิ่งที่ผู้เขียนให้ความสำคัญมากที่สุดในเกมแนวสยองขวัญก็คือการนำเสนอ เพราะถ้าหากนำเสนอได้ไม่ดีก็จะทำให้ความน่ากลัวที่เป็นจุดเด่นที่สุดของเกมลดลงไปหลายเท่า ซึ่ง Detention ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จัดเต็มในเรื่องของการนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ในเกมได้อย่างน่ากลัวแบบสุด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแกะเอาบรรยากาศของโรงเรียนอันเป็นเวทีหลักของเกม ที่เหมือนกับถูกแกะออกมาจากโรงเรียนยุคเก่าที่มีอยู่จริงได้ยอดเยี่ยมมาก ชวนให้ผู้เขียนคิดถึงโรงเรียนประถมในสมัยเด็กขึ้นมาเลย

และโดยปกติโรงเรียนที่ในเวลากลางคืนนั้นดูน่ากลัวอยู่แล้ว ก็ได้รับการเสริมให้ดูน่าขนลุกขึ้นไปอีกจากงานศิลป์ต่าง ๆ ที่ผนวกเรื่องของความเชื่อในเรื่องของศาสนาเข้าไปในเกม เสียงประกอบอันยอดเยี่ยม และจังหวะการใช้ Jump Scare ที่ลงตัวอย่างมาก ขนาดที่ว่าตัวของผู้เขียนเองที่ชินชากับเกมผีมาแล้วยังรู้สึกทึ่งในสิ่งที่ใส่เข้ามาในเกมอย่างมาก อาจเป็นเพราะการนำเสนอที่มาในแบบตะวันออกที่คุ้นเคยนี่เองที่ทำให้มันดูน่ากลัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั่นเอง

 

 

นอกจากนั้นตัวเกมยังแทรกเกร็ดต่าง ๆ ที่น่าสนใจเข้าไปมากมาย นอกจากเรื่องของความเชื่อทางด้านศาสนาอย่างที่กล่าวไปแล้ว นัยยะทางการเมืองที่มีต่อเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาไต้หวันที่มีอยู่จริงในยุคของเจียงไคเช็คนั้นก็ถูกหยิบมานั้นเสนอแบบไม่ยั้ง แสดงให้เห็นว่าผู้คนในยุคนั้นเจ็บปวดกับกฎอัยการศึกที่ยาวนานเกือบสี่สิบปีนี้อย่างไร รวมไปถึงการปราบปรามคนเห็นต่างด้วยวิธีอำมหิตที่ถูกนำไปผูกกับเนื้อเรื่องได้ยอดเยี่ยม เรียกว่าการนำเสนอในเกมนี้มีการส่งเสริมเนื้อเรื่องให้เด่นชัดซึ่งกันและกันอย่างมากทีเดียว Detention (2020 ซับไทย)

แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ตัวเกมใช้การนำเสนอในรูปแบบของงานศิลป์สไตล์การ์ตูนสองมิติ ที่อาจจะทำให้มิติของฉากและความชัดลึกของงานภาพนั้นรู้สึกว่าจับต้องได้ยากมากกว่าแบบสามมิติ แม้จะมีงานศิลป์และการสร้างบรรยากาศที่ดูคุ้นเคย แต่บางครั้งผู้เขียนก็รู้สึกว่า ถ้าเป็นการนำเสนอในแบบกึ่ง ๆ สามมิติที่ผสมความชัดลึกในการตัดเข้าฉากต่าง ๆ มาด้วยก็น่าจะทำให้บางจุดดูน่าสนใจมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วเป็นเพียงแค่จุดติดขัดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง หากใครกำลังหาหนังรักที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงความรักอย่างเดียว แต่ยังทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวของชีวิตคนเราได้มุมมองใหม่ ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกละมุนอบอุ่นหัวใจ เราขอแนะนำเรื่อง “คิดถึงวิทยา”เลย เป็นหนังอีกเรื่องในดวงใจของเราและหลายคน แถมยังเป็นแรงผลักดันให้ครูหลายคนไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อสร้างเยาวชนให้กลายเป็นคนดีของสังคมอย่างสมบูรณ์แบบด้วย เรื่องราวของหนังคิดถึงวิทยาจะน่าติดตามกันแค่ไหนต้องมาอ่านรีวิวกัน

 

เรื่องย่อ คิดถึงวิทยา

หนัง “คิดถึงวิทยา” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “สอง” ที่ได้มาเป็นครูที่โรงเรียนเรือนแพแห่งหนึ่งทางภาคเหนือซึ่งอยู่ห่างไกลความเจริญ ต้องเดินทางโดยใช้เรือเท่านั้น และปัญหาใหญ่ของเขาก็คือ การที่เด็กนักเรียนไม่ค่อยสนใจครูอย่างเขาเลยสักนิด ทำให้สองรู้สึกท้อจนกระทั่งได้ไปค้นพบสมุดบันทึกของ “แอน”ที่ก่อนหน้าที่สองจะมา เธอเคยถูกส่งมาเป็นครูที่โรงเรียนเรือนแพอย่างไม่เต็มใจนักและทำให้เด็ก ๆ ที่นี่เปิดใจยอมรับเธอได้ซึ่งทำให้เขามีกำลังใจมากขึ้นในการเป็นครูสอนที่นี่

จนกระทั่งเวลาผ่านไปในที่สุดแอนก็ได้กลับมาที่โรงเรียนเรือนแพอีกครั้ง ในขณะที่สองได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว และแอนก็ได้เห็นว่าบันทึกของตัวเองถูกเขียนเพิ่มเติมเรื่องราวด้วยลายมือของสอง มิตรภาพของทั้งคู่จึงได้เกิดขึ้นผ่านบันทึกเล็กๆ 1 เล่มนี้ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

 

ความน่าสนใจของหนัง “คิดถึงวิทยา”

หนัง คิดถึงวิทยา netflix ได้ถ่ายทอดมุมมองที่แปลกใหม่ของการเป็นครูที่ต้องมาสอนในโรงเรียนชนบทซึ่งเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึง ทำให้ต้องมีทักษะชีวิตพอตัว โดยเราอาจจะชินกับภาพของครูดอยกันแล้ว แต่คงไม่มีใครจะคาดคิดว่าในประเทศไทยจะมีโรงเรียนเรือนแพด้วยซึ่งตรงนี้ได้สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ “ครูสามารถ สุทะ” ซึ่งเป็นครูสอนโรงเรียนเรือนแพเพียงคนเดียวที่โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร

โดยนำมาแต่งเติมเรื่องราวเป็นหนังรักผ่านสมุดไดอารี่ของคู่พระนางให้มีสีสันและบอกเล่าชีวิตการทำหน้าที่ครูว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำให้เด็กสนใจในการเรียน ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญร่วมกันมาและมิตรภาพที่คุณมอบให้เขาอย่างเป็นกันเองจะค่อย ๆ ทำให้เด็กเปิดใจให้คุณจนพวกเขารักคุณเหมือนอย่างครูสองกับครูแอน

 

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

 

ในด้านความรักของคู่พระนางต่างคนต่างรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายผ่านไดอารี่ แต่พระเอกก็ทำได้เพียงพยายามเก็บครูแอนไว้ในใจเพราะรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงดั้นด้นไปหาถึงโรงเรียนในต่างอำเภอเพื่ออยากเห็นหน้าสักครั้ง ส่วนนางเอกกับแฟนก็เริ่มมีความรู้สึกห่างเหินกันมากขึ้นเพราะอุดมการณ์ในการสอนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จนกระทั่งต้องเลิกรากันในที่สุด ซึ่งเราลุ้นทั้งเรื่องว่าคู่พระนางจะได้เห็นหน้าคนที่เฝ้ารอมาในฉากไหน ซึ่งก็ไม่ผิดหวังแน่นอน

 

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง ได้สอนให้เราเรียนรู้ว่า การเป็นครูไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเวลาราชการหรือในสถานศึกษานั้น ๆ แต่คำว่า “ครู” เป็นเสมือนจิตวิญญาณที่อยู่ในตัวของคุณ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาใดกับเด็กนักเรียน คุณอย่าได้รีรอที่จะเข้าไปช่วยเขา จงอดทนแม้ว่าคุณจะรู้สึกลำบากและท้อ เพราะยังมีเด็กหลายคนที่ต้องการครูอย่างคุณอยู่ และการสอนเด็ก

เป้าหมายที่แท้จริงก็คือ การพัฒนาให้เขาได้รับความรู้มากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพและเป็นคนที่ดีของสังคม ไม่ว่าเขาจะเลือกทำอาชีพใด ทำนา หาปลา หมอ ตำรวจก็ตาม ต่อไปพวกเขาย่อมสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคุณมาใช้ได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นในทางตรงหรือทางอ้อม คิดถึงวิทยา mastermovie

ข้อเสีย บอกตรงๆว่าผมไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าข้อเสียได้หรือเปล่า เอาเป็นว่าเป็นข้อสังเกตละกันครับ หนังเรื่องนี้ มีกรอบมากๆครับ กรอบของความเป็นหนังรักโรแมนติก Feel Good และ GTH กรอบเหล่านี้ครอบความกล้าที่จะหลุดออกมาของหนังไว้จนมิด ทั้งที่ประเด็นในหนังมันสามารถสร้าง Conflict ใหญ่โตระดับสะเทือนระบบการศึกษาของสังคมไทยได้เลย แต่หนังข้ามสิ่งเหล่านั้นไป เล่าแค่ที่อยากจะเล่า ปัญหาระดับรากเหง้าของประเทศ
เลยกลายเป็นแค่เรื่องปัญหาเล็กๆในความโรแมนติกเท่านั้น ผมมั่นใจว่าถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ค่าย GTH ทำ ประเด็นเหล่านี้จะกลายเป็นประเด็นใหญ่โตที่ถูกเอามาขยี้ให้เรารู้สึกได้เลยว่าระบบการศึกษาของเรามันแย่แค่ไหน ที่น่าสนใจกว่านั้น แน่ใจว่า “ครู” ที่หนังสื่อมาให้เห็นเป็น “ครู” ที่ควรจะเป็นจริงๆของสังคมไทย อยากให้คิดให้ละเอียดๆนะครับ ถ้าหนังจงใจซ้อนภาพตลบ 2 ชั้นให้คนดูหวนมาคิด ก็ถือว่าดี แต่ผมว่าไม่น่าจะใช่

 

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

 

ในชีวิตของผม ในแต่ละวันดูหนังอย่างน้อย ๆ ก็หนึ่งเรื่องหรือสองเรื่อง และในแต่ละเดือนดูหนังเยอะมาก เรียกว่าดูมันทุกแนว ทุกประเภทเลยทีเดียว ไม่ว่าจะหนังไทย จีน ฝรั่ง หรือการ์ตูน แต่ผมจะไม่ดูหนังอยู่ประเภทเดียวคือ หนังรัก นอกนั้นชอบดูหมด ยิ่งเป็นหนังผี นี่ยิ่งชอบดูคนเดียว ชอบดูตอนกลางคืนด้วยนะ เพราะฝึกจิตใจเราให้เข้มแข็งได้ป็นอย่างดี หนังแต่ละเรื่องแต่ละประเภทให้แง่ดีให้ข้อดีแก่เรานะ อยู่ที่เราจะมองว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากหนังนอกจากความบันเทิงที่ได้ ไม่ใช่ว่าพอดูหนังจอก็จบกันไป มันไม่ใช่ เหมือนกับหนังไทยค่ายนี้เลย GTH หรือปัจุบันเปลี่ยนชื่อค่ายหนังมาเป็น GDH จำได้ว่าชอบดูหนังไทยของค่ายหนังค่ายนี้มาก ๆ นอกจากให้ความบันเทิงแล้วยังให้แง่คิด ในการใช้ชีวิตต่าง ๆ ให้ตัวละครมาสอนคนดู และเรื่องที่จะมาแนะนำและรีวิวในวันนี้ เป็นหนังไทยจากค่าย GDH เรื่อง คิดถึงวิทยา พระเอกชื่อ บี้ สุกฤษ กับนางเอกชื่อ พลอย เฌอมาลย์ เรื่องนี้เก่าแล้วหนังตั้งแต่ 2016 4-5 ปีแล้วแต่ผมก็ยังพอจำเนื้อเรื่องของหนังได้
ดูแล้วเห็นความรักที่ครูมีต่อเด็กนักเรียน ถึงแม้ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน เมื่อเด็กขาดเรียนหรือไม่มาครูก็เป็นห่วงวาจะเรียนไม่ทัน ไม่ได้เรียน ดูแล้วทำให้เราน้ำตาซึม ได้ข้อคิดดี ๆ มากกว่าการดูหนัง ได้เห็นความลำบากของครูคนนึงที่ทำไปเพราะความรัก ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะไม่มากมายอไร แต่ก็เต็มใจที่จะไปสอน ผมว่าควรหาดูนะหนังเรื่องนี้ ให้มากกว่าความสุขและรอยยิ้ม คิดถึงวิทยา ภาค2

