Tag Archives: หนังเก่าไทยน่าดู

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

 

สอยหนัง สำหรับแฟน ๆ ประจำของ GDH ที่คาดหวังหนังอารมณ์ฟีลกู๊ดจากค่ายนี้ หรือคนที่เคยประทับใจผลงานของเต๋อ นวพล จาก “ฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” แล้วคาดหวังความฮาในระดับนั้น ก็ต้องเตือนกันก่อนเลยว่า ห้ามคาดหวังความฟีลกู๊ด หรือความฮาใด ๆ จากเรื่องนี้ ซึ่งถ้าใครได้ชมตัวอย่างหนังกันมาแล้ว ก็พอจะคาดเดาอารมณ์ของ “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” กันได้อยู่บ้างนะ ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 53 นาที ของหนัง แทบไม่มีเสียงหัวเราะให้ได้ยินเลย หรือถ้ามีสอง-สามมุก ก็เป็นหัวเราะแบบหึ ๆ เท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับฉากที่ตัวละครน้ำตาไหลพราก นี่อัดแน่นกันมาหลายฉากเลย ดราม่า สาระ มาเต็ม ฮา ว ทูทิ้ง hd พากย์ไทย

 

เรื่องย่อ ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง จีน เป็นนักเรียนนอกจากสวีเดนที่กลับมาอยู่กับครอบครัว ที่มี “เจ” พี่ชาย และแม่ที่ยังอยู่บ้านเดิมที่เคยเป็นโรงเรียนสอนดนตรีและรับซ่อมเครื่องดนตรี ที่พ่อเป็นผู้ริเริ่มกิจการแล้วก็จากไปมีครอบครัวใหม่นานมากแล้ว จีนจึงตั้งใจจะรีโนเวตชั้นล่างของบ้านเป็นออฟฟิศ ซึ่งสเต็ปแรกก็คือการโละข้าวของต่างๆ ทิ้งข้าวของแต่ละอย่างที่จีนและเจ พบในกองของเก่าเก็บก็ล้วนแต่มีอดีต และหนึ่งในนั้นก็คือกล้องและฟิล์มของเอ็ม อดีตแฟนของจีน ที่เธอเลิกกับเขาตอนที่ไปเรียนต่อสวีเดน จีนตัดสินใจเอากล้องไปคืนแต่ที่จริงนั้นเธอต้องการไปขอโทษเอ็ม เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจที่เคยทิ้งเอ็มไปอย่างไม่มีเยื่อใย และนี่คือจุดเริ่มต้นที่จีนกลับไปมีบทบาทในความคิดตัดสินใจครั้งใหญ่ของเอ็ม

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

ถ้ามองตามชื่อหนังและตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาก็จะสื่อให้เข้าใจว่านี่คือ “หนังรัก” ที่พูดถึงเยื่อใยต่อคนรักเก่า แต่เอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวของเอ็มเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะ “ฮาวทูทิ้ง” ยังพูดถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวจีนอีกมากผ่าน “ของเก่า” ที่ทำหน้าที่ตัวแทนเรื่องราวในอดีตมากมาย ทั้งเรื่องของพ่อที่ทิ้งไป ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเพื่อนอีกหลายๆ คน แต่ละเรื่องก็ทำหน้าที่ประหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ต่อกันเป็นภาพที่เด่นชัดของจีน

ให้เรารู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น ซึ่งจีนเองก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเช่นกัน จากคำตอบโต้ของเอ็มและเพื่อนหลายๆ คน ที่ตำหนิเธอกลับมา ทำให้ “จีน” เป็นนางเอกหนังที่มีความเป็นปุถุชนมากสุดคนหนึ่งบนจอหนังไทย ที่ไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อม มีจุดที่แข็งขณะเดียวกันก็มีจุดที่อ่อนไหวอีกมาก ที่ทำให้เธอไม่สามารถตัดขาดความทรงจำเก่าๆ ไปได้อย่างที่ตัวเองพูดแล้วทำให้การจัดบ้านของเธอต้องพัวพันไปกับอีกหลายๆ ชีวิต ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ถ้ามองว่า “ฟรีแลนซ์” เป็นหนังที่เต๋อ ปรับเปลี่ยนตัวเองเข้าหาความเป็น GDH มากขึ้น แล้วก็ได้ผลตอบรับอย่างดี พอมาถึง “ฮาวทูทิ้ง” เต๋อ ก็ขอหันกลับไปเป็นตัวเองมากขึ้น เอาใจตลาดน้อยลง รอบนี้ไม่มีมุกฮาไม่มีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างคู่พระนางให้คอยจิ้นเอาใจช่วย แม้กระทั่งรอยยิ้มของตัวละครยังแทบไม่เห็นเลย ก็เชื่อว่า GDH ก็คงไม่คาดหวังรายได้ระดับร้อยล้านหรอกนะเพราะการที่ GDH ปล่อยหนังสองเรื่องติดกันแบบนี้ ก็มองเกมการตลาดมาเรียบร้อยแล้วล่ะไปหวังกำไรเอาจาก “ตุ๊ดซี่ส์” ส่วน “ฮาวทูทิ้ง” ก็ไปแนวหนังรางวัล ซึ่งตัวหนังเองใช้นักแสดงไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักแสดงโนเนม ก็ไม่น่าจะใช้ทุนสร้างมากมายนัก อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนแน่นอนล่ะ

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

ซึ่งรอบนี้เต๋อก็ขอตามใจตัวเองอย่างเห็นได้ชัดในทุกแง่มุมการนำเสนอทั้งการนำเสนอภาพในฟอร์แมต 2:3 ที่มีภาพกระจุกอยู่ตรงกลางจอ พื้นที่ซ้ายขวาของจอปล่อยดำมืดไปเลย สีสันทั้งเรื่องจืดซีด ไม่มีสีฉูดฉาดแดง เหลืองเขียวให้เห็น เน้นหนักแต่ขาว เทา ดำ โดยเฉพาะตัวจีนนั้นเธอจะใส่เสื้อขาวกางเกงดำตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าเต๋อต้องการปูอารมณ์หม่นซึมให้คนดูตั้งแต่นาทีแรกของหนังเลย ฮาวทูทิ้ง เต็มเรื่อง facebook

ดนตรีประกอบของหนังก็แทบไม่ได้ยิน หลาย ๆ ฉากใช้เสียงเชลโลต่ำๆ “ตึ่ม ตึ่ม” เข้ามาประกอบฉากสนทนาแค่นั้นทำให้ “ฮาวทูทิ้ง” เป็นหนังที่เดินหน้าไปแต่ละนาทีด้วยความรู้สึกที่ “หนัก” แล้วเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ บนประเด็นที่ค่อนข้างเบา เพราะว่าด้วยปฏิบัติการทิ้งของเก่าของจีน ซึ่งผ่านไปเกือบชั่วโมงกว่า “เอ็ม” จะโผล่เข้ามาในเรื่องก็เพิ่มประเด็นหนักหน่วงเข้ามาอีก เพราะจีนเข้าไปในฐานะคนเก่าของเอ็ม ในวันที่เอ็มใช้ชีวิตคู่กับมี่แล้ว

 

สอดแทรกความเป็นจีนเข้ามาในหนัง

ด้วยความที่หนังเล่าเรื่องผ่าน “จีน” ที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แล้วแทรกประเด็นยิบย่อยรอบตัวจีนเข้ามา ทำให้หนังไม่สามารถลงลึกในแต่ละประเด็นได้ครบถ้วน บางประเด็นก็ถูกทิ้งค้างให้เป็นข้อสงสัยอย่างเรื่องการจากไปของพ่อความบาดหมางของจีนกับเพื่อนสาวที่เธอเอาดับเบิ้ลเบสไปคืน แต่เท่าที่เห็นนี่ก็นับว่าหนักพอดูแล้ว ที่เหลือก็เลยถูกทิ้งไว้เป็นที่ว่างในจินตนาการของคนดูให้เลือกเติมเต็มกันเอาเอง

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

คนที่ควรได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดใน “ฮาวทูทิ้ง” ก็คือ ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ในบท “จีน” ที่เห็นได้ชัดถึงการก้าวกระโดดของฝีมือการแสดงเป็นบทที่น่าเครียดมากไม่มีฉากไหนที่จะดูสบายๆ เลยเพราะเต๋อก็เลือกเล่นยากเพราะหลาย ๆ ฉากเต๋อก็เลือกที่จะให้นักแสดงสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านสายตาและสีหน้ามากกว่าคำพูด ฉากดราม่าเยอะมาก มีทั้งที่ต้องระเบิดอารมณ์ใส่กันและแบบที่ยืนจ้องหน้ากันเงียบๆ แต่ต้องสื่ออารมณ์ให้ถึงคนดูให้ได้ ซึ่งออกแบบก็เอาอยู่ในทุกฉาก แล้วเล่นแบบไม่ห่วงสวยเลย ซันนี่ ในบท”เอ็ม” ออกมาไม่กี่นาทีเลย มาในมาดขรึมๆ พูดน้อยแต่รู้สึกขัดตากับเคราของเอ็มมาก ดูหรอมแหรมไงไม่รู้

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ฮา ว ทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ รีวิว ชอบการแคสติ้งที่ใส่ใจในการเลือกคนมาเล่นเป็นพ่อแม่พี่น้องที่ดูมีความละม้ายเป็นไปได้กับการเลือก อาภาศิริ นิติพน มาเป็นแม่ของจีน และ ถิรวัฒน์ โงสว่าง รับบท เจย์ มาเป็นพี่ชายของจีน ทั้งสามคนมีโครงหน้าเหลี่ยม กรามชัดเจนมาก ดูแล้วเชื่อว่าเนี่ย “แม่ลูก” กัน อาภาศิริ โผล่มาแค่สองฉาก แต่ทั้งสองฉากที่เธอโผล่มานี่จัดหนัก จัดเต็ม ได้อย่างน่าชื่นชม โชว์ศักดิ์ศรีนักแสดงรุ่นเก่า แม้หนังจะไม่มีฉากกิมมิคอย่าง “ไปค่ะ พี่สุชาติ” ให้ถูกพูดถึงอย่าง “ฟรีแลนซ์” แต่ฉากโชว์ฝีมือของอาภาศิริก็สมควรได้รับการจดจำจากเรื่องนี้

 

 

ถิรวัฒน์ โงสว่าง และ ษริกา สารทศิลป์ศุภา ในบท “มี่” สองรายนี้ผมไม่คุ้นหน้ามาก่อนแต่ก็อยากชื่นชมว่าแสดงได้ดีมากดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็ต้องย้อนไปชื่นชมที่ตัวผู้กำกับ “เต๋อ” ที่รักษาลายเซ็นตรงนี้ไว้ได้ชัดเจน ผมมักจะทึ่งกับการถ่ายทอดการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติจากบรรดานักแสดงในหนังของเต๋อ บทสนทนา การแสดงออกที่ไร้ซึ่งการประดิดประดอย ให้ความรู้สึกเหมือนได้ดูสารคดีชีวิตคนจริงๆ ไม่เหมือนว่ากำลังดูหนังที่สื่อผ่านการแสดงอยู่เลย อีกเรื่องที่อยากพูดถึง คือการรีโนเวตบ้านที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวไม่ใช่แค่หยิบเรื่องการทิ้งของเก่า แล้ว Move On มาเป็นประเด็นตั้งต้นเฉยๆ แต่รีโนเวตให้ดูจริง จากบ้านเก่าๆ โทรมๆ ทำออกมาแล้วสวยโล่ง สว่าง น่าอยู่จริง

 

จุดที่ชอบของเรื่องนี้

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง สุดท้ายก็อยากจะชมเต๋ออีกในเรื่องการหยิบแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตมาขยายความได้น่าสนใจ อย่างเรื่องนี้ก็คือ “ของเก่า” ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมนุษย์เราทุกคน ที่หลายคนมักจะผูกพันแล้วเก็บรักษามันไว้จะด้วยเหตุผลมากมายทั้งความเสียดาย เป็นตัวแทนความทรงจำดีๆ แค่จุดเล็กๆ เนี่ย เต๋อสามารถหยิบแง่มุมต่างๆ ของ “ของเก่า” มาขยายได้มากมาย มันอาจจะเป็นของไร้ค่าสำหรับบางคน

แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นของมีค่าที่ประเมินค่าไม่ได้กับอีกคน หรือมองในอีกมุมที่จีนตีความว่าของเก่าเปรียบเสมือนโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งชีวิต ถ้าปล่อยวางตัดทิ้งได้ ชีวิตก็จะ “Move On” ไปข้างหน้าได้เช่นเดียวกับที่เธอทำกับเอ็ม ซึ่งการตัดทิ้ง หรือปล่อยวาง บางครั้งก็มีเส้นบางๆ คั่นไว้กับ “ความเห็นแก่ตัว” อย่างที่เพื่อน ๆ และเอ็มต่างก็ใช้คำนี้มาตำหนิจีน

 

 

อีกจุดที่ชอบคือการตีความ “คำขอโทษ” ที่เต๋อนิยามมันผ่านมุมมองที่แตกต่างไว้ในเรื่องนี้ ว่าบางครั้งการกล่าวคำขอโทษ ไม่ใช่เพื่อให้คนฟังรู้สึกดีแล้วยกโทษให้ แต่บางครั้งคำขอโทษก็ถูกใช้เพื่อประโยชน์ของผู้กล่าวที่อยากจะใช้ “คำขอโทษ” เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกผิดของตัวเองซะ แล้วก้าวต่อไป เปรียบเหมือนกับการโยนความรู้สึก ความทรงจำ กลับไปที่คู่กรณีให้แบกรับมันเพียงลำพังต่อไป
สรุป “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” หนังน้ำดีที่ไม่เอาใจตลาดวงกว้าง ไปแบบช้าๆ บนกราฟที่เป็นเส้นตรงไม่มีฉากไคลแมกซ์แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง “ฮาวทูทิ้ง” ก็เป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวในชีวิตที่ใกล้ตัวเราทุกคน ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ที่ดี ชวนให้เราต้องมาย้อนคิดถึง “ของเก่า” ในบ้านเราเองได้เช่นกันแล้วการเลือกวันฉายในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2562 ก็เหมาะเจาะเสียยิ่งกับคอนเซ็ปต์ของหนัง ที่คนเราจะสามารถตัดเยื่อใยทิ้งของเก่า แล้ว move on ไปกับชีวิตในปี 2563 กันได้หรือไม่ ฮา ว ทูทิ้ง เต็มเรื่อง pantip

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ สปอยหนัง

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

 

ชื่อภาพยนตร์: ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ / I Fine…Thank You Love You

ผู้กำกับภาพยนตร์: เมษ ธราธร

ผู้เขียนบทภาพยนตร์:

นักแสดงนำ: ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ, โจ๊ก โซคูล, ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด, Sora Aoi

แนว/ประเภท: Comedy, Romance

ความยาว: 122 นาที

สปอยหนัง “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานหนังตลกของ GTH ที่มีจุดแข็งตาม 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น (โดยเฉพาะคลิปพระนางเต้นเพลง “ABC ชักกระตุก” นี่เราชอบมาก) แต่แข็งแกร่งกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมาของ GTH ตรงที่ “อาศัยกินบุญเก่า” ของชื่อค่าย, ชื่อ ATM เออรัก เออเร่อ, ชื่อของพระนาง รวมถึงชื่อตัวประกอบอย่างบร๊ะเจ้าโจ๊ก (เช่นเดียวกับกรณีตุ๊กตาผี Annabelle ที่มีคนหลงไปดูเยอะเพราะความฮอตของ The Conjuring) ได้อย่างสบายๆ

 

เรื่องย่อ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย เรื่องราวโดยย่อ เริ่มจากสาวญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์ คายะ (โซระ อาโออิ จาก ปิดเทอมใหญ่.. หัวใจว้าวุ่น และหนังญี่ปุ่น AV อีกหลายเรื่อง) ต้องย้ายไปทำงานที่อเมริกาและต้องการบอกเลิกกับ ยิม (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ จาก เพื่อนสนิท) แฟนหนุ่มที่เป็นนายช่างหรือวิศวกรซ่อมบำรุงในโรงงานที่เธอทำอยู่ แต่เนื่องจากยิมสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ในขณะที่คายะก็สื่อสารภาษาไทยไม่ได้เลยเช่นกัน คายะจึงต้องมาขอร้องให้ ครูเพลง (ไอซ์-ปรีชญา จาก ATM เออรัก เออเร่อ) ติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษให้เธอจนสอบสัมภาษณ์ได้ ช่วยเป็นสื่อกลางไปบอกเลิกกับยิมแทนเธอ

ครูเพลงตัดสินใจยอมช่วยเพราะคายะจ่ายค่าจ้างด้วยกระเป๋า Louis Vuitton Alma BB Monogram Vernis สีแดงสุดหรู (กระเป๋ารุ่นนี้สีนี้เราก็ชอบเองเป็นการส่วนตัว ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งอยากได้) แต่พอเอาเข้าจริง เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะยิมเป็นคนปากหมา โผงผาง กวนตีน และจริงจังกับคายะมาก แถมเรื่องพลิกโผ กลายเป็นยิมมาจ้างครูเพลงให้ช่วยติวภาษาอังกฤษให้แบบที่ติวให้คายะแบบตัวต่อตัว เพราะเขาต้องการสอบสัมภาษณ์และตามคายะไปทำงานที่อเมริกา ซึ่งการสอนยิมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกนั่นแหละ เพราะยิมเป็นวิศวกรที่พื้นฐานภาษาแทบเป็นศูนย์ และทำให้ครูเพลงต้องปวดกบาลอยู่บ่อยๆ ไอ ฟาย แต่ ง กิ้ ว เลิ ฟ ยู้ 123hd

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

และนอกจากจะต้องเจอกับลูกศิษย์สายห่ามอย่างนายช่างยิมแล้ว ติวเตอร์เพลงคนสวยยังต้องรับมือกับนักเรียนในคลาส Business Conversation ที่มาตามตื๊อเธอไม่เลิกอย่าง คุณพฤกษ์ อีกหนึ่งอัตรา (ตู่-ภพธร นักร้องคนดังที่มาเซอร์ไพรส์แฟนๆ หลายซีนเลยทีเดียว) ซึ่งจริงๆ แล้ว คุณพฤกษ์เป็นคนเพอร์เฟ็กต์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย ตอนแรกติวเตอร์สาวโสดเองก็เคลิบเคลิ้มไปกับเจ้าชายในฝันและหลวมตัวไปเล่นด้วยกับเขาอยู่หรอก แต่พอไปๆ มาๆ มารู้ทีหลังว่าเขาไม่ใช่ เรื่องมันก็เลยซับซ้อนเข้าไปอีก ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

สำหรับเนื้อเรืองก็ประมาณว่า คายะ(แสดงโดยโซระอาโออิ) ต้องการจะเลิกกับแฟนของเธอ ยิม(ซันนี่) ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เข้ากันได้เรื่องเดียวคือเรื่องจุดจุดจุด….คือไม่ต้องการการสื่อสารอะไรใดๆทั้งสิ้นว่างั้น คายะก็เลยวานให้ติวเตอร์เพลง(ไอซ์ ปรีชญา)ไปแปลคำพูดเพื่อบอกเลิกเป็นภาษาไทยให้(จากภาษาอังกฤษ) ครูเพลงเป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่ท่าทางจะชื่อดังและร่ำรวยพอสมควรดูจากบ้านและไลฟ์สไตล์ของเธอ

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

คายะติดสินบนให้กับครูเพลงเป็นกระเป๋าหลุยส์ เธอจึงยอมตกลงรับงานนี้ โดยเมื่อเธอไปแปลให้ยิม บอกว่าคายะไปอเมริกาแล้วและเธอก็คงไม่กลับมาอีกขอให้ยิมโชคดี ส่วนยิมก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเนื่องจากแฟนหนี เขาจึงบังคับให้ติวเตอร์เพลงมาติวภาษาอังกฤษเพื่อไปตามคายะ โดยขู่ติวเตอร์เพลงจนติวเตอร์เพลงต้องยอมจำนนทำงานนี้ ในระหว่างนั้นทั้งสองคนก็ค่อยๆรักกันค่ะหลังจากนี้จะเป็นสปอยล์และความรู้สึกหลังดูนะคะ ใครไม่อยากดูอย่าเลื่อนลงไปนะ

