รีวิวหนัง Ghost Lab การทดลองเกี่ยวกับผี
รีวิวหนัง Ghost Lab มาเจอกันกับผม กับการรีวิวหนัง วันนี้ผมเอาหนังผีที่กำลังเป็นกระแสอย่าง หนัง ghost lab ฉีกกฎทดลองผี 2021 ที่ได้นักแสดงหนุ่มหล่อมาแสดงถึง2คน กับเนื้อเรื่องเกี่ยวกับหมอหนุ่มสองคนที่้ต้องการพิสูจน์ว่าผีมีจริงหรือไม่ ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์มาทดสอบ งานนี้ หนังเรื่องฉีกกฎทดลองผี จะทำให้คนดูลุ้นสนุกได้มากแค่ไหนต้องไปดูกันใน ดูหนังออนไลน์ กันได้เลยครับ
การกลับมาทำหนังผีของ GTH
หลังจากที่ปลายปีที่แล้ว GDH ได้จัดงานแถลงข่าว เพื่อเผยไลน์อัป 5 โปรเจกต์หนังใหม่ที่จะเข้าฉายในปี 2563-2564 ซึ่งในปีทีแล้ว อ้ายคนหล่อลวง 2563 หนังเรื่องแรกของโปรแกรมนี้ก็ได้เข้าโรงฉาย และเอาเข้า Netflix เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถือว่าเป็นการกลับมาสร้างหนังผีอีกครั้งของ GDH แล้ว แถมยังเป็นการจับมือร่วมกับ ghost lab Netflix Original เรื่องแรกของ GDH ที่ฉายเฉพาะใน Netflix ด้วย ซึ่งนอกจากว่าจะมีข้อดีตรงที่ชมได้ทั่วโลกแล้ว ส่ิงที่หนังเรื่องนี้มีความแตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ การดันเรตติงขึ้นไปถึง 18+ ทั้งภาพโหด ๆ และภาพความรุนแรงต่าง ๆ ใส่ในหนังแบบจัดเต็มได้กว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ของ GDH ที่เคยมีมา งานนี้ต้องไปติดตามชมกันที่ รีวิวหนังไทยnetflix
รีวิวหนัง Ghost Lab เรื่องการทดลองเกี่ยวกับผี
หนัง ฉีกกฎทดลองผี สปอย มันเป็นเรื่องขงหมอหนุ่มสองคนที่พวกเขานั้นรเป็นเพื่อนกัน หนึ่งคือ วี หมอที่ไม่เชื่อเรื่องผีๆ แต่ก็ดันกลัวผี และสองคือ กล้า หมอศัลย์ที่เชื่อในเรื่องผีมาตั้งแต่เด็ก เขาเคยทำมาแล้วทุกอย่างเพื่อจะพิสูจน์ว่าผีมันมีจริงๆ
เมื่อทั้งสองคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ พวกเขาจึงร่วมมือกันสร้างห้องประชุมหรือห้องวิจัยลับส่วนตัวกันขึ้นมาในตึกร้างแห่งหนึ่งภายในโรงพยาบาล และเริ่มการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าผีมีจริงด้วยวิถีคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ แนวคิดที่เป็นเหตุเป็นผล และต้องสามารถแสดงมันออกมาให้คนอื่นเห็นผลได้ การทดลองอันแปลกประหลาดจึงได้เริ่มขึ้น
งานนี้ยังมีสาวสวยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกหนึ่งคน เธอคือใหม่ ที่เป็นแฟนสาวของกล้า เธอมองเห็นความหมกมุ่นของหมอสองคนนี้แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกับมัน แต่การทดลองครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหันหลังกลับได้ เมื่อพวกเขาหมกมุ่นยึดติดกับมันจนเกิดขอบเขต สามารถไปลุ้นกันต่อได้ใน รีวิวหนังไทยnetflixน่าดู
ตามพิสูจน์ความจริงเรื่องผี
ถือว่าหนังมีความคิดดีมากที่นำเรื่องราวมาให้ แพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่เน้นพิสูจน์ความจริงทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ จับพวกเขามาใส่พฤติกรรมการทดลองว่าผีมีจริง จะว่าไป หนังก็ใส่มาทั้งหมอที่เชื่อเรื่องผี คลั่งไคล้เรื่องผีมาตลอดอย่า หมอกล้า และหมอที่ไม่เคยเห็นผี ไม่เชื่อเรื่องผีแต่ดันเป็นคนกลัวผี อย่าง หมอวี สองหมอ สองบุคลิก สองความเชื่อ มาผสานมือกันสร้างการทดลองที่ขัดกับภาพลักษณ์ตัวเอง
การให้ ต่อ ธนภพ มาเล่นเป็น หมอวี เขาเปลี่ยลุคใหม่ ดูให้น่าเชื่อถือมากขึ้น นับว่าเข้าที ขณะที่ ไอซ์ พาริส มาสวมบทบาท หมอกล้า ผู้เคยเห็นผีพ่อตั้งแต่ตอนเด็ก เลยเชื่อฝังหัวว่าผีมีจริง แต่การที่จะทำให้หมอวีเห็นคล้อยตามมันต้องมีเหตุจูงใจ ในที่สุด เหตุนั้นก็มาถึง เมื่อทั้งสองเห็นผีพร้อมกัน ทำให้หมอวีบอกว่า งั้นกูเอาด้วย ฉากนี้ก็คือเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีให้กับหมอวีอยู่นะ