 

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง

หนัง “คิดถึงวิทยา” ได้ถ่ายทอดมุมมองที่แปลกใหม่ของการเป็นครูที่ต้องมาสอนในโรงเรียนชนบทซึ่งเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึง ทำให้ต้องมีทักษะชีวิตพอตัว โดยเราอาจจะชินกับภาพของครูดอยกันแล้ว แต่คงไม่มีใครจะคาดคิดว่าในประเทศไทยจะมีโรงเรียนเรือนแพด้วยซึ่งตรงนี้ได้สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ “ครูสามารถ สุทะ” ซึ่งเป็นครูสอนโรงเรียนเรือนแพเพียงคนเดียวที่โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร
โดยนำมาแต่งเติมเรื่องราวเป็นหนังรักผ่านสมุดไดอารี่ของคู่พระนางให้มีสีสันและบอกเล่าชีวิตการทำหน้าที่ครูว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำให้เด็กสนใจในการเรียน ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญร่วมกันมาและมิตรภาพที่คุณมอบให้เขาอย่างเป็นกันเองจะค่อย ๆ ทำให้เด็กเปิดใจให้คุณจนพวกเขารักคุณเหมือนอย่างครูสองกับครูแอน

 

 

ในด้านความรักของคู่พระนางต่างคนต่างรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายผ่านไดอารี่ แต่พระเอกก็ทำได้เพียงพยายามเก็บครูแอนไว้ในใจเพราะรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงดั้นด้นไปหาถึงโรงเรียนในต่างอำเภอเพื่ออยากเห็นหน้าสักครั้ง ส่วนนางเอกกับแฟนก็เริ่มมีความรู้สึกห่างเหินกันมากขึ้นเพราะอุดมการณ์ในการสอนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จนกระทั่งต้องเลิกรากันในที่สุด ซึ่งเราลุ้นทั้งเรื่องว่าคู่พระนางจะได้เห็นหน้าคนที่เฝ้ารอมาในฉากไหน ซึ่งก็ไม่ผิดหวังแน่นอน
หนัง “คิดถึงวิทยา” ได้สอนให้เราเรียนรู้ว่า การเป็นครูไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเวลาราชการหรือในสถานศึกษานั้น ๆ แต่คำว่า “ครู” เป็นเสมือนจิตวิญญาณที่อยู่ในตัวของคุณ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาใดกับเด็กนักเรียน คุณอย่าได้รีรอที่จะเข้าไปช่วยเขา จงอดทนแม้ว่าคุณจะรู้สึกลำบากและท้อ เพราะยังมีเด็กหลายคนที่ต้องการครูอย่างคุณอยู่ และการสอนเด็กเป้าหมายที่แท้จริงก็คือ การพัฒนาให้เขาได้รับความรู้มากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพและเป็นคนที่ดีของสังคม ไม่ว่าเขาจะเลือกทำอาชีพใด ทำนา หาปลา หมอ ตำรวจก็ตาม ต่อไปพวกเขาย่อมสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคุณมาใช้ได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นในทางตรงหรือทางอ้อม
ช่วงท้าย หนังเข้าสู่ความเป็น “คิดถึงวิทยา” เต็มๆ โดยเล่าว่าความคิดถึงมันแปรเปลี่ยนไปเป็นอะไร แล้วหนังก็หักทิศทางอีกครั้ง จนผมเริ่มไม่แน่ใจว่า จะทำยังไงหนังถึงจะไปจบแบบ “Feel Good” (หนังแนวนี้ของ GTH ผมไม่เคยกล้าคิดว่า GTH จะไม่ Feel Good) แต่หนังก็ไปได้ในแบบที่ดูเรียบง่ายราบรื่นและสวยงาม แล้วก็จบไปอย่าง Feel Good ตามความประสงค์ ส่วนตัวผมว่าตอนจบมันไปได้พี๊คกว่านี้อีกเยอะ แต่ดูเหมือนหนังต้องการอารมณ์กรุ่นๆ อบอุ่นกึ่งเหงา ดูจบแล้วสบายใจเสียมากกว่า

 

คิดถึงวิทยา สรุป

คิดถึงวิทยา สปอยหนัง การแสดง เป็นส่วนที่หาข้อติแทบจะไม่ได้เลยของหนังเรื่องนี้ ทั้งบี้ ทั้งพลอย เวียร์ นักแสดงสมทบ รวมทั้งนักแสดงเด็กทุกคน ทำได้ดีมากๆๆๆ เรียกว่าดูแล้วไม่มีความรู้สึกติดขัดสะดุดสายตาแต่ประการใด
ข้อดี ของหนังเรื่องนี้คือ หนังชัดเจนในเรื่องที่จะเล่า พาคนดูไปในทิศทางที่หนังอยากให้เป็นได้โดยไม่หลุดออกไป ยิ่งถ้ารับสิ่งที่หนังส่งออกมาได้มาก ก็จะยิ่งอิน อิ่ม สบายใจ มีความสุข เรียกว่ายิ้มออกมาจากโรงได้เลย ยิ่งใครคิดถึงหนังสไตล์ GTH ชอบหนังสไตล์ GTH เรื่องนี้มันเป็น GTH แบบสุดโต่งเลยล่ะครับ คิดถึงวิทยา pantip

 

 

สรุป หนังเรื่องนี้ดูง่าย ดูสบาย Feel Good สไตล์ GTH การแสดงดี ภาพสวย อิ่ม อุ่น เหงานิดๆ เพลงเพราะ เหมือนกินอาหารที่อร่อยสวยงามรสชาดดีทุกอย่าง ขาดแค่ความแปลกใหม่ ถ้าใครชอบสไตล์ของ GTH รวมทั้งหนังโรแมนติกดูแล้วสบายใจอินเลิฟ เรื่องนี้สมบูรณ์แบบมากครับ แต่ถ้าคุณเป็นคอหนังที่หวังว่าจะ “ได้” อะไรมากกว่าที่คาดจากหนังเรื่องนี้ ชอบคิดต่อ ชอบการเจาะลึกเสียดสีสังคม หนังเรื่องนี้จะแตะประเด็นในแบบที่ไม่พยายามให้เราไปสนใจประเด็นเหล่านั้น แต่ถ้าสนใจก็ลองไปดูก็ได้ครับว่า คุณจะคิดมากเหมือนกับผม หรือเห็นอะไรเหมือนกับที่ผมเห็นหรือไม่ เอ..หรือว่าผมบ้าไปเองคนเดียว เฮ้อ สำหรับผม หนังเรื่องนี้เหมือนรถรุ่นใหม่ที่ทำออกมาดีทุกอย่าง สมบรูณ์ ครบครัน แต่ไม่กล้าที่ใส่ Option ใหม่ๆที่ล้ำยุค เพียงเพราะแค่กลัวคนซื้อมองว่าเกินความจำเป็น

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง เด็กไทยล้วนรู้จักขุนช้างขุนแผน เพราะเป็นนิทานพื้นบ้านชื่อดังและเป็นวรรณคดีที่อยู่ในแบบเรียนที่บังคับเรียนโดยกระทรวงศึกษาธิการอีกด้วย ถึงแม้ว่าเมื่อสอบเสร็จ-เรียนจบ-โตแล้ว เราจะจำเรื่องราวหรือรายละเอียดนั้นได้บ้างไม่ได้บ้างแต่หากเราจดจำตัวละครหลักทั้งสามอย่าง ขุนแผน (แก้ว), ขุนช้าง (ช้าง), และนางพิมพิลาไลย (วันทอง) ได้นั้นก็เพียงพอเหลือแหล่แล้วที่จะไปดู ขุนแผน ฟ้าฟื้น ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของพี่ ก้องเกียรติ โขมศิริ (ผู้กำกับ ขุนพันธ์) ได้อย่างเพลิดเพลินและรู้เรื่อง ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ ขุนแผน ฟ้าฟื้น

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

ภาพยนตร์ ขุนแผน ฟ้าฟื้น เริ่มจาก แก้ว (มาริโอ้ เมาเร่อ) กับสหายรักของเขา เพชร (โจเซฟ สิรินัฎฐ์) เดินทางมาแสวงโชคที่เมืองยูท่า (หรืออยุธยา) แล้วมาเจอกับช้าง (ฟิลลิปส์ The Face Men) กับพิม (ฟ้า ยงวรี) ซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเด็กแก้วจำพวกเขาไม่ได้เพราะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็ตกหลุมรักนางพิมตั้งแต่แรกเห็นต่อมาแก้วได้เรียนวิชาอาคมกับอาจารย์เดช (ต๊อก ศุภกรณ์) และสมัครเป็นทหารอาสา เพื่อพิสูจน์ตนเองและลบล้างคำเหยียดหยามที่ว่าขุนไกร (ปีเตอร์ นพชัย) พ่อของเขาเป็นกบฏ แล้วก็ต้องมาแข่งขันแย่งชิงการเป็นที่หนึ่งกับช้างทั้งในเรื่องของหัวใจและเรื่องการเป็นทหารในขณะเดียวกัน จอมเวทย์สายดำ แสนตรีเพชรกล้า (ปราโมทย์ แสงศร) และพรรคพวก นำโดยมือขวา รัศมีจันทร์ (เจด แองเจลิน่า นางเอกโนราห์ 2018) ก็กำลังมีแผนก่อความไม่สงบในงานใหญ่ประจำเมืองและหวังลอบสังหารพระยาเดโช (น้านงค์ เชิญยิ้ม) ขุนแผนฟ้าฟื้น 2

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง หลังโด่งดังจากการร่วมเขียนบทหนังสยองขวัญอย่าง ลองของหรือเปนชู้กับผี แล้ว ก้องเกียรติ โขมศิริ ถือเป็นผู้กำกับที่ทำหนังหลากหลายแนวที่สุดทั้งดราม่าอาชญากรรมอย่าง ไชยา ระทึกขวัญอย่างเฉือนและสุขสันต์วันกลับบ้านหรือกระทั่งแอ็กชันอย่างอันธพาลและขุนพันธ์ทั้งสองภาค ซึ่งจากเครดิตจะเห็นว่าก้องเกียรติมักวนเวียนอยู่กับความดำมืด อาชญากรรม มนตร์ดำ มาตลอด นั่นทำให้ขุนแผนฟ้าฟื้นกลายเป็นงานขายตลกแฟนตาซีจริงจังที่เปิดซิงด้านสว่างของเขาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งด้วยชื่อชั้นงานเขียนบทที่ไม่ใช่ของไกลตัวทำให้บทหนังเต็มไปด้วยไอเดียเด็ดๆ มากมายทั้งการแอบแซวตัวเองในฉากเปิดเรื่องของขุนพันธ์ยันล้อไปยังตุ๊กตาผีแอนนาเบลหรือจะเป็นการเล่าเรื่องแบบโพสต์โมเดิร์นใส่องค์ประกอบโลกปัจจุบันเข้าไปในเนื้อหาที่ดูเป็นพีเรียตแบบไม่สนความถูกต้องเชิงประวัติศาสตร์ก็ทำให้ขุนแผนฟ้าฟื้น กลายเป็นงานหนังไทยขายครีเอทีฟที่น่าสนใจในเชิงแนวคิดไม่น้อยแต่อาจเป็นโชคร้ายที่กรอบการเล่าเรื่องของหนัง 2 ชั่วโมงอาจยังไม่สามารถรองรับไอเดียดีๆ หรือองค์ประกอบกาวๆ ที่พยายามจะเล่าได้มากนักผลลัพธ์คือหนังออกมาไม่ลงตัวเท่าที่ควรดังจะกล่าวถึงต่อไป