 

ความแตกต่างระหว่างพระเอกกับนางเอก

ความต่างระหว่างพระเอกกับนางเอกมีมาก พระเอกดูจน ดูซกมก นางเอกดูไฮโซ และกลับไม่เลือกคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าบางครั้งความรักเราก็เลือกไม่ได้ว่าจะรักคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน หรือคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าหรือแม้จะฝืนหลักการของสังคมเช่น ติวเตอร์รักกับนักเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสียจรรยาบรรณในสายตาคนส่วนใหญ่

นางเอกจึงมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ตอนท้ายสุดและยินยอมที่จะคบกับพระเอกในที่สุด นางเอกน่ารักค่ะเรื่องนี้ เต้นตลกดีตอนจบ ด้วยความที่เป็นหนังรักสำหรับวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นๆเราไปดูแล้วเลยไม่อินมาก แต่ก็ตลกมุขพี่โจ๊กฆ่าจิ้งจกด้วยง่ามตูดนี่แหละ ฮามาก แล้วก็มุขของพฤกษ์ที่บอกว่าผมมีชีวิตเพื่อเพลง ไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต มุขนี่อย่างฮา

บางมุขก็แนวตึ่งโป๊ะคาเฟ่ไปนิด สรุปหนังดูเพลินอย่าไปคิดมากอีกเรื่องหนึ่ง อ้อ พระเอกนี่ก็ประหยัดจริงจังคือเอาน้ำซุปข้าวมันไก่มารวมทำเป็นซุปมาม่า สุดยอดเลยวิธีนี้ ขนาดซุปแข็งเป็นวุ้นยังเวฟได้ แถมกัขฬระนักเลงจนน้องที่ไปดูด้วยกันบอกเป็นตูๆเลือกคุณพฤกษ์แสนไฮโซ

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

มุขที่เราชอบ ชอบตอนพระเอกสัมภาษณ์งานค่ะ มันมั่วได้ใจมาก นางเอกก็ช่างเก็งข้อสอบมาถูกเหลือเกิน ช่วยเหลือพระเอกขนาดนี้เราว่าเป็นใครๆก็หลงรักนะ ชุดตอนเธอไปกับพระเอกที่เป็นล่ามที่บอกว่าให้ใส่ชุดคล้ายงานแต่งสวยมากค่ะ สรุปรวมๆอีกที ไปดูอย่าไปคาดหวังอะไรมาก เอาฟีลกู๊ดแนว GTH พอค่ะ

ที่เราชอบคือโซระ อาโออิ เธอแสดงดีนะคะ น่ารักมากด้วยถึงแม้จะออกแนวอีโรติคไปนิด แต่มันไม่ได้น่าเกลียดมากค่ะ แค่ส่อ ซันนี่เล่นได้เข้ากับบทดี ดูดีมาก ไอซ์นางเอก น่ารักทุกท่วงท่า ส่วนไม่ชอบคือ มันไม่เรียลเลย ไม่เหมือนโลกแห่งความเป็นจริง ออกการ์ตูนๆ เข้าใจว่าเป็นฟีลนิยมหนังสมัยนี้ และก็ไม่ได้ซึ้งขนาดนั้นตามที่หนังรักควรจะเป็น เผลอๆบางคนไปเชียร์คุณพฤกษ์พระรองด้วยซ้ำ ให้คะแนนความเพลิน ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู ตอนจบ

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

สืบเนื่องจากความสำเร็จของ ATM เออรัก เออเร่อ (2555) ที่ทำรายได้รวมกว่า 150 ล้าน กับ พี่มากพระโขนง (2556) ที่ยอดรวมทะลุหลักพันล้าน บวกกับความล้มเหลวเมื่อกลางปี 2557 ของ ฝากไว้..ในกายเธอ ทางค่ายหนังไทยยักษ์ใหญ่จึงต้องฝากความหวังครั้งสุดท้ายของปีไว้กับ เมษ ธราธร ผู้กำกับฯ เจ้าของผลงาน ATM เออรัก เออเร่อ ให้กอบกู้ชื่อเสียงและหน้าตากลับมาสู่ GTH อีกครั้ง! ไอ ฟาย แต่ ง กิ้ ว เลิ ฟ ยู้ ซับ ไทย

 

 

ถ้าอ้างอิงจากผลงานเก่าๆ ที่ทะลุ 100 ล้านแบบลอยตัวของ GTH จะเห็นว่าหลายเรื่องเป็นหนังแนวตลก (comedy) เช่น กวน มึน โฮ, ATM เออรัก เออเร่อ, และ พี่มากพระโขนง ซึ่งวิเคราะห์ที่มาของรายได้ได้หลายทาง

  • การพีอาร์และการตลาดที่สายแข็งเหนือยุทธภพของค่าย
  • ดารานักแสดงที่ไม่ได้หล่อสวยโอเวอร์แต่มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ และเข้าถึงง่าย
  • กระแสปากต่อปาก และพลังแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ก (ทั้งทางบวกและทางลบ)
  • มุกตลกที่เน้นสายแมสและชนชั้นกลางเป็นหลัก

 

ความรู้สึกหลังดู

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย เอาเรื่องความรู้สึกก่อนคือหนังก็ทำได้ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโอ้ว ว้าว วู้ว เฮ้ยยย สนุกโคตรๆๆๆๆหรืออลังการโคตร อะไรแบบนี้ค่ะ มันเป็นแบบมาตรฐานหนังไทยตลกฟีลกู้ดทั่วๆไป มุขแป้กไม่แป้กมั่ง หนังดำเนินเรื่องเร็วส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษไม่มีแปลเลยสงสารแม่ที่ไปดูด้วยดูไม่เข้าใจตอนนั้นๆ เพราะบางตอนทำได้ดีมากเช่น ตอน 1 minute speech ที่ให้พูดถึงคำว่า mole

แล้วพฤกษ์(ตัวละครในเรื่องที่นางเอกเคยชอบตอนแรก) บอกว่า mole หรือไฝนั้นเลือกที่ๆมันจะเกิดขึ้นมาไม่ได้ คนเรามักจะตามหาคนที่มีไฝที่เดียวกันเพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตแต่มันอาจจะไม่เจอเลยก็ได้ทั้งชีวิต น่าแปลกที่ว่าไฝนั้นเหมือนกันกับโชคชะตา โชคชะตาเลือกที่จะเกิดที่จะเป็นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะลิขิตชีวิตตัวเองได้ หลังจากนั้นพฤกษ์ก็เอาปากกามาจุดเป็นไฝที่เดียวกันนางเอก เป็นคำพูดหรูหราโลกสวยที่น่าประทับใจค่ะ

 

 

อีกตรงหนึ่งก็คือตอนจบที่นางเอกบอกว่า เจ้าหญิงซิลเดอเรลล่าในโลกแห่งความเป็นจริง อาจจะไม่ได้ต้องการเจ้าชายรูปงาม แต่ต้องการช่างทำรองเท้าธรรมดา และช่างทำรองเท้า อาจจะไม่ต้องการซินเดอเรลล่าก็ได้ เรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่จบแบบสมบูรณ์หรือ happily ever after เสมอไป แสดงถึงเรื่องของความรัก คนไปดูหนังรักมักจะเจอฉากจบที่ตัวละครแต่งงาน แฮปปี้ แต่ดูๆไปพบว่านั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นของชีวิตคู่ นอกจากนี้หลายคู่ต้องจบด้วยการเลิกกัน

ส่วนมุขในเรื่องดูขาดๆเกินๆสนุกดีแต่มันดูล้น บางอันดูขาด แต่ตัดภาพได้ดีมากค่ะ ตัดต่อได้ดึงอารมณ์คนทั้งๆที่เป็นฉากธรรมดาๆแต่ทำให้ซึ้งหรือรู้สึกน่ารักกินใจได้ ชีวิตนางเอกดูสมบูรณ์เกินไป เรื่องดูเวอร์ๆ แต่อย่างว่ามันเป็นหนัง ต้องทำใจว่าความเว่อร์มันก็มีอยู่แล้ว ถ้าไปดูหนังชีวิตเรียลมันก็คงไม่สนุก ไอ ฟาย แต่ ง กิ้ ว เลิ ฟ ยู้ เต็มเรื่อง part 1

คู่กรรม สปอยหนัง

คู่กรรม สปอยหนัง

คู่กรรม สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง คู่กรรม เป็นนวนิยายแนวโศกนาฏกรรมและวีรคติ ประพันธ์โดย ทมยันตี ดำเนินเรื่องที่มีฉากหลังในประเทศไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อราวปี พ.ศ. 2508 จากการเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี และเข้าชมสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักที่ฝังร่างของเหล่าทหารสัมพันธมิตร โดยสะดุดใจเมื่อเห็นคำจารึกถึงบนหลุมศพทหารสัญชาติเนเธอร์แลนด์คนหนึ่ง เมื่อสอบถามดูได้ความว่าเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวที่มาเสียชีวิตลงที่ประเทศไทย โดยที่ผู้เป็นพ่อแม่มิอาจมาร่วมฝังศพของลูกชายได้

คู่กรรม เขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2508 ตีพิมพ์เป็นตอนในนิตยสารศรีสยาม (ในเครือนิตยสารขวัญเรือน)และรวมเล่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 แล้วตีพิมพ์มาหลายครั้ง มีภาคต่อคือ คู่กรรม 2 ถือว่าเป็นบทประพันธ์ที่ชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของทมยันตี

คู่กรรม ได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์แล้วหลายครั้ง เริ่มจาก ช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นละครถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2513, พ.ศ. 2515 และต่อมาทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในปี พ.ศ. 2521

ครั้งสำคัญเป็นละครทางช่อง 7 สี ในปี พ.ศ. 2533 เป็นละครที่สร้างประวัติศาสตร์เรตติ้งสูงสุดอันดับ 1 ของเมืองไทยตลอดกาล เรตติ้ง 40 และได้รับรางวัลทั้งเมขลาและโทรทัศน์ทองคำในปีเดียวกัน หลังจากนั้นได้นำมาสร้างใหม่เป็นละครทางช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2547 (มีภาคต่อคือ คู่กรรม 2) และสร้างเป็นละครทางช่อง 5 ในปี พ.ศ. 2556

คู่กรรม ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 4 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2516, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2556 ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง (ปี 2531 และ 2538) ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลตุ๊กตาทองไปทั้งคู่ และเคยถูกดัดแปลงเป็นละครเวที โดยค่ายดรีมบอกซ์ เมื่อกลางปี พ.ศ. 2547 แสดงที่โรงละครกรุงเทพ และกลางปี พ.ศ. 2550 แสดงที่โรงละครกรุงเทพเมโทรโพลิส

คู่กรรม สปอยหนัง

ความพิเศษในบทประพันธ์ของทมยันตีเรื่องนี้คือ การบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เต็มไปด้วยรายละเอียดสำคัญ เหตุการณ์จำนวนมาก และทุกจุดมีที่มาที่ไป ทำไมแม่อังไม่ชอบญี่ปุ่น ทำไมถึงต้องแต่งงาน ทำไมถึงต้องมีคำสัญญา ฯลฯ

ปัญหาของคู่กรรมคือมันไม่เหมาะกับการทำเป็นหนัง แต่เหมาะกับการทำเป็นละครมากกว่า คือถ้ามานั่งเก็บรายละเอียดนี่ตาย แต่จะข้ามก็ไม่ได้ เป็นปัญหาเดียวกับที่เวอร์ชันหนังใหญ่ปี 2538 มีแต่บันทึกเหตุการณ์สำคัญ จนหนังออกมาไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม ทั้งที่หัวใจหลักของคู่กรรมคือเรื่องราวความรัก

 

คู่กรรม สปอยหนัง

 

ความซวยอีกอย่างคือคู่กรรมดันเปิดฉายช่วงใกล้กับพี่มากพระโขนง ซึ่งเป็นหนังที่ไม่มีใครคาดหวัง แต่ทำได้ดีเกินคาด ความกดดันของหนังที่ทุกคนคาดหวังมากเลยสูงตามไปด้วย
ผู้กำกับมีเหตุผลของเขา คนดูมีหัวใจของคนดู ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ คู่กรรม

คู่กรรม สปอยหนัง จากปัญหาเรื่องรายละเอียดของคู่กรรม ก็ได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณเรียว กิตติกร (ผู้กำกับ) ที่บอกว่า เขาตัดสินใจที่จะเลือกเล่าเฉพาะครึ่งหลังของนวนิยาย คือเน้นเรื่องความรักของสองคนมากกว่า โดยเล่าเรื่องเหตุการณ์สำคัญไปแบบผ่านๆ

 

คู่กรรม สปอยหนัง

บทจะสยิวชวนกรี๊ดสักหน่อยกับฉากเลิฟซีนอันลือลั่น ก็ดันแป้กซะอย่างงั้น ก็คุณเรียวจิตสัมผัสใช้วิธีถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการเคลื่อนกล้องเนิบนาบ เดินภาพเกี้ยวพาราสีกันอันยาวนาน มุดกันไป มุดกันมา เล่นเอาคนดูลุ้นจนเยี่ยวเหนียว ออกอาการเหนื่อยหน่ายกันไป เท่านั้นยังไม่พอ เราแถมความน่าอึดอัดให้เป็นของกำนัลอีกต่างหาก….แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยๆ โกโบริก็สอนให้เรารู้ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ดูท่าก็คงจะสำเร็จไปหลายรอบอยู่เหมือนกันนะคืนนั้น
คนน่าเห็นใจนอกจาก ณเดชน์ที่แบกรับหนังทั้งเรื่อง และผู้ชมที่สละตังค์ตีตั๋วเข้าไปดูแล้ว คงหนีไม่พ้นคุณ(ระ)ทมยันตี เพราะหนังทำเอาความขลังและเสน่ห์บทประพันธ์ของท่านอันตธานหายไปในทันใด แล้วแทนที่ด้วยความเครดิตต้นเรื่อง แนวสดใสสไตล์อาโนเนะ ลายเส้นคุ้นตาคล้ายอนิเมชั่นญี่ปุ่น ดนตรีประกอบฟังให้ความรู้สึกรื่นเริงบันเทิงใจ ราวกับว่า ได้ย้อนกลับไปวัยเด็กเมื่อครั้งนั่งใจจดใจจ่อหน้าจอทีวีรอดูช่อง 9 การ์ตูน เฮ้ย! นี่ฉันกำลังดู “โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ตอน โนบิตะตะลุยรักสาวไทยหัวใจหิน” หรือเปล่านะ

 

คู่กรรม เวอร์ชั่นณเดชน์แสดง

ความดีความชอบของคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้ก็ใช่ว่าจะหาไม่เจอ ซึ่งนอกจากความอลังการของโปรดักชั่นแล้ว ดูหนังออนไลน์ สิ่งที่โดดเด้งเด่นสุดตกอยู่ที่การแสดงของ ณเดชน์ ช่างดูลื่นอย่างกับปลาไหล รักแทบตายสุดท้ายหลุดมือ (เอ่อ เข้าเรื่องกันต่อดีกว่า)….ความสมจริงไม่ว่าจะท่าทาง น้ำเสียง เขาเป็นนายทหารญี่ปุ่นผู้ไร้พิษภัยจนเชื่อสนิทใจ

ขณะที่ฝั่งของนางเอกน้องใหม่ถอดด้ามอย่าง ริชชี่ (อรเณศ ดีคาบาเลส) การแสดงของเธอก็ดูเป็นธรรมชาติมากๆ เปรียบเหมือนได้สัมผัสหินผา ขอนไม้ ก็ไม่ปาน จะแข็งอาร๊ายยยขนาดนั้น คาดว่าน่าจะเป็นการตลาดแบบแพ็คเกจคู่ของคุณอัย ศุภเช ที่พยายามใช้พระเอกดังดันดาราหน้าใหม่ให้รุ่ง อย่างที่เคยทำกับ อั้ม พัชรราภา – เคน ภูภูมิ จนสำเร็จมาแล้วจากหนังเรื่อง “30กำลังแจ๋ว”

แต่สำหรับความเป็นมือใหม่ของ ริชชี่ นั้นอาการค่อนข้างหนักทีเดียว บอกได้เลยว่า ต่อให้ณเดชน์บวกฟองน้ำเสริมพิเศษอย่างหนามาช่วยก็คงจะเป็นปฏิบัติการดันอันแสนลำบากยากเย็นพอดู เพราะอารมณ์และสีหน้าเธอแบนราบเรียบจริงๆ แต่คุณเรียวก็แสดงศักยภาพอันน่าเลื่อมใส ด้วยการให้ผู้ชมได้ยินเสียงในหัวว่า ริชชี่เธอคิดอะไรอยู่ เพราะตามคาแรกเตอร์ อังศุมาลิน จะเป็นสาวที่ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อนักแสดงทำสีหน้าให้เหมือนคนคิดมากไม่ได้ ก็ต้องแก้เผ็ด เฮ้ย! แก้ไขด้วยวิธีการนี้แหละ

 

คู่กรรม สปอยหนัง

 

ส่วนบรรดามิตรรักแฟนคลับ ณเดชน์ แล้ว การได้เข้าไปเชยชมความหล่อผนวกฝีมือการแสดงที่เข้าขั้นก็คงจะคุ้มค่าทุกนาทียิ่งกว่าดูทีวีสีช่อง3 เสียอีก เว็บดูหนังฟรี บทบาทโกโบริที่เขาสวมนั้นดุจดั่งบ่อน้ำในทะเลทรายของหนังคู่กรรมก็คงไม่ผิดอะไร แม้ท้ายที่สุดหนังจะตกม้าตายในฉากจบ แต่ถือว่าพระเอกหนุ่มของเราทำหน้าที่ตัวเองได้ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวแล้ว

ที่ลืมไม่ได้ ซีนสารภาพรักหลังโกโบริโดนบึ้มนั้นถือเป็นอีกหนึ่งฉากไฮไลท์ของเรื่องที่แฟนๆ รอชม ณเดชน์ดึงอารมณ์ผู้ชมจนเกือบจะทะลักพลุ่งพล่านถึงฝั่งฝันอยู่แล้วเชียว ดันต้องมาสะดุดตอติดขัดคัดจมูก เพราะความแข็งของไอรอนเกิร์ลอังศุมาลิน…ว่าแต่มีใครสงสัยมั้ยว่า มันระเบิดยังไงกันถึงทำให้ร่างพ่อโกโบริกระเด็นกระดอนขึ้นไปนอนค้างให้ไม้ทิ่มท้องอยู่บนจอมปลวกได้เนี๊ยะ งงจุงเบย คู่กรรม 2533

เมื่อจอหนังมืดดับลง ในใจก็ครุ่นคิดหนักอกไม่รู้ว่า หลังก้าวเท้าออกจากโรงไปแล้ว ณเดชน์ หรือ ริชชี่ กันแน่ที่ตายตอนจบ เฮ้อออออออ “คู่” กรรมแท้ๆ

 

คู่กรรม สปอยหนัง

เราจะเห็นว่าการประชาสัมพันธ์ต่างๆ นั้น ให้ความรู้สึกเป็นหนังรักที่ไม่สมหวัง ที่ถือเป็นทิศทางการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้องและเข้ากับเรื่องราวใน ดูหนังฟรี คู่กรรม ซึ่งจุดนี้ต้องชื่นชมทีมประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ตีโจทย์ได้แตก (อย่าลืมว่าบทประพันธ์เรื่องนี้จบด้วยโศกนาฎกรรม) แต่กับการเปิดเรื่องในหนังด้วยภาพและดนตรีอันสดใส ราวกับหนังรักวัยรุ่นจึงเป็นอะไรที่สร้างความเคลือบแคลงขึ้นมาในใจมาหนัง มุ่งไปยังทิศทางที่ถูกต้องแน่หรือ?