หนังGhost Lab Pantip เดินเรื่องได้มีอะไรให้น่าสนใจเลยทีเดียว ชวนให้น่าติดตาม แถมยังตามหาความจริงแบบมีเหตุมีผล ถือว่าไม่เลวเลยแหละ แต่เท่าที่รู้สึก ส่วนใหญ่หนังก็ให้เวลากับสองคู่หูหมอผู้หมกมุ่นวิจัยแทบจะทั้งเรื่อง มีบางช่วงเท่านั้นที่มีตัวอื่นเข้าร่วมเฟรม ทำให้แม้แต่บทใหม่ของณิชาก็ดูกลายเป็นตัวประกอบไปเลย
หนังให้ความรู้สึกว่า เออ ต่อให้เป็นหนังผีก็ยังจับเอาการทดลองทางวิทยาศาสตร์เข้าไปใส่ได้ อีกทั้ง คนเขียนบทก็ยังใส่แง่มุมชีวิตส่วนตัวของหมอเข้าไปด้วย นัยว่าเพื่อให้คนดูได้เข้าถึงตัวละครมากขึ้น ทั้งไอซ์และต่อก็ล้วนแสดงพาร์ทดราม่าได้ดี มีบางช่วงที่ทำให้น้ำตาคลอไปได้เหมือนกัน
แพทย์ที่หมกหมุ่นเรื่องผี
แต่ก็อย่างว่า ดูหนังไปจะรู้สึกว่าแพทย์หนุ่มสองคนอาจจะหมกหมุ่นเกินไป เรื่องราวจึงค่อยๆ บานปลายจนแทบกูไม่กลับ หนึ่งในตัวละครหลักตัดสินใจกระทำการบางอย่างที่สร้างความช็อคให้ผู้ชม โดยที่ไม่มีเหตุผลรองรับว่า เขาจะเลือกทำเช่นนั้น กลายเป็นสร้างความไม่เชื่อถือในตัวละครไปตลอดจนจบเรื่อง แถมตัวละครนั้นยังมีพฤติกรรมที่ผิดแผกไปจากที่เคย ยิ่งทำให้นายแพทรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เขากระทำมากขึ้น กลายเป็นว่า สิ่งที่ตัวละครกระทำกันมาก่อนหน้านั้น ที่ดูมีเป็นคนมีเหตุผลกลับแปรเปลี่ยนเป็นคนไม่ใช้เหตุผล
ในครึ่งหลังของตัวหนังนั้น หลังความเปลี่ยนแปลงอย่างแบบที่เรียกได้ว่าแบบฉับพลัน บทหนังก็ใส่ความคาดไม่ถึงเข้าไป ทำให้หนังมีจุดดึงดูดให้ผู้ชมยังติดตามต่อ แต่ไม่ได้อินกับตัวละคร หรือกระทั่งหลุดความเชื่อมโยงกับตัวละครไปแล้ว นั่นจึงทำให้ ช่วงครึ่งหลังของหนังดูเนือยๆ และผู้ชมก็เริ่มตั้งคำถามในใจว่า แล้วมันจะจบอย่างไรกัน คำถามนั้นคำถามเดียวที่ชักพาให้ผู้ชมยังอยู่กับหนัง
ดูหนัง ghost lab ฉีกกฎทดลองผี จะเห็นได้ว่าหนังพอมีฉากให้เราได้ตกใจอยู่บ้าง แต่ถ้าหากจะแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้ ขอแนะนำว่าให้ปิดโหมดการทำงานระบบตรรกะ และขอให้ลืมวิธีวิทยาการวิจัย Research Methodology หรืออะไรก็ตามที่เคยเรียนหรือรู้ตอนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เทือก ๆ นี้ไปก่อนนะครับ คือเอาจริง ๆ มันก็เป็นคำแนะนำที่ดูจะขัด ๆ แปร่ง ๆ กับหนังที่ชวนให้เราใช้สมอง ใช้ความคิดหนัก ๆ กับหลักวิทยาศาสตร์ไปหน่อยนั่นแหละ
หลายองค์ประกอบที่ทำมาให้น่าติดตาม
ถ้าว่ากันด้วย ห้อง ทดลองผี เรื่องของธีม หรือแก่นเรื่อง จริง ๆ ต้องบอกว่ามันมีความน่าสนใจและมีความเท่ในตัวของมันเองอยู่แล้วนะครับ แล้วมันก็สัมผัสได้ตั้งแต่องก์แรก ที่เราจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างมุมมองเกี่ยวกับวิญญาณ ไสยศาสตร์ที่แตกต่างกันของทั้งคู่ โอเค
แม้ว่าหนังนัก วิทยาศาสตร์ ทดลอง วิญญาณ ตอนปูเรื่องแรก ๆ จะแอบรู้สึกยุกยิกกับการคุยอะไรเนิร์ด ๆ ไปบ้างกว่าจะปูเข้าเรื่องว่ามีโปรเจกต์ลับ ๆ เพื่อทดลองการปรากฏตัวของวิญญาณ และหวังว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่ตีพิมพ์ในวารสารการวิจัยระดับโลก มันก็ค่อนข้างจะมีอะไรให้รู้สึกคันหัวใจยุบยิบอยู่เหมือนกัน
ตั้งแต่ในองก์แรก เราจึงจะได้เห็นการวางโครงคร่าว ๆ การสร้างโลเกชันหลักอยู่ในที่ที่ ว่ากันว่า วิญญาณเยอะสุด ๆ อย่างโรงพยาบาล เพราะคนตายทุกวันและมีห้องดับจิต และการอธิบายอธิบายเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ว่า ผีมีจริงไหม? ถ้าผีมีจริง มีอะไรที่จะวัดได้ไหม และ ถ้าผีมีจริง จะปรากฏตัวได้อย่างไร เมื่อไหร่?