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

ว่าด้วยเส้นเรื่องของหนังเองเหมือนขุนแผนฟ้าฟื้นจะพยายามผูกโยงเส้นเรื่อง3เส้นไว้ด้วยกันได้แก่การตามหาความทรงจำเรื่องพ่อของแก้ว , เรื่องรักสามเส้าแต่ครั้งอดีตระหว่างแก้ว ช้าง และ พิม ส่วนสุดท้ายคือตำนานแห่งนักรบอัฐมารถที่ต้องปกป้องยูท่าจาก แสนตรีเพชรกล้าและเหล่าสมุนโดยมีแทรกการฝึกวิชาอาคมของแก้วกับอาจารย์เดชเป็นระยะซึ่งลำพัง 3 เส้นเรื่องหลักหนังยังไม่สามารถเล่าได้เคลียร์นัก เพราะพอยัดเส้นเรื่องที่คนต้องติดตามเยอะเกินไปเลยเกิดอาการความจำเสื่อมแก่คนดูเป็นระยะ คือพอแก้วอยากจะตามหาพ่อไปๆ มาๆ หนังก็จะไปเล่าเรื่องรักสามเส้าแถมพอแทรกเรื่องนักรบอัฐมารถเข้ามา กว่าจะมาสรุปเรื่องก็ปาไปเกือบหนังจบแล้ว จนคนดูประมวลผลอารมณ์ตัวเองได้ยากจริงๆ และ ยิ่งหนังเล่าไปเรื่อย ๆ เราก็สัมผัสได้เลยว่าก้องเกียรติไม่ถนัดกับงานคอเมดี้ยิ่งหนังพยายามดึงอารมณ์คนดูให้ตลกด้วยการถล่มมุกต่างๆ ทุก 30 วินาทีก็สัมผัสได้แต่ความฝืดเฝือไปพร้อมกับอาการสะดุดในการเล่าเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย

 

จุดขายสำคัญสำหรับหนัง ขุนแผนฟ้าฟื้น

จริงๆ คงหนีไม่พ้นเหล่านักแสดงที่ทำหน้าที่เรียกแขกได้ไม่ยากทั้งมาริโอ เมาเร่อที่มีชื่อเป็นพระเอกพันล้านจากพี่มากพระโขนงหรือจะเป็นหน้าใหม่ที่น่าสนใจมากๆทั้งฟิลลิปส์ ณัทธนพล ทินโรจน์ หนุ่มหล่อจากรายการ The Face Men ที่พกพาความหล่ออินเตอร์มาลบภาพขุนช้างอ้วนหัวล้านที่เราคุ้นเคยรวมถึงนางเอกสาวสวยอย่างฟ้า ยงวรี งามเกษมนางเอกช่อง3ที่เพิ่งผ่านละครเพชรกลางไฟ มาเรื่องเดียว รับบท พิม ชนวนเหตุรักสามเส้าแถมยังแพ็กนักแสดงรุ่นกลางอย่าง ปราโมทย์ แสงศร และ ต็อก ศุภกร กิจสุวรรณ กะมาเอาใจคอหนังรุ่นใหม่เต็มที่ ด้วยหน้าหนังขุนแผนสไตล์ซูเปอร์ฮีโร แต่สุดท้ายก็กลายเป็นความรับผิดชอบของผู้กำกับเมื่อภาพรวมทางการแสดงของหนังกลับออกมาพังพินาศอย่างเห็นได้ชัด ที่ออกหน้าออกตามากคือมาริโอ เมาเร่อ ที่พยายามทุ่มเทให้กับการเล่นมุกที่บทเขียนมาแบบไม่ห่วงหล่อแต่ด้วยจังหวะการกำกับตัดต่อที่ดูรีบๆ ขุนแผนฟ้าฟื้น imovie

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

จบซีนบ้างหรือตัดฉับแบบไม่ทันตั้งตัวบ้างก็ทำให้มุกต่างๆ ทำงานกับคนดูได้น้อยเหลือเกินส่วนฟ้า ยงวรี กับหนุ่ม ฟิลิป ก็ยังไม่อาจทำให้เราหลงรักหรือมีเสน่ห์มากพอให้ติดตามตัวละครได้มากเท่าใดนักผิดกับหมอริท เดอะสตาร์ ที่มาน้อยแต่บันเทิงมากๆ จนขโมยซีนนักแสดงอื่นๆ ที่เล่นมาทั้งเรื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อส่วนเจด แองเจลิน่า โฟรม็องโตนางเอกจากหนัง โนราห์ ปีที่แล้วก็มาในบทเหมรัศมี สีจันทน์ นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ จนหนุ่มๆ ละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว
หากจะสรุปแบบให้แฟร์กับหนังแล้วใครอยากดู ไอเดียของหนังหรืองานภาพ งานกำกับศิลป์ ก็ยังถือว่า ขุนแผนฟ้าฟื้นทำหน้าที่ของมันได้ดีพอสมควร แต่น่าเสียดายที่บทหนังและการแสดงกลับไม่สามารถสร้างความบันเทิงระดับบิ๊กอย่างที่คาดหวังไว้เลยกลายเป็นงานผิดฟอร์มไปอย่างน่าเสียดาย

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น วิเคราะห์ วิจารณ์

ขุนแผนฟ้าฟื้น ท้าวเวสสุวรรณ ไม่ใช่แค่การตีความวรรณคดีไทยใหม่ หากแต่เขาสร้างโลกใบใหม่ของขุนช้างขุนแผนและจักรวาลฮีโร่ไทยขึ้นมาใหม่ตามจินตนาการสุดบรรเจิดของพี่ก้องเกียรติเอง โดยมีการใส่บริบทยุคใหม่สมัยปัจจุบันลงไปในบริบทพีเรียดย้อนยุคนั้นอย่างลงตัว และมีการยำเอาหนังดังหลายเรื่องมาล้อมาเลียนอีกด้วย เช่น King Arthur, Aladdin, ฯลฯ รวมถึง pop culture อย่าง Annabelle ด้วย เป็นต้น อย่างฉากเปิดเรื่องและมีการนั่งรถไล่ล่ากันก็เล่นใหญ่ มัน(ส์)ตระการตามาก ราวกับฉากซิ่งเปิดฉาก Fast & Furious

ตัวละครเอกในขุนช้างขุนแผนเป็นไพร่ฟ้าหน้าใสและขุนนางธรรมดา จึงคิดว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมคงไม่น่าจะมาดราม่าเหมือนตอนเคสทศกัณฐ์ในเอ็มวีท่องเที่ยวไทยที่เป็นประเด็นเมื่อสองสามปีก่อน อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเราโอเคตั้งแต่เคสทศกัณฐ์จนมาถึงเคสขุนแผน ฟ้าฟื้นนี้ เพราะมันทำให้ตัวละครในวรรณคดีไทยกลับมามีชีวิตจับต้องได้และเป็นที่จดจำอีกครั้ง ดีกว่าปล่อยให้ขึ้นไปวางไว้บนหิ้งแล้วถูกคนรุ่นใหม่มองข้ามและหลงลืมกันไปตามกาลเวลา

 

 

จริง ๆ แล้ว ขุนช้างขุนแผนเองก็เป็นเรื่องที่มีการเล่าแต่งเติมเสริมแต่งหรือดัดแปลงต่อๆ กันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาอยู่แล้ว พอกรุงฯแตก ร.2 และเหล่ากวีชั้นครูในสมัยนั้นก็มารวบรวมและเอาเค้าโครงเดิมนั้นมาเสริมแต่งกันใหม่ โดยมีบริบททางสังคมของสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นสอดแทรกเข้าไปด้วยอีกเช่นกัน ดังนั้น ขุนแผน ฟ้าฟื้น ก็เป็นการเล่าขุนช้างขุนแผนในแบบที่มีบริบททางสังคมในปัจจุบัน เข้าไปสร้างสีสันร่วมสมัยไปด้วย เช่น การสะท้อนเกี่ยวกับการขนส่งสาธารณะในปัจจุบัน เป็นต้น

เอาเป็นว่า การมาดูหนังเรื่องนี้ ควรทำสมองให้โล่ง เปิดใจให้กว้าง และลืมขุนช้างขุนแผนที่คุ้นเคยออกไปชั่วขณะ แล้วจะบันเทิงกับหนังมาก เพราะหนังเขาทำมาค่อนข้างครบรสเลยทีเดียวตั้งแต่แอ็คชั่น แฟนตาซี ดราม่า โรแมนติก และคอเมดี้ โปรดักชั่นทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่จัดเต็มและซีจีที่ดูดีไม่ขัดตา หรือถ้าติดใจสงสัยเหมือนเราตอนก่อนมาดูว่า ทำไมขุนช้างมันหล่อจังวะ ไม่เห็นอ้วนและหัวล้านเลย สุดท้ายในหนังก็จะมีคำตอบให้เราเอง ไม่ต้องคิดเยอะ

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

คือหนังแนว Postmodern ที่หยิบยืมเอาวรรณกรรมในอดีต นำมานำเสนอใหม่ภายใต้บริบทและวิธีการคิดแบบใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่ดูมีความเป็นคนที่มีความคิดหัวสมัยใหม่ แต่บริบทและฉากหลังเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา ทรงผม แฟชั่น หรือวิถีชีวิตของพวกเขา ล้วนแล้วแต่มีความเก๋ เปรี้ยว เป็นฮิปสเตอร์แตกต่างจากหนังไทยย้อนอดีตเรื่องอื่น

วัฒนธรรมร่วมสมัยที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบสไตล์หนังมิวสิคัลเอามาใส่ไว้ในช่วงต้นเรื่อง ตัวละครอย่างช้างและพิม มีวงดนตรีที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นระบบคมนาคมขนส่งในเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับแท็กซี่และรถประจำทาง สิ่งเหล่านี้ทำให้คนดูเห็นความพยายามใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี

 

 

แต่น่าเสียดายที่ความร่วมสมัยในหนัง กับบทภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสะเปะสะปะและไม่ค่อยคืบหน้าไปไหนทำให้ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” วนเวียนอยู่แต่ความทรงจำของแก้วที่ขาดหายไปคำถามถึงการหายไปของพ่อแก้ว ซึ่งเมื่อเราพิจารณาจิกซอว์ต่างๆหลังจากชมภาพยนตร์ไปสักระยะ ก็บทสรุปของหนังก็แทบไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายอีกทั้งความสัมพันธ์แบบรักสามเส้าของตัวละครเอก ก็ไม่ได้หนักแน่นเข้มข้นจนผู้ชมต้องรู้สึกอยากจะเอาใจช่วยตัวละครไหน เพราะท้ายที่สุดแล้วหนังก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะนำเสนอหนัง “ภาคนี้” ให้มีความเคร่งขรึมจริงจัง แต่มาในโทนหยอกล้อ ซึ่งอาจจะเป็นความ “ล้อเล่น” ที่มากเกินไปก็เป็นได้ ขุนแผน ฟ้าฟื้น ตอนจบ

 

แฝด สปอยหนัง

แฝด สปอยหนัง

แฝด สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง หากใครที่กำลังตามหาหนังไทยที่มีความหลอนสั่นประสาทอยู่แล้วล่ะก็เราขอแนะนำหนังเรื่อง “แฝด” เลยค่ะ ชื่อภาษาอังกฤษคือ “Alone” เป็นหนังของทางค่าย GTH ในปี 2007 โดยได้ผู้กำกับหลัก คือ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่เคยเป็นผู้กำกับในหนัง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ และได้นักแสดงนำอย่างมาช่า วัฒนพานิช มาเล่นเป็นนางเอกด้วย
แค่ชื่อของผู้กำกับกับนักแสดงมากฝีมือระดับประเทศก็ทำให้อยากดูจนทนไม่ไหวแล้วใช่ไหมล่ะคะ งั้นเราตามไปอ่านรีวิวกันเลยดีกว่าก่อนที่จะดูหนังเต็ม

 

เรื่องย่อแฝด

 

แฝด สปอยหนัง

 