อย่างที่ทราบว่าบทประพันธ์ คู่กรรม นั้นเป็นของ ทมยันตี นักเขียนนิยายระดับตำนานของไทย เป็นเรื่องราวความรักบนเส้นขนานระหว่างหญิงชาวไทย อังศุมาลิน (อรเณศ ดีคาบาเลส) และโกโบริ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ลงท้ายคือโศกนาฎกรรมที่ทำให้ใครหลายคนต้องเสียน้ำตา

ซึ่งฉบับนี้ผู้กำกับ กิตติกร เลียวศิริกุล เลือกที่จะนำเสนอในแบบหนังรักเต็มรูปแบบ โดยเน้นไปที่สองพระนางและตัดปัจจัยอื่นๆ ออกไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและหากทำได้ถึงก็จะเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับ เรื่องคู่กรรม แต่กระนั้นด้วยความซับซ้อนของบทประพันธ์ ที่มีเรื่องของการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวละครหลักที่มีจำนวนพอสมควร การนำเสนอที่หวังจะมีเพียงแต่โกโบริและอังศุมาลิน ทำให้ตัวละครตัวอื่นนั้นแบนราบ!

 

 

คู่กรรมฉบับนี้เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของโกโบริเป็น หลัก (ซึ่งหนังกำหนดทิศทางนี้มาตั้งแต่ต้นเรื่อง) และใช้เสน่ห์ของคู่พระนางได้ดี โกโบริ ดูเป็นชาวญี่ปุ่นซื่อๆ จริงใจ ในขณะที่อังศุมาลินก็ดูเป็นสาววาจาห้วนๆ เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งในตัว แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป บทบาทของโกโบริค่อยๆ เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้กำกับเน้นนำเสนอเรื่องราวในมุมของโกโบริมากกว่า

ณเดชน์มอบบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมผิดคาด กับการพูดในสำเนียงติดญี่ปุ่นและดวงตาที่สื่ออารมณ์ได้โดยไม่ต้องเอ่ยประโยคอะไร แต่กับอรเณศต้อง ถือเป็นความโชคร้ายที่การตีความบทอังศุมาลินของผู้สร้างไม่เอื้อให้เธอแสดง ศักยภาพออกมาเท่าที่ควร และในเมื่อคู่กรรมฉบับนี้เลือกที่จะเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของโกโบริเป็น หลัก (ซึ่งหนังกำหนดทิศทางนี้มาตั้งแต่ต้นเรื่อง) การใส่เสียงความคิดของอังศุมาลินเข้ามาจึงเป็นอะไรที่ขัดแย้งและไม่ได้ช่วย ให้เข้าใจตัวละครอังศุมาลินมากขึ้น คู่กรรม เบิร์ด

หนังมีปัญหาพอสมควรกับการลำดับเรื่องรวมถึงการลงรายละเอียดเพื่อที่จะให้ ผู้ชมเข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันมีความหมายและส่งผลต่อตัวละครในเรื่องอย่างไร จนอาจทำให้คนที่ไม่รู้จักเรื่องราวคู่กรรมมาก่อนเกิดความสงสัยว่าอะไรกำลัง เกิดขึ้นในหนัง! แม้หนังจะค่อยๆ เผยเหตุปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ความรักระหว่างโกโบริและอังศุมาลินไม่สมหวัง แต่ด้วยบทภาพยนตร์ที่มีปัญหาหนังจึงไม่สามารถพาผู้ชมให้รู้สึกอินไปกับความ รักของเขาและเธอ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ได้มากพอจนเป็นที่น่าเสียดาย

 

หนังเก่าที่มีความโรแมนติกมาก

คู่กรรม สปอยหนัง ผู้เขียนกล้าเอ่ยปากอย่างมั่นใจว่า สิ่งที่ปรากฏมันมีทั้งความบริสุทธิ์ใจซึ่งเกิดขึ้นได้จากความไม่ชอบในตัวหนัง และผู้คลั่งไคล้นวนิยายต้นฉบับ แต่ที่ประหลาดและเคลือบแคลงสงสัยคือมันมีการทำงานหรือวิจารณ์อย่างจงเกลียดจงชังจนอาจเรียกได้ว่านี่คือการวิจารณ์อย่างไม่สร้างสรรค์และมีผลประโยชน์เคลือบแฝงทับซ้อนอย่างที่บุคคลทั่วไปเช่นผู้เขียนจะสามารถเข้าใจได้แต่หากใครที่เข้ามาอยู่ในยุทธจักรเช่นนี้ย่อมรู้ดีว่า

ก่อนหน้านี้สังคมเว็บบอร์ดแห่งนี้ก็ไม่ได้สะอาดเท่าไหร่ มันเป็นที่แหล่งรวมพลของคนมุ่งร้ายเพื่อความสะใจ(บางกลุ่ม) และสันนิษฐานว่ายังเป็นที่ทำการตลาดของค่ายหนัง เพื่อขจัดกระแสวิจารณ์แง่ลบออกไปเพื่อหวังสร้างกระแสชื่นชมปากต่อปากเพื่อกอบโกยรายได้มาอย่างนมนาน หรือผู้เขียนอาจจะทึกทักเอาเองได้ว่ามีตำแหน่งนักสร้างกระแสทางเว็บบอร์ดมืออาชีพกันเลยทีเดียว

 

 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับค่ายหนัง M39 ในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ต้องจดจำเอาไว้อย่างแยบยล เพราะนอกจากไม่สามารถทำให้เกิดการชื่นชมตัวหนังได้อย่างสะอาด ยังถูกรังควานไปถึงตัวค่ายเองด้วยซ้ำ หรือกล่าวง่ายๆว่า กระแสลบในครั้งนี้ มีผู้คนไม่ปรารถนาดีพยายามจะปลุกกระแสเพื่อบอกว่าภาพยนตร์ของค่าย M39 จะย่ำแย่ตลอดไป (นี่ถือเป็นการหาโอกาสตัดแข้งตัดขาทางธุรกิจเลยทีเดียว) นี่ยังไม่นับก๊กเหล่าที่เกิดขึ้นในส่วนของแฟนคลับที่หลากหลายหลากเหลื่อนจนทำให้ลดทอนความสร้างสรรค์ที่จะเกิดการวิจารณ์เพื่อให้เกิดพัฒนาต่อวงการภาพยนตร์ได้ คู่กรรม 1990

สุดท้ายนี้ ถ้า “คู่กรรม” ฉบับคุณเรียว เป็นการตีความใหม่ของหนังล่ะก็ ดูหนัง งั้นผมขอฝากผลงานการตีความใหม่ของเพลง “ฮิเดโกะ” ดูซิของใครจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนกว่ากัน (แปลงตามฮุคสุดท้ายในทำนองเพลงญี่ปุ่นนะ)
คู่กรรม ฉบับปี พ.ศ. 2556 ถือเป็นหนังที่มาพร้อมกับความคาดหวัง และเป็นภาระอันหนักอึ้งของทุกภาคส่วนแห่งค่าย M๓๙ เพราะเรื่องนี้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดที่ค่าย M๓๙ เคยทำมา ที่หากผลลัพธ์ออกมาไม่ดีพอ ทั้งในแง่ของคำวิจารณ์จากผู้ชมและตัวเลขรายได้ก็อาจทำให้ถึงกับเสียสูญหรือ เสียความมั่นใจที่เคยสั่งสมมาได้เหมือนกัน แต่หากผลลัพธ์ไปในทางบวก คู่กรรม แห่งปี พ.ศ. 2556 ก็จะเป็นภาพยนตร์ที่ช่วยส่งให้ค่ายหนังยกระดับขึ้นไปอีกขั้น! คู่กรรม เพลง

สปอยหนัง the marksman

สปอยหนัง the marksman

สปอยหนัง the marksman

 

 

ประเภท : ภาพยนตร์อเมริกัน, แอ็คชั่นและผจญภัย

ทีมผู้สร้าง : กำกับโดย โรเบิร์ต ลอเรนซ์, เขียนบทโดย โรเบิร์ต ลอเรนซ์, คริส ชาร์ลส์, แดนนี่ คราวิตซ์, เตเรซ่า รุยซ์

นักแสดง : เลียม นีสัน, แคธริน วินนิค, ฮวน พาโบล ราบา, เจค็อบ เปเรซ

ระยะเวลาการรับชม : 1 ชั่วโมง 47 นาที

ช่องทางการรับชม : Netflix

ระดับความเหมาะสม : 16+

สปอยหนัง สัปดาห์นี้ มีภาพยนตร์เรื่อง “คน ระ หํ่า พันธุ์ระอุ” หรือ “The Marksman” มาฝากกันค่ะ ภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยของนักแสดงฝีมือดี เจ้าพ่อหนังแอ็คชั่น เลียม นีสัน ผลงานของผู้กำกับ โรเบิร์ต ลอเรนซ์ ที่อดีตเคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับคู่ใจของ คลินท์ อีสต์วูด และเป็นเจ้าของผลงานอย่าง Gran Torino, The Hurt Locker และ American Sniper เพิ่งปล่อยสตรีมมิ่งให้รับชมได้ไม่กี่วันแต่กระแสดี จนติดอันดับสองหนังน่าดูใน Netflix ว่าแล้วไปติดตามรีวิวภาพยนตร์เรื่องนี้กันค่ะ
ปีที่ออกอากาศ : 2021

 

เรื่องราว the marksman

 

สปอยหนัง the marksman

 

เรื่องราวของจิม แฮนสัน อดีตทหารราบของกองทัพเรือสหรัฐ มีฝีมือด้านการต่อสู้แต่รักสงบ หาเลี้ยงชีพด้วยการทำไร่ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนสหรัฐ คอยสอดส่องดูคนลักลอบเข้าประเทศและโทรแจ้งตำรวจชายแดน วันหนึ่งได้เจอเข้ากับโรซ่าและมิเกล สองแม่ลูกที่พยายามหนีแก๊งค้ายา ข้ามประเทศมาอเมริกา เพราะความต้องการเงินไปใช้หนี้บ้านที่กำลังจะถูกยึด จิมจึงตัดสินใจช่วยเหลือมิเกล ด้วยการขับรถไปส่งจุดหมายปลายทางที่เมืองชิคาโก้ แต่แก๊งมาเฟียก็ตามไล่ล่ามิเกล จิมจึงพยายามทุกทางเพื่อช่วยเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์คนนี้ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

สปอยหนัง the marksman

สปอยหนัง the marksman เป็นหนังแอ็คชั่น สไตล์เลียม นีสันอย่างแท้จริงประมาณว่าพระเอกเป็นยอดคนเก่ง เก่งการต่อสู้ ไม่หาเรื่องใคร อยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ แต่อยู่ ๆ ก็มีคนมาสะกิด มาแหยม จนต้องออกโรงต่อสู้ เรียกว่าออกโรงเมื่อไร่แกตายแน่ 555 อะไรทำนองนั้น ถ้าใครชอบเลียม นีสัน เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะลุงแกเหมาะกับบทอย่างนี้จริง ๆ บทฮีโร่ แอ็คชั่น ยิง เตะต่อย บางซีนไม่ได้แอ็คชั่นอะไรมาก แต่ก็เท่ ๆ เก๋า ๆ ตามสไตล์ ดูเพลินอยู่

 

สปอยหนัง the marksman

 

แต่ถ้าไม่ได้เป็นแฟนเลียม นีสัน หรือว่าก็ชอบเลียมอยู่นะ แต่ดูกี่ทีก็สไตล์เดิม ๆ ชักเบื่อ เรื่องนี้ควรจะดูไหม อาจต้องคิดนิดนึง เพราะว่าแอ็คชั่นมีพอประมาณ ไม่ได้เยอะแน่นๆ (แต่ตอนที่เป็นแอ็คชั่นก็มันส์ลุ้นระทึกอยู่) แต่ส่วนใหญ่การดำเนินเรื่องจะเรื่อย ๆ เน้นให้ติดตามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เนื้อเรื่องไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แต่จุดเล็กจุดน้อยที่ใส่มาก็น่าสนใจดี ลุ้นตลอดแต่ไม่ได้บีบหัวใจ อย่างตอนท้ายเรื่อง จากที่ต้องเดินทางไปเมืองชิคาโก้ แต่เหลืออีกไม่กี่นาทีหนังจะจบแล้วตัวละครก็ยังอยู่เมืองเท็กซัสกันอยู่ ตอนดูเลยแอบคิดว่าสรุปจะตายกันหมดก่อนไปถึงใช่ไหมเนี่ย? คน ระห่ำ พันธุ์ ระเบิด พากย์ ไทย

นักแสดงนำ the marksman

Liam Neeson | เลียม นีสัน รับบทเป็น จิม แฮนสัน อดีตนาวิกโยธินผู้รักสงบและอดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม หลังเกษียณเลือกมาทำไร่ เลี้ยงวัวในรัฐแอริโซนา มีปัญหาหนี้สินจากค่ารักษาพยาบาลของภรรยาที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง จึงตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตัวเองเข้าไปพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติด เลียม นีสัน นักแสดงชาวไอร์แลนด์ เจ้าพ่อแอ็คชั่นขาโหดที่หลายคนรู้จักจากเรื่อง Taken I, II, III ในเรื่องนั้นต้องปกป้องลูกตัวเอง แต่ในเรื่องนี้ต้องปกป้องลูกคนอื่น ถึงปีนี้จะอายุ 69 ปีแล้ว แต่ความบู๊ โหด เข้ม ยังร้อนระอุ ทั้งแตะต่อย ปืนสั้น ปืนยาว ขับรถไล่ล่า ก็ทำลุ้นมันส์อยู่ ถึงเรื่องนี้จะไม่ได้บู๊แน่น ๆ ตลอดเรื่อง แต่ก็จัดว่าเป็นนักแสดงที่เก๋าเกมส์ แน่นไปด้วยประสบการณ์ ซีนที่ไม่ได้บู๊ก็ดูอบอุ่นเหมือนคุณปู่กำลังปกป้องหลาน

เลียม นีสันKatheryn Winnick | แคธริน วินนิค รับบทเป็นซาร่าห์ ลูกติดภรรยาของจิม ทำงานเป็นตำรวจสังกัดกรมศุลกากรและปกป้องพรมแดนแอริโซนา รักและห่วงใยจิมเหมือนพ่อ แต่ก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ หลายคนอาจจำสาวสวยคนนี้ได้ในบท Lagether จากซีรีส์เรื่อง Vikings ในภาพยนตร์คนระห่ำ พันธุ์ระอุ สลัดลุคผมเผ้ายุ่งเหยิงออก ดูสวยเท่เหมาะกับบทตำรวจหญิงอยู่นะ

 

สปอยหนัง the marksman

 

แคธริน วินนิคJuan Pablo Raba | ฮวน พาโบล ราบา รับบทเป็น โมริชิโอ เกอเรโร่ เข้าร่วมแก๊งมาเฟียตั้งแต่เด็ก เป็นทหารแก๊งค้ายาเสพติดวาสเคซในเม็กซิโก โหด ฆ่าได้ฆ่า ตามไล่ล่าโรซ่าและมิเกล ครอบครัวของคนที่ขโมยเงินค้ายาจากแก๊งวาสเคซ เรื่องนี้แปลงโฉมจนเกือบจำไม่ได้ มีใส่ฟันเหล็ก รอยสัก หน้าตามีแผล ดูโหดสมคาแรกเตอร์

ฮวน พาโบล ราบาJacob Perez | เจค็อบ เปเรซ รับบทเป็น มิเกล เด็กน้อยลูกชายของโรซ่า เป็นเด็กเรียนดี นิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ก็มีความกล้าหาญ ได้รับการช่วยเหลือจากจิมในการเดินทางไปหาญาติที่ชิคาโก้ และ Teresa Ruiz | เตเรซ่า รุยซ์ รับบทเป็นโรซ่า แม่ของมิเกล สาวเม็กซิกันสุดอึดพาลูกชายหนีแก๊งค้ายาจากเม็กซิโกมาอเมริกา the marksman คนระห่ำ พันธุ์ ระอุ 2021 037

 

สปอยหนัง the marksman

 

 

เนื้อเรื่องบางเรื่องก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผล ขาดความสมจริงไปเยอะอยู่ ทั้งเรื่องก็เห็นจะมีเลียม กับ แคธรินที่แสดงพอจะสมบทบาทสักหน่อย ส่วนคนที่เหลือก็แสดงกลางๆ บางคนก็มีหลายซีนที่ไม่สมบทบาทเอาซะเลย ดูแล้วไม่อิน อย่างตอนที่น้องชายถูกยิงตาย โมริชิโอ น่าจะโกรธและเล่นใหญ่หน่อยไหม หรืออย่างมิเกลตอนที่โรซ่าตาย น่าจะร้องไห้ฟูมหายที่แม่ตายหน่อยไหม มีอีกหลายซีนที่ดูแล้วแอบขัดใจ แต่อย่างที่บอก ที่ดูก็เพราะป๋าเลียมคนเดียวเลย จะเรียกว่าแกคนเดียวเอาอยู่ทั้งเรื่องก็ถูกนะ หลังดูจบอยากกินแฮมเกอร์กับฮอทด็อกชิคาโก้ ใครเป็นบ้าง

 

ให้คะแนนหนังเรื่อง the marksman 7/10

 

 

สปอย the marksman เอาเป็นว่าใครชอบเลียม นีสันหรือกำลังหาหนังดูฆ่าเวลา ก็ให้คนระห่ำ พันธุ์ระอุ เป็นตัวเลือกละกัน เป็นหนังแอ็คชั่นที่ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เจ็บหัว! เปล่าๆ แอ็คชั่นไล่ล่าสนุก มันส์ ขับรถข้ามเมือง กับเวลา 1 ชั่วโมง 47 นาทีดูเพลินๆ ไม่หลับ ให้คะแนน 7/10 สามารถรับชมได้ทาง Netflix มีพากย์ไทย คนระห่ำ พันธุ์ระอุ 037

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

 

สปอยหนัง ‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’ เป็นภาพยนตร์ Netflix Original แนวดราม่า-ระทึกขวัญผลงานล่าสุดของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ พิม (รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และ พัท (รับบทโดย แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับตา (รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล) และยาย (รับบทโดย ทาริกา ธิดาทิตย์) ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เพราะแม่ (รับบทโดย นิโคล เทริโอ) ประสบอุบัติเหตุนอนโคม่า แต่เมื่อย้ายเข้าไปในบ้านทั้งสองก็ได้พบกับรูหลอนปริศนา ที่เรียกพวกเขาไปพบกับความจริงบางอย่างที่ซ่อนไว้

เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไปและไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว

 

เนื้อเรื่อง ปริศนารูหลอน

The Whole Truth เรื่องย่อ ปริศนา รูหลอน หนังผีไทยเรื่องล่าสุดจาก Netflix กำกับโดย วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง กับนักแสดงนำ กับ ปันปัน สุทัตตา เรื่องราวของรูลึกลับบนกำแพงบ้านตายายที่สองพี่น้องไปพบเจอ และกลายเป็นจุดเริ่มการเผยความลับดำมืดของครอบครัวนี้