ในองก์แรกอย่างชัดเจน รวมถึงเคมีที่เข้ากันของไอซ์และต่อ ที่แม้ว่าอายุจะห่างกันพอสมควร แต่ก็เรียกได้ว่าดูมีความเข้าขากันในระดับที่น่าสนใจ ทั้งหมดนี้จึงทำให้ในองก์แรกนั้นมีสถานะเป็นหนังแนวลี้ลับ ผสมสืบสวนสอบสวน มีคอมเมดี้แทรกเล็กน้อย ที่ดูพอจะเข้าใจในเจตนาและวิธีการของตัวละครได้ในระดับหนึี่งเลยทีเดียว รวมถึงความพยายามในการประคับประคองประเด็นความเชื่อระหว่างพุทธกับผี จนเรียกได้ว่าดูแล้วนึกถึง ฉลาดเกมส์โกง 2560 ได้ในแวบหนึ่งเหมือนกันนะครับ
เปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับผีใน Ghost Lab
แต่พอมาระยะกลางๆเรื่อง หนุ่มทั้งสองคนเริ่มสับสน และแอบมีความคิดเปลี่ยนไป เพราะกลับพบว่า บทเริ่มกลับพาออกไปไกลจากหลักวิทยาศาสตร์หล่อ ๆ ที่สองหมอหนุ่มหล่ออุตส่าห์ปูเรื่องไว้ให้อย่างดี เพราะแม้ว่าตัวละคร โดยเฉพาะต่อ ธนภพ ที่กำลังจะเข้ามาแบกหนัง และตัวหนังเองก็มีปมระทึกขวัญในระดับที่ไม่ควรสปอยล์เป็นอย่างยิ่งอยู่
ในGHOST LAB นั้นถ้าเรามองไปดูเหมือนว่าหน้าหนังและเนื้อหาในองก์แรก ที่เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นการ เอาวิทยาศาสตร์ไปหาผี กลับกลายเป็นว่าในองก์นี้ กลับเริ่มเอา ผีโน้มกลับมาหาวิทยาศาสตร์ และความเชื่อในทางพุทธ/ผี ไปเสียอย่างนั้น
จนทำให้เราแทบสัมผัสหลักการต่าง ๆ แทบไมไ่ด้เลยว่า ผีจะกลับมาด้วยทฤษฏี วิธีการ หรือปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ให้เราเชื่อได้ว่า ผีมีจริง ได้ยังไงกันแน่ นอกจากจะใช้ “บางสิ่งบางอย่าง เอามาเป็น เครื่องสังเวย และ ร่างทรง ให้กับวิญญาณที่มีห่วงได้ใช้อาศัยในการสื่อสาร เป็นการนำเอาความเชื่อทางพุทธ/ผี
รวมถึงความผูกพันในแง่ของความรัก ความแค้น การมีห่วงผูกพัน รวมถึงประเด็นของวิญญาณที่วนเวียนไม่ไปไหน วิญญาณเข้าฝัน ฯลฯ มาครอบด้วยมุมมองทางวิทยาศาสตร์ที่ดูจะเบาบางลงเรื่อย ๆ ในขณะที่เรื่องดำเนินไปเท่านั้นเอง รวมถึงบางประเด็น และบางเรื่องราวที่ยังอธิบายได้ไม่สุด ไม่เคลียร์ รวมถึงบางประเด็นที่ถูกทิ้งขว้างไปแบบดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น ทั้งหมดนี้กลายเป็นความ เบี้ยว ที่ต้องใช้การแสดงของ ต่อ ธนภพ ออกแรงแบกกันหนักหน่อย