แฝด เรื่องย่อ หนังได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “พิมพ์” ที่ได้กลับมาบ้านเกิดเมืองไทยหลังจากไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่ประเทศเกาหลี เพราะได้ข่าวการป่วยหนักของแม่ เมื่อได้กลับมาอยู่บ้านเกิดที่จากไปนานหลายปีทำให้อดีตต่าง ๆ ที่เจ็บปวดของเธอเมื่อครั้งยังใช้ชีวิตกับ “พลอย” แฝดน้องที่ตัวติดกันพลันกลับมาอีกครั้ง ตั้งแต่เกิด “พิมพ์”กับ “พลอย”ก็เป็นแฝดสยามที่ตัวติดกัน ทุกคนมองว่าพวกเธอเป็นตัวประหลาด แต่ถึงอย่างไรทั้งสองก็ยังคงรักกันเสมอ จวบจนโตขึ้นพวกเธอจึงตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดแยกกัน แต่การผ่าตัดผิดพลาดทำให้พลอยเสียชีวิต พิมพ์ที่ได้กลับมาบ้านจึงต้องคอยหลบหนีจากอดีตและวิญญาณของพลอยที่ตามหลอกหลอนโดยไม่รู้สาเหตุ เธอจะสามารถอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างเป็นสุขหรือไม่ แล้วแฝดเธอจะหายแค้นได้หรือเปล่า รอชมกัน ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

ความน่าสนใจของหนัง แฝด

แฝด สปอยหนัง มีความน่าสนใจตรงที่ตัวหนังได้ใช้เรื่องราวของแฝดสยามที่มีเพียงไม่กี่คู่ในประเทศไทยมาเป็นจุดที่ดึงดูดคนเข้ามาดูและทำให้เราอยากรู้ว่าเหตุใดแฝดที่เมื่อครั้งยังมีชีวิตดูรักกันดี เมื่อมีฝ่ายหนึ่งตายไปก็เลือกที่จะมาตามหลอกหลอนราวกับแค้นเคืองแฝดพี่ถึงขนาดนั้น

หนังจะมีสแกรี่จั๊มป์ค่อนข้างเยอะ เล่นกับความสลัวของตัวบ้านหลังใหญ่ได้คุ้มจนหลอนตาม ๆ กันทำเอาเรานอนไม่หลับไปเลยเมื่อนึกถึงฉากติดตามที่ตอนพิมพ์นอนบนเตียงมีขาของผีแฝดน้องห้อยต่องแต่งลงมา โชคดีที่ทุกครั้งพระเอกที่เป็นแฟนพิมพ์ก็มักจะมาช่วยเอาไว้เสมอซึ่งหนังก็จะค่อย ๆ เฉลยตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นไปหลังจากที่ปล่อยความกลัวขั้นสุดมากมายจนทำให้เราไม่เข้าใจผีพลอยเลยจริง ๆ ว่าจะแค้นอะไรขนาดนั้น

 

แฝด สปอยหนัง

 

โดยหนังได้มีการเล่าเรื่องย้อนไปถึงตอนที่คู่แฝดเจอพระเอกที่มารักษาขาที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ทั้งสองเมาเข้ารับการผ่าตัดแยกร่างกัน ด้วยความที่พระเอกเป็นคนที่อ่อนโยน เป็นมิตร ไม่รังเกียจพวกเธอเหมือนคนอื่นทำให้ทั้งคู่สนิทกัน มักใช้เวลาว่างในโรงพยาบาลออกมานั่งเป็นแบบให้พระเอกวาดรูป จากความสนิทจึงทำให้แฝดพิมพ์กับพลอยต่างตกหลุมรักพระเอกเหมือนกัน เฮ้ย!

แต่สุดท้ายพระเอกก็หลงรักพิมพ์ทำให้พลอยเริ่มเกลียดพิมพ์จนสุดท้ายก็กินยาฆ่าตัวตาย หลังการผ่าตัดแยกร่างสำเร็จ พิมพ์ก็ได้ไปเรียนเมืองนอกกับพระเอก แต่เรื่องมันกลับมีจุดพีคอีกชั้นที่บางคนอาจเดาออก แต่ไม่ขอบอกดีกว่า ไม่ดูกันเอาเอง แต่เป็นเราเราเองก็เจ็บปวดแทนวิญญาณแฝดเหมือนกัน พี่น้องทำกันได้

 

แฝด สปอยหนัง

หนัง Alone ได้ให้แง่คิดกับเราว่าความรักและความหลงย่อมทำลายมิตรภาพของมนุษย์ที่รักกันมากได้แม้แต่พี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ไม่เว้น ฉะนั้นเราควรรักทุกคนแบบพอดี อย่ารักมาก ควรรักแบบกลาง ๆ เผื่อใจเพื่อที่เมื่อถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตจะได้ไม่เสียใจในตัวคนที่รักจนไปไหนไม่ได้และเอาแต่ผูกเวรกรรมต่อกัน ให้คิดว่ามันเป็นธรรมดาของจิตใจมนุษย์
แค่ชื่อของผู้กำกับกับนักแสดงมากฝีมือระดับประเทศก็ทำให้อยากดูจนทนไม่ไหวแล้วใช่ไหมล่ะคะ งั้นเราตามไปอ่านรีวิวกันเลยดีกว่าก่อนที่จะดูหนังเต็ม

หนังได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “พิมพ์” ที่ได้กลับมาบ้านเกิดเมืองไทยหลังจากไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่ประเทศเกาหลี เพราะได้ข่าวการป่วยหนักของแม่ เมื่อได้กลับมาอยู่บ้านเกิดที่จากไปนานหลายปีทำให้อดีตต่าง ๆ ที่เจ็บปวดของเธอเมื่อครั้งยังใช้ชีวิตกับ “พลอย” แฝดน้องที่ตัวติดกันพลันกลับมาอีกครั้ง ตั้งแต่เกิด “พิมพ์”กับ “พลอย”ก็เป็นแฝดสยามที่ตัวติดกัน ทุกคนมองว่าพวกเธอเป็นตัวประหลาด แต่ถึงอย่างไรทั้งสองก็ยังคงรักกันเสมอ จวบจนโตขึ้นพวกเธอจึงตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดแยกกัน แต่การผ่าตัดผิดพลาดทำให้พลอยเสียชีวิต พิมพ์ที่ได้กลับมาบ้านจึงต้องคอยหลบหนีจากอดีตและวิญญาณของพลอยที่ตามหลอกหลอนโดยไม่รู้สาเหตุ เธอจะสามารถอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างเป็นสุขหรือไม่ แล้วแฝดเธอจะหายแค้นได้หรือเปล่า

 

แฝด สปอยหนัง

 

มีความน่าสนใจตรงที่ตัวหนังได้ใช้เรื่องราวของแฝดสยามที่มีเพียงไม่กี่คู่ในประเทศไทยมาเป็นจุดที่ดึงดูดคนเข้ามาดูและทำให้เราอยากรู้ว่าเหตุใดแฝดที่เมื่อครั้งยังมีชีวิตดูรักกันดี เมื่อมีฝ่ายหนึ่งตายไปก็เลือกที่จะมาตามหลอกหลอนราวกับแค้นเคืองแฝดพี่ถึงขนาดนั้น

หนังจะมีสแกรี่จั๊มป์ค่อนข้างเยอะ เล่นกับความสลัวของตัวบ้านหลังใหญ่ได้คุ้มจนหลอนตาม ๆ กันทำเอาเรานอนไม่หลับไปเลยเมื่อนึกถึงฉากติดตามที่ตอนพิมพ์นอนบนเตียงมีขาของผีแฝดน้องห้อยต่องแต่งลงมา โชคดีที่ทุกครั้งพระเอกที่เป็นแฟนพิมพ์ก็มักจะมาช่วยเอาไว้เสมอซึ่งหนังก็จะค่อย ๆ เฉลยตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นไปหลังจากที่ปล่อยความกลัวขั้นสุดมากมายจนทำให้เราไม่เข้าใจผีพลอยเลยจริงๆ ว่าจะแค้นอะไรขนาดนั้น

โดยหนังได้มีการเล่าเรื่องย้อนไปถึงตอนที่คู่แฝดเจอพระเอกที่มารักษาขาที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ทั้งสองเมาเข้ารับการผ่าตัดแยกร่างกัน ด้วยความที่พระเอกเป็นคนที่อ่อนโยน เป็นมิตร ไม่รังเกียจพวกเธอเหมือนคนอื่นทำให้ทั้งคู่สนิทกัน มักใช้เวลาว่างในโรงพยาบาลออกมานั่งเป็นแบบให้พระเอกวาดรูป จากความสนิทจึงทำให้แฝดพิมพ์กับพลอยต่างตกหลุมรักพระเอกเหมือนกัน เฮ้ย!
แต่สุดท้ายพระเอกก็หลงรักพิมพ์ทำให้พลอยเริ่มเกลียดพิมพ์จนสุดท้ายก็กินยาฆ่าตัวตาย หลังการผ่าตัดแยกร่างสำเร็จ พิมพ์ก็ได้ไปเรียนเมืองนอกกับพระเอก แต่เรื่องมันกลับมีจุดพีคอีกชั้นที่บางคนอาจเดาออก แต่ไม่ขอบอกดีกว่า ไม่ดูกันเอาเอง แต่เป็นเราเราเองก็เจ็บปวดแทนวิญญาณแฝดเหมือนกัน พี่น้องทำกันได้ แฝด เกิดจาก

 

ความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าในตัวเอง แฝด

แฝด สปอยหนัง ชีวิตของพิมและพลอย มีความทุกข์ภาคบังคับ ที่แตกต่างจากคนทั่วไป เป็นความทุกข์ที่เหมือนกับ นกในกรงใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะมีอิสระ แต่อิสระก็มีขอบเขตอยู่แค่ภายในกรง หากอยากจะไปไหนได้ไกลกว่านั้น ก็จำต้องพึ่งคนเลี้ยงให้ยกกรงพามันไป พิมกับพลอยก็เช่นกัน ชีวิตที่แม้จะมีอิสระเสรี แต่มันก็มีขอบเขต

พิมตาย พลอยก็ต้องตายตาม (ด้วยเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ ยิ่งถ้าใช้อวัยวะสำคัญร่วมกันยิ่งตายเร็วขึ้น)ดังนั้น ถ้าใครคนใดคนหนึ่ง ไม่อนุญาติ ไม่ยอมเดินตาม อีกฝ่ายก็หมดสิทธิจะทำอะไรดั่งใจคิด
เราก็จะเห็นว่า การเป็นแฝดสยาม สิ่งที่ต้องสูญเสียคือ การมีชีวิตเป็นของตัวเอง…โดยธรรมชาติ ตามทฤษฎีทางจิตวิทยา เด็กทุกคนเมื่อโตขึ้นจะต้องผ่านช่วงพัฒนาการที่เรียกว่า autonomy คือความอยากเป็นตัวของตัวเอง และ ความต้องการมีอิสระ( independence ) เด็กเริ่มที่จะแยกจากพ่อแม่โดยพ่อแม่ไม่ต้องตามติดตลอดเวลา เริ่มมีชีวิตส่วนตัว เมื่อผ่านช่วงนี้ไปได้ เด็กก็จะเติบโตเป็นวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว

 

 

แต่พิมและพลอย จะโตเพียงใด ก็ ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ดังนั้น เชื่อเลยว่า แฝดสยามทุกคู่แม้จะรักกันมากเพียงใด อย่างน้อยในเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ก็ย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงความรู้สึกที่ผุดแวบขึ้นมากับการ ‘อยากเป็นอิสระ’
ยิ่งมาเกิดเหตุการณ์แบบในหนัง จึงไม่น่าแปลกใจที่ พิม จะประกาศออกมาชัดเจนถึงความรู้สึกไม่ต้องการอีกฝ่าย ซึ่งแท้จริงแล้ว ในตอนนั้นมันก็อาจเป็นแค่ คำตัดพ้อของเธอเท่านั้นไม่ได้คิดตัดอีกฝ่ายออกไปจริงจัง
แต่คำตัดพ้อนั้น กลับเป็นชนวนเริ่มต้นไปสู่จุดแตกหัก จุดแตกหักที่ทำให้สองตัวละครต้องแยกจากกัน ดูผิวเผินเหมือนจะเป็นแค่เรื่องของผู้ชาย แต่หากมองเข้าไปภายในจิตใจจะพบ ปัจจัยสำคัญจริงๆ นั่นคือ ความรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง (low self esteem & self worth) ความรู้สึกนี้เองที่เป็นบ่อเกิดเริ่มต้น ที่ทำให้ เธอเริ่มกินยาฆ่าตัวตาย ก่อนจะไปสิ้นสุดที่การทำร้ายพิม