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

หนังผีไทยของ Netflix เรื่องที่ 3 ต่อจาก สาวลับใช้ กับ GHOST LAB ซึ่งคราวนี้ได้ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับดังจากหนังผีขึ้นหิ้งของไทยอย่าง เปนชู้กับผี ซึ่งตัวผู้กำกับเองมีงานหลากหลายแนว แต่ช่วงหลังจะเน้นจับแนวผีสยองขวัญเป็นหลักอย่าง รุ่นพี่, สิงสู่ มีเขียนนิยาย รุ่นน้อง ภาคต่อจากหนังรุ่นพี่ด้วย (มีคุมงานหนังเน็ตฟลิกซ์เรื่อง DEEP ด้วย) ซึ่งเท่ากับว่าผู้กำกับวิศิษฐ์ได้หันมาเอาดีด้านนี้จริงจัง อาจจะเพราะหลังจากอกหักจากหนังอินทรีแดงที่ไม่สามารถทำภาคต่อได้ ในฐานะที่เป็นแฟนผลงานของผู้กำกับคนหนึ่ง ผู้เขียนจึงค่อนข้างคาดหวังกับงานนี้ไว้มากว่าอาจจะเป็นผลงานที่พาผู้กำกับวิศิษฐ์ให้กลับมาดังได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณอย่างที่ผ่านๆ มา กับการฉายในสตรีมมิ่งก็ไม่มีแรงกดดันเรื่องรายได้กลับมา และยังเป็นผลงานที่โกอินเตอร์ตรงๆ ผ่านเน็ตฟลิกซ์ด้วย แต่ก็ต้องบอกกันก่อนเลยว่าค่อนข้างผิดหวังหนักมากกับผลงานเรื่องนี้ของผู้กำกับวิศิษฐ์ครับ ซึ่งอาจจะเพราะบทหนังถูกเขียนโดยคนอื่นที่หน้าใหม่ด้านนี้อย่าง Abishek J. Bajaj (อภิเษก เจ บาจาช) ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นงานที่เน็ตฟลิกซ์ส่งต่อให้ผู้กำกับวิศิษฐ์ทำ ผลงานที่ออกมาจึงดูแปลกๆ และค่อนข้างตกต่ำจากมาตรฐานผลงานดีๆ ของเขาครับ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

เนื้อเรื่องเริ่มต้นจาก พิมและพัท สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านใหม่ของตายายที่มารับตัวพวกเขาไปหลังจากแม่ประสบอุบัติเหตุรถชนกันจนต้องนอนโคม่าอยู่ในโรงพยาบาล เมื่อมาอยู่บ้านของตายายพวกเขาก็รู้สึกอึดอัดจากพฤติกรรมแปลกๆ ของทั้งคู่ และเมื่อมาเจอรูลึกลับบนกำแพงที่ส่องเข้าไปแล้วเห็นห้องประหลาดอีกด้าน ยิ่งทำให้เรื่องราวของบ้านหลังนี้ลึกลับซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน มาในเรื่องนี้บทหนังเป็นฝีมือของ อภิเษก จิรธเนศวงศ์ ซึ่งเท่าที่ทราบคือไม่มีผลงานหนังยาวก่อนหน้าให้พอเห็นฝีไม้ลายมือเลย และอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังมีผู้ร่วมเขียนบทหลายคนรวมถึงตัวผู้กำกับอย่างวิศิษฏ์ที่ต้องลงมาร่วมเขียนบทด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นลักษณะทีมเขียนบทแต่แรก หรือการเข้ามาแก้ไขบทในภายหลังเพื่อแก้ปัญหา เพราะสิ่งที่เห็นได้ชัดของหนังคือปัญหาของบท ที่ตั้งใจเป็นหนังสยองขวัญขายไอเดียและพยายามหลอกผู้ชมด้วยการหักมุมไปมา แล้วทำให้คนดูตกตะลึงกับความจริงหลังสุด แต่กลับกลายเป็นว่าไปไม่ถึงฝั่งฝันสักด้าน ปริศนา รูหนอน pantip เต็มเรื่อง

ธีมของเรื่องหนังของวิศิษฏ์ในยุคหลังมีความจิกกัดสังคม และในเรื่องนี้ก็ว่าด้วยความจริงอาจมีหลายชั้น เปลี่ยนไปตามวัยของผู้มอง และบางทีความจริงที่แท้ก็โป้ปดหลอกลวงและปรากฏแก่หน้าเรามาแต่แรกเพียงแต่เราไม่ได้สนใจจะมองเห็นมัน ซึ่งสาระนี้มีนัยของการวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในบางแง่มุมอยู่ และใครที่ชอบค้นชอบคุ้ยคิดวิเคราะห์สัญญะในหนังน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงงานก่อนหน้าของวิศิษฏ์อย่าง ‘สิงสู่’ (2561) ที่ซ่อนข้อความแรง ๆ อยู่ไม่น้อย

ฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และเป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิมและพัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิตและเพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์และการกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัว พอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสยองมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย

 

พล็อตเรื่อง ปริศนารูหลอน

ปริศนาภาพหลอน เต็มเรื่อง เปิดเรื่องด้วยชีวิตประจำวันธรรมดาของเด็กนักเรียนสองคนและแม่ของเขา เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ แวะจอดข้างทาง และพาคนดูหักเลี้ยวไปเรื่องที่ร้อยเรียงไปตามลำดับเมื่อความจริงหลังรูเล็กดำมืดค่อย ๆ เปิดเผยปริศนา ความลับดำมืดให้เห็น ดูแล้วอาจจะเหมือนภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์หักมุมทั่วไปหนึ่งเรื่อง แต่เมื่อเรามองให้ดีประเด็นสำคัญของการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่ามันสนุกแค่ไหน แต่อยู่ที่มันกำลังสื่อสารอะไรกับเราผ่านสัญญลักษณ์ในเรื่อง และเมื่อเราได้ดู ภาพที่เราเห็นในจอจึงไม่ใช่แค่ตัวละคร บ้านหนึ่งหลัง และรูหนึ่งรู แต่ขยายใหญ่กว่านั้นขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะตีความเห็นเป็นอะไร

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

พล็อตเรื่องถ้าดูเผินๆ อาจจะเหมือนลอกหนังฝรั่ง The Visit ของผู้กำกับเอ็มไนท์ ชมาลายาน ซึ่งก็เหมือนกันแค่พล็อตเท่านั้น แม้จะมีกลิ่นอายแนวลึกลับหักมุมเหมือนกัน แต่เนื้อในของปริศนารูหลอนแตกต่างออกไปมาก ซึ่งเนื้อหารีวิวต่อจากนี้อาจจะมีสปอยล์จางๆ ปนอยู่ด้วย เพราะยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่เขียนถึงความพยายามยำใหญ่หลายแนวของเรื่องอย่าง วัยรุ่น ผี ไซไฟ อาชญากรรม จิตวิทยา ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นสปอยล์ไปแล้วว่าเรื่องนี้เป็นการรวมหลายแนวเข้าด้วยกัน ไม่ใช่ผีหรือสยองขวัญเพียวๆ แบบหนังแนวนี้ที่ผ่านมา

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

โอเคการยำรวมหลายแนวเข้าไว้ด้วยกันอาจจะเป็นไอเดียที่ดีที่ทำให้การเดินเรื่องดูหลากหลาย สามารถบิดไปมาได้ตามใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็มาในแนวแบบนั้นเลย ด้วยการวางเรื่องชีวิตวัยรุ่นเป็นตัวเปิดเรื่องให้ดูเหมือนมีปมลึกลับ จากการที่เพื่อนชายร่วมโรงเรียนของพิมมีความลับบางอย่างซ่อนไว้ และพยายามเอาจุดนี้มาข่มขู่พัทน้องชายของเธอให้ร่วมมือ ก่อนที่จะตัดไปแนวลึกลับจากการมาของตัวละครตายายปริศนา ตามด้วยการพบรูในบ้านที่โยนเข้าเรื่องผีเต็มๆ ก่อนที่จะสับขาหลอกมาเฉลยด้วยแนวทฤษฎีไซไฟ ตามมาด้วยการบิดเรื่องไปแนวล้างแค้นอาชญากรรม ก่อนจะกลับมาด้วยแนวจิตวิทยา แล้วก็สลับมาผีอีกครั้ง ซึ่งการที่เรื่องพลิกไปมาหลายแนวอย่างที่เห็น เป็นการตั้งใจให้เรื่องดูมีหักมุมซับซ้อนชวนคิดติดตาม

 

 

ซึ่งก็ได้ผลในแง่นั้น แต่ปัญหาคือการพลิกในแต่ละครั้งมันดูไม่เนียน ทื่อๆ เหมือนอยากจะยัดอะไรก็ยัดมา อย่าง เรื่องแก่งแย่งชิงตำแหน่งเชียร์ลีดเดอร์ กับช่วงที่เกิดอาชญากรรมล้างแค้นคนที่ขับรถชนแม่ของพิม สองเรื่องนี้แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเส้นเรื่องหลักเลย เป็นได้แค่เนื้อหาหลอกคนดูให้คิดว่ามีอะไรกับรูในเรื่องแค่นั้น หรืออย่างการพยายามยัดให้เรื่องผีกลายเป็นทฤษฎีรูหนอนแนวไซไฟข้ามมิติ ก็เป็นอะไรที่เรียกว่ายัดมาทื่อๆ แบบไร้ชั้นเชิงมาก โดยไม่มีที่มาที่ไปอธิบายอะไรเพิ่มเติมด้วย ก่อนที่ช่วงท้ายจะกลายเป็นแนวจิตวิทยาไปอีก เป็นความพยายามทำให้เรื่องดูซับซ้อนหักมุมสุดๆ แต่ผลที่ได้มันกลับเป็นความพยายามมากไปจนดูไม่เนียนเอามากๆ แต่อย่างน้อยก็อาจจะมีข้อดีตรงที่ แม้เรื่องจะดำเนินไปแบบหลากหลายแนวรวมกันก็ไม่ได้ดูแล้วงงหรือเข้าใจยากอะไรครับ

 

ปัญหาของบทหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน ปัญหาของบทอาจจะค่อนข้างแย่แล้ว แต่ที่แย่กว่าคือ แอคติ้งการแสดงของตัวละครทุกคนในเรื่องดูไม่เป็นธรรมชาติเอามากๆ โอเคตัวตายายที่เล่นโดย หมู-สมภพ เบญจาทิกุล กับ ก้อย-ทาริกา ธิดาทิตย์ อาจจะเป็นตัวละครที่ต้องการให้แอคติ้งออกมาประหลาดๆ ดูไม่เหมือนคนปกติอยู่แล้วเพื่อสร้างความน่าสงสัยแบบหลอนๆ ให้กับคนดู แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันออกมาประหลาดแบบแข็งๆ มากกว่าจะเป็นในแนวลึกลับน่าสงสัยแบบเนียนๆ อย่างที่ควรจะเป็น ส่วน ปันปัน สุทัตตา กับ แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทของพิมกับพัทที่เป็นตัวเอกหลักในการเดินเรื่องราวกลับแสดงออกมาแข็งๆ แอคติ้งไม่ผ่าน ประกอบกับบทพูดที่ไม่เป็นธรรมชาติด้วย ทำให้ปันปันที่ว่าเป็นนักแสดงที่เก่งก็ยังเอาตัวไม่รอดในเรื่องนี้ กลายเป็นเหมือนกำลังเล่นหนังเกรดบีท่องบทพูดไปแทน ซึ่งเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก แอบแถมด้วยว่าแม้แต่บทแมว “ลาเต้” ในเรื่องที่ดูเหมือนมีความสำคัญ เพราะมีการใช้ภาพแมวตัวนี้ขึ้นในโปสเตอร์โมทโมทเรื่องด้วย แต่ก็กลับไม่ได้ใช้แมวตัวนี้ให้เป็นส่วนสำคัญกับเรื่องเลย

 

 

นอกจากข้อเสียที่ว่ามาแล้ว ในเรื่องยังมีส่วนที่แอบน่ารำคาญอยู่ด้วยจากการใช้เสียงซาวเอฟเฟ็กต์ประกอบแบบโฉ่งฉ่างเกินพอดีในทุกๆ ฉาก อะไรนิดหน่อยก็ใส่เข้ามาจนล้นมากเกินไป และฉากผีในเรื่องก็ออกมาแบบซ้ำๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไรแล้วกับแนวผีคลานเหมือนพวกผีญี่ปุ่น กับเล่นเรื่องอ๊วกเป็นเลือดวนไปวนมา ซึ่งก็เป็นคำใบ้ของเรื่องว่าสุดท้ายแล้วพอเฉลยมาคนดูจะเข้าใจว่าทำไมผีต้องทำอะไรซ้ำๆ แบบนั้น แต่มันก็กลายเป็นข้อเสียไปด้วยเมื่อไม่สามารถครีเอทฉากผีหลอกเว่อร์ๆ ไปกว่านั้นได้จากข้อจำกัดที่ว่าครับ ถามว่าน่ากลัวไหมก็น่ากลัวพอประมาณ แต่ก็ไม่ได้มีฉากน่าจดจำด้วยเช่นกัน

สรุปว่าไม่ผ่านจริงๆ แม้ตัวหนังอาจจะดูได้ไม่แย่แบบเกินทนอะไร แต่พอดูจบก็รู้สึกเสียดายเวลากับความคาดหวังก่อนดูมาก ซึ่งถ้าใครต้องการดูแบบฆ่าเวลาก็คงดูได้ แต่ถ้าให้แนะนำก็คงต้องบอกผ่านเลยกับเรื่องนี้ครับ ปริศนา รู้ หลอน 123HD

สปอยหนัง 4 Kings

สปอยหนัง 4 Kings

สปอยหนัง 4 Kings

 

 

ประเภท: ดราม่า / อาชญากรรม

ผู้กำกับ: พุฒิพงษ์ นาคทอง

นำแสดงโดย: อารักษ์ อมรศุภศิริ, อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี, ภูมิ รังษีธนานนท์, ณัฏฐ์ กิจจริต

ความยาว: 139 นาที

กำหนดฉายในไทย: 9 ธันวาคม 2021 (ในโรงภาพยนตร์)

 

เรื่องย่อ 4 Kings

สปอยหนัง เรื่องย่อ: จากเหตุการณ์จริงของเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่าง 4 สถาบัน สู่ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตที่พวกเขาได้พบเจอ เมื่อความคึกคะนองในช่วงวัย สร้างมิตรภาพ และศัตรูมาพร้อมกัน
เป็นอีกโปรเจกต์หนังที่ใช้เวลาเดินทางมาอย่างยาวนานทีเดียวกว่าที่ พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับที่จบจากวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธารามจะเริ่มไล่ล่าความฝันการเป็นนักสร้างหนัง โดยไต่เต้าจากเด็กกองจนมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ได้ในที่สุด และเขาก็พกพาเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังมาในสมัยเรียนเขียนออกมาเป็นบทหนังออกเร่หาทุนเป็นเวลาหลายปีจนแทบนึกว่าโครงการจะล่มไปเสียแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ได้มาทำหนังยาวกับค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม จำกัด ค่ายหนังไทยหน้าใหม่ที่ดูมีวิสัยทัศน์น่าสนใจทีเดียว

 

สปอยหนัง 4 Kings

 

และอาจด้วยการฝ่าฟันผลักดันความฝันนี้มาอย่างยาวนาน เหมือนว่าเรื่องที่เขาอยากเล่ามันได้ถูกเคี่ยวถูกบ่มจนได้ที่ เค้นเนื้อเน้น ๆ ดีกรีแรงออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ ถ้าถามว่าความรู้สึกมันคล้ายหนังเรื่องไหน ก็คงเป็น ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ ในแบบฉบับที่จริงจังขึ้น และคมคายสมจริงขึ้นตามยุคสมัย ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

จุดเด่น 4 Kings

จุดเด่นของหนังคือการได้เด็กช่างตัวจริงที่ไปคลุกวงในเด็กช่างเด็กเทคนิคยุค 90s มาจริง ๆ จนได้วัตถุดิบที่สมจริงมาปรุงการเล่าเรื่อง แต่ละรายละเอียดในหนังเป็นการผสมผสานหลากหลายชีวิตและบทเรียนจากคนมากมายกว่าจะนำมาผูกสร้างเป็นตัวละครแต่ละตัว แม้จะยืนพื้นจากบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงและหลายคนก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ทว่าผู้กำกับก็ฉลาดพอที่จะทำให้มันเป็นเรื่องแต่งเพื่อไม่ให้กระทบคนจริง ๆ ที่ว่ามา และในแง่ดีคือมันใส่ลูกขยี้ลูกดราม่าชีวิตบัดซบให้ตัวละครได้มากขึ้นด้วย

 

สปอยหนัง 4 Kings

 

ต้องชมอย่างแรกเลยคือ การคัดเลือกนักแสดงมาเล่น ถือว่าดีมาก ๆ ไม่เห็นการคัดแบบเข้าท่าเข้าทางยกทีมยกเรื่องขนาดนี้มานานแล้ว ด้วยจำนวนตัวละครที่ค่อนข้างมากในเรื่อง ทีมสร้างจึงเลือกให้ศูนย์กลางเรื่องราวอยู่ที่ตัวละคร บิลลี่ อินทร ของ จ๋าย ไทยทศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ที่เป็นเหมือนผู้นำพาผู้ชมไปรู้จักโลกของเขาที่มีเพื่อนสนิท 2 คนคือ ดา อินทร ที่รับบทโดยเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ที่เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นใหม่และเป็นหัวโจกของกลุ่มเพื่อน และอีกคนคือ รูแปง อินทร ที่รับบทโดย ภูมิ ภูมิ รังษีธนานนท์ ซึ่งเป็นตัวแสบในกลุ่มโรงเรียนอินทรอาชีวะ

 

สปอยหนัง 4 Kings

จริงแล้วชื่อ 4 kings ตัวจริง ก็บอกในตัวอยู่แล้วว่ามี 4 สถาบันที่เป็นคู่แค้นกัน แต่เรื่องราวจะเล่าผ่านสายตาฝั่ง อินทรอาชีวะ เป็นหลัก โดยเจาะไปที่คู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เทคโนโลยีประชาชล (ซึ่งเพี้ยนชื่อมาจากของจริงคือ เทคโนโลยีประชาชื่น) ที่มีตัวละครนำอย่าง มด ชล หัวโจกของกลุ่ม รับบทโดย โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ และ โอ๋ ชล ที่เป็นเหมือนมือขวารับบทโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต

และจะยังมีอีก 2 สถาบันสุดแสบอย่าง กนกอาชีวะ และช่างกลบุรณพนธ์ เป็นตัวสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ โดยเล่าผ่านตัวนำอย่าง บ่าง กนก ที่รับบทโดย แหลม สมพล รุ่งพาณิชย์ หรือ แหลม 25Hours และ เอก บู รับบทโดย ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ ซึ่งหนังฉลาดในการค่อย ๆ พาจากกลุ่มอินทรไปรู้จักกลุ่มอื่น ผ่านตัวละครของบิลลี่ที่มีเหตุให้ต้องเข้าไปร่วมหัวจมท้ายกับ โอ๋ ชล และ เอก บู ในช่วงเวลาหนึ่ง

และยังฉลาดในการใส่ตัวละครตัวป่วนที่เข้าไปปั่นสถานการณ์ให้วุ่นวายหนักข้อโดยไม่เลือกหน้าอย่างกลุ่มเด็กเจ้าถิ่นที่เรียกว่าเด็กบ้านที่นำแก๊งโดย ยาท เด็กบ้าน รับบทโดย บิ๊ก อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล หรือ D Gerrard และเมื่อหนังแนะนำตัวละครสำคัญ ๆ ได้ครบ ทั้งยังให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่บ้างเป็นศัตรูอยู่ร่วมโลกไม่ได้ บ้างเป็นศัตรูที่ยอมรับให้เกียรติกัน บ้างก็เป็นมิตรที่อยู่คนละขั้วและต้องเลือกอยู่เสมอว่าระหว่างสถาบันกับเพื่อนน้ำหนักสิ่งไหนสูงกว่ากัน ซึ่งทำให้เนื้อหามันมีมิติความซับซ้อนที่ดีพอจะทำให้เกิดสถานการณ์ชวนเอาใจช่วยตัวละครมากมาย

 

สปอยหนัง 4 Kings

 

