Tag Archives: หนังเก่าไทยน่าดู

บุษบา สปอยหนัง

บุษบา สปอยหนัง

บุษบา สปอยหนัง

 

 

ชื่อภาพยนตร์ : บุษบา

ผู้กำกับ : ชัยวัฒน์ สีตลาศัย

นักแสดงนำ : กรีน อัษฎาพร, เจฟฟรี เบญจกุล, โย่ง อนุสรณ์

ประเภท : สยองขวัญ

นับว่าเป็นความกล้าหาญของคนทำภาพยนตร์ไทยอีกค่ายหนึ่งที่เอาหนังที่ผู้แสดงมิได้ล่อใจอะไรมากมายมาฉายในตอนท่กระแส หนังไทยมาใหม่ บ้านพวกเราไม่ค่อยดีเยอะแค่ไหน กับหนังผีที่ถ้าหากเป็นเมื่อราวๆ 10 กว่าปีกลายจะเป็นหนังที่ขายได้แน่ๆ แต่ว่ากับเดี๋ยวนี้ สำหรับผมมีความรู้สึกว่าไม่ง่ายเลยที่หนังจะล่อใจผู้ชมให้ซื้อตั๋วไปดูได้ กับเรื่องนี้ จำเป็นต้องขอขอบคุณมากรอบสื่อจาก filmframe production ด้วยครับ

 

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ “มินตรา” หรือ “มินท์” นักเต้นแนว Contemporary Dance ที่กําลังเดินทางตามความฝันของคุณเป็นการเป็นนักเต้นที่เป็นที่รู้จักระดับโลก คุณได้รับการทาบทามให้ร่วมออดิชั่นในกการแสดงเรื่องรามเกียรติ์ที่ประสมประสานระหว่างรำไทยกับโมเดิร์นแดนซ์เข้าด้วยกัน โดยที่คุณจำต้องเข้ารับการทดลองใน บท นางสีดา” การแสดงคราวนี้จัดขึ้นโดยบริษัท Organizer ที่ใหญ่อันดับที่หนึ่งของประเทศ ซึ่งผู้ครอบครองเป็น ทศ” ทศถูกใจมินท์ตั้งแต่ต้นที่ได้พบแต่ว่าติดตรงที่ตัวเขาเองมีเมียอยู่แล้ว

 

บุษบา สปอยหนัง

 

ผู้ที่มินท์ถูกใจเปลี่ยนไปเป็น เมษ” ผู้กํากับการแสดงงานคราวนี้ แต่ว่าเมื่อคุณจำต้องให้ทัศนคติเกี่ยวกับนางสีดา เมษได้ตกลงใจเลือก จีน่า” มินท์เก็บซ่อนความผิดหวังเอาไว้ แม้กระนั้นก็ยังยอมร่วมการแสดงคราวนี้ถัดไป ด้วยการเป็นนักเต้นสำรอง วันเดียวกันนั้นเองที่กลุ่มนักเต้นเริ่มเอ่ยถึงกระแสข่าวลือที่ ว่า 2 – 3 ปีกลายในสตูดิโอที่นี้เคยมีนางรําที่กําลังจะสวมบทนางสีดาหายตัวไป บรรยากาศเริ่มดูราวกับว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ในเวลาเดียวกันก็มีผีนางรำคนหนึ่ง มารอปรากฎตัวด้านข้างตัวมินท์แล้วก็มานะช่วยทำให้คุณได้บทนางสีดาอย่างที่เธอต้องการ มินท์พยายามหาคำตอบว่าที่ผีนางรำมาช่วยตนเพื่ออยากอะไรกันแน่ ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

บุษบา สปอยหนัง

 

บุษบา สปอยหนัง

 

บทหนังดูมีการผสมผสานกันระหว่างความลึกลับบวกกับการสืบสวนอะไรบางอย่าง ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง หนังผีส่วนใหญ่จะอิงแนวนี้เป็นหลัก เพราะมันไม่ได้ไปหลอนกับความน่ากลัวของผีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของการสืบเสาะหาความจริงที่ให้หนังสามารถเล่นกับตรงนี้ได้ และอาจมีการหักมุมเล็กๆ เพื่อความเซอร์ไพร์ส ซึ่งเรื่องนี้การดำเนินเรื่องการลำดับเรื่องยังแปลกๆ อยู่บ้าง เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรที่เดาไม่ได้ และตอนจบที่เหมือนจะหักมุมแต่ก็ไม่ได้ทำให้เซอร์ไพร์สอะไรเท่าไหร่ รวมไปถึงการเอา รามเกียรติ์ มาดัดแปลงเป็น Contemporary Dance ที่หนังยังสื่อออกมาได้ไม่ดีพอ คือคนดูไม่ได้อินไปกับความเป็น นางสีดา ที่นักแสดงต้องการบทนี้นักหนา

 

จุดแข็งของหนังเรื่องนี้

จุดแข็งเลยของเรื่องคือ ความเป็นหนังผีไทยนี่แหละ ที่เอกลักษณ์คือเรื่องของความหลอนและการผล่ออกมาหลอกคนดูในแต่ละดอก เรื่องนี้ทำได้ค่อนข้างดีครับ ถือว่าหลอกให้สะดุ้งได้ในหลายๆ จังหวะ ทั้งตอนมีผีหรือตอนไม่มีผี ด้วยบรรยากาศและความน่ากลัวของตัวผีบุษบาเอง มาได้จังหวะจะโคนแบบคนดูสะดุ้งหลายทีอยู่นะ

 

บุษบา สปอยหนัง

 

ตัวนักแสดงสำหรับผม กรีน อัษฎาพร สอบผ่านครับ ถึงจะดูยังไม่พริ้วกับหนังใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็ทำได้ดี และแบกรับหนังเอาไว้ได้ ส่วน โย่ง อาร์มแชร์ ส่วนตัวผมว่ายังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่ก็พอได้ เพราะพี่แกก็ไม่ใช่นักแสดงอาชีพนี่นา ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่

เอาเป็นว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังผีไทยที่เข้าสูตรและมาตรฐานของหนังผีไทยแหละครับ เพียงแต่สิ่งที่ผมหวังคืออยากให้มีอะไรที่แปลกใหม่มากขึ้นกว่านี้สักหน่อย จะดีมากครับ สำหรับใครที่อยากดูหนังผีไทย ก็ลองไปดูกันครับ

 

พล็อตเรื่อง

พล็อตเรื่องที่น่าสนใจ แต่วิธีการเล่าเรื่องราวใน “บุษบา” นั้นแค่คนดูเห็นหน้านักแสดงแต่ละคนในเรื่อง ก็เดาได้แล้วว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น นางเอกก็แสดงเป็นนางเอกผู้แสนดีตลอดเวลา พระเอกก็ขี้เก๊กห่วงหล่อ บรรดานางร้ายก็ต้องจิกตา แต่งตัวโป้ๆจริตเกินเบอร์ ส่วนคุณนายก็ต้องเล่นแบบใหญ่ๆรัชดาลัยต้องกราบ ซึ่งวิธีการแสดงของนักแสดงในหนังเรื่องนี้เหมือนกับเล่นละครหลังข่าวมากกว่า จะเป็นการแสดงในภาพยนตร์

ยังไม่รวมไปถึงความเชยตกยุคของบทภาพยนตร์ ที่เหมือนทีมงานไปค้นคว้าหนังสยองขวัญสืบสวนสอบสวนราว 20 ปีที่แล้วมาอ้างอิงเป็นพล็อตเรื่อง อาทิ ตัวละครในเรื่องต้องเดินเข้าไปในเขตพื้นที่แปะป้ายห้ามเข้า ฉากตัวละครโดนผีหลอกแต่ที่จริงคือความฝัน โรงละครที่น้ำรั่วกันอยู่ตลอดเวลาจนไม่รู้ว่าท่อแตก หาช่างซ่อมไม่ได้ หรือผีเฮี้ยนจนทำให้การประปานครหลวงไม่อาจจะมาซ่อมโรงละครที่จะเปิดทำการแสดงในไม่กี่วัน

 

 

ความไม่สมเหตุสมผลของโลเคชั่น ปัญหานี้น่าจะการเลือกโลเคชั่นที่มีไม่มีความคล้ายคลึงกันของสถานที่ ทำให้คนดูไม่รู้สึกร่วมไปว่าบรรดาห้องหับต่างๆในหนังเรื่องนี้คือสถานที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องซ้อมเต้น (เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา) โรงละครที่เหมือนถ่ายในย่านใจกลางเมือง โซนออฟฟิศของตัวคณะละครที่งานสถาปัตยกรรมดูไม่กลมกลืนไปส่วนที่เหลือ ชั้นบนของตึกที่เก่าทรุดโทรม เหมือนไปถ่ายที่ห้องเรียนของมหาวิทยาลัยรัฐฯ ย่านสุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะคนดู ไม่ได้มีโอกาสมองเห็น “รูปทรงภาพนอก” ของโรงละครแห่งนี้ก็เป็นได้ ทำให้เราไม่มีโอกาสเข้าใจลักษณะโดยรวมของสถานที่แห่งนี้ และทำให้สถานที่ในหนัง (ในความรู้สึกคนดู) กระจัดกระจาย ไม่เป็นพื้นที่อันหนึ่งอันเดียวกัน

น่าเสียดายท่ามกลางความล้าสมัยของหนัง กลับมีประเด็นที่น่านำมาขับเน้นให้แซ่บกว่านี้ก็คือเรื่องของ “การชิงดีชิงเด่นของผู้หญิง” ที่ไม่ว่าจะต้องรบราฆ่าฟันกันให้ตายไปข้าง แต่สิ่งที่พวกเธอต้องการคือการใช้เสน่ห์ เรือนร่าง ความสะสวย เพื่อการคุมอำนาจเหนือผู้ชายและเป็นหลักประกันให้ชีวิตของตัวเองว่าจะได้สุขสบายต่อไปในภายภาคหน้า

 

บุษบา สปอยหนัง

เป็นหนังผีไทยอีกหนึ่งเรื่องที่หลอนติดตาแบบสุดจัด โดยการเล่นกับความคุ้นเคยของคนไทย นั่นคือ “ผีนางรำ” ที่มาพร้อมกับเสียงเพลงแบบไทยๆ แค่เห็นหรือได้ยินก็หลอนแล้ว และยิ่งมาผสมผสานกับการเต้นแนว Contemporary Dance ในเรื่องอีกด้วย บอกเลยว่า หลอนติดตาแบบขนหัวลุกกันสุดๆ

“มินท์” (กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล) นักเต้นที่อยากมีชื่อเสียง ระดับนานาชาติ ได้เข้าร่วมออดิชั่นการแสดงเรื่อง รามเกียรติ์ เข้ารับบท “นางสีดา” ได้เจอกับ “ทศ” (เจฟฟี่-เบญจกุล) เจ้าของบริษัท Organizer ทศได้ชอบมินท์ ตั้งแต่แรกเห็น แต่คนที่มินท์ชอบกลับเป็น “เมษ” (โย่ง อาร์มแชร์) ผู้กำกับการแสดง เมษ เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ อนาคตไกล แต่เจ้าชู้แพรวพราว จึงเป็นที่ต้องตาของบรรดาสาวๆ รวมทั้งมินท์ แต่เขาไม่ได้สนใจมินท์มากกว่าผู้ร่วมออดิชั่นคนอื่นๆ

 

 

แต่สิ่งที่น่าสงสัยของเรื่องนี้ คือ เมื่อ 2-3 ปีก่อน เรื่องลึกลับได้เกิดขึ้นที่สตูดิโอแห่งนี้ มีนางรำที่รับบท “นางสีดา” หายตัวไป จะเกี่ยวข้องกับใครหรือไม่ มินท์จึงต้องพยายามหาคำตอบเพราะเขาได้เห็น “ผีนางรำ” อยู่บ่อยครั้ง ขณะซ้อม
ตัวหนังเป็นแนว ลึกลับ สยองขวัญ โดยจะทำให้เราสงสัยครุ่นคิด ตอนต้นถึงกลางเรื่อง ว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงเกิดขึ้น และหนังจะค่อยๆเฉลยคำตอบออกมา ไปตามประเด็น ดำเนินเรื่องแบบเส้นตรง และยืดยาวไปนิดนึงตอนกลางเรื่อง มีหักมุมนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ

เรื่องเสียงกับภาพต้องบอกเลยว่า ลงตัวสุดๆในจังหวะที่ต้องลุ้นระทึก จนตัวเกร็ง หลอนแบบติดตาไม่พอ ยังติดหูอีกต่างหาก และยังคงมีจังหวะ Jump Scare หรือ ผีตุ้งแช่ อยู่ในฉากที่เหมาะสม ไม่บ่อยเกินไป ส่วนด้านการเล่าเรื่อง เหมือนว่าจะดูรีบๆเกินไป ยังไม่ทันได้อินกับฉากนั้นๆสักเท่าไหร่ ก็ตัดไปที่ฉากใหม่แล้ว และเป็นแบบนี้บ่อยมาก แต่โดยรวมแล้วเป็นหนังผีไทยที่มาตรฐานดีมากๆ

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

 

 

เรื่อง : Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ (2022)

ประเภท : โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า

นักแสดง : ญาญ่า อุรัสยา, ณัฎฐ์ กิจจริต

ระยะเวลาการรับชม : 2 ชั่วโมง 11 นาที

ช่องทางการรับชม : Netflix

คะแนนจากผู้เขียน : 8/10

Fast & Feel Love เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สนุกไหม สนุก!!ภาพยนตร์ผลงานของผู้กำกับคนเก่ง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่เคยฝากผลงานไว้อย่างฮาวทูทิ้ง (2019) และ ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2015) เรื่องนี้ยังคงเป็นสไตล์ดราม่า แต่มีความโรแมนติกคอมเมดี้เข้ามาด้วย ได้นักแสดงนำแม่เหล็ก อย่างสาวสวยญาญ่า อุรัสยา ประกบคู่กับหนุ่มหล่อ ณัฎฐ์ กิจจริต ตอนนี้ออกอากาศให้รับชมทาง Netflix แล้ว หลังผู้เขียนเข้า #workshop การเขียนคอนเทนต์กับทางทรูไอดี เลยอยากรีวิว หนังไทยมาใหม่ สักเรื่อง ปกติรีวิวแต่หนังฝรั่ง ซีรีส์เกาหลี ซีรีส์จีน ขอเลือกเรื่องนี้ล่ะกัน เพิ่งเข้า Netflix และสนุกด้วย ก็อยากเชิญชวนทุกคนมาดู หนังดีของไทย ที่ไม่ควรพลาด ไปติดตามกับรีวิวนี้กันค่ะ

 

เรื่องย่อ

 

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

 

เรื่องย่อ Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ (2022) บอกเล่าเรื่องราวของ เกา (รับบทโดยณัฎฐ์ กิจจริต) หนุ่มนักเรียงแก้ว ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นแชมป์เรียงแก้วอันดับหนึ่งของโลก กับ เจ (รับบทโดยญาญ่า) สาวนักบัญชี ที่ใฝ่ฝันอยากมีชีวิตอันแสนเรียบง่าย หลังจากได้รู้จักกันขณะเรียนมัธยมปลาย ทั้งสองก็ตกลงคบหากัน โดยเจเป็นฝ่ายสนับสนุนคอยช่วยให้เกามีเวลาฝึกซ้อมได้เต็มที่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินด้วยดีมาตลอด เกามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฐานะนักเรียงแก้วฝีมือดี เจก็เป็นแม่บ้านที่ดูแลเอาใจใส่เกาไม่ห่าง แต่เมื่อถึงวัย 30+ เกายังคงวิ่งตามความฝัน แต่เจอยากลงรักปักฐานมีครอบครัวมีลูก เมื่อเป้าหมายต่างกัน ชีวิตคู่มันจะลงเอยอย่างไร ต้องไปติดตามทาง Netflix หนังยาว 2 ชั่วโมง 11 นาที ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

ชอบตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องเลยที่คุณครูถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ชอบคำตอบของนักเรียนแต่ละคนรวมทั้งนักแสดงที่มาคามีโอด้วย แค่เปิดเรื่องก็ฮาแล้ว เรื่องราวความฝันของเกา ที่อยากเป็นนักเรียงแก้วกับบริบทสังคมไทย ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ นำเสนอออกมาได้ดี น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน

 

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

 

หนังผสมผสานเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่เข้ามาได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เรื่องซื้อบ้าน ทำอาหารเช้า ยันซักผ้า ตลอดไปจนถึงขายบ้าน ผู้กำกับใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อยที่ใส่ลงไป ทำให้หนังมีความสมจริง เข้าถึงได้ไม่ยาก เป็นชีวิตคู่ที่ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายให้ตลอดเวลา ส่วนอีกฝ่ายก็รับลูกเดียว มีความดราม่าเป็นช่วง ๆ แต่ไม่หน่วง ทุกปมดูสนุก ชอบบ้านของเกากับเจ สวยน่าอยู่

 

แนะนำนักแสดง

ณัฐ กิจจริต เหมาะกับบท เกา หนุ่มเนิร์ดนักเรียงแก้ว ที่ชีวิตไม่มีอะไรนอกจากการซ้อมและการซ้อม มีเป้าหมายเดียวคือเรียงแก้วให้ได้เวลาน้อยที่สุด หนุ่มณัฐแสดงดี ดูเป็นเด็กเนิร์ด ๆ เคมีกับญาญ่า มีความสมจริงเหมือนเป็นคู่รักหนุ่มเนิร์ดกับสาวใจดี ลุ้นอยากให้ง้อเธอให้สำเร็จ

 

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

 

ญาญ่า รับบท เจ สาวใจดีกับทุกคน เธอมีความฝันง่าย ๆ ทำงาน แต่งงาน มีลูก ญาญ่ากับบทแม่บ๊านแม่บ้าน มีเสน่ห์น่ารัก เล่นเป็นธรรมชาติ ยิ่งซีนปลูกต้นไม้ ดูอินสุด ๆ เจรักเกามาก พร้อมทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุกเกา เมียดียืนหนึ่ง คาแรกเตอร์น่ารัก ดูไปก็คิดไปว่า เจช่างเป็นแม่บ้านในอดุมคติ ถ้าหนุ่มไหนได้ภรรยาอย่างนี้ คงพร้อมยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตคู่

 

ดราม่า สอดแทรกความตลก และข้อคิดดี ๆ

Fast & Feel Love เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ 037 ผลงานของผู้กำกับ เต๋อ-นวพล บทดีงาม ให้ข้อคิดดี ๆ หลายเรื่อง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์และเรื่องการทำตามความฝัน ไม่ว่าจะนักกีฬาโอลิมปิกหรือ นักเรียงแก้ว หรือใครก็ตามที่อยากทำอะไรให้สำเร็จสักอย่างหนึ่ง คีย์สำคัญคือการทุ่มเทฝึกซ้อม พัฒนาฝีมืออย่างหนัก และในการที่จะมีเวลาฝึกซ้อมให้ได้อย่างเต็มที่ มันมีหลายคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะพ่อ แม่ เมีย และ โค้ช หนังเล่าส่วนนี้ออกมาได้ซึ้งกินใจ บางครั้งเมื่อหมกมุ่นกับอะไรมาก ๆ เราอาจหลงลืมความจริงข้อนี้ไปได้ และอีกด้านหนึ่งถ้ามองในมุมมองของชีวิตคู่ เมื่อความรักมันไปต่อไม่ได้ มันก็เหมือนขโมยเวลาของกันและกัน

 

 

ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ยังคงเป็นแนวดราม่า เหมือนเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับ แต่ใส่ความโรแมนติก คอมเมดี้เข้ามาด้วย ทำให้ย่อยง่ายกว่าทุกเรื่อง ดราม่าไม่หนักหน่วง ขำ ตลก สนุก เล่าความสัมพันธ์คู่รักออกมาสวยงาม สอดแทรกความตลกเสียดสี ผ่านตัวละครทั้งคุณน้องแม่บ้าน เมทัลสายซัพพอร์ท โค้ชตัวน้อยไผ่หลิวสายโหด และ คุณแม่เกาสายบุญ ชอบมุกเลียนแบบหนังออสการ์ Parasite ชนชั้นปรสิต (2019) ที่แม่บ้านเมทัลพาคนขับรถคนเกาหลี กับติวเตอร์คนเกาหลีมาสอนภาษาอังกฤษ ตอนท้ายทิ้งปมเปิดไว้ในเครดิตท้ายเรื่อง ถ้าดูไม่ผิดเป็นรูปสามคนพ่อแม่ลูกใช่ไหม ว่าแต่มันคือครอบครัวของใคร? ปลง! ไม่ต้องไปคิดมัน หนังมันจบดีในตัวของมันอยู่แล้ว

 

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สปอยหนัง

เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ netflix (อังกฤษ: Fast and Feel Love) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวตลกใน พ.ศ. 2565 กำกับและเขียนบทโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นำแสดงโดย ณัฏฐ์ กิจจริต และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 และจัดจำหน่ายโดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า

ผมมองว่า Fast & Feel Love เป็นหนังที่มีความเฉพาะตัวสูงมาก คือ จะบอกว่ามันโดดเด่น เล่นได้แบบนี้กับแค่หนังเรื่องนี้ มันก็เป็นเพราะหนังเรื่องนี้เลือกปูสีสันและวิธีเล่าของหนังไว้แบบนี้ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีความล้อเลียนหนังเยอะไปหมด จนยากที่จะบอกได้ว่านี่คือประโยคคำคมที่มาจากหนังเรื่องนี้นะ เพราะมันมีการร้อยเรียง และล้อเลียนไปควบคู่กัน ไปบนเนื้อหาที่ธรรมดา ๆ แต่โคตรตลกกับสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาให้ได้ชมกันถ้าให้เปรียบเทียบความใกล้เคียงเรื่องวิธีการเล่า ผมคงเปรียบเทียบกับหนังโฆษณากวนๆ หลายๆ ตัวของ Salmon House แต่เป็นแบบหนังยาว แต่ถ้าเทียบกับหนังด้วยกัน มันจะมีความกวนแบบ Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอแต่ไม่ได้ขายความดราม่าอะไรเลย เพราะแม้แต่ซีนดราม่าของหนังเรื่องนี้ ก็ยังเล่าให้มีความสนุกและกวนแบบสุดๆ ได้

 

 

โดยภาพรวม Fast & Feel Love เป็นหนังที่ผมชอบมากในหลายๆ จุดโดยสิ่งที่ชอบสุดคือชั้นเชิงของการเล่าเรื่องที่ทำได้มีสีสัน ล้อเลียน เสียดสี หลายสิ่งหลายอย่าง และทำให้มันตลกได้แม้ว่าหนังจะสอดแทรกประเด็นดราม่าในชีวิตของคู่รักอย่าง เกา และ เจ ที่แม้จะดูเป็นเรื่องธรรมดา ๆ แต่มันมีความน่าสนใจตรงที่ ความธรรมดาในหนังเรื่องนี้ ล้วนถูกบอกเล่าในแบบไม่ธรรมดาเลย

Fast & Feel Love เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ ดู เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ดราม่า ที่สนุก ขำ ดูไม่เบื่อ เพลินตลอดทั้งเรื่องเล่าเรื่องการทำตามความฝัน และความสัมพันธ์ชีวิตคู่ได้สมจริง มีดราม่าแต่ไม่หนักหน่วง ดูเพลินมาก เป็นอีกหนึ่งผลงานของสาวญาญ่าที่ไม่ควรพลาด ให้คะแนน 8/10 รับชมได้ทาง Netflix

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

 

 

หลังจากที่ Marvel Studios ได้พาเราไปท่องเที่ยวตามแนวคิดพหุจักรวาล (Multiverse) หรือที่เรียกว่ามัลติเวิร์ส ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของ MCU (Marvel Cinematic Universe) เฟสที่ 4 ในตอนนี้สถานการณ์เริ่มทวีความวุ่นวายโกลาหลและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเหตุนี้เองหมอแปลกจึงต้องขอกลับมาร่ายมนต์เพื่อแก้ไขความผิดพลาดเหล่านั้นใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’หรือ‘จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย’

อย่างที่ทราบว่าหมอแปลกที่กลายมาเป็นจอมเวทใน Doctor Strange full movie (2016) และไปโผล่ในฐานะสมาชิกอเวนเจอร์ส (Avengers)ในภาพยนตร์หลายเรื่องมาถึงตอนนี้หนังเดี่ยวภาคที่ 2 ของหมอแปลกก็มาถึงเสียทีพร้อมๆกับการจับธีมมัลติเวิร์สมาเล่ากันแบบเต็มๆโดยไม่ต้องเล่าปูพื้นอะไรให้วุ่นวายบวกกับธีมหนังสยองขวัญที่มาพร้อมกับเรื่องราวของตัวแปรของหมอแปลกและตัวละครอื่นๆ ที่มาจากมิติเดียวกันและจากต่างมิติ หนังไทยมาใหม่

 

เรื่องราว

จากเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงของหมอแปลกหลังกลายเป็นจอมเวทใน ‘Doctor Strange’ (2016) และหลังเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อความผิดพลาดต่อมัลติเวิร์สใน‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) ในภาคนี้หมอแปลกจึงต้องกลับไปแก้ไขเรื่องราวต่างๆ นานาที่ส่งผลสะเทือนรุนแรงต่อมัลติเวิร์สเมื่อคุณหมอแปลก ‘ดร. สตีเฟน สเตรนจ์ / ดอกเตอร์สเตรนจ์’ (Benedict Cumberbatch) ต้องทรมานจากชีวิตรัก เมื่อ‘คริสติน พาลเมอร์’ (Rachel McAdams) กำลังจะแต่งงานใหม่กับใครบางคนที่ไม่ใช่เขา

แถมยังต้องทรมานซ้ำสองจากฝันร้ายในฝันเขาได้เข้าช่วยเหลือ ‘อเมริกา ชาเวซ’ (Xochitl Gomez) สาวน้อยผู้มีพลังในการทะลุผ่านมัลติเวิร์สที่กำลังถูกปีศาจจากต่างมิติไล่ดูดพลัง หมอแปลกพบว่า แท้ที่จริงแล้วทั้งหมดเป็นแผนของ‘วันด้า แมกซิมอฟฟ์ / สการ์เลต วิตช์’ (Elizabeth Olsen)ที่ต้องการดูดพลังของอเมริกา ชาเวซเพื่อใช้เดินทางไปพบกับลูกแฝดของเธอในอีกมิติ ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

 

ทำให้ดอกเตอร์สเตรนจ์และอเมริกา ชาเวซ ทะลุไปยังลอนดอนที่อยู่ในมิติอื่นจนได้เจอกับตัวแปรของ ‘คาร์ล มอร์โด’ (Chiwetel Ejiofor) อดีตเพื่อนร่วมสำนักคาร์มาทาจ (Kamar-Taj) ที่ไม่น่าไว้วางใจ และตัวแปรของ ‘คริสติน พาลเมอร์’ที่ทำให้หมอแปลกหวั่นไหว ส่วน ‘หว่อง’ (Benedict Wong) จอมเวทสูงสุดก็ต้องรับหน้าที่ปราบแม่มดสการ์เลตวิตช์ที่ตอนนี้สามารถร่ายมนต์เพื่อสร้างความปั่นป่วนได้ในระดับมัลติเวิร์สเพราะเธอได้ครอบครองคัมภีร์ดาร์กโฮลด์ (Darkhold)คัมภีร์เวทมนตร์ด้านมืดที่มีความอันตรายอย่างมาก

 

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

ถ้า ‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) และแอนิเมชันซีรีส์ ‘What If…?’ (2021) เปรียบเหมือนการซ้อมรับมือกับมัลติเวิร์ส ใน Doctor Strange 2’ ก็คือการลงสนามจริงแบบเต็มตัวล่ะครับแถมยังเป็นการมาแบบเล่นใหญ่กันตั้งแต่เปิดเรื่องกันเลย เดินเรื่องแบบสายลุยไม่ต้องคุยให้เสียเวลารวมทั้งสไตล์การกำกับจากไรมีที่ทำให้การดำเนินเรื่องในภาคนี้มีรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างออกไปจากภาคแรกอยู่มากพอสมควร

ความแตกต่างที่ชัดเจนมากๆก็คือการที่Marvel Studiosเองเริ่มจะเอานโยบายเดินเรื่องยาวไม่เล่าปูมหลังย้อนความให้เสียเวลาผลก็คือตัวหนังสามารถกระชับเรื่องราวและเล่าแบบเร็วๆได้เลยด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้เดินเรื่องเร็วมากแต่ข้อเสียก็คือหนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ยังไม่ได้ทำการบ้านด้วยการดูเรื่องอื่นๆหรืออ่านคอมิกมาก่อนหรือแค่อยากลองชิมลางหนัง Marvel เฉยๆเพราะอาจมีเหวอจนตามไม่ทันว่าตัวละครแต่ละตัวมีปูมหลังเชื่อมโยงกันยังไงอะไรที่เราควรจะรู้สึกเซอร์ไพรส์ถ้าอยากดูจริงๆอย่างน้อยก็ต้องทำการบ้านมาในระดับหนึ่ง

 

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

 

รวมทั้งการเอาแซม ไรมี ผู้กำกับที่พอจะมีลายเซ็นชัดทั้งจังหวะสยองขวัญ มุกกวนๆ มุมกล้อง การตัดต่อการวางองค์ประกอบภาพแบบที่แฟนหนังคุ้นเคยนำเสนอด้วยกลิ่นอายหนังสยองขวัญคลาสสิกที่ได้อิทธิพลมาจากผลงานเก่าๆ ของเขาเอง ทั้งไตรภาค ‘Evil Dead’, ‘Drag Me to Hell’ (2009) บวกกลิ่นแฟนตาซีแบบ ‘Oz the Great and Powerful’ (2013) นิดหน่อย ผสมความกวนแบบไตรภาค ‘Spider-Man’ ทำให้โทนโดยรวมมีความเป็นหนังสยองขวัญแบบแซม ไรมีที่มีความฮา เพี้ยน ระห่ำแบบชนเพดานเรต PG-13 มากกว่าจะเป็นหนัง Marvel คลีนๆดูได้ทั้งครอบครัวในแบบที่เราคุ้นเคย

ด้วยส่วนผสมทั้งหมดที่ว่ามา ทำให้ผู้เขียนรู้สึกได้ว่า ถ้าในอดีต ‘Evil Dead’ เคยถูกจัดเป็นหนังคัลต์ยังไงหนังเรื่องนี้ก็คือการหยิบเอาวิธีการแบบหนังคัลต์คลาสสิกมาใช้นั่นแหละรวมทั้งพล็อตการดำเนินเรื่องแรงจูงใจของตัวละครที่มีความคัลต์อยู่ในตัวทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังฮีโร Marvel ที่แตกต่างด้วยกลิ่นอายของหนังสยองขวัญ และมีความเป็นหนังคัลต์ที่มีครบทั้งความบ้าคลั่ง เพี้ยน กวนเบื้องล่าง แบบที่แฟนหนังแซม ไรมี จะกรี๊ดแน่นอนคือคงสู้หนังสยองขวัญจริงๆไม่ได้หรอกแต่วิธีการนี้ก็ถือว่าโดนเส้นและไปด้วยกันกับเรื่องราวของหมอแปลกแห่ง Marvel ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

การดำเนินเรื่อง

การดำเนินเรื่องแม้ตัวหนังจะพยายามบิลต์ว่าเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับมัลติเวิร์สแบบเต็มตัวตามชื่อภาคแต่ผู้เขียนก็แอบรู้สึกว่าการนำเสนอเกี่ยวกับมัลติเวิร์สก็ยังดูกั๊กๆไปหน่อยนะ ส่วนตัวบทก็ถือว่าเข้าใจง่ายเป็นเส้นตรงและเป็นสูตรสำเร็จอยู่พอสมควรยังดีที่ตัวหนังเองยังมีเซอร์ไพรส์ และวิธีการดำเนินเรื่องแบบคัลต์ๆสยองขวัญที่มีความดาร์กบ้า ฮา สยองมาช่วย ทำให้ตัวหนังที่ดูจะเดาง่ายและมีการกระทำบางอย่างของตัวละครที่ดูไม่เมกเซนส์ ยังมีความน่าสนใจอยู่ รวมถึงงานซีจีที่มีกลิ่นอายจากภาคที่แล้ว แต่เพิ่มเติมความแปลกใหม่เข้าไปโดยเฉพาะฉากทะลุมัลติเวิร์สและฉากร่ายมนต์ที่ตื่นตาและดีงามมากๆ doctor strange 2 เข้าฉายไทย

 

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

 

อีกจุดที่ผู้เขียนรู้สึกชอบก็คือ การที่บทพยายามสอดแทรกแก่นเกี่ยวกับชีวิตของคนที่อยู่ต่างมิติ ต่างจักรวาลซึ่งถือเป็น Conflict หลัก ๆ ของเรื่องเลย อย่างเช่นว่า บางครั้งตัวเราแม้อยู่ต่างมิติ ชีวิต ความคิด ความผิดพลาดก็อาจจะไม่ได้ต่างกันออกไปหรือบางครั้งชีวิตในอีกมิติของเราก็อาจจะไม่ได้ดีเด่กว่าตัวตนของเราที่อยู่ในปัจจุบันเท่าไหร่ หรือแม้แต่มุมมองของคนจากต่างมิติ ที่แม้ว่าจะเป็นคนคนเดียวกันแต่ถ้าอยู่ในต่างมิติ ก็ไม่ได้แปลว่าจะมีความรู้สึกนึกคิดแบบเดียวกันซึ่งตรงนี้บทสามารถแทรกเรื่องราวและเป็นบทสรุปของเรื่องได้โอเคเลย

 

doctor strange in the multiverse of madness สปอยหนัง

ในแง่ของการแสดง โดยเฉพาะนักแสดงหลักถือว่าอวยยศได้ทั้งทีมแบบไม่ขัดเขินเลยครับ ไล่ตั้งแต่ ‘เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์’ (Benedict Cumberbatch) ที่ยังคงเป็นหมอแปลกได้หล่อเท่ มีความกวน รวมทั้งสามารถรับบทตัวแปรแบบต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่งมาก คือเล่นได้แตกต่างกันแบบสุดขั้วจนแทบจะลืมไปว่าพี่เบนเขาเล่นเองนะเนี่ย รวมทั้ง ‘เบเนดิกต์ หว่อง’ (Benedict Wong) จอมเวทสูงสุดในภาคนี้ก็เท่และเก่งขึ้นเยอะมาก ๆ ส่วนน้อง ‘โซชิตล์ โกเมซ’ (Xochitl Gomez) ที่รับบทอเมริกา ชาเวซ ก็น่ารักมากๆ ขึ้นกล้องสุดๆ มีบทบาทในหนังเยอะด้วย บอกเลยว่า มีอนาคตใน MCU ต่อไปในภายภาคหน้าแน่นอน

 

 

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือวายร้ายหลักอย่างสกาเลต วิตช์ ที่รับบทโดย ‘อลิซาเบธ โอลเซน’ (Elizabeth Olsen) คือ MVP ของหนังเรื่องนี้เลยครับ เพราะบทบาทวันด้า แมกซิมอฟฟ์ ถือว่าเป็นบทที่มีความซับซ้อนอยู่พอตัวเลยแหละ เป็นแม่ที่รักลูกมาก ๆ จนพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับลูก แม้ว่ามันจะเป็นภัยร้ายต่อมัลติเวิร์สก็ตาม ซึ่งคุณเค้าสามารถรับบทนี้ได้อย่างเข้าถึง สานต่อและเติมเต็มเรื่องราวจากซีรีส์ ‘WandaVision’ (2021) ได้ดีมากๆ ชนิดที่ว่าจะรู้สึกโกรธ สกาเลต วิตช์ และเห็นใจ วันด้า แมกซิมอฟฟ์ ไปพร้อมกันได้ในเวลาเดียวเลยแหละ

 

สรุปโดยรวม

โดยสรุป แม้ dr.strange ภาค 2 อาจจะไม่ได้ Epic ฮือฮาน้ำตาไหลเซอร์ไพรส์จนร้องว้าวได้เท่ากับ ‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) และความคัลต์สยองขวัญของหนังเรื่องนี้อาจไม่โดนเส้นไม่ถูกจริตสำหรับบางคน แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังที่สามารถร่ายมนต์เปิดประตูสู่มัลติเวิร์สด้วยวิธีการและรสชาติใหม่ๆ ที่ได้ทั้งเรื่องราวแบบฮีโร และจริตความคัลต์ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง โหดสยอง และกวนเบื้องล่างตามแบบฉบับของแซม ไรมี ที่น่าจะทำให้แฟน ๆ MCU โดนเส้นไปกับความบ้าคลั่งนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นครับ

 

 

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

 

 

เนื้อเรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อ จ๊อบซัง ผู้จัดการวง BNK48 อยากทดลองการตลาดใหม่ๆ เพื่อจะกู้วิกฤตวงที่ค่อยๆ เสื่อมความนิยม เลยจัดภารกิจลับส่งให้น้องๆ ในวง 8 คน ไปทำเพลงหมอลำ โดยต้องศึกษาวิถีชีวิตชาวอีสานและฝึกการร้องหมอลำกับ (เจ๊) ก้อง ห้วยไร่ ศิลปินชื่อดังแอ๊บแมนที่กำลังเป็นหนี้ก้อนมหาศาล หนังไทยย้อนยุค เจ๊ก้องก็แท็กทีมกับ จ่าลอด และ มืด ตัวแสบแห่งจักรวาลไทบ้าน ให้มาเป็นผู้ช่วยการเทรนน้องๆ จนเกิดเป็นความผูกพันที่นำไปสู่เรื่องราวสุดทราบซึ้งและเต็มเปี่ยมด้วยความประทับใจ

 

เรื่องย่อ

 

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

 

เรื่องย่อเมื่อตัวแทน​จาก​ BNK48 ทั้ง​ 8​ คน​ ได้รับมอบหมายภารกิจลับ​ โดยต้องออกซิงเกิ้ลเพลงหมอลำ สาวๆ​ BNK48 ทั้ง​ 8​ คนจึงถูกส่งให้ไปเรียนรู้​ และใช้ชีวิตอยู่กับคนอีสาน​ เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรม​ และการสื่อสารผ่านเพลงหมอลำในแบบฉบับ​ BNK48 ให้ดีที่สุด
เป็นอีกค่ายที่สร้างความประหลาดใจให้เราได้เสมอๆ กับ BNK48 ที่เปลี่ยนภาพจำกับการเป็นไอดอล สดใส วัยรุ่น กทม.ที่มีเพลงอย่าง Koisuru Fortune Cookie คุกกี้เสี่ยงทายสุดฮิตเป็นเพลงประจำแก๊งมามีโพรเจกต์ด้านภาพยนตร์ในนามบริษัท บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ฟิล์ม ที่เปิดเส้นทางอื่นๆ ให้ตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเผยมุมด้านดราม่าหรือด้านดาร์กของการเป็นไอดอลในสารคดีของ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เรื่อง BNK48 : Girls Don’t Cry โดยเป็นความร่วมมือกับบริษัทแซลมอน เฮ้าส์ และจัดจำหน่ายโดยค่ายใหญ่อย่าง GDH 559 ด้วย ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

ก่อนจะส่งเจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐกับมิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์ มาสายนักแสดงมากฝีมือด้วยการับบทนำในหนังดราม่าแฝงสัญญะสังคมการเมืองแบบฉบับของ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ในเรื่อง Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า โดยร่วมกับ สไลด์เดอร์ แคท กับ ซอง ซาวด์ โปรดักชัน และจัดจำหน่ายโดย ซีเจ เอ็นเตอร์เทนเมนต์จนคนเริ่มคิดว่าหนังฉบับ BNK48 มักจะฉีกไปสายรางวัลๆ ดราม่าๆ หน่อยจาก 2 เรื่องที่ผ่านมา ไทบ้านเดอะ ซี รี ส์ x BNK48 ออนไลน์

 

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

 

แต่ปรากฏว่า บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ฟิล์ม ก็ปล่อยโพรเจกต์ใหม่พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น ไอแอม ฟิล์ม มาสร้างความประหลาดใจอีก ด้วยการร่วมมือกับจักรวาลหนังชื่อดังจากฝั่งอีสานที่ฮิตไปทั่วประเทศอย่าง ไทบ้านเดอะซีรีส์ ผลงานของบริษัท เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออแกไนเซอร์ และจัดจำหน่ายโดยค่ายใหญ่อย่าง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ในเรื่อง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ถ้าสังเกตดีๆ ก็ต้องยอมใจในฝีมือการบริหารที่ดึงดูดค่ายใหญ่ๆ หลากหลายแนวทั้งเอกอุในไทยและเชี่ยวชาญงานขายไปตลาดสากลมาช่วยได้ ทั้งยังทำให้ บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ฟิล์ม มีประสบการณ์การทำธุรกิจภาพยนตร์ผ่านการเรียนรู้จากพาร์ตเนอร์เก่งๆ โดยอัตโนมัติด้วย เชื่อว่าในอนาคตเราอาจเห็นค่ายอย่าง ไอแอม ฟิล์ม มาเป็นอีกหนึ่งค่ายสำคัญที่ยืนเดี่ยวเป็นอีกเสาที่ค้ำจุนวงการหนังไทยได้ด้วย

 

สองผู้กำกับอย่าง สุรศักดิ์​ ป้องศร กับ ธิติ​ ศรีนวล

โดยครั้งนี้หนังได้สองผู้กำกับอย่าง สุรศักดิ์​ ป้องศร กับ ธิติ​ ศรีนวล จากหนังไทบ้านเดอะซีรีส์มารับไม้จาก BNK48 ในการนำน้อง ๆ กลุ่มไอดอล 48 นี้มาเล่นในแบบฉบับหนังไทบ้าน เพื่อเสริมกำลังรุกเข้าสู่ตลาดที่แตกต่างจากฐานแฟนเดิมของกันละกัน เป็นโพรเจกต์ที่มองว่า วิน-วิน ทั้งคู่จริงๆ ที่สำคัญรอบนี้เรายังจะได้เห็นน้องๆ BNK48 กลุ่มใหม่ๆ ที่แตกต่างจากหนังเรื่องเก่า ๆ มาโลดแล่นกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนึ่ง, ปูเป้, เนย, แก้ว, โมบายล์, น้ำใส, ตาหวาน และ ไข่มุก แห่ง BNK48

มาเล่นเป็นตัวเองในเรื่องราวสมมติที่ดูแอบอิงความจริงไว้เหมือนกัน และในมุมหนึ่งก็เหมือนหนังที่ช่วยทำความเข้าใจระหว่างออฟฟิเชียลของวง กับน้อง ๆ ในวง และเหล่าโอตะ ที่ว่ากันตามตรงก็มีดราม่าให้ติดตามจากการเดาเองคิดเองของแฟนคลับอยู่เยอะเช่นกัน ข้อดีคือเราได้เห็นมุมมองของฝั่งผู้บริหารและการทำงานของหลังบ้านวง BNK48 แบบใกล้ชิดพอสมควรด้วย ไทบ้าน bnk48 เต็มเรื่อง facebook

 

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

 

เรื่องว่าด้วย จ๊อบซัง อยากทดลองตลาดใหม่ ๆ เพื่อกู้วิกฤตของวงที่กำลังเสื่อมความนิยม โดยส่งให้น้องๆ ทั้ง 8 คนต้องไปทำเพลงหมอลำ โดยไปศึกษาวิถีชีวิตและการร้องแบบต้นกำเนิดอย่าง เจ๊ก้อง ห้วยไร่ ศิลปินชื่อดังแอ๊บแมนที่กำลังเป็นหนี้ก้อนมหาศาลและหวังจะกอบโกยเงินจากโอกาสนี้แบบทำผลงานส่ง ๆ ให้จบไป ทั้งนี้ก็ได้ จ่าลอด และน้องชายอย่าง มืด แห่งไทบ้านมาเป็นลูกมือในการสอนน้องๆ ให้เป็นราชินีหมอลำ พลอตมาอิหร่อบนี้ก็น่าจะไปตามสูตรสำเร็จคือไอดอลเมืองกรุงเรียนรู้ชีวิตความลำบากจากบ้านนอก ที่ขมปนฮาจากพาเหรดนักแสดงสายตลกมากมายที่มาสร้างสถานการณ์ซิตคอม ทั้งความลื่นไหลใสซื่อของจ่าลอด ความแซ่บแบบตุ๊ดอีสานของเจ๊ก้อง

 

สปอยหนัง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

เมื่อผสมความป่วนม่วนฮาจากมุกทั้งล้อตัวเอง มุกความซื่อ มุกความกะล่อน และมุกไทอินที่เกลียดไม่ลง จากทั้งชาวไทบ้าน และความผิดที่ผิดทางของน้อง ๆ BNK48 ที่พอผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนมุมมองและเติบโตขึ้นเป็นคัมมิ่งออฟเอจสไตล์ที่ให้ความรู้สึกอิ่มฟีลกู้ดนั่นเอง แต่ทว่า เอาเข้าจริงหนังไปได้ไกลกว่านั้นและแทบทำลายความเป็นหนังสูตรสำเร็จอย่างกล้าหาญพอสมควร ทั้งเรื่องที่ว่าหนังไทบ้านมักกระชากผู้ชมสู่ดราม่าหนักได้แบบไม่รู้ตัวเป็นทุนเดิมแล้ว

ส่วนหนึ่งก็คือหนังกล้าท้าทายด้วยคำถามว่าระหว่างกฏระเบียบกับหัวใจอะไรสำคัญกว่ากัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องอื่นคงเดาทางได้แบบไม่ต้องสงสัย แต่กับเรื่องนี้เราจะเห็นอะไรมากกว่านั้น คงต้องให้ไปดูกันเอง แต่ยืนยันได้อย่างหนึ่งจากการนั่งชมอยู่หลังน้อง ๆ BNK48 รุ่น 2 ในรอบสื่อก็เห็นอากัปอาการว่า หนังคงกระแทกใจพวกน้อง BNK48 อยู่ไม่น้อยทีเดียว หนัง จาก ใจ ผู้สาวคนนี้ BNK48 เต็มเรื่อง

 

 

จุดที่หนังยังมีกะพร่องกะแพร่งบ้างก็มี ความไม่ค่อยเข้าขากันในช่วงแรกที่มาครอสกันระหว่างน้อง ๆ และชาวไทบ้าน เพราะต่างคนต่างเด่นในทางของตนเองเกินไป หลาย ๆ จังหวะตัดต่อก็ทอดปลายแต่ละซีนจนรู้สึกไม่ค่อยลงตัวนัก การพรรณาในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักก็ยังรู้สึกให้เวลาไม่มากพอจนไม่ทันอินว่ามันสนิทกันขนาดนั้นตอนไหน อาจเพราะหนังมีตัวละครมากที่ต้องแบ่งสรรปันส่วนเล่า แต่กระนั้นก็ยังมีอย่างน้อย 2-3 คนเลยที่สุดท้ายไม่สามารถมีฉากจำของตนเองได้ และปัญหาเล็กน้อยที่ว่าหนังมีหลายฉากที่หากไม่เคยดูไทบ้านมาก่อนจะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ระหว่างตัวละครบางคู่นัก ส่วนสิ่งที่ผิดคาดมากที่สุดคงเป็นเรื่องของการที่หนังน่าจะชูเพลงเป็นตัวนำของเรื่องทั้งพลอตการทำเพลง ตลอดจนเพลงโปรโมตที่ปล่อยมามากมาย แต่ในหนังกลับสนองจุดนี้ได้น้อยเกินไป

 

สรุปโดยรวม

สรุป โดยรวมด้วยความเด่นขององค์ประกอบใหม่ ๆ อย่างไทบ้าน bnk48 เต็มเรื่อง imovieและก้อง ห้วยไร่ หนังจึงสนุกและบันเทิงมาก ยากที่จะไม่ยิ้มไปกับตัวละครทั้งหลาย แม้มีความพร่องในบางจังหวะ แต่ก็ไม่สาหัสจนทำร้ายความม่วนจั้มสะบั้นแหลกของเรื่องนี้ได้เลย ที่สำคัญถ้าอยากรู้จัก BNK48 ให้มากกว่านี้ นี่คือโอกาสสำคัญที่จะเห็นมุมที่ไม่เคยเห็นด้วย ส่วนสาวกไทบ้านเองก็ห้ามพลาดเพราะมันถูกนับเป็นภาคต่อของแฟรนไชส์ไม่ใช่แค่สปินออฟและยังปูทางสำหรับหนังเรื่องใหม่ของไทบ้านด้วย

 

 

หลังจาก BNK48 ประสบความสำเร็จกับ Girls Don’t Cry ภาพยนตร์สารคดีที่เผยมุมมองอีกด้านของการเป็นไอดอล และ Where We Belong ภาพยนตร์ดราม่าแฝงสัญญะสังคมการเมือง

พวกเธอก็มาความประหลาดใจครั้งใหม่ด้วยการร่วมมือกับจักรวาลหนังจากฝั่งอีสานที่ฮิตไปทั่วประเทศอย่าง “ไทบ้านเดอะซีรีส์” สร้างภาพยนตร์ ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ภายใต้คำถามข้อใหญ่ “จะเป็นยังไงเมื่อความน่ารักของ BNK48 มาพบกับเสน่ห์บ้านนาของจักรวาลไทบ้าน”

สปอยหนัง love you my arrogance

สปอยหนัง love you my arrogance

สปอยหนัง love you my arrogance

 

 

หนังไทยnetflix

ผู้กำกับภาพยนตร์ : Shiue Bin Jian

ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Shiue Bin Jian

แนว/ประเภท : Romance, Drama, หนังไทย

นักแสดงหลัก: ณภัทร เสียงสมบุญ,ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล,วิศรุต หิมรัตน์

 

เรื่องย่อ

 

สปอยหนัง love you my arrogance

 

เรื่องราวของ ซัน (นาย ณภัทร) ยูทูปบอร์หนุ่มสุดหล่อ ที่เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษคือ “การได้ยินเสียงในความคิดของคนอื่น” เสียงในความคิดของคนอื่นทำให้เขาเครียด ปวดหัว จนบางครั้งถึงกับเป็นลม ซันปกปิดพลังพิเศษนี้ไว้และชอบใส่หูฟังเพื่อหลีกเลี่ยงการได้ยินเสียงความคิดของคนอื่น ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นทำให้ซันถูกมองว่าเป็นคนหยิ่ง ส่งผลกระทบกับยอด View และยอด Subscribe จนรายได้ของเขาลดลง ซันและพีต (โมสต์ วิศรุต) จึงคิดคอนเทนต์ที่ต้องไปลงพื้นที่พัฒนาชุมชนบริเวณเขื่อน เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์ของซัน เพื่อดึงยอดผู้ติดตามกลับคืนมา ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

สปอยหนัง love you my arrogance

ส ปาร์ค ใจ นายจอมหยิ่ง ตอนที่ 1 สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ep.1-8 จบ ครบทุกตอน ดูซีรีส์ออนไลน์ฟรี ละครไทย ย้อนหลัง สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น เรื่องราวของ ซัน” ชายหนุ่มหล่อยูทูปเบอร์ที่มีพลังวิเศษสามารถได้ยินความคิดคนอื่นได้ แต่ว่าเขากลับปฏิเสธพลังและไม่ต้องการยุ่งกับบุคคลอื่นกระทั่งทำให้เขานั้นได้สมญานามว่าจอมอวดดี วันหนึ่งเขาได้มาเจอกับ แอนทุ่งนา” ผู้เขียนดาวรุ่งที่มีนิสัยถูกใจเผือกเรื่องของผู้อื่นจนกระทั่งเอามาแต่งนิยายจนถึงดังไปทั่วบ้านทั่วทั้งเมือง แอนทุ่งนาสืบจนกระทั่งรู้ัว่าซันมีพลังยอดเยี่ยมแม้กระนั้นไม่รับพลังที่ตนเองมี คุณรู้สึกว่าการที่ซันมีพลังนั้นไม่ใข่เรื่องที่พิลึกแต่ว่าซันนั้นจำเป็นต้องเห็นด้วยแล้วก็อยู่กับมันให้ได้ ซํนก็เลยเริ่มเห็นค่าของพลังที่เขามีแล้วก็ยอมเปิดใจให้กับแอนทุ่งนา เมื่อก่อนที่เรื่องทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงอย่างงดงามพวกเขาควรต้องเจอกับอุปสรรค์ล้นหลามที่ทั้งคู่จะต้องต่อสู้ไปให้ได้

 

สปอยหนัง love you my arrogance

 

และแล้วก็ถึงวันดีเดย์ออนแอร์จนได้สำหรับซีรีส์เรื่อง “สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น2” เรียกว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ในซีซั่น1 นั้นฝากความฟินความน่ารักไว้แบบเพียบมาก แถมยังทำเอาแฟน ๆ นั้นข้องใจในความสัมพันธ์ระหว่างซันและอันน่าสุด ๆ ว่าท้ายที่สุดแล้วทั้งสองนั้นจะลงเอยยังไงกันแน่นะ? โดยในสปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น2 บอกเลยว่าเนื้อหามีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น มีเรื่องของรักสามเศร้า เราสามคนเข้ามาอีกด้วย เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นน่าลุ้นสุด ๆ ! วันนี้เราเลยไม่รอช้า รีบอยากจะชวนเพื่อน ๆ แฟนซีรีส์ทุกคนมาส่องดูความปังของเรื่องนี้กันใน ‘รีวิว สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น2 ซีรีส์น่ารักสุดฟินของนายณภัทรและมายด์ ลภัสลัล’ มาดูกันว่าเนื้อเรื่องคร่าว ๆ เป็นอย่างไร สนุกมากแค่ไหน นักแสดงนำเพิ่มเติมมีใครกันบ้าง หากเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วนั้น ก็ตามมารับชมกันได้เลยค่า

 

สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น2

 

สปอยหนัง love you my arrogance

 

สำหรับสปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น2 เป็นซีรีส์ที่มีความสนุก เป็นแนวรักโรแมนติกผสมความคอมเมดี้สนุกสนาน มีความฮากระจาย รวมถึงฉากจิ้นฟินยิ้มเขินแบบไม่ไหว และในส่วนของการดำเนินเรื่องไวไม่ยืดเยื้อ อีกทั้งแม้ว่าพล็อตเรื่องสปาร์คใจนายจอมหยิ่ง จะเป็นพล็อตเรื่องที่ไม่มีความหวือหวาแต่เต็มไปด้วยความละมุสอบอุ่นใจมาก ๆ ดูแล้วรู้สึกเพลินแถมยังเบาสมองสุด ๆ รวมถึงนักแสดงแต่ละคนแต่ละบทบาทในเรื่องก็มีความฟิตติ้งกันมาก ๆ เมื่อมาแสดงด้วยกันแล้วเรียกว่าเคมีเข้ากันมาก ๆ ทำให้เรื่องนี้ดำเนินไปได้แบบธรรมชาติดูไปแบบเรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่สนุกสนาน Feedback ดีมาก สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ย้อนหลัง

 

สปอยหนัง love you my arrogance

อีกทั้งที่เราชื่นชอบมาก ๆ นั้นคือด้วยความที่ซีรีส์เรื่องสปาร์คใจนายจอมหยิ่งเป็นซีรีส์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและพระเอกในเรื่องเป็น Youtuber สายท่องเที่ยวทำให้ฉากต่าง ๆ ภายในเรื่องที่ยกกองไปถ่ายยังสถานที่จริงและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังในประเทศไทยอีกด้วย อย่างในซีซั่น1 จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเขื่อนภูมิพล ที่จังหวัดตากรวมถึงแหล่งชุมชนรอบเขื่อนภูมิพล ที่มีชื่อว่าชุมชนบ้านแม่ระวาน และเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทำให้มองแล้วสวยดูสะกดสายตาสุด ๆ และในซีซั่น 2 ก็ยังมีความอัดแน่นและคงคอนเซ็ปท์เดิมใรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นจุด Unseen ในประเทศไทยที่มีความแปลกใหม่ ธรรมชาติเน้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา, แม่เมาะ จังหวัดลำปาง และเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุด Unseen และ Check in ใหม่ที่กำลังมาแรงเรียกได้สถานที่ต่าง ๆ และวิวในฉากที่ถ่ายทำเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นและประทับใจในเรื่องสปาร์คใจนายจอมหยิ่งเลยละค่ะ

 

 

มาถึงพาร์ทของนักแสดงนำในซีรีส์เรื่องสปาร์คใจนายจอมหยิ่ง บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ทำเอาหลายคนนั้นต่างก็ต้องพูดถึงกันพระเอกหนุ่มหล่อของเรานั้นคือน้อง นาย ณภัทร ซึ่งครั้งนี้ประกบคู่กับสาวสวยสุดน่ารัก มายด์ ลภัสลัล นั้นเองละค่ะ โดย “นาย ณภัทร” ได้รับบทเป็น ‘ซัน’ หนุ่มหล่อ Youtuber สายท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเจ้าของเพจ เที่ยวทุกวันซันเดย์ ที่เขามีพลังพิเศษคือการได้ยินเสียงในหัวของผู้อื่น เขาเป็นคนที่มีบุคลิกเย็นชามาก ขรึมนิ่ง ๆ ใจคิดอย่าง ปากพูดอีกอย่าง โดยน้องนายก็พรีเซ้นท์บทบาทของซันออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นอินเนอร์การพูด การมองต่าง ๆ ดูแล้วคือเพอร์เฟค เหมาะกับน้องนายมาก ๆ ! ยิ่งในฉากที่เจ้าตัวมีการหึงหวงแต่ปากพูดอย่าง เป็นอะไรที่น่ารักชะมัดเลยละค่ะ เรียกว่าโดนน้องนายตกไปแบบเต็ม ๆ เลยละค่ะ หล่อเท่ปากแข็งงี้คือกรี๊ดดดดมากแม่

 

แนะนำนักแสดง

นักแสดงคนต่อมาคือสาวสวยรอยยิ้มสุดสดใสอย่าง “มายด์ ลภัสลัล” โดยมายด์รับบทเป็น ‘อันนา’ ซึ่งเป็นสาวนักเขียนดาวรุ่งที่เรื่องงานเรียกว่าสุดปัง! แต่เรื่องความรักนี่สิดูท่าจะไม่ค่อยสมหวังสักเท่าไหร่ โดยบุคลิกของอันนาจะมีความมั่นใจในตัวเอง อารมณ์ดี พูดตรงไปตรงมา ซึ่งมีนิสัยที่แตกต่างและตรงกันข้ามกับซันมาก ส่วนตัวเราชอบสาวมายด์ในบทบาทนี้มาก ๆ เธอมีความสดใส ยิ้มทีคือโลกสดใส แถมยังแสดงได้เป็นธรรมชาติ แสดงฉากไหนซีนไหนก็คือโดดเด่นน่ามองมาก เป็นหนึ่งบทบาทในเรื่องที่มีเสน่ห์มาก ๆ เลยละค่ะ
‘ตุลย์’ บทบาทต่อมาที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวของซีรีส์สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ซีซั่น2 ให้มากยิ่งขึ้น โดยบทบาทของตุลย์ได้หนุ่มหล่อหน้าหวานมาดเท่อย่างหนุ่ม “โอบ โอบนิธิ” มารับบทบาทในครั้งนี้

โดยบทบาทของตุลย์จะเป็นหนุ่ม Youtuber สายท่องเที่ยวที่หล่อ สปอร์ต แถมยังใจกว้างมาก ๆ ซึ่งเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่เข้ากับหนุ่มโอบมาก ๆ เพราะหนุ่มโอบมีหน้าตาหล่อ มีสายตาที่มองแล้วจะต้องหลงละลาย แถมลุคและคาแรคเตอร์ของเขายังมีความแมทช์กับตุลย์มาก ๆ ในส่วนขอบการแสดงหนุ่มโอบก็ทำออกมาได้ดี ธรรมชาติมาก เรียกว่าเป็นคู่แข่งของซันที่สาว ๆ เห็นจะต้องตกหลุมรักได้แบบไม่ยากเลยละค่ะ! สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง netflix

 

 

สำหรับเรื่องสปาร์คใจนายจอมหยิ่ง ss2 หลังจากได้รับชมไปในตอนแรกทางเรารู้สึกว่าเนื้อหามีความเข้มข้นมากขึ้น มีฉากหวานตะมุตะมิให้คอยกรี๊ดหวีดฟินระหว่างพระนางแบบกันแบบสุด แถมยังเพิ่มเนื้อหาของรักสามเศร้าที่ต้องแข่งขันเข้ามาอีก ทำให้รู้สึกว่าน่าลุ้นน่าติดตามมาก ๆ และที่สำคัญเลยก็คือนักแสดงในเรื่องมีความเคมีเข้ากันสุด ดูแล้วรู้สึกธรรมชาติเพลินมาก ฮา ฟิน ดราม่า ครบทุกรสชาติมาก เรียกว่าเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ฟิลกู้ดเบาสมองมากๆ เลยละค่ะ สำหรับคะแนนขอให้ 10

สาวลับใช้ สปอยหนัง

สาวลับใช้ สปอยหนัง

สาวลับใช้ สปอยหนัง

 

 

ตั้งแต่ Netflix เปิดตัวในไทยก็ทยอยอัดคอนเทนต์เด็ดๆ มาเอาใจผู้ชมชาวสยามอยู่เนืองๆ และยิ่งหลังจากเริ่มซื้อพวกละครไทย และ หนังไทยมาใหม่ รวมถึงร่วมลงทุนในการผลิตคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องก็ย่อมชัดเจนแล้วว่าคอนเทนต์ไทยบน Netflix ดูจะเป็นไฮไลต์เด็ดสำหรับผู้ชมไทยไม่แพ้ซีรีส์เกาหลีที่ทยอยครองความนิยมอย่างต่อเนื่อง และหลังจากผลิตซีรีส์ไทยแนวระทึกขวัญอย่าง เคว้ง เปิดตัวไปปีก่อน ก็ถึงคราวคอนเทนต์หนังยาวอย่าง The Maid ของผู้กำกับ ลี ทองคำ มาให้ผู้ชมพิสูจน์ความน่ากลัวและลุ้นระทึกด้วยรสชาติแปลกใหม่แต่ไม่ระคายลิ้นกันแล้ว

เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับหน้าใหม่ ลี ทองคำ ที่มีข่าวถ่ายทำหนังสัตว์ประหลาดทุนสูงของไทยในชื่อ The Lake บึง/กาฬ ตั้งแต่ปี 2561 แต่ก็หายเงียบไปแบบไร้การอัพเดท จนมาทำเรื่อง “สาวลับใช้” และได้ดาราวัยรุ่น พลอย ศรนรินทร์ ที่พักหลังเล่นหนังผีติดๆ กันตั้งแต่ อาปัติ สยามสแควร์ ผีโทรศัพท์ สิงสู่ จนได้ชื่อว่าเป็นดาราวัยรุ่นสายนี้โดยเฉพาะ มารับบท ‘จอย’ สาวใช้คนใหม่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ผู้ต้องเผชิญหน้ากับความลับอันดำมืดที่ซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้ หลังสาวรับใช้คนแล้วคนเล่าออกไปด้วยเหตุผลว่าทนเรื่องหลอนๆ ที่นี่ไม่ไหว ทั้งลูกสาวคุณนายที่มักเห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็น ตุ๊กตาลิงที่เคลื่อนที่ได้เอง และยังมีสาวรับใช้ปริศนาที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนปรากฎตัวออกมาหลอกหลอนอีกด้วย ในขณะที่ตัวจอยเองก็มีอะไรบาง สาวรับใช้ netflix

 

เรื่องราว

สาวลับใช้ netflix เรื่องย่อ ก็แน่นอนว่ามันบ่งบอกชัดเจนว่านี่จะเป็นหนังที่เล่นกับการรับรู้หรือ Perception ของคนดูต่อหนังผีที่มาในทรงเดียวกัน ตั้งแต่เปิดเรื่องที่มันฉายภาพสาวใช้คนก่อนหน้ากับความหลอนที่ต้องเข้าไปดูแลคุณหนูตัวน้อยที่มีปัญหาทางจิตพร้อมผีลิงสุดหลอนที่ทำให้เธอต้องขอลาออกจากงานแม่บ้านที่ทำอยู่ เป็นเหมือน Prologue หรือ อารัมภบทตามทำเนียมหนังฮอลลีวูด

จากนั้นสไตล์ภาพและการเล่าเรื่องก็มาในโหมดละคร ๆ ทันที ทั้งรถโบราณที่ไปรับตัว จอย (พลอย ศรนรินทร์) สาวรับใช้คนใหม่ของบ้าน และเมื่อมาถึงเธอก็เริ่มสังเกตได้ถึงความไม่ชอบมาพากลต่าง ๆ ทั้งลูกสาวที่ดูผิดปกติอย่างกับหลุดมาจากหนังเด็กนรกของฮอลลีวูดที่ชอบเห็นผี ๆ สาง ๆ หรือ คุณอุมา (สาวิกา ไชยเดช) คนแม่ที่แต่งตัวอย่างกับตัวเองอยู่มิลานแฟชันวีคตลอดเวลา และคุณผู้ชาย (ธีรภัทร์ สัจจกุล) ที่วัน ๆ มือไม่ได้ห่างจากแก้วเหล้าเลยทีเดียว

 

สาวลับใช้ สปอยหนัง

 

และตามสไตล์ว่าหลังจาก หัวหน้าแม่บ้าน (ณัฐนี สิทธิสมาน) พูดว่าอย่าสอดรู้สอดเห็น สาวจอยก็เดินสำรวจบ้านและทำทุกอย่างที่หัวหน้าแม่บ้านนางบอกทันที และก็เจอดีตามฟอร์มกับผีสาวคนใช้สุดหลอน และความลับเบื้องหลังการมาทำงานที่บ้านหลังนี้ของเธอก็ค่อย ๆ เฉลยออกมาในองก์สองและองก์สามของหนังตามลำดับ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

สาวลับใช้ สปอยหนัง

ต้องยอมรับแหละว่าหากจะเอามาตรฐานการเล่าเรื่องหนังผีไทยระดับตำนานอย่าง เปนชู้กับผี ของ วิศิษย์ ศาสนเที่ยง หรือ สุขสันต์วันกลับบ้าน ของ ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่ถือเป็นแม่แบบสำคัญของหนังมาเป็นตัวชี้วัดความกลมกล่อมของบทภาพยนตร์และการกำกับที่ดูประณีตกว่าก็คงไม่ได้ ดังนั้นงานชิ้นนี้ของ ลี ทองคำ เลยเป็นเหมือนการทดลองดั่งที่เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับผมเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ในการฉายรอบสื่อมวลชนที่ กันตนาฟิล์มสตูดิโอ เสียมากกว่า ดังนั้นหากจะรีวิวและคิดตามเราอาจต้องแยกดูตามการเล่าเรื่องในแต่ละองก์ของหนังดังนี้ สาวใช้

เรียกง่าย ๆ ว่านี่คือภาพจำของผีไทยและผีเอเซียเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเรื่องของความแค้น อาฆาตพยาบาท ที่ทำให้วิญญาณยังไม่ไปไหนและเฝ้าวนเวียนอยู่รอบ ๆ สถานที่หรือบุคคลที่ตนผูกพัน สำหรับองค์แรกที่ ลี ทองคำ ตั้งใจทำเป็นหนังผีแบบไทย ๆ เน้นตุ้งแช่เอาให้หัวใจวายกันไปข้างนึงแท้จริงแล้ว เราจะสังเกตความผิดปกติในอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่ตุ๊กตาลิงท่าทางน่ากลัวและแถมมีวิญญาณลิงอีก

 

สาวลับใช้ สปอยหนัง

 

ส่วนการแต่งตัวของคุณนายอุมา ก็ชัดเจนเลยว่ามันแสดงถึงความไม่ปกติตั้งแต่ดีไซน์แล้ว โดยเฉพาะชุดที่แต่งตัวประหนึ่งอยู่ยุโรปทั้งที่ตัวเองอยู่เมืองไทย เหมือนต้องการ “หนี” จากอะไรสักอย่าง แต่แทนที่จะเป็นการวิ่งเหมือนสาวใช้อย่าง จอย เธอกลับใช้การแต่งตัวเพื่อหลบหลีกและทีละน้อยพอเรื่องราวไปเฉลยปมในองก์ที่ 2 เราจะเข้าใจได้เลยว่าทำไมการแต่งตัวของเธอถึงดูเป็นมิลานแฟชันวีคขนาดนี้

ด้านคุณชาย แม้จะดูถูกทำให้ด้อยบทบาทไปนิด แต่การปูพื้นว่าตัวเองเป็นเหมือนเบี้ยล่างของเมียตลอดเวลาก็แสดงถึงการถูกลดทอนอำนาจ โดยเฉพาะการที่หนังให้สถานะเป็นสามีที่เกาะเมียกินก็แน่นอนล่ะ การ “หนี” ที่ดีที่สุดในเวลาที่ตัวเองขยับไปไหนก็ลำบากคงไม่พ้นการ ดื่มเหล้า ที่ช่วยพรากสติที่ตอกย้ำความต้อยต่ำ และแน่นอนรวมถึง “ความผิดบาป” ที่จะเฉลยในองก์ที่ 2 ด้วย

 

รักต้องห้าม ดราม่า และปัญหาทางจิต

เรื่องที่คนดู ดูจะติติงหนังเป็นพิเศษคงเป็นช่วงองก์ 2 นี่แหละ เพราะอย่างที่ตาเห็น โทนของหนังถูกทำให้เบาลงกว่าองก์แรกที่เอาผีมา แฮร่…. ใส่คนดูจนเหนื่อยแล้ว แต่หากมองอย่างพินิจพิเคราะห์ มันคือการพยายามกะเทาะความคิด จิตใจ ตัวละครแต่ละตัว อย่างน่าสนใจทีเดียว อย่างคุณนายอุมา ที่สามีไม่เห็นความสำคัญของเธอ หรือ แรงปรารถนาด้านกามารมณ์ที่ไม่ได้รับการตอบสนองของคุณผู้ชาย

 

สาวลับใช้ สปอยหนัง

 

และนี่เองก็คือการเฉลยที่มาการตายอย่างน่าอนาถของ พลอย (น้ำหวาน กรรณาภรณ์) สาวรับใช้ที่รู้ใจเจ้านายทั้งสอง โดยเฉพาะการที่ต้องเป็นเครื่องดับความใคร่ของเหล่าผู้ดีที่ถึงเวลา “ติดสัด” ก็ทำตัวไม่ต่างจากเดรัจฉาน นั่นทำให้การพูดถึงอดีต หรือ ฉากแฟลชแบ็กต่าง ๆ กลับไม่ได้ให้ข้อมูลเพียงเรื่องว่า “พลอยตายยังไง” เพียงอย่างเดียว ตรงกันข้ามมันกำลังไปอธิบายพฤติกรรมของคนในบ้านในองก์ที่ 1 อีกด้วย

ฉากเล็กๆ ของหนัง

ในฉากเล็กๆ ของหนังที่ จอย ได้เข้าไปอยู่ในครัวร่วมกับพวกบรรดา สาวรับใช้รุ่นพี่ เราจะเห็นพฤติกรรมที่ดูธรรมดามากแต่ทว่ากลับมีที่มาทันทีเมื่อหนังบอกเล่าความจริงในองก์ที่ 2 นั่นคือการเสพติดความเงียบและการห้ามไม่ให้ใครถามหรือสงสัยในบ้านของหัวหน้าแม่บ้าน การบิดเบือนความจริงของพ่อบ้านคนขับรถ และหนักสุดคือพฤติกรรมชอบฟังเพลง งัดถั่งงัด ของพี่แม่บ้านลุคสาวใช้อีสาน ที่เราเห็นกันมาจนเฝือและให้ภาพที่คลีเช่มาก ๆ แต่พอมาอยู่ในบริบทของเรื่องราวแบบนี้ก็ทำให้มันพิเศษอย่างบอกไม่ถูก

ในบทปิดท้ายคงต้องบอกว่าในเมื่อเรื่องราวได้เฉลยปมต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว การคิดบัญชีแค้นในองก์สุดท้าย เลยเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และเป็นการปลดปล่อยและท้าทายความคิดผู้ชมชาวไทยอย่างแท้จริง เพราะไม่บ่อยหรอกที่หนังไทยจะหักมุมให้เรื่องราวในตอนท้ายพลิกผันและบิดทวิสต์ แนวหนัง หรือ Genre แบบหักศอกเหมือน “หนังคนละม้วน” ขนาดนี้

 

 

และที่ต้องชื่นชมมากคืองานกำกับศิลป์ในฉากปาร์ตีส่งท้ายเรื่องราวที่ให้ผู้ร่วมงานใส่ชุดสีขาว ที่ในที่นี้ไม่ได้แสดงถึงความบริสุทธิ์อย่างไร ในทางตรงกันข้ามเมื่อเรามาวิเคราะห์แล้วชุดสูทสีขาวคงไม่ได้แทนอะไรที่ผิดเพี้ยนไปจากชุดประจำตำแหน่งของบรรดา อีลิต (Elite) หรืออภิสิทธิชนที่มีตังค์และเวลาในชีวิตพอมาเสพของฟุ่มเฟือยทั้งไวน์และอาหารคานาเป้แบบที่เห็นในหนังได้ ดังนั้นเมื่อเรื่องราวดำเนินมาสู่จุดที่บ้าคลั่งที่สุดของหนัง การนองเลือดเลยเหมือนการแก้แค้นที่ไม่เพียงแค่เรื่องส่วนตัว แต่มันยังสาวไปได้ถึงการปฏิเสธและกำจัดเรื่อง “ชนชั้น” อย่างอดคิดไม่ได้

 

สาวลับใช้ สปอยหนัง

ในเมื่อผมได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ คุณไตรเทพ วงศ์ไพบูลย์ หรือ คุณอู่ วง Kidnappers ผู้ควบคุมการมิกซ์เสียงในภาพยนตร์ก็เลยขออนุญาตสรุปประเด็นเกี่ยวกับการออกแบบเสียงหรือ Sound Design มาเพื่อวิเคราะห์ตัวหนังกันนะครับ โดยประเด็นแรกเลยคือการออกแบบเสียงใน 3 องก์ของหนัง องก์แรกที่เป็นหนังผี คุณอู่ เลยการดีไซน์การแสดงผลในแต่ละช่องสัญญาณ (Channel) ร่วมกับ ลี ทองคำ ผู้กำกับภาพยนตร์แบบคู่ขนานโดยเมื่อหนังตัดต่อเสร็จ ผู้กำกับจะมาร่วมดูว่า Sound Design ของหนังแต่ละซีนสามารถล่อหลอกคนดูได้หรือไม่ โดยเฉพาะคนไทยที่คุ้นเคยกับจังหวะตุ้งแช่ของหนังผีดีอยู่แล้ว

ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ของ กันตนาสตูดิโอ วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับหนังในองก์แรกจู่โจมคนดูหนักมาก ๆ และมิติเสียงทั้งเสียงเท้าบนพื้นไม้ของตัวละครจอย และ พลอย ที่เป็นผีก็ถูกออกแบบมาอย่างดีแบบถ้าสังเกตดี ๆ เราจะพบความแปลกแยกของทั้ง 2 ตัวละครผ่านน้ำหนักของเสียงฝีเท้าได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งคุณอู่บอกว่าสำหรับผู้ชมที่รับชมทาง Netflix ก็จะได้รับประสบการณ์เดียวกันเมื่อต่อลำโพงโฮมเธียร์เตอร์ที่บ้านในระบบเสียง 5.1 แชนแนล ซึ่งผมพิสูจน์แล้วก็จริงตามที่คุณอู่บอกนะครับ สาวลับใช้ ep 1

 

 

แต่สำหรับองก์ที่ 2 และ องก์ที่ 3 งาน Sound Design จะลดบทบาทของเสียงเอฟเฟกต์ลงเพื่อให้ดนตรีประกอบของ Bruno Brugnano อดีตโปรดิวเซอร์มือทองของค่ายแกรมมี่โดดเด่นและช่วยบอกเล่าเรื่องราวขึ้นมา แต่นั่นก็ทำให้เกิดความหมายที่ต่างจากองก์แรกของหนังเพราะเมื่อตัวละครไม่ใช่สิ่งแปลกแยกของบ้านดังนั้นเสียงแปลก ๆ ทั้งฝีเท้าและไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดก็จะเริ่มหายไป เป็นการยอมลดบทบาทของเอฟเฟกต์เสียงให้ดนตรีประกอบได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีทีเดียว

แม้หนังจะมีข้อน่าติติงในด้านงานกำกับและการหักมุมแบบไม่เหลือความน่ากลัวที่จู่โจมคนดูแบบหนังในองก์แรกอยู่บ้าง เมื่อมองจากมุมของคนดูหนังผี แต่หากเปิดใจและร่วมด่ำดิ่งไปกับการทดลองเล่าเรื่องที่ทวีความวิปลาสขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละองก์ของหนังและการแสดงที่น่าจดจำของพลอย ศรนรินทร์ ควบคู่ไปกับงานโพรดักชันที่เนี้ยบ ถ่ายภาพได้สวยและงาน Sound Design ที่เร้าอารมณ์แล้วนี่จะเป็นประสบการณ์การชมภาพยนตร์ไทยแนวใหม่ที่รสชาติจัดจ้านไม่น้อยเลยทีเดียว

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

 

 

จบลงไปแล้วกับบทสรุปของความรักระหว่าง ‘สารวัตร – ไทน์’ ในซีรีส์ ‘เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still 2gether The Series’ ที่กระจายเสียงตอนสุดท้ายช่วงวันที่ 11 เดือนกันยายน 2563 นำแสดงโดย ‘ไบร์ท – วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ และจากนั้นก็ ‘วิน – เมธวิน โอภาสใหม่เอี่ยมขจร‘ ค้ำประกันความฟินด้วยกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนคลับในประเทศและฝรั่ง จวบจนกระทั่งทำให้ #ยังกันเราตอนสุดท้าย ขึ้นเทรนด์ชั้น 1 ในทวิตเตอร์ประเทศไทยในตอนที่ถ่ายทอด หนังไทยมาใหม่

ซึ่งตลอดทั้ง 5 ตอนของซีรีส์ภาคพิเศษจากเรื่อง ‘ด้วยเหตุว่าพวกเราคู่กันเดอะซีรีส์ 2gether The Series’ มีฉากหวานมาให้แฟนคลับได้ฟินกันอปิ้งตลอด แต่ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ตอนสุดท้ายที่ทำให้แฟนคลับกรีดร้องกันแบบข้ามคืน

ภายหลังที่ซีรีส์ตอนสุดท้ายถ่ายทอดจบลง ‘วิน การบูชายัญวิน’ หรือ ‘ไทน์’ ได้ปล่อยซิงเกิล ‘คนนั้นควรจะเป็นคุณ’ เพลงประกอบซีรีส์ ‘เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still 2gether The Series’ มาเป็นของขวัญส่งท้ายความฟินให้กับแฟนคลับที่ติดตามซีรีส์มาตลอด ด้วยเสียงร้องนุ่มแล้วก็เนื้อเพลงที่เอ๋ยถึงความรักผ่านมุมมองของ ‘ไทน์’ ซึ่งนับเป็นเพลงผู้เดียวเพลงแรกของ ‘วิน การบูชายัญวิน’ อีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ‘วิน การเซ่นสรวงวิน’ เคยฝากผลงานเพลงคู่ที่ร้องร่วมกับ ‘ไบร์ท วชิรพีชญ์’ ในเพลง ‘ยังคู่กัน (Still Together)’ หนึ่งในเพลงประกอบซีรีส์ ‘ด้วยความที่เรา(ยัง)คู่กัน Still 2gether The Series’ ที่แฟนคลับได้ฟังพร้อมไปแล้วตั้งแต่ก่อนซีรีส์เริ่มกระจายเสียง

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

สำหรับแฟนคลับที่ยังไม่พร้อมจะมูฟออนจากความฟิน วันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2563 นี้ มาคลายความคิดถึงและต่อเวลาความฟินกันให้สุด กับ ‘สารวัตร – ไทน์’ นำโดย ไบร์ท วชิรวิชญ์ และ วิน เมธวิน พร้อมทีมนักแสดงจากซีรีส์ ‘เพราะเรา ยัง คู่กัน ภาค 2 Still 2gether The Series’ ได้ในงาน ‘คั่นกู 2gether LIVE ON STAGE’ ณ ยูเนี่ยน ฮอลล์ ชั้น F6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์

 

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

 

ฮะโหล! พลูโตตัวจริงเสียงจริงมาแล้วจ้าาา หายหน้าจากบทความไปนานเลย ไม่ใช่อะไรนะช่วงนี้มีงานให้ปั่นเยอะเหลือเกิน วันนี้อารมณ์ดีเลยว่าจะมา “รีวิว เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP1” สักหน่อยจ้า ขอเล่าถึงความคาดหวังส่วนตัวก่อนแล้วกัน จากตอนแรกก็ถือว่าจบสมบูรณ์ได้ใจความแล้วนะ แต่อาจจะรวบรัดไปหน่อย ซีนสวีทหวานน้อยไปหน่อย ทำให้เกิดตอนพิเศษที่แต่งเนื้อเรื่องขึ้นใหม่เพื่อเอาใจแฟนๆ โดยเฉพาะ ตัวพลูโตก็อยากเห็นซีนหวานๆ ซีนอมยิ้มแก้มแตก ให้สมกับที่ไบร์ทวิน เอ้ย! สารวัตร – ไทน์ เป็นแฟนกันแล้ว ไปค่ะ! ไปตามอ่านกัน ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

เรื่องราว

เปิดมาเป็นการเล่าย้อนเนื้อเรื่องในตอนแรก ‘เพราะเราคู่กัน 2gether The Series’ ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งหลงรักไทน์ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป จนไทน์ต้องมาขอร้องให้สารวัตรเป็นแฟนโดยมีข้อแม้ว่าถ้าไทน์เข้าชมรมดนตรีได้ สารวัตรถึงจะยอม แล้วความพยายามของไทน์บวกความหลังที่สารวัตรหลงรักไทน์อยู่แล้วทำให้เขาไปขอร้องพี่ดิมให้รับไทน์เข้าชมรมได้สำเร็จ เหตุการณ์ต่อจากนั้นคือการแกล้งๆ จีบโดยใช้ความรู้สึกจริงของสารวัตรที่อยากดูแลปกป้องไทน์ แกล้งกันไปแกล้งกันมาจนเป็นแฟนกันยังไงไปตามดูได้ที่ Line TV คลิกเลย

หากคุณกำลังหาซีรีส์เบาสมองดูสักเรื่องไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้ค่ะ ครบรสจริงๆ แม้จะมาเป็นตอนพิเศษเพียง 5 ตอน แต่อัดแน่นไปด้วยนักแสดงวัยรุ่นฝีมือดีหลายท่าน มุมมองความรักหลายแบบ และที่สำคัญเพลงเพราะๆ มีให้ติดตามทุกตอน สามารถรับชมได้ที่ช่อง GMMTV(กดหมายเลข25) เวลา 21:30 น. หรือรับชมย้อนหลังได้ที่ Line TV เวลา 23:00 น. เพราะเรายังคู่กัน ย้อนหลังทุกตอน

 

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

 

แม่จีนเป็นคำที่ใช้เรียกแฟนคลับชาวจีน เพราะซีรีส์ Y เรื่องนี้ นอกจากจะกำลังเป็นกระแสนิยมในหมู่แฟนคลับสายวาย และไม่วายในบ้านเราแล้วยังไปสร้างชื่อเสียงถึงดินแดนมังกรจนเกิดกระแสคู่จิ้นไบร์ท-วิน กวาดหัวใจแม่จีนไปกองพะเนินจนเกิดกระแสดราม่าฟาดฟันเป็นสงครามออนไลน์ ระหว่างแฟนคลับไทย-จีนกันยกใหญ่ ด้วยเหตุว่าไบร์ทมีแฟนตัวจริงนอกจออยู่แล้วเมื่อชอบมากอินจัดก็อกหักผิดหวังเป็นธรรมดาแถมด้วยการที่ไบร์ทได้รีทวิตรูปของช่างภาพคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่าถ่ายมาจาก “4 ประเทศ” โดยหนึ่งในนั้นคือภาพจากฮ่องกงบอกเลยว่าดราม่านี้เฮฮาปาจิงโกะเอามากๆ

สายขุดเมืองจีนนี่เค้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ จากตอนแรกที่แฮชแท็ก #คั่นกู ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งทวิตเตอร์ จนตอนนี้แฮชแท็ก #nnevvy มาแรงแซงคั่นกูไปหลายปีแสงก็ไม่มากไม่มายอะไรค่ะ แค่ราวๆ 1.7 ล้านทวีตเท่านั้นเองใครอยากรู้ว่าดราม่าจะมันหยดติ๋งแค่ไหรไปตามทวีตเอาเองเน้อ ส่วนทางนี้ขอพูดถึงผลงานซีรีส์วายเรื่องนี้กันดีกว่าว่าเหตุใดหนอซีรีส์เรื่องนี้ถึงทำเอาแฟนคลับจิ้นกันจนเป็นเรื่อง

 

สร้างจากนิยายวาย

เพราะเรายังคู่กัน ภาค1 “2gether The Series” สร้างมาจากนิยายวายขายดีของแบรนด์ everY จากเว็บ Dek-D ผลงานจากนักเขียน JittiRain ตอนเป็นนิยายนี่ขายดีจนพิมพ์แล้วพิมพ์อีกพอมาสร้างเป็นซีรีส์ก็ดังข้ามน้ำไปถึงเมืองจีนเขานู่นแน่ะ
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มชื่อ ไทน์ (วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร) หนุ่มหล่อหน้าละอ่อนที่มีแฟนมามากมาย แต่ไม่ว่าจะคบกับสาวคนไหนก็ไม่รุ่ง เขาใฝ่ฝันว่าสักวันเขาจะได้เจอรักแท้ในมหาวิทยาลัย

แต่เขากลับต้องมาเจอ กรีน (กันต์-กรวิชญ์ บุญศรี) นางเก้งจอมตื๊อ ชนิดที่ไม่ว่าไทน์จะไปที่ไหนก็ตามติด ตื๊อไม่เลิก หาทางปฏิเสธก็แล้วอะไรก็แล้ว นางกรีนก็ไม่ยอมไปเลยจ้ะ จนไทน์และเพื่อนนึกถึง สารวัตร (ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี) หนุ่มหล่อมาดนิ่งมือกีตาร์สุดฮอต ที่มีแฟนคลับล้นหลามทั่วมหาวิทยาลัย เป็นสามีแห่งชาติของสาวทุกคณะ ไทน์กับเพื่อนจึงวางแผนกันว่าจะขอให้ สารวัตร มาแกล้งจีบไทน์ เพื่อหวังจะให้ กรีน เลิกตาม ถ้ากรีนรู้ว่าสารวัตรคือคู่แข่งหัวใจจะต้องยอมแพ้แน่นอน

 

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

 

แต่การขอร้องให้สารวัตรช่วยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะสารวัตรเป็นคนประเภทไม่สนโลก ไทน์เลยต้องยอมสมัครเข้าชมรมดนตรีเพื่อไปตีสนิท ทั้งที่ความรู้ด้านดนตรีมีอย่างเดียวคือชอบฟังเพลง วง Scrubb จนนำไปสู่เรื่องราวที่ทั้งสองหนุ่มต้องแกล้งเป็นแฟนกัน แต่เรื่องนี้มันก็มีอะไรในกอไผ่อยู่นะจ๊ะ ซึ่งซีรีส์เดินเรื่องมาถึง ep8 แล้ว ยัยป้าแถวนี้ก็ดูไปยิ้มไป อะไรเนี่ยนี่ฉันจิ้นไปกับละครสายวายอีกเรื่องแล้วเหรอไม่แปลกใจจริงๆค่ะ ที่ทำไมหนอ แม่จีนทั้งหลายเขาถึงคลั่งไคล้กันจนเป็นเรื่องเป็นราวโด่งดังอยู่ทุกวันนี้

 

ความเรียบง่ายของตัวละคร

สารภาพเลยว่าได้มีโอกาสดูซีรีส์วายกับเขาไม่กี่เรื่อง เพราะหลายๆ เรื่องบอกเลยว่า “เข้าไม่ถึง” ก็เราไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายอ่ะนะ แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงดูต่อเนื่องมา 8ep รวดแล้วร้องหา ep9 เมื่อไหร่จะมา อาจเป็นเพราะความเรียบง่ายของตัวละคร ที่จัดให้แมนๆ มาชนกัน ไม่มีไดอะล็อกที่หวานเลี่ยนจนเกินงาม ไม่ยัดเยียดเส้น ชาย-หญิง ลงไปในตัวละครจนชวนอึดอัด แต่กลับเป็นความน่ารักที่นอกจากกลุ่มเป้าหมายน่าจะเข้าถึงได้มากกว่าแล้ว ชะนีอย่างเราๆ ก็สามารถอินไปกับความรักของสองหนุ่มได้อีกด้วย ละมุนตาจริงๆ ค่ะ ไม่อยากจะพูด

 

 

เพราะมีเพลงของ Scrubb เป็นสื่อ

พรหมลิขิตของเรื่องนี้มันอยู่ที่ ไทน์ เป็นแฟนเพลงตัวยงของวง Scrubb ถ้าเราสังเกตดี ๆ ภาพยนตร์ที่มีกลิ่นวายยุคแรกๆ อย่าง รักแห่งสยาม ก็ใช้เพลงเป็นสื่อกลางในการดำเนินเรื่อง ซึ่งตอนนั้นก็ทำให้ กันและกัน ดังเป็นพลุแตก ทำให้กลายเป็นความรักแบบแมนๆ ที่ไม่ว่าสายไหนก็จิ้นได้เท่าเทียมกัน ถึงเรื่องนี้จะเป็นวายเต็มตัวแต่สาวกสายอื่นๆ ก็ดูได้ยิ้มๆ ไม่ขัดเขิน เพราะเรา(ยังคู่กัน ภาษา อังกฤษ)

และเพลงของวง Scrubb มักจะถูกนำมาใช้ในนิยายวายมาหลายเรื่องแล้วด้วยนะ ใช้เพลงเป็นสื่อยังไงน่ะเหรอ ก็ด้วยการให้เพลงพูดแทนความรู้สึก เพราะถึงกายจะเป็นชายแต่จิตใจก็อ่อนไหวไม่ใช่เล่น แล้วด้วยความสัมพันธ์แบบเพื่อนในกลุ่มชายล้วนที่ยังชอบเตะบอล กอดคอกันกินเหล้า แถมยังเป็นนักดนตรี การจะบอกรักเพื่อนแต่ละทีก็ต้องมีโมเมนต์ที่ไว้ลายมือกีต้าร์กันหน่อย “เนี่ยความรู้สึกที่กูจะบอก” แล้วเล่นเพลง Scrubb ให้ฟัง

 

สปอยหนัง เพราะเรา(ยัง)คู่กัน

ไม่มากไม่น้อยเกินไปจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้ บทที่ใส่ให้ตัวละครแต่ละตัว ทำได้อยู่ในขั้นกลมกลืนและสามารถเปิดใจรับได้อย่างเข้าใจง่าย ไม่ใช่เอะอะจูบ เอะอะนัวเนีย เป็นคู่เกย์หื่นกาม แต่ในเรื่องนี้สร้างให้ไทน์เป็นผู้ชายที่ชอบเหล่หญิง แต่ก็เปิดกว้างไม่ได้รังเกียจรังงอนเรื่องความหลากหลายทางเพศ เป็นแมนที่มีจิตใจอ่อนโยนและน่ารัก เรียนนิติศาสตร์และมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยในระดับ ลีดชาย (นางเป็นเชียร์ลีดเดอร์)

 

 

ตรงข้ามกับ สารวัตร ที่เรียนรัฐศาสตร์ มาดขรึม เป็นนักฟุตบอลคณะ หล่อขั้นเทพ มีความสามารถด้านดนตรี จนเป็นสามีแห่งชาติของสาว ๆ ทั่วมหาวิทยาลัย แต่เป็นชายรักชายที่มีสายตาไว้แอบรักไทน์เพียงคนเดียว การแสดงออกของคู่นี้ก็จะออกมาในรูปแบบสงวนท่าที ไม่โฉ่งฉ่างแม้แต่เวลาที่อยู่กันเพียงสองต่อสอง ก็เป็นโมเม้นต์ที่ไว้ท่าแบบน่าดู มีการหยิกแกมหยอกที่ไม่ขัดสายตาในทางกลับกันดันเผลอยิ้มไปกับคู่นี้เอาซะฉิบ เป็นละครอารมณ์ดีได้เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

 

 

Bad Guys อีกหนึ่งซีรีส์ที่รีเมคมาจากเวอร์ชั่นเกาหลี โดย True CJ Creations เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ หนังไทยnetflix จาก True CJ ที่น่าสนใจมาก ๆ โดยเนื้อหาของเรื่องจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการไขคดีต่างๆ มีบทแอคชันมันส์ และยังมีฉากสร้างความฮามาเพิ่มความสนุกให้กับเนื้อเรื่อง เรื่องราวจะน่าสนใจขนาดไหนนั้น เราจะมารีวิวกันใน Bad Guys ล่าล้างเมือง ซีรีส์ไทยแอคชัน สุดมันส์กันค่ะ

 

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการไขคดียากๆ ที่ตำรวจธรรมดาไม่สามารถจัดการได้ จนต้องสร้างทีมพิเศษขึ้นมา คดีแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นจนต้องสร้างทีมแบบพิเศษขึ้นมาก็คือคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ซึ่งมี “ฆาตกรสายฝน” เป็นตัวขับเคลื่อนความโฉดและความน่ากลัว มันฆ่าผู้คนไปมากมายและซ้ำร้ายตำรวจมากฝีมือก็สู้มันไม่ได้ และเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ จนนายตำรวจใหญ่ได้คิดวิธีตามล่าฆาตกรสายฝนแบบใหม่ “ในเมื่อฆาตกรชอบใช้ความรุนแรง ก็ให้ใช้ความรุนแรงกว่าจัดการมัน” ดังนั้นเขาจึงตาม “สารวัตรพิทักษ์” ตำรวจมากฝีมือในการจับกุมคนร้ายแต่ถูกสั่งพักงานจากการชอบใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกลับมาทำคดีนี้

 

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

 

และสารวัตรพิทักษ์ก็ได้ร้องขอคนเพื่อช่วยตามล่าฆาตกรคนนี้อีกสามคน ไม่ใช่ขอตำรวจฝีมือดี แต่เขาเลือกที่จะขอ “นักโทษคดีร้ายแรง” มาช่วยตามล่าตัวคนร้าย “ให้คนที่ชอบฆ่าไปล่าคนที่ชอบฆ่ากันเอง” แต่ตำรวจสาวอย่าง “ผู้กองอลิส” กลับไม่เห็นด้วยกับความคิดของผบ. แต่เพราะผบ.เชื่อใจเธอมาก เธอจึงรับดูแลตำรวจที่บ้าความรุนแรงและนักโทษอีกสามคนอย่างขัดไม่ได้ และเพราะภารกิจครั้งนี้มันมีรางวัลเป็นการลดโทษเหล่านักโทษจึงตอบรับตกลงช่วยตามจับฆาตกร ท้ายที่สุดแล้วผู้กองอลิสจะสามารถจัดการความวุ่นวายของนักโทษทั้งสามออกมาได้หรือไม่ แล้วสารวัตรพิทักษ์กับเหล่านักโทษทั้งสามจะใช้ไม้ไหนในการจัดการล่าฆาตกร สามารถติดตามรับชมและร่วมลุ้นซีรีส์ได้แล้วที่ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

แนะนำตัวละครหลัก

1.เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทยรับบทเป็น สารวัตรพิทักษ์ ตำรวจที่ชอบใช้ความรุนแรง ตำรวจใหญ่ที่แม้จะเก่งฝีมือดีขนาดไหนก็ต้องถูกพักงานด้วยเหตุชอบใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้สูญเสียลูกสาวจากฆาตกรโรคจิตที่ชอบออกฆ่าคนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาอยากจะจับฆาตกรสายฝนมากเป็นพิเศษ เป็นคนพูดตรง และหลายๆ อย่างที่เขาพูดก็มันจะเป็นเรื่องจริงที่สะท้อนระบบกฏหมายและสังคมทั้งในจอและนอกจอ

2. นิ้ง ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ รับบทเป็น ผู้กองอลิส ตำรวจสาวเถรตรง ผู้กองอลิส ตำรวจสาวที่เถรตรง และซื่อตรงต่อกฏหมาย ระเบียบวินัย และความเป็นธรรม แม้ผู้ร้ายจะทำเลวแค่ไหน ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายเขา ทำให้เธอมีความเห็นไม่ลงรอยกับสารวัตรพิทักษ์อยู่บ่อยๆ

 

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

 

3. หยวน กวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร รับบทเป็น ยักษ์ อดีตนักเลงแก๊งมาเฟีย ถูกจับจำคุก 50 ปี ยักษ์ อดีตลูกน้องแก๊งมาเฟีย ที่โดดเด่นเรื่องพละกำลัง จุดเริ่มต้นชีวิตที่แสนธรรมดาในแบบนักเรียนช่าง บังเอิญไปพบรุ่นพี่ถูกซ้อมก็เลยเข้าไปช่วย และติดตามเป็นลูกน้องในแก๊ง ใช้ชีวิตนักเลงและจบลงที่คุก โดยรับโทษจำคุกถึง50 ปี เป็นคนบ้าพลัง คิดน้อยกว่านักโทษคนอื่นๆ ที่ออกมาช่วย แต่เรื่องฝีไม้ลายมือการต่อยตีก็สมความเป็นนักเลง ล่าล้างเมือง 3

4. ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล รับบทเป็น เรด อดีตนักฆ่าไร้สังกัด ถูกจับจำคุก 60 ปี เรด อดีตนักฆ่าไร้สังกัดฆ่ามาเยอะมาก แต่ไม่มีที่มาที่ไปของเขา เป็นคนนิ่งขรึม และใช้หัวคิดมากกว่ายักษ์ และโหดกว่าเยอะ ยักษ์อาจจะแค่ซ้อมคนจนสะบักสะบอม แต่เรดนั้นไปเพื่อฆ่าเท่านั้น ที่สำคัญไปกว่านั้น เขานั้นไม่ได้ถูกจับ แต่ไปมอบตัวด้วยตัวเอง และไม่มีใครทราบด้วยว่าเหตุใดเขาจึงยอมมอบตัว หลังจากเข้าร่วมทีมก็ดูมีใจอยากจะช่วยมากกว่าใคร และวิธีของเขานั้นมันเต็มไปด้วยหลักการในแบบนักฆ่าทั้งนั้นเลย

5. ณ ณภัทร วิกัยรุ่งโรจน์ รับบทเป็น สกาย อดีตฆาตกรต่อเนื่อง ถูกจับจำคุกตลอดชีวิต สกาย เด็กที่สุดและคดีโหดที่สุด เขานั้นเป็นเด็กวัยรุ่นที่พื้นเพชีวิตดี การเรียนดี แต่เสพติดและหมกหมุ่นอยู่กับเรื่องความตาย ทำให้เขาออกไปฆ่าคนในตอนกลางคืน จนกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องแต่เขานั้นกลับจำไม่ได้ว่าเขาออกไปฆ่าใครมา เขาถูกจับเพราะแฟนสาวแฉพฤติกรรม และเพราะเขาเป็นฆาตกรมาก่อน เขาจึงรู้วิธีคิดในแบบฆาตกร เหมือนจะเป็นคนที่น่าจะจับฆาตกรได้มากกว่าใครๆ เพราะฉลาดและรู้วิธีคิด แต่ก็ยังตอบไม่ได้หรอกค่ะ เพราะถึงเขาจะฉลาดแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขานั้นเป็นคนที่มีทักษะการต่อสู้ไม่ดีเท่าเรดและยักษ์นั่นเอง

 

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

กลับมาอีกแล้วกับการรีเมกซีรีส์เกาหลีของทรูซีเจ ที่ฝากผลงานการรีเมกชั้นดีเอาไว้จากเรื่อง ‘Voice | สัมผัสเสียงมรณะ’ ที่เรียกว่าดีเทียบเท่าต้นฉบับกันเลยเชียว และเมื่อมาถึงคิวของซีรีส์ขึ้นหิ้งอย่าง ‘Bad Guys’ แน่นอนว่าความคาดหวังที่จะได้เห็นซีรีส์ชั้นยอดเรื่องนี้ถูกนำกลับมาเล่าใหม่ ผ่านการตีความของผู้สร้างคนไทย ก็เป็นอะไรที่ตั้งตารอคอยอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเห็นการแคสติ้งที่ร้อง เฮ้ย! ทำไมแคสต์นักแสดงนำได้ดีแบบนี้นะ โดยเฉพาะในบทของ สกาย ที่ช่างมีความคล้ายกับต้นฉบับมาก ๆ