 

แฝด สปอยหนัง

ภาพยนตร์ แฝด ได้ให้แง่คิดกับเราว่าความรักและความหลงย่อมทำลายมิตรภาพของมนุษย์ที่รักกันมากได้แม้แต่พี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ไม่เว้น ฉะนั้นเราควรรักทุกคนแบบพอดี อย่ารักมาก ควรรักแบบกลาง ๆ เผื่อใจเพื่อที่เมื่อถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตจะได้ไม่เสียใจในตัวคนที่รักจนไปไหนไม่ได้และเอาแต่ผูกเวรกรรมต่อกัน ให้คิดว่ามันเป็นธรรมดาของจิตใจมนุษย์
แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ”แฝด”…ก่อนเข้าโรงหนัง น้องคนหนึ่งบอกผมว่า ผมน่าจะชอบหนังเรื่องนี้ เพราะมีประเด็นทางจิตวิทยาที่น่าจะเข้าทางชอบ ผมเองก็คิดมาก่อนแล้วว่าผมน่าจะชอบ เพราะ หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ ผู้กำกับคู่ดูโอ บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ จาก ชัตเตอร์ 1ใน 3 หนังผีที่มาชอบมากที่สุด (อีกสองคือ ตู้ซ่อนผี และ Ringu หรือ The ring เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
หนังเริ่มต้นเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

พิม อาศัยอยู่กับคนรักที่เกาหลี ในงานวันเกิดของเธอ เพื่อนๆจัดงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิด และ แน่นอน กิจกรรมสุดฮิตในปาร์ตี้คือ การดูหมอ เพื่อนของเธออ่านไพ่ของเธอแล้วบอกเธอว่า เธอเองเป็นคนมีอะไรมักจะเก็บไว้ไม่พูดออกมา ไพ่ทำนายทายทักว่า สิ่งที่เธอสูญเสียไปกำลังจะกลับมาบางสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะกลับมาทวงถามแล้วก็ตามมาด้วยข่าวร้ายที่ว่า แม่ของเธอเส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงต้องรีบกลับเมืองไทยพร้อมกับคนรักและที่นั่น คำทำนายของไพ่ ก็กลายเป็นจริง เมื่อ คนดูและ วี – คนรักของเธอ จะได้ไปรู้จักกับอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดมาเคียงคู่กับพิม นั่นคือ พลอย คู่แฝดสยาม ที่ พิมเล่าให้ฟังว่า เสียชีวิตจากการผ่าตัดแยกร่างเป็นความผิดผม ที่ดันเคยไปอ่านเนื้อหาพล็อตใกล้เคียงประมาณนี้มาก่อนแล้ว ในนิยายสยองขวัญเกี่ยวกับแฝด(แต่ไม่สยาม) จาก หนังสือ โกธ คดีตัดข้อมือ ที่พูดถึง แฝดคนหนึ่งเข้าสวมรอยชีวิตอีกคนที่ตายไป หนังสือบรรยายให้เราเข้าใจผิดไปเป็นอีกคน ซึ่งทั้งสองคนนั้นมีบุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง
แถมตัวเองยังชอบดูหนังผี และ ชอบอ่านนิยายลึกลับเขย่าขวัญสยองขวัญกระตุกขวัญสะเทือนขวัญ …ขวัญฯลฯ

 

 

ดังนั้น ถึงแม้ว่า ก่อนไปดูแฝด ผมพยายามจะไม่อ่านกระทู้ที่เล่าถึงหนังมาก และ ตั้งใจว่าจะไม่พยายามเดาเนื้อเรื่องแล้วก็ตาม แต่เพราะ ยุคสมัยที่หนังผีเฟื่องฟู และ พล็อตหนังผีถูกสร้างมาซ้ำๆหลายต่อหลายเรื่อง คนที่ชอบอ่านหรือชอบดูหนังแนวนี้บ่อยๆก็ย่อมจะ เดาเนื้อหาได้ แม้จะไม่ตั้งใจ

จริงๆ ต้องชมความกล้า ที่ท้าทายคนดู ด้วยคำใบ้ตั้งแต่ตอนต้นๆ แต่หากผู้กำกับคิดจะใบ้ตั้งแต่ต้นเช่นนี้ หนังน่าจะมีปมประเด็นอะไรหลงเหลือไว้บ้าง เหมือนอย่าง The Prestige ที่ผู้กำกับ คริส โนแลน ก็ส่งคำใบ้ให้คนดูตลอดเวลา แต่ ถึงเราจะทายได้ ก็ใช่ว่า จะรู้ทุกอย่างของหนัง เช่นเดียวกันกับ ชัตเตอร์ หรือ ตู้ซ่อนผี ที่แม้ว่าจะเดาได้หนึ่ง แต่หนังก็ยังมีประเด็นซุกซ่อนอีกหนึ่งให้เซอร์ไพรส์ เหมือนมี 2 twist บิดหักมุมให้อึ้งและหลอนทิ้งทวนก่อนเดินออกจากโรงหนัง หรือ หนังบางเรื่องไม่ได้เน้นการหักมุมอย่าง Ringu ก็ยังมีประเด็นที่แอบไว้ให้ประหลาดใจตามรายทาง และ น่าติดตามไปสู่จุดหมายตอนท้าย ด้วยอยากรู้บทลงเอยว่าจะเป็นเช่นไร หรือ One missed call หนังผีโคตรน่ากลัวที่ใส่ประเด็นจิตวิทยาจนดูไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ดูจบ เราก็ยังมีอะไรให้ต้องมาตีความ เช่นเดียวกับ เปนชู้กับผี ก็ยังมีอะไร ให้เซอร์ไพรส์มีประเด็นให้ขบคิดมาถกกันต่อ ว่าใครเป็นหรือไม่เป็นผี…ถึงแม้ผมจะบ่นผิดหวังในพล็อตเรื่อง แต่ผมชอบ บทที่เล่นกับ “ความเป็นฝาแฝด” ให้เราได้เข้าใจว่า แฝด 037

สปอยหนัง แรงเงา 2

สปอยหนัง แรงเงา 2

สปอยหนัง แรงเงา 2

 

 

สปอยหนัง “แรงเงา 2 เป็นละครตลก” นี่คือประโยคแรกที่เราได้ยินเพื่อนพูดกันในช่วงแรกๆ ที่ละครภาคต่อฟอร์มยักษ์ของบ้านพระรามสี่ออนแอร์ เหตุไฉนกันที่ละครที่เคยยืนหนึ่งเรื่องเรตติ้งเมื่อ 7 ปีก่อน กลายมาเป็นเพียงละครตลกที่ใครๆ ก็แซวขรมทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งยังสร้างปรากฏการณ์สะเทือนช่องด้วยการรวบรัดตัดจบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยในวันนี้ (4 มิถุนายน) หลังจากฉายมาได้เพียง 10 ตอน จากทั้งหมด 14 ตอน ตัดห้วนขนาดที่ละครอีกฟากอย่าง ‘หัวใจศิลา’ ที่ฉายมาตั้งแต่ก่อน แรงเงา 2 จะมา ตอนนี้ยังเดินทางไม่ถึงตอนอวสานเลย งงไหมล่ะ?

จริงๆ ละคร ‘แรงเงา’ มีแฟนๆ ชื่นชอบอยู่มากมาย ตั้งแต่เวอร์ชันของแอน ทองประสม และเคน ธีรเดช เมื่อปี พ.ศ. 2544 ก่อนจะมาเป็นเวอร์ชันพีกสุดๆ ในปี พ.ศ. 2555 แรงเงา เป็นบทประพันธ์ของ นันทนา วีระชน ผู้เคยฝากผลงานเยี่ยมๆ อย่าง ปีกมาร, เมียแต่ง นับได้ว่าเป็นหนึ่งในละครที่นำเสนอเรื่องราวประเภทเมียน้อย-เมียหลวงที่มีบริบทของสังคม และสถาบันครอบครัวเป็นตัวเสริมกำลังความแข็งแกร่งอย่างดี ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้ชมอยากติดตามคือการแก้แค้นแทนฝาแฝดของ ‘มุนินทร์’ สาวมั่น ฉลาด และมีเสน่ห์ เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ไม่ยอมคน แข็งแกร่ง และมีเหตุมีผลในการกระทำ

แต่กลับกัน ในภาคนี้เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และไม่ใช่แค่เธอ แต่เราหมายถึงทุกตัวละครในโลกของ แรงเงา ภาคนี้ อารมณ์และการตัดสินใจของตัวละครที่พลิกไปพลิกมาประหนึ่งว่าระยะเวลา 4 ปีที่ห่างหายกันไป (ในช่วงเวลาของละคร) พวกเขาประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อระบบความจำและบุคลิกภาพก็เป็นได้ และนี่น่าจะเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ แรงเงา 2 เป็นละครที่แฟนๆ ผิดหวัง แต่หากมองเป็นละครตลกเรื่องหนึ่ง เราถือว่าพวกเขาทำได้โอเคทีเดียว เพราะมันเผลอเรียกเสียงหัวเราะเราได้เสมออย่างไม่รู้ตัว ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ แรงเงา 2

งานแต่งงานของ วีกิจ และ มุนินทร์ ก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกที เรือนหอที่กำลังจะสร้างเสร็จ แต่ทั้งสองก็ยังมีทัศนคติที่แตกต่างกันกับการใช้ชีวิตคู่ แต่ยังไงก็ตามทั้งสองก็ยังประนีประนอมในความรัก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม

อาการป่วยเป็นอัมพาตของ นพนภา เริ่มหายเป็นปกติแต่ก็ยังเดินไม่คล่องเท่าไหร่ เธอกลับมามอีอำนาจในบ้านตามเดิม นพนภาเธอโกรธมากที่ เจนภพ พาลูกสาวอย่าง ต้อม ไปเรียนต่อที่อังกฤษ แถมยังลาออกจากราชการ นพนภาเธอไม่อยากจะเชื่อเลย และเธอนั้นยังคิดว่าเจนภพหนีเธอไปเพราะเธอเป็นอัมพาต เรื่องเดียวที่นพนภานั้นไม่แย้งคือ ต่อ และ ก้อง คู่รักที่อยู่ในบ้าน เพราะก้องเป็นคนที่ฝึกกายภาพและบำบัดนพนภา อีกทั้งยังมีมุนินทร์ที่ต่างก็รักใคร่กันเป็นอย่างดี
เรื่องวุ่นๆเกิดขึ้นก่อนถึงวันแต่ง เมื่อ นางพิณ เมื่อของมุนินทร์ได้เข้ามาจัดการเรียกค่าสินสอดเพิ่มขึ้นเกินเหตุ และงานนั้นก็ต้องจัดแบบอลังการตามค่านิยม งานนี้นางพิณมีปากเสียงกับนพนภาซึ่งเป็นแม่งานแทน สร้อยคำ วีกิจและมุนินทร์พยายามที่จะไกล่เกลี่ยให้ผู้ใหญ่ทั้งสองนั้นไม่มีความบาดหมางกัน แรงเงา 2 เต็ม เรื่อง

 

สปอยหนัง แรงเงา 2

 

เมื่อถึงวันแต่งงานของทั้งสอง แขกเริ่มมากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าในงานมี รัชนก ปรากฏตัวขึ้นในฐานะแขกวีไอพี โดยมีพวกสมุนมาทั้งทีม ทั้งประพงส์ ศักดิ์ชาย และลูกน้องอาวุธครบมือ ปิดห้องงานเลี้ยงและเข้ามาอวยพรให้วีกิจและมุนินทร์ได้ครองรักกันไปจน “วันตาย”
ขณะที่ทั้งคู่ใหม่ปลามันกำลังไปฮันนีมูน มุนินทร์ได้ขับรถชนเด็กสาวคนหนึ่งอย่าง ฤทัย เป็นเหตุให้ทริปฮันนีมูนทั้งคู่ต้องล้มเลิกไป จากอุบัติเหตุทำให้ฤทัยสลบไป แต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาเธอกลับจำอะไรไม่ได้เลย มุนินทร์จำเป็นต้องรับภาระดูแลเพราะต้องรับผิดชอบ วีกิจและมุนินทร์ตัดสินใจรับอุปการะฤทัยจนกว่าจะจำความได้