และที่ชอบมากอีกประการคือการสร้างบทสนทนา หนังเรื่องนี้มีบทสนทนาที่ดีมาก ๆ เกิดขึ้นระหว่างความขัดแย้งของตัวละครที่คมคายมาก ๆ ไม่ใช่เพียงระหว่างศัตรู แต่ระหว่างลูกกับพ่อแม่ เพื่อนกับเพื่อน ครูกับศิษย์ คนรักกับคนรัก และแม้ตัวเรื่องมันจะเป็นอะไรที่ดราม่าเชย ๆ แบบที่เราเห็นในหนังสะท้อนสังคมแทบทุกเรื่อง ทว่าบทสนทนาในเรื่องกลับทำให้มันแตกต่างและน่าจดจำอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่สำคัญมันไม่ได้แค่ชวนคิดชวนถกเถียงเท่านั้น แต่มันยังเปี่ยมด้วยทัศนคติที่ดี และเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากพอจริง ๆ และสำคัญอย่างยิ่งที่มันไม่ได้ตัดสินตัวละครจากสิ่งที่สังคมให้ค่าเลย ในเรื่องนี้ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เด็กก็อาจมีเหตุผลที่ดีกว่าก็ได้ในมุมมองของเขา อะไรเช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากในการเป็นหนังสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งในยุคแห่งเหตุและผลเช่นนี้

และแม้จะมีสิ่งดีมากมาย แต่หนังก็มีจุดด้อยสำคัญอยู่ นั่นคือมันไม่ตอบรับความคาดหวังของผู้ชมที่อยากดูหนังบู๊มัน ๆ แรง ๆ แบบลูกผู้ชายตามที่หน้าหนังนำเสนอไว้ได้มากพอ หนังแทบจะตัดส่วนรุนแรงอย่างภาพการตีกันแบบกดข้ามไปเลยด้วยซ้ำ และฉากใหญ่ที่คนรอคาดหวังอย่าง คอนเสิร์ตช็อต ชาร์จ ช็อก ที่เป็นตำนาน ก็แทบไม่คุ้มแก่การรอคอยเท่าไรเลย พอประกอบกับความยาวของหนังที่มากถึง 2 ชั่วโมงครึ่งแบบที่เส้นเรื่องเยอะมาก ใครหวังมาดูหนังแอ็กชันก็น่าจะมีผิดหวังไปพอสมควร แต่ส่วนตัวมองว่าใครที่ดูแล้วเอาข้อด้อยนี้มาตัดสินหนังทั้งเรื่องก็ออกจะใจร้ายไปสักหน่อย เช่นเดียวกับที่ตัวละครในหนังพูดไว้ว่า “เห็นมันเป็นอย่างนั้น ใครทำลงก็เ_ี้ยเกินไปแล้วล่ะ”

และนี่คือสิ่งสำคัญมาก ใครที่กำลังตัดสินใจไปดู ต้องเข้าใจก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอ็กชันแบบเด็กเกเรตีกันแบบพวกหนังเด็กนักเรียนญี่ปุ่นที่วัยรุ่นกำลังนิยม แต่มันคือหนังดราม่าหนังชีวิตที่เข้มข้นมาก ๆ และความรุนแรงด้านภาพก็ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญเลย เพราะความรุนแรงต่ออารมณ์และความรู้สึกผู้ชมนั้นมันสาหัสสากรรจ์กว่ามาก ๆ ต่อให้เป็นผู้ชายแมน ๆ ยังไง คุณก็มีโอกาสโดนสักฉากในหนังที่ทำเอาน้ำตาร่วงได้แน่นอน นี่จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วจะอยากบอกต่อใครสักคนเลยว่า ของมันดีจริง ๆ

 

สปอยหนัง 4 Kings

องค์ประกอบต่างๆ ใน 4 kings อาชีวะยุค 90’s เต็มเรื่อง อาจจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เพราะยังคงมีช่องว่างและจุดโหว่ปะปนอยู่ตลอดทาง แต่เนื้อหาที่เข้มข้นของหนังก็สามารถช่วยกลบเกลื่อนอุดรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ผู้ชมมองข้ามไปในบางจุด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของหนังนั้น ถือว่าสอบผ่านและทำดีใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปูเรื่องราวและสร้างมิติให้กับตัวละครต่างๆ

รวมไปทั้งการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เก็บทุกเม็ดของความสภาพสังคมในยุค 90 ที่สัมผัสเห็นได้ถึงงานละเอียดที่ทีมงานและผู้สร้างบรรจงใส่มาทั้งในรูปแบบนามและวัตถุที่้ต้องขอยกนิ้วให้กับการทำการบ้านที่ดีใช้ได้อย่างหนังเรื่องนี้เลย แต่น่าเสียดายที่ในช่วงครึ่งหลังของหนังนั้น ค่อนข้างยืดเยื้อไปนิด ด้วยการใส่นู้นนี่เข้ามามากเกินจำเป็น หากมีการตัดทอนและปรุงแต่งให้กระชับกว่านี้หน่อย ลดไปอีกสัก 10 นาที เชื่อว่าอาจจะดีกว่านี้

 

 

และแน่นอนว่าจุดเด่นหลักๆ ของหนังเรื่องนี้คือทีมนักแสดง ที่ต้องยกย่องและยอมใจในการคัดเลือกแคสติ้งชุดนี้เข้ามาประชันบทบาทอย่างถึงพริกถึงขิง ทีมนักแสดงชายของหนัง 4Kings ถือว่าเป็นทีมคุณภาพชุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกเขาสามารถขับและบิวต์มิติของตัวละครที่ได้รับเป็นอย่างดี นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่หนังเรื่องนี้สามารถได้นักแสดงที่ถ่ายทอดได้เข้าถึงบทแทบจะทุกตัวละคร

เพียงลำพัง “เป้ อารักษ์” อาจจะไม่สามารถพยุงหนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องได้ ถึงแม้ว่าการแสดงของเขาจะไม่ได้แย่เลยก็ตาม แต่กลับได้พลังส่งเสริมที่ดีจากเพื่อนๆ นักแสดงสมทบ ไม่ว่าจะเป็น “ภูมิ รังษีธนานนท์” หรือ “อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี” (จ๋าย ไททศมิตร) โดยเฉพาะรายหลัง ถือว่าเป็นการโชว์ศักยภาพทางการแสดงที่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก

 

สรุป 4 Kings

หนังยังมี “โจ๊ก-อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ” ที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเขาเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทกับคาแรกเตอร์แนวนี้ได้ดีอยู่แล้ว และเขาก็ยังเล่นได้ดีตามมาตรฐาน “ทู-สิราษฎร์ อินทรโชติ” ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูได้ไม่น้อย โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่เล่นได้ดีถึงกับขนลุก แต่คนที่โดดเด่นสุดๆ ก็ต้องยกให้ “ณัฏฐ์ กิจจริต” ที่อินเนอร์แรง แอคติ้งได้ และทุกซีนที่มีเขาอยู่ด้วยนั้น ขับอารมณ์ออกมาได้ดีถึงใจ

และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เราสามารถพูดอย่าเต็มปากได้ว่า 4 kings Full Movie อาชีวะยุค 90 เป็นหนึ่งไทยที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ อีกทั้งยังเชื่อเหลือเกินว่า หนังน่าจะมีบทบาทไม่น้อยบนเวทีแจกรางวัลจากสถาบันต่างๆ ในช่วงต้นปีหน้า เพราะอย่างน้อยๆ ทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ก็คือความโดดเด่นที่ลงตัว เผลอๆ ที่นั่งประจำสาขานักแสดงนำชายและสมทบชายอาจจะถูกจับจองเอาไว้แล้ว

 

 

โดยสรุปแล้วนั้น 4 kings อาชีวะยุค 90 ถือว่าเป็นดราม่าแอคชั่นที่น่าจะมาช่วยลบคำสมประมาทและปรับทัศนคติใหม่ให้กับคนไทยที่มีต่อหนังไทยในยุคหลังๆ และนี่คือหนังไทยที่คนไทยอยากจะเห็นแบบนี้บ้าง แม้ว่าจะมานานๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปในทุกๆ องค์ประกอบ แต่จุดเด่นจุดดีของหนังก็ยังมีมากกว่าจุดด้อย เชื่อว่าตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ คนดูจะคุ้มค่าไปกับการเสพเรื่องราวของพวกเขา

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

สปอยหนัง สำหรับใครที่เป็นคอดูหนังผีแนวที่หลอน ๆ แต่ไม่ถึงกับน่ากลัวจนต้องปิดตา และมีความตลกฮาสไตล์วัยรุ่นระหว่างผีกับคน เราขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดดูหนังเรื่อง “มหาลัยเที่ยงคืน”เลย ยิ่งใครที่กำลังรู้สึกท้อกับการเรียน ทำโปรเจ็กหรืองานไม่ผ่าน ต้องแก้โน่นแก้นี่ ลองพักมาดูหนังเรื่องนี้ดูแล้วคุณจะรู้สึกเหมือนมีเพื่อนหัวอกเดียวกันคอยให้กำลังใจ

 

เรื่องย่อ มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “สตาร์” เซเลปนักศึกษาควบตำแหน่งดาวประจำมหาลัยที่ติดเอฟวิชาภาษาอังกฤษของท่านรองคณบดีฯ ท่านจึงตัดสินใจว่าจะช่วยแก้เกรดให้เธอเรียนจบหากสตาร์ยอมเข้าเรียนและทำข้อสอบซ่อมเสริมห้องศูนย์การศึกษาเก่าตอนดึกอีกครั้ง

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

ซึ่งเธอก็สามารถหาเพื่อนเรียนครบทีมอย่าง “โอตาคุ” ตากล้องถ่ายผีสุดเนิร์ด ,”หมู,หมึก,กุ้ง” แก๊ง 3 ปู่ นักศึกษาปี 8 และ “อ้วนพาย” ติ่งตัวยงของสตาร์ แต่การเรียนในห้องศูนย์การศึกษาตึกเก่าดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะที่แห่งนี้มีผีนักศึกษาที่เรียนไม่จบรอวันพ้นจากบ่วงเต็มไปหมด แล้วพวกเขาจะทำเช่นไรดี! ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ความน่าสนใจของหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

มหาลัยเที่ยงคืน สปอย เป็นหนังผีอีกเรื่องที่มีความน่าสนใจจากการใช้พล็อตเจาะกลุ่มเด็กวัยเรียนผ่านตัวของสตาร์ที่เอาแต่เที่ยวเล่นทำตัวชิลล์ไปวัน ๆ จนเผลอติดเอฟวิชาภาษาอังกฤษของท่านรองคณบดี ทำให้เธอต้องเข้าไปเรียนในตึกผีสิง ซึ่งตรงนี้เราจะได้เห็นว่าแม้แต่กลุ่มเพื่อนที่คบกันมาแบบสนิทสนมก็ยังเอาตัวเองรอดไม่สนใจสตาร์แม้แต่น้อยด้วยความกลัว ทำให้เธอต้องไปหานักศึกษาคนอื่นที่ไม่ผ่านเช่นเดียวกันมาเรียนที่ห้องศูนย์เป็นเพื่อนเพื่อให้สามารถเรียนจบไปด้วยกัน

ตรงนี้เราจะได้เห็นถึงสิ่งที่ตัวหนังอยากบอกเกี่ยวกับสังคมมหาวิทยาลัยที่เพื่อนแท้หายากกว่ามัธยมมาก หลายคนที่คบกันก็มักจะร่วมสุขได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถร่วมทุกข์ไปด้วยกันได้ ตรงข้ามกับคนที่เราไม่เคยเห็นข้อดีของพวกเขา แต่กลับเป็นพวกเขาเองที่มาร่วมสู้ไปด้วยกันกับเรา นี่ล่ะคือมิตรภาพของเพื่อนแท้ มหา ลัย เที่ยงคืน เรื่อง จริง

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

และเหล่าวิญญาณก็ยอมรับว่าแต่งหน้าได้น่ากลัวจริงแบบโอเวอร์ตั้งใจหลอกหลอนคนดูเต็มที่จนคล้ายล้อเลียนผีในหนังสยองขวัญมากมายกลาย ๆ พวกสไตล์ตุ้งแช่ก็มีแบบเราสามารถรู้ได้เอง ไม่มีหลอกมาตุ้งแช่ทีหลัง แต่ผีหล่ออย่างคุณเขาก็มีนะ คอยช่วยเหลือสตาร์หลายอย่าง และผีหล่อคนนี้เองที่จะเป็นกุญแจไขปมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องศูนย์เมื่อหลายปีก่อนและตัวของรองคณบดีที่มีความสัมพันธ์กันแบบซึ้งมาก

เหมาะที่จะดูกับเพื่อน แถมยังประทับใจฉากที่วิญญาณพากันมาสอบอย่างที่ตัวเองรอคอยอีกด้วย น้ำตาไหลได้เลย คือผีก็ช่วยคน คนก็ช่วยผี

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

พล็อตว่าด้วยกลุ่มนักศึกษาที่สอบไม่ผ่าน (นำโดย มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า) พวกเขาเลยถูกนัดมาเพื่อเรียนคาบซ่อมพิเศษในยามราตรี ซึ่งคาบที่ว่านี้สอนโดยท่านรองอธิการครับ โดยเวลาเรียนจะเริ่มดึกๆ ไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน แต่ท่านรองก็พยายามกำชับว่าพอเลิกแล้วให้รีบออกจากห้องก่อนเที่ยงคืน

เหตุผลก็คงเดาได้น่ะนะครับ ก็เพราะถ้ามันเกินเที่ยงคืนไปล่ะก็ อาจจะมีผีสางมาเรียนเป็นเพื่อนด้วยนั่นเอง แต่ก็นั่นแหละครับ มันก็ต้องมีคนไม่เชื่อพยายามลองของ สุดท้ายก็เจอของสมใจอยาก เพราะปรากฏว่ามีผีปรากฏตัวในอาคารแห่งนี้หลังเที่ยงคืนจริงๆ

เมื่อดูจนจบแล้ว ผมโอเคนะ จริงๆ คือค่อนข้างชอบในครึ่งหลังของหนังจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าครึ่งแรกหนังลดทอนช่วงที่มันต๊องๆ ออกไป หรือมีแค่ไม่ต้องเยอะ แล้วหันมาเน้นประเด็นหลักอย่างเดียวเลยมันน่าจะโอเคกว่านี้เยอะ ดีไม่ดีอาจจะทำได้ใกล้ๆ กับ “น้ำ ผีนอง สยองขวัญ” ก็ได้

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

 

อย่างเรื่องน้ำ ผีนองนั้น ผมว่ามันพอดีน่ะครับ ขำก็ขำแบบเต็มๆ แต่หนังก็ไม่ลืมว่าตัวเองกำลังจะเล่าเรื่องอะไร เรียกว่าความขำเป็นแค่ส่วนประกอบ แต่แก่นหลักจริงๆ ที่เป็นสิ่งที่มีสาระและความประทับใจนั้นหนังก็ไม่ได้ทิ้งให้หายไปไหน และพยายามย้ำสิ่งเหล่านั้นอยู่เรื่อยๆ จนทำให้หนังกลายเป็นความสนุก สยอง แบบพอดีไป

เรื่องนี้ถ้าไม่นับตอนต้นๆ แล้ว หนังก็ถือว่ามีทิศทางชัดอยู่ครับ พวกนักศึกษาสอบตกมาสอบซ่อมแล้วก็เจอดี วิ่งหนีผีจนแทบไม่กล้ามาเรียน แต่ขณะเดียวกันก็มีปมให้ตัวละครตามสืบว่าแล้วตกลงมันเพราะอะไรผีถึงต้องมาโผล่ที่นี่หลังเที่ยงคืน ซึ่งปมที่ว่าก็ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย คือมันอาจไม่ได้ใหม่น่ะครับ แต่หนังนำเสนอได้พอเหมาะดี มหาลัยเที่ยงคืน pantip

แล้วพอปมเฉลยแล้ว หนังก็ยังต่อด้วยประเด็นดีๆ อย่างเรื่องความพยายาม, ความรับผิดชอบ อีกทั้งมิตรภาพประดังกันเข้ามาในตอนไคลแม็กซ์ เรียกว่าเป็นการลงเอยที่ดีเลยครับ มันทำให้หนังเรื่องนี้เป็นมากกว่าแค่หนังวัยรุ่นฮาๆ วิ่งหนีผี เพราะมันมีประเด็นดีๆ มาสอนใจให้คนคิดตามด้วย

 

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน

สปอยหนัง มหาลัยเที่ยงคืน ในแง่การแสดงถือว่าดีเลยครับ มาร์กี้เล่นได้น่ารักดี ตอนแรกก็มีคำถามนะว่าทำไมมาร์กี้ถึงมาเล่น พอดูแล้วก็พบว่าหลายฉากมันเป็นซีนอารมณ์ครับ แล้วมารฺ์กี้เองก็สามารถดึงอารมณ์ในซีนนั้นๆ ได้ดีด้วย แต่ที่ทึ่งมากหน่อยคือโทนี่ รากแก่นครับ เล่นไม่ห่วงลุค (จริงๆ ตัวละครของเขาอยู่ตรงโปสเตอร์นะครับ แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า 555) และก็แน่นอนว่าเขาเล่นได้ดีเช่นเคยครับ

บทสมทบรอบๆ ก็ถือว่าโอเคเช่นกันครับ เสริมอารมณ์ฮาได้ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าตอนต้นๆ หนังใช้เวลาไปกับเรื่องนอกลู่นอกทางค่อนข้างเยอะ ชนิดที่ถ้าหนังฉายตามฟรีทีวีแล้วเราเปิดไปดูเข้าล่ะก็ ความรู้สึกสนใจใคร่ดูของหลายๆ คนอาจหดหายก็ได้ เพราะมันดูไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร

ก็เลยอยากจะบอกให้รู้กันไว้ครับ ว่าหากรู้สึกว่าตอนต้นมันเลอะๆ ก็อย่าเพิ่งเลิกดู ขอให้รออีกสักหน่อยครับ รอจนพวกนักศึกษาเริ่มเรียนและเริ่มเจอผีหลอกก่อน แล้วความน่าติดตามมันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ (สารภาพเลยครับว่าถ้าผมไม่ใช่คนประเภท “ดูแล้วต้องดูให้จบ” ล่ะก็ ผมก็คงหยุดดูตั้งแต่ 30 นาทีแรกเหมือนกัน)

โดยรวมแล้วถือเป็นหนังผีผสมฮาที่ทำได้เข้าท่าเลยครับ จนทำให้ผมอยากเห็นหนังผีสไตล์นี้ออกมาอีกนะ ประเภทหนังผีผสมฮาแล้วแทรกสาระดีๆ (ที่หากพิจารณาดีๆ แล้วก็สามารถเอาไปใช้ประกอบกับชีวิตจริงของเราได้เลยล่ะ) หนังแบบนี้ดูได้เรื่อยๆ ครับ

 

 

เป็นหนังที่มีความบันเทิงหลายอารมณ์ รวมๆ แล้วเป็นหนังผีที่ไม่เน้นความน่ากลัวเท่าไหร่นะ ออกจะไปในทางตลกโปกฮาซะมากกว่า น่ากลัวนิดๆ ตุ้งแช่หน่อยๆ ดราม่าก็ได้.. บรรยากาศในหนัง และฉากผีหลอกแต่ละตอน ไม่ได้แปลกใหม่ แต่ก็ถือว่าทำได้น่ากลัวดีนะ แอบเสียดายที่มีอยู่น้อยไปหน่อย ถ้าผสมกันอย่างพอดีกว่านี้ระหว่างความน่ากลัว กับตลก หนังจะสนุกขึ้นมากเลยทีเดียว

