Tag Archives: หนังเก่าไทยน่าดู

เพื่อน.. ที่ระลึก การทวงคืนคำสัญญาที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต

เพื่อน.. ที่ระลึก ภาพปก

รีวิว เพื่อน.. ที่ระลึก การทวงคืนคำสัญญาที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต

หนังไทยมาใหม่ วันนี้อยากพูดถึง ค่ายหนังไทยอารมณ์ดีขวัญใจมหาชน อย่าง GDH มักปล่อยหนังแนว Horror มาให้ผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจอยู่บ่อยครั้งและครั้งนี้ก็ไม่พลาดเลยที่จะเรียก จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ผู้กำกับร้อยล้านจาก ลัดดาแลนด์ และเป็นมือเขียนบทที่มีความสำเร็จในหนังหลายเรื่อง เช่น ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ แฝด สี่แพร่ง ห้าแพร่ง ฯลฯ การมาทำงานในโปรเจกต์ใหม่ในเรื่อง เพื่อน.. ที่ระลึก

คราวนี้ จิม โสภณ ได้เลือกใช้ตึกร้าง ตึกสาธรยูนีค ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 มาเป็นฉากถ่ายในภาพยนตร์สยองขวัญใต้ชื่อ เพื่อน.. ที่ระลึก The Promise นี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่น่าสนใจจากจิม โสภณ ในการนำเรื่องราวที่น่าสยองขวัญมาย้อนกลับให้กลายเป็นผลงานภาพยนตร์ขวัญใจผู้ชม และเพื่อนๆสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง doonungvip.com สุดยอดเว็บดูหนังฟรี คุณภาพระดับวีไอพี ตามไปชมกันได้เลยค่ะ

ตัวละครกอดกัน

ข้อมูลทั่วไป

จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ มีความตั้งใจเพียงแค่ทำงานในแนวหนังผีเท่านั้นในบทบาทของผู้กำกับ และเขาได้สร้างหนังผีเฉลี่ยทุก ๆ 3 ปี ตั้งแต่ “วิญญาณอาฆาต” เมื่อปี 2551 ไปจนถึง “ลัดดาแลนด์” เมื่อปี 2554 และ “ฝากไว้ในกายเธอ” เมื่อปี 2557 แต่ก็มาถึง “เพื่อน..ที่ระลึก” ที่เป็นผลงานกำกับเรื่องที่ 4 ของเขาในแนวนี้

เพื่อน.. ที่ระลึก นักแสดงหญิง

จิมโซภณยังคงรับผิดชอบในการเขียนบทเองเหมือนเคย แนวคิด ก็มาจากพี่เก้ง จิระ มะลิกุล ที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับตึก “สาทรยูนิคทาวเวอร์” ที่มีชื่อว่า “Bangkok Ghost Tower” และจิมก็ได้คิดว่าน่าจะสร้างหนังเรื่องผีตึกร้างอย่างนี้และก็มีวันหนึ่ง วรรณฤดี ผู้อำนวยการสร้างก็ซื้อลิขสิทธิ์ไอเดียนี้ ซึ่งเรื่องราวในหนังจะเล่าถึงเพื่อนสองคนที่นัดกันไปฆ่าตัวตายร่วมกัน แต่คนหนึ่งกลับกลัวและไม่กล้าทำตาม จิมจึงนำไอเดียทั้งสองมาผนวกกันและสร้างเป็นบทภาพยนตร์ “เพื่อน..ที่ระลึก” ในที่สุด

นักแสดง

น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ แสดงเป็น ปาริมา (บุ๋ม)

ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ แสดงเป็น ด.ญ.ปาริมา (บุ๋ม) (ตอนสาว)

อภิชญา ทองคำ แสดงเป็น เบล

ปาณิสรา ริกุลสุรกาน แสดงเป็น อิ๊บ

เบญจามิน โจเซฟ วาร์นี แสดงเป็น อ๊อฟ

นางเอก

ธีรภพ ทรงวาจา แสดงเป็น หม่อน

เดือนเต็ม สาลิตุล แสดงเป็น วาณี (แม่อิ๊บและอ๊อฟ)

เสาวนีย์ อุทุมมา แสดงเป็น ป้าชุ (แม่บ้าน)

ชาลีดา กีลเบิร์ต แสดงเป็น แต้ว (เพื่อนเบลล์)

สุชาดา พูนพัฒนสุข แสดงเป็น กระจ่าง (แม่บุ๋ม)

สุรชัย นิงสานนท์ แสดงเป็น สมัย (พ่อบุ๋ม)

เรื่องย่อ

ในปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เรียกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมทางการเงินครั้งสำคัญที่ทำให้ นักธุรกิจร้อยล้านกลายเป็นบุคคลล้มละลายในชั่วข้ามคืน เช่นเดียวกับครอบครัวของอิ๊บและบุ๋ม ซึ่งต้องพบกับความพินาศเมื่อตึกคอนโดหรูที่พ่อของพวกเธอลงทุนร่วมกันถูกระงับการก่อสร้าง ทำให้กลายเป็นคนที่มีหนี้สินหนักมาก บ้านที่เคยอยู่มาทั้งชีวิตก็ถูกยึดสมบัติและขายไปในราคาถูก อิ๊บและบุ๋มจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายพร้อมกันบน ตึก ที่เคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่คนที่ตายกลับเป็นแค่อิ๊บเพียงคนเดียว

เพื่อน.. ที่ระลึก บี น้ำทิพย์

ผ่านไป 20 ปี บุ๋ม (บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) เติบโตและกลายเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และได้กลับไปที่ตึกนั้นอีกครั้ง พร้อมกับ เบล (ลิลลี่ อภิชญา ทองคำ) ลูกสาวที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ คืนนั้นหลังกลับจากตึกก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับเบล เมื่อบุ๋มตื่นขึ้นมาพบเบลนั่งคุยกับใครบางคน แม้จะอยู่ในความมืด บุ๋มก็รู้ว่าที่นั่งฝั่งตรงข้ามของเบลว่างเปล่า ไม่มีใครเลย…

แล้วทุกคืนหลังจากนั้นก็กลายเป็นฝันร้ายของบุ๋ม เมื่อทุกครั้งที่หลับตานอน เบลจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการละเมอที่หนักขึ้นเรื่อยๆ และที่ร้ายแรงที่สุดคือ เบลจะละเมอพูดหรือทำในสิ่งที่ทำให้บุ๋มระลึกถึง อิ๊บ เพื่อนเก่าที่เธอทิ้งให้รออยู่ที่ตึกอย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน นี่อาจเป็นการกลับมาทวงคำสัญญาสุดท้ายที่อิ๊บเคยขอไว้ก่อนจากโลกนี้ไป…กับคำพูดที่ว่า”สัญญานะ ว่าแกจะไม่ปล่อยให้ฉันตายคนเดียว”

ความรู้สึกหลังชม เพื่อน.. ที่ระลึก

เนื้อเรื่อง เป็นหนังที่น่าสนใจมากด้วยพลอตที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับผีอาฆาตที่ทวงสัญญาที่จะฆ่าตัวตายไปด้วยกัน โดยภาษาอังกฤษของหนังชื่อว่า “The Promise” ชื่อนี้เป็นเครื่องมือที่ดีในการเพิ่มความน่าสนใจในเรื่องและเป็นการเชื่อมโยงกับเนื้อหาผีของหนังอย่างดี การใช้ตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ในการถ่ายทำก็เพิ่มความสยองและความลึกลับให้กับเรื่อง โดยที่มีรายงานเหตุการณ์ที่มีผู้ตายในตึกเหล่านี้ในอดีต ที่เคยมีช่างภาพพบศพฝรั่งผูกคอตาย ที่เป็นเรื่องจริงที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ผีและสร้างความสนใจในวงกว้างได้

เนื้อหาของเรื่องในปี 2540 ที่เกี่ยวกับ อิ๊บ และ บุ๋ม 2 เพื่อนรักที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าในวิกฤตต้มยำกุ้งเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นมาก ความเปลี่ยนแปลงของชีวิตของพวกเขาจากความสุขสบายมาสู่ความท้าทายและความทุกข์ยากเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง ฉากที่พวกเขาเลือกที่จะคิดถึงการปลิดชีวิตกันที่ชั้น 47 ของตึกเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทีมงานได้เน้นสร้างความรู้สึกที่สื่อสารออกมาอย่างแรงกล้าให้กับฉากนี้

เรื่องราวในปี 2540 เป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมหวนกลับไปคิดถึงบรรยากาศในยุคนั้นและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งความทรงจำที่ดีและความทรงจำที่ลำบาก เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่ชัดเจนและน่าสนใจในประวัติศาสตร์ของตัวละครและสังคมในยุคนั้น ทั้งนี้ ทีมงานได้ตีพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตเศรษฐกิจในปีนั้นอย่างละเอียดและน่าสนใจ รวมถึงการอธิบายถึงช่วงเวลาเคยวนเวียนกับเพจเจอร์ ตู้สติกเกอร์ และสเก็ตซ์น้ำแข็งที่ทำให้ผู้ชมมีความทรงจำที่ดีและเป็นบทเรียนในวิกฤตต้มยำกุ้งที่เคยเกิดขึ้นในยุคนั้น โดยได้เน้นที่ความรู้สึกและความทรงจำให้กับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเรื่องที่น่าสนใจในทุกมุมมองของมัน

ฉากน่ากลัว

หนังยาวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เดินเรื่องได้เร็ว พอตัดเข้าเรื่องราวในปีปัจจุบัน ก็ใช้เวลาไม่นานกับการกลับมาของ “อิ๊บ” ที่จัดเต็มตอบสนองคอหนังผีได้อย่างอิ่มเอม เพราะผีอิ๊บถือว่าแค้นและดุมาก ยิ่งเพิ่มโจทย์เรื่องกรอบเวลา ที่ผีอิ๊บจะต้องเอาชีวิตของเบลไปให้ได้ก่อนที่เบลจะอายุครบ 15 ปี ในอีก 6 วันข้างหน้า เพราะอิ๊บและบุ๋มก็อายุ 15 ในวันที่ทั้งคู่นัดกันฆ่าตัวตาย

เราก็เลยได้ดูการรังควานของผีอิ๊บที่ตามแม่ลูกมาถึงที่พัก ก็เปิดโอกาสให้ใส่ฉากลุ้นผีได้ถี่ ๆ มีทั้งหลอกให้ลุ้นเก้อ และลุ้นแล้วก็เจอตุ้งแช่แรง ๆ หนังเขียนมาให้แม่ลูกอยู่กันแค่ 2 คนในคอนโดหรู สถานะผู้หญิง 2 คนโดนผีหลอกกลางดึก จัดได้ว่าเป็นเหยื่อที่น่าสงสารในหนังผี แต่ขณะเดียวกันจุดนี้ก็กลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ในบทหนังที่ไกลความเป็นจริง ชวนให้ตั้งคำถามว่าทำไมไม่หาใครมาอยู่ด้วยในสภาวะเช่นนี้

เรื่องยาวเกือบ 2 ชั่วโมงแต่เดินเนื้อเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ที่ตัดเข้าเรื่องในปีปัจจุบันและมีผีอิ๊บที่ต้องกลับมาเพื่อตอบสนองความอยากรู้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจและมีความลุ้นแบบตื่นเต้น การเพิ่มโจทย์ในเรื่องเกี่ยวกับกรอบเวลาที่ผีอิ๊บจะต้องเอาชีวิตของเบลไปให้ได้ก่อนที่เบลจะอายุครบ 15 ปี ในอีก 6 วันข้างหน้า เพราะอิ๊บและบุ๋มก็อายุ 15 ในวันที่ทั้งคู่นัดกันฆ่าตัวตาย เราก็เลยได้ดูการรังควานของผีอิ๊บที่ตามแม่ลูกมาถึงที่พัก ก็เปิดโอกาสให้ใส่ฉากลุ้นผีได้ถี่ ๆ เพิ่มความตื่นเต้นและเร้าใจให้กับเนื้อเรื่อง มันเป็นการสร้างการดันให้กับเรื่อง เพราะผู้ชมต้องติดตามว่าเบลจะสามารถหลบหนีจากผีอิ๊บได้หรือไม่ 

เรื่องไม่มีใครอื่นอยู่ในคอนโดหรูและให้แม่ลูกสองคนเป็นเหยื่อยังไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลที่ไม่มีใครมาอยู่ด้วยในสภาวะเช่นนี้ อาจทำให้ผู้ชมมีคำถามเกี่ยวกับสภาวะและตัวละครเพิ่มเติม เช่นทำไมไม่มีผู้ใหญ่ในบริเวณนี้ หรือทำไมไม่มีการช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ ที่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ของแม่ลูก อย่างไรก็ดี นี่อาจเป็นสิ่งที่ผู้กำกับและเขียนบทของหนังควรคิดถึงเพื่อให้บทหนังที่มีความน่าสนใจมีความสมเหตุสมผลและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต

สิ่งที่น่าสนใจ เพื่อน.. ที่ระลึก

นักแสดงนำอย่างเมนเทอร์บีและลิลลี่ ลูกทีมของเธอเองจาก The Face Thailand Season 2 นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมมีความสนใจและคาดหวังเกี่ยวกับการแสดงของพวกเขา อีกทั้งการใช้ทั้งฉากภายนอกและภายในตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ในการสร้างความสยองที่อยู่ในระดับสูง

รวมถึงการนำเสนอมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของตึกนี้ รวมถึงภาพโดรนจากภายนอกตึกและกล้องบินวนรอบ สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมเรื่องและความสวยงามของที่สถานที่ถ่ายทำให้มีความน่าสนใจ ดังนั้น จึงเป็นหนังที่มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องราวและการใช้สถานที่ในการสร้างความลึกลับและความสยองให้กับผู้ชม เป็นหนังที่คนชื่นชอบหนังผีควรดูแน่นอนและน่าตื่นเต้นมากในทุกมุมมองของมัน

เพื่อน.. ที่ระลึก ตึกร้าง

จริงๆ แสดงการใช้ทัศนียภาพของตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์อย่างยอดเยี่ยมเพื่อสร้างความน่ากลัวและความลึกลับในเรื่อง การใช้ภาพโดรนจากภายนอกตึกและกล้องบินวนรอบทำให้ผู้ชมได้เห็นมุมมองที่แปลกในตึกที่คนกรุงเทพฯคุ้นเคยมากันมายาวนาน โดยการถ่ายทำจากมุมสูงช่วยเพิ่มความลึกและความน่าสนใจให้กับฉากต่างๆ ในเรื่อง การใช้ทั้งความสวยงามและความน่ากลัวของตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ในการสร้างฉากที่มืดมิดและน้ำแฉะในภายในตึกเหล่านี้ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสความสยองที่เหมาะสมกับเนื้อหาของเรื่อง ความน่ากลัวและความลึกลับที่เกี่ยวกับตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ก็ถูกนำเข้าสื่อในภาพยนตร์อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การใช้ตัวตึกเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว โดยมีการนำเสนอทั้ง 2 ช่วงเวลาที่ห่างกัน 20 ปีในเรื่อง เป็นจุดประสงค์ที่น่าสนใจและทำให้เรื่องมีความลึกลับและความสวยงามอย่างมาก เปรียบเสมือนตัวตึกนี้เป็นตัวละครสำคัญที่มีบทบาทในเรื่องเองทั้งหมดนี้ทำให้ เป็นหนังที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นทั้งในเรื่องราวและการสร้างสรรค์ฉากและบรรยากาศที่เกี่ยวข้อง และคงไม่ผิดหวังสำหรับผู้ชื่นชอบหนังผีและความลึกลับของตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์

การใช้จินตนาการของผู้ชมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความน่าสยอง  เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้แตกต่างจากหนังผีแบบทั่วไป โดยเน้นการใช้สื่อทางอารมณ์เพื่อสร้างความลึกลับและความสยองให้กับผู้ชม โดยไม่จำเป็นต้องมีภาพของผีที่น่ากลัวอยู่ตลอดเรื่อง

การใช้เสียง แสง และฉากที่ดูเรียบง่ายในการสร้างบรรยากาศของหนังเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมต้องพยายามจินตนาการและสร้างสรรค์สถานการณ์ในจินตนาการของตนเอง และการแสดงของลิลลี่ที่สื่ออารมณ์ความความสยองอย่างน่านับถือเพิ่มความคิดถึงบรรยากาศของเรื่องไปอีก

อีกจุดที่น่าสนใจคือการใช้การสื่อสารระหว่างเบลและผีอิ๊บ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องมีความหลอนมากขึ้น การเล่นบทที่เบลต้องพูดกับผีอิ๊บและการแสดงอารมณ์ของเบลในสถานการณ์ที่เหมือนโดนผีเข้าเป็นบทที่ท้าทายและลึกลับสำหรับนักแสดง ลิลลี่ได้รับบทนี้อย่างดีและนำเสนออย่างน่าติดตาม

สรุปภาพรวม เพื่อน.. ที่ระลึก

เรื่องราวเปลี่ยนแปลงจากเรื่องที่สร้างความระทึกตกใจและลุ้นระทึกไปสู่เรื่องที่เน้นความหวังและความรัก อาจทำให้บางคนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าคาดหวังว่าเรื่องจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของเหตุการณ์ฆ่าตัวตายในปี 2540 ที่มีการนำเอาตึกร้างมาใช้เป็นจุดเด่น แต่เรื่องนี้เน้นไปทางดราม่าความรักและความเสียสละของแม่ต่อลูกเป็นหลัก

การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาอาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางคนที่คาดหวังเรื่องราวที่ดูน่าสนใจมากขึ้นในส่วนของเหตุการณ์ฆ่าตัวตายในปี 2540 แต่อาจมีผู้ชมคนอื่นที่รักความรักและความหวังที่นำเสนอในเรื่องนี้ โดยการเน้นให้แม่เป็นตัวละครที่หันมาปกป้องลูกของเธอในเวลาที่ผีเข้า มาเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เรื่องมีความอบอุ่นและเน้นความรักในครอบครัว

เพื่อน.. ที่ระลึก นางเอกผี

การแสดงของนักแสดงในหนังนี้ได้รับความชมจากคุณเป็นอย่างดี แม้จะเป็นครั้งแรกที่เป็นนักแสดงหลักและเรื่องแรกของพวกเธอ การแสดงของ บี น้ำทิพย์ และลิลลี่ได้รับคำชมในเรื่องของการแสดงอารมณ์และความมุ่งมั่นในบทบาทของพวกเธอ การแสดงที่เรียบง่ายและน่าสนใจของพวกเขาได้สร้างความสัมพันธ์และความอบอุ่นในเรื่องราว ได้อย่างน่าประทับใจ

อ่านกันจบแล้ว อยากเปลี่ยนแนว เปลี่ยนอารมณ์กันบ้าง ทีมงานของเราขอแนะนำ รีวิวละครเรื่อง หมอหลวง สุดยอดหนังรักย้อนยุคที่ผสมผสานการแพทย์แผนไทยเข้าไปในเรื่อง ถือว่าน่าสนใจและต้องชม ห้ามพลาดเลยนะคะ

ไบค์แมน2 หนังไทยเรื่องใหม่ ความสนุกและตลกที่ยังคงรักษามาตรฐานของภาคแรก

ไบค์แมน2 ภาพปก

รีวิว ไบค์แมน2 ความสนุกและตลกที่ยังคงรักษามาตรฐานของภาคแรก

ไบค์แมน2 หนังไทยมาใหม่ แนวคอมเมดี้ที่มีการคิดและทำแบบเร็วมากๆและยังทำได้จริงแบบที่คิดไว้อีกด้วย หลังจากไบค์แมนภาคแรก ทำรายได้จากการฉายในประเทศไทยมากกว่า 100 ล้านบาท แบบที่ยังไม่รวมการขายสิทธิ์ในหลายประเทศอื่นทำให้ “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นหนังคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปีนั้น โดยเป็นหนังจากค่าย รฤก โปรดั๊กชั่น ของ ยอร์ช ฤกษ์ชัย

และทางค่ายก็ไม่รีรอให้เสียจังหวะ ได้ทำการออกคำสั่งให้สร้างหนังไบค์แมน2 ในปีต่อมาและมอบหน้าที่ให้บริหารจัดการโดย พฤกษ์ อมะรุจิ ผู้กำกับที่มาจากภาคแรกเพื่อสร้างความสำเร็จต่อไป สำหรับเรื่องราวในไบค์แมน2 จะสนุกแค่ไหน จะประสบความสำเร็จได้แบบภาคแรกหรือไม่ ติดตามต่อในรีวิวของทางเราได้เลย และเพื่อนๆสามารถ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้ทาง doonungvip.com สุดยอดเว็บหนังดูฟรี คุณภาพระดับวีไอพี ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ

พระเอกนางเอก

ข้อมูลทั่วไป

ไบค์แมน 2 ในปี 2562 สานต่อ เรื่องราวหลังจากตอนจบของภาคแรกไม่นานนัก เมื่อศักดา (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) พ่อแท้ๆของจ๋าย (ฝน ศนันธฉัตร) กำลังสงสัยว่าลูกสาวกำลังจะมีแฟน ทำให้ฉากเปิดเรื่องของหนังภาคนี้ถูกเล่าด้วยอารมณ์ตลกขบขันว่า จ๋ายให้ศักรินทร์ขี่รถมอเตอไซค์หนีพ่อของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีนตลกโปกฮาขายขำ แต่เมื่อมองลึกไปกว่านั้น นี่ถือเป็นซีนที่จัดได้ว่า จ๋ายกำลังทำให้พ่อของตัวเองและคนที่ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุด้วยความไม่มีสติของคนหนุ่มสาว

ไบค์แมน2 เต๋า สมชาย

เส้นเรื่องในหนังภาคนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ศักดาต้องการจะทำความรู้จักครอบครัวของศักรินทร์ ด้วยการเชิญพวกเขามาที่บ้านต่างจังหวัด แต่แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นความวุ่นวายเมื่อเหล่าแก๊งตูดหมึก ทั้ง ปรีชา(ค่อม ชวนชื่น ) หลง (โรเบิร์ต สายควัน) รวมไปถึงสุรีย์(เจนนิเฟอร์ คิ้ม) แม่ของศักรินทร์ ต้องไปเผชิญหน้ากับศักดา จนกลายเป็นที่มาของความปั่นป่วน

นักแสดงนำ

พีช พชร จิราธิวัฒน์ รับบทเป็น ศักรินทร์

ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล รับบทเป็น จ๋าย

สมชาย เข็มกลัด รับบทเป็น พ่อของจ๋าย

ค่อม ชวนชื่น รับบทเป็น ลุงปรีชา ลุงของศักรินทร์

โรเบิร์ต สายควัน รับบทเป็น องอาจ เพื่อนของศักรินทร์

เจนนิเฟอร์ คิ้ม รับบทเป็น สุรีย์ แม่ของศักรินทร์

โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน รับบทเป็น เอ แฟนเก่าของจ๋าย

น้าค่อม

– พี่เอ แฟนเก่าของจ๋าย ซึ่งรับบทโดย โอ๊ต ปราโมทย์ จะต้องพูด และร้องเพลงโดยแลบลิ้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลพวกมาจากอุบัติเหตุในภาคที่แล้ว นับว่าเป็นจุดที่ท้าทายความสามารถมาก และเรียกเสียงฮาให้กับคนดูได้

– ในภาคนี้ มุกใส่ชุดมาหลอกพ่อ/แม่ ของแก๊งเพื่อนศักรินทร์ ยังมีมาให้คนดูได้ตลกอีกเหมือนเคย โดยในปีนี้จะมาในธีมอะไร ติดตามได้ใน Bikeman 2 ครับ

– คุณยายของศักรินทร์ ถึงแม้จะไม่มีบทที่ต้องออกจากบ้านเลย แต่ยังเรียกเสียงฮาให้ได้เสมอ

เรื่องย่อ ไบค์แมน2

ในเรื่อง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ตอนจบทิ้งไว้ให้ผู้ชมรับรู้ความรักที่กำลังก่อกวนจิตใจของศักดิ์และจ๋าย ซึ่งทั้งสองคนดูเหมือนกำลังก้าวสู่การเป็นคู่รักที่ดี ภายหลังจากที่ผ่านมาอยู่ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนตลอดเรื่อง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อศักดิ์พูดโกหกที่บ้านว่าเป็นนักธนาคาร ในขณะที่เขาทำงานเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และยังหลอกจ๋ายให้เป็นเพื่อนสาวของเขาตั้งแต่เด็กๆด้วย ภาคนี้เนื้อหาของหนังยังคงต่อเนื่อง โดยยังคงโฟกัสที่ภารกิจที่ต้องพิชิตใจของจ๋าย

ในปี 2562 เรื่องไบค์แมน 2 สานต่อเรื่องราวหลังจากภาคแรกไม่นาน เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อศักรินทร์ (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) พ่อของจ๋าย (ฝน ศนันธฉัตร) กลัวว่าลูกสาวอาจมีแฟน จึงมีฉากเปิดที่ตลกโปกฮาว่า จ๋ายสั่งศักรินทร์ขับรถมอเตอร์ไซค์หนีพ่ออย่างจงใจ แม้ว่าฉากนี้จะเป็นตลกขบขัน แต่เมื่อพิจารณาอย่างลึกลงไป จะพบว่าฉากนี้สร้างความตื่นเต้นและกึกก้องให้กับพ่อของจ๋ายและผู้ใช้ถนนในประเทศไทยหนึ่งราวกับต้องเผชิญกับอุบัติเหตุจากความไม่มีสติของนักขับหนุ่มสาวนี้

ไบค์แมน2 โรเบิร์ต สายควัน

เรื่องในภาคนี้คือเรื่องของการที่ศักดาต้องการให้ครอบครัวของเธอและเพื่อนๆไปเยี่ยมบ้านต่างจังหวัด เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว ทุกอย่างก็กลายเป็นความวุ่นวายเมื่อเหล่าแก๊งตูดหมึก คือ ปรีชา (ค่อม ชวนชื่น), หลง (โรเบิร์ต สายควัน) และ สุรีย์ (เจนนิเฟอร์ คิ้ม) แม่ของศักรินทร์ ต้องเผชิญหน้ากับศักดา ทำให้เกิดความปั่นป่วน

ความรู้สึกหลังดู ไบค์แมน2

ในขณะที่หนังทำการบ้านมาดี รู้ว่าคนดูชอบอะไร และไม่ชอบอะไรจากภาคแรก ทีมเขียนบทก็เลือกเน้นในสิ่งที่คนดูชอบ และเลือก “ตัด” ในสิ่งที่คนดูไม่ชอบ ในภาคนี้เราก็เลยเห็น ศักดิ์เอ่ย”คำคม”เพียงแค่ครั้งเดียว 

ผู้ที่รับภาระหนักในภาคนี้ก็ยังคงเป็น “น้าค่อม” เช่นเคย การใส่บท “ศักดา” เข้ามาในฐานะคู่ปรับ ก็เหมือนกับเปิดช่องทางให้น้าค่อมตบมุกได้อีกมาก ด้วยภาพลักษณ์นักเลงของเต๋า สมชาย จึงทำให้เต๋ามักได้บทแนวโหดดุอยู่เสมอ แต่ทุกครั้งที่เต๋าเอ่ยเสียงขึ้นมาเมื่อไหร่ พลังความเข้มมันตกฮวบเสียทุกที ถ้าเต๋าผ่าตัดกล่องเสียงตั้งแต่ยังหนุ่ม น่าจะรุ่งกว่านี้นะ เสียงเต๋าดูอ่อนนุ่มขัดกับภาพลักษณ์อย่างมาก แต่ด้วยภาพลักษณ์หนวดเครารุงรังก็ดูเหมาะกับบทเจ้าพ่อเหมืองแร่ ขอชื่นชม

ในขณะที่หนังเดินหน้าไปด้วยเส้นเรื่องหลัก ว่าด้วยการสร้างสัมพันธ์ของ 2 ครอบครัว เส้นเรื่องรองก็คือเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างศักดากับเจ้าพ่อที่ต้องการซื้อเหมืองแร่ของศักดาในราคาต่ำ ก่อให้เกิดความอลหม่านยุ่งเหยิงในฉากท้ายเรื่อง ดูแล้วชวนให้นึกถึงสูตรสำเร็จแบบที่ แฟรนไชส์ “บุญชูสระอูยาว” ชอบใช้ในทุกภาค สร้างสถานการณ์ให้ตัวละครมารวมกัน เขียนบทให้หยอดมุกฮาเรี่ยรายทางไปเรื่อย แล้วจบด้วยความวุ่นวายยุ่งเหยิง แล้ววกเข้าแฮปปี้เอนดิ้งในตอนจบ 

ไบค์แมน2 ก็มาด้วยสูตรนี้แบบเป๊ะ ๆ แต่ด้วยเหตุที่ว่านี่คือหนังชื่อ “ไบค์แมน” พระเอกของเรื่องคือหนุ่มผู้รักความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ฉะนั้นก็ต้องมีฉากให้ศักดิ์ได้โชว์ความสามารถในการขี่มอเตอร์ไซค์ ก็ถือว่าทีมงานหาทางใส่ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ให้ศักดิ์เข้าไปในเรื่องราวได้อย่างลงตัว แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าแม้จะเป็นสูตรสำเร็จ แต่ฉากจบด้วยบรรยากาศกุ๊กกิ๊กของ ศักดิ์และจ๋ายก็ทำให้ดูแล้วอดยิ้มตามเสียไม่ได้ ฝน ศนันธฉัตร ยังทำหน้าที่สีสันความสดใสเพียงหนึ่งเดียวของเรื่องได้อย่างดี อยากฮาก็ได้ฮาอยู่นะ แต่ก็ไปได้ไม่เท่าภาคแรก

หนังเรื่องนี้ถอดมาจากส่วนที่สำคัญของภาคแรกโดยหยิบเอาสูตรสำเร็จจากภาคแรกมาใช้โดยเนื้อหาที่สำคัญคือการโกหกในเรื่องราวนี้ ในภาคนี้ ก๊วนแก๊งต้องโกหกว่า จ๋ายกับศักดิ์เป็นแฟนกันจริง ซึ่งพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกแก๊งซึ่งต้องช่วยกันตั้งเรื่องมาหลอกศักดาคุณพ่อของจ๋าย ศักดิ์เองก็เล่นตามน้ำไปกับก๊วน ถึงแม้ว่าในใจของเขาอยากเป็นแฟนกันจริงๆ

แต่ก็ไม่ต้องการที่จะโกหกอย่างนี้ หนังก็จึงใช้สูตรการโกหกแบบภาคแรกมาใช้ในภาคนี้อีกครั้ง เมื่อตัวละครหลักมารวมกันอยู่หมด การจะเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ทำได้ง่ายขึ้น หนังก็เลยมีฉากเรียงเสียงฮาได้ถี่ ๆ แต่พลังความฮายังด้อยกว่าภาคแรกนัก การเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ง่ายขึ้นและฉากฮาที่บ่งบอกถึงความสนุกของเรื่องก็มีมากขึ้น โดยภาคนี้มีฉากเรียงฮาอยู่ตลอด 1 ชั่วโมง 47 นาที งานนักแสดงในการเรียกเสียงฮาได้ดี แต่ความฮายังไม่มากเท่าที่ภาคแรกมี ฉากที่น่าจะเป็นฉากเด็ดที่สุดในภาคนี้คงเป็น “ฉากงูเห่า” นั่นเอง

ฉากตลก

จุดเด่น - จุดด้อย

จุดเด่นของ ไบค์แมน 2

ไบค์แมน 2 คือความสนุกและตลกที่ยังคงรักษามาตรฐานของภาคแรก ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกขัดเมื่อดูต่อจาก “ศักรินทร์ ตูดหมึก” ซึ่งเป็นภาคที่ 1 แม้ว่าเนื้อเรื่องของภาค 2 จะต่างออกไป มีการขี่มอเตอร์ไซค์น้อยลง แต่ภาคนี้เน้นที่แอ็คชั่นมากขึ้น มีฉากการขับหนีการตามล่าหรือขับฝ่าระเบิดเป็นอีกส่วนหนึ่งของหนัง

อย่างไรก็ตามความขลังของเรื่องยังคงอยู่ที่ความตลกที่มีการเน้นมากขึ้น เรียกได้ว่ามีเสียงฮากั๊กจนเกือบตลอดเรื่อง นักแสดงทุกคนทำได้ดีและเข้าถึงอารมณ์ของเรื่อง ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดเนื้อเรื่อง การเน้นความรักระหว่างพ่อกับลูกอาจทำให้ผู้ชมคิดถึงพ่อแม่หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ

ไบค์แมน2 ชายเล่นกีต้าร์

จุดด้อยของ Bikeman 2

ความด้อยของหนังในด้านบทละครที่ไม่ซับซ้อนและสามารถคาดเดาได้ง่าย อาจทำให้บางคนไม่ตื่นเต้นกับเนื้อเรื่องมากนักแต่เพื่อความตลกและการเน้นเรื่องครอบครัวของเรื่อง โดยใช้เป้าหมายหลักเพื่อทำให้ผู้ชมเกิดความสนุกสนานและเรียกให้หัวเราะ ผู้เขียนขอให้ทุกคนมองข้ามข้อด้อยที่สามารถคาดเดาในเรื่องนี้ไป

สรุปภาพรวม ไบค์แมน2

“ไบค์แมน 2” เป็นหนังที่ดีมาก ที่มาพร้อมความสนุกและความฮาที่สามารถทำให้คุณยิ้มได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะติดตามเนื้อเรื่องตั้งแต่ภาคแรกหรือไม่ก็ตาม นักแสดงทุกคนแสดงบทบาทของตัวละครได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะคุณปราโมทย์ที่มอบการแสดงที่น่าติดตามในฉากที่ร้องเพลง “ง้อจ๋ายที่สถานนี้รถไฟ” ฉากนี้เป็นที่ชื่นชมมากเพราะเขาแสดงความรักที่ลึกซึ้งและสนุกสนานของตัวละครอย่างสมบูรณ์

ไบค์แมน2 ขี่มอเตอร์ไซด์

เพราะพี่เขาร้องเพลงพี่ปั๊บ รักแท้ดูแลไม่ได้ เพราะมากจริง ๆ ขนาดว่าต้องแลบลิ้นร้องยังเพราะเลย และเป็นหนังที่จบได้สวยงามมาก ๆ เพราะลุ้นมาตลอดว่าให้จ๋ายยอมรับศักรินทร์เป็นแฟน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักที่จริงใจและแสดงความฮาอย่างเก่งหลายมุมมุ่ง นอกจากนี้ การสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกและเต็มไปด้วยความฮาทำให้ผู้ชมติดตามเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้นจนจบด้วยความสนุกแน่นอน หากคุณยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ขอแนะนำให้คุณลองหามาดู เพราะมันคือหนังที่น่าสนใจและยิ้มได้ตลอดเวลา

สุดท้ายนี้ทีมงานของเราขอฝากรีวิวหนังไทยอีกเรื่อง เสือเผ่น 1 สุดยอดหนังไทยแนวตลกมาใหม่ มาแรง นำแสดงโดย แจ๊ส ชวนชื่น แค่ชื่อก็ขำแล้ว

แค้น ละครไทยแนวโรแมนติกดราม่าสุดเข้มข้น ออกอากาศที่ช่อง 3HD

แค้น ภาพปก

รีวิวละคร แค้น ละครไทยแนวโรแมนติกดราม่า ออกอากาศที่ช่อง 3HD

และในวันนี้ รีวิวหนังไทยมาใหม่ ของเราจะมารีวิวละคร แค้น ละครเรื่อง ใหม่ของช่อง 3 ที่มีการแสดงของนักแสดงนำที่มีฝีมือและมีความสามารถมากมายได้ช่วยเสริมสร้างให้ละครเรื่องนี้กระแสแรงและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยหละค่ะ โดยบทบาทของแต้ว ณฐพร , นาย ณภัทร , แอฟ ทักษอร และ พุฒ พุฒิชัย ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นตัวละครที่มีความหลากหลายและมีเค้าโครงฉุดไม่อยู่

นอกจากนี้เรื่องราวของละครไทยในเรื่องนี้ได้บรรจุอารมณ์และความสร้างสรรค์เข้ามาได้อย่างสมบูรณ์และทันสมัย ทำให้ผู้ชมนั่งซูดปากกันเลยเมื่อรับชมละครนี้ ความสนุกและความสะใจในละครเรื่องนี้ เราก็เลยอยากจะเอามารีวิว ให้ทุกคนได้ดูกันว่าทำไม ละครไทยเรื่องนี้ถึงได้รับความนิยม อย่างล้นหลามมากที่สุด ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วเราไประเบิดความมันไปพร้อม ๆ กันเลย 

เพื่อนๆคนไหน อยากชมหนังหรือละครไทยออนไลน์ ทีมงานเราขอแนะนำเว็บ doonungvip.com เว็บดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง เรามีหนังฮิต หนังใหม่ บริการให้คุณแบบวีไอพี เชิญกดเข้าไปดูกันก่อนค่ะ

ซึ่งละครเรื่องนี้ก็ได้ผู้กำกับมือรางวัล ฉีกกฎละครผู้หญิง ‘แค้น’ ฟาดไม่ยั้งก็คือ โดยผู้จัด แอน ทองประสม ดึง ฟิวส์-กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล อดีตนักแสดงมา มานั่งแท่นกำกับละครเลือดผู้หญิงครั้งแรก! โดย หนุ่มฟิวส์ ได้เปิดใจว่า

“ตอนนี้ จากสิ่งที่ผมเจอในวันนั้น พี่แอนให้โอกาสเรา อ่านบท และเริ่มถ่ายทำ ผมต้องยอมรับว่า แค้น เป็นเรื่องราวที่เป็นเรื่องของผู้หญิงมากกกก มันเลยทำให้เราไม่สามารถใส่ความเป็นผู้ชายของเราลงไปได้เยอะมากเท่าไร พี่แอนก็ต้องการพลังความเป็นชายด้วย เรื่องนี้ก็แหกกฎของเราหลายครั้ง เราเปิดโลกใหม่แห่งการทำงาน ซึ่งผมเองก็ตื่นเต้นทุกวัน คือตอนงานเสร็จ จริงจังแค่ไหน แต่พอทำเสร็จแล้วเราก็กลับมาดูได้ เราก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนดูถึงดูแล้วชอบ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อย แต่ก็สนุก

นางเอก

รีวิวละคร แค้น เรื่องย่อ

แค้น เรื่องย่อ เหมือนแพร (แต้ว ณฐพร) เป็นหญิงสาวที่เคยอ่อนต่อโลกและเคยพ่ายแพ้เพราะความรักที่มีต่ออรรณพ (พุฒ พุฒิชัย) สามีของปรางทอง (แอฟ ทักษอร) น้าสาวของเหมือนแพร โดยเหมือนแพรได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจจนเกือบต้องตายเพราะความรู้สึกผิดและผิดหวังที่ถูกหลอกโดยอรรณพ

แต่เหมือนแพรกลับมาอีกครั้งและคาดหวังที่จะแก้แค้นและทำให้เป็นเจ้าของสิ่งที่เคยเป็นของตัวเองได้อีกครั้ง แต่อาจพ่ายแพ้ปรางทองเหมือนเดิม ในสงครามครั้งนี้ยังมีบทบาทสำคัญของพิธาน (นาย ณภัทร) น้องชายของอรรณพที่คอยช่วยเหลือเหมือนแพรอย่างลับๆ และเก่งกาจ (แซม พฤฒิชัย) ลูกชายของปรางทองและอรรณพที่ถูกเหมือนแพรใช้เพื่อหลอกลวง ผลสรุปของเรื่องราวความแค้นครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามต่อไปในละคร “แค้น”

แค้น แอฟ

นำแสดงโดย แต้ว ณฐพร, แอฟ ทักสร, นายณภัทร, พุฒิชัย ผู้สร้างละครแม่ “แอน ทองประสม” ทางช่อง 3 ทุกคืนวันพุธถึงคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรดตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2566

เรื่องราวความมันของการแก้แค้นเนื้อหาน่าสนใจแค่ไหนไปดู !!

เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของแม่ 4 คนในละครเรื่องเดียว เริ่มด้วย ผู้จัดมือทอง “แอน ทองประสม” ที่รับหน้าที่ผลิตละครที่สร้างจากนวนิยายที่ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2530 เช่น “สาวพรหมจารีดำ” ฉันรู้ว่าช่องซื้อเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีใครรับเลย นิยายเรื่องนี้ต้องผ่านการขัดเกลามาบ้างจนมาอยู่ในมือของแอน ทองประสม เพราะการดูละครจะฮอตเป็นพิเศษเมื่อต้องสร้างในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป แค่ปัดฝุ่นนิยายเก่าๆ ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพออยู่ดี

ดูเหมือนว่างานนี้จะกลายเป็นละครที่สร้างจากเนื้อเรื่องของสาวพรหมจารีผิวดำ ด้วยฝีมือการเขียนบท “ณัฐฐิญา ศิรากรวิไล” แทนที่จะถูกเรียกว่าปัดฝุ่นเพราะเนื้อหาในนั้นทำให้ร้องทุกข์หนักขึ้น ก็สมควรนำเนื้อหาเก่าๆ มาเป็นละครไซโคดราม่ามากกว่า (ไซโคดรามา) แต่ตัวละครยังคงเหมือนเดิม จุดประสงค์ของการเพิ่มคือเพื่อทำให้ตัวละครชัดเจนยิ่งขึ้น

นอนร้องไห้

การให้ปรางค์ทอง (แอฟ ทักษร) มีบทบาทชัดเจนในนิยายเรื่องนี้ร้อนแรงและลึกซึ้งยิ่งกว่าหลายรู และการปล่อยให้คนอย่างแพร (แต้ว ณัฐพล) ไม่พอใจมากกว่าโดนคู่หมั้นป้าแย่งไป ซักทั้งภายในและภายนอกซึ่งเรียกว่าการซักใหม่ จนกลายเป็นละครแก้แค้นสไตล์ไทยสมัยใหม่ ผลงานของผู้จัดอันดับ 1 คือผู้เขียนบทคนแรก นางเอกคนที่สอง อันดับ 1 เป็นการร่วมงานกันของราชินีทั้งสี่และได้รับความสนใจจากผู้ชมตั้งแต่สองตอนแรก ออกอากาศ ดึงดูดความสนใจของผู้คน

รีวิวละคร แค้น กระแสของละครไทย

ส่วนตัวผู้เขียนเห็นละครเรื่องนี้ถูกวิจารณ์โดยประชาชนในโลกออนไลน์ ฉากที่คล้ายคลึงกับบุคคลในชื่อ “เเพร” หรือ “ณฐพร” และ “แซม พฤฒิชัย” ที่คล้ายว่ากล้าหาญลูกชาย “ปรางทอง” ที่น่ารักมากที่เวทเนส ถูกออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ในที่สุดฉากนี้ดูไม่เหมาะสม

ข้อความนี้เป็นคำตอบสนองความคิดเห็นหรือคำถามเกี่ยวกับเรื่องซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุมากกว่า 30 ปีและผู้ชายที่อายุ 16-17 ปี ฉากที่อ้างถึงในข้อความมีความลึกลับในเรื่องเพศ ภาพลามกเต็มไปได้ และผู้เขียนเสนอข้อกำกับว่าผู้ชายในฉากนั้นอาจมีอารมณ์สำหรับหญิงนั่นเอง ทั้งนี้ประเด็นนี้อาจสื่อถึงความโกรธหรือความสะอิดสะเอียนของผู้เขียนเกี่ยวกับตัวละครหรือบริบทในเรื่องเพียงคำถามยังไม่เป็นที่ชัดเจนอีกว่าผู้ดูจะสนใจกระบวนการผลิตหรือผลลัพธ์ของผลงานเรื่องนี้

แค้น ตัวละครหลัก

จากนั้นก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ เข้ามาวิจารณ์แสดงความคิดเห็นว่า “จริงค่ะ เห็นด้วยมากๆ ดูแล้วอึดอัด, อึดอัดจริงๆ ค่ะ บทพยายามยัดเยียดให้ฟิน แต่เอาอะไรมาฟิน ตอนเหมือนแพรอายุ 18 เก่งกาจเพิ่งเกิดไม่กี่ปี ละตอนนี้แพร 30 กว่าๆ แล้ว ดันมาแก้แค้นด้วยการอ่อยเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะ คิดอะไรอยู่ ละนางเอกพูดเองด้วยนะคะว่า “ไม่หลอกใคร เพราะรู้ว่าการถูกหลอกมันเจ็บแค่ไหน” งงบทมากค่ะ แค้นตอนที่6 บทเรื่องนี้มันประหลาดมาก คสพ.ตัวละครใดๆ ละอันนี้คือมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วยเปล่า กะพุฒิคือก็เป็นน้าเขย มันแบบ” เป็นต้น 

หลังจากนั้นมีผู้ใช้ Twitter อื่นๆ เข้ามาให้ความเห็นและวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกกล่าวถึง พวกเขาเห็นด้วยว่าสถานการณ์ดูอึดอัดและไม่คุ้นเคย, และแสดงความเห็นว่าเนื้อหาพยายามทำให้ผู้อ่านรู้สึกฟิน แต่ไม่เข้าใจว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับบทเรื่อง แพรอายุ 18 ปีและตอนนี้เธออายุ 30 แล้ว พวกเขากล่าวถึงความแปลกประหลาดของบทเรื่องและสันนิษฐานถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร พวกเขาสงสัยว่าคำว่า “กะพุฒิ” อาจหมายถึง “น้าเขย” คนหนึ่ง

ละครไทยสนุกๆมีนักแสดงนำเป็นใครบ้างนะ

เหมือนแพร รับบทโดย แต้ว ณฐพร – เด็กสาวผู้พ่ายแพ้และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเพราะเธออ่อนแอต่อโลกและเธอเลือกที่จะกลับมาและเอาทุกอย่างกลับคืนมา และแก้แค้นชายผู้ที่พรากทุกอย่างไปจากชีวิตของเธอ

ปรางทอง รับบทโดย แอฟ ทักษอร – นักธุรกิจสาวสวยเบื้องหน้าน่ารักและทำงานได้ดี แต่ลับหลังเลือดเย็น และเป็นผู้บงการทุกอย่างเพราะความแค้นที่ฝังอยู่ในใจ

พระเอก

พิธาน รับบทโดย นาย ณภัทร – น้องชายของอรรณพ ที่ถูกพี่ชายส่งตัวไปดูแลเหมือนแพรอย่างลับๆ เป็นคนตรงไปตรงมา และพยายามที่จะหยุดความแค้นด้วยความรัก

อรรณพ รับบทโดย พุฒ พุฒิชัย- สามีของปรางทองอายุสั้นเริ่มขุ่นเคืองทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจจึงแก้ไขความผิดโดยไม่ให้ปรางทองรู้จึงส่งน้องชายมาดูแลเหมือนแพร

ดราม่าสุดมันส์รวมนักแสดงตัวพ่อและตัวแม่แห่งวงการ

นี่เป็นเรื่องราวย้อนหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมสับสนเลย และสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างไม่ต้องสงสัยแม้จะมีข้อสงสัยเล็กน้อยว่ายังคงถูกเรียกว่า แต่ต้องรอให้การแสดงค่อยๆ แสดงครบทุกด้านได้ไม่อึดอัด แสง และสีที่ออกมาชัดเจนนำเสนอบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างละครไทยและเกาหลี นี่เกือบจะกลายเป็นลายเซ็นต์ของละครจินหยิงไปแล้ว

และตัดสินจากบทที่เขียนใหม่เกือบทั้งหมด การรักษาตัวละครไว้เพียงบางส่วนจะช่วยเพิ่มปมและความโหยหาในหัวใจ แก้แค้นให้สมเหตุสมผลมากขึ้น ทำให้เราตั้งตารองานเขียนของณัฐติยา ศิรากรวิไลที่รอคอยมานานน่าจะน่าประทับใจ สมการรอคอยคนดูยิ้ม เราจะต้องรอตอนที่เหลือที่จะออกอากาศให้เห็นสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าของอาการปวดตับ

แค้น ฉากรัก

แต่ถ้าพูดถึงแค่สองตอนแรกที่ออนแอร์แล้วต้องบอกว่าการปรับใหม่ทำให้ความแค้นของตัวละครหลักทั้งสองมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น เป็นมนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการอภัยโทษอีกต่อไป เพราะการบาดเจ็บสามารถทำลายชีวิตได้ ถึงแม้จะต้องโตมากับคำดูถูกก็สามารถทำให้มนุษย์ทำสิ่งที่ไม่คาดคิดได้จริงๆ แม้กระทั่งตอนจบของตัวละครตัวนี้ ฉันยังนึกไม่ออกว่าจะทำข้อตกลงได้อย่างไร

เหมือนแพรจะแก้แค้นตามแบบในนิยายไหม? เราก็ต้องติดตามกันต่อไป ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ช่อง 3 กด 33 รับชมได้แล้ววันนี้บน 3Plus และ VIU

รีวิวละคร แค้น บทสรุป

ความแค้นยังไม่จบ…เกมต้องดำเนินต่อไป เหมือนแพรบงการจิตใจด้วยความรัก จนเขาเริ่มกบฏและกบฏต่อปรางค์ทองแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนและปรางทองก็เจ็บปวดมาก เธออดทนต่อความกดดันและพบทางแยกทั้งสองแห่งเข้าหากัน แต่ก็พบว่าจริงๆ แล้วมันไม่ดีมาก เขาพยายามทำให้หลานชายของเขาตั้งท้อง แต่ยิ่งถูกห้ามมากเท่าไร

ความเก่งกาจที่เร้าใจก็ยิ่งกลายเป็นเด็กที่ฉุนเฉียวมากขึ้นเท่านั้น และขัดขืนคำสั่งทั้งหมดของปรางทองและประกาศเมื่ออายุ 20 ปีว่าจะแต่งงานเหมือนแพรและละทิ้งความดูแลของแม่และลุงของเขา ทำให้พระปรางค์ทองเกือบล้มเพราะตามพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของทุกสิ่งถ้าแพ้แบบนี้นางก็ได้ทุกอย่าง  ปรางทองจะไม่มีวันยอมแพ้

แค้น ฉากประทับใจ

ความแค้นนี้จะจบลงที่ใด ? ติดตามได้ที่ ละคร แค้น ช่อง 3HD ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 นเริ่มตอนแรกวันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 นำแสดงโดย แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ นาย ณภัทร เสียงสมบุญ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ และ พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน

อ่านรีวิวจบกันแล้ว ใครยังอารมณ์ค้างกันอยู่ ทีมงานเราขอแนะนำรีวิว เพราะเราคู่กัน The Movie หนังไทยที่นำเนื้อเรื่องมาจากซีรี่ส์เรื่องดัง แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ขุนพันธ์ 3 ภาพยนตร์ปิดไตรภาคของแฟรนไชส์ฮีโร่พันธ์ุไทย

ขุนพันธ์ 3 ภาพปก

ขุนพันธ์ 3 ความมันส์สะใจแอคชั่นจัดเต็มพล็อตเรื่องเข้มข้น

ขุนพันธ์ 3 คือภาพยนตร์ปิดไตรภาคของแฟรนไชส์ฮีโร่สายพันธ์ไทยของค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลจัดเต็มหนังแอ็คชันฟอร์มยักษ์รับต้นปี และตอบแทนแฟนหนังขุนพันธ์ที่ติดตามกันมา 10 ปี ถือเป็นทีเด็ดหนังไทยย้อนยุค ประจำปีนี้เลยทีเดียว

ซึ่งเนื้อหาในภาคที่ 3 เกี่ยวกับการผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2493 ที่ส่งผลให้บ้านเมืองได้รับความเสียหาย ในขณะที่ชุมโจรเสือร้ายกำลังรุกล้ามไปทั่วทุกหนแห่ง ขุนพันธ์ นายตำรวจสุดเก่งที่มุ่งมั่นในความยุติธรรมถูกเรียกกลับมาปฏิบัติภารกิจจับกุมเสือร้าย 2 คนที่หลบหนีอยู่และเป็นผู้ก่อกวนอำนาจรัฐ

การจับตาย 2 เสือชื่อดังอย่าง เสือมเหศวรและเสือดำ ครั้งนี้อาจไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ขุนพันธ์จะสามารถบรรลุภารกิจท้าทายศรัทธา และเผชิญหน้าเหล่าเสือร้ายที่มีทั้งอาคมและ ความคงกระพันได้หรือไม่ เรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร เชิญติดตามได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวในจักรวาลของสาวกซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ไทย ที่เต็มไปด้วยการต่อสู้และการแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีของสังคม ตัวละครเอกเป็นคนที่ชำนาญในการศึกษาและมีกล้ามจัดด้านอาคม

ภาคหนังนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการต่อสู้ เจ้าขุนมูลนายแสดงถึงความตั้งใจในการรวบรวมอำนาจและมีความกรุณากับตนเองเป็นสำคัญ ตลอดเนื้อเรื่องเราเห็นการรักษาชีวิตของผู้คนต่างๆ ที่ต้องทำการที่อาจแย่งกินของคนอื่นโดยไม่สนใจความถูกต้อง

ดังนั้นนี่คือเรื่องราวในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ไทย ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นหนังไตรภาค และภาคนี้คือ ‘ขุนพันธ์ 3’ ภาคสุดท้ายซึ่งจะสรุปเรื่องราวไว้

ท่านสามารถดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ความคมชัดระดับ 4k ได้ทาง doonungvip.com

นี่คือภาคที่สามของภาพยนตร์จักรวาล ขุนพันธ์ ผลงานจากก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ผู้คนพูดถึงเกี่ยวกับเขาและผลงานเรื่อยๆ

อีกทั้งยังมีผลงานภาพยนตร์อื่นๆ ที่เขาได้ทำ เช่น “ลองของ” ในปี 24548, “ไชยา”, “เฉือน”, “อันธพาล”, “Take Me Home : สุขสันต์วันกลับบ้าน” และ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” โดยภาค “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” เป็นภาคต่อของภาคแรกที่ชื่อว่า “ขุนพันธ์” 

แม้ว่าภาคต่อจะเข้าฉายก่อนแต่ภาคแรก นอกจากนี้ยังมีผลงานเขียนบทภาพยนตร์และละครอีกจำนวนมาก และผลงานในการแสดงอีกด้วย เขาได้รับความชื่นชมและยอมรับจากผู้ชมตลอดเวลาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย และเขากลายเป็นผู้กำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ไทยภาคต่างๆในวันนี้

ขุนพันธ์ 3 นักแสดงนำ

ขุนพันธ์ 3 เรื่องย่อ

ขุนพันธ์ 3 เรื่องย่อ เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงปี พ.ศ. คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนปีทศวรรษ พ.ศ. เหตุการณ์ในปี 2493 ทำให้เมืองยังคงประสบปัญหาจากภัยสงคราม ทำให้ขาดแคลนข้าวและราคาขึ้นสูง สิ่งที่สร้างความตกใจยิ่งขึ้นคือสัตว์ป่าที่อันตรายเช่นเดิมยังคงอยู่

ในส่วนของข้าราชการก็ยังมีการทุจริตต่าง ๆ อยู่ นายตำรวจขวัญพันธ์ (ประสิทธิ์ ชนะเวทย์ จากการแสดงในหนังเรื่อง ‘อินทรีแดง’, ‘ชัมบาลา’ และ ‘ชั่วฟ้าดินสลาย’) ที่คิดจะลองหาผ่องปลอดภัยกับครูนุ่น (พลอย ชิดจันทร์ จากหนังเรื่อง ‘รับน้องสยองขวัญ’ และ ‘สวยลากไส้’) ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับสองตัวสัตว์ป่าอันตรายอีกครั้ง คือสัตว์ป่ามเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ จากการแสดงในหนังเรื่อง ‘พี่มากพระโขนง’ และ ‘ขุนแผน ฟ้าฟื้น’) และสัตว์ป่าดำ (โตโน่ ภาคิน จากการแสดงในหนังเรื่อง ‘ส้ม ปลา น้อย’ และ ‘Love Syndrome รักโง่ ๆ’)

ขุนพันธ์ 3 อนันดา

สิ่งนี้ทำให้เขาต้องกลับมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ร้ายที่แก่งใหญ่ที่มีลำน้ำที่มีจระเข้ยักษ์อาศัยอยู่ ทว่า การกลับมาของเขาก็คล้ายจะไม่เหมือนในครั้งก่อน เมื่ออาคมขลังในตัวเริ่มสั่นคลอน การต่อกรกับเหล่าร้ายจึงต้องสู้กับเวลา และอาจเป็นไปได้ว่า มือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์อาจต้องกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง

ขุนพันธ์ 3 หนังซูเปอร์ฮีโร่ไทยที่บอกเล่าเรื่องราวความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ในส่วนของพล็อตเรื่องก็ถือว่าเดินเรื่องได้อย่างกระชับเช่นกัน เริ่มด้วยการอธิบายจุดเริ่มต้นของเรื่อง ปมของเรื่อง และจุดคลี่คลายของเรื่อง บทถือว่าเข้มข้นสมจริง

ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วงท้ายเรื่องจะมีความแฟนตาซีอยู่มาก ส่วนการแสดงต้องคำนึงถึงนักแสดงระดับซุปตาร์หลายคน เช่น อนันดา มาริโอ้ โตโน่ ต่างก็เข้าถึงคาแรกเตอร์ของตน ให้คนดูเชื่อจริงๆว่าชุดตัวละครและฉากหนังย้อนยุคมาก เพราะเป็นหนังย้อนยุค. มันเหมือนจริงมาก

ขุนพันธ์ 3 ฉากแอ็คชั่น

ส่วนตัวผู้เขียนหนังเรื่องนี้คือนักแสดงที่แสดงเป็นตัวละครที่ดีจริงๆ ฉากบู๊ของทั้งคู่สนุกที่สุด ดราม่าที่สุด และถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอดจริงๆ เราชอบเสื้อผ้าแนววินเทจ ที่ทั้งเท่และเฟี้ยวสุดๆ ทั้งเป็นหนังที่สนุกสนานมีเนื้อเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังฮีโร่ไทย มีทั้งการใช้เวทมนตร์ การต่อสู้ และการใช้อาวุธก็เป็นแบบไทยๆ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอคชั่น รักหนังฮีโร่ไทย รักเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ รถยนต์ และสถานที่ ต้องดูหนังเรื่องนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ

ตัวละคร ขุนพันธ์ 3 ใหม่ที่ปรากฏในภาคนี้น่าสนใจ

ในภาคก่อนหน้านี้มีเสือใหม่เข้ามาเป็นสมาชิก และภาคนี้ก็เช่นกัน มีสมาชิกอย่างเสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) ซึ่งเป็นจอมโจรร้ายหน้าใหม่ที่เข้าร่วมกลุ่มโจรเชิ้ตขาว มีความฉลาดและความว่องไว

แม้ว่าเขาจะไม่เหลือเหล่ากับเสือคนอื่น แต่ก็มีคาถาที่เป็นอุปสรรคทำให้หลีกเลี่ยงความตายได้ เสือมเหศวรยอมที่จะเป็นคนนอกกฎหมายเพราะเกลียดชังความเหลื่อมล้ำในสังคม

ในเวลาเดียวกันก็มีคุณธรรมในส่วนใจที่ไม่น้อยกว่าขุนพันธ์ เขามีเพื่อนสาวที่สวยงามชื่อสาวิตรี (ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา) เธอเป็นหมอสาวที่คิดแบบคนรุ่นใหม่ และช่วยเหลือในการรักษาคนไข้ในศูนย์รักษาคนไข้ลับของเสือมเหศวร

ขุนพันธ์ 3 มาริโอ้

ส่วนเสือดำ (โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) คือตัวละครที่มีความคิดเด็ดเดี่ยวและดุเดือดอยู่ในใจ มีอารมณ์ที่เห็นใจลึกและกวนใจ

อีกทั้งยังมีความเกลียดชังต่อตำรวจอยู่ภายใน เขาเป็นคนที่มีความคิดตรงข้ามกับปกติ เรียกว่าเป็นคนที่โต้แย้งกับความคิดที่ไอ้แหวกไอ้เหวกเสมอ นอกจากนี้ นี่คือจุดที่พลทหารระดับสูงกว่า มีภูมิภัทร ถาวรศิริ เขาก็คือตัวละครที่ไม่เชื่อในดนตรีเสียงร้อง

ถึงแม้ว่าเขารู้จักดนตรี แต่ก็ยังชวนปวดร้าวอยู่หน่อยๆ ว่าเขาคือคนที่แปลกแยก พร้อมทั้งยังมีสิ่งของต่างๆ หรืออาจะเป็นคนที่จำนวนสติปัญญามากขนาดนั้น

งานโปรดักชั่น ขุนพันธ์ 3 เห็นได้ชัดว่าทุ่มเทแบบหมดหน้าตัก

หนังภาคนี้มีชื่อภาคเป็นของตนเองและชื่อเต็มว่า ‘ขุนพันธ์ 3: วันพิพากษา’ หรือ ‘Khun Pan 3: Judgement Day’ ซึ่งในหนังมีเรื่องราวที่เดินหน้าไปตลอดโดยไม่หยุดยั้ง บางฉากของหนังนั้นมืดเกินไปหรือไม่ชัดเจน บางช็อตที่ดูตลกอาจไม่สมบูรณ์ แต่โดยรวมแล้วหนังนี้ยังเป็นความบันเทิงที่ดีโดยรวม มีการเล่นใหญ่ พร้อมกับดนตรีประกอบที่ชวนให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปกับเรื่องราว

ขุนพันธ์ 3 ประกาศจับ

หนังนี้ยาวถึง 156 นาทีและตั้งคำถามเกี่ยวกับความถูกผิด ทำให้เรื่องมีความหนักแน่น พาร์ทแฟนตาซีก็มีความสำเร็จเช่นกันด้วยตัวละครที่อ้างอิงจากหนังเรื่องก่อนๆ บางฉากยังทำให้นึกถึงหนังซูเปอร์ฮีโร่ รวมถึงเซอร์ไพรซ์ที่ทำให้คนทั้งโรงปรบมือร้องยินดี หนังนี้ถือเป็นหนังที่บันเทิงสุดอยู่

รีวิวหนัง ขุนพันธ์ 3 บทสรุปภาพยนตร์

ในขณะที่หนังวางมาอย่างสนุกสนาน ทุ่มทุนสร้าง ระเบิดตูมตาม พร้อมเซอร์ไพร์สที่ต้องปรบมือให้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแก่นแท้ของจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ไทย จะเขียนเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม ชาวบ้านถูกทอดทิ้งจากรัฐ หากท้องถิ่น ผู้แข็งแกร่งเลือกใช้กำลังบีบบังคับคนจนไม่มีทางเลือกตั้งแก๊งโจรชำแหละคนจน ประชาชนต้องช่วยเหลือกันเพราะพึ่งรัฐไม่ได้ ทั้งๆ ที่ใจไม่อยากเป็นโจร

ขุนพันธ์ 3 ฉากตัดผม

แต่เมื่อมีคนถามถึงความถูกต้องตามกฎหมายของสิ่งที่เขาทำ เขาก็ต้องค้นหาด้วยตัวเอง

ขุนพันธ์ยังเป็นผู้ชายธรรมดาที่บางครั้งก็ล้มเหลว ไม่ใช่ฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบ

ถึงกับงงกับฉากจบที่แทรกระหว่างเอนด์เครดิตเหมือนขุนพันธ์เป็นหนังไตรภาค แต่โบนัสที่เพิ่มเข้ามาทำให้เราคิดว่าเขาต้องการภาคต่อ

ความรู้สึกหลังดูจบ

ส่วนตัวผู้เขียนเมื่อดูจบและอาจทำให้ต้องตะโกนออกมาว่า โครตตตตตมันส์ พี่โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ และนักแสดงทั้งหมดที่มีการโปรโมททางโฆษณาก็ไม่เกินจริงเลย

หนังนี้ออกแบบมาเพื่อที่จะทำให้ความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาคที่มีฉากแอ็คชันอย่างเต็มที่โดยไม่ให้เหล่าแฟนหนังได้พักผ่อน ฉากแอ็คชันในหนังดูเหมือนว่าผู้กำกับเอาเทคนิคที่ยังไม่ได้แสดงในภาคที่แล้วมาใช้ในภาคนี้ทั้งหมดเพื่อให้ได้เห็นฟัลเม่และนักแสดงที่มีการทำงานที่ดีในหนังแอ็คชันที่ดูชอบได้

ในส่วนของเนื้อหาในภาคนี้ยังคงมีความเข้มข้นอยู่และมีการพัฒนาเนื้อหาที่ดุเดือดกว่าสองภาคแรกอีกด้วย

ตอนนี้ขุนที่โดนโจมตีทางด้านการวิสามัญได้ถูกถามถึงว่าทำเกินกว่าเหตุในการจับกุมผู้ร้ายหรือไม่ ซึ่งทำให้เขาต้องออกจากราชการและกลับไปใช้ชีวิตกับภรรยาของเขาชื่อ ครูนุ่น ซึ่งกำลังท้องใกล้คลอด ก่อนที่เขาจะถูกเรียกกลับมาทำภารกิจสุดท้ายในการล่าสองเสือที่เหลืออยู่ นั่นคือเสือดำและเสือมเหศวร ในขณะเดียวกัน สภาพอาคมและความคงกระพันของขุนก็เริ่มเสื่อมลง

ภาคนี้เราได้เห็นว่าความเป็นมนุษย์ของขุนมีอยู่มากที่สุด โดยเขามีความต้องการจะรอดชีวิตและกลับไปหาเมียและลูกของเขา เราได้เห็นมุมการเกิดความกลัวของขุนที่เราไม่เคยเห็นในภาคก่อน บางครั้งเขาอาจเก่งและกายกรรมมาก แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์เหมือนเรา

ขุนพันธ์ 3 นักแสดงนำ มาริโอ้

สรุปสั้นๆ: ในภาคนี้, มาริโอ้และโตโน่ได้รับบทบาทของสองเสือ: เสือมเหศวรและเสือดำ ทั้งคู่ผ่านการสอบผ่านอย่างไร้ข้อกังขา บทบาทเสือมเหศวรที่มาริโอ้แสดงเป็นการแตกต่างจากผลงานอื่นๆ ของเขาซึ่งมักจะเป็นคอมเมดี้ ในบทบาทนี้เขาแสดงความเท่ในมาดของเสือมเหศวรอย่างมาก เหมือนจะลบภาพน่ารักของมาริโอ้แต่เป็นการโชว์ความเข้มข้นไปในสไตล์สุภาพบุรุษจอมโจร

แม้ว่าคำพูดทั้งหมดในบทความนี้จะถูกเสวนาในทิศทางที่ดี แต่หนังยังคงมีข้อบกพร่องที่มากเกินไปในบางส่วน แต่เนื่องจากระยะเวลาของหนังยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง บางส่วนอาจมีจังหวะที่ทำให้ดูอืดอาดเนื่องจากการเล่นให้ปล่อยของพลังในฉากแอ็คชันต่อเนื่อง และเมื่อถึงจุดที่ต้องเล่าเนื้อเรื่องต่อไป

มันอาจจะเหนื่อยขึ้นเพราะต้องรอคอยโอกาสในการดึงอารมณ์ความโกรธที่มีอยู่ออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง.

ผลสรุปที่สุดถ้าพูดถึง “ขุนพันธ์ 3” คือว่าเป็นหนังไทยที่ควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์มาก เพราะมีความสนุกเท่ากับหนังฮอลลีวู้ด อาจไม่เป็นหนังที่ดีอย่างยอดเยี่ยม

แต่ทีมงานนักแสดงและผู้สร้างไม่ดูถูกคนดูและแสดงความตั้งใจในการส่งท้ายแฟรนไชส์นี้ ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นงานแบบนี้ออกมาให้ชมอีกหรือไม่ อยากให้ลองเปิดใจเพื่อให้รู้ว่าวงการหนังไทยถ้าตั้งใจทำก็ไม่แพ้ใครเลย

อ่านรีวิวเรื่องนี้จบแล้ว เราอยากให้ทุกท่านตามไปอ่านรีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยตลกแสนสนุกสนานอีกเรื่อง รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง

บ้านเช่า บูชายัญ บ้านเช่าสยองขวัญ คนเช่าบ้านต้องรีบดู

บ้านเช่า บูชายัญ ภาพปก

รีวิว บ้านเช่า บูชายัญ

บ้านเช่า บูชายัญ กับกระแสการกลับมาของหนังไทยมาใหม่ แนวสยองขวัญในไตรมาตรแรกของปี 2566 กับเรื่องราวอันลึกลับของการเปิดบ้านให้เป็นบ้านเช่าของคู่สามี-ภรรยา ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวของนักแสดงคุณภาพระดับซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทยอย่าง เวียร์ ศุกลวัฒน์และมิว นิษฐา

การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนแต่ไม่ยากที่จะเข้าใจ และการนำสไตล์ของหนังสืบสวนสอบสวนมาใช้ในการเล่าเรื่อง ทำให้เนื้อหามีความซับซ้อน และน่าติดตามเป็นอย่างมาก การันตีคุณภาพจากการเป็นภาพยนตร์ไทยที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในปี 2566 หลังจากผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของการเข้าฉาย

เรียกได้ว่าถือเป็น 1 ในภาพยนตร์ไทยที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2566 กันเลยทีเดียว ท่านผู้อ่านสามารถติดตามดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้อย่างจุใจได้ที่ doonungvip.com กดได้ที่ลิงก์เลยค่ะ

บ้านเช่า บูชายัญ ฉากกินข้าว

ข้อมูลทั่วไป บ้านเช่า บูชายัญ

“บ้านเช่า บูชายัญ” (อังกฤษ: Home for Rent) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญและอ้างอิงจากเหตุการณ์จริง ภาพยนตร์นี้ผลิตโดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม และ เอ็นเอท สตูดิโอ

และจัดจำหน่ายโดย บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า โดยการกำกับของ โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ และนำแสดงโดย นิษฐา คูหาเปรมกิจ, ศุกลวัฒน์ คณารศ, และ เพ็ญพักตร์ ศิริกุล เข้าฉายครั้งแรกในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566

เนื้อเรื่องของภาพยนตร์เกี่ยวกับคู่สามี-ภรรยาที่ตัดสินใจเปิดบ้านให้คนเช่า แต่อยู่ๆสิ่งที่ผิดปกติก็ได้เกิดขึ้นเมื่อผู้เป็นภรรยาค้นพบว่าผู้เช่าของพวกเขามีความลึกลับและกำลังปกปิดอะไรบางอย่างอยู่

ในขณะเดียวกันสามีของเธอก็เริ่มแสดงท่าทีที่แปลกไปจากเดิม ภาพยนตร์นี้นำเสนอความสยองขวัญที่สะท้อนความไม่แน่นอนและอารมณ์ที่ผิดปกติของตัวละคร และยังเล่าเรื่องราวในมุมมองของคู่สามี-ภรรยาที่ผู้ชมอาจพบว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม ทั้งหมดนี้มีผลทำให้เกิดความสงสัยและความลึกลับในบ้านเช่าหลังนี้

บ้านเช่า บูชายัญ เวียร์

ภาพยนตร์เปิดตัวอย่างสำเร็จในวันแรกของการเข้าฉายทางเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 โดยมีรายได้ในวันแรก 4.51 ล้านบาท รายได้รวมทั่วประเทศถึง 9.10 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลตอบรับที่ดีและเป็นภาพยนตร์ไทยที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในปี 2566

หลังจากผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของการเข้าฉาย (ฉายอย่างเป็นทางการถึง 4 วัน) ภาพยนตร์ได้ทำรายได้รวมทั้งประเทศไปถึง 16.33 ล้านบาท หรือรายได้รวมทั่วประเทศถึง 29.90 ล้านบาท ในช่วงเวลา 18 วันของการฉาย ภาพยนตร์ได้ทำรายได้รวมทั่วประเทศถึง 74.58 ล้านบาท (ณ วันที่ 23 เมษายน 2566) ในปัจจุบันภาพยนตร์มีรายได้จากพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเชียงใหม่ อยู่ที่ 41.23 ล้านบาท (ณ วันที่ 27 เมษายน 2566) 

ประเภท: สยองขวัญ / ดราม่า

ผู้กำกับ: โสภณ ศักดาพิศิษฏ์

นำแสดงโดย: นิษฐา คูหาเปรมกิจ, ศุกลวัฒน์ คณารส

ความยาว: 124 นาที

กำหนดฉายในไทย: 6 เมษายน 2023 (ในโรงภาพยนตร์)

เรื่องย่อ บ้านเช่า บูชายัญ

เนื้อเรื่องของเริ่มขึ้นเมื่อ สองสามีภรรยาชื่อหนิงและกวิน ที่เป็นพ่อแม่ลูกหนึ่ง ตัดสินใจที่จะปล่อยบ้านของตนเพื่อเปิดเป็นบ้านเช่าให้แก่ราตรี เขมารักษ์ แม้ในตอนแรกกวินจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ แต่กลับเปลี่ยนใจยินยอมหลังจากได้พูดคุยกับราตรี

จากนั้นทั้งสามคนได้ย้ายออกจากบ้านเดิมเพื่ออยู่ในหอพัก

บ้านเช่า บูชายัญ นางเอก

เรื่องที่น่าตกใจได้เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนบ้านส่งข้อความและรูปภาพมาให้พวกเขา ที่เป็นการแสดงว่าราตรีกำลังประกอบพิธีกรรมบางอย่างโดยการนำเครื่องรางจากขนอีกาและซากศพของอีกามาประดับรอบบ้าน และทุกคืนในตีสี่ จะมีเสียงสวดพระคำประหลาดออกมา

จากนั้นหนิงได้พยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับผู้เช่า ภาพยนตร์เพิ่มความสนุกและความลึกลับเมื่อเธอเริ่มสงสัยว่ากวินอาจจะมีส่วนหนึ่งใน “ลัทธิ” ที่แปลก ประหลาดนี้

นักแสดงและบทบาทที่ได้รับ

ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท กวิน

นิษฐา จิรยั่งยืน รับบท หนิง

เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท ราตรี เขมารักษ์

ธัญญภัสร์ มยุรลีลา รับบท อิง

น้ำฝน ภักดี รับบท นุช

สุพิทักษ์ ฉัตรสุริยาวงศ์ รับบท ต้อม

บ้านเช่า บูชายัญ พระเอก

ในส่วนของการแสดง หนังได้ให้โอกาสแก่นักแสดงในการมีช่องว่างให้นักแสดงได้พัฒนาและปล่อยพลังในการแสดงออกมาอย่างเต็มที่

มิว นิษฐา ถือเป็นตัวยืนเรื่องในครึ่งแรกของหนัง ที่เรียกให้เห็นพลังการแสดงที่น่าประทับใจ ภายในเวลาอันสั้น ซึ่งเธอทำออกมาได้อย่างเต็มเหนี่ยว และแสดงถึงความสามารถในการแสดงของเธออย่างชัดเจน

ในครึ่งหลังของหนัง การเปลี่ยนเนื้อหาเพื่อให้แสงไฟสาดสู่เวียร์ ศุกลวัฒน์ ทำให้เราเห็นพลังการแสดงที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นบทบาทที่คาดเดาได้แล้ว แต่เวียร์ ได้ทำออกมาอย่างมืออาชีพและนำเสนอได้ด้วยความน่าเชื่อถือ

น้องกัสจัง ก็เป็นซุปเปอร์เซอร์ไพรส์ในหนัง แม้เป็นนักแสดงเด็กแต่การแสดงของเธอในบทบาทนี้ทำได้ด้วยความสามารถและความเป็นมืออาชีพ และน่าประทับใจ แม้เรื่องราวอาจจะมีเพียงบทเสริมสมทบในครั้งแรก แต่เนื้อหาที่แนบเนียนทำให้เราเห็นพลังการแสดงของเธอ

การดำเนินเรื่อง บ้านเช่า บูชายัญ

เรื่องราวเริ่มต้นจากคู่สามีภรรยา กวิน (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หนิง (นิษฐา คูหาเปรมกิจ) และ อิง ลูกสาววัย 7 ขวบ ที่ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านเพื่อไปอาศัยอยู่ที่คอนโดมีเนียม และปล่อยบ้านให้คนมาเช่า จนกระทั่งมีผู้เช่าอย่าง ราตรี (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) คุณหมอวัยเกษียณ และ นุช ลูกสาว คู่แม่ลูกที่ดูแปลกประหลาดมาขอเช่าบ้านหลังนี้ นับแต่นั้นก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น

เมื่อหนิงเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้เช่า ทั้งการแขวนเครื่องรางที่ทำจากขนนกอีกา แขวนซากอีกาไว้รอบบ้าน และทุก ๆ 04.00 น. ชาวบ้านรอบข้างก็มักได้ยินเสียงสวดประหลาด ๆ สร้างความหวาดกลัวให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียง

จนกระทั่งกวินเองก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป และมีรอยสักสัญลักษณ์สามเหลี่ยมที่ดูไม่น่าไว้วางใจ และอิง ลูกสาวตัวน้อยที่เข้าไปพัวพันกับอันตรายบางอย่างที่มองไม่เห็น

ฉากผี

เรื่องราวนี้กลายเป็นการผสมผสานระหว่างความลึกลับและความสยองขวัญในบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและความสนุกในการตามหาความจริงของตัวละครในเรื่อง

ผู้ชมจะได้รับความสนุกสนานจากการตามล่าหาความจริงของเรื่องราวลึกลับและเปิดเผยสิ่งที่แฝงอยู่ในบ้านหลังนั้น ความน่าติดตามของเรื่องราวเกิดขึ้นจากการมองเห็นผ่านมุมมองของหลาย ๆ ตัวละคร ที่ทำให้ผู้ชมได้เข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อพวกเขาและบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่

ในการเล่าเรื่อง ผู้กำกับได้ใช้วิธีการต่างๆ เพื่อเรียบเรียงเรื่องให้มีความน่าสนใจและเข้าใจได้ง่ายตามลำดับของตัวละครและเนื้อหา

  1. การค่อยเผยปม การเล่าเนื้อหาที่เริ่มจากการรู้น้อยที่สุด และรู้มากขึ้นเรื่อยๆ จากตัวละครหนิงและค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเส้นเรื่องที่รู้มากขึ้น ผ่านกวินและคุณหมอราตรี เป็นวิธีที่ช่วยสร้างความตึงเครียดให้กับผู้ชม และทำให้ผู้ชม ต้องติดตามเรื่องราวในหนังอย่างใจจดจ่อเพื่อค้นหาคำตอบ
  2. เนื้อหาแบบสามเหลี่ยม การเชื่อมโยงเนื้อหาระหว่างตัวละครหลายคน ที่ครอบคลุมความลึกลับและความน่ากลัว ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวให้มีความสัมพันธ์และมีความเชื่อถือได้มากขึ้น
  3. การใช้ตัวละครเป็นเครื่องมือ การใช้ตัวละครต่างๆ เป็นช่องทางในการเปิดเผยเรื่องราว โดยเริ่มจากหนิงที่รู้น้อยที่สุด ผ่านกวินที่เป็นคนรู้มากขึ้น และสุดท้ายถึงคุณหมอราตรีที่มีความรู้และความลึกลับมากที่สุด
  4. การใช้ Flashback การนำผู้ชมย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ในอดีตที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผย ช่วยให้ผู้ชมได้เห็นภาพรวมของเรื่องราวและความลึกลับเพิ่มเติม
  5. การเล่าที่ไม่เป็นลำดับเส้นตรง เช่น เริ่มจากเนื้อเรื่องในอดีตแล้วพุ่งไปสู่ปัจจุบัน หรือเริ่มจากจุดความสำคัญในเนื้อเรื่องแล้วกลับมาเติมรายละเอียดทีหลัง ทำให้ผู้ชมต้องติดตามความเคลื่อนไหวของเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ผลสุดท้ายคือการเล่าเรื่องที่มีความซับซ้อนและมีความสมดุลของความหลอนและความลับที่มืดมิด ที่สามารถดึงดูดผู้ชมให้ติดตามเนื้อหาไปจนจบ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคนิค Jump Scare หรือตัวละครผีในทางเนื้อหาเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นการใช้การเล่าเรื่องอย่างลงตัวและสร้างความน่าสนใจในแบบที่แตกต่างออกไปจากหนังอื่นๆ

การผสมผสานความลึกลับและความหลอนในลัทธิแฟนตาซีที่ไม่เหมือนใคร ทำให้หนังนี้เป็นผลงานที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกหลังดู

หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและความมืดมิดที่ไม่เหมือนใครในแง่ของเนื้อเรื่อง ถึงแม้จะมีผีและวิญญาณปรากฏตัวอยู่ในเรื่อง

แต่ความสนุกและความลึกลับมาจากบรรยากาศลี้ลับที่ถูกสร้างขึ้นอย่างดีเยี่ยม มีเสียงปริศนาที่ควบคู่ไปกับลัทธิประหลาดที่มีความแฟนตาซีรวมอยู่ด้วยกัน เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เรื่องราวนี้น่าติดตาม หนังเรื่องนี้ได้สร้างความสมดุลของธีมแฟนตาซีและความหลอนอย่างลงตัว หากเรื่องราวเน้นทางคำสาป ความลับของลัทธิประหลาด

ถือว่าหนังทำสำเร็จอย่างมากในการแสดงอารมณ์และความตึงเครียดของผู้ชม ด้วยฉากความสยองขวัญที่ไม่คาดฝัน ทั้งหลอกล่อและเน้นความมืดมิดได้อย่างลงตัว ไม่ใช่แค่การใช้เทคนิค Jump Scare เพียงอย่างเดียว ถึงแม้ว่าผีและวิญญาณจะเป็นตัวเรื่องหลัก แต่บรรยากาศและลัทธิประหลาดที่ปรากฏอยู่ร่วมด้วยก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความลึกลับของเรื่องนี้เติมเต็มขึ้นอย่างมาก

หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานที่ผสมผสานธีมแฟนตาซีและความหลอนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สามารถสร้างความรู้สึกตึงเครียดและคลุมเครือด้วยไปด้วยความลึกลับได้อย่างมีคุณภาพ

ป้าเจ้าของบ้าน

ภาพยนตร์เต็มไปด้วยจุดเด่นที่ทำให้หนังนี้เป็นผลงานสยองขวัญที่น่าสนใจและควรไปรับชม:

1.บทลึกลับและมีความลับที่ซ่อนอยู่: หนังนี้มีความลึกลับและความสปอยล์อารมณ์ที่ไม่ง่ายต่อการเดาได้ มีความลับที่หลบซ่อนอยู่ภายในเรื่องที่มากเกินจากตัวอย่าง จึงทำให้ผู้ชมต้องไปดูเพื่อค้นหาคำตอบเอง

2.บรรยากาศความหลอน: หนังไม่เน้นการหลอกลวงด้วยฉากผีหลอกตา แต่เน้นการสร้างบรรยากาศความหลอนอย่างมาก ทำให้ความละเอียดอ่อนและความรู้สึกอินกับหนังของผู้ชมเพิ่มมากขึ้น

3.เลือกสถานที่สำหรับการถ่ายทำอย่างชาญฉลาด: การเลือกบ้านยุคเก่าเป็นสถานที่ในการถ่ายทำช่วยสร้างบรรยากาศขรึมขลังและเป็นนัยบอกถึงระยะเวลาของเนื้อเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

4.การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและไม่ยากที่จะเข้าใจ การนำสไตล์ของหนังสืบสวนสอบสวนมาใช้ในการเล่าเรื่องทำให้เนื้อหามีความซับซ้อน แต่ก็ยังเข้าใจได้ง่าย ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อถือได้ว่าเรื่องราวนี้ถูกกลั่นกรองเป็นอย่างดี

5.การสะท้อนปมดราม่าและปัญหาเศรษฐกิจ: หนังเรื่องนี้สะท้อนปมดราม่าของครอบครัวและปัญหาเศรษฐกิจอย่างแยบยล มีความเชื่อมโยงเรื่องราวในโลกที่แท้จริงกับโลกภาพยนตร์อย่างน่าสนใจ

สรุปภาพรวม

สรุปภาพรวม หนังอาจจะไม่ได้เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบไปซะทีเดียว แต่ก็เป็นผลงานที่ทางเราแนะนำให้ไปรับชมกันในโรงภาพยนตร์นะคะ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มีอรรถรสของความสยองที่ก่อให้เกิดความหลอนในใจ

รวมถึงความเฉลียวฉลาดในเรื่องดราม่าและเรื่องราวของลัทธิลึกลับที่เชื่อมต่อกับมนุษย์ในระดับที่น่าสนใจ การแสดงของนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ เช่น เวียร์ ศุกลวัฒน์, มิว นิษฐา และ ต่าย เพ็ญพักตร์ ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก

พวกเขาได้ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครแต่ละตัวออกมาได้อย่างดีและนำเสนอออกมาได้ดีทั้งความอารมณ์และความเชื่อถือ

ฉากผี

สิ่งที่น่าประทับใจและเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงคือการแสดงของน้องกัสจัง ที่ให้ความประทับใจ ไม่เล่นใหญ่เกินไปและสามารถปรับคาแรกเตอร์ให้เข้ากับบทบาทได้ดีมากๆ เหมือนนักแสดงมืออาชีพ น่าประทับใจจริงๆ

ในภาพรวมของภาพยนตร์ เป็นหนังที่ผสมผสานความสยองขวัญและดราม่า ในสไตล์พี่จิม (ผู้กำกับ)โดยให้ความสำคัญกับความบันเทิงและความน่าสนใจ ซึ่งสามารถรวมธีมแฟนตาซีลงในนั้นได้อย่างลงตัว และวิธีการเล่าเรื่องที่มีความซับซ้อนแต่ไม่ยากที่จะเข้าใจ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่หาได้ยากในภาพยนตร์ไทย

อ่านรีวิว บ้านเช่า บูชายัญ หนังผีเรื่องเด็ดจบแล้ว เราขอแนะนำหนักรักคู่แฝดที่สร้างความประทับให้กับผู้ชมหลายคน You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน ผลงานการสร้างของ GDH เชิญตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

รีวิว ผ้าผีบอก Ghost cloth หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

หากใครนอนอยู่บ้านเหงาๆ อยากหาหนังไทย สนุกๆดูซักเรื่อง วันนี้มีหนังมาแนะนำ เว็บดูหนังเถื่อน เป็นหนังแนว สยองปนฮา ของ 5 สาว BNK48, หยิ่น อานันท์, วอร์ วนรัตน์ และ บอส สหรัฐ  มาในเรื่อง  รีวิว ผ้าผีบอก Ghost cloth เริ่มต้นที่ชวนให้คิดว่าน่าจะออกมาเป็นหนังผี ยิ่งตัวอย่างหนังก็ยิ่งบอกชัดว่า นี่ท่าจะมาทางสายหนังฮาแต่ว่ามีผีเป็นส่วนประกอบ

เมื่อไปดูจริงๆ จึงได้พบว่า ‘ผ้าผีบอก’ เป็นหนัง รีวิวหนังไทยย้อนยุค  แฟนตาซีลึกลับตลก บวกโรแมนติกหน่อยๆ  บอกเลยว่าสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ได้อย่างมากโดยเฉพาะภาคเหนือ และ ภาคอีสาน ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นได้ที่นี่ 13 หมูป่า เรื่องเล่าจากในถ้ำ

รีวิว ผ้าผีบอก หนังผีไทย

มาตอนนี้ ได้มีโปรแกรมที่จะผลิตหนังขึ้นมา  iAM Films  ยังทำออกมาได้ดีเสมอเลยนะ ค่ายเองก็พยายามจะหาส่วนผสมใหม่ ๆ ให้กับภาพยนตร์ แม้ว่าจะดูโยนหินถามทางไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นการเสิร์ฟอะไรใหม่ ๆ ให้แฟนคลับและคนดูหนังอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ส่วนผสมแบบหนังอินดี้ (Where We Belong) การใส่ความเป็นอีสานบ้านเฮาใน ‘ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้’ (2563) หรือการใส่ส่วนผสมแนวแคนดิดใน ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ (2564)

โดยมีหนังล่าสุดเรื่อง ‘ผ้าผีบอก’ เรื่องนี้ก็เหมือนเดิม ยังมีส่วนประกอบที่แม้จะยังไม่ได้ถึงกับกระชากฟีลจากไทบ้านมากนัก เพราะตัวหนังก็ยังหยิบเอาวัฒนธรรมภาคเหนือ-อีสานมาปรับใช้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ส่วนผสมสูตรนี้ มาจากโปรดิวเซอร์อย่าง ‘มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ และได้ ‘อั้ม-ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์’ นักแสดงจากภาพยนตร์ของพี่มะเดี่ยว ทั้ง ’13 เกมสยอง’ (2549), ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ (2551) และ ‘หลุดสี่หลุด’ (2554) และเคยผ่านงานมิวสิกวิดีโอของทั้ง BNK48 และ CGM48 มานั่งแท่นผู้กำกับครั้งแรก

เรื่องย่อ ผ้าผีบอก

เหตุการณ์ได้เล่า บอกเหตุการณ์ เมื่อ พันปีก่อน เรื่องมีอยู่ ว่า พระมหาเทวีศรีมอย ซึ่งเป็นแม่ ของ ‘เจ้าหลวงรังสิมันต์’ (หยิ่น- อานันท์ หว่อง) เจ้าเมืองเวียงไชยเชษฐ์บุรี จึงได้มีการจัดการแข่งขัน ทอผ้า เพื่อเลือกหญิงสาว ที่เหมาะสมในการขึ้นมาเป็นชายา คู่บัลลังก์ เพราะเจ้าเมืองท่านทรงพระง้องแง้ง ไม่ยอมเลือกมเหสีสักที แต่กลายเป็นว่า ‘อัญญานางหอมนวล’ (วี- วีรยา จาง) แห่งนครผางาม หนึ่งในผู้แข่งทอผ้าในครานั้น กลับถูกรัดคอตายอย่างลึกลับในระหว่างทอผ้า โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

และหนังได้เล่ามาจนถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน ‘บักคูณ/อชิ’ (วอร์ – วนรัตน์ รัศมีรัตน์) เป็นคนจัดทีมขึ้นมา เพื่่อที่จะถ่ายไลฟ์สด รายการผี  ได้ไปสัมผัสผ้าโบราณผืนหนึ่งที่บ้านของยายทวด วิญญาณของอัญญานางหอมนวลจึงปรากฏตัว เพื่อตามหาคนร้ายที่ฆ่านาง โดยมีผู้ต้องสงสัยคือเจ้านางองค์อื่น ๆ

ได้มีการให้เข้าร่วมการแข่งขันการทอผ้า ทั้ง ‘เก็ดถะวา’ (โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค), ‘สะบันงา’ (ปูเป้-จิรดาภา อินทจักร) และ ‘สาระปี’ (น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน) พ่วงมาด้วยข้าประจำตัวอย่าง ‘คำเคิบ/วีว่า’ (จีจี้- ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล) ร่วมเป็นผู้ต้องสงสัย การสืบสวนหาคนร้ายจากยุคพันปีก่อนจึงต้องเริ่มต้นขึ้น ก่อนที่อชิและพวกจะต้องเผชิญกับอาถรรพ์ครั้งใหญ่

พล็อตเรื่องของหนัง

จริง ๆ แล้วตัวพล็อตเองมีความน่าสนใจล่ะนะครับ เพราะถือว่าเป็นส่วนผสมที่แปลกใหม่ดีสำหรับหนังไทยเลยแหละ โดยเฉพาะส่วนผสมของ “คอมมีดี้-สยองขวัญ-พีเรียด-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน” แถมยังจับเรื่องตำนานพื้นบ้าน ผสมกับแนวทางของละครแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่ดูโบราณ แต่บอกไม่ได้ว่าอยู่ในยุคสมัยไหน

ทั้งหมดนี้เป็นแค่สถานที่ ที่สร้างมาไม่ได้เป็นสถานที่จริงแค่ สมมุติขึ้นมา (เฉย ๆ ว่าเป็นล้านนา) แอบแซวนิยายพีเรียดผ้าผลงานของ ‘พงศกร’ และก็มีแนวทางของหนังสไตล์ Whodunit (ไผฆ่าหอมนวล ? ) แถมยังบวกไซไฟนิด ๆ โรแมนติกหน่อย ๆ ด้วย (อืม ตกลงนี่มันหนังอะไรแล้วเนี่ย (555)

และในที่สุดก็เริ่มเดาเหตุการณ์กันออกแล้วสินะ ว่าตัวหนังจะออกมาเป็นอย่างไร ใช่ครับ มันออกมากาวมาก การ์ตูนโคตร ๆ แม้ตัวหนังในช่วงเริ่มแรกพยายามจะปูเรื่องให้เรารู้สึกน่ากลัว รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมของคนที่ฆ่าหอมนวล แต่หลังจากนั้นตลอดทั้งความยาวหนัง 100 นาที มันก็กลายเป็นความกาว เหมือนกำลังดูอนิเมะอะไรแบบนั้นเลยครับ คือถ้าใครที่จะดูเอาความสยอง ดูความ Whodunit อยากเป็นนักสืบปัวโรต์ ไรงี้ ขอให้ล้มเลิกความคิดนั้นซะเลยนะครับ

โครงเรื่องของหนัง

พอดูไปเรื่อยๆ เราจะรู้ได้เลยว่า ผู้กำกับ คิดจะวางโครงเรื่อง ให้ดูซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เหมือนเวลาเราดูหนัง Whodunit ผนวกกับการเล่าเรื่องกรรมแต่ชาติปางก่อน ที่แต่ละคนล้วนมีความผูกพันกันอย่างบังเอิญไปด้วย แต่เพราะตรรกะและการกระทำของตัวละครนี่คือแบบ…เมิงจะไม่เอาจริงเอาจังอะไรกันซักอย่างบ้างเลยเรอะ (555) ทุกการกระทำ เหตุผลของตัวละคร ล้วนเป็นไปเพื่อความกาวล้วน ๆ แถมตัวละครยังมีพลังพิเศษ ก็ยิ่งดูเบียวเข้าไปอีก

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

โดยรวมทั้งหมดแล้ว หนังได้ทำออกมาแบบไร้ขีดจำกัดมากเกินไปนะ คือมันบันเทิงและฮาด้วยความเบียวและความอีหยังวะของมันจริง ๆ ทุกการกระทำในบทหรือด้นสด นี่คือคิดตามด้วยความ Realistic ไม่ได้จริง ๆ ยิ่งเล่าไปเรื่อย ๆ เหมือนทีมเขียนบทมันมือ ยิ่งใส่ความเบียว ความเหวอแตกหนักข้อขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งบางอันก็ได้ผล ดูแล้วก็ยังพอจะฮาไปกับความบ้าบอของมันได้ แต่บางอันก็ดูจะฝืน ๆ อยู่เหมือนกัน จนถึงไคลแม็กซ์ท้าย ๆ นี่คือเวรี่เบียวจนเหวอแตกกันไปเลยยยยย

หนังผีที่ตลกมาก

แต่ก็ด้วยความเป็นหนังที่ ค่อนข้างจะติดตลดไปหน่อย และหนังได้ทำออกไปแนว เหวอแตก จนแทบจะกลายเป็นหนังคัลต์ของ BNK48 แทรกแก้เลี่ยนด้วยพาร์ตดราม่าซึ้ง ๆ ที่ตัวบทขมวดปมไว้แล้วเก็บกลับได้ดี แต่ไอ้ความเล่น ๆ มันก็กลายเป็นข้อสังเกตได้เหมือนกัน เพราะบทที่ดูเหมือนจะออกแบบมาประมาณหนึ่ง

แต่พอมัวแต่เหวอไปกับความเบียวมาก ๆ แก่นสารของเรื่องก็เลยดูกลายเป็นการสั่งสอนแบบธรรมดา ๆ ไปเสียอย่างนั้น รวมถึงบทและการเรียบเรียงเรื่องราวในบางจุดดูจะยังเก็บงานไม่เรียบร้อยเท่าใดนัก เลยทำให้การเล่าเรื่องบางพาร์ตยังดูงง ๆ ไม่เข้าที่เข้าทางไปด้วย รวมทั้งยังทิ้ง Plot Hole ไว้เยอะมากแทบจะทั้งเรื่องเลย

และในด้านของนักแสดงต่างๆของเรื่องนี้  ยกตัวอย่างที่เด่นๆเลยก็ มี BNK48 เรามักจะเห็นปัญหาของการเฉลี่ยบทบาทของเมมเบอร์ที่จะหนักเฉพาะเมมเบอร์บางคน หรือการที่เมมเบอร์รับบทบาทในหนังบางเรื่องได้ไม่เข้าปากเข้าบท แต่กับหนังเรื่องนี้ ต้องชื่นชมว่าสามารถแก้เกมตรงจุดนี้ได้ค่อนข้างดีนะครับ อาจจะเพราะว่าจำนวนเมมเบอร์+หยิ่นวอร์+ทีมแก๊งรายการผีนั้นถือว่ากำลังดี ไม่เยอะเกิน สามารถเฉลี่ยแอร์ไทม์ได้ค่อนข้างดีเลย

รีวิว ผ้าผีบอก บทสรุป

และที่เป็นประเด็นหลักๆของหนังคือ การพัฒนาบทการแสดงของตัวละครแต่ละคน ที่ถือว่าค่อนข้างได้ผลเลยล่ะครับ สามารถหยิบเอาเสน่ห์ของแต่ละคน และแทรกความตลกออกมาได้น่าสนใจ ซึ่งแฟนคลับน่าจะพอดูออกครับว่าคาแรกเตอร์ไหนที่เอามาจากตัวเมมเบอร์จริง ๆ และนั่นก็ทำให้การแสดงของ BNK48 ถือว่าโตขึ้นไปอีกระดับ

แต่ในส่วนของตัวเอกของเรื่อง  คงจะหนีไม่พ้น ‘หอมนวล’ (วี BNK48) และ ‘บักคูณ’ (วอร์ วนรัตน์) ตัวพระนางหลักของเรื่อง ที่งานนี้ถือว่ามีความน่ารักชวนจิ้น วอร์เล่นได้ทั้งบทฮา ซึ้ง โรแมนติก ส่วนน้องวีก็ถือว่าสวยและขึ้นกล้องมากจริง ๆ ครับ เรียกว่างานนี้ #วอร์วี ต้องมาละนะครับ

รีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยที่ตลก หัวเราะจนน้ำตาไหล

สรุปแล้วหนังเรื่อง ‘ผ้าผีบอก’  นี่อาจเป็นหนังที่คล้ายๆกับเรื่อง ‘หอแต๋วแตก’ เวอร์ชัน BNK48 ก็ได้ เพราะมันอุดมไปด้วยความวาไรตี้ครบรส ที่ใช้ความเบียวขั้นสุด ความกาว ล่อฮากันแบบไม่ต้องเกรงใจใคร

ในขณะเดียวกัน มันก็ยังเกาะเกี่ยวความสยองขวัญ ตำนานผี และความบันเทิงแบบจักร ๆ วงศ์ ๆ มาสับ ๆ คลุกเคล้าจนกลายเป็นหนังผีตลกที่เหมาะกับการถอดสมองระหว่างดู เหมือนกำลังนั่งกินหมกกบอยู่หน้าฮ่านอย่างไรก็อย่างนั้นเลยครับ

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

 

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ

ผู้กำกับ: เฉลิม วงศ์พิมพ์

นำแสดงโดย: โรเบิร์ต สายควัน, เบิ้ล ปทุมราช, ค่อม ชวนชื่น, ลาดา อาร์สยาม

ความยาว: 122 นาที

เข้าฉาย: 22 ตุลาคม 2020

หลวงพี่กะอีปอบเต็มเรื่อง netflix แม้ว่าชื่อจะดูเหมือน หนังไทยมาใหม่ สยองขวัญ-ตลกยอดนิยม แต่ด้วยกลิ่นอายของหนังเรื่องขุนพันธ์ โรเบิร์ต เสกวรรณ (ประยุทธ์ ภูมิรัตน์) รับบทเป็นที่จับตามองในสไตล์หนังที่มีเด็กๆ อย่างสุทธธร รับบทเป็น แบคกึม เพื่อนสนิทของตำรวจ โครงเรื่องไปข้างหน้า

ล่าสุดจากเฉลิม วงษ์พิมพ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่เป็นที่รักมากที่สุดคนหนึ่ง กับผลงานสุดมันส์ อาทิ 7 Battles, People Flying Fire เป็นต้น หลังจากออกจากภาพยนตร์เรื่อง “อีเห็ดสด เผด็จการ” เมื่อ 10 ปีที่แล้ว กลับมาทำงาน 2 ปีติดต่อกัน เริ่มจาก Thieves Exchange เมื่อบาทหลวงเปิด ปีที่แล้วกับปีนี้ ต่างจากผลงานที่ผ่านมาของเฉลิมเล็กน้อย ดูหนังออนไลน์

 

เรื่องย่อ

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

เกิดคดีแปลกประหลาดเรื่อง ปอบอีหวึ่ง ขึ้นที่หมู่บ้านทุ่งหมาหอนอันไกลโพ้น เป็นเหตุให้ทางราชการตัดสินใจส่งนายตำรวจฝีมือดีอย่าง หมวดศัจธร เพื่อให้ไปดำเนินการสืบหาความจริงพร้อมกับ บักกึ่ม เพื่อนวัยเด็กของอีหวึ่งที่เข้าเมืองมาหวังจะเป็นตำรวจสักวัน แม้หมวดศัจธรจะไม่ค่อยเต็มใจกับการเดินทางครั้งนี้มากนัก เพราะข่าวลือที่เกิดขึ้นมีเรื่องของผีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาก็จำใจต้องยอมตกปากรับคำ เพราะผู้บังคับบัญชาอย่างหม่อมบาง ยื่นคำขาดในการทำงานครั้งนี้ ดูหนังฟรี

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

บอกเล่าเรื่องราวหลวงพี่กะอีปอบ doomovieความรักข้างเดียวกับเพื่อนของเธอ หยู ยี่หยิง ​​ตั้งแต่วัยเด็ก สาวสวยบ้านนอกที่ถูกลือกันว่าเป็นผีปอบ รับบทโดย รดา อาร์สยาม (อาภาพัทธ์ สุขสวัสดิ์ชน) เพราะอีวิงให้เพื่อนรุ่นเดียวกับเธออย่างสุดใจ บักมิดแมน ได้รับการต้อนรับจาก ตูมตาม เดอะสตาร์ (ยุทธนา พึ่งกลาง) ที่เดินทางไปแดนไกลเพื่อรับใช้จ่าสิบเอก

ภาพยนตร์เรื่องนี้รวมเอาหลากหลายแนว ทั้งแอ็คชั่น, ระทึก, นักสืบ, ผี, ตลก, โรแมนติก และดนตรี (และการร้องเพลง!) พร้อมตัวละครที่คัดสรรมาเล็กน้อย แต่มีสีสันในตัวเอง เช่น แก๊งค์ตำรวจ นอกจาก สุทธพล และ แบ็คกึม เป็นตัวแทนของคนดู และ จ่าแหนม ตำรวจที่ถูกหลอกให้บ้า รับบทโดย ต้า เฟ็ดเฟ่ (กิตติศักดิ์ เวชประสาร) ที่มาสร้าง สถานการณ์เฮฮาทุกครั้ง เวลา. ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวของตำรวจและป้าคุง (อาคม ปรีดากุล) ที่หลวงพ่อและเด็กคู่หนึ่งซึ่งวิ่งหนีไปขโมยฉากตลอดทั้งเรื่อง เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้เมื่อเนื้อหาเริ่มเฉลยเงื่อนปอบฆ่าคนในหมู่บ้าน หนังก็เสริมกลุ่มตัวละครเจ้าพ่ออย่าง โก เต็ก รับบทโดย นุ้ย เชิญยิ้ม (ชูเกียรติ เอี่ยมสุข) ประกบด้วย บอล เชิญยิ้ม (ชัชชัย จำเนียรกุล) มาเสริมเรื่องเข้าอีก และเซอร์ไพรส์ก็คงเป็นการมารับบทรับเชิญในช่วงท้ายของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ในบทคนเลี้ยงปอบด้วยนั่นเอง

เห็นอย่างนี้คงพอเดาได้ว่าหนังน่าจะมีกลิ่นแปลกตาจากหนังตระกูลปอบ หรือหนังผี-ตลกอื่น ๆ ไม่น้อย และน่าจะเปิดช่องให้เล่นมุกกันได้อย่างเมามัน เพราะนักแสดงแต่ละคนก็ฮาตัวกลั่นรับส่งมุกกันอย่างเคยชินอยู่แล้ว โดยเฉพาะแก๊ง บริษัทฮาไม่จำกัด อย่าง โรเบิร์ต น้าค่อม นุ้ย และบอล นั่นเอง

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์นั้นน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะเฉลิมผู้กำกับยึดเอาตามบทหนังมากเกินไป คือพอมองออกว่าบทหนังเขียนมาแบบคงฮาไม่น้อยตอนอ่าน แต่แทนที่จะได้มุกธรรมชาติ มุกสด อันเป็นของถนัดเหล่าตลกอาชีพมาเสริมให้หนังแกร่ง กลับกลายเป็นนักแสดงฝืนธรรมชาติมาเล่นแบบจังหวะไม่เข้ารูปเข้ารอย ทำให้ตลกแนวซิตคอมตามบทหนังก็ไปไม่สุด ส่วนแนวตลกแนวคาเฟ่ก็กลืนหาย ทำให้หนังตลกน้อยกว่าที่ควร

ตัวหนังยังมีความโบราณในตัว (ในทางคารวะ) ชวนให้นึกถึงหนังไทยยุค 2530 สมัย พันนา ฤทธิไกร หรือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังเป็นพระเอกอย่าง ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ที่ผีจะมาแบบดิบ ๆ การแต่งหน้าแบบโหด ๆ ในตอนที่ซีจียังไม่ระบาดเท่าปัจจุบัน

ในขณะเดียวกันกลยุทธ์การสู้รบปรบมือกับพวกผีและผู้มีอาคมแก่กล้าฝ่ายร้าย ก็ยังชวนให้นึกถึงหนังอย่าง ผีกัดอย่ากัดตอบ หรือ สยึมกึ๋ย ที่ต้องงัดสารพัดเครื่องมือเครื่องไม้มาฟาดฟัน ทั้งฮาทั้งลุ้น รวมถึงต้องทำเงื่อนไขยาก ๆ ตามตำราโบราณให้สำเร็จเป็นอาทิ ต้องยอมรับว่าถึงหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ช่วยเติมเต็มความต้องการดูหนังสไตล์เก่า ๆ นี้ ที่เคยเป็นของโปรดปรานของคอหนังไทยยุคหนึ่งได้อย่างดี

เรียกว่าใครโหยหาหนังไทยแนวนี้คงสมใจ และยิ่งเป็นแฟนคลับโรเบิร์ต สายควัน นี่คือหนังที่เขาเป็นพระเอกของแท้เรื่องสุดท้ายเลยก็ว่าได้

 

วิจารณ์หนัง

เป็นหนึ่งในโครงการหนังผีตลกที่ทางค่ายพระนครฟิลม์…ภูมิใจนำเสนอ เพราะพยายามช่วยกันปลุกปั้นมาสักระยะ กว่าจะลงตัวออกมาเป็นหนังฉบับสมบูรณ์ในที่สุด การมาของ “หลวงพี่กะอีปอบ” จึงออกมาด้วยอรรถรสของหนังผีขำขันสไตล์ไทยๆ ที่อาจจะไม่ได้แปลกไม่อะไรเลย แต่กลับเป็นที่น่าสนใจอย่างพิลึก โดยเฉพาะเห็นได้จากความพยายามผลักดันให้เกิดเป็นจักรวาลหนังชุดใหม่ ไม่แน่…เราอาจจะได้เห็นแฟรนไชส์หนังไทยเรื่องใหม่เกิดขึ้นก็ได้

หลวงพี่กะอีปอบ อาจจะนับได้ว่าเป็นงานสุดท้ายของของดาราตลก “โรเบิร์ต สายควัน” เพราะในหนังเรื่องนี้เขาก็เปรียบเสมือนเป็นพระเอกและตัวละครหลักในการนำเรื่องก็ว่าได้ หนังเล่าเรื่องราวกับคดีประหลาดที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านทุ่งหมาหอน ทำให้ทางการได้ส่งหมวดศัจธรลงพื้นที่ไปสืบหาความจริง โดยมี บักกึ่ม เด็กรับใช้บ้านหม่อมที่ฝันอยากเป็นตำรวจได้ำนทางและติดตามไปด้วย หลวงพี่กะอีปอบเต็มเรื่องฟรี

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

 

เมื่อพวกเขาไปถึงหมู่บ้านกับพบกับความเงียบสงบชวนวังเวง ก่อนจะเจอดีกับสิ่งประหลาดตามหลอกหลอนทำให้ต้องไปพึ่งพา หลวงพี่แข่ว พระอาวุโสประจำหมู่บ้าน จึงได้ทราบว่า อีหวึ่ง หญิงสาวในหมู่บ้านถูกร่ำลือว่าเป็นผีปอบออกอาละวาด แต่เธอยังคงรอคอยชายคนรักกลับมาจากสงครามอยู่ใจปรารถนา ทำให้ภารกิจเผชิญหน้าและกำปราบผีปอบในหมู่บ้านครั้งนี้จึงเกิดความครื้นเครงขึ้น

 

สปอยหนัง หลวงพี่กะอีปอบ

หนังเรื่องหลวงพี่กะอีปอบเต็มเรื่อง hd พากย์ไทย นี้เป็นผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “เฉลิม วงษ์พิมพ์” ที่มีผลงานยอดเยี่ยมอย่าง “7 ประจันหน้า” ในภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง เพื่อให้ออร่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเน้นย้ำจุดเด่นของผลงานที่ผ่านมา แต่ตัวหนังเองก็ต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยใกล้กับเมืองหลวง รวมถึงระบบบริการแฟนคลับของนักแสดงนำชายที่ผสมผสานระหว่างความดีและความชั่ว

แม้ว่าคุณพ่อคาปอปจะยังคลุมเครืออยู่ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถส่งข้อความที่สนุกสนานและตลกขบขันให้กับผู้ชมได้ แม้ว่าบทหลักจะไม่แข็งแกร่งเท่าหนังไทยก็ตาม แต่การกลับไปเป็นตัวเอกในระดับหนึ่งก็ช่วยซัพพอร์ตให้แข็งแกร่งขึ้น

ที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องคงจะต้องยกให้ โรเบิร์ต สายควัน ที่มารับหน้าที่แบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกของหนัง นับว่าเป็นตัวละครที่ช่วยเดินเรื่องไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แม้ว่าน่าเสียดายไปสักหน่อยที่ช่วงครึ่งหลังของหนัง ตัวละครของเขาถูกทิ้งขวางไปเพราะดันสอดแทรกเลิฟไลน์ที่พยายามดันขึ้นมาบดบังแทน

 

 

ในขณะที่อีกคาแรกเตอร์ของ “เบิ้ล ปทุมราช” ที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักของหนังเรื่องนี้ นับว่าเป็นการฉายศักยภาพอีกด้านของเขาเลยทีเดียว ทั้งที่บทของเขาแทบจะไม่มีมิติอะไรเลยก็ตาม เสน่ห์และอินเนอร์ของเบิ้ลถ่ายทอดออกมาได้ดีในตัวหนัง ซ้ำยังมีฉากเซอร์วิสแฟนคลับออกมาประปรายด้วย แต่ในซีนอารมณ์อาจจะยังทำได้ไม่ถึงดี แต่ก็ถือได้ว่าเขาน่าจะเป็นอีกหนึ่งนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่ที่น่าจะไปได้สวยในการผันตัวมาเล่นก็ได้

แต่หนังกลับล้มเหลวอย่างน่าเสียดายกับการขับเคลื่อนตัวละครของ “ค่อม ชวนชื่น” ที่รับบทเป็น พระแข่ว ทั้งที่สมควรจะได้รับความเอาใจใส่มากกว่านี้ เนื่องจากคาแรกเตอร์ของเขาถูกใช้เป็นชื่อหนังเลยทีเดียว แต่ตัวหนังที่เห็นได้ชัดว่ามีการปรับเปลี่ยนบทและความโดดเด่นบางอย่าง ทำให้ตัวละครนี้ถูกลดทอนบทลงไปอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นว่าหลวงพี่ (แต่ในหนังเรียกหลวงพ่อ) เป็นตัวละครที่ถูกลืมไปอย่างน่าสงสาร

 

หนังมีช่วงดร็อปเหมือนกัน อัดเพลงเข้ามาจนแทบจะเป็น MV เพลงอยู่แล้ว

แต่การมีอยู่ของ น้าค่อม , พี่บอล เชิญยิ้ม และ จารย์นุ้ย เชิญยิ้ม ก็ถือเป็นการช่วยหนังไว้ได้เยอะเหมือนกัน ถ้ามีตั๊กกับแจ๊สตามมานี่ก็คงจะเหมือนได้ดูบริษัทฮาฯที่โปรดักชั่นใหญ่ขึ้นกว่าเป็นรายการทีวีและมีแขกรับเชิญเป็น เบิ้ล ปทุมราช กับ นางเอก นั่นแหละ ใครเป็นแฟนๆ รายการนี้ ก็น่าจะพอเดาทางกันได้ งานด้านโปรดักชั่นถือว่าทำได้ดีทีเดียว

 

 

หนังเหมือนจะบอกให้รู้ว่ามีภาคต่อแน่ๆ เพียงแต่ไม่มีน้าเบิร์ตแล้ว คนที่น่าจะพอแทนๆกันได้ ขอเดาเลยว่า ก้อง ห้วยไร่ ก็เหมาะ อาจะมาเป็นนายตำรวจมือปราบคนใหม่ที่จะต้องมาจับคู่กับ เบิ้ล ปทุมราช ในภาคต่อไปไรงี้

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

 

บทประพันธ์ : จินโจว

บทโทรทัศน์ : สร้างสรรค์/นุขหน้าจอ

กำกับการแสดง : ชุดาภา จันทเขตต์

แนวละคร : พีเรียด คอมเมดี

ผลิต : บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด

ผู้จัด : ปิยะ เศวตพิกุล, ชุดาภา จันทเขตต์

สปอยหนัง แค่ปล่อยคลิปฮาเรียกน้ำย่อยตัวแรกออกมาเป็นน้ำจิ้ม ก็ทำเอาทวิตเตอร์แทบแตก!! กดไลค์กดแชร์กันกระหน่ำถูกจริตชาวโซเชี่ยลอย่างแรง ส่งให้คลิปละคร “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” เวอร์ชั่น “ท่าโฉลง The Rapper #รับยาช่อง 3” ติดเทรนด์ทวิตเตอร์พุ่งขึ้นสู่อันดับ 4 ตั้งแต่ละครยังไม่ได้บอกวันดีเดย์ออกอากาศ ฟีดแบคดีเว่อร์เบอร์นี้ 2 ผู้จัด ค่ายโซนิกซ์ บูม 2013 ชุดาภา จันทเขตต์ ซึ่งพ่วงตำแหน่งผู้กำกับ, ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล และก๊วนนักแสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ, ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม ฯลฯ ไม่ปลื้มปริ่มยังไงไหว เตรียมปล่อยขบวนคลิปฮา un-cut ของ “ชาวท่าโฉลง” ออกมาอีกรัวๆ เรียกว่าไม่ทิ้งช่วงให้แฟนคลับได้หายใจหายคอ

 

เรื่องย่อ ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

“การเป็นหมอที่ดี คือคำนึงถึงคนไข้ ไม่ว่ายาไทย หรือยาเทศ ถ้าทำให้คนป่วยหายได้รักษาชีวิตไว้ได้ ยานั้นย่อมมีสรรพคุณที่ดี ไม่มีแบ่งแยกว่าอะไรวิเศษไปกว่ากัน”

พุทธศักราช ๒๔๑๙ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทองเอก หรือเจ้าเอก ถือกำเนิดมา ณ มณฑลกรุงเก่า ในครอบครัวของหมอยาที่สืบเนื่องวิชาแพทย์แผนไทยโบราณมาแต่ครั้งอยุธยายังเป็นราชธานี แต่เมื่อถึงวัยเพียง ๘ ปีโรคร้ายก็มาคร่าชีวิตของพ่อกับแม่ที่ยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงในฐานะหมอยา เพื่อรักษาคนไข้โรคห่า(กาฬโรค) ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนั้น ทิ้งเจ้าเอกที่ถูกแยกตัวให้ไปอยู่กับปู่ต้องเป็นกำพร้าแต่นั้นมา

พ่อหมอทองอิน ปู่ของเอก เคยเป็นหมอยาชื่อดัง แต่ครั้งหนึ่งขุนนางใหญ่แห่งกรุงเก่าได้สั่งให้ปู่รักษาลูกที่โดนหมาบ้ากัด ปู่อินรักษาอย่างสุดกำลังก็ไม่อาจยื้อชีวิตของเด็กน้อย หมอยาคู่แข่งของปู่ยุยงจนขุนนางนั้นโกรธแค้นว่าปู่รักษาไม่ดี เนรเทศปู่ไม่ให้รักษาใครอีก ปู่อินไม่ได้เกรงกลัวอะไรแต่รู้สึกเสียใจที่ทำให้เด็กตาย จึงย้ายมาอยู่บ้านท่าโฉลงอันไกลแสนไกลพร้อมกับวัยของทองเอก ที่กำลังเป็นหนุ่มหน้ามน มีความซุกซน และรักสนุก โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง

ด้วยจรรยาแพทย์ที่มีอย่างท่วมท้น ปู่หมอทองอินก็ไม่อาจเพิกเฉยเมื่อเห็นชาวบ้านที่น่าสงสารเจ็บป่วย ปู่ยื่นมือเข้าช่วยโดยได้รับการสนับสนุนจากหลวงตาเพชร ผู้เป็นที่เคารพนับถือประหนึ่งศูนย์รวมใจของชาวบ้าน หลวงตาส่งลูกศิษย์วัดคือ เปียก กับตุ่น มาศึกษาตำรายาของปู่หมอทองอิน คู่กับทองเอก ปู่หวังว่าจะช่วยทำให้ผู้คนในบ้านท่าโฉลงสุขภาพแข็งแรง จะได้เกิดปัญญา อยู่ในศีลในธรรม แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะคนในชุมชนบ้านท่าโฉลง มีความเชื่อในภูติผีอยู่เป็นทุน และยังมีหมอผีเล่นอาคมได้ครอบงำจิตใจชาวบ้านจนแยกแยะไม่ได้ระหว่างศรัทธากับงมงาย

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

มีตำนานเล่าขานสืบกันมาว่าตรงท่าโฉลงนี้คือที่เอาศพลงทิ้งน้ำ คนจึงกลัวฝังใจไม่ใคร่จะมีคนกล้าย้ายมาอยู่จนกลายเป็นหมู่บ้านเงียบๆเหงาๆ ไม่ครึกครื้นเหมือนใครเขา ตกเย็นก็พากันปิดบ้านหนีผี มีแต่ความเงียบไม่มีใครกล้าออกมาเดินเพ่นพ่าน ทองเอก เปียก และตุ่น หนีปู่ไปเที่ยวซุกซน จนไปเจอกับผีปอบ(คนป่วย) ต้องหนีกันวุ่นวาย พอเช้ามาทองเอกก็ยังมาได้เห็นวิธีการไล่ผีอันแสนทารุณของหมอผีมั่นอีกด้วย

“กรี๊ดดด” “อีผีร้าย มึงออกไปจากร่างของเด็กสาวประเดี๋ยวนี้!” หมอผีมั่นฟาดหวายอาคมไปที่สาวน้อย ยิ่งสาดน้ำมนต์ใส่นางก็ยิ่งตัวสั่น ยิ่งสั่นหมอผีก็ยิ่งฟาด ยิ่งฟาดนางก็ยิ่งกรี๊ดจนเป็นลมไป“ผีออกแล้ว”ผู้คนแซ่ซ้องสรรเสริญความเก่งกาจของหมอผีมั่น แต่ทองเอกอดรนทนไม่ได้ตะโกนบอกว่าเด็กสาวเป็นเพียงไข้สูงกำลังเพ้อมาโดนน้ำแบบนี้จะยิ่งไปกันใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ตกใจว่าทองเอกลบหลู่วิญญาณ แต่ก็มีบางคนเห็นคล้อยตามทองเอก ทำให้หมอผีมั่นโกรธจัดประกาศตัวเป็นศัตรูกับทองเอกแต่นั้นมา ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

กว่าจะจบแฮปปี้เอนดิ้งก็ทำคนดูหัวหมุนไปหลายตลบ กับละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ทางช่อง 3 ที่แม้ว่าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วก็ใส่ความฮาตลกทั้งท่าโฉลงส่งท้ายละครจนเกือบออกทะเล

เรียกว่าปิดฉากไปอย่างแฮปปี้ทุกคู่ ทุกบ้านท่าโฉลงจ้า ละครที่มีแต่ความฮาให้ได้หัวเราะหน้าจอกันตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย ที่แฟนละครรอติดตามแต่ก็มีความดราม่าเบาๆ กับเรื่องราวในละครที่ดูจะออกทะเลไปช่วงหนึ่ง เมื่อตัวละครนางเอกอย่าง ชบา (คิมเบอร์ลี) กลายเป็นแม่นาคพระโขนงแขนยาวเก็บมะนามขณะกอดกับ ทองเอก (มาริโอ้) ทำเอาแฟนละครตกใจและพูดถึงเป็นอย่างมาก แต่เมื่อสุดท้ายกลายเป็นฝันของตัวละครทองเอกที่กังวลจนฝันแปลกไป ก็ทำเอาโล่งใจกันทั้งท่าโฉลงและหน้าจอทีวีด้วย โดยละครทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ทำเรตติ้งตอนจบไปได้ถึง 8.5 ถือเป็นเรตติ้งที่สูงที่สุดของละคเรื่องนี้ ทองเอก หมอ ท่าโฉลง ตอนจบ

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

ฟีดแบคของคนดูทางทวิตเตอร์ที่พูดถึงละครผ่านแฮชแท็ก #ทองเอกหมอท่าโฉลง ep15 จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันจ้า

 

คาแรคเตอร์ตัวละคร

ทองเอก : ,มาริโอ้ เมาเร่อ
หนุ่มหน้ามนวัย 23 ปี มีความเฉลียวฉลาด และความชำนาญในเรื่องยาสมุนไพร สามารถ สัมผัส ดู ลิ้มชิมรส ดม แยกแยะตัวยา และสรรพคุณได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน อารมณ์ดี รักสนุกตามวัย โดยเฉพาะวัยที่แตกเนื้อหนุ่ม มุ่งหวังอยากจะมีคนรัก และมุ่งหวังจะเป็นหมอยาสมุนไพรเพื่อสืบเนื่องวิชาแพทย์แผนไทยโบราณให้คงอยู่ตลอดไป

ชบา : คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส
หญิงสาวที่อ่อนหวาน เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ (เฉพาะเวลาที่ต้องออกงานหรืออยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่คุ้นเคย) ความเป็นจริงแล้ว ชบาค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง และนิสัยออกไปทางแก่นกล้า คล้ายเด็กผู้ชาย ไม่กลัวใคร แม้จะมีหน้าตาที่สะสวย แต่ความแก่นของชบาก็ไม่สามารถพิชิตใจของทองเอกได้ แต่ในที่สุด ความดี ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้อื่นของชบาต่างหาก ที่เอาชนะใจของทองเอกได้ในที่สุด

กล้า : ปรมะ อิ่มอโนทัย
ลูกชายเศรษฐีนีโรงสีข้าว ที่นอกจากจะมีเงิน เขายังมีความรักที่มั่นคงต่อชบา ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชบา แต่กล้าก็ยังเผลอไผลไปกับความงามของผ่อง และความที่กล้าเป็นคู่อริกับทองเอก ทำให้กล้าแย่งชิงผ่องมาเป็นผู้หญิงของตนเองเพื่อเอาชนะ แต่ผู้หญิงที่กล้ารักจริงๆ และอยากจะได้มาเป็นภรรยา คือชบาคนเดียวเท่านั้น

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

ผ่อง : ภูริตา สุปินชุมภู
หญิงงาม กริยามารยาทเรียบร้อย ต่อหน้าคนทั่วไป ที่ครั้งนึงเคยเป็นโรคตุ่มน้ำพอง จนแม่(หมอผีมั่น) ต้องแยกให้ไปอยู่กลางป่าตามลำพัง และผู้คนยังคิดว่าเป็นผีปอบ ต่อมาทองเอกรักษาจนหาย กลายร่างเป็นสาวงามในพริบตา ทั้งสองคิดว่ามันคือ ชะตาฟ้าลิขิต ที่สวรรค์ส่งสาวงามมาเป็นคู่ของทองเอก แต่ความจริงผ่องไม่ได้มีจิตใจที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น ผ่องกลับมีความทะเยอทะยาน เชื่อในคารมของแม่ว่า ผู้ชายรวยเท่านั้นที่จะเหมาะกับผ่อง

กลิ่น :ชญานิศ จ่ายเจริญ
น้องสาวผู้เรียบร้อยของกล้า ในขณะที่พี่ชายเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย กลิ่นกลับมีนิสัยตรงกันข้าม พูดน้อย(ต่อยหนักไม่รู้ตัว) เรียบร้อย ชอบอ่านบทกวี ร่ายคำกลอนแอบหลงรักเพิ่ม ก็ไม่กล้าจะคุย จะพูดจาด้วย จะมีก็แต่ต่อบทกวีกันไปมาให้ได้เขินอายกันไป

 

สปอยหนัง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

ความเป็นมา : เป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยสมัยก่อน ในสี่หัวข้อหลัก คือ

 

 

  • ความรัก ครอบครัว ชุมชนและสังคม
  • ธรรมะ และพุทธศาสนา
  • ไสยศาสตร์ ภูติผีวิญญาน
  • ยารักษาโรค สมุนไพรไทย

โดยมีตัวละครในเรื่อง นำพาเรื่องไปในแนวทางคอมเมดี้ และสอดแทรกความรู้ ธรรมะ ความเชื่อ ยาสมุนไพรไทย ตลอดจนการรักษาแผนปัจจุบันที่เข้ามาในท้ายเรื่อง โดยมิได้ชักนำว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก เพราะเราเชื่อว่า ศรัทธาทำให้เกิดปฏิหาริย์ได้ ! ทองเอกหมอท่าโฉลงทุกตอน

 

การดำเนินเรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง

 

 

โดยการดำเนินเรื่อง จะทำให้คนดูแยกแยะ และเลือกที่จะเชื่อได้ด้วยตัวเอง เช่น ยาไทยก็ดี รักษาโรคได้มาช้านาน แต่เมื่อมียาฝรั่งและการแพทย์สมัยใหม่เข้ามา ที่รักษาตรงไปที่โรค ที่เชื้อโรค มิใช่แนวแก้อาการแบบยาไทย และยาไทยยังมิได้ถูกคิดค้น พัฒนาไป ณ จุดนั้น แต่อีกทางหนึ่ง เพียงแค่น้ำมนต์ของพระเกจิอาจารย์ดัง ก็สร้างศรัทธาหมู่ ให้ชาวบ้านหายจากโรคระบาดได้ (จากคอลัมน์ ห่าลง..โรคระบาดรุนแรงในอดีต โดย ท่าพระจันทร์ วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ 2557) ทำให้ตัวละครหลักของเรื่อง เข้าใจจิตใจมนุษย์เพิ่มมากขึ้น ว่าทำไมเราถึงต้องมีศรัทธา เพราะศรัทธาสร้างกำลังใจ ทำไมมนุษย์ทุกคนต้องมีศาสนา และไม่ว่าศาสนาไหน ก็สอนให้คนเป็นคนดี ทองเอกหมอท่าโฉลง ep1

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

 

เด็กใหม่ ซีซั่น 1 Girl from Nowhere Season 1 (2561 TV series ) นับเป็น หนังไทยnetflix ที่มีความแปลกประหลาด รวมทั้งมีความน่าดึงดูดใจเป็นอย่างมากสำหรับการพรีเซนเทชั่นรายละเอียดที่ขวานผ่าซาก กับการวิเคราะห์วิจารณ์สังคม และก็เปิดเผย นิสัยดิบของความเป็นคน รวมกับการผลิตผู้แสดงที่มีเอกลักษณ์แจ้งชัด ซึ่งเมื่อแรกฉายก็กระตุ้นให้เกิดกระแส แนนโน๊ะฟรีเวอร์” ไปทั่วทั้งประเทศ ความน่าดึงดูดใจของซีรีส์ประเด็นนี้จะเป็นยังไงบ้าง โปรดติดตามการรีวิว การวิเคราะห์ รวมทั้งความซาบซึ้งในซีรีส์ประเด็นนี้ได้เลยนะครับ

 

พล็อตเรื่อง

พล๊อตเรื่องอย่างคร่าวๆของซีรีส์เด็กใหม่ เกิดเรื่องราวของวัยรุ่นหญิงคนหนึ่ง ที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก ไม่รู้เรื่องว่าคุณมาจากไหน คุณเป็นผู้ที่มีลักษณะท่าทางแปลก ไว้ผมหน้าม้า บริเวณใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลห์กล มีลับลมคมในตลอดระยะเวลา คุณจะย้ายสถานศึกษาใหม่ในทุกตอน และก็มีท่าทางการเปิดตัวที่คล้ายคลึงกัน กับคำบอกเล่าแนะนำตัวว่า แนนโน๊ะนะคะ

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

แนนโน๊ะซีซั่น 1 จะมีความรู้ความเข้าใจพิเศษในด้านการมองมองเห็น หรือการหยั่งลึกเข้าไปในจิตใจของคนเราบางบุคคล ที่มีความอ่อนแอ บอบบาง หรือบางบุคคลที่อุตสาหะจะกดด้านมืดของตนเอาไว้ แม้กระนั้นก็พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเวลา หรือผู้ที่มีพฤติกรรม หรือความนึกคิดผิดไม่สมควร ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

และก็เมื่อแนนโนะมองเห็นเหยื่อ คุณจะเข้าไปจัดแจงทางจิตวิทยากับเค้าเหล่านั้น ด้วยแนวทางที่เจ็บแสบ หรือบางบุคคลก็จัดแจงด้วยแนวทางแบบโหดเหี้ยมไปเลย ซึ่งแนนโนะจะจัดแจงกับคนพวกนี้อย่างไรบ้าง ก็ขอให้ไปติดตามรับดูต่อเองได้ทาง Netflix ครับผม

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

เด็กใหม่ นับเป็นซีรีส์ไทยที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และเป็นกระแสทันทีนับตั้งแต่ฉายตอนที่ 1 ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่ย้ายเข้ามาใหม่ในโรงเรียนแห่ง สามารถจัดการกับครูจอมหื่นได้อย่างเจ็บแสบซึ่งเป็นตอนที่เปิดตัวแนนโน๊ะ หญิงสาวที่มีบุคลิกแรง มีความชัดเจน และมีความมุ่งมั่นในการกระทำอะไรบางอย่างให้เกิดผลสำเร็จ

ซึ่งในตอนนี้ค่อนข้างมีความรุนแรง และแสดงให้เห็นถึงวิธีการจัดการของแนนโนะที่เจ็บแสบมาก เชื่อว่าหากใครได้ดูตอนที่ 1 ก็จะต้องติดกับของแนนโน๊ะอย่างแน่นอน แล้วมันจะดึงให้เราดูไปจนจบทั้งซีซั่นได้ทันที

แนนโน๊ะได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นอย่างชัดเจน และรวดเร็ว เพราะหนังทั้งหมดมันสื่อถึงความเป็นวัยรุ่น มันสื่อถึงภาวะความไม่มั่นคงทางจิตใจของวัยรุ่นมันสื่อถึงภาวะความอิจฉา ความอยากได้อยาก มีอยากเป็น อยากเด่น อยากดัง อยากมีตัวตนของวัยรุ่น และก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงบริบทต่าง ๆ ของวัยรุ่น เช่นความรักของครอบครัว ความรักของเพื่อน ปัญหาครูกับนักเรียน ปัญหาระบบการศึกษา

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

บทสนทนาก็ใช้ภาษาแบบวัยรุ่น ใช้คำว่า “มึง-กู” และด่ากันแบบไม่ต้องเกรงใจ บางคนก็ด่าครูแบบเจ็บ ๆ บางคนก็แก้แค้นสถานศึกษาแบบเจ็บแสบสิ่งนี้มันทำให้วัยรุ่นเมื่อดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ก็เหมือนกับว่ าซีรีส์นี้ได้พูดแทนพวกเขาในทุกประเด็น ด่าแทนพวกเขาในทุกประเด็น ดูแล้วก็มีความสะใจวัยรุ่นไม่น้อย

เขาทำให้เราเห็นว่าซีรีส์เรื่องนี้ กล้านำเสนอในสิ่งที่ซีรีส์อื่นไม่ค่อยกล้าทำนัก เช่นการนำเสนอเรื่องเพศ การใช้คำพูดที่รุนแรง การกระทำที่รุนแรงที่ส่งผลต่ออารมณ์ และจิตใจของคนดูอย่างชัดเจน แล้วมันตรงกับใจคนดู ซึ่งเนื้อหาหลายตอนนั้น มันก็คือภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการบูลลี่ในสังคมวัยรุ่น เรื่องการคล้อยตามในกระแสข่าวของ Social Media เรื่องราวความโสมมของระบบการศึกษา เรื่องราวความแตกร้าวในครอบครัว และที่สำคัญก็คือความดัดจริตภายในจิตใจของมนุษย์ และมันก็มีอยู่ในสังคมไทยอย่างแท้จริง

เราทุกคนต่างรับรู้ ต่างเห็นว่ามี แต่เราก็ปล่อยมันผ่านไป เราทนกับมันทั้ง ๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ผิด บางครั้งเราก็ยอมรับมันและทำตาม ๆ กัน และเมื่อซีรีส์ที่นำเสนอในแง่มุมที่มีความชัดเจนขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจ ที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอย่างรวดเร็ว

 

ความโดดเด่นของซีรีส์

บางตอนมีลักษณะแบบเอาคืน บางตอนมีลักษณะแบบแก้แค้น บางตอนก็ทำให้เห็นในแบบลักษณะของการเตือน บางตอนก็มีความรุนแรงมากในการลงโทษ บางตอนก็ดูโหดร้าย บางตอนก็ดูหวานแหวว การสลับไปสลับมาโดยการเปลี่ยนแปลงวิธีการของแนนโนะนั้น มันทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ ปรับสมดุลอารมณ์ของคนดูตลอด 13 ตอนได้ดี มันไม่ได้เริ่มต้นจากเบาไปหาหนัก แต่มันสลับกันไปเบาบ้างหนักบ้าง

แต่ละตอนจะมีความสนุกแตกต่างกัน เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดู ก็จะต้องตั้งตาว่า ในแต่ละตอนว่าแนนโน๊ะจะมีวิธีการจัดการกับคนยังไง เธอจะกระชากความดัดจริตของมนุษย์ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน และมันจะดำเนินเรื่องอย่างไร ซึ่งถือว่า ทุกตอนนี้ความสนุกไม่แพ้กัน

แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ แนนโนะเป็นใคร เชื่อว่าทุกคนก็ต้องตั้งคำถามกับประเด็นนี้ แล้วก็ตีความไปต่างอๆนานา อาจเป็นคนธรรมดา ผี ปีศาจ หรือซาตาน หรือจิตใต้สำนึกด้านมืดของมนุษย์ หรือด้านมืดของสังคม หรืออีโก้ หรืออาจเป็นสัญลักษณ์ของกิเลสตัณหา ราคะ ซึ่งเป็นได้ทั้งหมด ความเป็นตัวตนของแนนโน๊ะ ก็เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของตัวละครที่แนนโน๊ะจะไปจัดการ เด็กใหม่ กำเนิด ยู ริ

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

 

แนนโน๊ะคือใคร ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย เอาไปฝังดินก็แล้ว ตกจากตึกสูงก็แล้ว ก็ยังไม่ตาย ย้ายโรงเรียนทุกตอน วิธีการจัดการกับผู้คนหลายตอนก็มีความประหลาดมาก บางตอนออกไปทางแฟนตาซีด้วยซ้ำ นี่แหละคือน่าสนใจของตัวละครนี้

ความคิดส่วนตัวของผม แนนโน๊ะมีความใกล้เคียงกับซาตานมากที่สุด เพราะพฤติกรรมของเธอนั้นชอบทดสอบมนุษย์ โดยเฉพาะการทดสอบในด้านจิตใจ ชอบค้นหาด้านมืดของมนุษย์ และก็ล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป ทั้ง ๆ ที่มนุษย์คนนั้นก็พยายามข่มเอาไว้แล้ว แต่แนนโน๊ะก็จะไปขุดขึ้นมาจนได้ และจัดการกับบุคคลนั้นอย่างสาสม

แนนโน๊ะจะเล่นกับคนที่มีความเปราะบางทางด้านจิตใจ ทำให้คนหลายคนเผยด้านมืดของตัวเองออกมา โดยที่เธอจะเข้าไปยุยง เสนอแนวทาง หรือปั่นกระบวนการทางความคิด หาใครที่มีจิตใจไม่มั่นคงเพียงพอ ไม่ยึดมั่นในความดีของตัวเองเพียงพอ ก็จะทำให้คนนั้นระเบิดกิเลศของตนเองออกมาอย่างเต็มที่และเชื่อไหมว่า แนนโน๊ะไม่ได้ทำร้าย ทำลายใครด้วยน้ำมือของเธอเลย บุคคลต่าง ๆ ที่เธอเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ล้วนแต่ทำร้าย ทำลายตัวเอง ด้วยน้ำมือและสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของตัวเองทั้งสิ้น

 

สปอยหนัง เด็กใหม่ the series

แนนโน๊ะรู้ว่าคนเรามีทั้งด้านสว่างและด้านมืด ไม่มีใครหรอกจะดีงามไปหมด ซึ่งคนที่เขาดีนั้น เขาก็แค่ใช้ด้านสว่างกดด้านมืดเอาไว้ ให้อยู่ในที่ที่มันควรอยู่ ให้อยู่ในกรอบของสังคม สมกับคำว่าเป็นคนดี แต่คนดีอาจไม่ดีจริง ถ้ามีความคิดที่เลวร้ายแฝงอยู่ แล้วถ้าเธอเห็นเธอจะดึงสิ่งนี้ออกมา

แต่ก็ใช่ว่าแนนโน๊ะ จะเป็นคนที่มีความโหดร้ายเสมอไป บ่อยครั้ง แม้เธอจะให้โทษกับบุคคลต่าง ๆ แต่ก็มีอยู่บางครั้งที่เธอต้องการ จะให้คนกลับตัวกลับใจ ให้โอกาสกับคนกลับตัว ตอนนี้ทำให้แนนโน๊ะเปลี่ยนจากซาตานกลายเป็นนางฟ้าเลยทันทีครับ

อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก ๆ ก็คือ การสร้างบุคลิกของตัวละครที่มีความชัดเจน ตัวละครที่จะสร้างคำถามกับสังคม ตัวละครที่ตอบคำถามของสังคม เป็นตัวละครที่จัดระเบียบสังคมนี้ ในแบบที่ใครหลายคนมีความคิดว่าอยากจะจัดการ นั่นก็คือตัวแนนโน๊ะนั่นเอง แนนโน๊ะ นักแสดงทั้งหมด

 

 

แนนโน๊ะจะทำหน้าที่สื่อสารกับคนดูโดยตรง ตั้งคำถามกับคนดูโดยตรง และก็เปิดโอกาสให้คนดูตอบคำถามแบบปลายเปิด

แนนโน๊ะมีบุคลิกที่ชัดเจนมาก นัยน์ตาแฝงเลศนัย รอยยิ้มของเธอแฝงไว้ด้วยความไม่ไว้วางใจ พฤติกรรมและการกระทำของเธอนั้น มันสะท้อนภาพความดัดจริตของมนุษย์ออกมาได้อย่างชัดเจนมาก ๆ ส่วนตัวแล้ว ผมขอยกย่องว่านี่คือการออกแบบตัวละครที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งของวงการบันเทิงไทยเลยทีเดียว

แต่มันจะประสบความสำเร็จไปไม่ได้เลย หากขาดคนที่จะมารับบทเป็นแนนโน๊ะ ซึ่งก็คือ น้องคิทตี้-ชิชา อมาตยกุล เธอถ่ายทอดทุกอย่างของความเป็นแนนโน๊ะได้ออกมาอย่างชัดเจน ฝีมือเธอเก่งกาจอย่างที่สุด ในแบบที่ตัวละครนี้จะเป็นได้

บอกเลยว่าหากมีการทำซ้ำหรือทำใหม่ในอนาคต ผมก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครมารับบทนี้ได้เหมือนเธอ หรือหากมีคนมารับบทนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะดีเท่าเธอหรือไม่ ขอชื่นชมจากใจจริงครับ

 

นักแสดง

นักแสดงแนนโน๊ะ ss1ประกอบเกือบทั้งหมดของเรื่อง ทางทีมสร้างเข้าก็ใช้เด็กใหม่แทบทั้งหมด หลายคนเราไม่รู้จักหน้าตาเลย บางคนก็จะออกมาให้เราเห็นในโฆษณาบ้างเล็กน้อย ส่วนตัวแล้วผมว่านี่คือสิ่งดี มันทำให้เราไม่ยึดติดกับภาพพจน์ของคนที่มาแสดง มันทำให้เราไม่รู้ว่าใครจะเป็นยังไง หลายคนเล่นดีแบบใช้ได้เลย ก็ถือว่าเป็นคลื่นใหม่ที่น่าจับตา

แต่ในบางบทบาทที่การต้องใช้ทักษะในการแสดงสูงมาก ๆ เขาก็ยังใช้บริการของนักแสดงแสดงรุ่นเก่า เพื่อมาทำให้ซีรีส์ในแต่ละตอนนั้นมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

Ep. 4 ตอน Hi-so แสดงโดย เบสท์ ณัฐสิทธิ์ นักแสดงวัยรุ่นมากคุณภาพ การันตีฝีมือการแสดงคือรางวัลสุพรรณหงส์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม มารับบทเป็นเด็กนักเรียนที่ทำตัวเป็นคนไฮโซ ซึ่งเขาก็แสดงบทบาทให้ได้อย่างยอดเยี่ยม

Ep. 9 ตอน กับดัก ซีรีส์ใช้บริการของ โอ อนุชิต นักแสดงมากความสามารถ การันตีฝีมือคือรางวัลสุพรรณหงส์สมทบชายยอดเยี่ยม และรางวัลอีกมากมาย เขามารับบทเป็นครู ที่ต้องติดอยู่ในห้องกับนักเรียน เขาสามารถสะท้อนภาพของครู ที่ถูกเด็กนักเรียนตั้งคำถามถึงบทบาทของครูได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

Ep.10 ตอน ขอบคุณค่ะคุณครู แสดงโดยคลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา นี่คือหนึ่งในนักแสดงที่มากความสามารถ มารับบทเป็นครู ที่ต้องการให้ระบบการศึกษาไทยดีขึ้น แต่เธอก็ต้องแบกรับอะไรไว้หลายอย่าง โดยเฉพาะความแตกร้าวในชีวิตคู่ของเธอ สำหรับนักแสดงคนนี้ผมถือว่าเป็น The Best ของนักแสดงรับเชิญในเรื่องนี้เลย

Ep. 11 ตอน The rank แสดงโดยป๊อก ปิยธิดา เรื่องนี้แม้ว่าเธอจะไม่ได้แสดงฝีมือมากนัก แต่รอยยิ้ม ใบหน้า ลีลาการพูด และน้ำเสีย มันก็เป็นการสร้างให้ซีรีส์ตอนนี้มีความสมบูรณ์และลงตัวมาก

และโดยส่วนตัวของผมแล้ว ซีรีส์เด็กใหม่ที่ใช้นักแสดงรุ่นเก่ามานำแสดงในบาลงตอน ผมถือว่าเป็นหนึ่งตอนที่ดีที่สุดของซีรีส์ทั้งหทดเลยทีเดียว

โดยส่วนตัวแล้ว หากนำตอนทั้งหมดของซีรี่ส์เด็กใหม่ให้ผมจัดอันดับความชอบ 3 ลำดับ ก็จะได้ดังนี้

ชอบมากที่สุดก็คือ Ep.9 ตอนกับดัก เล่าเรื่องราวของครูคนหนึ่ง กับเด็กนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง ติดอยู่ในห้องเรียน แล้วต้องหลบซ่อนอยู่ในห้องนั้น เนื่องจากว่ามีข่าวฆาตกรโรคจิตปลอมตัวเป็นนักเรียนเข้าฆ่านักเรียนไปหลายคน ในตอนนี้นำเสนอเกี่ยวกับสันดานดิบของมนุษย์ได้ดีมาก การตั้งคำถามของการทำหน้าที่ของบุคคลได้ดีมาก รวมถึงการตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของผู้ใหญ่ การทำหน้าที่ของผู้บริหารประเทศ การทำหน้าที่ของครู การทำหน้าที่ของพ่อแม่ การทำหน้าที่ของนักเรียน การทำหน้าที่ของเพื่อนต่อเพื่อน ความรับผิดชอบของคน ถือว่าเป็นตอนที่ดีมาก ดำเนินเรื่องดีสนุก ชัดเจน แถมยังสรุปได้ดีมากด้วย

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

 

 

ประเภท : โรแมนติก/ดราม่า

ผู้กำกับ : นิธิวัฒน์ ธราธร

เข้าฉาย : 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นักแสดงนำ : เรย์ แมคโดนัลด์ รับบท ตั้ม/ พิสิทธ์ , ชุติมา ทีปะนาถ รับบท เชอรี่ , จรินทร์พร จุนเกียรติ ,รับบท นุ่น, มธนากร ชินกูล รับบท ตั้ม (ไทย)

หนีตามกาลิเลโอ (อังกฤษ: Dear Galileo) (เดิมชื่อ กาลิเลโอ เพราะโลกมีแรงดึงดูดเป็น หนังไทยมาใหม่ แนวโรแมนติก/ดราม่า มีระบุเข้าฉายในโรงหนังวันที่ 23 ก.ค. พุทธศักราช 2552 ควบคุมโดย นิธิวัฒน์ พระนารายณ์ โดยภาพยนตร์หัวข้อนี้ไปถ่ายทำไกลถึง ประเทศ เมืองเป็นลอนดอน อังกฤษกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แล้วก็ เวนิส ประเทศอิตาลี ภาพยนตร์ทำรายได้ 30.34 ล้านบาท

 

เรื่องย่อ

นุ่นกับเชอรี่เป็นเพื่อนรักกัน เริ่มเรื่องที่ทั้งสองไปเล่นบันจี้จั๊มพ์ด้วยกัน และเล่าเรื่องปัญหาของตัวเองให้ฟัง “นุ่น” (จรินทร์พร จุนเกียรติ) มีปัญหารักเพราะเพิ่งจะเลิกกับแฟนที่ชื่อว่า “ตั้ม” (ธนากร ชินกูล) และพยายามที่จะลืมเรื่องของตั้ม ส่วน “เชอรี่” (ชุติมา ทีปะนาถ) มีปัญหาเรื่องเรียนเพราะอยากจะเข้าใช้ห้องเขียนแบบ แต่อาจารย์ไม่มาจึงปลอมลายเซ็น จึงถูกพักการเรียน 1 ปีเต็ม ทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันตามลำพังโดยไป อังกฤษ-ฝรั่งเศส-อิตาลี (ลอนดอน-ปารีส-เวนิส และปิดท้ายด้วยที่หอเอนพีซ่า เมืองพีซ่า) แถวบ้านเกิดของกาลิเลโอ

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

 

ระหว่างที่ไปอยู่ที่อังกฤษทั้งสองได้ที่พักของญาติ และหารายได้ด้วยการไปทำงานที่ร้านอาหารไทยในอังกฤษ ซึ่งต่อมาได้ถูกให้ออก เพราะขาดงานไปเที่ยว ทั้งสองจึงออกเดินทางไปฝรั่งเศส และได้ไปพบกับ “ตั้ม หรือ พิสิทธิ์” (เรย์ แมคโดนัลด์) ที่นั่น ตั้ม พิสิทธิ์ทำให้ทั้งสองได้คิดว่า “คนอื่นเขามาต่างประเทศก็เพื่อมาเที่ยว แต่สองคนนี้มาอยู่แต่ในครัว” ต่อมาเชอรี่ได้แสดงฝีมือทางสถาปัตย์ของตน ในงานแสดงผลงานศิลป์ที่จัดโดยตั้ม พิสิทธิ์ และเพื่อน ทำให้ได้รู้จักกับชาวอิตาลีที่สนใจงานของเชอรี่ และเสนอให้เธอไปร่วมงานด้วย ซึ่งเชอรี่ดีใจที่จะได้ทำงานที่ตนชอบ และได้อยู่ทึ่ประเทศอิตาลี ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

จากนั้นทั้งสองไปที่อิตาลี และทำงานที่ร้านอาหารอิตาลีในเวนิสโดยบังเอิญ เชอรี่วางแผนโกงเงินเจ้าของร้านกับนุ่น ซึ่งนุ่นทำเสียแผนแล้วถูกจับได้ และโดนส่งกลับประเทศไทย เชอรี่รู้สึกผิดและถ่ายคลิปขอโทษไว้ เมื่อถึงวันเกิดของกาลิเลโอตามที่ทั้งสองได้สัญญาไว้ว่าจะมาที่หอเอนพีซ่า เพื่อจะมาพิสูจน์ว่าหอมันจะล้มหรือเปล่า แต่นุ่นไม่มา เชอรี่จึงส่งเมสเสจไปหา และนุ่นก็ส่งเมสเสจกลับมาว่า “ใครคิดถึงบ้านบ้าง ยกมือขึ้น!!!” ทำให้เชอรี่ซึ้งใจกลับไปประเทศไทย แล้วทั้งสองก็เป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม หนีตามกาลิเลโอ netflix

 

พล็อตเรื่อง

ประโยคปลอบประโลมใจเพื่อนพ้องของ เชอร์รี่ (เล่นบทโดย ต่าย ชุติมาคุณถูกพักการศึกษาหลังจากปลอมลายเซ็นอาจารย์เพื่อเข้าห้องเขียนแบบ ส่วนเพื่อนซี้ของเธอ นุ่น (แสดงโดย เต้ย จรินทร์พรพึ่งเลิกกับแฟนชายหนุ่มชื่อตั้มมาหมาดๆสองสาวที่เหมือนชีวิตกำลังพบเจอกับปัญหา ก็เลยตกลงจะไปดำรงชีวิตต่างถิ่นเพื่อลืมเรื่องที่ประเทศไทย โดยจะไปสามอังกฤษ อิตาลี รวมทั้งประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแนวถิ่นกำเนิดกาลิเลโอ ส่งผลให้เกิดเป็นชื่อหนัง หนีตามกาลิเลโอนั่นเองจ้ะ

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

ประเทศแรกที่ทั้งคู่มาถึง อย่างเช่น ลอนดอน อังกฤษ ซึ่งทั้งคู่ได้ดำเนินการในห้องอาหารไทยเพื่อหารายได้เป็นคนทำอาหารในห้องอาหารไทย ชีวิตที่ดูเหมือนจะง่าย ได้ออกมาต่างชาติ แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็โดนไล่ออกเพราะเหตุว่าไม่ได้มาทำงานท่องเที่ยว ในตอนที่อยู่อังกฤษนั้น ทั้งคู่ก็ได้พบพ่อครัวชายหนุ่มใหญ่ที่มาอยู่ต่างถิ่นแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ปฏิบัติงานเป็นพ่อครัวเพื่อส่งเงินกลับไปอยู่ที่บ้าน คำกล่าวตบท้ายของชายหนุ่มใหญ่ อยู่เมืองนอกถึงจะได้เงินมากมาย แต่ว่าก็ไม่เสมือนอยู่บ้าน ที่นี้เหงาหงอย และไม่นานเขาก็โดนตำรวจจับได้และก็ส่งคืนไปบ้าน

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

สองสาวจึงเดินทางต่อไปยังเมืองโรแมนติก ปารีส ประเทศฝรั่งเศส พวกเขาก็ได้พบกับหนุ่มไทยอินดี้ นามว่า ตั้ม พิสิทธิ์ (แสดงโดย เรย์ แมคโดนัลด์) ท่ีอยู่ในปารีสในโรงงานเก่า ๆ แต่ดัดแปลงเป็นบ้าน หากตำรวจมาจับก็จ่ายค่าปรับให้ หนุ่มตั้มเป็นคนที่ช่างสังเกต เขามักจะให้ความคิดที่ได้จากการสังเกต เช่น ฉากที่เจอกับสาวนุ่น เธอกำลังข้ามถนน แต่ไม่มองรถ ทำให้หนุ่มตั้มรู้ว่าเป็นคนไทย ข้ามถนนไม่มองไฟจราจร

จนตามมายังบ้านที่เป็นโกดัง สาวนุ่นบอกว่าไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ อยู่ได้ยังไง หนุ่มตั้งก็ตอบแบบง่าย ๆ คิดว่าอยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าคิดว่าอยู่ได้ก็อยู่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา เขามาจับก็จ่ายค่าปรับ เพราะเรามาขอเขาอยู่ฟรี ทุกสังคมมีกฎ มีกติกา เรามาแอบอยู่ก็ต้องยอมเขาไป หนุ่มตั้มยังให้ฝากคำพูดจี๊ด ๆ อย่าง แปลกน่ะ มาเที่ยว แต่กลับมาหั่นผักอยู่ในครัว และไม่นานทั้งสองก็เดินทางมายังประเทศสุดท้าย บ้านเกิดกาลิเลโอ นั่นก็คือ เมืองปิซ่า ประเทศอิตาลี

ทั้งสองได้ทำงานที่ร้านพาสต้า เป็นพนักงานขาย จนเชอร์รี่ได้คิดกลโกงจากเจ้าของร้าน แอบขายพาสต้าที่เหลือ จนนุ่นโดนจับได้และถูกส่งกลับ เชอร์รี่รู้สึกผิดและเสียใจมาก เพราะเธอกลับนึกถึงตัวเองที่เคยโกงลายเซนต์อาจารย์ ถึงกลับต้องหนีมาต่างประเทศ และยังคิดว่าตัวเองถูก เรื่องนี้ทำให้เธอนั้นสำนึกผิดว่าตัวเองนั้นทำผิดจริง ๆ หนีตามกาลิเลโอ pantip

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

 

เชอร์รี่นั้นเป็นพวกแหกกฎ มักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ โลกหมุนรอบตัวเอง ไม่โทษตัวเอง ชอบจะโกงเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์โดยไม่สนว่าใครจะเดือดร้อน จนสุดท้ายเธอต้องกลับมายอมรับว่า เธอนั้นไม่เหมือนกับกาลิเลโอที่ คิดว่าตัวเองถูกเรื่องทฤษฎีโลกไม่ได้เป็นจุดศุนย์กลางของจักรวาล จนเขาตายไปแล้วถึงจะถูกพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก แต่เธอนั้นทำผิดจริง ๆ โกงยังไงก็ถือว่าโกงค่ะ เพราะสิ่งที่เธอทำมันผิดจริง ๆ

หนังกาลิเลโอยังมีหนังในดวงใจของเราอีกเรื่องหนึ่ง ที่ให้ข้อคิดแก่วัยรุ่น ช่วงที่เรามักคิดว่าทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจ อยากจะทำในสิ่งตรงข้ามโดยไม่สนสิ่งรอบข้างว่าจะมีผลร้ายอย่างไร มีพ่อแม่ พี่น้องเป็นห่วงเราอย่างไร และการใช้ชีวิตที่อาจจะเหมือนว่าง่าย ไม่ว่าจะใช้ชีวิตที่ไหนก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์ของสังคม เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราค่ะ เราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่งเหมือนทฤษฎีโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เรื่องนี้จึงเป็นหนึ่งโปรดของเราด้วยปราการฉะนี้ค่ะ

 

เกร็ดจากภาพยนตร์

 

  • ผู้กำกับ ต้น นิธิวัฒน์ ใช้วัยรุ่นสาวไทย 2 คนเป็นตัวละครนำในเรื่องนี้ เนื่องจากประสบความสำเร็จจากสูตรนี้มาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตัวละคร เชอรี่ ที่รับบทโดย ต่าย ชุติมา มีปัญหาต้องหยุดเรียน 1 ปี เพราะทำผิดกฎที่เธอคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เหตุการณ์นี้คล้ายกับชีวิตจริงของผู้กำกับ ต้น นิธิวัฒน์ ที่เคยเกือบไม่ได้รับปริญญาเพราะมีเรื่องทะเลาะกับอาจารย์
  • 1 ในตอนแรก ผู้กำกับไม่แน่ใจว่า ต่าย ชุติมา และ เต้ย จรินทร์พร ที่อายุห่างกัน จะสามารถแสดงเป็นเพื่อนวัยเดียวกันได้หรือไม่ แต่เมื่อให้ทั้งคู่ลองแสดงด้วยกัน ผู้กำกับเห็นว่าไม่มีปัญหาน่าหนักใจเลย ต่ายและเต้ย จึงรับบท เชอรี่และนุ่นตามลำดับ
  • 2 ในตอนแรก ผู้กำกับกำหนดตัวละคร ตั้ม มีอายุประมาณ 26-27 ปี จึงไม่แน่ใจว่า เรย์ แมคโดนัลด์ ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี จะเหมาะสมกับบทหรือไม่ แต่เมื่อให้เรย์ลองแสดงแล้ว ต้นคิดว่าเรย์ ทำให้ตัวละครตั้ม มีความน่าเชื่อถือ มีมิติ และน่าสนใจยิ่งขึ้น หนีตามกาลิเลโอ เต็มเรื่อง 037
  • แผนกคัดเลือกนักแสดงหาคนที่มารับบท พี่ทอม อยู่นาน จนกระทั่ง จิระ มะลิกุล ผู้อำนวยการสร้างแนะนำให้เลือก ชำนิ ทิพย์มณี เพราะชำนิเคยเดินทางไปอยู่ต่างประเทศด้วยตนเอง แล้วยังดิ้นรนทำงาน และเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับทอมในเรื่อง อนึ่งชำนิเป็นช่างภาพมืออาชีพฝีมือดี ผู้สร้างจึงให้ชำนิช่วยถ่ายภาพใบปิด (โปสเตอร์) ของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

 

สปอยหนัง หนีตามกาลิเลโอ

คงต้องบอกว่า คนที่เคยจากบ้านไปเรียนเมืองนอก หรือไปอยู่หอ คงจะซึ้งกับเรื่องนี้น่าดู เพราะหนังแสดงอารมณ์ของความเป็นห่วงของพ่อแม่ต่อลูกที่ต้องจากบ้านไปไกล และอารมณ์ของโรคโฮมซิก คิดถึงบ้านได้อย่างละเอียดดีมาก

ในส่วนของการใช้ชีวิตเมืองนอก ก็เก็บรายละเอียดการใช้ชีวิตในทุกๆแง่มุมได้ดีมาก เรียกได้ว่า สมาคมศิษย์เก่านักเรียนนอก ดูแล้วต้องอมยิ้ม ว่า ?ตูก็โดนมาแล้ว? หรือคนที่กำลังอยากจะไปหาความศิวิไลซ์เมืองนอกก็จะได้รู้และเตรียมตัวไว้ก่อนเลยว่า ?มันไม่ใช่อย่างที่คิด?

 

 

การดำเนินเรื่องพูดกันตามตรงว่ามีความเรื่อยเฉื่อยอยู่บ้าง แต่ในความเรื่อยเฉื่อยนั้น ได้ปูเรื่อง และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ให้คอยลุ้นว่าจะเกิดอะไรต่อไป หรือไม่ก็อมยิ้มกับมุกกุ๊กกิ๊กได้ตลอดเวลา และได้สร้างบรรยากาศให้กับผู้ชมอย่างดีไปสู่ฉากตอนจบให้ได้รับคำตอบของชีวิต ของผู้หญิงสองคนนี้ อย่างไม่ต้องแปลความอะไรกันอีก ได้ข้อคิดที่ชัดเจน

ขอชมเชย น้องต่ายที่เล่นได้อารมณ์ เหงา กวน ลองดี ภูมิใจ ได้อย่างชัดเจนเป็นธรรมชาติ และเรย์ แมคโดนัลด์ที่ ?กวนโอ๊ย? ได้อย่างลงตัว เป็นถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจของเรื่องนี้ ส่วนตัวประกอบบางคนดูไร้อารมณ์ไปหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้เนื้อเรื่องเสียรสชาติ น้องเต้ยก็เล่นได้น่ารักแต่ซีนอารมณ์ยังไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ หนีตามกาลิเลโอ เต็มเรื่อง hd