การตัดสินของทั้งคู่ ทำให้คนรอบข้างต่อต้าน โดยเฉพาะนพนภาที่มองว่าฤทัยน่าจะมาไม่ดี แต่ก็ห้ามความเป็นมนุษยธรรมของวีกิจและมุนินทร์ไม่ได้ ฤทัยอากาศเริ่มดีขึ้น แต่บางครั้งเธอก็มีอาการแปลกทางจิตจนทำให้วีกิจต้องเข้าไปปลอบฤทัยให้คลายความกลัวอยู่บ่อยๆ ซึ่งฤทัยจะกอดวีกิจแน่นไม่ปล่อย และมีท่าทีเย้ายวนทางเพศสัมพันธ์กับวีกิจอยู่บ่อยครั้งเมื่ออยู่ลับหลังมุนินทร์

 

สปอยหนัง แรงเงา 2

 

สปอยหนัง แรงเงา 2

 

แรงเงา 2 นักแสดง ถ้าหากเราพูดถึงเรื่องความคาดหวังจากผู้ชม ‘แรงเงา 2’ คงได้สิ่งนั้นไปเต็มๆ เพราะละครเรื่องนี้เคยอยู่ในฐานะละครที่ฮอตฮิตติดลมบนจนคว้าเรตติ้งสูงสุดประจำปีนั้นไปครอบครอง มีการนิยามวันที่ละครออนแอร์ว่าเป็น ‘วันแรงเงาแห่งชาติ’ แถมกระแสของนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ต้องนับว่าเป็นจุดสูงสุดหนึ่งในชีวิตการทำงานของเธอ (สูสีกับบทใจเริงเหลือเกิน) แต่เมื่อภาคใหม่นี้ออนแอร์ ก็ดูเหมือน แรงเงา จะกลายเป็นเพียงเงาลางๆ ไม่มีตัวตนไปเสีย ทั้งๆ ที่ได้ทีมนักแสดงเดิมกลับมาแบบครบถ้วน ผู้กำกับคนเดิมอย่าง เติม-ชนินทร ประเสริฐประศาสน์ บทประพันธ์จากนันทนา วีระชน เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือเรื่อง ‘บท’ เพราะได้ทีมที่ชื่อว่า ‘Anonymous’ มาเขียนบท

 

การดำเนินเรื่อง แรงเงา 2

สปอยหนัง แรงเงา 2 ตัวหนังพยายามดำเนินเรื่องด้วยแก่นแห้งๆ ที่ว่าด้วย ‘การที่มุนินทร์จะถูกเอาคืนบ้าง’ หมายถึงภาคที่แล้วเธอทำเวรทำกรรมอะไรไว้ มาในภาคนี้เธอจะต้องได้รับบทเรียนคืนไป แต่กลายเป็นว่าคนที่ควรได้รับบทเรียนคืนไปคือผู้จัดละครและช่องมากกว่า ที่ปล่อยผ่านละครเรื่องนี้มาสู่สายตาประชาชนแบบงงๆ ได้อย่างไร?

 

สปอยหนัง แรงเงา 2

 

โอเค เราเข้าใจว่าภาคนี้มุนินทร์จะต้องถูกแก้แค้นเอาคืนจากตัวละครทั้ง รัชนกแอนด์เดอะแก๊งก็ดี หนูฤทัยก็ดี หรือทีมกระทรวงเก่าก็ดี แต่บทละครกลับพาให้มุนินทร์กลายไปเป็นผู้หญิงอ่อนไหว อ่อนแอ ไม่ทันคน ราวกับคนเขียนบทไม่เคยได้ดูละครภาคแรกอย่างนั้นแหละ! และการแก้แค้นที่ดูไม่สมเหตุสมผลของตัวละครอื่นๆ ก็ยิ่งพาให้เรื่องราวไม่น่าติดตาม และเมื่อมีแต่ตัวละครกระทำอะไรบางอย่างที่ดูไม่สมเหตุสมผลหรือ ‘ไม่ฉลาด’ แฟนๆ ก็พร้อมตีจากได้ง่ายๆ เลย
บทโทรทัศน์นับเป็นข้อเสียที่สุดของ แรงเงา 2 ที่ทำให้ตัวละครมีพัฒนาการแบบผิดวิสัยมากๆ ทำให้ตัวละครที่ผู้ชมเคยรู้จักเปลี่ยนไปอย่างไม่มีชั้นเชิง ซึ่งหลังจากฟังบทสัมภาษณ์นักแสดงนำจากหลายๆ รายการแล้ว ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “เรื่องราวจะค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ ผู้ชมจะได้รู้ว่าแต่ละตัวละครมีปมหรือมีพัฒนาการความแค้นนี้มาจากอะไร พวกเขาทำแบบนี้เพราะอะไร” แต่โทษที เผอิญผู้ชมอาจไม่มีเวลาดูมากขนาดนั้น หรือเป็นเพราะเรื่องราวมันไม่น่าติดตามจริงๆ เราจึงไม่อินไปกับเรื่องราวที่พวกเขากำลังเล่าเท่าไรเลย และอาจบอกได้ว่าระยะเวลาที่ แรงเงา ร้างหน้าจอไป 7 ปีก่อนจะมีภาคต่อ นับเป็นเวลาที่นานเกินไปสำหรับแฟนละคร

 

ตัวละครหนัง แรงเงา 2

สปอยหนัง แรงเงา 2 สิ่งหนึ่งที่ยังคงเข้มข้นมากๆ ในโลกของ แรงเงา คืออากัปกิริยาสอดรู้สอดเห็น ความสาระแนของตัวละครที่จะต้องรู้ทุกเรื่อง ออกความคิดเห็นกับทุกสิ่ง ก่อนจะจบด้วยการมีซีนเพื่อพูดประโยคเด็ดไว้สำหรับตัดมาทำเป็นไฮไลต์ลงยูทูบสำหรับแฟนๆ ที่ไม่อยากดูเต็มๆ เรื่อง แรงเงา 2 มอบความขุ่นเคืองให้แฟนๆ ตั้งแต่ในตอนแรกๆ ที่ปล่อยแก๊งตัวละครสเตรทที่มี ‘มาร์ก’ รับบทโดยมิค-บรมวุฒิ เป็นหัวโจก มานั่งๆ ยืนๆ พูดจาแดกดันประชดประชันจิกกัดตัวละครเอก ประหนึ่งเด็กมัธยมสาวดักรอคู่อริที่โรงอาหารตอนกลางวันหลังออดดัง ตลกสิ! ละครอาจจะอยากลองนำเสนอภาพใหม่ๆ ของสังคมไทยก็เป็นได้ ที่ให้ตัวละครจับกลุ่มนินทาคนอื่นอย่างออกรสเหมือนละครไทยเรื่องอื่นๆ แต่เปลี่ยนภาพจากเพศหญิงเป็นเพศชาย ก็ดูจะเป็นเหตุผลที่ใกล้เคียงที่สุดที่เราอยากจะเข้าใจผู้เขียนบทแล้ว

 

 

หรือจริงๆ แล้ว แรงเงา 2 ต้องการทำตัวเองเป็นละครล้อเลียน (Parody) เนื่องด้วยบริบทของตัวละครที่มีพัฒนาการแบบงงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบที่จะอ้างไม่ได้ว่ามันเป็นธรรมชาติของคน เพราะมันดูเกินจริงไปมาก รวมถึงบทละครที่ยัดใส่ปากไร้ซึ่งอารมณ์ร่วม ก็ยิ่งทำให้ผู้ชมขำได้เรื่อยๆ ซึ่งเราขอยกให้ซีนนี้เป็นที่สุดของเรื่อง ถ้าหากละครจับทางนี้มาตั้งแต่ต้นก็คงตลกดี ทั้งการที่ให้ตัวละครของ ‘มุนินทร์’ ที่รับบทโดยเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ มาพูดประโยคเดิมของตัวเธอเองในโลกความเป็นจริงที่เธอตอบสัมภาษณ์สื่อในงานหนึ่งที่ว่า “นายว่าคำถามแบบนี้มันน่าตอบมั้ย? เป็นฉัน ฉันไม่ถามนะ มารยาทนิดหนึ่งอะค่ะ” ผลลัพธ์ที่ได้คืออาการขำเอิ๊กอ๊ากในความไม่สมประดีของบท เป็นการแค่นหัวเราะถึงความประดักประเดิดที่ไม่รู้ว่าจะดราม่าให้สุด หรือจะคอเมดี้ให้สุดดีสักทางแรงเงา 2 ไปไม่ถึงฝัน แรงเงา 2 pantip

 

สปอยหนัง แรงเงา 2

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้ แรงเงา 2 ไปไม่ถึงฝั่งฝันคือการเลือกเวลาออนแอร์ต่อจากละครอย่าง ‘กรงกรรม’ ที่เรตติ้งสูงสุดของช่องไปก่อนแล้ว ซึ่งได้คำชื่นชมทั้งเรื่องบท การแสดง และโปรดักชันไปแบบเต็มคราบ ฉะนั้นฐานแฟนละครในช่วงวันจันทร์ถึงอังคารก็หนาแน่นมากพอจะส่งไม้ต่อให้ได้ แต่ต้องบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดที่รุนแรงมากจริงๆ สำหรับช่องที่เลือกการออนแอร์ในช่วงเวลานี้ ทั้งยังคาดหวังให้แฟน แรงเงา เดิมมาช่วยสนับสนุนและชมละครภาคต่อนี้ แต่กลับตาลปัตรกลายเป็นยิ่งฉายยิ่งโดนสวนกลับด้วยความคิดเห็นแง่ลบจากงานสร้างที่ไม่ประณีต

 

 

สิ่งหนึ่งที่ผู้จัดละครทุกช่องในยุคนี้ต้องจดจำกรณีนี้ไว้คือ ต่อให้คุณมั่นใจมากแค่ไหนว่าผลิตภัณฑ์ในมือของคุณแข็งแรงมากพอจะออกสู่ตลาดได้ คุณต้องคิดทบทวนให้ดีๆ เพราะปัจจุบันผู้ชมมีทางเลือกร้อยแปดไว้เลือกสิ่งที่เขาสนใจ ไม่ใช่แค่เพียงละครจากช่องใหญ่ๆ ที่สู้กันอย่างสนุกสนาน แต่เราหมายถึงซีรีส์ออนไลน์ หรือซีรีส์ต่างประเทศมากมายที่เข้าถึงง่ายมากในปัจจุบัน และเราเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ วงการโทรทัศน์เองก็ต้องปรับตัวให้มากพอที่จะหยิบยื่นงานคุณภาพให้กับผู้ชม เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองในโลกยุคนี้ที่ทุกคนพร้อมใจจะเทคุณได้ทุกเมื่อเช่นกัน

ไม่รู้ว่าบทสรุปของตัวละครจะพินาศขนาดไหน แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถนิยามการดูละครเรื่องนี้ของเราได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือเพลงประกอบละครที่เต้น-นรารักษ์ ร้องไว้ว่า

“อยากกลั้นใจให้ตายไปเลยตอนนี้ ไม่ต้องมีสักเสี้ยวนาทีให้รับรู้อะไร” แรงเงา 2 ตอนจบ

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

 

ประเภท: ระทึกขวัญ / สยองขวัญ สปอยหนัง

ผู้กำกับ: เลิศศิริ บุญมี, วุฒิชัย วงศ์นภดล

นำแสดงโดย: กรภัทร์ เกิดพันธุ์, เฌอปราง อารีย์กุล, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์

ความยาว: 113 นาที

กำหนดฉายในไทย: 21 เมษายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

slr กล้องติดตาย หนังไทยสยองขวัญแอ็คชั่น ผสมจิตวิทยาแนวใหม่ กับหลายความเชื่อ ทั้งเรื่องปีศาจ และความเชื่อของคนโบราณ ที่ว่าการถ่ายภาพคือ การดูดพลังและวิญญาณ เนื้อหาชวนติดตาม มุมภาพใหม่ โทนเร้าอารมณ์ ภาพยนตร์สยองขวัญแอ็คชั่น จิตวิทยา ผสานแนว coming of ageแนวใหม่ กับความเชื่อโบราณที่ว่า การถ่ายภาพ คือ การถูกดูดวิญญาณ