ตัวหนังมีเนื้อหาที่มีแก่นไอเดียน่าสนใจที่ว่า ห้องเรียนที่สร้างมาเพื่อให้นักศึกษาที่ตายไปก่อนเรียนจบ ได้กลับมาเรียนมาสอบเพื่อจบการศึกษา จะได้ไปเกิดแบบไม่มีห่วง แต่ก็อย่างที่บอก มันน่าจะสนุกกว่านี้ได้อีกเยอะนะ แต่ที่มาที่ไป ไปๆ มาๆ กลับดูไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไหร่.. มุกตลกในหนังถือว่ามีเยอะมาก เรียกว่าตั้งใจหามายัดใส่คนดูรัวๆ แบบไม่สนใจคุณภาพ บางมุกก็พอได้ บางมุกก็แป๊กไปเลย เงียบกริบ บางฉากยาวเกินไปที่จะใช้เพื่อเล่นมุกมุกหนึ่ง และตัวนักแสดงที่ต้องตลก กลับเอาไม่อยู่เลยสักคนเดียว ตั๊ก บริบูรณ์ ที่ว่าฮา มาเล่นเรื่องนี้กลับเละซะงั้น.. ส่วนตัวคิดว่า มุกตลกในหนังผีที่ดีเนี่ย มันต้องทำให้เราลุ้นไปกับความสยอง และแฝงความตลกระหว่างที่กำลังลุ้นไปด้วยพร้อมๆ กัน

มาร์กี้ กับหนังเรื่องแรก ก็ถือว่าเล่นได้น่ารักสดใสตามสไตล์ของเธอ ที่เราคุ้นตากันในจอโทรทัศน์ แต่กลับไม่เหมาะกับบทของเรื่องนี้เท่าไหร่ และที่อดพูดถึงไม่ได้คือ โทนี่ รากแก่น กับบทบาทโอตาคุหื่นๆ ที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่ๆ เรียกว่าแย่งซีนคนอื่นหมดเลยทีเดียว

 

ข้อคิดดี ๆ จากหนังมหาลัยเที่ยงคืน

มหา ลัย เที่ยง คืน ภาค 2 ได้ทำให้เราเห็นความสำคัญของการเรียนว่าหากคุณมีความตั้งใจที่จะศึกษาจนจบได้สำเร็จก็จะรู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ระหว่างเรียนจะรู้สึกเบื่อหน่ายและบ่นตามเรื่อง แต่พอจบแล้วคุณก็จะคิดถึงความทรงจำ มิตรภาพระหว่างเพื่อนและครูอาจารย์มาก สิ่งต่าง ๆ เป็นประสบการณ์ให้คุณสามารถนำไปใช้เมื่อทำงานได้แน่นอน เมื่อมีโอกาสก็จงตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตของเราเถอะ
สำหรับคะแนน รีวิวหนัง มหาลัยเที่ยงคืน เริ่มที่ส่วนของนักแสดง ผมต้องชม “มาร์กี้ ราศรี” ที่ในเรื่องนี้เธอเล่นได้น่ารักมากมาย เป็นตัวของตัวเอง ดูเป็นธรรมชาติ และอีกคนที่ต้องชมเชยเป็นพิเศษ คือ “โทนี รากแก่น” ที่รับบทเป็น “โอตาคุ” เขาเล่นได้เนิร์ดดี และ ดูโรคจิตมากๆ คือฉีกจากบทบาทเดิมๆ ที่เราชินตา ผมค่อนข้างทึ่งในความสามารถทางการแสดงของเขาในเรื่องนี้ ในส่วนของนักแสดงนำ

ในส่วนของความฮาและความสนุกสนาน ในหนังเรื่องนี้จะทำอะไรที่ดูบ้าๆ บอๆ ออกมา จนกลายเป็นขำมากกว่าน่ากลัว แม้หลายมุกจะแป๊กไปบ้าง แต่ยังมีมุกที่เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมในโรงได้เป็นระยะๆ ถือว่าสอบผ่านไปได้ในส่วนนี้ สำหรับในส่วนของการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวผมมองว่า นี่คือจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ เพราะการดำเนินเรื่องไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร หลายฉากหลายตอนที่ไม่จำเป็นต้องมี ก็กลับมีขึ้นมา หลายฉากก็ไม่เห็นมีที่มาที่ไปคือ คนดูๆ แล้วก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีฉากนี้ด้วย จริงๆ แล้วเนื้อเรื่อง มหาลัยเที่ยงคืน ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่วิธีการเล่าเรื่องกับการลำดับเรื่องราวต่างๆ ยังไม่โดนใจผมเท่าไร ในส่วนนี้ผมให้ไว้ที่ 7.5/10

 

 

สรุปคะแนน รีวิวหนัง มหาลัยเที่ยงคืน ผมให้ที่ 8.5/10 ดูเอาขำดูเอาฮา ดูความน่ารักของมาร์กี้ และดูบทบาทความเนิร์ดของ โทนี่ รากแก่น รับรองไม่ผิดหวัง แต่หากต้องการดูเพื่อสยองขวัญน่ากลัว แบบมีเหตุผล มีที่มาที่ไป ชวนให้ขบคิดตามไปด้วย ท่านอาจจะผิดหวัง อย่างไรก็ตามโดยรวมถือเป็นหนังผีที่เรียกเสียงหัวเราะได้ค่อนข้างดีอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ และตามความเห็นส่วนตัว ผมชอบหนัง “มหาลัยเที่ยงคืน” นี้มากกว่าหนังผีอีกเรื่องของค่ายเดียวกันก่อนหน้านี้
เป็นหนังผีที่ดูแล้วได้อารมณ์ทูอินวันครับ ในแง่หนึ่งคือมันมีทั้งอารมณ์สยองขวัญผีๆ สางๆ ผสมกันความตลกตามสไตล์หนังผีไทย… แต่ “ทูอินวัน” ที่ผมบอกตอนต้นนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องโทนของหนังเท่านั้นหรอกครับ

ทูอินวันที่ว่าคือ ช่วงต้นๆ เรื่องของหนังมันทำให้ผมรู้สึกเรื่อยๆ ในบางโมเมนต์มันทำให้ผมคิดด้วยซ้ำว่าหนังคงจะไม่มีอะไรเด่น ดูเป็นหนังผีวัยรุ่นขำๆ ที่มีอะไรต๊องๆ เป็นพักๆ หรือไม่ก็สถานการณ์เว่อร์ๆ ที่ดูแล้วเข้าใจน่ะครับว่าพยายามจะขายขำ แต่บางอารมณ์ก็รู้สึกว่ามันเลอะๆ อยู่เหมือนกัน

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

 

สปอยหนัง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” หนังเรื่องแรกของทีมงานเดิมในชื่อใหม่ GDH ที่เลือกเปิดตัวด้วยหนังโรแมนติคคอมมีดี้ ผลงานของ โต้ง บรรจง ผู้กำกับมือต้น ๆ ของ GTH เดิมที่เคยมีผลงานกวาดรายได้เข้าค่ายเป็นล่ำเป็นสันมาแล้วจาก “กวน มึน โฮ”(2553) และ “พี่มาก”(2556) รอบนี้ทางค่ายดำเนินตามสูตรสำเร็จตามอย่างที่ “กวน มึน โฮ” เคยทำไว้ ด้วยการใช้ เต๋อ ฉันทวิชช์ ประกบนางเอกใหม่ในบรรยากาศหนังรักที่ใช้ฉากหลังแสงสีสวย ๆ ในต่างประเทศ คราวนี้ย้ายมาเป็นฮอกไกโด เรื่องนี้จับเต๋อ เปลี่ยนลุคจากหนุ่มขี้เล่นกวนตีน มาเป็น “เด่น” หนุ่มไอที หัวหยิกใส่แว่น ติ๋ม ๆ ยิ้มอาย ตลอดทั้งเรื่อง เขาแอบรัก นุ้ย เซลส์คนสวยประจำบริษัท แต่เด่น ก็อยู่ในฐานะหมามองเครื่องบิน เพราะนุ้ยเลือกที่จะอยู่ในสถานะเมียน้อยของ ท็อป เจ้าของบริษัทที่มีลูกเมียแล้ว แต่โอกาสก็มาถึง เมื่อบริษัทยกขบวนพนักงานไปเที่ยวที่ฮอกไกโด แล้วนุ้ยเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อมชั่วคราวเพียงวันเดียว เด่น เลยสวมรอยว่าเขาและเธอเป็นแฟนกัน แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อความจำของ นุ้ย จะกลับมา เด่น จะทำอย่างไรต่อไป แฟน เดย์ เต็มเรื่อง youtube

 

เรื่องย่อ แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

เด่นชัย (เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) พนักงานฝ่ายไอทีสุดเนิร์ด แอบเป็นหมาแหงนมองเครื่องบินอย่าง นุ้ย (มิว นิษฐา จิรยั่งยืน) มาร์เก็ตติ้งสาวสวยมาเป็นเวลาหลายปี โดยมีคุณคู่แข่งคือคุณท็อป (ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล) เจ้าของบริษัทที่ทั้งสองทำงานอยู่

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

วันหนึ่ง บริษัทพาพนักงานไปเที่ยวที่ฮอกไกโด เด่นชัยขอพรกับระฆังว่า ขอให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ย…แค่หนึ่งวันก็ยังดี แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก นุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกี พอฟื้นขึ้นมา เธอก็มีอาการความจำเสื่อมชั่วคราว (Transient Amnesic Syndrome หรือ TGA) แปลว่า เธอจะความจำเสื่อมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เด่นชัยจึงใช้โอกาสนี้ในการสวมรอยเป็นแฟนนุ้ยและพาเธอเที่ยวต่อ… แม้จะแค่วันเดียวก็ตาม ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

ยังจำเด่นชัยกันได้อยู่ไหม จำความน่ารักสดในของนุ้ยกันได้หรือเปล่า ตอนนี้เรื่องราวของเขาสองคนบินไกลไปถึงเมืองจีนกันแล้วนะ ในชื่อใหม่ รูปลักษณ์ใหม่และสถานที่ใหม่ที่พวกเขาจะไปสร้างความทรงจำดีๆ ชั่วข้ามคืนด้วยกัน อีกครั้ง

 

แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว เวอร์ชั่นจีน

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว เวอร์ชันรีเมคเป็นภาพยนตร์จีนในชื่อว่า 明天你是否依然爱我 I Remember (พรุ่งนี้คุณจะยังรักฉันไหม) เชื่อว่าแฟนเดย์เป็นภาพยนตร์ที่แฟน ๆ ชาวไทยหลายคนทั้งอิน ฟิน หัวเสีย จนถึงเข้าอกเข้าใจในการตัดสินใจของ เด่นชัยที่มีต่อ นุ้ย ในบทสรุปของเรื่องราวความรักของทั้งคู่ สารภาพตรงนี้เลยว่าอิชั้นเป็นคนหนึ่งที่โมโหเด่นชัยอยู่เหมือนกันละค่ะ ทำไมตัดสินใจแบบนี้แต่ก็ดันเข้าใจในเวลาเดียวกัน
สำหรับเวอร์ชันจีนรีเมกมีการปล่อยโปสเตอร์และหนังตัวอย่างมาเมื่อเช้าวันที่ 24 กันยายนนี่เอง กำหนดเข้าฉายต้อนรับคริสมาสต์นี้พอดิบพอดีคือ 24 ธันวาคม 2020 แต่มีการเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้สองพระนางไปฟินกันที่ฟินแลนด์บ้านเกิดของซานต้าแทนฮอกไกโด

“เมื่อความรักกลายเป็นเหตุผลที่ต้องเสี่ยง” ปลายทางแห่งการจากลาที่ทำเอาแฟน ๆ ชาวไทยน้ำตาตก จะไปสร้างความสะเทือนใจให้แฟน ๆ ชาวจีนได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องรอพิสูจน์

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

พนันเอาไว้ว่าเรื่องนี้ต้องมีคนเสียน้ำตาแน่ ๆ นำแสดงโดย หยางหยิง杨颖 หรือ Angelababy และหลี่หงฉี 李鴻其 李鸿其 饰เรื่องราวของหนุ่มไอที (หลี่หงฉี) และจ้าวซีมาน (หยางหยิง) หญิงสาวพราวเสน่ห์ที่มีช่วงเวลาแห่งความรักแท้อันสั้นจุ๊ด เป็นความทรงจำดี ๆ ที่ควรจะประทับอยู่ในความรู้สึกไปนานแสนนาน แต่คนเขียนบทเจ้ากรรมที่แสนจะใจร้าย กลับลบความรู้สึกนั้นไปชนิดที่ว่า ไม่หลงเหลือ (ณ จุดนี้ขอยัดเยียดความผิดให้เขาไปค่ะ)

ซึ่งใน weibo ก็มีการเปิดเผยโปส์เตอร์และตัวอย่างหนังออกมาอย่างคึกคัก เผยให้เห็นฉากสวีทหวาน ลากเลื่อน เล่นหิมะกันสนุกสนาน แถมพระเอกยังเอาอกเอาใจด้วยการแปลงกายเป็นลุงซานต้าเข้าไปอีก ฟินกระจัดกระจายไปเลยจ้ะ ขอแอบกระซิบหน่อยนึงว่าว่าเวอร์ชันนี้ Angelababy แอบเหมือน มิว นิษฐา อยู่เหมือนกันนะเนี่ย

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

พูดได้เต็มปาก ว่านี่คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่มีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาก ลงลึกเรื่องบุคลิกลักษณะตัวละครได้อย่างละเอียด เนื้อหาลื่นไหลชวนติดตาม ไม่มีรูรั่วให้เกิดคำถามสะดุดระหว่างดู รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หยอดไว้หยิบมาใช้ประโยชน์ได้หมด หนังแบ่งเป็น 3 องก์ , องก์แรกแนะนำให้เรารู้จักตัวตนของเด่น และ นุ้ย ว่าทำไม เด่น ถึงได้ไปหลงรักนุ้ย แล้วก็ปูเข้าองก์ที่ 2 ส่วนสำคัญของเรื่องคือ 1 วันที่ทั้งสองได้เป็นแฟนกัน ให้เราได้เห็นพัฒนาการค่อยเป็นค่อยไป จากที่นุ้ยความจำเสื่อมแล้วต้องอึ้งกับหนุ่มติ๋มที่ยืนอยู่ข้างหน้า ที่มาบอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ จากท่าทีที่นุ้ยไม่ไว้ใจ แต่เด่นก็ใช้ความซื่อและจริงใจให้นุ้ยเชื่อจนสนิทใจได้ในที่สุด หนังใช้เวลากับองก์นี้ลากยาวไปถึงชั่วโมงกว่า ขมวดปมวิกฤตการณ์ของเรื่องไว้ขีดสุด สามารถลากความสนใจคนดูได้อยู่หมัด ให้ร่วมลุ้นกับบทลงเอยของทั้งคู่ในองก์ที่ 3 หนังแฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เต็มเรื่อง hd

Fanday ค่อนข้างให้รสชาติที่แตกต่างจากหนังรอมคอมฮิต ๆ ที่ผ่านมาของ GTH ด้วยการพูดถึงด้านร้ายของความรักพอ ๆ กับด้านที่สวยงามของมัน ทั้งความเจ็บช้ำจากการแอบรักของเด่น และ นุ้ย สาวสวยที่ยอมตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของเจ้าของบริษัท รอคำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ที่เขาจะทิ้งลูกเมียมาแต่งงานกับเธอ หนังตอกย้ำให้เห็นว่าความรักในความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย แตกต่างจากความรักวันเดียวของทั้งคู่ซึ่งเด่นเชื่อว่าเกิดจากปาฎิหารย์นั้นกลับสดใสสวยงาม ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักจริงจัง

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

 

สัดส่วนดราม่ากินไปกว่า 70% ของเรื่องเหลือพื้นที่ให้ยิ้มหัวเราะได้เพียงส่วนน้อย แต่ในด้านดราม่าของหนังก็ล้วนส่วนที่ดีของหนังที่หยิบสังคมรอบตัวที่เผชิญกันอยู่มาขยายเป็นเรื่องราว เรื่องชู้สาว คนแอบรักกันในออฟฟิศ เจ้านายแอบกินลูกน้องสวย ๆ ซึ่งหลาย ๆ สถานการณ์ที่อยู่บนจอหนังดูไปแล้วก็เกิดคำถามกับตัวเราว่าถ้าเป็นเราจะทำแบบเดียวกับตัวละครนี้ไหม มุกที่ใส่เข้ามาก็เป็นเพียงส่วนเสริมในระดับยิ้ม ๆ ไม่ได้ถึงขั้นหัวเราะเสียงดังอย่างเช่นเรื่องก่อน ๆ ซึ่งล้วนผิดคาดจากที่เห็นในตัวอย่างไปมาก แต่กับฉากดราม่าก็ทำได้ซึ้งพอดูมองเห็นรอบ ๆ ข้างก็เช็ดน้ำตาป้อย ๆ กัน ตรงนี้ก็ต้องชื่นชมผู้กำกับโต้ง ที่สร้างชื่อจากหนังสยองขวัญ”ชัตเตอร์ฯ”มาทำหนังดราม่าที่พาอารมณ์คนดูไปได้ถึงจริง ๆ

 

ด้านความรักของเรื่องนี้ แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ด้านความรักของเด่นและนุ้ยก็ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังโรแมนติกที่แท้จริง ฉากกุ๊กกิ๊กน่ารักเยอะมาก ดูแล้วยิ้มไปกับความรักของเด่นและนุ้ยได้ ดูๆ ไปก็นึกว่า เออชอบฉากนี้นะน่ารักดีแต่แล้วก็ยังมีอีกมีอีกที่ทำได้ถึงอารมณ์และถึงขั้นเป็นซีนจดจำองค์ประกอบทุกอย่างทำหน้าที่เพียบพร้อมทั้งภาพและเสียง ดนตรีประกอบของหัวลำโพงริดดิม เจ้าประจำของ GTH ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ส่งอารมณ์ทุกฉากให้ไปถึงจุดได้ ไม่ขับจนล้นเกิน และเลือกจะหยุดเงียบในฉากตึงเครียด,บทสนทนาถูกเขียนมาได้อย่างสละสลวย บทพูดโดนใจเต็มไปหมด เชื่อว่าจะต้องมีกระทู้รวมบทพูดซึ้งๆ โดนๆ ในพันทิปแน่นอน และจะต้องมีภาพคำคมจากหนังให้ส่งต่อกันอีกมาก แบบที่กวนมึนโฮเคยสร้างกระแสแบบนี้ได้

 

 

เต๋อ เปลี่ยนลุคไปมากปล่อยน้ำหนักขึ้นโชว์พุง คงจะให้เข้ากับลักษณะของหนุ่ม IT บทเขียนให้เด่นเป็นหนุ่มซื่อจริงใจ น่ารัก และโคตรสุภาพบุรุษซึ่งการกระทำของเด่นในฉากสำคัญหนุ่มๆ ดูแล้วคงจะขัดใจ ด่าว่าโง่ แต่กับสาวๆ คงจะประทับใจว่านี่คือความรักที่บริสุทธิ์จริงใจและเด่นน่าจะเป็นพระเอกในใจของสาวมากมายหลังจากที่ได้ชมเรื่องนี้กันไป แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว 037

 

สปอยหนัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

ภาพลักษณ์ “นุ้ย” ของมิว ทำให้เชื่อได้จริงว่านี่คือเซลส์สาวสวยมีเสน่ห์ดูมั่นใจร่าเริงผมเห็นมิวในตัวอย่างหนังก็เฉยๆนะ ยังนึกว่านี่ GDH ไปเอาใครมาเล่นเป็นนางเอกในหนังประเดิมค่ายเนี่ยแต่พอได้ดูมิวในหนังก็ทำให้หลงเสน่ห์ของเธอได้เต็มๆ ซีนน่ารักเยอะมาก โดยเฉพาะรอยยิ้มของมิวเชื่อว่า “Fanday” ดันให้มิวแจ้งเกิดได้เหมือนที่เคยดันให้ หนูนา แจ้งเกิดสำเร็จจาก “กวนมึนโฮ” และชอบที่ทีมงานเลือกตุ้ย ธีรภัทร์ มารับบทท็อป หนุ่มเจ้าของบริษัทตุ้ยดูเหมาะมากกับมาดหนุ่มไฮโซเจ้าสำอาง ที่ทำให้นุ้ยรักและเฝ้ารอได้

 

 