 

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

 

โปรดักชัน แสง สี เสียง

เรียกว่าเป็นลายเซ็นของทรูซีเจไปแล้วรึเปล่าก็ไม่ทราบได้ กับมู้ดแอนด์โทนจัดจ้านแสบทรวงยิ่งกว่าผีตากผ้าอ้อม ที่เห็นแล้วว้าวมาตั้งแต่ Voice สัมผัสเสียงมรณะ แต่เมื่อมันถูกฉายซ้ำในเรื่องอื่นและเป็นการฉายที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่เว้นที่ว่างให้ปล่อยอารมณ์ ก็ทำให้ไม่ว้าวสักเท่าไหร่แล้วละค่ะ บอกเลยว่าหลายฉากขัดอารมณ์มาก อะไรจะแดงแล้วแดงอีกขนาดนั้น ชนิดที่ทุกพื้นที่บนโลกพร้อมใจกันสาดแสงแดง แสงเหลืองจัด ๆ เขียวแสบ ๆ เต็มไปหมด จนขัดกับบริบทในหลาย ๆ ส่วนที่ตรงกันข้ามกันเสียอย่างนั้น เป็นความคอนทราสต์ที่ไม่สามารถดึงอารมณ์ได้ด้วยซ้ำ

 

บทและการดำเนินเรื่อง

เสน่ห์ของละครอาชญากรรม สืบสวนสอบสวนมักจะอยู่ที่ความไม่รู้ ไม่สามารถเดาได้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง ยิ่งถ้าการดำเนินเรื่องสามารถดึงอารมณ์ร่วมของคนดูออกมาได้อย่างเต็มร้อย จนไร้ช่องว่างของการไว้ใจ ชนิดที่เราไม่สามารถไว้ใจใครได้สักคน ละครเรื่องนั้นก็ประสบความสำเร็จไปเกินครึ่งแล้วละค่ะ แต่การรีเมกครั้งนี้ยังไม่สามารถดึงอารมณ์นั้นออกมาได้ดีเท่าที่ควร ด้วยบริบทหลายอย่างประกอบกัน ทั้งการดำเนินเรื่องที่เลือกฉากก่อนหลังมาใช้ให้ยากที่จะคล้อยตาม บทที่ไม่สมเหตุสมผลในหลาย ๆ ฉากจนยากที่จะเชื่อ
ทำให้เสน่ห์ของละครที่ควรจะเฉิดฉายลดทอนลงไปอย่างน่าเสียดาย และเมื่อเกิดการชูตัวละครตัวใดตัวหนึ่งให้เด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เสน่ห์ของละครเรื่องนี้ลดลงไปอีก (แล้ว) ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วทีมหมาบ้าควรมีความโดนเด่นทัดเทียมกัน ไม่มีใครน้อยหน้าใครจากเอกลักษณ์ความสามารถของแต่ละคน ด้วยการนำทีมของหัวหน้าทีมอย่างสารวัตรพิทักษ์ แต่สำหรับครั้งนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าเราจะเห็นตัวละครตัวหนึ่งโดดออกมาจากคนอื่น ๆ ในทีมอย่างจงใจ ล่าล้างเมืองล่าสุด

 

 

เรากำลังพูดถึง ก็อต จิรายุ นักแสดงที่ไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้งกับฝีมือของเขา เรื่องนี้ก็อตออกมาแต่ละฉากนั้นช่างโดดเด่น น่าดู น่าตามไปทุก ๆ ฉากที่เขาเข้าไปเล่น แต่กลายเป็นเด่นเกินหน้าเกินตาจนแทบจะเป็นพระเอกของเรื่องไปซะแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้ไม่มีพระเอก ไม่มีนางเอก มีแต่ตัวเอก 5 คนที่เคมีต้องเข้ากันอย่างถึงที่สุดและมีสารวัตรพิทักษ์นำทีมป๊อปสตาร์ไปค้นฟ้าคว้าฆาตรกรมาให้ได้ เท่านั้นเอง

 

สปอยหนัง ล่าล้างเมือง

เป็นซีรีส์แอคชันที่สนุกมันส์อยู่นะคะ ของเกาหลีเขาทำมามันส์มาก ของไทยเราก็ทำออกมาดีมันส์สะใจอยู่ค่ะ ยิ่งเป็นซีนอารมณ์แต่ละคนถ่ายทอดออกมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ ขุ่นเคือง ของคุณเอ็ม, หยวน และก็อต หรืออารมณ์สับสนกระวนกระวายใจของนิ้ง ชัญญา ก็สื่อออกมาจนคนดูรับรู้ได้ว่าผู้กองอลิสเขานั้นกังวลใจเรื่องอะไรอยู่ และไหนจะอารมณ์ความจิตไม่ปกติของสกาย ที่ถูกถ่ายทอดออกมาโดย ณ ณภัทร อีก

เรื่องคัดนักแสดงนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ ประทับใจซีรีส์รีเมคจาก True CJ ตั้งแต่เรื่อง คือเธอ remember you มาเรื่องนี้ก็คัดนักแสดงได้เข้าถึงบทบาทมากๆ ถ้าถามว่าชอบใครเป็นพิเศษก็ตอบตามแบบฉบับติ่งเลยนะ ก็คือชอบก็อต จิรายุค่ะ เป็นแฟนคลับตามผลงานเขาทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็เล่นเก่ง เท่ ตีบทแตกอีกแล้ว แฟนคลับอย่างเราก็ตายสงบศพสีชมพูไปเลย

 

 

ดู Bad Guys ล่าล้างเมืองดูได้ที่ไหน ฟรีได้ที่ไหนส่วนที่ชอบมากกว่าฝีมือนักแสดงคือ มันเป็นซีรีส์ที่สะท้อนความคิดในเรื่องของแง่การใช้ความรุนแรงเพื่อปราบวายร้าย และยังมีการสะท้อนระบบการทำงานของระบบราชการอีก เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าระบบราชการเกาหลีเขาเป็นยังไง แต่ระบบราชการไทย จากใจคนที่เคยอยู่ในระบบ ส่วนที่สารวัตรพิทักษ์พูดถึงในเรื่องนั้นมีส่วนจริงอยู่เยอะค่ะ แข่งกันทำผลงาน แข่งกันได้หน้าแข่งกันเอาหน้า โดยไม่สนใจผลลัพธ์และประสิทธิภาพของงาน และอื่นๆ ที่ในเรื่องเขาสะท้อนออกมา แต่ขอไม่ลงลึกในส่วนนี้ไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะกลายเป็นดึงดราม่าแทน

ส่วนสุดท้ายคือชอบตอนที่สุดท้ายแล้วเหล่านักโทษที่แข่งกันไขคดี ยังจริงใจให้กันและเชื่อใจกันมากกว่าคนดีๆ บางกลุ่มซะอีก แต่สุดท้ายเนื้อเรื่องมันก็คาดเดาได้ยากอยู่เหมือนกันนะว่ามันจะจบลงแบบไหน มันก็เลยทำให้เนื้อเรื่องมันน่าติดตามมากจริง ๆ
และนี้ก็เป็นการรีวิวตามแบบฉบับความรู้สึกของเรา โดยรวมเราว่าทำออกมาดี คัดนักแสดงดี ส่วนตัวมองว่า พล็อตเรื่องมันของเกาหลีอยู่แล้วมันก็เลยมีความล้ำลึกในแบบฉบับซีรีส์เกาหลี พอนำมารีเมคในไทยจะปังแค่ไหนส่วนนี้เราว่าขึ้นอยู่กับนักแสดงแล้วแหละ แต่สรุปส่วนตัวคือชอบนะ เข้าขั้นชอบมากเลยแหละค่ะ สำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์ไทยหากอยากดูซีรีส์ไทยเรื่องอื่นๆ ต่อ เราขอฝาก 7 ซีรีส์ละครที่สนุกน่าดู และหาดูได้ง่ายๆ บน TrueID ไว้หน่อยนะคะ สุดท้ายนี้ถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของผู้เขียน ก็สามารถติดตามได้ที่ ล่าล้างเมือง ย้อน หลัง

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

 

 

รักแห่งสยาม เป็นหนังไทยย้อนยุค กำกับโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, จิรายุ ละอองมณี และ นรินทร์โชติ วชิรธรนิยมกุล มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก และการค้นหาตัวตน ผ่านมุมมองของเด็กชายสองคน โดยมีสยามสแควร์เป็นสถานที่เชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งการถ่ายทำเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสยามสแควร์เป็นสถานที่ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำ

การประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ก่อนการออกฉาย นำเสนอว่าเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความรักใส ๆ ของวัยรุ่นหญิงชาย แต่เมื่อภาพยนตร์ออกฉายจริง กลับมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสับสนในจิตใจของวัยรุ่นชาย รวมถึงมีฉากล่อแหลม ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ส่วนเสียงตอบรับในด้านกลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์นั้นก่อให้เกิดข้อถกเถียงทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ดูหนังออนไลน์

 

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

ภาพยนตร์ออกฉายเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยทำรายได้ในสัปดาห์แรก 18.5 ล้านบาท และปิดรายได้รวมที่ 42 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีการฉายในฉบับ “Director’s Cut” มีความยาวประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ ที่โรงภาพยนตร์เฮาส์ อาร์ซีเอ และจากกระแสตอบรับที่ดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงมีกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบและทีมงาน เช่น รอบพิเศษ ที่โรงภาพยนตร์สกาลา สยามสแควร์ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และ การจัดคอนเสิร์ตรอบพิเศษ ชื่อว่า “Nokia Music Presents The Love of Siam Special Greeting” ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

 

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

 

รักแห่งสยามสามารถคว้ารางวัลใหญ่ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก 5 สถาบันหลักคือ รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์, รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง, สตาร์พิกส์อวอร์ด, คมชัดลึก อวอร์ด และสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส รวมทั้งรางวัลอื่นอีกมาก ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ

โต้งและมิวเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็ก โดยบ้านของทั้งสองอยู่ตรงข้ามกัน มิวอยู่กับอาม่าเพราะพ่อและแม่ของเขาต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนโต้งอยู่กับกร และ สุนีย์ พ่อและแม่ของเขา รวมถึงแตง พี่สาว ต่อมากรต้องไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงถือโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวด้วย แต่แตงขอไปเที่ยวต่อกับเพื่อน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้แตงหลงไปในป่าและหายตัวไป กรจึงรู้สึกเสียใจและเริ่มดื่มเหล้าอย่างหนักมาตั้งแต่บัดนั้น ไม่นานต่อมาครอบครัวของโต้งซึ่งเหลือเพียงสามคนได้ย้ายบ้านออกไป และไม่กี่เดือนหลังจากนั้น อาม่าของมิวได้ล้มป่วยลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา รักแห่งสยาม pantip

เวลาผ่านไป โต้ง เด็กชายชั้น ม.6 ได้คบโดนัท เป็นแฟน แต่ด้วยความห่างไกลกัน โดนัทจึงเริ่มสงสัยว่าโต้งอาจไม่รักเธอแล้ว ในขณะที่ มิว เด็กชายวัยเดียวกัน ผู้มีพรสวรรค์ทางดนตรีก็กำลังทุ่มเทความรักให้กับเสียงเพลงและวงดนตรีออกัสของตัวเอง มิวไม่เคยได้สัมผัสกับความรักมานานแสนนาน ตั้งแต่อาม่าตายจากไป แม้เพลงแรกของวงจะเป็นที่รู้จัก แต่เมื่อพี่อ๊อด โปรดิวเซอร์ได้เสนองานให้แต่งเพลงรัก จึงเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่มิวต้องแต่งเพลงนี้เพื่อนำไปเสนอกับค่ายเพลงใหญ่ ในเวลาเดียวกับที่ หญิง เพื่อนบ้านของมิวก็คอยให้กำลังใจและแอบมองมิวอยู่ห่าง ๆ แต่มิวก็ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกที่หญิงมีต่อตัวเองเลย

 

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

 

วันหนึ่ง ขณะที่โต้งกำลังหาซื้อซีดีวงออกัสที่ร้าน ดี.เจ.สยาม เขาได้พบกับมิวอีกครั้ง หลังจากที่ขาดการติดต่อกันมานาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้น มิวแนะนำโต้งให้รู้จักกับ จูน คนดูแลวงดนตรีของมิวที่หน้าตาและบุคลิกเหมือนกับแตง พี่สาวของโต้งที่หายตัวไป โต้งจึงคิดแผนให้แม่จ้างจูนปลอมตัวเป็นแตงเพื่อมารักษาอาการติดเหล้าให้กับพ่อ

 

เรื่องราว รักแห่งสยาม

การเข้ามาของจูนทำให้ครอบครัวโต้งดีขึ้น ในขณะที่เพลงรักของมิวก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ความฝันของวงออกัสที่จะได้ออกอัลบั้มเริ่มใกล้เข้ามาทุกที แต่เมื่อสุนีย์จัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของแตง ทำให้ความสัมพันธ์ของมิวและโต้งใกล้ชิดมากขึ้นจนเกินเลย จนถึงขั้นจูบกัน สุนีย์เห็นพอดี วันต่อมาจึงต้องเข้ามาตักเตือนมิว และห้ามไม่ให้โต้งไปบ้านมิวอีก เมื่อกรรู้เรื่องเข้า ทำให้เขากับสุนีย์ต้องทะเลาะกัน

ด้วยปัญหาข้างต้น โต้งจึงเริ่มหันไปสูบบุหรี่ กินเหล้ากับเพื่อน ในขณะที่มิวหายตัวไปในวันออดิชั่น สร้างความเสียหายให้กับวง จนโปรดิวเซอร์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนนักร้องนำ เพราะได้จองคิวคอนเสิร์ตในวันคริสต์มาสไว้แล้ว แต่เอกซ์ เพื่อนสนิทของมิวได้เสนอตัวที่จะเป็นคนไปบอกมิวเอง โดยมีจูนช่วยอีกแรง

 

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

 

ทางฝั่งครอบครัวโต้ง สุนีย์สังเกตว่ากรถ่ายอุจจาระเป็นเลือด จึงรีบพากรส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่ากรเสียตับไปมาก ในระหว่างที่กรรักษาตัวอยู่นี้ จูนได้บอกความจริงเกี่ยวกับครอบครัวให้สุนีย์รู้ และได้อยู่ดูแลกร ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้อยู่กับสุนีย์และกร ส่วนเอกซ์ได้ขอร้องให้มิวกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง รักแห่งสยาม แตงหายไปไหน

ในวันคอนเสิร์ต มิวได้กลับมาร้องเพลงให้ออกัส ขณะเดียวกัน โต้งได้มาที่สยามสแควร์ตามคำชวนของโดนัท และ ณ ที่นั่น โต้งได้บอกเลิกโดนัท และตัดสินใจไปดูคอนเสิร์ตของออกัสพร้อมกับหญิง

หลังคอนเสิร์ตจบ โต้งได้พบกับมิวอีกครั้ง และมอบของขวัญวันคริสต์มาสให้ เมื่อโต้งกลับมาที่บ้าน โต้งพบว่าจูนไม่ได้กลับมาอีกแล้ว เพราะเธอรู้ว่า ถึงครอบครัวของโต้งไม่มีแตงอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์ ส่วนมิวเองก็รู้สึกตื้นตันกับของขวัญที่โต้งให้

 

ที่มาและการทำงานช่วงแรก

ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล หรือมะเดี่ยว ผู้กำกับภาพยนตร์และเขียนบทภาพยนตร์ รักแห่งสยาม วิเคราะห์ เริ่มเขียนบทครั้งแรกตอนสมัยเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมะเดี่ยวเองมีความคุ้นเคยกับสยามสแควร์ เนื่องด้วยเป็นสถานที่ที่ไปเป็นประจำ ได้เห็นคู่รัก วัยรุ่นมากมาย แม้กระทั่งคนวัยทำงานหรือครอบครัวก็ตาม จึงเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนบทและใช้สยามสแควร์เป็นฉากหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ใช้เวลาถึง 4 ปีในการเขียนบท ซึ่งตัวละคร เรื่องราว ต่างๆ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของตัวผู้กำกับเอง เขาหยิบยกเรื่องของพ่อแม่ พี่สาว และเรื่องส่วนตัว ขึ้นและขยายเรื่องส่วนตัวไปสู่เรื่องสากลที่คนทั่วไปร่วมรับรู้ได้ จนประมาณปี 2548 ชูเกียรติและสุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ พยายามหาเงินทุนเพื่อสร้างหนัง ถึงขนาดไปขายหนังที่ฮ่องกง ก่อนที่นายทุนจะให้เงินมาแต่งบต่ำมาก ชูเกียรติกลัวจะเสียบทไป จึงพับโครงการไว้และไปทำ 13 เกมสยอง ก่อน จนนายทุนยอมให้ทำในที่สุด โดยให้งบเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท แล้วไปปิดที่ 17 ล้านบาท ซึ่งงบค่อนข้างไปลงอยู่ที่ฉากคอนเสิร์ต และค่าตัวนักแสดงนำ

 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มเตรียมงานถ่ายทำช่วงกลางปี 2549 และเริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2549 โดยฉากแรกที่ถ่ายคือที่ร้านขายต่างหูบริเวณสยามสแควร์ ปิดกล้องวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2550 ใช้เวลาถ่ายทำเกือบ 5 เดือน หลังจากนั้นจึงเป็นงานในส่วนของงานหลังการถ่าย อย่างเช่น ตัดต่อ การลงเสียง เป็นต้น

 

รักแห่งสยาม สปอยหนัง

ภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม movie2free เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก ดราม่า ผลงานการกำกับของ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง และเรื่องราวความรักของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการค้นหาความเป็นตัวเอง ความกดดัน ความหวัง ความฝันและการฟังเสียงคนรอบข้าง ที่ล้วนก็มีอิทธิต่อชีวิตพวกเขาด้วยกันทั้งนั้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นมาริโอ้ เมาเร่อ มารับบทเป็น โต้ง เด็กหนุ่มชั้นม.6 เขาเป็นที่อิจฉาของเพื่อน ๆ เพราะมีแฟนสวย คนต่อมาคืออธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ รับบทเป็น โดนัท แฟนสาวแสนสวยของโต้ง โดยพักหลังมาโต้งเริ่มที่จะถอยห่างออกมาจากเธอ เพราะเขาเริ่มที่จะค้นพบความเป็นตัวเองที่แท้จริง ซึ่งโดนัทเธอก็สวยพอที่จะเดินจากโต้งมาเพื่อไปเริ่มความรักครั้งใหม่

 

 

คนต่อมาคือวิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล มารับบทเป็น มิว เด็กชายวัยเดียวกันกับโต้ง เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีก็กำลังทุ่มเทความรักให้กับเสียงเพลงและวงดนตรีของตัวเอง มิวเป็นเด็กผู้ชายขี้เหงาที่ไม่เคยได้สัมผัสกับความรักอันแท้จริงเสียที ตั้งแต่อาม่าตายจากไป คนต่อมาคือกัญญา รัตนเพชร์ มารับบทเป็น หญิง เพื่อนบ้านของมิว ที่มักจะคอยให้กำลังใจและแอบมองมิวอยู่ห่าง ๆ โดยที่มิวไม่เคยรับรู้ความรู้สึกที่หญิงมีต่อตัวเขาเลย คนต่อมาคือพลอย เฌอมาลย์ มารับบทเป็น จูน คนดูแลวงดนตรีของมิวที่หน้าตาเหมือนกับ แตง พี่สาวของโต้งที่หายตัวไปสมัยที่เขายังเด็ก

คนต่อมาคือสินจัย เปล่งพานิช มารับบทเป็น สุนีย์ แม่ของโต้งที่จ้างจูนปลอมตัวเป็นแตงเพื่อมารักษาอาการติดเหล้าให้กับพ่อ และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี มารับบทเป็น กร พ่อของโต้งที่มีชีวิตอยู่ภายใต้ความรู้สึกผิดต่อลูกสาว โดยภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2550

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

 

 

หลังจากที่ปลายปีที่แล้ว GDH ได้จัดงานแถลงข่าว GDH Xtraordinary 2021 LINE UP เพื่อเปิดเผยไลน์อัป 5 โปรเจกต์ หนังไทยมาใหม่ ที่จะเข้าฉายในปี 2563-2564 ซึ่งในปีคราวแล้ว อ้ายคนหล่อลวง’ (2563) หนังเรื่องแรกของโปรแกรมนี้ก็ได้เข้าโรงฉาย แล้วก็เอาเข้า Netflix เป็นที่เป็นระเบียบแล้ว

 

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ การทดลองเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายกลับพลิกผัน เมื่อกล้ากับวี หมอเพื่อนคู่หูเกิดเห็น ‘ผี’ ด้วยตาตัวเองเป็นครั้งแรก การเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่ต้องการค้นหาคำตอบเรื่องผีและข้อพิสูจน์เกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย การหมกมุ่นยึดติดเพราะอยากรู้โดยไม่คิดหน้าคิดหลังทำให้พวกเขาถลำลึกจนกู่ไม่กลับ และอาจทำให้ทั้งคู่ต้องสูญเสียมิตรภาพและคนที่ตนรักไป

ถึงทีของหนังเรื่องที่ 2 ของโปรเจกต์นี้อย่าง ‘GHOST LABฉีกกฎทดลองผี’ ที่คราวนี้ GDH ขอหวนคืนสู่หนังผีอีกครั้ง(หลังจากห่างหายจากแนวนี้ไปสักพัก)โดยผู้กำกับ ‘กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ ที่ผ่านผลงานทั้งหนังผี-หนังไม่ผีทั้งหลาย ตั้งแต่ ‘บอดี้ ศพ19’ (2550), ‘สี่แพร่ง’ ตอน “ยันต์สั่งตาย” (2551) , ‘ห้าแพร่ง’ “หลาวชะโอน” ตอน “หลาวชะโอน” และ ‘รัก 7 ปี ดี 7 หน’ ตอน “14”(2555)ดูหนังฟรี

 

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

 

นอกจากจะเป็นการหวนสู่หนังผีของ GDH แล้วหนังเรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ Netflix Original เรื่องแรกของ GDH ที่ฉายเฉพาะในหนังผี netflixด้วย ซึ่งนอกจากว่าจะมีข้อดีตรงที่ชมได้ทั่วโลกแล้วสิ่งที่หนังเรื่องนี้มีความแตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ การดันเรตติงขึ้นไปถึง 18+ ทั้งภาพโหดๆ และภาพความรุนแรงต่างๆ ใส่ในหนังแบบจัดเต็มได้กว่าหนังเรื่องอื่นๆ ของ GDH ที่เคยมีมาดูหนังออนไลน์

 

องค์ประกอบของหนัง

ฉาก : มีฉากตุ้งแช่ความน่ากลัวระดับ 1-2

แสง สี : GDH ก็ยังคงเอกลักษณ์งานแสงสีได้ดีเหมือนเดิมเลย โดยเฉพาะฉากกลางคืนสวยมากจริง ๆ ให้ความรู้สึกหลอน วังเวง เยือกเย็น

เสียง : เสียงเอฟเฟคคือทำให้ตกใจง่ายมากในฉากตุ้งแช่ เสียงมันดีมาก คมชัด ฟังเเล้วก็มีหลอน ๆ หวาดเสียวบ้างแหละ

 

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

 

ปมปัญหาของเรื่อง : หลักๆ เลยก็จะเกี่ยวกับการไขหาคำตอบของโปรเจกต์ล่าเเสงเหนือในแง่วิทยาศาสตร์ว่าจริง ๆ แล้ว วิญญาณมันคืออะไรกันแน่ ด้วยการสำรวจแล้วก็ทดลองเพื่อหาคำตอบต่อไปเรื่อยๆ แต่แทนที่จะผ่านพ้นไปด้วยดีตามที่พวกเขาตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก กลับมีบางอย่างมาสกัดไว้

 

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

จริง ๆ พอได้ยินจั่วหัวว่าหนังเรื่องนี้เป็น “หนังผีสายวิทย์” แค่ทีเซอร์ก็น่าสนใจแล้วแหละ บวกกับความเป็น GDH ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเคี่ยวกรำบทหนังแบบเข้มข้นรวมถึงการเจอกันครั้งแรกของ 2 นักแสดงแห่งนาดาวอย่าง ‘ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร’ ในบท ‘หมอวี’ หมอสุดเนิร์ดที่มีปมบางอย่างในใจ ‘ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต’ ในบท ‘หมอกล้า’ หมอมาดเท่ที่มีโปรเจกต์ลับที่อยากจะทดลองอะไรบางอย่างเกี่ยวกับวิญญาณและโลกแห่งความตายและ ‘ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์’ กับการเล่นหนังครั้งแรกในบท ‘ใหม่’ แฟนหมอกล้า
ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของธีม หรือแก่นเรื่อง จริง ๆ ต้องบอกว่ามันมีความน่าสนใจและมีความเท่ในตัวของมันเองอยู่แล้วนะครับ แล้วมันก็สัมผัสได้ตั้งแต่องก์แรก ที่เราจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างมุมมองเกี่ยวกับวิญญาณ ไสยศาสตร์ที่แตกต่างกันของทั้งคู่ โอเค แม้ว่าตอนปูเรื่องแรก ๆ จะแอบรู้สึกยุกยิกกับการคุยอะไรเนิร์ด ๆ ไปบ้างกว่าจะปูเข้าเรื่องว่ามีโปรเจกต์ลับ ๆ เพื่อทดลองการปรากฏตัวของวิญญาณ และหวังว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่ตีพิมพ์ในวารสารการวิจัยระดับโลก มันก็ค่อนข้างจะมีอะไรให้รู้สึกคันหัวใจยุบยิบอยู่เหมือนกัน

 

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

 

ตั้งแต่ในองก์แรก เราจึงจะได้เห็นการวางโครงคร่าว ๆ การสร้างโลเกชันหลักอยู่ในที่ที่ (ว่ากันว่า) วิญญาณเยอะสุด ๆ อย่างโรงพยาบาล (เพราะคนตายทุกวันและมีห้องดับจิต)และการอธิบายอธิบายเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ว่า “ผีมีจริงไหม?” “ถ้าผีมีจริง มีอะไรที่จะวัดได้ไหม” และ “ถ้าผีมีจริง จะปรากฏตัวได้อย่างไร เมื่อไหร่?” ในองก์แรกอย่างชัดเจน รวมถึงเคมีที่เข้ากันของไอซ์และต่อ ที่แม้ว่าอายุจะห่างกันพอสมควร แต่ก็เรียกได้ว่าดูมีความเข้าขากันในระดับที่น่าสนใจทั้งหมดนี้จึงทำให้ในองก์แรกนั้นมีสถานะเป็นหนังแนวลี้ลับ ผสมสืบสวนสอบสวน (มีคอมเมดี้แทรกเล็กน้อย) ที่ดูพอจะเข้าใจในเจตนาและวิธีการของตัวละครได้ในระดับหนึี่งเลยทีเดียว รวมถึงความพยายามในการประคับประคองประเด็นความเชื่อระหว่างพุทธกับผีจนเรียกได้ว่าดูแล้วนึกถึง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (2560) ได้ในแวบหนึ่งเหมือนกันนะครับฉีกกฎทดลองผี สปอย

 

องค์ประกอบ2

แต่พอเข้าสู่องก์ที่สอง ดูเหมือนว่าตาชั่งในการประคับประคองความเชื่อทั้งสองฝั่งเริ่มก็เริ่มจะเสียสมดุลเพราะกลับพบว่า บทเริ่มกลับพาออกไปไกลจากหลักวิทยาศาสตร์หล่อๆ ที่สองหมอหนุ่มหล่ออุตส่าห์ปูเรื่องไว้ให้อย่างดี เพราะแม้ว่าตัวละคร โดยเฉพาะต่อ ธนภพ (ที่กำลังจะเข้ามาแบกหนัง) และตัวหนังเองก็มีปมระทึกขวัญในระดับที่ไม่ควรสปอยล์เป็นอย่างยิ่งอยู่ แต่ดูเหมือนว่าหน้าหนังและเนื้อหาในองก์แรกที่เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นการ “เอาวิทยาศาสตร์ไปหาผี” กลับกลายเป็นว่าในองก์นี้ กลับเริ่มเอา “ผีโน้มกลับมาหาวิทยาศาสตร์” ไปเสียอย่างนั้น

จนทำให้เราแทบสัมผัสหลักการต่างๆ แทบไมไ่ด้เลยว่าผีจะกลับมาด้วยทฤษฏี วิธีการหรือปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ให้เราเชื่อได้ว่า “ผีมีจริง” ได้ยังไงกันแน่ นอกจากจะใช้ “บางสิ่งบางอย่าง” เอามาเป็น “เครื่องสังเวย” และ “ร่างทรง” ให้กับวิญญาณที่มีห่วงได้ใช้อาศัยในการสื่อสารเป็นการนำเอาความเชื่อทางพุทธ/ผี รวมถึงความผูกพันในแง่ของความรักความแค้น การมีห่วงผูกพัน รวมถึงประเด็นของวิญญาณที่วนเวียนไม่ไปไหนวิญญาณเข้าฝัน ฯลฯ

 

 

มาครอบด้วยมุมมองทางวิทยาศาสตร์ที่ดูจะเบาบางลงเรื่อยๆ ในขณะที่เรื่องดำเนินไปเท่านั้นเองรวมถึงบางประเด็นและบางเรื่องราวที่ยังอธิบายได้ไม่สุดไม่เคลียร์ รวมถึงบางประเด็นที่ถูกทิ้งขว้างไปแบบดื้อๆเสียอย่างนั้น ทั้งหมดนี้กลายเป็นความ “เบี้ยว” ที่ต้องใช้การแสดงของ ‘ต่อ ธนภพ’ ออกแรงแบกกันหนักหน่อย

โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี สปอยหนัง

จนพอเข้าองก์ที่สามต้องบอกได้เลยนะครับว่า มันพาไปไกลเกินไปจริง ๆ ครับ ถ้าจะบอกว่าดูแล้วยังเข้าใจในธีมที่เรื่องจะสื่อไหม ผู้เขียนคิดว่าเข้าใจครบถ้วนนะครับ แต่เพียงแต่ว่า บทมันพาไปไกลแบบที่เรียกว่าลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมวิทยาศาสตร์เท่ ๆ และหลักการทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างง่ายดายเสียอย่างนั้น กลายเป็นว่าการสรุปจบธีมที่น่าจะจบลงได้แบบว้าว ๆ กลายเป็นการจบแบบลืมทฤษฏีวิทยาศาสตร์ทุกอย่าง แล้วหันมาใช้ทฤษฏี “ฟ้ามีตา” และบทสรุปในแบบ “พุทธ/ผี”เพื่อสรุปผลการทดลองแบบฉลาดเกมส์โกงเข้าขั้นคุ้มคลั่งคลั่งของหมอวีและจบลงด้วยการเผชิญกับผลการทดลองที่ลุกขึ้นมาจัดการกันแบบโต้ง ๆ ชนิดที่ดูแล้วต้องร้องว่า “อิหยังวะ” เลยแหละ

อย่างที่เกริ่นไปบ้างแล้วครับว่า การแสดงของทั้งสองหนุ่มถือได้ว่าเคมีเข้ากันเป็นอย่างดี แต่การแสดงของทั้ง ‘ไอซ์-พาริส’และ ‘ต่อ-ธนภพ’ ถือว่าอยู่ในขั้นที่น่าพอใจครับ โดยเฉพาะการแสดงของ ‘ต่อ-ธนภพ’ ที่นอกจากจะแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างน่าประทับใจแล้ว การสร้างคาแรกเตอร์ “หมอวี” หมอเนิร์ดที่ค่อยๆ หมกมุ่นและคุ้มคลั่งในการทดลองขึ้นทีละนิดๆ ทั้งการพูดการแสดงท่าทางของต่อนั้น เรียกได้ว่า “สุด” มากๆเลยครับ

 

 

จริงๆ หนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังที่แนะนำให้ดูได้นะครับ ฉากสยองๆ หลายฉากยังทำงานได้ดี มี Jump Scare บางๆ พอหอมปากหอมคอและฉากระทึกให้ลุ้นพองาม แต่ถ้าหากจะแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้ ขอแนะนำว่าให้ปิดโหมดการทำงานระบบตรรกะ และขอให้ลืมวิธีวิทยาการวิจัย (Research Methodology) หรืออะไรก็ตามที่เคยเรียนหรือรู้ตอนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เทือกๆนี้ไปก่อนนะครับ คือเอาจริงๆ มันก็เป็นคำแนะนำที่ดูจะขัดๆ แปร่งๆ กับหนังที่ชวนให้เราใช้สมอง ใช้ความคิดหนัก ๆ กับหลักวิทยาศาสตร์ไปหน่อยนั่นแหละ

แต่ผลจากการทดลองของผู้เขียนในการดูแบบปิดโหมดตรรกะผลการทดลองพบว่า น่าจะทำให้สามารถเพลินไปกับตัวหนังได้มากกว่าจะมานั่งตั้งสมมติฐาน คิดหาข้อสงสัย จับผิดโน่นนี่ ต้องการคำตอบกับสมมติฐานที่ว่า “ผีมีจริงไหม?” เพราะหนังเรื่องนี้คงให้คำตอบได้ “ประมาณหนึ่ง”เท่านั้นล่ะนะครับหนังผี gth