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

slr มาจากคำว่า single lense reflex หรือ กล้องฟิล์ม นั่นแหละ หนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ผี แต่เป็น ปีศาจ ไม่เหมือนกับ shutter

ความเชื่อเรื่อง การถ่ายภาพ = การถูกดูดพลังหรือวิญญาณ ที่มาจากความเชื่อของคุณยายของ ผู้กำกับ มาร์ค-เลิศศิริ บุญมี ว่าคนสมัยก่อนไม่ชอบถ่ายรูปเพราะเชื่อว่าจะถูกดูดพลังไป แต่มาร์คมองว่ามันก็สอดคล้องวิทยาศาสตร์ตรงที่ กล้องคือกล่องเก็บภาพ ภาพคือแสง แสงคือพลัง กล้องเก็บแสงคือเก็บพลังส่วนหนึ่งของเรา ไปไว้ในฟิล์มนั่นเอง ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ slr กล้องติดตาย

แดน (นนน-กรภัทร์) นักศึกษาหนุ่มที่กำลังมุ่งมั่นทำธีสิสจบ ด้วยการถ่ายภาพ แต่ถ่ายยังไงก็ไม่โดนใจอาจารย์เอ็ม อาจารย์เจ้าของธีสิส ทำให้เขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ไปตามฝันที่นิวยอร์ก พร้อมกับ เพื่อนและคนรัก อย่าง น้ำ และ เกรซ (เฌอปราง) (นนท์-ศดานนท์) จนกระทั่ง อาจารย์เอ็ม ได้มอบกล้อง slr ตัวหนึ่งมาให้แดน แนะให้ใช้กล้องตัวนี้ ทำธีสิส ให้ได้ โดยโจทย์คือ ถ่ายภาพบุคคลมาให้ได้ 7 คน ภายใน 14 วัน แต่ใครจะรู้ว่า… หลังจากถ่ายภาพไป คนที่ถูกแดนถ่าย กลับทยอย เสียชีวิตไปทีละคน จนกลายเป็นพวกเขา เข้าไปพัวพันกับความเชื่อในลัทธิปีศาจ ที่มีความตายเป็นเดิมพัน!

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

มาต่อคิวกันด้วยอีกหนึ่งหนังไทย ที่เดี๋ยวนี้เสิร์ฟต่อเนื่องกันทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ล่าสุดติดเทรนด์ฮอตตั้งแต่วันแรกกับ #ชวนดูslrฉายวันแรก ที่เป็นการปรับโหมดมาสู่ความสะพรึงกลัวในหนังที่ดูเบื้องต้นแล้ว อาจจะรู้สึกซ้ำซากจำเจ กับ “slr กล้อง ติด ตาย” แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่า อย่าเพิ่งตัดสินหนังจากเพียงแค่ตัวอย่างและใบปิดหนังเลย เพราะจะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้ที่ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไปสุด ๆ ปนเปอารมณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็พอที่จะเป็นหนังผีไทยที่แตกต่างและพอจะพาไปไหนมาไหนด้วยได้อยู่

 

ผลงานหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของ 2 ผู้กำกับหนุ่มรุ่นใหม่ “เลิศศิริ บุญมี” กับ “วุฒิชัย วงศ์นภดล” ที่พวกเขาแทบจะยังไม่มีชื่ออยู่ในวงการหนังไทยหรอก แต่ก็นับว่าเป็นการประเดิมเดบิวต์ผลงานเรื่องนี้ได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะส่วนหนึ่งเป็นการปลุกปั้นผลักดันของผู้กำกับมือฉมัง “โขม ก้องเกียรติ” ที่มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและที่ปรึกษาให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย เมื่อได้ครูที่ดี ผลงานออกมาจึงออกมาได้ในระดับที่พอถูไถไปได้

slr กล้อง ติด ตาย ที่ถ้าใครได้เห็นทีเซอร์ แน่นอนว่าจะต้องพาให้นึกไปถึงหนังไทยในตำนานอย่าง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ อะไรประมาณนั้นใช่ไหม? แต่บอกไว้เลยว่า…หนังเรื่องนี้แตกต่างจากทิศทางนั้นอย่างสิ้นเชิง เดินกันคนละทาง และมีคอนเซ็ปต์คนละแบบ เพียงแค่ใช้วิชาการถ่ายรูปเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนกันเพียงเท่านั้น โดยหนังเรื่องนี้มีแก่นเรื่องและจุดประสงค์ที่ค่อนข้างแข็งแรงและชัดเจนดี

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

ถึงแม้ว่าบทหนังจะยังคงค่อนสะเปะสะปะ ติดอยู่กับปัญหาจุดเดิม ๆ ของหนังไทยที่ยังแก้ไม่หาย บทหนังที่มีแก่นเรื่องหนักแน่นดี แต่ยังไม่กลมกล่อม และใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ยังไม่มีกิมมิกลูกเล่นอะไรที่ดึงดูดความสนใจได้มากเท่าไหร่ เพราะดันไปติดกลิ่นอายความเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำของฝั่งฮอลลิวูดมาปนเปเอาไว้รายทาง จึงพลอยทำให้หนังเกือบ 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ มีจังหวะที่ดีปะปนไปกับจังหวะที่ยังไม่ดี

บอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่อะไรที่คาดเดาได้ยากเลย ทุกอย่างปูทางและเปิดทางเอาไว้ให้คนดูกระจ่างตั้งแต่ตอนปูเรื่อง พอจะคาดถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ยากเย็นหนัก แต่การหยิบเอาประเด็นความเชื่อที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน แหวกแนวไปจากหนังผีไทยเดิม ๆ ตรงจุดนี้ต้องชื่นชมในกล้าหาญของหนังเรื่องนี้ เพราะนี่อาจจะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างไกลตัวคนไทย และอาจจะทำให้คนดูไม่รู้สึกคล้อยตามไปด้วยซ้ำ แต่ถือว่าผู้สร้างมีจุดยืนในเจตนานี้ด้วยดี และได้ปรุงแต่งรสชาติออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่กับวงการหนังไทย แต่ยังธรรมดา ๆ ไปเหมือนเทียบกับแวดวงหนังสากล slr กล้องติด รีวิว

 

นักแสดงจุดอ่อนของเรื่อง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย กลุ่มนักแสดงที่ตอนแรกดูจะเป็นจุดอ่อนของเรื่องที่สุด กลับกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของเรื่อง เคมีอาจยังดูไม่เข้ากันในที และอาจต้องใช้เวลาจูนกันอีกนิด แต่บทบาทส่วนตัวของแต่ละคนทำออกมาได้ดีและเกินคาดมาก โดยเฉพาะ นนน ที่ระเบิดฟอร์มอย่างเด่นชัด กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงน่าจับตาไปโดยปริยาย

 

 

ในขณะที่มายเมนเฌอปรางมีพัฒนาการจากตอน homestay ได้อย่างน่าดูชม เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังทั้งเรื่อง แต่ชอบเป็นพิเศษคงเป็นช่วงแรกของเรื่องที่แสดงความเป็นคาแรคเตอร์ของสาวขี้เล่นขี้หยอดได้น่ารักมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยได้เห็นเลยเวลาเธออยู่ในวง รู้สึกตกหลุมรักขึ้นมาอีกรอบเลย SLR กล้อง ติด นักแสดง

แม้ว่า slr จะโปะหน้าว่าเป็นหนังสยองขวัญ และมีจัมป์สแกร์เป็นบางช่วง แต่ส่วนตัวรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้เอาตายขนาดนั้น จริตของมันไปทางหนังสยองตะวันตกมากกว่า มีการพูดถึงความเชื่อ การบูชาซาตาน

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้รู้สึกประทับใจใน slr หนังผี ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบงานสร้างและดีไซน์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนัง โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ทั้งฉากที่รู้สึกพิถีพิถันและแปลกตาจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ดี การออกแบบมุมกล้องและแสงสีที่ใช้หนังเรื่องนี้ ผสมด้วยความเป็นหนังลึกลับอินดี้แบบฝรั่งหน่อย ๆ เข้าไป เป็นจุดเล็กน้อยที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าจังหวะในการเล่าเรื่องของหนังจะค่อนข้างโดดไปมา และพลอยทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องอยู่เนือง ๆ บ่อยก็ตาม

อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิธีการเล่าเรื่องในหนัง slr กล้องติดตาย ยังไม่ใช่สิ่งที่โปรดปรานโดยส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก หนังยังมีจุดขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ความพยายามที่จะกระตุกขวัญผู้ชมด้วยมุกเดิม ๆ อาจจะเป็นการสร้างความน่ารำคาญ หรือความสุดโต่งในการถ่ายทอดเรื่องราว ที่ยอมรับว่าเกือบจะไปได้สุด แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนังยังเก้กังติดอยู่กลางทางอยู่บ้าง เป็นองค์ประกอบที่น่าเสียดาย ที่ตรงจุดนี้หนังยังไม่สามารถซื้อใจไปได้

 

 

ขณะที่นักแสดงของ slr กล้องติดตาย ก็ถือว่าใช้งานนักแสดงเจนใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพทุกคน ไม่ว่าจะ “นนท กรภัทร์”, “เฌอปราง bnk48” หรือ “นนท์ ศดานนท์” พวกเขาทุ่มเทถ่ายทำบทบาทของตัวเองในหนังเรื่องนี้ได้เต็มที่ และหนังก็สามารถเกลี่ยบทให้กับทุกตัวละครนำได้ค่อนข้างดีใช้ได้ เพียงแต่มิติของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ เหล่านั้นยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากแค่หนุ่มสาว 3 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวบนความเชื่อของพวกเขา ทั้งที่น่าจะสามารถเค้นออกมาได้มากกว่านี้ แต่ก็เหมือนว่าการแสดงยังอยู่ในจุดเซฟโซนไปสักหน่อย

ว่ากันว่า ปี 2565 วงการหนังไทยจะรุกตลาดกับกระแสจักรวาลหนังมอนสเตอร์ไทย ๆ ชุดใหญ่ แต่คงต้องบอกว่า slr กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะถูกยังอยู่ในจักรวาลนั้นไปด้วยเรื่องหนึ่งแล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่เป็นหนังผี แต่ยังใส่ความสัตว์ประหลาดเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างแยบยล ถึงได้บอกว่าเป็นความทะเยอทะยานที่ไม่ค่อยจะเคยเห็นในวงการหนังไทยมาก่อน มันเป็นการพัฒนาที่ดี เพียงแต่ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกกว่านี้ แต่ก็นับว่าหนังไทยเรื่องนี้พยายามมาได้ค่อนข้างถูกทางในระดับหนึ่งแล้ว SLR กล้อง ติด เต็มเรื่อง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง ภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 3 The Holy Man III เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นน้อย วงพรู ที่มารับบทเป็น น้อย ในอดีตเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์ แต่เมื่อเขาเริ่มอยากพยายามจะหลีกหนีความวุ่นวาย และความจริงที่เขากำลังจะต้องเผชิญ เขาจึงเลือกทางที่หวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ

การบวชเป็นพระ ซึ่งเมื่อเป็นพระแล้วเขาก็ยังเป็นพระที่ขวางโลกและรักความยุติธรรมเช่นเดิม คนต่อมาคืออุ๋ย บูดาเบลส มารับบทเป็น พระประเสริฐ คนต่อมาคือโยกเยก เชิญยิ้ม มารับบทเป็น พระโยกเยก คนต่อมาคือโน้ต เชิญยิ้ม มารับบทเป็น ตาส่ง มัคนายกประจำวัด และคนต่อมาคือเอ็ม บูดาเบลสและแจ็ค แฟนฉัน ที่มารับบทเป็น เด็กวัดตัวแสบ ที่มักจะคอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่ประจำๆ โดยภาพยนตร์เรื่อง หลวง พี่ เท่ ง 3 Netflix 

 

เรื่องย่อ หลวงพี่เท่ง 3

เปิดเรื่องราวมาที่ น้อย ชายหนุ่มที่ในอดีตนั้นเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์มาก่อน แต่ด้วยความที่ในใจเขานั้นอยากจะพบความสงบและพยายามจะหลีกหนีจากโลกรวมไปถึงเรื่องราวความจริงสุดเลวร้ายที่เขานั้นยังไม่พร้อมจะรับมือและหนทางที่เขาเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ การเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง จากที่ในอดีตเคยเป็นนักร้องหนุ่ม ปัจจุบันเป็นพระ

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

โดยถึงแม้จะเป็น พระน้อย แล้วเขาก็ยังคงความเป็นตัวเองเอาไว้ เขายังคงขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจาขวานผ่าซากและเป็นคนตรงๆเหมือนไม้บรรทัดอยู่ โดยอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาได้ตัดสินใจมาบวชก็คือเขาเบื่อสังคม เบื่อความแตกแยก แต่ดูเหมือนอะไรๆก็ไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง เพราะขนาดในวัดที่เค้าบวชก็ยังมี เหล่าพระ และเด็กวัดตัวแสบที่มักจะคอยมาสร้างความวุ่นวายใจให้เขาและวัดอยู่เสมอ แล้วเรื่องราวของพระน้อยจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาจะสามารถ ปรับตัวให้เขากับชีวิตใหม่ได้ไหม ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

การทำภาพยนต์ หลวงพี่เท่ง 3 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง การทำภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันสำคัญๆ นั้น ผู้กำกับหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจะทำ อาจจะเป็นเพราะว่าเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ และเมื่อทำออกมาแล้วก็เสี่ยงกับการถูกเซ็นเซอร์จากทาง ก.บ.ว. ตัดในส่วนที่ทางผู้กำกับตั้งใจนำเสนอออกไป เหตุผลเพราะว่า ไม่สมควรที่จะอ้างหรือกล่าวถึงในสถาบันนั้นๆ สถาบันครอบครัวอาจจะไม่เท่าไหร่

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

แต่ถ้าเลื่อนขึ้นไปเป็นสถาบัน “ศาสนา” ด้วยแล้ว อัตราการเสี่ยงที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม “โน้ต เชิญยิ้ม” ผู้กำกับดาวตลกมือทองของไทยเรา ก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ และทันทีที่ได้ทราบข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง “หลวงพี่เท่ง 3” ผ่านกองเซ็นเซอร์ ก็ถึงกับน้ำตาไหล ที่รอดพ้นกรรไกรจากกองเซ็นเซอร์อย่างหวุดหวิด ก็อย่างที่บอก ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพระเกี่ยวกับศาสนาทำง่ายซะที่ไหน!!

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

หลวงพี่ เท่ ง 2 ปัญหาจากกองเซ็นเซอร์ที่ผ่านไปก็คงเหมือนการยกภูเขาออกจากอก เพราะก่อนหน้านั้นปัญหาในการหาตัวนักแสดงที่จะมาเล่นเป็น “หลวงพี่เท่ง” ในภาคนี้ก็สาหัสสากรรจ์ไม่แพ้กัน เพราะติดปัญหาบางประการที่จะเอาพระเองตลกอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” มาเล่นได้ ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นแล้วในภาคที่สอง ในภาคนั้นแก้ปัญหาโดยการให้ “โจอี้บอย” มาเล่นแทน ส่วนภาคนี้แก้ปัญหาโดยให้ “น้อย” วงพรู มาเล่น

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

 

หลวงพี่เท่ง 3 เป็นเรื่องราวของ “น้อย” (น้อย วงพรู) นักร้องหนุ่มมาดเซอร์ ที่พยายามจะหลีกหนีจากโลกที่วุ่นวาย และความจริงที่ตนเองได้รับ โดยหนทางที่เค้าเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้น คือการบวช แต่ “พระน้อย” ยังคงเป็นตัวของตัวเอง เป็นพระที่ขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจากำปั้นทุบดิน เป็นคนตรงเหมือนไม่บรรทัด ที่มาบวชเพราะเบื่อสังคม เบื่อคนไทยไม่รักกัน เบื่อความแตกแยกแต่เส้นทางในชีวิตเส้นนี้ไม่เป็นไปดังหวัง เพราะในวัดที่บวช ยังมี “พระประเสริฐ” (อุ๋ย บูดาเบลส), “พระโยกเยก” (โยกเยก เชิญยิ้ม), “ตาส่ง” (โน๊ต เชิญยิ้ม) มัคทายกประจำวัด และเด็กวัดตัวแสบอีก 2 คน

 

หลวงพี่เท่ง 3 สปอยหนัง

ที่คอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นพระน้อยยังต้องพบกับเหตุการณ์อลหม่านป่วนจิตจนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับพวกแก๊งขโมยเศียรพระอีกต่างหาก งานนี้พระน้อยจะสงบเหมือนดังที่หวังไว้หรือไม่ต้องเข้าไปติดตามเองครับ ก่อนอื่นผมขอปรบมือดังๆให้กับ คุณโน้ต เชิญยิ้ม ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สามารถนำเรื่องของศาสนามาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ถึง 3 ภาคแล้วและโดยเฉพาะภาคนี้ แม้ว่ามุขตลกในเนื้อเรื่องทั้งหมดยังคงเท่าๆเดิมหรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยแต่สิ่งที่เห็นชัดๆเลยคือเรื่องการสอดแทรกในเรื่องของ “ธรรมะ” ที่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้มากขึ้นกว่าสองภาคที่ผ่านมาและคำสอนต่างๆก็กลมกลืนไปกับบทหนัง

ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดในหลักคำสอนต่างๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าจากประสมการณ์สองเรื่องที่ผ่านมา ทำให้คุณโน้ตเห็นจุดบกพร่องต่างๆ และนำมาแก้ไขปรับปรุงจนเกือบจะเข้าที่ได้ในภาคนี้ การโน้มนาวให้คนดูเชื่อในคำสอนของศาสนาหรืออย่างน้อยก็ผ่านหูผู้ดูให้คิดตามได้ คุณโน้ตก็ทำได้อย่างแนบเนียน เนื้อเรื่องที่ไหลไปตามเหตุการณ์ต่างๆ เกือบดีแล้ว ถ้าไม่มีฉากที่ต้องการแสดงมุข อย่างฉากนักมวยซึ่งไม่มีก็ได้เข้าใจว่าต้องการเล่นมุขมากกว่าในฉากนี้ หรือในฉากที่เด็กวัดตัวแสบสองคนนอนแช่อยู่ในน้ำแล้วคุยกัน ไม่ต้องมีก็ได้ ถึงไม่มีก็ไม่ทำให้หนังเสียแต่ก็เขาใจว่าต้องการเล่นมุขก็ไม่ว่ากัน มีอยู่ฉากเดียวที่ผมคิดว่าเป็นฉากที่แย่มากๆ หลวงพี่เท่ง 3 037

 

 

ก็คือฉากที่มีหมอทำขวัญนาคทั้งสามคน ออกมาแหล่ขวัญนาคโดยพูดถึงพ่อแม่ของนาคในทางที่ไม่ดี ผมว่าทางผู้สร้างต้องการเล่นมุขตลก แต่มุกนี้ไม่ตลกเลยมุกนี้เล่นเอาพ่อแม่มาว่าในงานมงคลของลูกถึงแม้ว่าเรื่องที่หมอทำขวัญนากกล่าวออกมาจะเป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่สมควรเอามาพูดในงานบวชเช่นนี้ฉากนี้ไม่ตลกเลยแถมแย่มากอีกต่างหาก ส่วนเรื่องธรรมมะที่แทรกเข้ามาตั้งแต่ต้นเรื่องและแทรกมาเรื่อยๆ จนถึงจบเรื่องก็ยังมีคำสอนอยู่ อันนี้ดีครับอันนี้เห็นด้วยมากๆ เลย ในเรื่องของการแสดง ผมว่าคุณน้อย แสดงเหมือนพระโรคจิตจัง แต่แค่เหมือนเฉยๆนะเพราะในเรื่องก็ไม่ได้บอกว่า คุณน้อยเป็นโรคจิต เพียงแต่ว่าเป็นคนที่ขวางโลก และอาจจะพูดตรงไปสักหน่อย เวลาพูดมักใส่อารมณ์ ดูแล้วทำให้นึกถึงคาแร็คเตอร์ในตอนที่คุณน้อยเล่นเรื่อง “13 เกมสยอง” เลยเหมือนจริงๆในบทของพระประเสรินั้น จะเรียกเสียงฮาเสียมากกว่า แต่ผมว่าคุณอุ๋ยเล่นดีนะครับเหมือนเป็นพระจริงๆ ส่วนพระเด๋อ หรือ หลวงตาเชื่อมนั้น ยังไม่สำรวมเท่าไหร่

 

เรื่องราวของหนัง หลวงพี่เท่ง 3

หลวงพี่เท่ง 3 สปอย สำหรับหลวงพี่เท่ง 3 นี้ มี “น้อย วงพรู” มารับบท “พระน้อย” หนังเปิดเรื่องด้วยคาเฟ่แห่งหนึ่งที่มีคนหน้าเหมือนทีมชิงร้อยฯ หม่ำ เท่ง โหน่ง ตุ๊กกี้ และ อุ๋ย บุดดาเบลส ที่แต่งหญิง กำลังเล่นตลก เรียกเสียงฮาให้กับบรรดาเสี่ยๆ ที่มาใช้บริการ มุกแรกนี้มีฮาบ้าง แต่ทว่าดูเหมือนว่าพอเห็นว่าตลกก็ปล่อยนาน จนกลายจากฮา มาเป็นความจืด และมาปิดฉากที่ “น้อย โพธิ์งาม” ที่รับบทแม่ของ “เซิร์ช” มานั่งพร้อมกับเครื่องบายศรี เพื่อต้องการให้ลูกชายบวชเรียน และอุ๋ยบอกแม่ว่า จะบวชให้..และเมื่อถึงเวลาบวช มุกก็ถูกปล่อยมาอีกครั้งอย่างที่เห็นในหนังตัวอย่าง ที่อุ๋ยต้องถูกลงแป้งจนขาวโพลน ก็ไม่แน่ใจว่านี่ถือเป็นการล้อเล่นกับศาสนาหรือเปล่า?

กระทั่งถึงคราวแห่นาค ก็นำ “ซูซี่ ตีสิบ” มานำขบวนโห่ ซึ่งซูซี่มีบทบาทแค่นี้จริงๆ น้อยกว่า “ยายแหวว ตีสิบ” ที่ยังพอมีบทบาทคู่กับจตุรงค์ ม๊กจ๊กกับการโต้คารมกันทุกเช้าเวลาใส่บาตรให้กับหลวงตาเชื่อม ซึ่งถ้าจะดูกันจริงๆ แล้ว ทั้งซูซี่ ทั้งยายแหวว ความจริง ไม่จำเป็นเลยสำหรับในหนัง แต่น่าจะเพราะมาจากรายการตีสิบทั้งคู่ จึงเหมือนนำมาเพื่อปั่นกระแสกะให้ดังเหมือนโปงลางฯ

 

 

และระหว่างที่ เสริฐ บวชนี่เองที่ “น้อย วงพรู” มาเห็นจึงอยากบวชบ้าง กลายเป็นว่า ครั้งนี้มีพระบวชใหม่ 2 รูป คือ พระประเสริฐ หรือเจ้าตัวเรียกร้องให้เรียก พระ Search (เซิร์ช) และ พระน้อย

การทำภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันสำคัญๆ นั้น ผู้กำกับหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจะทำ อาจจะเป็นเพราะว่าเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ และเมื่อทำออกมาแล้วก็เสี่ยงกับการถูกเซ็นเซอร์จากทาง ก.บ.ว. ตัดในส่วนที่ทางผู้กำกับตั้งใจนำเสนอออกไป เหตุผลเพราะว่า ไม่สมควรที่จะอ้างหรือกล่าวถึงในสถาบันนั้นๆ สถาบันครอบครัวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเลื่อนขึ้นไปเป็นสถาบัน “ศาสนา” ด้วยแล้ว อัตราการเสี่ยงที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม “โน้ต เชิญยิ้ม” ผู้กำกับดาวตลกมือทองของไทยเรา ก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ และทันทีที่ได้ทราบข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 1