ที่ชื่นชมอีกอย่างคือการที่หนังโปรโมทเพลง “วันหนึ่ง” ของชาติ แต่ในหนังกลับใช้ “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้ ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์มากสำหรับหนังของแกรมมี่ ที่เลือกใช้เพลงของค่ายอื่นมาเป็นเพลงหลัก และใช้เวอร์ชั่นต้นฉบับด้วยไม่คัฟเวอร์ ชื่นชมครับที่เอาอารมณ์และสารในเพลงเป็นหลักมากกว่าเหตุผลทางการค้า ตรงนี้ผู้กำกับโต้ง บอกว่าเขาชอบเพลงพี่แจ้ และเป็นคนเลือกเพลงนี้เอง รอดูรอเชียร์ครับว่า “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้จะกลับมาดังมั้ย “ฝันลำเอียง” ในหนังยังได้ทำหน้าที่สัญลักษณ์ของหนังด้วย เนื้อหาของเพลงของพี่แจ้ช่างตรงกับเรื่องราวของหนังรวมถึง “เทศกาลหิมะซัปโปโร”เองก็ถูกใช้ทำหน้าที่สัญลักษณ์แทนความรักของทั้งคู่ได้ลงตัว แทนภาพความสวยงามที่อยู่ได้เพียงชั่วคราวแล้วก็ถูกทำลายทิ้ง

Fanday เป็นหนังเปิดตัว GDH ได้อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยทุกองค์ประกอบล้วนทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ได้ซึ้งน้ำตาซึมได้ยิ้มไปกับความรักของเด่นและนุ้ยแต่ทั้งนี้ก็เผื่อใจไว้นิดว่าหนังไม่ได้สดใสใส่มุกแน่นเหมือนอย่างเรื่องก่อนๆ ของ GTH นะครับ อีกอย่างหนังยาวมากครับ 2 ชั่วโมง 16 นาที แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ออนไลน์

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

 

สปอยหนัง เป็นซีรีส์ที่รีเมคมาจากเกาหลีอีกที จากเรื่อง “Oh My Ghost ผีสาวกระตุกต่อมรัก” ที่มีให้ดูทาง Netflix ทั้งสองเรื่อง ส่วนสาเหตุที่ต้องมาดูเรื่องนี้ก็เป็นเพราะแฟนของผมเป็นคนชอบดูหนังผี แต่ผมดันชอบดูแนวโรแมนติก มันก็เลยขัดกัน ผมเลยต้องหาเรื่องเกี่ยวกับผี ๆ และก็มีโรแมนติกด้วยผสมกัน แบบว่าพบกันครึ่งทางครับ เรื่องนี้มีความชอบส่วนตัวที่ทำให้อยากดูบทบาทของ หนูนา ว่าจะทำได้แตกต่างจากเวอร์ชั่นเกาหลียังไง และก็ชอบหนูนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากครับ

 

เรื่องย่อ ผีป่วน ชวนรัก

เรื่องราววุ่นๆของ ข้าวปุ้น (ยิปซี-คีรติ) ผีสาวตนหนึ่งที่ยังไปผุดไปเกิดไม่ได้เพราะยังติดห่วงบางอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่คิดเอาเองว่าก่อนตายเธอยัง “เวอร์จิ้น” อยู่เมื่อตายไป “ห่วง” ที่ติดอยู่ก็คือเรื่่องอย่างว่าผีสาวตนนั้นจึงเร่ร่อนด้วยการสิงร่างหญิงสาวคนนั้นคนนี้เพื่อหาผู้ชายที่จะปลดปล่อยให้เธอได้ไปเกิดแบบหมดห่วง! แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไปเกิดใหม่ไม่ได้สักที…

จนวันหนึ่งในขณะที่ข้าวปุ้นผีสาวที่กำลังหนีการตามล่าของป้าปู (ท็อป-ดารณีนุช) หมอผีเธอก็ได้เข้าไปแอบสิงอยู่ในร่างของจิ๋ว (หนูนา-หนึ่งธิดา) สาวดวงตกพนักงานสารพัดประโยชน์ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคนมีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้แต่ความสามารถนี้ไม่ใช่สิ่งที่ “จิ๋ว” ต้องการเลยเพราะผลพวงจากความสามารถนี้ทำให้เธอถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆไม่มีเพื่อนขาดความมั่นใจร่างการอ่อนแอจนไม่เป็นอันทำอะไรและยังทำให้เธอต้องเกือบถูกไล่ออกจากงาน

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

แต่หลังจากที่ “จิ๋ว” ถูก “ข้าวปุ้น” ผีสาวจอมหื่นเข้าสิง “จิ๋ว” ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนจากคนขี้แพ้อ่อนแอกลายเป็นคนมั่นใจในตัวเองและในระหว่าง “ข้าวปุ้น” ที่อยู่ในร่างของเธอก็เกิดไปปิ๊งพระเอก “เชฟอาทิตย์” (เป้-อารักษ์) ซึ่งเป็นเชฟสุดฮอตชื่อดังเจ้าของร้านอาหารที่ “จิ๋ว” ทำงานอยู่และยังเป็นคนที่ “จิ๋ว” แอบปิ๊งอยู่ด้วยเช่นกันผีสาวเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้แหละที่จะช่วยปลดปล่อยวิญญาณของเธอได้ด้วยการมีอะไรกับเชฟผีสาวสุดหื่นจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กุ๊กกิ๊กกับ “เชฟอาทิตย์” แต่ทว่าผีสาวอยู่ในร่างนางเอกจอมซึมนี่สิ!

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ “ข้าวปุ้น” เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตายแต่จริงๆแล้วไม่ใช่….แต่เป็นเพราะเธอถูกฆาตกรรมและฆาตกรก็เป็นคนที่คาดไม่ถึงการสืบหาในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นพร้อมๆกับความวุ่นวายของความรักอลวนระหว่างคนและผี เธอคนไหน “คน” หรือ “ผี” จะเป็นผู้พิชิตใจ “เชฟอาทิตย์” ได้ติดตามความสนุกนี้ได้ในละครเรื่องนี้…ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

คาแร็กเตอร์นักแสดง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ: เชฟอาทิตย์ เชฟใหญ่สุดหล่อเจ้าของร้านอาหารชื่อดังอายุ 33 ปีอีโก้จัดปากร้ายมั่นใจในตัวเองเกินร้อยจนเป็นที่หมั่นไส้ของลูกน้องแต่แท้จริงแล้วเป็นคนจิตใจดีที่ต้องการสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเองเนื่องจากมีปมในวัยเด็ก

หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ: จิ๋ว พนักงานร้านอาหารอายุ 27 ปีสาวน้อยร่างเล็กขี้กลัวไม่มีความมั่นใจในตัวเองวันหนึ่งเธอถูกผีสาวลัลล้าบ้ากามเข้าสิงเธอก็กลายเป็นสาวมั่นจอมยั่วยวนจ้องจะเผด็จศึกเชฟใหญ่เจ้าของร้านคนที่นางเอกแอบปิ๊งอยู่แต่พอผีออกเธอก็กลับเป็นสาวขี้กลัวคนเดิมสร้างความสับสนให้กับเชฟใหญ่เป็นอย่างมาก

ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ : ข้าวปุ้น หญิงสาวผู้เสียชีวิตตอนอายุ 27 ปีกลายเป็นผีสาวผู้แสนลั้ลล้าแสนหื่นที่สูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับการตายของตัวเองไปและเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนจะกลายเป็นผีร้ายเธอต้องแก้บ่วงของเธอให้ได้จึงจะได้ไปเกิดใหม่จิตใจดีเป็นจอมลุยรุกหนักจนผู้ชายอกสามศอกยังต้องถอย ยิปซี เล่น ละคร เรื่อง

ณัฐ-ศักดาทร นิยมพานิช : หมวดปริญ ตำรวจหนุ่มอ่อนละมุนแสนดีอายุ 32 ปีผู้มีความเป็นสุภาพบุรุษและเป็นมิตรกับทุกคนแต่ลึกๆมีปมที่ชวนค้นหาเป็นน้องเขยของเชฟใหญ่และเป็นชายในดวงใจของผีสาวจอมลั้นล้าเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่แต่เขาก็มีอีกด้านหนึ่งซึ่งต้องเรียกว่าเป็นด้านมืดที่ปิดบังเอาไว้ไม่ให้ใครรู้

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

ปอปปี้-บุญยิสา จันทราราชัย : น้ำมนต์ สาวน้อยอายุ 27 ปีน้องสาวเชฟอาทิตย์สาวน้อยผู้แสนดีผู้อาภัพเพราะขาพิการจากอุบัติเหตุนิสัยส่วนตัวเป็นคนมองโลกในทางบวกจนกระทั่งเสียขาแต่เธอก็กลับมาเป็นคิดบวกอีกครังหลังจากพบรักกับหมวดปริญสามีผู้เพียบพร้อม

มายด์-วรัทยา ว่องชยาภรณ์: ไอด้า โปรดิวเซอร์รายการทีวีคนเก่งอายุ 33 ปีสาวสวยฉลาดบ้างานเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของเชฟอาทิตย์และเชฟอาทิตย์ก็แอบชอบเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจนปัจจุบันก็ยังคงแอบชอบ แต่ไม่กล้าบอกเธอ

ซี้ด-ชโยดม สอนลี: นาวิน ผู้ช่วยเชฟจบจากกอร์ดองเบลออายุ 28ปี เป็นหนุ่มหล่อนักเรียนนอก มีเชฟอาทิตย์เป็นไอดอล แอบหลงรักจิ๋ว แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดความรู้สึกออกไปเป็นคนอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นโอปป้าเกาหลีของสาวๆคอยห่วงใยดูแลเทคแคร์จิ๋วอยู่ตลอดเวลา

ตี๋-วิวิศน์ บวรกีรติขจร : เรน เชพรองเป็นหนุ่มกะล่อนกร่างกวนมีพรสวรรค์ในการทำอาหารสูงแต่เรียนเป็นเชฟในเมืองไทยไม่ได้เรียนเมืองนอกเหมือนคนอื่น เลยพยายามลบปมตัวเองด้วยการวางอำนาจในร้านเวลาเชฟใหญ่ไม่อยู่ไม่ค่อยชอบหน้านาวินเพราะเรียนนอกและหล่อกว่าแต่จริงๆเป็นคนป๊อดขี้กลัวและไม่มีพิษมีภัย

เจม-จิตตริน กุลกัลยาดี: เชฟตุ๋ย ผู้ช่วยเชฟผู้มีความหวังมุ่งมั่นอยากมีร้านอาหารของตัวเองตุ๋ยที่จริงอายุ 35 แต่โกหกว่าตัวเองอายุ 30 เพื่อเรียนรู้งานเลยต้องคอยเป็นลูกไล่ของเรนด้วยความจำเป็น แต่จริงๆ แล้วหมั่นไส้เรนมากและหวังว่าสักวันจะเอาคืน

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

ส้วม-สุขพัฒน์ โล่ห์วัชรินทร์: พอล คุณชายในมาดผู้ช่วยเชฟเป็นคนประณีประนอมพร้อมไหลตามน้ำได้เสมอความจริงแล้วเป็นคุณชายจากบ้านมหาเศรษฐีปลอมตัวมาเรียนรู้การใช้ชีวิตทุกครั้งแวลากลับบ้านจะมีรถเบนซ์มาแอบรอรับอยู่หน้าปากซอย ผีป่วนชวนรัก ep 14 ดูย้อนหลัง 

ท็อป -ดารณีนุช : ป้าปู หมอดูร่างทรงปากร้ายใจดีตรงไปตรงมามีญานทิพย์เห็นผีและติดต่อกับสวรรค์ได้จริงมีพลังในการปราบผีได้จับผีได้ได้รับภารกิจต้องจับวิญญาณข้าวปุ้นให้ได้และเพราะตามจับข้าวปุ้นไม่ได้สักทีพลังของป้าปูก็ลดลงจนลูกค้าน้อยลงจนเริ่มไม่มีจะกินและก็ได้มีเรื่องมาสนิทกับจันทร์เจ้า

สุ่ย-พรนภา เทพทินกร : จันทร์เจ้า คุณแม่ยังสาวอายุ 51 ปีของเชฟอาทิตย์เป็นคุณแม่วัยทีนสุดเปรี้ยวเพราะมีลูกตั้งแต่อายุ 19 ปี สามีตายหลังจากมีลูกคนที่ 2 เป็นคนฉลาดเรียนเก่งได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโท-เอกจนไม่มีเวลาให้ลูกเป็นแม่ที่แสดงความรักไม่เก่งและมักเชื่อในเรื่องหมอดูและสิ่งลี้ลับจนสนิทกับป้าปูหมอดู

อาวอ-จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร : ลุงไข่ ชายแก่ใจดีวัย 60 ปีผู้สูญเสียลูกสาวเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆเป็นพ่อของข้าวปุ้นและโจ๊กภรรยาเสียต้ังแต่ลูกวัยรุ่นจึงมีลูกสาวคนโตเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการทำร้าน

ไบรท์-วิชเวช เอื้ออำพน : โจ๊ก น้องชายของข้าวปุ้นวัย 28 ปีเป็นวัยรุ่นไม่เอาถ่านติดเกมส์ชอบดื่มเหล้าขี้เกียจไม่ชอบช่วยขายของมีเพียงข้าวปุ้นที่ก็คอยกำราบได้

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

ธีมของซีรีส์ดำเนินไปในบรรยากาศของร้านอาหาร ที่มีความอบอุ่น สนุก และมีความเป็น คอมิดี้ แทรกนิดหน่อย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเชฟ และการทำอาหาร คนที่ชอบซีรีส์แนวเข้าครัวคงจะถูกใจไม่น้อยเลยเพราะเป็นฉากในร้านอาหารเกือบทั้งเรื่อง ดูแล้วอยากเป็นเชฟขึ้นมาตะหงิด ๆ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ซัน” หนุ่มมาดเท่ห์เจ้าของร้านอาหารที่จิ๋วเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟ ตกหลุมรัก จิ๋ว สาวที่มีสองบุคลิกเพราะโดนผีข้าวปุ้นสิงร่าง เลยทำให้เธอมีสองโหมดคือโหมดคลั่งรักที่พยายามจะปล้ำพระเอกตลอดเวลา และแบบปกติที่เป็นคนเงียบ ๆ ขี้กลัว ไม่มั่นใจตนเอง และนี่ก็เป็นสเน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้เลยครับ ที่ทำให้เรารอดูตอนนางเอกโดนผีเข้าสิง เพราะชอบบุคลิกของข้าวปุ้นสาวขี้เล่น ขี้เอาอกเอาใจ ทะลึ่งทะเล้น ชอบกวนใจและป่วนตลอดเวลา กับบุคลิกของ จิ๋ว สาวน้อยร่างเล็กที่น่าทะนุถนอม ขาดความมั่นใจ ที่เวลาร้องไห้ทีไรน้ำตามันปริ่ม ๆ ทุกที และการแสดงของหนูนาก็ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ กับบทบาทที่ต้องแสดงสองบุคลิกในคน ๆ เดียว หัวใจ เรือพ่วง วิ กิ พี่ เดีย

 

 

มีหลายฉากที่ทำเอาผมต้องเสียน้ำตา เพราะนักแสดงเล่นได้ดีจริง ๆ ครับ ซีนอารมณ์มาเต็ม ๆ โดยเฉพาะซีนความรักระหว่างพ่อกับลูกสาวที่ทำผมน้ำตาไหลในหลาย ๆ ฉาก เรียกว่าดนตรีขึ้นมาทีไร น้ำตาไหลทุกที ทุกตัวละครเล่นได้ดีเข้าถึงอารมณ์ ทำให้เราคล้อยตามได้ มีแอบยิ้ม หัวเราะ น้ำตาซึม ไปตามเนื้อเรื่อง เวอร์ชั่นเกาหลีว่าซึ้งแล้ว พอมาดูของไทย ซึ้งกว่าเดิม เพราะสอดแทรกเรื่องของไทย ๆ เข้าไปในเรื่อง เลยทำให้เราเข้าใจในตัวละครลึกซึ้งขึ้นมากกว่าเดิม หนังสอนให้เรารู้ว่า จะทำอะไรก็รีบทำในตอนที่เรายังมีโอกาสยังมีชีวิตอยู่ เพราะไม่งั้นมันอาจจะสายเกินไป และพอถึงเวลานั้นแล้วอาจจะย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้อีก และกลายเป็นเรื่องที่ติดในใจไปตลอด และพอตายไปก็กลายเป็นเรื่องที่ค้างคาให้ต้องมาตามแก้ไข

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

“OMG ผีป่วนชวนมารัก” ออนแอร์ ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 22:00 น. ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง24 และมีให้รับชมย้อนหลังบน Netflix ทันที ถือว่ารวดเร็วมาก รอดูกันได้เลย

ผีป่วนชวนมารัก (อังกฤษ: OMG) เป็นละครโทรทัศน์แนว โรแมนติก-ดราม่า-คอมเมดี สร้างจากบทประพันธ์ของ สายขิม / กุศลิน / วาณี นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางทรูโฟร์ยู ในปี 2561 ผลิตละครโดย บริษัท สตูดิโอ ดราก้อน จำกัด โดยผู้จัด True CJ สร้างจากละครเกาหลี สาวขี้อายกับยัยผีจอมหื่น (Oh My Ghost) กำกับการแสดงโดย นพโรจน์ โชติมั่นคงสิทธิ์ นำแสดงโดย อารักษ์ อมรศุภศิริ, หนึ่งธิดา โสภณ, คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์, ณัฐ ศักดาทร, บุญยิสา จันทราราชัย, วรัทยา ว่องชยาภรณ์ ออกอากาศทุกคืนวันจันทร์ – วันอังคาร เวลา 22.00 – 23.30 น. เริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561 ต่อจากละคร My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก

 

ผีป่วน ชวนรัก ซีรี่ย์น่ารัก เบาสมอง

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก ถ้าใครกำลังมองหาซีรีส์เบาๆสมอง ดูเพลินๆอยู่ ลองไปดเรื่องนี้ กับซีรีส์ผีสุดน่ารัก “OMG ผีป่วนชวนมารัก” สร้างจากซีรีส์เกาหลีสุดฮิตที่รู้จักกันในชื่อว่า “Oh My Ghost” เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและโด่งดังไปทั่วเอเชียสร้างความสนุกสนานและประทับใจไว้ คราวนี้มาถึงผลงานในเวอร์ชั่นไทยบ้าง เป็นเรื่องราวของ เรื่องราววุ่น ๆ ของ “ข้าวปุ้น” ผีสาวที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด เพราะยังติดห่วงบางอย่างที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่คิดเองว่าก่อนตายเธอยัง “เวอร์จิ้น”อยู่ เมื่อตายไป “ห่วง” ที่ติดอยู่ก็คือเรื่องอย่างว่า ผีสาวข้าวปุ้น จึงเร่ร่อนสิงร่างหญิงสาวคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อหาผู้ชายที่จะปลดปล่อยให้เธอได้ไปเกิดแบบหมด “ห่วง” จนวันหนึ่ง ขณะที่ข้าวปุ้นกำลังหนีจากการตามล่าของหมอผี เธอได้แอบเข้าไปสิงร่างของ “จิ๋ว”สาวน้อยดวงตกที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้ ในระหว่าง “ข้าวปุ้น” สิงอยู่ในร่างของ “จิ๋ว” เกิดไปปิ๊งกับ “เชฟอาทิตย์” ซึ่งเป็นเชฟสุดฮอตชื่อดัง เจ้าของร้านอาหารที่จิ๋วทำงานอยู่ และเป็นคนเดียวกับที่ “จิ๋ว” แอบชอบอยู่ห่างๆ ด้วยเช่นกัน ผีสาว “ข้าวปุ้น” เข้าใจว่า “เชฟอาทิตย์” คือผู้ชายคนที่จะปลดปล่อยวิญญาณของเธอได้ด้วยการมีอะไรกับ “เชฟอาทิตย์”

 

.
ผีสาวสุดหื่นจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กุ๊กกิ๊กกับ “เชฟอาทิตย์” แต่เรื่องมันไม่ง่าย เพราะว่าผีสาวไปสิงร่างของ “จิ๋ว” สาวจอมซึมนี่แหละ ที่ทำให้ “เชฟอาทิตย์” และบรรดาเชฟในร้านต่างปรับอารมณ์ตามจิ๋วไม่ถูกที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนขี้แพ้อ่อนแอ กลายเป็นคนมั่นใจตัวเองสูง เรื่องราวกลับเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ “ข้าวปุ้น” เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริง ๆ แล้วเธอถูกฆาตกรรมโดยฆาตกรที่คาดไม่ถึง การสืบหาฆาตกรจึงเกิดขึ้นไปพร้อมๆกับความวุ่นวายของความรักที่อลวนวุ่นวายวังเวงของคนและผี ยิปซี ยิ ป โซ การศึกษา

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง Detention Netflix อาถรรพ์โรงเรียนเลือด ซีรีส์ไต้หวัน ดัดแปลงจากเกมสยองขวัญในชื่อเดียวกัน เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ก่อนจะกลายมาเป็นซีรีส์ล่าสุดนี้ โดยในส่วนของเวอร์ชั่นภาพยนตร์ จะเป็นเรื่องราวของ ฟานรุ่ยซิง จากในยุค 1962 สำหรับในฉบับซีรีส์ จะเป็นการเล่าในยุค 1990s บอกเล่าเรื่องราวของ หลิวอวิ๋นเซียง ที่ย้ายเข้ามาในโรงเรียนกรีนวูดแห่งเดียวกัน รับชมได้ใน Netflix ทั้งหมด 8 ตอนจบ

 

เรื่องย่อ อาถรรพ์โรงเรียนเลือด

เรื่องย่อ ความตาย การต่อต้าน และความสิ้นหวัง ทั้งหมดเกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมของไต้หวันยุคทศวรรษ 1960 เหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างได้ถูกลบกลบไว้ในอาคารร้างของโรงเรียนและถูกสั่งให้ใครก็ตามห้ามเข้าใกล้ จนกระทั่งนักเรียนใหม่คนหนึ่งได้รุกล้ำเขตหวงห้ามและค้นพบความลับที่น่าตกใจในอีกหลายสิบปีต่อมา

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

จากเกมแก้ปริศนาแนวสยองขวัญสัญชาติไต้หวันที่ลือชื่อของค่าย Red Candle Games ในปี 2017 ได้รับการกล่าวขวัญในแง่การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและแหลมคม ในการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์เลือด White Terror ของไต้หวันในยุคต่อต้านเผด็จการและการล่าสังหารคอมมิวนิสต์ในช่วงทศวรรษ 1960 มาผสมผสานกับเนื้อหาชวนติดตามกับความลับของตัวละครที่แสนจะดราม่าสะเทือนอารมณ์ แถมยังเวียนวนอยู่กับความเชื่อ ผี ปีศาจที่หลอกหลอนไม่ให้เราได้หลุดพ้นไปจากฉากหลังที่เป็นอาคารร้างในโรงเรียนได้โดยง่าย ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง จะปล่อยตอนใหม่ออกมาเป็นรายสัปดาห์ ยาวจนถึงช่วงสิ้นปี โดยจะมีจำนวนตอนทั้งหมด 8 ตอนด้วยกันซึ่งเนื้อเรื่องจะเล่าผ่านตัวนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ได้ค้นพบกับความลี้ลับสุดดำมืดที่โรงเรียนของเธอซ่อนอยู่ พร้อมเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ถาโถมเข้ามาพร้อมจะเอาชีวิตของเธอ

Detention ฉบับทีวีซี่รี่ส์เป็นผลงานจากการร่วมมือของ Netflix และช่อง PTV ของประเทศไต้หวัน โดยมีดาราแสดงนำคือ Lingwei Lee แสดงเป็น Yunxiang Liu และ Ning Han แสดงเป็น Ruixin Fang

และนอกจากการที่ตัวเกม Detention ถูกนำไปดัดแปลงเป็นซี่รี่ส์ฉบับบคนแสดง ทางทีมผู้พัฒนาอย่าง Red Candle ยังออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่าสองเกมของพวกเขาทั้ง Detention และ Devotion ยังถูกบันทึกชื่อไว้ในหมวด “สื่อเอเชียตะวันออกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์” จากมหาวิทยาลัย Harvard อีกด้วย กลายเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่ทางค่ายเกมคุณภาพแบบนี้สมควรได้รับอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเหมือนเป็นฟ้าหลังฝนหลังจากประเด็นร้อนที่ทางค่ายต้องเจอจากเหล่าแฟนๆ เกมชาวจีนที่พากัน Review Bomb เกมใหม่ของพวกเขาอย่าง Devotion เนื่องจากภายในเกมมีภาพโปสเตอร์ว่าร้ายประธานาธิบดีของประเทศจีน จนเป็นเหตุให้ในตอนนั้น Devotion ถูกถอนจากร้านค้า Steam เป็นการชั่วคราว

อีกด้านหนึ่ง Detention พาเราย้อนกลับไปในยุค 1960 จะบอกเล่าเรื่องราวของ Fang Ray Shin เด็กนักเรียนความจำเสื่อมที่ติดอยู่ในโรงเรียนร้างแถมยังเต็มไปด้วยปริศนาและเหตุการณ์แปลกๆ มากมายที่ทำให้เธอต้องพยายามเอาตัวรอดออกมาให้ได้ ตลอดเกมก็จะมีการไขปริศนาไปทีละนิดๆ ทำให้เรารู้ว่าเบื้องหลังของ Fang  อาจจะไม่สวยงามอย่างที่คิด

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

งานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ การเล่นแบบมุมมองด้านข้างที่แปลกตา และการเล่าเรื่องสุดซับซ้อน คือความสำเร็จของเกมในปี 2017

ความดีในการเล่าเรื่องที่ดั่งนิยายดี ๆ หรือหนังดี ๆ เรื่องหนึ่ง จึงไม่พ้นที่สุดท้ายมันก็ได้รับการตีความเป็นฉบับหนังโรงจนได้ในปี 2019 ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมในการดัดแปลงวิธีการเล่าเรื่องให้เหมาะสมขึ้นได้ ทั้งยังรักษาความดีของเรื่องเล่าในเกมได้อย่างครบถ้วน และในปีนี้เน็ตฟลิกซ์ก็ได้รับไม้ต่อในการพัฒนาฉบับซีรีส์ของ Detention และความน่าสนใจคือตัวซีรีส์ก็มีวิธีการเล่าที่ฉีกออกไปได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

หากเล่าอย่างรวบรัดถึงความต่าง โดยพิจารณาจาก 2 ตอนแรกของซีรีส์ ที่เห็นได้ชัดคือตัวซีรีส์ได้เปลี่ยนตัวละครนำที่แทนสายตาผู้ชมจากเดิมในฉบับเกมและหนังจะเป็น นักเรียนในยุค 1960 อย่าง ฟาง และ เว่ย ที่ตื่นขึ้นมาในโรงเรียนที่กลายสภาพเป็นอาคารร้าง และสิ่งแปลกประหลาดราวกับมิติสยองขวัญใน Silent Hill ซึ่งต้องหาทางแก้ปริศนาเพื่อออกจากโรงเรียนให้ได้ ในขณะเดียวกันก็จะได้รับรู้อดีตที่หายไปจากความทรงจำของทั้งคู่และคำเฉลยที่กระชากอารมณ์ผู้ชม

 

ฉบับหนังปี 2019 ที่ให้บรรยากาศแบบ Silent Hill

แต่สำหรับซีรีส์ จะพลิกมาเล่าเหตุการณ์ในช่วงปี 2000 ผ่านสายตาของนักเรียนใหม่ที่ย้ายมาจากอังกฤษ และมีอาการผิดปกติเห็นภาพหลอนอย่าง อวิ๋นเซียง ที่ต้องปรับตัวกับการแปลกถิ่นในชนบท ทั้งวัฒนธรรมอำนาจนิยมที่ฝังอยู่ในการเล่าเรียน ผู้ใหญ่กำหนดกรอบให้เด็กในทุกเรื่องผ่านคำว่า วินัย มีการลงโทษคนที่พฤติกรรมแย่ที่สุดของทั้งชาย-หญิงในห้อง ด้วยการให้แขวนป้ายคอคำว่า มาร ให้เพื่อน ๆ รุมรังเกียจ

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

 

หนึ่งในฉากที่ตัวเอกมาโรงเรียนใหม่ครั้งแรก สะท้อนดั่งการเดินเข้าสู่คุกหรือกรมทหารจากทั้งภาพและเสียง

และการขบถแรกของเด็กหัวนอกอย่างอวิ๋นเซียง คือการแอบขึ้นไปสำรวจเขตหวงห้ามของโรงเรียนอย่างอาคารร้างหานชุ่ย ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ตามมา ทั้งการได้พบกับนักเรียนเลวของห้องอย่าง เหวินเลี่ยง ที่อยากจะหนีออกจากกรงขังที่เรียกว่าเมืองชนบทไปเมืองหลวง และเลิกสืบทอดกิจการผู้ดูแลศาลเจ้าประจำเมืองของครอบครัวเสียที นอกจากนี้พวกเขายังได้เป็นพยานในการฆ่าตัวตายอย่างเป็นปริศนาของรุ่นพี่สาวที่มากระโดดตึกตายต่อหน้าพวกเขา และอวิ๋นเซียงก็เริ่มเข้าไปพัวพันกับวิญญาณในอดีตทีละน้อย อาถรรพ์โรงเรียนเลือด พากย์ไทย

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด จากซีรี่ย์สู่เกม

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง สำหรับใครที่เล่นเกมหรือดูหนังมา จะรู้สึกว่าตัวซีรีส์มีการเล่าที่ดึงดูดน้อยกว่า ฮุกเข้าเรื่องช้ากว่า แต่กลับน่าสนใจในการแทรกรายละเอียดที่เราจะได้เห็นความเกี่ยวเนื่องกับตัวเอกในฉบับเกมและหนังอยู่โดยตลอด ทั้งบ้านที่อวิ๋นเซียงย้ายมาอยู่น่าจะเป็นบ้านหลังเดิมของฟาง ขณะที่ทางเหวินเลี่ยงก็จะต้องดูแลลุงเว่ยที่ดูไม่ปกติมีอาการสั่นกลัวตลอดเวลา นอกจากนี้ภูมิหลังเรื่องครอบครัวของอวิ๋นเซียงก็ยังละม้ายกับฟางมาก และเหตุการณ์ครูหนุ่มหัวทันสมัยก็ยังชูกลิ่นของรักสามเส้าในชั้นเรียนอีกครั้งด้วย

เรียกว่าดึงกลิ่นของเนื้อหาออริจินอลมาใช้ต่อยอดเป็นเสมือนภาคต่อ ที่มีการยั่วล้อคล้ายคลึงของเดิมราวกับเหตุการณ์จะกลับมาซ้ำรอยกรรมอีกครั้งร่ำไป ซึ่งก็น่าสนใจอยู่สำหรับแฟนเดิม แม้ว่ากันตามตรงว่าความสนุกมันยังไม่ค่อยโดนใจนัก เพราะเนื้อหาต้องยืดและปูให้เป็นซีรีส์ยาว และยังไม่เปิดโอกาสให้ซีจีหนัก ๆ ทำงานนัก แต่เท่าที่ใช้แบบง่าย ๆ และโผล่มาแค่ไม่กี่นาทีใน 2 ตอนนี้ก็ได้บรรยากาศหลอนเอาการเหมือนกัน น่าเสียดายว่าผีตัวหลักนั้นยังไม่ค่อยน่ากลัวมากเท่าไร

และสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมดูหนังมาก่อน ซีรีส์นี้ก็ค่อย ๆ หยอดปมสงสัยให้ผู้ชมอยู่เรื่อย ๆ จัดได้ว่าเป็นแนวดราม่าสยองขวัญที่เนิบ ๆ หน่อย อาจจะถูกโฉลกคอหนังที่ชอบรายละเอียดและการแตกแขนงเส้นเรื่องความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในขณะที่สายหวือหวาผาดโผนน่าจะยังไม่โดนเท่าใดนัก เพราะผียังทำงานไม่ค่อยหนัก แถมดูทรงที่เรื่องปูมาในตอนที่ 2 ก็พอจับเค้าลางได้ว่าอาจจะพลิกไปเล่าเรื่องในแบบพวกละครน้ำเน่าความสัมพันธ์ตัวละคร มากกว่าการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อย่างเดิม อาถรรพ์โรงเรียนเลือด pantip

แต่กระนั้นการเปรียบเปรยที่ซีรีส์ใช้ในการเล่าว่าการศึกษาในยุคใหม่ ที่ยังกรอบจำกัดและริดรอนอิสระทางการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ของเด็ก ด้วยวิธีคิดแบบผู้ใหญ่ที่รักในอำนาจและเรียกร้องความเคารพยำเกรงด้วยการข่มขู่ ก็ยังคงเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เด็กที่รู้สึกต้องการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นนักเรียนเลวอยู่ทุกยุคสมัย และก็อาจเป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ผู้ใหญ่อาศัยอำนาจในมือทำการริดรอนใบอ่อนทางความคิดของเยาวชนที่กำลังแตกช่อชูสวยงามลง ซึ่งบางครั้งก็เป็นการถอนรากถอนโคนริดรอนชีวิตของเหล่านักเรียนเลวเหล่านั้นลงด้วย น่าสนใจทีเดียว

 

 

เปิดตำนานโรงเรียนสยอง

Detention ดำเนินเรื่องราวในประเทศไต้หวันปี 1960 ในยุคที่ประเทศมีศึกสงครามระหว่างกลุ่มคอมมิวนิสต์จากแผ่นดินใหญ่ และไต้หวันที่ต่อเนื่องยาวนานมาหลายปี มีการประกาศกฎอัยการศึกจัดการผู้เห็นต่างอย่างโหดเหี้ยม นำพาไปสู่เหตุการณ์สยองมากมาย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Wei Chung Ting และ Fang Rei Shin ที่ต้องติดอยู่ในโรงเรียน Greenwood เนื่องจากมีพายุใหญ่เข้ามาตัดเส้นทางสัญจรจนไม่สามารถกลับบ้านได้ จนกระทั่งเกิดอะไรบางอย่างขึ้นทำให้ Wei ตายไปโดยที่ Rey ไม่ทราบสาเหตุ การเดินทางรอบโรงเรียนผีสิงเพื่อค้นหาสิ่งที่เกิดขึ้นจึงเริ่มต้นขึ้น ดูหนัง อาถรรพ์โรงเรียนเลือด พากย์ไทย

หากดูผิวเผินเราจะเห็นว่า Detention ใช้พลอตเรื่องที่มีอยู่ค่อนข้างโหลและใช้กันจนเกร่อในตลาดหนังผีฝั่งเอเชีย ทั้งตัวเอกหญิง เรื่องลึกลับในโรงเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็ต้องบอกว่าจุดหักมุมและการดำเนินเรื่องของเกมนี้นั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลย ตัวเกมค่อย ๆ เฉลยปมที่ถูกซ่อนเอาไว้ในจิตใจของตัวละครออกมาเรื่อย ๆ และสอดแทรกประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงในไต้หวันยุคของเจียงไคเช็คที่มีการปราบปรามผู้เห็นต่างในช่วงนั้นอย่างเข้มข้น ผนวกรวมกับความเชื่อทางศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าได้อย่างลงตัว ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นฝั่งเอเชียในบ้านเรานั้น “อิน” กับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนขอยกให้ Detention เป็นเกมผีที่มีเนื้อเรื่องดีมากเกมหนึ่ง เพราะมันสามารถผนวกรวมเหตุการณ์จริง ความเชื่อทางศาสนา หลอมรวมกับช่วงเวลาชีวิตในวัยเรียนได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ลึกล้ำ แสดงให้เราเห็นถึงห้วงความคิดของวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่วุ่นวายได้เป็นอย่างดี นำพาไปสู่ฉากจบที่คาดไม่ถึงได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

โดยรวมแล้วเนื้อเรื่องของเกมจัดว่ายอดเยี่ยมมาก มีการวางปมปริศนาที่น่าติดตามและค่อย ๆ เฉลยแบบให้ผู้เล่นรู้สึกอินได้ไม่ยากนัก คนที่ชอบเสพย์และติดตามเนื้อเรื่องนั้นไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

 

อาถรรพ์โรงเรียนเลือด สปอยหนัง

สิ่งที่ผู้เขียนให้ความสำคัญมากที่สุดในเกมแนวสยองขวัญก็คือการนำเสนอ เพราะถ้าหากนำเสนอได้ไม่ดีก็จะทำให้ความน่ากลัวที่เป็นจุดเด่นที่สุดของเกมลดลงไปหลายเท่า ซึ่ง Detention ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จัดเต็มในเรื่องของการนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ในเกมได้อย่างน่ากลัวแบบสุด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแกะเอาบรรยากาศของโรงเรียนอันเป็นเวทีหลักของเกม ที่เหมือนกับถูกแกะออกมาจากโรงเรียนยุคเก่าที่มีอยู่จริงได้ยอดเยี่ยมมาก ชวนให้ผู้เขียนคิดถึงโรงเรียนประถมในสมัยเด็กขึ้นมาเลย

และโดยปกติโรงเรียนที่ในเวลากลางคืนนั้นดูน่ากลัวอยู่แล้ว ก็ได้รับการเสริมให้ดูน่าขนลุกขึ้นไปอีกจากงานศิลป์ต่าง ๆ ที่ผนวกเรื่องของความเชื่อในเรื่องของศาสนาเข้าไปในเกม เสียงประกอบอันยอดเยี่ยม และจังหวะการใช้ Jump Scare ที่ลงตัวอย่างมาก ขนาดที่ว่าตัวของผู้เขียนเองที่ชินชากับเกมผีมาแล้วยังรู้สึกทึ่งในสิ่งที่ใส่เข้ามาในเกมอย่างมาก อาจเป็นเพราะการนำเสนอที่มาในแบบตะวันออกที่คุ้นเคยนี่เองที่ทำให้มันดูน่ากลัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั่นเอง

 

 

นอกจากนั้นตัวเกมยังแทรกเกร็ดต่าง ๆ ที่น่าสนใจเข้าไปมากมาย นอกจากเรื่องของความเชื่อทางด้านศาสนาอย่างที่กล่าวไปแล้ว นัยยะทางการเมืองที่มีต่อเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาไต้หวันที่มีอยู่จริงในยุคของเจียงไคเช็คนั้นก็ถูกหยิบมานั้นเสนอแบบไม่ยั้ง แสดงให้เห็นว่าผู้คนในยุคนั้นเจ็บปวดกับกฎอัยการศึกที่ยาวนานเกือบสี่สิบปีนี้อย่างไร รวมไปถึงการปราบปรามคนเห็นต่างด้วยวิธีอำมหิตที่ถูกนำไปผูกกับเนื้อเรื่องได้ยอดเยี่ยม เรียกว่าการนำเสนอในเกมนี้มีการส่งเสริมเนื้อเรื่องให้เด่นชัดซึ่งกันและกันอย่างมากทีเดียว Detention (2020 ซับไทย)

แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ตัวเกมใช้การนำเสนอในรูปแบบของงานศิลป์สไตล์การ์ตูนสองมิติ ที่อาจจะทำให้มิติของฉากและความชัดลึกของงานภาพนั้นรู้สึกว่าจับต้องได้ยากมากกว่าแบบสามมิติ แม้จะมีงานศิลป์และการสร้างบรรยากาศที่ดูคุ้นเคย แต่บางครั้งผู้เขียนก็รู้สึกว่า ถ้าเป็นการนำเสนอในแบบกึ่ง ๆ สามมิติที่ผสมความชัดลึกในการตัดเข้าฉากต่าง ๆ มาด้วยก็น่าจะทำให้บางจุดดูน่าสนใจมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วเป็นเพียงแค่จุดติดขัดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง