Tag Archives: หนังไทยออนไลน์ 2021 เต็มเรื่อง

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

 

 

บอดี้ ศพ#19 สปอยหนัง ภาพยนตร์ไทยแนว Mystery Psychological Horror จากค่าย GTH ของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ซึ่งเขียนบทโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ และ ปวีณ ภูริจิตปัญญา

 

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ ชลสิทธิ์ นักศึกษาหนุ่มคณะวิศกรรมศาสตร์ที่อาศัยอยู่กับพี่สาวชื่อ เอ๋ ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ วันหนึ่ง ชลสิทธิ์ ตื่นขึ้นมาในโรงละครที่กำลังทำการแสดงดนตรีอยู่อย่างงงๆ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไร เขาก็รีบเดินออกมาจากข้างนอก และเดินทางกลับบ้านทันที ตั้งแต่นั้นมา ชลสิทธิ์ มักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมฆ่าหั่นศพหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ตลอดเวลา และในฝันนั้นเขายังเห็นผีตนหนึ่งที่มักจะเอ่ยถึงชื่อ ดาราราย ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ เขา

อาการฝันร้ายของ ชลสิทธิ์ เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงถึงขั้นที่เขาไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิท จนสภาพร่างกายและจิตใจค่อยๆ แย่ลง แถมบางครั้งมันทำให้เขาเห็นภาพหลอนของผีตนนั้นที่คอยตามมาหลอกหลอนเขา จนกระทั่งเขาพลั้งมือบีบคอ เอ๋ จนเกือบตายเพราะคิดว่าเป็นผี ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

 

เอ๋ จึงขอให้เขาไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เขาจึงได้ติดต่อขอเข้ารับการรักษากับ หมออุษา ตามคำแนะนำของ หมอจิ๊บ ที่ได้แนะนำให้กับเขาในวันที่เขาได้เข้าไปทำแผลที่โรงพยาบาล แต่หลังจากเข้าพบ หมออุษา เขาก็คิดว่าการรักษาไม่น่าจะได้ผล เขาจึงพยายามสืบหาต้นตอของฝันร้ายนั้นเองว่าผีตนนั้นต้องการอะไรจากเขา แล้วชื่อ ดาราราย ที่เขาได้ยินจากผีตนนั้นคือใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุฆาตกรรมที่เขาฝันถึง ยิ่งสืบหาความจริง ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสก็ยิ่งปรากฎ ความจริงนั้นคืออะไร ไปร่วมหาคำตอบกันนะฮะ ทางช่อง Netflix Body 2007 full movie

 

ความรู้สึกหลังจากดูจบ

บทหนังดีมาก แถมพอทุกอย่างเฉลยแล้วก็สามารถคลายปมทุกอย่างได้อย่างกระจ่างแทบจะไม่มีแผลเลย หนังไทยน้อยเรื่องมากฮะที่จะทำได้แบบนี้ (เพราะที่เห็นๆ มาจากหลายๆ เรื่อง แม้บทจะดี ดำเนินเรื่องดี หรือเล่าเรื่องดี แต่พอวิเคราะห์องค์รวมแล้วก็ยังจะเห็นบาดแผลของหนังซ่อนอยู่จุดนู้นจุดนี้เต็มไปหมด)

 

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

หนังสามารถนำประเด็นของคนเป็น โรค MPD (Multiple Personality Disorder) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคหลายบุคลิก มาเล่นได้อย่างชาญฉลาดมากฮะ เห็นได้ชัดว่ามีการทำการบ้านมาอย่างดี ไม่มีจุดที่ให้จับผิดได้เลย

 

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

 

สิ่งเดียวสำหรับหนังเรื่องนี้ที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็คือ การเดินเรื่องในช่วงต้นจนถึงกลางเรื่องที่ค่อนข้างจะอืดและเนือยไปหน่อย ทำให้บางช่วงแอบมีเบื่อๆ ไปบ้าง แต่ก็เหมือนจะรู้ เพราะทันทีที่เราเริ่มเบื่อหนังก็จะใส่อะไรที่น่าสนใจเพื่อดึงให้เรากลับมาอยู่กับหนังต่อได้

 

พล็อตและการดำเนินเรื่อง

เปิดเรื่องโดยใช้ CG ไหลภาพไปจากมุมสูงของเมืองไล่ไปตามท่อระบายน้ำจนเจอแมวผีกำลังกินเศษเนื้ออยู่ แล้วก็เริ่มเรื่องที่ชล (เป้ วง slur) ตื่นมาอยู่ใน concert ที่มีเพลง “คิดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียว” ที่แพทกำลังร้องอยู่กับวงออเคสตร้า ฟังแล้วโหยหวนเหมือนโดนสะกด ชลลุกออกจาก Hall ไปกลางคันแล้วเค้าก็เจอเสื้อนอกถูกวางทิ้งไว้ เค้าหยิบมันกลับไปบ้านด้วย ภาพเปิดเรื่องส่วนใหญ่ใช้ CG หรือกล้องมุมสูง ดูสวย และลึกลับดี

เมื่อถึงบ้านเค้าก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครหรืออะไรอยู่กับเค้าด้วย แล้วเค้าก็เห็นผีครั้งแรกจากในถุงขยะนั่นเอง (อาจจะเป็นเศษของศพก็ได้) ชลเริ่มจะฝันเห็นฉากฆาตกรรมของผู้ชายคนนึงที่กำลังหั่นศพผู้หญิงอยู่ แต่เค้าไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ฉากนี้ก็แหวะๆ หน่อยเหมือนฉากในหนัง saw เลย กลับมาที่หมออุษา (เข็ม ตีสิบ) กำลังรักษาเด็กคนหนึ่งซึ่งมีสร้างเพื่อนในจินตนาการของตนเองจนกระทั่ง ฆ่าหมาตาย

ฉากนี้เราว่าประเด็นน่าจะอยู่ที่เพื่อนในจินตนาการที่เด็กสร้างขึ้นซึ่งจะเป็นตัวอธิบายเหตุผลในตอนสุดท้าย มากกว่าที่จะบอกถึงอาชีพของหมออุษาที่เป็นจิตแพทย์ มาที่หมอสุธี สามีหมออุษา กำลังถูกหมอจิ๊บ เพื่อนของหมออุษา ถามถึงเรื่องอาจารย์ดารารายที่หายตัวไป แต่สุธีกลับเงียบ ฉากนี้น่าจะเป็นประเด็นที่สงสัยกันว่าเป็นการกระตุ้นความทรงจำของหมอสุธี

ชลกลับมาบ้านและทำกับข้าวอยู่กับเอ๋ (แป้ง อรจิรา)บอดี้ศพ19 เอ๋คือใคร พี่สาวตนซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ ระหว่างนั้นก็เห็นภาพหลอนจึงพลาดหั่นนิ้วตัวเองเข้า เอ๋จึงพาชลมาทำแผลที่โรงพยาบาล ชลจึงได้เจอกับหมอจิ๊บ หลังจากเย็บแผลเสร็จหมอจิ๊บก็ทำการทดสอบสมองเบื้องต้น และถามชลว่าชื่อชลสิทธิ์ใช่ไหม ชลยืนยันว่าใช่และรู้สึกโกรธที่หมอหาว่าตนเองบ้า แต่หมอก็ยังฝากเบอร์โทรของหมออุษาไว้ให้ชล ฉากนี้ดูตอนแรกก็งงไปกับตัวละคร แต่พอรู้เฉลยตอนจบถึงได้ อ๋อ มันเป็นจั่งซี่นี่เอง ชลกลับมาบ้านและฝันซ้ำๆ เดิมรวมทั้งเห็นผีผู้หญิงที่ถูกผ่าท้องเผยให้เห็นอวัยวะภายในทั้งหมดโดดเข้าใส่ชลจึงสู้โดยการบีบคอผี แต่กลายเป็นว่ากำลังบีบคอพี่สาวตนเอง

 

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

 

เอ๋จึงขอร้องให้ชลไปหาหมออุษา เค้าตัดสินใจไปหาพบหมออุษา เมื่อได้พบชลสิทธิ์ หมอมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังทำการสอบถามต่อไป ชลเล่าเรื่องความฝันให้ฟังว่า ฝันจนรู้สึกว่ามันกลายเป็นเรื่องจริง เค้ารู้สึกว่าเป็นเหยื่อที่โดนฆาตกรรมเสียเอง รู้สึกถึงลมหายใจสุดท้าย และได้ยินคำว่า “ชื่อดาราราย ตามหาฉันให้เจอ” จะบอกว่าชอบเมย์ (ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) มากเลย เป็นผู้หญิงที่มีพลังมากๆ ระหว่างนั้นชลก็ยังคงซ่อนแอบกับผีเด็กบ้าง ผีผู้ใหญ่บ้างไปเรื่อยๆ วันนึงเค้าก็ฝันเห็นประตูข้างตู้เสื้อผ้าซึ่งเมื่อเค้าจะแอบมองเค้าก็เห็นผีตัวนั้นจับมือเค้าแล้วก็มีแหวนอยู่ในมือเค้า ฉากที่แหวนหล่นแล้วกลิ้งไปห้องหลังตู้เสื้อผ้า ทำได้สวยดี

เหมือน the load of the ring เลย หมออุษาเริ่มตามหาตัวดาราราย ในขณะที่ชลเองก็ต้องการพิสูจน์ให้เอ๋รู้ว่าเค้าไม่ได้บ้า หมออุษารู้ว่าดารารายเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่ม.เดียวกับหมอจิ๊บและหมอสุธี อุษาไปหานก ที่เป็นผู้ช่วยอาจารย์ของดารารายและก็ได้รู้ว่าสุธีเป็นคนฝากดารารายเข้าเป็นอาจารย์ที่นี่เอง นกเล่าเรื่องวิชาสะกดจิตเพื่อการบำบัด (เป็นการทำงานของจิตไร้สำนึก ที่จะดึงเอาเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนใจมากๆ ออกมาในสภาวะที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเพื่อใช้ในการรักษาคนไข้ คล้ายกับการสะกดจิตนั่นเอง) แต่เธอบอกสุธีแค่ว่าเธอไปเจอนก ขณะที่ชลก็ไปหาดารารายที่ม.และเห็นแมวผีอยู่ที่โต๊ะนก คืนนั้นเค้าเห็นนกถูกผีตัวเดียวกับที่เค้าเห็นฆ่าตายต่อหน้าต่อตา

อุษาโทรหาจิ๊บเพื่อจะบอกว่าเธอรู้เรื่องดารารายแล้วและคาดคั้นให้จิ๊บเล่าให้ฟังถึงความสัมพันธ์ของสุธีกับดาราราย (ดารารายเป็นเมียน้อยสุธีตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์จนจบและระหว่างที่เธอไปเรียนต่อเมืองนอก สุธีก็มาแต่งงานกับอุษาแทน แต่สุธีพยายามตีตัวออกห่างเพราะรู้สึกผิดกับอุษาแต่ดารารายไม่ยอม) ชลมาหาหมออุษาเพื่อจะบอกว่านกถูกผีฆ่าแต่เค้ากลับเจอหมอจิ๊บกับแมวผีแทน เค้าพยายามเตือนหมอจิ๊บว่าอย่าพูดเรื่องดารารายไม่งั้นหมอจะเป็นรายต่อไป อุษากลับบ้านพร้อมทั้งบอกสุธีว่าเธอรู้เรื่องหมดแล้ว สุธีรู้สึกผิดต่ออุษามากเค้าบอกเธอว่ามันจบแล้ว ดารารายจะไม่มีวันกลับเข้ามาในชีวิตของเค้าอีก ขณะที่ชลกำลังอาบน้ำ

เค้าเห็นภาพหมอจิ๊บกำลังจมอยู่ในทะเลเลือดและหน้าถูกราดด้วยน้ำที่มีฤทธิ์กัดกร่อน (พูดไปผีมันดูไม่ค่อยน่ากลัวเลย วิธีฆ่าก็ไม่โหด ฉากโดนผีฆ่ากันเลยดูงั้นๆ ไม่หยองเท่าไหร่) ชลเริ่มเห็นภาพในความฝันชัดขึ้น เห็นฉากที่ดารารายคุยกับสุธี เค้าพยายามตามหาเอ๋แต่หาไม่เจอ เค้าเห็นแมวผีตัวนั้นที่บ้านของเค้าเอง เค้าเดินตามแมวผีนั่นไป ไปยังประตูข้างตู้ที่เค้าเคยเห็นผีสิ่งที่เค้าเห็นเหมือนฉากในความฝันของเค้า ผู้ชายกำลังหั่นศพผู้หญิงอยู่ ในทันทีที่หัวถูกสับออกจากตัว เค้าก็ได้รู้แล้วว่าศพนั้นเป็นใคร ผู้หญิงคนนั้นคือเอ๋ พี่สาวเค้าเอง ส่วนผู้ชายที่กำลังหั่นศพนั่นเล่าคือตัวเค้าเอง เมื่อตั้งสติได้เค้าบุกเข้าไปในห้องข้างตู้อีกครั้ง

มันเหลือแค่แหวนที่เค้าเคยทำหล่นหายและเศษรูปถ่ายที่ถูกเผาไฟ เป็นภาพของดารารายกับสุธีบนเตียงนอน เค้าคิดว่าเค้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว เค้าต้องรีบไปบอกหมออุษาว่าสุธีสามีหมอเป็นฆาตกร ระหว่างที่อุษาไปดูศพหมอจิ๊บตำรวจพบนามบัตรที่หมอจิ๊บเขียนเบอร์อุษาให้กับชลไว้ สาเหตุการตามของหมอจิ๊บคือถูกตีหัวด้วยของแข็งแล้วลากลงบ่อดองศพซึ่งมีฤทธิ์เป็น กรด หรือ ด่าง ซักอย่างแหละ เธอไปดูศพจิ๊บที่ห้องเก็บศพ และพบว่าเจ้าของตู้เบอร์ 19 นามสกุล ศุวมงคล (นามสกุล ดาราราย) ชลมาหาหมออุษาที่บ้านเมื่อเจออุษา ชลบอกอุษาว่าสุธีเป็นคนฆ่าดาราราย ฆ่านก ฆ่าหมอจิ๊บ และฆ่าเอ๋ พี่สาวเค้าด้วย อุษาก็ตะโกนกลับไปว่าฉันรักษาคุณไม่ได้อีกแล้ว

 

 

คุณต่างหากที่เป็นคนฆ่าคนทั้งหมด เป็นคนฆ่าพี่สาวตัวเอง ชลสิทธิ์ตายไปแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ให้ไปดูที่ตู้# 19 ชลงงไปหมด เค้าล้มลงและมองเห็นผีดารารายกำลังจะกระโดดใส่ตัวเค้า เค้าคว้าเสาโคมไฟแทงใส่ผีร้ายแล้วผีก็หายไปกลายเป็นอุษาที่ถูกแทง เค้าไปดูที่ตู้#19 ชลสิทธิ์ ศุวมงคล สาเหตุการตายคือเสียเลือดมาก ความทรงจำทั้งหมดเริ่มกลับมา ชลสิทธิ์คือน้องชายคนเดียวของดารารายซึ่งประสบอุบัติเหตุมา โดยหมอสุธีเป็นเจ้าของไข้ เค้าไม่สามารถยื้อชีวิตชลสิทธิ์ไว้ได้ เค้าเสียใจมากเพราะรู้ว่าชลสิทธิ์มีความหมายกับดาราราย(หรือเอ๋) มากกอดศพและบอกเค้าว่าเธอไม่เหลือใครแล้ว ขออย่าให้ทิ้งเค้าไป เค้าเป็นคนวางยาในเครื่องดื่มของดารารายเองเพราะดารารายแอบถ่ายรูปบนเตียงไว้

และใช้เป็นเครื่องต่อรองไม่ให้สุธีทิ้งเธอ เมื่อเธอดื่มเครื่องดื่มเธอรู้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ระหว่างนั้น เพลงคิดถึงเธอทุกทีที่อยุ่คนเดียว ก็ดังขึ้น เธอจับมอืหมอและบอกว่าทุกครั้งที่สุธีได้ยินเพลงนี้ขอให้เค้ารู้สึกถึงแต่เรื่องดีดีระหว่างเธอและเค้า แต่ถ้าเค้าคิดจะทิ้งเธอ เค้าจะต้องเจ็บปวดและได้รับทุกอย่างกลับไปเช่นกัน เค้าจะไม่มีวันลืมเธอได้เลยเฮือกสุดท้ายของเธอ เธอพูดว่า “ชื่อดาราราย ตามหาฉันให้เจอ” แล้วหมอก็พาเธอมาที่บ้านเคยให้ดารารายอยู่และฆ่าหั่นศพที่นั่น ซึ่งเมื่อเปิดช่องท้องเค้าพบตัวอ่อนของเด็กอยู่ในท้องดาราราย เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของเค้า เมื่อเค้ารู้ว่านกบอกเรื่องเค้ากับดารารายให้อุษาฟัง เค้าก็กลับไปฆ่าเธอโดนใช้ของมีคมฟันเธอทั้งตัว

ส่วนหมอจิ๊บก็วิ่งไปตีหัวแล้วโยนลงบ่อดอง (ในจินตนาการเห็นจมทะเลเลือด) หมอถูกจับระหว่างให้การที่ศาล เค้าก็ยังยืนยันว่าหมอสุธีเป็นคนฆ่าคนทั้ง 3 เมื่อเค้ามองตัวเองในกระจกก็เห็นหน้าชลสิทธิ์ในนั้น ระหว่างพาตัวกลัวเรือนจำเพลงที่สะกดหมอก็ดังขึ้น เค้ากระโดดลงจากรถทันที และถูกเห็นเส้นที่รถบรรทุกขนมาหล่อนใส่ทิ่มตามตัวทั้งร่าง ฉากนี้สวยมาก เหมือน แมทริกเลย แต่หมอยังไม่ตายนะ มานอนให้เค้าแหวกอกอยู่ที่ ร.พ. ให้ oxegen อยู่ แล้วผีดารารายก็โผล่มาบอกว่า ฉันอโหสิให้คุณ และจะปลดปล่อยคุณเดี๋ยวนี้ อ๊ากกกกกกก แล้วหมอสุธีก็สำลักเลือดพร้อมรับรู้ถึงความเจ็บปวดขณะโดนแหวกอกทันที

 

สปอยหนัง บอดี้..ศพ*19

สรุป เรื่อง บอดี้ 19 เรื่องจริง นี้ก็เป็นหนังจิตวิทยา+ผีนิดๆ ชลสิทธิ์คือน้องของดารารายที่ตายไปแล้ว (นอนในตู้ 19) แต่ระหว่างที่โดน keyword ที่ดารารายสะกดไว้ (เพลงคิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว) หมอสุธีจะคิดว่าตัวเองคือชลสิทธิ์ แต่ที่ไม่รู้ว่าดารารายคือพี่สาวตัวเองอาจเพราะความทรงจำลึกๆ +รู้สึกผิดทำให้อยากจะลืมเรื่องของดาราราย เอ๋จริงๆ ก็คือดารารายสมัยยังเป็นนักศึกษาแพทย์(ซึ่งเป็นเมียน้อยหมอแล้ว) ที่หมอสุธีสร้างขึ้นในจินตนาการ (เหมือนเด็กที่อุษารักษาตอนเปิดเรื่อง) เหตุที่หมอจิ๊บทดสอบสมองตอนที่ชลไปทำแผลมีดบาด และอุษาตกใจตอนชลสิทธิ์เข้ารับการรักษาเพราะสิ่งที่หมอจิ๊บ+อุษาเห็นคือสุธี ที่บอกว่าตัวเองคือชลสิทธิ์นั่นเอง

 

 

ให้ไปเลย 7.5 เต็ม 10 ฮะ เป็นหนังไทยอีก 1 เรื่องที่กล้าเรียกได้ว่าเป็น ของดี เลยฮะ ใครที่ยังไม่เคยดูแนะนำให้หามาดูได้เลยฮะ ไม่ผิดหวังแน่นอน บอดี้ ศพ 19 doomovie

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

 

 

ชื่อภาพยนตร์ – จำเนียร วิเวียน โตมร (ความยาว ๑๑๕ นาที)

เข้าฉาย – รอบพิเศษ วันที่ ๒๘ ธันวาคม และ ฉายจริง วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๙

ประเภท – โรแมนติก คอมเมดี้

ผู้กำกับ – ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์

นักแสดงนำ – ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต, บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ

สปอยหนัง ผู้กำกับคนดัง ยอร์ช – ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ (จาก 32 ธันวา, สุดเขตเสลดเป็ด, คุณนายโฮ ฯลฯ) จับนางเอกซุป’ตาร์คู่บุญ ขุ่นแม่ ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาพบกับพระเอกอารมณ์ดีสุดฮอต บอย – ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และอาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ ในภาพยนตร์โรแมนติก – คอเมดี้ฮาส่งท้ายปี จำเนียร วิเวียน โตมร

 

เรื่องย่อ จําเนียรวิเวียนโตมร

วิเวียน (ชมพู่ – อารยา) เดินทางมาขอพรเรื่องความรักกับศาลเจ้า ทันใดนั้นเธอก็ได้พบกับสองหนุ่มคู่หูสุดหล่อประจำเมือง จำเนียร (บอย – ปกรณ์) และ โตมร (อาเล็ก – ธีรเดช) แล้วรักสามเส้าแสนวุ่นวายก็เกิดขึ้น จําเนียร วิเวียน โตมร imovie

สาวโสดผู้แสนงมงายพร้อมเพื่อนสาวคู่ใจชักชวนกันไปไหว้ขอพรหาคู่ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงได้พบกับ “จำเนียร (บอย ปกรณ์)” และ “โตมร (อาเล็ก ธีรเดช)” สองเสือสุดแพรวพราวเพื่อนซี้หัวโจก “แก๊งขาลอย” และด้วยอะไรไม่รู้สินั่น น่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่ดูช่างสวยสะดุดตาพาให้หลงใหล “จำเนียร” และ “โตมร” จึงใฝ่ที่จะเป็นหนุ่มในฝันของ “วิเวียน” เมื่ออยากจะกลายเป็นคนดีจึงไปขอลาออกจาก “แก๊งขาลอย” การใช้ชีวิตคู่ เอ๊ย! ขี้ เห้ย ‘คี่!’ ร่วมกัน ๓ คนจึงเกิดขึ้น !

 

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

 

ก่อนไปดูได้เห็นตัวอย่างหนังหลายต่อหลายครั้งก็ยังรู้สึกแบบเดิมซ้ำ ๆ ว่า “น่าจะฝืด” เนื่องจากไม่รู้สึกถึงความหวือหวา แปลกใหม่ หรือความตลกที่จะได้จากคนสวยหล่อ และเดา ๆ ว่าน่าจะหมดมุกแล้วก็คงวน ๆ กลับไป กลับมา กับนักแสดงเดิม ๆ หลายปีที่ผ่านมา “รฤก และ ผกก. ยอร์ช ฤกษ์ไกร” เองก็มีเรื่องที่ตลกแต่ยังไม่มีเรื่องไหนสามารถทลายกำแพงของ “แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า” ที่เคยโด่งดังมากและถือเป็นผลงานการันตีฝีมือ “ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้” ที่เรียกเสียงฮาจนต้องซื้อแผ่นกลับมาดูซ้ำที่บ้านลงได้ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง บทเลือกที่จะใช้จุดขายหลักของ “ชมพู่ อารยา” ในเรื่องของการเป็นคนสวยใส่อะไรก็ได้ไม่ผิด มาสวมให้ “วิเวียน” ใส่ชุดสีตรงตามวัน แถมมาด้วยแว่นกันแดดอันโต และกระเป๋าถือเล็ก ๆ น่ารัก แบบคุณหนูผู้ดี ยังมีกิมมิคเล็ก ๆ เป็นการใส่ถุงมือแบบครึ่งมือแสนเก๋ไก๋ ยิ่งทำให้การตั้งใจเรโทรของหนังครั้งนี้ทำได้เต็มที่มีชีวิตชีวาสนุกสนานสุด ๆ

อีกสองพระเอกสมาชิก “แก๊งขาลอย” ก็แต่งตัวย้อนยุคกันได้สนุกเข้ากับคาแรคเตอร์เดิมของตัวเองไม่แพ้กัน ผู้ชายขายาวนี่ก็ใส่กางเกงอะไรก็ได้ไม่ผิดอีกแล้ว

ขอกล่าวว่านี่เป็นการกลับมาของความตลกที่ไม่ต้องใช้การเล่นคำมาก แต่สามารถใช้สถานการณ์ที่หลายหลากมาประกอบช่วยส่งให้บรรยากาศสนุกสดชื่อขึ้น “ซูโม่ กิ๊ก” นักแสดงสมทบ รับบทเป็น “ขจร” หัวหน้าใหญ่ “แก๊งขาลอย” ขโมยซีนจากตัวเอกได้หลายครั้งหลายคราจนน่าประหลาดใจ รู้สึกโดดเด่นน่าจดจำกว่านักแสดงสมทบคนอื่นในเรื่องอยู่มาก บทร้าย ๆ แต่กลับแสดงได้น่ารักและยังน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน

 

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

 

Special Effect แบบหัก ๆ ทื่อ ๆ ใช้ได้ค่อนข้างถูกจังหวะ และเหมาะกับสถานการณ์ เป็นตัวช่วยที่ดีมากอีกอย่างสำหรับการปล่อยของในเรื่องนี้ที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นจังหวะแบบนี้มากนักในหนังของ “ผกก. ยอร์ช ฤกษ์ชัย”

“จำเนียร” หรือ “บอย ปกรณ์” ถูกวางบทให้ดูซกมกนิด ๆ อาจเพราะทำเพื่อเอาใจแฟน ๆ แต่การที่ไปดูแบบไม่ได้เป็นแฟนคลับใครเลยทำให้ฉากเปิดตัว “จำเนียร” เห็นแล้วขนลุกจนร้อง “อี๋” ยาว ๆ
บางช่วงบางตอนทำให้รู้สึกว่า “นี่แหละ หนังเพื่อแฟนเซอร์วิส” จริง ๆ ที่หากไม่ใช่แฟนคลับของเหล่าดารานำอาจไม่ได้ชอบ …และหาวได้

 

วิเคราะห์หนัง จำเนียร วิเวียน โตมร

ไปดูหนังเรื่องนี้ ห้ามพกสมองไปดูเด็ดขาด เพราะหนังหาเนื้อหาสาระไม่ได้ พล็อตกลวงอย่างไร้แก่นสาร ชายสองคนแข่งกันจีบสาวงามหนึ่งคน จู่ ๆ ก็แต่งงานกันอยู่กินกันสามคน มีการราวีจากแก๊งขาลอยเป็นซับพล็อตซึ่งเหมือนมาเอาฮาอย่างเดียว ฉากบู๊ดูปลอม ๆ อย่างตั้งใจปลอม มุกตลกก็มีทั้งฮาบ้างไม่ฮาบ้าง แต่บางอันก็ฮาระดับสิบกะโหลก

กลุ่มเป้าหมายของหนังที่ไม่ว่าจะยังไงก็จะต้องชอบหนังเรื่องนี้แน่ ๆ คือกลุ่มฐานแฟนคลับสามนักแสดงนำในเรื่อง โดยเฉพาะแฟน ๆ ของสองพระเอก บอย – ปกรณ์ และ อาเล็ก – ธีรเดช ฟินลืมแน่นอน มีฉากให้จ้งให้จิ้น กรี๊ดจิกเบาะกันหลายช็อตหลายซีน ส่วน ชมพู่ – อารยา สวยงามตามท้องเรื่อง ชอบแฟชั่นชุดนางทุกชุดทุกสี จํา เนียร วิ เวียน โตมร เต็มเรื่อง พากย์ไทย

 

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

 

ส่วนคนดูทั่วไปที่ไม่ใช่ติ่งดารา ถึงแม้อาจจะไม่องไม่อินกับอะไรสักอย่างของหนังก็ไม่เป็นไร เพราะหนังยังมีข้อดีที่ดีมากอยู่อย่างนึง นั่นก็คืองานโปรดักชั่นและคอสตูมดีไซน์ สีสวยมาก วินเทจอย่างมีสไตล์

 

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง

โดยสรุป จําเนียรวิเวียนโตมร เต็มเรื่อง เป็นหนังที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นหนังเซอร์วิซแฟนคลับ ถ้าไม่ใช่แฟนคลับ ก็คิดซะว่าไปดูเอาคลายเครียดส่งท้ายปี ไปนั่งดู บอย – ปกรณ์ และ อาเล็ก – ธีรเดช แข่งกันจีบ ชมพู่ – อารยา และก็ชื่นชมความเป๊ะของ ชมพู่ – อารยา กับแฟชั่นวินเทจ 7 วัน 7 สีของนาง ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ย่ำแย่อะไร

เอาจริงๆกับหนังเรื่องนี้เราก็ไม่ได้หวังว่ามันจะดีอะไรมากมายหรอก เพราะก่อนดูเราก็เห็นกระแสมันค่อยดีสักเท่าไรนัก แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะแย่ได้ถึงขนาดนี้ อีกทั้งดูจากตัวอย่างหนังแล้วก็พอมองออกว่าหนังมันน่าจะฝืดๆ

 

 

เพราะมันไม่ได้หวือหวา หรือมีอะไรแปลกใหม่ชวนให้เราติดตามต่อได้เลย แต่ด้วยความที่เราก็ยังอยากจะเชื่อใจในผลงานของผู้กำกับ ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ อยู่ เพราะเขาก็เคยสร้างผลงานดีๆเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า” หรือ “ส.ค.ส. สวีทตี้” นั่นเอง

สำหรับหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่า มีน้าค่อมเป็นตัวแบกเรื่องเลย คือฉากที่มีน้าค่อมนั้นมันอาจจะไม่ได้ทำให้เราหัวเราะลั่นอะไรนัก แต่ก็สามารทำให้เรายิ้มมุมปากได้บ้างนิดหน่อยก็ยังดี

 

สรุปหนังเรื่อง จําเนียรวิเวียนโตมร

จําเนียรวิเวียนโตมร สปอยหนัง เรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับลูกเล็กเด็กแดงนัก หากพาลูกไปดูก็อย่าลืมแนะนำด้วยว่าอันไหนไม่ควรทำตาม แนะนำว่าเหมาะกับวัยรุ่นขึ้นไป เพราะหนังเองก็แทรกมุกทะลึง ทะเล้น และใช้คำหยาบคาย มาอยู่เป็นระยะ ๆ แต่รับรอง “ได้เสียงหัวเราะ” กลับมาแน่ ๆ และไม่ทำให้รู้สึกเสียดายค่าตั๋วสำหรับหนัง “โรแมนติกคอมเมดี้” ของคนไทย ถึงแม้เราจะไม่ใช่แฟนคลับเหล่านักแสดงนำที่ตั้งตารอดูฉากแฟนเซอร์วิสก็ตาม

การกลับมาเล่นหนังของ “ชมพู่ อารยา” ไม่ได้แปลกหรือแตกต่างไปจาก “นางสาวโฮ” ในเรื่อง “คุณนายโฮ” ก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย ยังคงความน่ารัก แบ๊ว ๆ เหมือนเดิม แต่อาจต่างกันตรงที่เรื่องนี้ได้เล่นเป็นคนสมหวังในความรัก “และสวยมาก”
ไม่มีอะไรจะติแล้ว เนื่องจากเป็นหนังตลกเบาสมองจะสนใจเรื่องบทหรือเนื้อเรื่องให้วุ่นวายทำไมเล่า !

 

 

เรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับลูกเล็กเด็กแดงนัก หากพาลูกไปดูก็อย่าลืมแนะนำด้วยว่าอันไหนไม่ควรทำตาม แนะนำว่าเหมาะกับวัยรุ่นขึ้นไป เพราะหนังเองก็แทรกมุกทะลึง ทะเล้น และใช้คำหยาบคาย มาอยู่เป็นระยะ ๆ แต่รับรอง

“ได้เสียงหัวเราะ” กลับมาแน่ ๆ และไม่ทำให้รู้สึกเสียดายค่าตั๋วสำหรับหนัง “โรแมนติกคอมเมดี้” ของคนไทย ถึงแม้เราจะไม่ใช่แฟนคลับเหล่านักแสดงนำที่ตั้งตารอดูฉากแฟนเซอร์วิสก็ตาม จําเนียร วิเวียน โตมร pantip

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง หอแต๋วแตก แหกกระเจิง เป็นภาพยนตร์ไทย เป็นภาพยนตร์ภาคที่ 2 ในภาพยนตร์ชุดหอแต๋วแตก ผลงานกำกับของพจน์ อานนท์ แต่ภาคนี้สร้างโดย พระนครฟิล์ม นำแสดงโดยจาตุรงค์ พลบูรณ์ เอกชัย ศรีวิชัย ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน ติ๊ก กลิ่นสี โก๊ะตี๋ อารามบอย วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย อภิญญา สกุลเจริญสุข และวราภัทร์ เพชรสถิต มีเรื่องราวต่อเนื่องกัน ที่ได้ย้ายหอใหม่ ออกฉายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 หอแต๊วแตก 2 netflix

สถานที่ถ่ายทำ ถ่ายทำที่ร้านปาปาย่า ซอยลาดพร้าว 55/2 ส่วนหอถ่ายทำแถวย่านสาทร และฉากบ้านเก่าถ่ายทำที่อยุธยา ใช้เวลาถ่ายทำ 2 เดือน เริ่มถ่ายปลายเดือนมิถุนายน 2552ภาพยนตร์ทำรายได้ 56.52 ล้านบาท

 

เรื่องย่อ หอแต๋วแตก แหกกระเจิง

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง หลังจากที่ ผีน้ำนิ่ง ตามจองล้างจองผลาญจนคนในหอพักของกระเทยสามพี่น้อง เจ๊แต๋ว หรือ พัชราภา (จาตุรงค์ พลบูรณ์), เจ๊การ์ตูน (ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์) และ มดดำ (เอกชัย ศรีวิชัย) อยู่ไม่ได้จึงต้องย้ายหนีกันหมด รวมถึงกระเทยสามพี่น้องด้วยที่ต้องย้ายหนีระหกระเหินมาเซ้งหอพักแห่งใหม่เพื่อทำกิจการหอพักต่อไป แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ที่หอพักแห่งใหม่ สามกระเทยต้องผจญกับผีนางรำที่ชื่อ อุษามณี (ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน) และ ตรีชฎา(อภิญญา สกุลเจริญสุข) ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

 

กระเทยสามพี่น้องพร้อมใจกันเล่นผีถ้วยแก้วหวังเรียก แพนเค้ก (โก๊ะตี๋ อารามบอย) ให้มาช่วยปราบผีอุษามณี แต่ด้วยดีกรีความเก๋าตายมานานกว่าของผีอุษามณี ทำให้ผีแพนเค้กไม่สามารถช่วยได้ ความวุ่นวายอลหม่านปนเสียงฮาจึงเกิดขึ้น

 

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

 

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

 

หลังจากที่เคยเสพผลงานของพี่พจน์ อานนท์เขามาก็หลายเรื่องอยู่ ตั้งแต่ยุคสติแตกสุดขั้วโลก ไล่มาเรื่อยๆ กระทั่งพักหลังๆหนังพี่พจน์แกสไตล์สาวประเภทสองและชนชาวสีม่วงเสียเยอะ ต่อให้หนังพี่พจน์จะเป็นแนวแอ็คชั่น ดราม่า หรือคอมเมดี้ ก็ยังไม่ทิ้งลายเซ็นหมึกสีม่วงๆไป ล่าสุดกับภาพยนตร์ภาคต่อแนวถนัดเรื่อง หอแต๋วแตกแหกกระเจิง เห็นชื่อก็คงไม่ต้องบอกอยู่แล้วว่าตัวละครหลักของเรื่องคือคนกลุ่มไหน ใจจริงก็พยายามมาดูด้วยความไร้อคติหลังจากโดนเรื่องปล้นนะยะ หนังแจ้งเกิดให้กับฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นพระเอกเต็มตัว(ที่พูดน้อยพอๆกับจา พนม ตามหาช้าง) เมื่อปี 2547 ทำร้ายจิตใจสุดจะบอบช้ำแสนสาหัสมาก แล้วพี่พจน์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคยครับพี่น้อง เคยคาดหวังไว้อย่างไร ก็ได้ตามที่คาดหวังดังใจเหมือนเมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่ผิดเพี้ยน เฮ้อ!!

 

หนังเน้นไปทาง สายฮามากกว่า

หนังเน้นที่อารมณ์ตลกจากศัพท์ของกระเทยบ้าง จากการจับเอาชายร่างทึกมาแต่งสาวบ้าง คำด่าแสบๆคันๆบ้างหรือแม้แต่การทำท่าทางประหลาดพิลึกหลุดโลกต่างๆนานา สร้างเสียงหัวเราะได้ครั้งคราว แต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจจนคนดูต้องจดจำเมื่อเวลาผ่านไป หลายฉากถูกเซ็ตขึ้นมาเพื่อรองรับมุขนั้นๆ เมื่อก้าวออกจากโรงหลังหนังจบลง ก็จะลืมการดำเนินรื่องราวเนื้อหาสาระ(ที่มีอยู่จกัด)ไป แต่กลับจะจำเป็นฉากๆที่เซ็ตมาเป็นมุขๆไป จะว่าไปแล้วหนังตลกไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลรองรับเสมอไปหรือ?

 

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

 

เรื่องราวของสามพี่น้องได้แก่ พัชราภา (รับบทโดย จาตุรงค์ พลบูรณ์ ), เฌอมาลย์ (สวมบทโดยเอกชัย ศรีวิชัย )และการ์ตูน (อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์) โดนผีเฮี้ยนตามหลอกจากภาคแรก จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนระหกระเหินมาเซ้งหอพักแห่งใหม่ สุดท้ายก็ยังไม่วายเจอผีที่เฮี้ยนเป็นเท่าทวี เพราะหอนี้ดันสร้างทับที่ของผีอุษามณี (ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน) และตรีชฏา (สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข) ที่ตายมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ดีกรีความดุจึงไม่ต้องพูดถึงห่างชั้นกับผีแพนเค้ก(โก๊ะตี๋ อารามบอย) ที่สามพี่น้องปลุกให้ขึ้นมาปราบสองพี่สาว และเมื่อพยูน(ติ๊ก กลิ่นสี)ย่างกายเข้ามาในหอ เรื่องราววุ่นๆปนเสียงหัวเราะก็เกิดขึ้น ณ หอพักนี้ หอแต๊วแตก ทุกภาค

 

จุดอ่อนของหนังเรื่องนี้

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูก และนี่ก็เป็นจุดอ่อนของหอแต๋วแตก2 เรื่องของบทที่เบาโหวงแทบไร้น้ำหนัก พจน์ อานนท์ถึงกับออกมายอมรับในวันเปิดตัวหนังว่าบทหอแต๋วแตก2 มีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอระหว่างถ่ายทำ เหมือนไม่ได้วางสคริปต์ที่ชัดเจน เปลี่ยนตามอารมณ์ สไตล์เดียวกับหว่องกาไว ผู้กำกับฮ่องกงชื่อดังที่มักเปลี่ยนแปลงบทระหว่างถ่ายทำ แต่งานของพี่หว่องเขาก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น!! หากมองข้ามเรื่องเนื้อหาของบทไป ก็ยังพบปัญหาที่บทตัวละคร นักแสดงหลักไร้ปัญหา เรียกเสียงหัวเราะได้พอประมาณ แต่ตัวละครรองอย่างเหล่าเด็กนักเรียนที่หอพัก เหมือนนำมาแสดงเพื่อกรุยทางแจ้งเกิดในวงการบันเทิงให้เด็กหน้าตาดีเหล่านั้น หรือบทหมอปราบผีของคุณลีน่า จัง ก็เป็นอะไรที่ฝืดมาก แทบนับเสียงคนหัวเราะในโรงได้เลย ส่วนบทของสายป่าน ก็หดหู่ไม่แพ้กัน น้อยนิดมหาศาลมากมาย โผล่มาเพียงแว๊บๆก็หายไป ไม่สามารถขโมยซีนจากตุ๊กกี้ได้เลย ที่น่าน้อยใจยิ่งกว่า เธอไม่มีแม้แต่ภาพตัวเองบนใบปิดหนังสักเวอร์ชัน

 

 

ในที่สุดก็เดินมาถึงบทสรุปของหนึ่งในหนัง cult ที่ต่อยอดจนเป็นแฟรนไชส์มาได้ยาวนานถึง 6 ภาค สำหรับ หอแต๋วแตก (แหกต่อไม่รอแล้วนะ) ซึ่งท้าวความเดิมจากภาคที่แล้ว (แหกนะคะ) ที่เจ๊การ์ตูน (อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์) ได้ดีไปกับสามีฝรั่ง แต่แก๊งของเจ๊แต๋ว (จตุรงค์ พลบูรณ์) ก็ต้องกลับมาเผชิญเรื่องราววุ่น ๆ อีกครั้ง เมื่อ เจ๊พะยูน (ติ๊ก กลิ่นสี) คู่ปรับเก่าของเจ๊แต๋วที่ถูกจับเข้าคุกในภาค 2 (แหกกระเจิง) เพิ่งพ้นคุกออกมาพอดี พร้อมกับ ขนเพชร เพื่อนใหม่ที่ติดสอยห้อยตามออกมาด้วย นั่นทำให้ การพบกันครั้งนี้ของเจ๊แต๋วและเจ๊พะยูน เต็มไปด้วยแรงอาฆาต อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสับสนอลหม่านมาคุที่กำลังก่อตัวขึ้น ก็มีจดหมายลึกลับจากชาวอินเดีย ที่แจ้งว่าเหล่าเจ๊ ๆ เป็นกลุ่มผู้โชคดีที่ได้รับคฤหาสน์หลังงาม ซึ่งทั้งหมดก็ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า คฤหาสน์ลึกลับนั้นมีบางสิ่งซ่อนอยู่ นอกจากนี้ แพนเค้ก (โก๊ะตี๋ อารามบอย) เองก็กำลังจะได้ไปเกิดใหม่ แต่มีเงื่อนไข 5 ประการที่ต้องทำให้ได้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือเรื่องราวอันวุ่นวายของ หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ หอแต๊วแตก 2 imovie

 

หอแต๋วแตก แหกกระเจิง สปอยหนัง

ตัวหนังยังคงความหนาแน่นของเส้นเรื่อง ที่ปะปนกันหลายเส้นเช่นเคย ก่อนจะมาบรรจบกันที่คฤหาสน์ลึกลับ โดยหนังถือว่าเปิดองก์แรกมาได้ดูสนุก มุกฮาไหลลื่นดี แม้ว่าจะเป็นมุขใต้สะดือซะส่วนใหญ่ คำหยาบสรรพัดสัตว์ออกมาเพ่นพ่านอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ได้หลายฮาอยู่ แม้ส่วนหนึ่งก็เชื่อว่าเพราะเป็นรอบสื่อฯ ด้วย เพราะในรอบนี้มีสาวสองมาดูเยอะ อารมณ์วี๊ดว๊ายเหมือนดูเดี่ยวพี่โน๊ต ที่หากซื้อตั๋วเข้าไปดูแกตัวเป็น ๆ บรรยากาศทั้งหมดก็จะยิ่งผลักให้โชว์ดูสนุกขึ้นกว่านั่งดูยูทูบคนเดียว
หนังทำได้ดีประมาณหนึ่งในช่วงที่แก๊งเจ๊แต๋วต้องหนีผีสาง กับสีสันจากการตัดสลับเส้นเรื่องที่ตัวละครมีปมกันหลายคู่ ก็ทำให้หนังไม่เลี่ยนมาก ซึ่งถ้าไม่อคติมากเกินไป ทำใจสบาย เคลียร์สมองโล่ง ๆ ก่อนไปดู ก็ถือว่าหนังดูได้เพลินอยู่ อาจไม่สร้างสรรค์ แต่อย่างน้อยพี่แกก็สรรหา ดึงจุดเด่นของหนังแฟรนไชส์นี้ออกมาเล่นได้เช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นมุกเสียดสังคม หรือมุกจิกกัดตัวเอง อันนี้ก็ดูแสบ ๆ คัน ๆ ดี ซีจีอาจจะดีกว่าช่อง 7 นิดหน่อย ประมาณนาคี แต่ด้วยความที่มันอยู่ในหนังหอแต๋วแตก คนดูก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะอย่างที่บอก เขาไม่ได้คิดอะไรก่อนจะดูหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว เขามาเอาความฮาแบบไม่มีสาระ ซึ่งหนังแม่งก็ตอบทุกโจทย์ในประเด็นนี้แบบครบเครื่อง (ฮา)

 

 

หอแต๋วแตกยังคงคอนเซปต์หนังพี่พชร์แก ความตลกโปกฮาติดเรทอวัยวะเบื้องล่าง ความแหยะ ความแหวะ ฉีกแข้งฉีกขาจนลุ้นกลัวไข่โผล่ และที่ขาดไม่ได้คืองานความเชื่อและมุกล้อเลียนคนที่กำลังเป็นข่าว และที่สำคัญคือเรื่องคอสตูม บอกเลยว่าออกมาแต่ละฉากทำครางฮือทั้งนั้น เกิดมาท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยเจอคอสตูมโคตรล้นขนาดนี้มาก่อน หอแต๊วแตก ล่าสุด

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง ภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น เป็นภาพยนตร์ไทยแนวแอคชั่น คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ พชร์ อานนท์ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของแก็งค์วัยรุ่นมัธยมที่เกเร เลือดร้อนมัดจะหาเรื่องทะเลาะกันจนเกิดปัญหาเสมอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นนิก คุณาธิป ปิ่นประดับ รับบท เป้ง หัวโจกของแก๊งค์ เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด มีอะไรไม่ถูกใส่ก่อนเลย เป้งเป็นคนรักครอบครัวมาก และหลงรัก รุ้ง ซึ่งเป็นน้องสาวของแมว ฝั่งคู่อริ คนต่อมาคือ เน็ท สิรภพ มานิธิคุณ รับบท ป๋องแป๋ง น้องชายของเป้ง หัวโจกแก๊งค์ เฟี้ยวฟ้าว มะพร้าวแก้ว เป็นคนมีความฝันอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง

 

เรื่องย่อ วัยเป้งง นักเลงขาสั้น

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง บอกเล่าเรื่องราวของ เด็กกางเกงขาสั้น 2 แก๊ง 2 โรงเรียน แก๊ง “เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว” มีเป้งเป็นหัวหน้าแก๊ง และแก๊ง “ไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง” มีติ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งก่อนหน้านี้ เป้ง กับ ติ่ง เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แล้ววันหนึ่งมีเหตุให้ทั้งคู่แตกหักกัน ชนิดที่ว่าเจอหน้ากันที่ไหนต้องยกพวกตีกันทุกที และความเกลียดชังยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้นเมื่อ รุ้ง น้องสาวของแมว จากแก๊งไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง ที่ติ่งตามจีบอยู่ ไปคบกับเป้ง

ทั้งสองแก๊งยกพวกตีกันครั้งใหญ่ ส่งผลให้ทั้งสองแก๊งถูกฝ่ายปกครองของโรงเรียนตัวเองเชิญผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายมาว่ากล่าวตักเตือน และยืนคำขาดห้ามทั้งสองแก๊งสร้างเรื่องอีกเด็ดขาด ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

 

เป้งมีน้องชายชื่อ ป๋องแป๋ง แม้ว่าภาพที่ทุกคนเห็น ป๋องแป๋งเป็นหัวโจกตามพี่ชาย แต่แท้จริงแล้ว ป๋องแป๋งมีความใฝ่ฝันอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง เขาหมั่นฝึกซ้อมเพื่อหวังจะได้โชว์บนเวทีสักครั้ง ป๋องแป๋งกับเพื่อนอัดคลิปวงของเขาปล่อยลงยูทูป ปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ยอดวิวพุ่งกระฉูด จนได้รับการติดต่อให้ไปเล่นเป็นวงเปิดในคอนเสิร์ตของศิลปินดัง ป๋องแป๋งดีใจมาก ทางฝ่ายติ่งทราบเรื่อง จึงยกพวกเตรียมบุกงานคอนเสิร์ต หวังทำลายความฝันที่ใกล้จะเป็นจริงของน้องชายคนเดียวของเป้ง ข่าวรู้ถึงหูเป้ง เขาไม่รอช้าที่จะบุกไปหยุดแก๊งของติ่ง เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อน และเพื่อให้ฝันของน้องได้เป็นจริง แต่เป้งได้ให้สัญญากับแม่ไว้ว่า จะไม่มีเรื่องอีก

ระหว่างคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ และความฝันของน้องชายคนเดียวที่เป้งรักมาก เป้งจะตัดสินใจอย่างไร เรื่องราวครั้งนี้จะลงเอยอย่างไรต้องตามลุ้นไปพร้อม ๆ กัน วัยเป้ง นักเลงขาสั้น เต็มเรื่อง พากย์ ไทย

 

พล็อตเรื่อง วัยเป้งง นักเลงขาสั้น

หนังเรื่อง หนัง วัย เป้ง ง นักเลงขาสั้น ของสองแกงค์สองโรงเรียนที่ไม่ถูกกัน “แกงค์เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว” และ “แกงค์ไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง” ที่หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันในหนังเรื่อง ม.6/5 มาก่อน ทั้งสองแกงค์นี้เจอกันทีไรก็ต่อยตีกันตลอด หนังเปิดตัวด้วยฉากต่อยตีกันบนสะพานเชื่อมแถว BTS ช่องนนทรีที่ๆ คนพลุ่งพล่านพนักงานออฟฟิตเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอดเวลา แอดแมวไปทีไรก็จะเจอพนักงานยูนิเซพดักขอให้บริจาคตังค์หักผ่านบัตรเครดิทตลอดๆ แต่ความเก๋ของเรื่องนี้คือ ไม่มีใครผ่านแถวนั้นเลยตอนเด็กมันตีกัน แม้กระทั่ง รปภ. สักคนก็ไม่มีจ้า

ทีนี้ต่อยตีกันธรรมดาก็ไม่เก๋ไง ต่อยไปสักพัก….ฝนตกจ้าภาพเด็กนักเรียนชายวัยฉะกัน เสื้อขาวบางเปียกเสื้อ คลุกวงในต่อยในต่อยตีกัน โอ้วโหว สาววายคือฟินจ้า หนังตัดภาพกลับไปที่โรงเรียน เป็นฉากเปิดแม่ของหัวโจกแกงค์แรก ที่แสดงโดย เมย์ ภัทรวรินทร์ ต้องมาคุยกับครูฝ่่ายปกครอง ระหว่างที่คุยก็มีครูผู้ช่วย เป็นชะนีแก่ๆ ลุคเหมือนครูระเบียบผสมยายแหวว ตีสิบ อีครูนี้ก็ปากร้ายระรานชาวบ้านมากอยู่ดีๆ ก็ไปแซะแม่เด็กว่า “กระเป๋าแอเมสของปลอมใช่ไหมค๊ะ” พอแม่กลับถึงบ้าน ก็นั่งกินเหล้า ส่วนลูกออกไปแว้นมอไซต์ต่อ เฮ๊ย ! หรือนี่จะเป็นหนังที่พี่พจน์ ตั้งใจจะ สะท้อนปัญหาสังคมไทย

วันต่อมาอีแกงค์นี้ก็ไปตีกันที่สยามต่อ คือยืนตะเบ๊ะท้าทายกันนานมากตีกันกลางห้างใหม่อย่างสยามวัน แน่นอน ไม่มีรปภ.เช่นเคย ระหว่างดูก็พยายามจะคิดเข้าข้างหนังว่า สงสัยเป็นห้างใหม่เลยยังหารปภ.เรื่องราวเริ่มมีเหตุผลมากขึ้นเราเริ่มรู้สาเหตุที่เค้าตีกันแล้ว เมื่อตัวนางเอกโผล่มานางชื่อว่ารุ้ง รุ้งคือสวยมาก สวยแบบหัวหน้าแกงค์ทั้งสองแกงค์เนี่ยอยากจะได้มาเป็นภรรยา

 

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

 

สวยจนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผู้ชายจะตีกันเพื่อแย่งชิง วันหนึ่งรุ้งทะเลาะกับผู้ชายเลยหนีมานอนที่บ้านหัวหน้าแกงค์อีกฝ่ายนึง #ค่ะอีรุ้งสวยมาก #หมั่นไส้ พอเช้ามา แม่เมย์กลับมาบ้านเจอชะนีอยู่ในบ้านตัวเองพร้อมลูกเลยโกรธมากไล่ตะเพิดชะนีออกจากบ้าน แม่เครียด แม่กินเหล้า แม่เป็นเมียพี่ปูแบล็กเฮด พี่ปูเป็นนักร้องมีสาวมาติดพันพูดคุย แม่ไปอาละวาดกลางร้าน ไล่แขกในร้าน หนังแสดงถึงจุดแตกหักของครอบครัว ลูกไม่คุยกะแม่ แม่กินเหล้าไม่สนใจปัญหาลูกนี่มันคือหนังที่พี่พจน์ตั้งใจสร้างมาเพื่อสะท้อนสังคมชัดๆ เช้ดดดเข้ หนังเริ่มมาถึงจุดหักเหเมื่อสองแกงค์นี้ไปต่อยตีกันแน่นอนฝนตกฮะ และโดนจับเข้าคุก พ่อแม่มาประกันตัว อีเด็กก็เริ่มจะสำนึกตัวได้แล้วว่าเฮ๊ย ! กูไม่ควรตีกันนะตี

กันพ่อแม่จะเสียใจจะเว๊ยเฮ๊ย เลิกตีกันหันมาเล่นดนตรีดีกว่า น้องพระเอกก็เลยเล่นดนตรีจนได้เป็นวงเปิดของคอนเสิตร์อะไรสักอย่างที่จัดที่เซ็นทรัลเวิร์ด แต่ทีนี้เรื่องไม่จบง่ายๆไงเมื่อ อีแกงค์โจทย์มันยังไม่สำนึกไง พาพวกมาดักตีอีกแกงค์ก่อนขึ้นคอนเสิตร์ เลยต้องมาปะทะกัน กลางลานจอดรถ เซนทรัลเวิลด์ ความคัลท์ของหนังเรื่องนี้คือลานจอดรถเซนทรัลเวิลด์ไม่มีรปภ. จ้า ยืนต่อยกันเกือบชั่วโมง แต่ห้างใหญ่ระดับเซ็นทรัลเวิล์ด นอกจากไม่มีรปภ. ก็ยังไม่มีรถสักคันมาจอดชั้นที่เด็กพวกนี้ต่อยตีกันเลยจ้า

 

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

คนต่อมาคือกาย กรกฤติ เหล่าตระกูล รับบทเป็น กัน เด็กมุทะลุ ลุยได้ทุกที่ขอแค่มีเพื่อน มีความฝันอยากเป็นนักดนตรี และชอบเล่นกีต้าร์คนต่อมาคือโตส อรัสมันต์ จิตตะศิริ รับบทโตส เพื่อนสนิทของเป้ง เรียกได้ว่าเป็นคู่หูของเป้ง มีเรื่องทุกครั้งเขาจะอยู่เคียงข้างเป้ง คนต่อมาคือโอ๊ต ภาสกร สารรัตนะ รับบท มูฟวี่ หนึ่งในแก๊งค์เฟี้ยวฟ้าว มะพร้าวแก้ว เป็นคนติดเพื่อน รักแฟน คนต่อมาคือเจมส์ ภูวดล เวชวงศา รับบทติ่ง หัวโจกในแก๊งค์ ไส้เลื่อน สะเทือนติ่ง

 

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

 

เป็นคนใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหามีความเป็นผู้นำ ติ่งหลงรักรุ้ง คนต่อมาคือบิว กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย รับบทแมว เพื่อนสนิทของติ่ง เป็นพี่ชายของรุ้งไม่ว่าติ่งจะลุยที่ไหน แมวจะเป็นเหมือนมือขวา ที่อยู่เคียงข้างติ่งเสมอ และคนสุดท้ายคือเทปวรชัย ศิริคงสุวรรณ รับบท แผ่นเสียงหนึ่งในแก๊งค์ ไส้เลื่อน สะเทือนติ่ง เป็นคนที่มีบุคลิกกวนๆ แอบชอบเพื่อนสนิทของรุ้ง โดยภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2560

 

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง

เอาจริงๆ เรื่องนี้ถ้าเทียบกะผลงานที่ผ่านมาของพี่พจน์ ถือว่าดีกว่านะฮะ มีเส้นเรื่องชัดเจนขึ้น มีประเด็นชัดเจนว่าต้องการจะสะท้อนสังคม สะท้อนปัญหาครอบครัว แต่หนังมันก็ไม่ได้สมจริง หรืออยู่ในโลกความจริง มันมีหลายอย่างที่ดูไปก็รู้สึกขัดตาไป เช่น รปภ. หายไปไหน? ต่อยกันตอนค่ำๆ ทำไมพอโดนตำรวจจับ เดินขึ้นรถตำรวจท้องฟ้าดันสว่างจ้าเป็นกลางวันซะงั้น

ถ้าเราโฟกัสไปที่ความบันเทิง หนังยังตอบโจทย์เราได้อยู่ในเรื่องของความสนุก มุขตลกบางมุขถือว่าโอเค ไม่ได้แป๊ก ไม่ได้โวยวายเหมือนเรื่อง ม 6/5 เมย์ ภัทรวรินทร์แสดงเป็นแม่ได้โอเคเลย ฉากกินน้ำชามะนาวทำให้เรารู้สึกจริงๆ ว่านางกำลังกินเหล้าอยู่ชะนีเพื่อนนางเอกนี่ก็ขโมยซีนพอตัว เป็นตลกแบบตลกสังขาร ตลกเจ็บตัว นี่ถ้าปั้นดีๆ สามารถดังระดับตุ๊กกี้ได้เลยนะ

 

 

หลายคนสงสัยว่า แอดแมวไม่พูดถึงคู่เกย์ในเรื่องเหรอ คือจริงๆหน้าตานางก็น่ารักทั้งคู่นะ แต่พอได้ยินชื่อคู่นี้แล้วแบบว่า “ฝ่ายเคะชื่อมูฟวี่ ฝ่่ายเมะชื่อซีรี่ย์” “ซีรีย์รักมูฟวี่น๊ะ มูฟวี่ก็รักซีรียส์เหมือนัน” ความรู้สึกจิ้นมันหายไปทันทีที่ได้ยินชื่อนาง ชื่อแบบ เกิดมาคู่กันเป็นขวัญเรียม โกโบริอังศุมารินมากจ้า วัยเป้ง นักเลงขาสั้น ภาค 2 เต็มเรื่อง

 

สรุปหนัง

 

 

วัยเป้งง นักเลงขาสั้น สปอยหนัง ถ้าตัดความไม่สมจริงทั้งหลายออกไป ถือเป็นหนังสะท้อนสังคมส่งเสริมสถาบันครอบครัวชัดๆ แต่มันก็คือหนังสไตล์พี่พจน์อ่ะนะ อย่าไปหาเหตุผลอะไรมากมายเลย ดูเอาตลกๆ ดูเอาขำๆคลายเครียดก็พอ บางทีหนังที่เราไม่ได้คาดหวังอะไร มันก็ทำให้เราสนุกได้นะ คะแนนความชอบเรื่องนี้ 7/10 วัยเป้ง นักเลงขาสั้น ภาค 1 เต็มเรื่อง

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

 

สอยหนัง สำหรับแฟน ๆ ประจำของ GDH ที่คาดหวังหนังอารมณ์ฟีลกู๊ดจากค่ายนี้ หรือคนที่เคยประทับใจผลงานของเต๋อ นวพล จาก “ฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” แล้วคาดหวังความฮาในระดับนั้น ก็ต้องเตือนกันก่อนเลยว่า ห้ามคาดหวังความฟีลกู๊ด หรือความฮาใด ๆ จากเรื่องนี้ ซึ่งถ้าใครได้ชมตัวอย่างหนังกันมาแล้ว ก็พอจะคาดเดาอารมณ์ของ “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” กันได้อยู่บ้างนะ ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 53 นาที ของหนัง แทบไม่มีเสียงหัวเราะให้ได้ยินเลย หรือถ้ามีสอง-สามมุก ก็เป็นหัวเราะแบบหึ ๆ เท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับฉากที่ตัวละครน้ำตาไหลพราก นี่อัดแน่นกันมาหลายฉากเลย ดราม่า สาระ มาเต็ม ฮา ว ทูทิ้ง hd พากย์ไทย

 

เรื่องย่อ ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง จีน เป็นนักเรียนนอกจากสวีเดนที่กลับมาอยู่กับครอบครัว ที่มี “เจ” พี่ชาย และแม่ที่ยังอยู่บ้านเดิมที่เคยเป็นโรงเรียนสอนดนตรีและรับซ่อมเครื่องดนตรี ที่พ่อเป็นผู้ริเริ่มกิจการแล้วก็จากไปมีครอบครัวใหม่นานมากแล้ว จีนจึงตั้งใจจะรีโนเวตชั้นล่างของบ้านเป็นออฟฟิศ ซึ่งสเต็ปแรกก็คือการโละข้าวของต่างๆ ทิ้งข้าวของแต่ละอย่างที่จีนและเจ พบในกองของเก่าเก็บก็ล้วนแต่มีอดีต และหนึ่งในนั้นก็คือกล้องและฟิล์มของเอ็ม อดีตแฟนของจีน ที่เธอเลิกกับเขาตอนที่ไปเรียนต่อสวีเดน จีนตัดสินใจเอากล้องไปคืนแต่ที่จริงนั้นเธอต้องการไปขอโทษเอ็ม เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจที่เคยทิ้งเอ็มไปอย่างไม่มีเยื่อใย และนี่คือจุดเริ่มต้นที่จีนกลับไปมีบทบาทในความคิดตัดสินใจครั้งใหญ่ของเอ็ม

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

ถ้ามองตามชื่อหนังและตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาก็จะสื่อให้เข้าใจว่านี่คือ “หนังรัก” ที่พูดถึงเยื่อใยต่อคนรักเก่า แต่เอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวของเอ็มเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะ “ฮาวทูทิ้ง” ยังพูดถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวจีนอีกมากผ่าน “ของเก่า” ที่ทำหน้าที่ตัวแทนเรื่องราวในอดีตมากมาย ทั้งเรื่องของพ่อที่ทิ้งไป ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเพื่อนอีกหลายๆ คน แต่ละเรื่องก็ทำหน้าที่ประหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ต่อกันเป็นภาพที่เด่นชัดของจีน

ให้เรารู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น ซึ่งจีนเองก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเช่นกัน จากคำตอบโต้ของเอ็มและเพื่อนหลายๆ คน ที่ตำหนิเธอกลับมา ทำให้ “จีน” เป็นนางเอกหนังที่มีความเป็นปุถุชนมากสุดคนหนึ่งบนจอหนังไทย ที่ไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อม มีจุดที่แข็งขณะเดียวกันก็มีจุดที่อ่อนไหวอีกมาก ที่ทำให้เธอไม่สามารถตัดขาดความทรงจำเก่าๆ ไปได้อย่างที่ตัวเองพูดแล้วทำให้การจัดบ้านของเธอต้องพัวพันไปกับอีกหลายๆ ชีวิต ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ถ้ามองว่า “ฟรีแลนซ์” เป็นหนังที่เต๋อ ปรับเปลี่ยนตัวเองเข้าหาความเป็น GDH มากขึ้น แล้วก็ได้ผลตอบรับอย่างดี พอมาถึง “ฮาวทูทิ้ง” เต๋อ ก็ขอหันกลับไปเป็นตัวเองมากขึ้น เอาใจตลาดน้อยลง รอบนี้ไม่มีมุกฮาไม่มีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างคู่พระนางให้คอยจิ้นเอาใจช่วย แม้กระทั่งรอยยิ้มของตัวละครยังแทบไม่เห็นเลย ก็เชื่อว่า GDH ก็คงไม่คาดหวังรายได้ระดับร้อยล้านหรอกนะเพราะการที่ GDH ปล่อยหนังสองเรื่องติดกันแบบนี้ ก็มองเกมการตลาดมาเรียบร้อยแล้วล่ะไปหวังกำไรเอาจาก “ตุ๊ดซี่ส์” ส่วน “ฮาวทูทิ้ง” ก็ไปแนวหนังรางวัล ซึ่งตัวหนังเองใช้นักแสดงไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักแสดงโนเนม ก็ไม่น่าจะใช้ทุนสร้างมากมายนัก อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนแน่นอนล่ะ

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

ซึ่งรอบนี้เต๋อก็ขอตามใจตัวเองอย่างเห็นได้ชัดในทุกแง่มุมการนำเสนอทั้งการนำเสนอภาพในฟอร์แมต 2:3 ที่มีภาพกระจุกอยู่ตรงกลางจอ พื้นที่ซ้ายขวาของจอปล่อยดำมืดไปเลย สีสันทั้งเรื่องจืดซีด ไม่มีสีฉูดฉาดแดง เหลืองเขียวให้เห็น เน้นหนักแต่ขาว เทา ดำ โดยเฉพาะตัวจีนนั้นเธอจะใส่เสื้อขาวกางเกงดำตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าเต๋อต้องการปูอารมณ์หม่นซึมให้คนดูตั้งแต่นาทีแรกของหนังเลย ฮาวทูทิ้ง เต็มเรื่อง facebook

ดนตรีประกอบของหนังก็แทบไม่ได้ยิน หลาย ๆ ฉากใช้เสียงเชลโลต่ำๆ “ตึ่ม ตึ่ม” เข้ามาประกอบฉากสนทนาแค่นั้นทำให้ “ฮาวทูทิ้ง” เป็นหนังที่เดินหน้าไปแต่ละนาทีด้วยความรู้สึกที่ “หนัก” แล้วเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ บนประเด็นที่ค่อนข้างเบา เพราะว่าด้วยปฏิบัติการทิ้งของเก่าของจีน ซึ่งผ่านไปเกือบชั่วโมงกว่า “เอ็ม” จะโผล่เข้ามาในเรื่องก็เพิ่มประเด็นหนักหน่วงเข้ามาอีก เพราะจีนเข้าไปในฐานะคนเก่าของเอ็ม ในวันที่เอ็มใช้ชีวิตคู่กับมี่แล้ว

 

สอดแทรกความเป็นจีนเข้ามาในหนัง

ด้วยความที่หนังเล่าเรื่องผ่าน “จีน” ที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แล้วแทรกประเด็นยิบย่อยรอบตัวจีนเข้ามา ทำให้หนังไม่สามารถลงลึกในแต่ละประเด็นได้ครบถ้วน บางประเด็นก็ถูกทิ้งค้างให้เป็นข้อสงสัยอย่างเรื่องการจากไปของพ่อความบาดหมางของจีนกับเพื่อนสาวที่เธอเอาดับเบิ้ลเบสไปคืน แต่เท่าที่เห็นนี่ก็นับว่าหนักพอดูแล้ว ที่เหลือก็เลยถูกทิ้งไว้เป็นที่ว่างในจินตนาการของคนดูให้เลือกเติมเต็มกันเอาเอง

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

 

คนที่ควรได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดใน “ฮาวทูทิ้ง” ก็คือ ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ในบท “จีน” ที่เห็นได้ชัดถึงการก้าวกระโดดของฝีมือการแสดงเป็นบทที่น่าเครียดมากไม่มีฉากไหนที่จะดูสบายๆ เลยเพราะเต๋อก็เลือกเล่นยากเพราะหลาย ๆ ฉากเต๋อก็เลือกที่จะให้นักแสดงสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านสายตาและสีหน้ามากกว่าคำพูด ฉากดราม่าเยอะมาก มีทั้งที่ต้องระเบิดอารมณ์ใส่กันและแบบที่ยืนจ้องหน้ากันเงียบๆ แต่ต้องสื่ออารมณ์ให้ถึงคนดูให้ได้ ซึ่งออกแบบก็เอาอยู่ในทุกฉาก แล้วเล่นแบบไม่ห่วงสวยเลย ซันนี่ ในบท”เอ็ม” ออกมาไม่กี่นาทีเลย มาในมาดขรึมๆ พูดน้อยแต่รู้สึกขัดตากับเคราของเอ็มมาก ดูหรอมแหรมไงไม่รู้

 

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง

ฮา ว ทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ รีวิว ชอบการแคสติ้งที่ใส่ใจในการเลือกคนมาเล่นเป็นพ่อแม่พี่น้องที่ดูมีความละม้ายเป็นไปได้กับการเลือก อาภาศิริ นิติพน มาเป็นแม่ของจีน และ ถิรวัฒน์ โงสว่าง รับบท เจย์ มาเป็นพี่ชายของจีน ทั้งสามคนมีโครงหน้าเหลี่ยม กรามชัดเจนมาก ดูแล้วเชื่อว่าเนี่ย “แม่ลูก” กัน อาภาศิริ โผล่มาแค่สองฉาก แต่ทั้งสองฉากที่เธอโผล่มานี่จัดหนัก จัดเต็ม ได้อย่างน่าชื่นชม โชว์ศักดิ์ศรีนักแสดงรุ่นเก่า แม้หนังจะไม่มีฉากกิมมิคอย่าง “ไปค่ะ พี่สุชาติ” ให้ถูกพูดถึงอย่าง “ฟรีแลนซ์” แต่ฉากโชว์ฝีมือของอาภาศิริก็สมควรได้รับการจดจำจากเรื่องนี้

 

 

ถิรวัฒน์ โงสว่าง และ ษริกา สารทศิลป์ศุภา ในบท “มี่” สองรายนี้ผมไม่คุ้นหน้ามาก่อนแต่ก็อยากชื่นชมว่าแสดงได้ดีมากดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็ต้องย้อนไปชื่นชมที่ตัวผู้กำกับ “เต๋อ” ที่รักษาลายเซ็นตรงนี้ไว้ได้ชัดเจน ผมมักจะทึ่งกับการถ่ายทอดการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติจากบรรดานักแสดงในหนังของเต๋อ บทสนทนา การแสดงออกที่ไร้ซึ่งการประดิดประดอย ให้ความรู้สึกเหมือนได้ดูสารคดีชีวิตคนจริงๆ ไม่เหมือนว่ากำลังดูหนังที่สื่อผ่านการแสดงอยู่เลย อีกเรื่องที่อยากพูดถึง คือการรีโนเวตบ้านที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวไม่ใช่แค่หยิบเรื่องการทิ้งของเก่า แล้ว Move On มาเป็นประเด็นตั้งต้นเฉยๆ แต่รีโนเวตให้ดูจริง จากบ้านเก่าๆ โทรมๆ ทำออกมาแล้วสวยโล่ง สว่าง น่าอยู่จริง

 

จุดที่ชอบของเรื่องนี้

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ สปอยหนัง สุดท้ายก็อยากจะชมเต๋ออีกในเรื่องการหยิบแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตมาขยายความได้น่าสนใจ อย่างเรื่องนี้ก็คือ “ของเก่า” ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมนุษย์เราทุกคน ที่หลายคนมักจะผูกพันแล้วเก็บรักษามันไว้จะด้วยเหตุผลมากมายทั้งความเสียดาย เป็นตัวแทนความทรงจำดีๆ แค่จุดเล็กๆ เนี่ย เต๋อสามารถหยิบแง่มุมต่างๆ ของ “ของเก่า” มาขยายได้มากมาย มันอาจจะเป็นของไร้ค่าสำหรับบางคน

แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นของมีค่าที่ประเมินค่าไม่ได้กับอีกคน หรือมองในอีกมุมที่จีนตีความว่าของเก่าเปรียบเสมือนโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งชีวิต ถ้าปล่อยวางตัดทิ้งได้ ชีวิตก็จะ “Move On” ไปข้างหน้าได้เช่นเดียวกับที่เธอทำกับเอ็ม ซึ่งการตัดทิ้ง หรือปล่อยวาง บางครั้งก็มีเส้นบางๆ คั่นไว้กับ “ความเห็นแก่ตัว” อย่างที่เพื่อน ๆ และเอ็มต่างก็ใช้คำนี้มาตำหนิจีน

 

 

อีกจุดที่ชอบคือการตีความ “คำขอโทษ” ที่เต๋อนิยามมันผ่านมุมมองที่แตกต่างไว้ในเรื่องนี้ ว่าบางครั้งการกล่าวคำขอโทษ ไม่ใช่เพื่อให้คนฟังรู้สึกดีแล้วยกโทษให้ แต่บางครั้งคำขอโทษก็ถูกใช้เพื่อประโยชน์ของผู้กล่าวที่อยากจะใช้ “คำขอโทษ” เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกผิดของตัวเองซะ แล้วก้าวต่อไป เปรียบเหมือนกับการโยนความรู้สึก ความทรงจำ กลับไปที่คู่กรณีให้แบกรับมันเพียงลำพังต่อไป
สรุป “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” หนังน้ำดีที่ไม่เอาใจตลาดวงกว้าง ไปแบบช้าๆ บนกราฟที่เป็นเส้นตรงไม่มีฉากไคลแมกซ์แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง “ฮาวทูทิ้ง” ก็เป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวในชีวิตที่ใกล้ตัวเราทุกคน ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ที่ดี ชวนให้เราต้องมาย้อนคิดถึง “ของเก่า” ในบ้านเราเองได้เช่นกันแล้วการเลือกวันฉายในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2562 ก็เหมาะเจาะเสียยิ่งกับคอนเซ็ปต์ของหนัง ที่คนเราจะสามารถตัดเยื่อใยทิ้งของเก่า แล้ว move on ไปกับชีวิตในปี 2563 กันได้หรือไม่ ฮา ว ทูทิ้ง เต็มเรื่อง pantip

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ สปอยหนัง

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

 

ชื่อภาพยนตร์: ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ / I Fine…Thank You Love You

ผู้กำกับภาพยนตร์: เมษ ธราธร

ผู้เขียนบทภาพยนตร์:

นักแสดงนำ: ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ, โจ๊ก โซคูล, ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด, Sora Aoi

แนว/ประเภท: Comedy, Romance

ความยาว: 122 นาที

สปอยหนัง “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานหนังตลกของ GTH ที่มีจุดแข็งตาม 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น (โดยเฉพาะคลิปพระนางเต้นเพลง “ABC ชักกระตุก” นี่เราชอบมาก) แต่แข็งแกร่งกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมาของ GTH ตรงที่ “อาศัยกินบุญเก่า” ของชื่อค่าย, ชื่อ ATM เออรัก เออเร่อ, ชื่อของพระนาง รวมถึงชื่อตัวประกอบอย่างบร๊ะเจ้าโจ๊ก (เช่นเดียวกับกรณีตุ๊กตาผี Annabelle ที่มีคนหลงไปดูเยอะเพราะความฮอตของ The Conjuring) ได้อย่างสบายๆ

 

เรื่องย่อ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย เรื่องราวโดยย่อ เริ่มจากสาวญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์ คายะ (โซระ อาโออิ จาก ปิดเทอมใหญ่.. หัวใจว้าวุ่น และหนังญี่ปุ่น AV อีกหลายเรื่อง) ต้องย้ายไปทำงานที่อเมริกาและต้องการบอกเลิกกับ ยิม (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ จาก เพื่อนสนิท) แฟนหนุ่มที่เป็นนายช่างหรือวิศวกรซ่อมบำรุงในโรงงานที่เธอทำอยู่ แต่เนื่องจากยิมสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ในขณะที่คายะก็สื่อสารภาษาไทยไม่ได้เลยเช่นกัน คายะจึงต้องมาขอร้องให้ ครูเพลง (ไอซ์-ปรีชญา จาก ATM เออรัก เออเร่อ) ติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษให้เธอจนสอบสัมภาษณ์ได้ ช่วยเป็นสื่อกลางไปบอกเลิกกับยิมแทนเธอ

ครูเพลงตัดสินใจยอมช่วยเพราะคายะจ่ายค่าจ้างด้วยกระเป๋า Louis Vuitton Alma BB Monogram Vernis สีแดงสุดหรู (กระเป๋ารุ่นนี้สีนี้เราก็ชอบเองเป็นการส่วนตัว ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งอยากได้) แต่พอเอาเข้าจริง เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะยิมเป็นคนปากหมา โผงผาง กวนตีน และจริงจังกับคายะมาก แถมเรื่องพลิกโผ กลายเป็นยิมมาจ้างครูเพลงให้ช่วยติวภาษาอังกฤษให้แบบที่ติวให้คายะแบบตัวต่อตัว เพราะเขาต้องการสอบสัมภาษณ์และตามคายะไปทำงานที่อเมริกา ซึ่งการสอนยิมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกนั่นแหละ เพราะยิมเป็นวิศวกรที่พื้นฐานภาษาแทบเป็นศูนย์ และทำให้ครูเพลงต้องปวดกบาลอยู่บ่อยๆ ไอ ฟาย แต่ ง กิ้ ว เลิ ฟ ยู้ 123hd

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

และนอกจากจะต้องเจอกับลูกศิษย์สายห่ามอย่างนายช่างยิมแล้ว ติวเตอร์เพลงคนสวยยังต้องรับมือกับนักเรียนในคลาส Business Conversation ที่มาตามตื๊อเธอไม่เลิกอย่าง คุณพฤกษ์ อีกหนึ่งอัตรา (ตู่-ภพธร นักร้องคนดังที่มาเซอร์ไพรส์แฟนๆ หลายซีนเลยทีเดียว) ซึ่งจริงๆ แล้ว คุณพฤกษ์เป็นคนเพอร์เฟ็กต์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย ตอนแรกติวเตอร์สาวโสดเองก็เคลิบเคลิ้มไปกับเจ้าชายในฝันและหลวมตัวไปเล่นด้วยกับเขาอยู่หรอก แต่พอไปๆ มาๆ มารู้ทีหลังว่าเขาไม่ใช่ เรื่องมันก็เลยซับซ้อนเข้าไปอีก ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

สำหรับเนื้อเรืองก็ประมาณว่า คายะ(แสดงโดยโซระอาโออิ) ต้องการจะเลิกกับแฟนของเธอ ยิม(ซันนี่) ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เข้ากันได้เรื่องเดียวคือเรื่องจุดจุดจุด….คือไม่ต้องการการสื่อสารอะไรใดๆทั้งสิ้นว่างั้น คายะก็เลยวานให้ติวเตอร์เพลง(ไอซ์ ปรีชญา)ไปแปลคำพูดเพื่อบอกเลิกเป็นภาษาไทยให้(จากภาษาอังกฤษ) ครูเพลงเป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่ท่าทางจะชื่อดังและร่ำรวยพอสมควรดูจากบ้านและไลฟ์สไตล์ของเธอ

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

คายะติดสินบนให้กับครูเพลงเป็นกระเป๋าหลุยส์ เธอจึงยอมตกลงรับงานนี้ โดยเมื่อเธอไปแปลให้ยิม บอกว่าคายะไปอเมริกาแล้วและเธอก็คงไม่กลับมาอีกขอให้ยิมโชคดี ส่วนยิมก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเนื่องจากแฟนหนี เขาจึงบังคับให้ติวเตอร์เพลงมาติวภาษาอังกฤษเพื่อไปตามคายะ โดยขู่ติวเตอร์เพลงจนติวเตอร์เพลงต้องยอมจำนนทำงานนี้ ในระหว่างนั้นทั้งสองคนก็ค่อยๆรักกันค่ะหลังจากนี้จะเป็นสปอยล์และความรู้สึกหลังดูนะคะ ใครไม่อยากดูอย่าเลื่อนลงไปนะ

 

ความแตกต่างระหว่างพระเอกกับนางเอก

ความต่างระหว่างพระเอกกับนางเอกมีมาก พระเอกดูจน ดูซกมก นางเอกดูไฮโซ และกลับไม่เลือกคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าบางครั้งความรักเราก็เลือกไม่ได้ว่าจะรักคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน หรือคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าหรือแม้จะฝืนหลักการของสังคมเช่น ติวเตอร์รักกับนักเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสียจรรยาบรรณในสายตาคนส่วนใหญ่

นางเอกจึงมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ตอนท้ายสุดและยินยอมที่จะคบกับพระเอกในที่สุด นางเอกน่ารักค่ะเรื่องนี้ เต้นตลกดีตอนจบ ด้วยความที่เป็นหนังรักสำหรับวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นๆเราไปดูแล้วเลยไม่อินมาก แต่ก็ตลกมุขพี่โจ๊กฆ่าจิ้งจกด้วยง่ามตูดนี่แหละ ฮามาก แล้วก็มุขของพฤกษ์ที่บอกว่าผมมีชีวิตเพื่อเพลง ไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต มุขนี่อย่างฮา

บางมุขก็แนวตึ่งโป๊ะคาเฟ่ไปนิด สรุปหนังดูเพลินอย่าไปคิดมากอีกเรื่องหนึ่ง อ้อ พระเอกนี่ก็ประหยัดจริงจังคือเอาน้ำซุปข้าวมันไก่มารวมทำเป็นซุปมาม่า สุดยอดเลยวิธีนี้ ขนาดซุปแข็งเป็นวุ้นยังเวฟได้ แถมกัขฬระนักเลงจนน้องที่ไปดูด้วยกันบอกเป็นตูๆเลือกคุณพฤกษ์แสนไฮโซ

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

 

มุขที่เราชอบ ชอบตอนพระเอกสัมภาษณ์งานค่ะ มันมั่วได้ใจมาก นางเอกก็ช่างเก็งข้อสอบมาถูกเหลือเกิน ช่วยเหลือพระเอกขนาดนี้เราว่าเป็นใครๆก็หลงรักนะ ชุดตอนเธอไปกับพระเอกที่เป็นล่ามที่บอกว่าให้ใส่ชุดคล้ายงานแต่งสวยมากค่ะ สรุปรวมๆอีกที ไปดูอย่าไปคาดหวังอะไรมาก เอาฟีลกู๊ดแนว GTH พอค่ะ

ที่เราชอบคือโซระ อาโออิ เธอแสดงดีนะคะ น่ารักมากด้วยถึงแม้จะออกแนวอีโรติคไปนิด แต่มันไม่ได้น่าเกลียดมากค่ะ แค่ส่อ ซันนี่เล่นได้เข้ากับบทดี ดูดีมาก ไอซ์นางเอก น่ารักทุกท่วงท่า ส่วนไม่ชอบคือ มันไม่เรียลเลย ไม่เหมือนโลกแห่งความเป็นจริง ออกการ์ตูนๆ เข้าใจว่าเป็นฟีลนิยมหนังสมัยนี้ และก็ไม่ได้ซึ้งขนาดนั้นตามที่หนังรักควรจะเป็น เผลอๆบางคนไปเชียร์คุณพฤกษ์พระรองด้วยซ้ำ ให้คะแนนความเพลิน ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู ตอนจบ

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย

สืบเนื่องจากความสำเร็จของ ATM เออรัก เออเร่อ (2555) ที่ทำรายได้รวมกว่า 150 ล้าน กับ พี่มากพระโขนง (2556) ที่ยอดรวมทะลุหลักพันล้าน บวกกับความล้มเหลวเมื่อกลางปี 2557 ของ ฝากไว้..ในกายเธอ ทางค่ายหนังไทยยักษ์ใหญ่จึงต้องฝากความหวังครั้งสุดท้ายของปีไว้กับ เมษ ธราธร ผู้กำกับฯ เจ้าของผลงาน ATM เออรัก เออเร่อ ให้กอบกู้ชื่อเสียงและหน้าตากลับมาสู่ GTH อีกครั้ง! ไอ ฟาย แต่ ง กิ้ ว เลิ ฟ ยู้ ซับ ไทย

 

 

ถ้าอ้างอิงจากผลงานเก่าๆ ที่ทะลุ 100 ล้านแบบลอยตัวของ GTH จะเห็นว่าหลายเรื่องเป็นหนังแนวตลก (comedy) เช่น กวน มึน โฮ, ATM เออรัก เออเร่อ, และ พี่มากพระโขนง ซึ่งวิเคราะห์ที่มาของรายได้ได้หลายทาง

  • การพีอาร์และการตลาดที่สายแข็งเหนือยุทธภพของค่าย
  • ดารานักแสดงที่ไม่ได้หล่อสวยโอเวอร์แต่มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ และเข้าถึงง่าย
  • กระแสปากต่อปาก และพลังแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ก (ทั้งทางบวกและทางลบ)
  • มุกตลกที่เน้นสายแมสและชนชั้นกลางเป็นหลัก

 

ความรู้สึกหลังดู

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ รีวิวหนังไทย เอาเรื่องความรู้สึกก่อนคือหนังก็ทำได้ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโอ้ว ว้าว วู้ว เฮ้ยยย สนุกโคตรๆๆๆๆหรืออลังการโคตร อะไรแบบนี้ค่ะ มันเป็นแบบมาตรฐานหนังไทยตลกฟีลกู้ดทั่วๆไป มุขแป้กไม่แป้กมั่ง หนังดำเนินเรื่องเร็วส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษไม่มีแปลเลยสงสารแม่ที่ไปดูด้วยดูไม่เข้าใจตอนนั้นๆ เพราะบางตอนทำได้ดีมากเช่น ตอน 1 minute speech ที่ให้พูดถึงคำว่า mole

แล้วพฤกษ์(ตัวละครในเรื่องที่นางเอกเคยชอบตอนแรก) บอกว่า mole หรือไฝนั้นเลือกที่ๆมันจะเกิดขึ้นมาไม่ได้ คนเรามักจะตามหาคนที่มีไฝที่เดียวกันเพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตแต่มันอาจจะไม่เจอเลยก็ได้ทั้งชีวิต น่าแปลกที่ว่าไฝนั้นเหมือนกันกับโชคชะตา โชคชะตาเลือกที่จะเกิดที่จะเป็นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะลิขิตชีวิตตัวเองได้ หลังจากนั้นพฤกษ์ก็เอาปากกามาจุดเป็นไฝที่เดียวกันนางเอก เป็นคำพูดหรูหราโลกสวยที่น่าประทับใจค่ะ

 

 

อีกตรงหนึ่งก็คือตอนจบที่นางเอกบอกว่า เจ้าหญิงซิลเดอเรลล่าในโลกแห่งความเป็นจริง อาจจะไม่ได้ต้องการเจ้าชายรูปงาม แต่ต้องการช่างทำรองเท้าธรรมดา และช่างทำรองเท้า อาจจะไม่ต้องการซินเดอเรลล่าก็ได้ เรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่จบแบบสมบูรณ์หรือ happily ever after เสมอไป แสดงถึงเรื่องของความรัก คนไปดูหนังรักมักจะเจอฉากจบที่ตัวละครแต่งงาน แฮปปี้ แต่ดูๆไปพบว่านั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นของชีวิตคู่ นอกจากนี้หลายคู่ต้องจบด้วยการเลิกกัน

ส่วนมุขในเรื่องดูขาดๆเกินๆสนุกดีแต่มันดูล้น บางอันดูขาด แต่ตัดภาพได้ดีมากค่ะ ตัดต่อได้ดึงอารมณ์คนทั้งๆที่เป็นฉากธรรมดาๆแต่ทำให้ซึ้งหรือรู้สึกน่ารักกินใจได้ ชีวิตนางเอกดูสมบูรณ์เกินไป เรื่องดูเวอร์ๆ แต่อย่างว่ามันเป็นหนัง ต้องทำใจว่าความเว่อร์มันก็มีอยู่แล้ว ถ้าไปดูหนังชีวิตเรียลมันก็คงไม่สนุก ไอ ฟาย แต่ ง กิ้ ว เลิ ฟ ยู้ เต็มเรื่อง part 1

คู่กรรม สปอยหนัง

คู่กรรม สปอยหนัง

คู่กรรม สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง คู่กรรม เป็นนวนิยายแนวโศกนาฏกรรมและวีรคติ ประพันธ์โดย ทมยันตี ดำเนินเรื่องที่มีฉากหลังในประเทศไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อราวปี พ.ศ. 2508 จากการเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี และเข้าชมสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักที่ฝังร่างของเหล่าทหารสัมพันธมิตร โดยสะดุดใจเมื่อเห็นคำจารึกถึงบนหลุมศพทหารสัญชาติเนเธอร์แลนด์คนหนึ่ง เมื่อสอบถามดูได้ความว่าเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวที่มาเสียชีวิตลงที่ประเทศไทย โดยที่ผู้เป็นพ่อแม่มิอาจมาร่วมฝังศพของลูกชายได้

คู่กรรม เขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2508 ตีพิมพ์เป็นตอนในนิตยสารศรีสยาม (ในเครือนิตยสารขวัญเรือน)และรวมเล่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 แล้วตีพิมพ์มาหลายครั้ง มีภาคต่อคือ คู่กรรม 2 ถือว่าเป็นบทประพันธ์ที่ชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของทมยันตี

คู่กรรม ได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์แล้วหลายครั้ง เริ่มจาก ช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นละครถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2513, พ.ศ. 2515 และต่อมาทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในปี พ.ศ. 2521

ครั้งสำคัญเป็นละครทางช่อง 7 สี ในปี พ.ศ. 2533 เป็นละครที่สร้างประวัติศาสตร์เรตติ้งสูงสุดอันดับ 1 ของเมืองไทยตลอดกาล เรตติ้ง 40 และได้รับรางวัลทั้งเมขลาและโทรทัศน์ทองคำในปีเดียวกัน หลังจากนั้นได้นำมาสร้างใหม่เป็นละครทางช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2547 (มีภาคต่อคือ คู่กรรม 2) และสร้างเป็นละครทางช่อง 5 ในปี พ.ศ. 2556

คู่กรรม ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 4 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2516, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2556 ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง (ปี 2531 และ 2538) ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลตุ๊กตาทองไปทั้งคู่ และเคยถูกดัดแปลงเป็นละครเวที โดยค่ายดรีมบอกซ์ เมื่อกลางปี พ.ศ. 2547 แสดงที่โรงละครกรุงเทพ และกลางปี พ.ศ. 2550 แสดงที่โรงละครกรุงเทพเมโทรโพลิส

คู่กรรม สปอยหนัง

ความพิเศษในบทประพันธ์ของทมยันตีเรื่องนี้คือ การบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เต็มไปด้วยรายละเอียดสำคัญ เหตุการณ์จำนวนมาก และทุกจุดมีที่มาที่ไป ทำไมแม่อังไม่ชอบญี่ปุ่น ทำไมถึงต้องแต่งงาน ทำไมถึงต้องมีคำสัญญา ฯลฯ

ปัญหาของคู่กรรมคือมันไม่เหมาะกับการทำเป็นหนัง แต่เหมาะกับการทำเป็นละครมากกว่า คือถ้ามานั่งเก็บรายละเอียดนี่ตาย แต่จะข้ามก็ไม่ได้ เป็นปัญหาเดียวกับที่เวอร์ชันหนังใหญ่ปี 2538 มีแต่บันทึกเหตุการณ์สำคัญ จนหนังออกมาไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม ทั้งที่หัวใจหลักของคู่กรรมคือเรื่องราวความรัก

 

คู่กรรม สปอยหนัง

 

ความซวยอีกอย่างคือคู่กรรมดันเปิดฉายช่วงใกล้กับพี่มากพระโขนง ซึ่งเป็นหนังที่ไม่มีใครคาดหวัง แต่ทำได้ดีเกินคาด ความกดดันของหนังที่ทุกคนคาดหวังมากเลยสูงตามไปด้วย
ผู้กำกับมีเหตุผลของเขา คนดูมีหัวใจของคนดู ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ คู่กรรม

คู่กรรม สปอยหนัง จากปัญหาเรื่องรายละเอียดของคู่กรรม ก็ได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณเรียว กิตติกร (ผู้กำกับ) ที่บอกว่า เขาตัดสินใจที่จะเลือกเล่าเฉพาะครึ่งหลังของนวนิยาย คือเน้นเรื่องความรักของสองคนมากกว่า โดยเล่าเรื่องเหตุการณ์สำคัญไปแบบผ่านๆ

 

คู่กรรม สปอยหนัง

บทจะสยิวชวนกรี๊ดสักหน่อยกับฉากเลิฟซีนอันลือลั่น ก็ดันแป้กซะอย่างงั้น ก็คุณเรียวจิตสัมผัสใช้วิธีถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการเคลื่อนกล้องเนิบนาบ เดินภาพเกี้ยวพาราสีกันอันยาวนาน มุดกันไป มุดกันมา เล่นเอาคนดูลุ้นจนเยี่ยวเหนียว ออกอาการเหนื่อยหน่ายกันไป เท่านั้นยังไม่พอ เราแถมความน่าอึดอัดให้เป็นของกำนัลอีกต่างหาก….แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยๆ โกโบริก็สอนให้เรารู้ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ดูท่าก็คงจะสำเร็จไปหลายรอบอยู่เหมือนกันนะคืนนั้น
คนน่าเห็นใจนอกจาก ณเดชน์ที่แบกรับหนังทั้งเรื่อง และผู้ชมที่สละตังค์ตีตั๋วเข้าไปดูแล้ว คงหนีไม่พ้นคุณ(ระ)ทมยันตี เพราะหนังทำเอาความขลังและเสน่ห์บทประพันธ์ของท่านอันตธานหายไปในทันใด แล้วแทนที่ด้วยความเครดิตต้นเรื่อง แนวสดใสสไตล์อาโนเนะ ลายเส้นคุ้นตาคล้ายอนิเมชั่นญี่ปุ่น ดนตรีประกอบฟังให้ความรู้สึกรื่นเริงบันเทิงใจ ราวกับว่า ได้ย้อนกลับไปวัยเด็กเมื่อครั้งนั่งใจจดใจจ่อหน้าจอทีวีรอดูช่อง 9 การ์ตูน เฮ้ย! นี่ฉันกำลังดู “โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ตอน โนบิตะตะลุยรักสาวไทยหัวใจหิน” หรือเปล่านะ

 

คู่กรรม เวอร์ชั่นณเดชน์แสดง

ความดีความชอบของคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้ก็ใช่ว่าจะหาไม่เจอ ซึ่งนอกจากความอลังการของโปรดักชั่นแล้ว ดูหนังออนไลน์ สิ่งที่โดดเด้งเด่นสุดตกอยู่ที่การแสดงของ ณเดชน์ ช่างดูลื่นอย่างกับปลาไหล รักแทบตายสุดท้ายหลุดมือ (เอ่อ เข้าเรื่องกันต่อดีกว่า)….ความสมจริงไม่ว่าจะท่าทาง น้ำเสียง เขาเป็นนายทหารญี่ปุ่นผู้ไร้พิษภัยจนเชื่อสนิทใจ

ขณะที่ฝั่งของนางเอกน้องใหม่ถอดด้ามอย่าง ริชชี่ (อรเณศ ดีคาบาเลส) การแสดงของเธอก็ดูเป็นธรรมชาติมากๆ เปรียบเหมือนได้สัมผัสหินผา ขอนไม้ ก็ไม่ปาน จะแข็งอาร๊ายยยขนาดนั้น คาดว่าน่าจะเป็นการตลาดแบบแพ็คเกจคู่ของคุณอัย ศุภเช ที่พยายามใช้พระเอกดังดันดาราหน้าใหม่ให้รุ่ง อย่างที่เคยทำกับ อั้ม พัชรราภา – เคน ภูภูมิ จนสำเร็จมาแล้วจากหนังเรื่อง “30กำลังแจ๋ว”

แต่สำหรับความเป็นมือใหม่ของ ริชชี่ นั้นอาการค่อนข้างหนักทีเดียว บอกได้เลยว่า ต่อให้ณเดชน์บวกฟองน้ำเสริมพิเศษอย่างหนามาช่วยก็คงจะเป็นปฏิบัติการดันอันแสนลำบากยากเย็นพอดู เพราะอารมณ์และสีหน้าเธอแบนราบเรียบจริงๆ แต่คุณเรียวก็แสดงศักยภาพอันน่าเลื่อมใส ด้วยการให้ผู้ชมได้ยินเสียงในหัวว่า ริชชี่เธอคิดอะไรอยู่ เพราะตามคาแรกเตอร์ อังศุมาลิน จะเป็นสาวที่ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อนักแสดงทำสีหน้าให้เหมือนคนคิดมากไม่ได้ ก็ต้องแก้เผ็ด เฮ้ย! แก้ไขด้วยวิธีการนี้แหละ

 

คู่กรรม สปอยหนัง

 

ส่วนบรรดามิตรรักแฟนคลับ ณเดชน์ แล้ว การได้เข้าไปเชยชมความหล่อผนวกฝีมือการแสดงที่เข้าขั้นก็คงจะคุ้มค่าทุกนาทียิ่งกว่าดูทีวีสีช่อง3 เสียอีก เว็บดูหนังฟรี บทบาทโกโบริที่เขาสวมนั้นดุจดั่งบ่อน้ำในทะเลทรายของหนังคู่กรรมก็คงไม่ผิดอะไร แม้ท้ายที่สุดหนังจะตกม้าตายในฉากจบ แต่ถือว่าพระเอกหนุ่มของเราทำหน้าที่ตัวเองได้ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวแล้ว

ที่ลืมไม่ได้ ซีนสารภาพรักหลังโกโบริโดนบึ้มนั้นถือเป็นอีกหนึ่งฉากไฮไลท์ของเรื่องที่แฟนๆ รอชม ณเดชน์ดึงอารมณ์ผู้ชมจนเกือบจะทะลักพลุ่งพล่านถึงฝั่งฝันอยู่แล้วเชียว ดันต้องมาสะดุดตอติดขัดคัดจมูก เพราะความแข็งของไอรอนเกิร์ลอังศุมาลิน…ว่าแต่มีใครสงสัยมั้ยว่า มันระเบิดยังไงกันถึงทำให้ร่างพ่อโกโบริกระเด็นกระดอนขึ้นไปนอนค้างให้ไม้ทิ่มท้องอยู่บนจอมปลวกได้เนี๊ยะ งงจุงเบย คู่กรรม 2533

เมื่อจอหนังมืดดับลง ในใจก็ครุ่นคิดหนักอกไม่รู้ว่า หลังก้าวเท้าออกจากโรงไปแล้ว ณเดชน์ หรือ ริชชี่ กันแน่ที่ตายตอนจบ เฮ้อออออออ “คู่” กรรมแท้ๆ

 

คู่กรรม สปอยหนัง

เราจะเห็นว่าการประชาสัมพันธ์ต่างๆ นั้น ให้ความรู้สึกเป็นหนังรักที่ไม่สมหวัง ที่ถือเป็นทิศทางการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้องและเข้ากับเรื่องราวใน ดูหนังฟรี คู่กรรม ซึ่งจุดนี้ต้องชื่นชมทีมประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ตีโจทย์ได้แตก (อย่าลืมว่าบทประพันธ์เรื่องนี้จบด้วยโศกนาฎกรรม) แต่กับการเปิดเรื่องในหนังด้วยภาพและดนตรีอันสดใส ราวกับหนังรักวัยรุ่นจึงเป็นอะไรที่สร้างความเคลือบแคลงขึ้นมาในใจมาหนัง มุ่งไปยังทิศทางที่ถูกต้องแน่หรือ?

อย่างที่ทราบว่าบทประพันธ์ คู่กรรม นั้นเป็นของ ทมยันตี นักเขียนนิยายระดับตำนานของไทย เป็นเรื่องราวความรักบนเส้นขนานระหว่างหญิงชาวไทย อังศุมาลิน (อรเณศ ดีคาบาเลส) และโกโบริ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ลงท้ายคือโศกนาฎกรรมที่ทำให้ใครหลายคนต้องเสียน้ำตา

ซึ่งฉบับนี้ผู้กำกับ กิตติกร เลียวศิริกุล เลือกที่จะนำเสนอในแบบหนังรักเต็มรูปแบบ โดยเน้นไปที่สองพระนางและตัดปัจจัยอื่นๆ ออกไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและหากทำได้ถึงก็จะเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับ เรื่องคู่กรรม แต่กระนั้นด้วยความซับซ้อนของบทประพันธ์ ที่มีเรื่องของการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวละครหลักที่มีจำนวนพอสมควร การนำเสนอที่หวังจะมีเพียงแต่โกโบริและอังศุมาลิน ทำให้ตัวละครตัวอื่นนั้นแบนราบ!

 

 

คู่กรรมฉบับนี้เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของโกโบริเป็น หลัก (ซึ่งหนังกำหนดทิศทางนี้มาตั้งแต่ต้นเรื่อง) และใช้เสน่ห์ของคู่พระนางได้ดี โกโบริ ดูเป็นชาวญี่ปุ่นซื่อๆ จริงใจ ในขณะที่อังศุมาลินก็ดูเป็นสาววาจาห้วนๆ เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งในตัว แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป บทบาทของโกโบริค่อยๆ เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้กำกับเน้นนำเสนอเรื่องราวในมุมของโกโบริมากกว่า

ณเดชน์มอบบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมผิดคาด กับการพูดในสำเนียงติดญี่ปุ่นและดวงตาที่สื่ออารมณ์ได้โดยไม่ต้องเอ่ยประโยคอะไร แต่กับอรเณศต้อง ถือเป็นความโชคร้ายที่การตีความบทอังศุมาลินของผู้สร้างไม่เอื้อให้เธอแสดง ศักยภาพออกมาเท่าที่ควร และในเมื่อคู่กรรมฉบับนี้เลือกที่จะเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของโกโบริเป็น หลัก (ซึ่งหนังกำหนดทิศทางนี้มาตั้งแต่ต้นเรื่อง) การใส่เสียงความคิดของอังศุมาลินเข้ามาจึงเป็นอะไรที่ขัดแย้งและไม่ได้ช่วย ให้เข้าใจตัวละครอังศุมาลินมากขึ้น คู่กรรม เบิร์ด

หนังมีปัญหาพอสมควรกับการลำดับเรื่องรวมถึงการลงรายละเอียดเพื่อที่จะให้ ผู้ชมเข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันมีความหมายและส่งผลต่อตัวละครในเรื่องอย่างไร จนอาจทำให้คนที่ไม่รู้จักเรื่องราวคู่กรรมมาก่อนเกิดความสงสัยว่าอะไรกำลัง เกิดขึ้นในหนัง! แม้หนังจะค่อยๆ เผยเหตุปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ความรักระหว่างโกโบริและอังศุมาลินไม่สมหวัง แต่ด้วยบทภาพยนตร์ที่มีปัญหาหนังจึงไม่สามารถพาผู้ชมให้รู้สึกอินไปกับความ รักของเขาและเธอ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ได้มากพอจนเป็นที่น่าเสียดาย

 

หนังเก่าที่มีความโรแมนติกมาก

คู่กรรม สปอยหนัง ผู้เขียนกล้าเอ่ยปากอย่างมั่นใจว่า สิ่งที่ปรากฏมันมีทั้งความบริสุทธิ์ใจซึ่งเกิดขึ้นได้จากความไม่ชอบในตัวหนัง และผู้คลั่งไคล้นวนิยายต้นฉบับ แต่ที่ประหลาดและเคลือบแคลงสงสัยคือมันมีการทำงานหรือวิจารณ์อย่างจงเกลียดจงชังจนอาจเรียกได้ว่านี่คือการวิจารณ์อย่างไม่สร้างสรรค์และมีผลประโยชน์เคลือบแฝงทับซ้อนอย่างที่บุคคลทั่วไปเช่นผู้เขียนจะสามารถเข้าใจได้แต่หากใครที่เข้ามาอยู่ในยุทธจักรเช่นนี้ย่อมรู้ดีว่า

ก่อนหน้านี้สังคมเว็บบอร์ดแห่งนี้ก็ไม่ได้สะอาดเท่าไหร่ มันเป็นที่แหล่งรวมพลของคนมุ่งร้ายเพื่อความสะใจ(บางกลุ่ม) และสันนิษฐานว่ายังเป็นที่ทำการตลาดของค่ายหนัง เพื่อขจัดกระแสวิจารณ์แง่ลบออกไปเพื่อหวังสร้างกระแสชื่นชมปากต่อปากเพื่อกอบโกยรายได้มาอย่างนมนาน หรือผู้เขียนอาจจะทึกทักเอาเองได้ว่ามีตำแหน่งนักสร้างกระแสทางเว็บบอร์ดมืออาชีพกันเลยทีเดียว

 

 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับค่ายหนัง M39 ในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ต้องจดจำเอาไว้อย่างแยบยล เพราะนอกจากไม่สามารถทำให้เกิดการชื่นชมตัวหนังได้อย่างสะอาด ยังถูกรังควานไปถึงตัวค่ายเองด้วยซ้ำ หรือกล่าวง่ายๆว่า กระแสลบในครั้งนี้ มีผู้คนไม่ปรารถนาดีพยายามจะปลุกกระแสเพื่อบอกว่าภาพยนตร์ของค่าย M39 จะย่ำแย่ตลอดไป (นี่ถือเป็นการหาโอกาสตัดแข้งตัดขาทางธุรกิจเลยทีเดียว) นี่ยังไม่นับก๊กเหล่าที่เกิดขึ้นในส่วนของแฟนคลับที่หลากหลายหลากเหลื่อนจนทำให้ลดทอนความสร้างสรรค์ที่จะเกิดการวิจารณ์เพื่อให้เกิดพัฒนาต่อวงการภาพยนตร์ได้ คู่กรรม 1990

สุดท้ายนี้ ถ้า “คู่กรรม” ฉบับคุณเรียว เป็นการตีความใหม่ของหนังล่ะก็ ดูหนัง งั้นผมขอฝากผลงานการตีความใหม่ของเพลง “ฮิเดโกะ” ดูซิของใครจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนกว่ากัน (แปลงตามฮุคสุดท้ายในทำนองเพลงญี่ปุ่นนะ)
คู่กรรม ฉบับปี พ.ศ. 2556 ถือเป็นหนังที่มาพร้อมกับความคาดหวัง และเป็นภาระอันหนักอึ้งของทุกภาคส่วนแห่งค่าย M๓๙ เพราะเรื่องนี้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดที่ค่าย M๓๙ เคยทำมา ที่หากผลลัพธ์ออกมาไม่ดีพอ ทั้งในแง่ของคำวิจารณ์จากผู้ชมและตัวเลขรายได้ก็อาจทำให้ถึงกับเสียสูญหรือ เสียความมั่นใจที่เคยสั่งสมมาได้เหมือนกัน แต่หากผลลัพธ์ไปในทางบวก คู่กรรม แห่งปี พ.ศ. 2556 ก็จะเป็นภาพยนตร์ที่ช่วยส่งให้ค่ายหนังยกระดับขึ้นไปอีกขั้น! คู่กรรม เพลง

สปอยหนัง the marksman

สปอยหนัง the marksman

สปอยหนัง the marksman

 

 

ประเภท : ภาพยนตร์อเมริกัน, แอ็คชั่นและผจญภัย

ทีมผู้สร้าง : กำกับโดย โรเบิร์ต ลอเรนซ์, เขียนบทโดย โรเบิร์ต ลอเรนซ์, คริส ชาร์ลส์, แดนนี่ คราวิตซ์, เตเรซ่า รุยซ์

นักแสดง : เลียม นีสัน, แคธริน วินนิค, ฮวน พาโบล ราบา, เจค็อบ เปเรซ

ระยะเวลาการรับชม : 1 ชั่วโมง 47 นาที

ช่องทางการรับชม : Netflix

ระดับความเหมาะสม : 16+

สปอยหนัง สัปดาห์นี้ มีภาพยนตร์เรื่อง “คน ระ หํ่า พันธุ์ระอุ” หรือ “The Marksman” มาฝากกันค่ะ ภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยของนักแสดงฝีมือดี เจ้าพ่อหนังแอ็คชั่น เลียม นีสัน ผลงานของผู้กำกับ โรเบิร์ต ลอเรนซ์ ที่อดีตเคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับคู่ใจของ คลินท์ อีสต์วูด และเป็นเจ้าของผลงานอย่าง Gran Torino, The Hurt Locker และ American Sniper เพิ่งปล่อยสตรีมมิ่งให้รับชมได้ไม่กี่วันแต่กระแสดี จนติดอันดับสองหนังน่าดูใน Netflix ว่าแล้วไปติดตามรีวิวภาพยนตร์เรื่องนี้กันค่ะ
ปีที่ออกอากาศ : 2021

 

เรื่องราว the marksman

 

สปอยหนัง the marksman

 

เรื่องราวของจิม แฮนสัน อดีตทหารราบของกองทัพเรือสหรัฐ มีฝีมือด้านการต่อสู้แต่รักสงบ หาเลี้ยงชีพด้วยการทำไร่ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนสหรัฐ คอยสอดส่องดูคนลักลอบเข้าประเทศและโทรแจ้งตำรวจชายแดน วันหนึ่งได้เจอเข้ากับโรซ่าและมิเกล สองแม่ลูกที่พยายามหนีแก๊งค้ายา ข้ามประเทศมาอเมริกา เพราะความต้องการเงินไปใช้หนี้บ้านที่กำลังจะถูกยึด จิมจึงตัดสินใจช่วยเหลือมิเกล ด้วยการขับรถไปส่งจุดหมายปลายทางที่เมืองชิคาโก้ แต่แก๊งมาเฟียก็ตามไล่ล่ามิเกล จิมจึงพยายามทุกทางเพื่อช่วยเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์คนนี้ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

สปอยหนัง the marksman

สปอยหนัง the marksman เป็นหนังแอ็คชั่น สไตล์เลียม นีสันอย่างแท้จริงประมาณว่าพระเอกเป็นยอดคนเก่ง เก่งการต่อสู้ ไม่หาเรื่องใคร อยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ แต่อยู่ ๆ ก็มีคนมาสะกิด มาแหยม จนต้องออกโรงต่อสู้ เรียกว่าออกโรงเมื่อไร่แกตายแน่ 555 อะไรทำนองนั้น ถ้าใครชอบเลียม นีสัน เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะลุงแกเหมาะกับบทอย่างนี้จริง ๆ บทฮีโร่ แอ็คชั่น ยิง เตะต่อย บางซีนไม่ได้แอ็คชั่นอะไรมาก แต่ก็เท่ ๆ เก๋า ๆ ตามสไตล์ ดูเพลินอยู่

 

สปอยหนัง the marksman

 

แต่ถ้าไม่ได้เป็นแฟนเลียม นีสัน หรือว่าก็ชอบเลียมอยู่นะ แต่ดูกี่ทีก็สไตล์เดิม ๆ ชักเบื่อ เรื่องนี้ควรจะดูไหม อาจต้องคิดนิดนึง เพราะว่าแอ็คชั่นมีพอประมาณ ไม่ได้เยอะแน่นๆ (แต่ตอนที่เป็นแอ็คชั่นก็มันส์ลุ้นระทึกอยู่) แต่ส่วนใหญ่การดำเนินเรื่องจะเรื่อย ๆ เน้นให้ติดตามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เนื้อเรื่องไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แต่จุดเล็กจุดน้อยที่ใส่มาก็น่าสนใจดี ลุ้นตลอดแต่ไม่ได้บีบหัวใจ อย่างตอนท้ายเรื่อง จากที่ต้องเดินทางไปเมืองชิคาโก้ แต่เหลืออีกไม่กี่นาทีหนังจะจบแล้วตัวละครก็ยังอยู่เมืองเท็กซัสกันอยู่ ตอนดูเลยแอบคิดว่าสรุปจะตายกันหมดก่อนไปถึงใช่ไหมเนี่ย? คน ระห่ำ พันธุ์ ระเบิด พากย์ ไทย

นักแสดงนำ the marksman

Liam Neeson | เลียม นีสัน รับบทเป็น จิม แฮนสัน อดีตนาวิกโยธินผู้รักสงบและอดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม หลังเกษียณเลือกมาทำไร่ เลี้ยงวัวในรัฐแอริโซนา มีปัญหาหนี้สินจากค่ารักษาพยาบาลของภรรยาที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง จึงตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตัวเองเข้าไปพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติด เลียม นีสัน นักแสดงชาวไอร์แลนด์ เจ้าพ่อแอ็คชั่นขาโหดที่หลายคนรู้จักจากเรื่อง Taken I, II, III ในเรื่องนั้นต้องปกป้องลูกตัวเอง แต่ในเรื่องนี้ต้องปกป้องลูกคนอื่น ถึงปีนี้จะอายุ 69 ปีแล้ว แต่ความบู๊ โหด เข้ม ยังร้อนระอุ ทั้งแตะต่อย ปืนสั้น ปืนยาว ขับรถไล่ล่า ก็ทำลุ้นมันส์อยู่ ถึงเรื่องนี้จะไม่ได้บู๊แน่น ๆ ตลอดเรื่อง แต่ก็จัดว่าเป็นนักแสดงที่เก๋าเกมส์ แน่นไปด้วยประสบการณ์ ซีนที่ไม่ได้บู๊ก็ดูอบอุ่นเหมือนคุณปู่กำลังปกป้องหลาน

เลียม นีสันKatheryn Winnick | แคธริน วินนิค รับบทเป็นซาร่าห์ ลูกติดภรรยาของจิม ทำงานเป็นตำรวจสังกัดกรมศุลกากรและปกป้องพรมแดนแอริโซนา รักและห่วงใยจิมเหมือนพ่อ แต่ก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ หลายคนอาจจำสาวสวยคนนี้ได้ในบท Lagether จากซีรีส์เรื่อง Vikings ในภาพยนตร์คนระห่ำ พันธุ์ระอุ สลัดลุคผมเผ้ายุ่งเหยิงออก ดูสวยเท่เหมาะกับบทตำรวจหญิงอยู่นะ

 

สปอยหนัง the marksman

 

แคธริน วินนิคJuan Pablo Raba | ฮวน พาโบล ราบา รับบทเป็น โมริชิโอ เกอเรโร่ เข้าร่วมแก๊งมาเฟียตั้งแต่เด็ก เป็นทหารแก๊งค้ายาเสพติดวาสเคซในเม็กซิโก โหด ฆ่าได้ฆ่า ตามไล่ล่าโรซ่าและมิเกล ครอบครัวของคนที่ขโมยเงินค้ายาจากแก๊งวาสเคซ เรื่องนี้แปลงโฉมจนเกือบจำไม่ได้ มีใส่ฟันเหล็ก รอยสัก หน้าตามีแผล ดูโหดสมคาแรกเตอร์

ฮวน พาโบล ราบาJacob Perez | เจค็อบ เปเรซ รับบทเป็น มิเกล เด็กน้อยลูกชายของโรซ่า เป็นเด็กเรียนดี นิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ก็มีความกล้าหาญ ได้รับการช่วยเหลือจากจิมในการเดินทางไปหาญาติที่ชิคาโก้ และ Teresa Ruiz | เตเรซ่า รุยซ์ รับบทเป็นโรซ่า แม่ของมิเกล สาวเม็กซิกันสุดอึดพาลูกชายหนีแก๊งค้ายาจากเม็กซิโกมาอเมริกา the marksman คนระห่ำ พันธุ์ ระอุ 2021 037

 

สปอยหนัง the marksman

 

 

เนื้อเรื่องบางเรื่องก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผล ขาดความสมจริงไปเยอะอยู่ ทั้งเรื่องก็เห็นจะมีเลียม กับ แคธรินที่แสดงพอจะสมบทบาทสักหน่อย ส่วนคนที่เหลือก็แสดงกลางๆ บางคนก็มีหลายซีนที่ไม่สมบทบาทเอาซะเลย ดูแล้วไม่อิน อย่างตอนที่น้องชายถูกยิงตาย โมริชิโอ น่าจะโกรธและเล่นใหญ่หน่อยไหม หรืออย่างมิเกลตอนที่โรซ่าตาย น่าจะร้องไห้ฟูมหายที่แม่ตายหน่อยไหม มีอีกหลายซีนที่ดูแล้วแอบขัดใจ แต่อย่างที่บอก ที่ดูก็เพราะป๋าเลียมคนเดียวเลย จะเรียกว่าแกคนเดียวเอาอยู่ทั้งเรื่องก็ถูกนะ หลังดูจบอยากกินแฮมเกอร์กับฮอทด็อกชิคาโก้ ใครเป็นบ้าง

 

ให้คะแนนหนังเรื่อง the marksman 7/10

 

 

สปอย the marksman เอาเป็นว่าใครชอบเลียม นีสันหรือกำลังหาหนังดูฆ่าเวลา ก็ให้คนระห่ำ พันธุ์ระอุ เป็นตัวเลือกละกัน เป็นหนังแอ็คชั่นที่ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เจ็บหัว! เปล่าๆ แอ็คชั่นไล่ล่าสนุก มันส์ ขับรถข้ามเมือง กับเวลา 1 ชั่วโมง 47 นาทีดูเพลินๆ ไม่หลับ ให้คะแนน 7/10 สามารถรับชมได้ทาง Netflix มีพากย์ไทย คนระห่ำ พันธุ์ระอุ 037

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

 

สปอยหนัง ‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’ เป็นภาพยนตร์ Netflix Original แนวดราม่า-ระทึกขวัญผลงานล่าสุดของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ พิม (รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และ พัท (รับบทโดย แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับตา (รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล) และยาย (รับบทโดย ทาริกา ธิดาทิตย์) ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เพราะแม่ (รับบทโดย นิโคล เทริโอ) ประสบอุบัติเหตุนอนโคม่า แต่เมื่อย้ายเข้าไปในบ้านทั้งสองก็ได้พบกับรูหลอนปริศนา ที่เรียกพวกเขาไปพบกับความจริงบางอย่างที่ซ่อนไว้

เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไปและไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว

 

เนื้อเรื่อง ปริศนารูหลอน

The Whole Truth เรื่องย่อ ปริศนา รูหลอน หนังผีไทยเรื่องล่าสุดจาก Netflix กำกับโดย วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง กับนักแสดงนำ กับ ปันปัน สุทัตตา เรื่องราวของรูลึกลับบนกำแพงบ้านตายายที่สองพี่น้องไปพบเจอ และกลายเป็นจุดเริ่มการเผยความลับดำมืดของครอบครัวนี้

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

หนังผีไทยของ Netflix เรื่องที่ 3 ต่อจาก สาวลับใช้ กับ GHOST LAB ซึ่งคราวนี้ได้ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับดังจากหนังผีขึ้นหิ้งของไทยอย่าง เปนชู้กับผี ซึ่งตัวผู้กำกับเองมีงานหลากหลายแนว แต่ช่วงหลังจะเน้นจับแนวผีสยองขวัญเป็นหลักอย่าง รุ่นพี่, สิงสู่ มีเขียนนิยาย รุ่นน้อง ภาคต่อจากหนังรุ่นพี่ด้วย (มีคุมงานหนังเน็ตฟลิกซ์เรื่อง DEEP ด้วย) ซึ่งเท่ากับว่าผู้กำกับวิศิษฐ์ได้หันมาเอาดีด้านนี้จริงจัง อาจจะเพราะหลังจากอกหักจากหนังอินทรีแดงที่ไม่สามารถทำภาคต่อได้ ในฐานะที่เป็นแฟนผลงานของผู้กำกับคนหนึ่ง ผู้เขียนจึงค่อนข้างคาดหวังกับงานนี้ไว้มากว่าอาจจะเป็นผลงานที่พาผู้กำกับวิศิษฐ์ให้กลับมาดังได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณอย่างที่ผ่านๆ มา กับการฉายในสตรีมมิ่งก็ไม่มีแรงกดดันเรื่องรายได้กลับมา และยังเป็นผลงานที่โกอินเตอร์ตรงๆ ผ่านเน็ตฟลิกซ์ด้วย แต่ก็ต้องบอกกันก่อนเลยว่าค่อนข้างผิดหวังหนักมากกับผลงานเรื่องนี้ของผู้กำกับวิศิษฐ์ครับ ซึ่งอาจจะเพราะบทหนังถูกเขียนโดยคนอื่นที่หน้าใหม่ด้านนี้อย่าง Abishek J. Bajaj (อภิเษก เจ บาจาช) ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นงานที่เน็ตฟลิกซ์ส่งต่อให้ผู้กำกับวิศิษฐ์ทำ ผลงานที่ออกมาจึงดูแปลกๆ และค่อนข้างตกต่ำจากมาตรฐานผลงานดีๆ ของเขาครับ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

เนื้อเรื่องเริ่มต้นจาก พิมและพัท สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านใหม่ของตายายที่มารับตัวพวกเขาไปหลังจากแม่ประสบอุบัติเหตุรถชนกันจนต้องนอนโคม่าอยู่ในโรงพยาบาล เมื่อมาอยู่บ้านของตายายพวกเขาก็รู้สึกอึดอัดจากพฤติกรรมแปลกๆ ของทั้งคู่ และเมื่อมาเจอรูลึกลับบนกำแพงที่ส่องเข้าไปแล้วเห็นห้องประหลาดอีกด้าน ยิ่งทำให้เรื่องราวของบ้านหลังนี้ลึกลับซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน มาในเรื่องนี้บทหนังเป็นฝีมือของ อภิเษก จิรธเนศวงศ์ ซึ่งเท่าที่ทราบคือไม่มีผลงานหนังยาวก่อนหน้าให้พอเห็นฝีไม้ลายมือเลย และอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังมีผู้ร่วมเขียนบทหลายคนรวมถึงตัวผู้กำกับอย่างวิศิษฏ์ที่ต้องลงมาร่วมเขียนบทด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นลักษณะทีมเขียนบทแต่แรก หรือการเข้ามาแก้ไขบทในภายหลังเพื่อแก้ปัญหา เพราะสิ่งที่เห็นได้ชัดของหนังคือปัญหาของบท ที่ตั้งใจเป็นหนังสยองขวัญขายไอเดียและพยายามหลอกผู้ชมด้วยการหักมุมไปมา แล้วทำให้คนดูตกตะลึงกับความจริงหลังสุด แต่กลับกลายเป็นว่าไปไม่ถึงฝั่งฝันสักด้าน ปริศนา รูหนอน pantip เต็มเรื่อง

ธีมของเรื่องหนังของวิศิษฏ์ในยุคหลังมีความจิกกัดสังคม และในเรื่องนี้ก็ว่าด้วยความจริงอาจมีหลายชั้น เปลี่ยนไปตามวัยของผู้มอง และบางทีความจริงที่แท้ก็โป้ปดหลอกลวงและปรากฏแก่หน้าเรามาแต่แรกเพียงแต่เราไม่ได้สนใจจะมองเห็นมัน ซึ่งสาระนี้มีนัยของการวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในบางแง่มุมอยู่ และใครที่ชอบค้นชอบคุ้ยคิดวิเคราะห์สัญญะในหนังน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงงานก่อนหน้าของวิศิษฏ์อย่าง ‘สิงสู่’ (2561) ที่ซ่อนข้อความแรง ๆ อยู่ไม่น้อย

ฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และเป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิมและพัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิตและเพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์และการกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัว พอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสยองมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย

 

พล็อตเรื่อง ปริศนารูหลอน

ปริศนาภาพหลอน เต็มเรื่อง เปิดเรื่องด้วยชีวิตประจำวันธรรมดาของเด็กนักเรียนสองคนและแม่ของเขา เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ แวะจอดข้างทาง และพาคนดูหักเลี้ยวไปเรื่องที่ร้อยเรียงไปตามลำดับเมื่อความจริงหลังรูเล็กดำมืดค่อย ๆ เปิดเผยปริศนา ความลับดำมืดให้เห็น ดูแล้วอาจจะเหมือนภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์หักมุมทั่วไปหนึ่งเรื่อง แต่เมื่อเรามองให้ดีประเด็นสำคัญของการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่ามันสนุกแค่ไหน แต่อยู่ที่มันกำลังสื่อสารอะไรกับเราผ่านสัญญลักษณ์ในเรื่อง และเมื่อเราได้ดู ภาพที่เราเห็นในจอจึงไม่ใช่แค่ตัวละคร บ้านหนึ่งหลัง และรูหนึ่งรู แต่ขยายใหญ่กว่านั้นขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะตีความเห็นเป็นอะไร

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

 

พล็อตเรื่องถ้าดูเผินๆ อาจจะเหมือนลอกหนังฝรั่ง The Visit ของผู้กำกับเอ็มไนท์ ชมาลายาน ซึ่งก็เหมือนกันแค่พล็อตเท่านั้น แม้จะมีกลิ่นอายแนวลึกลับหักมุมเหมือนกัน แต่เนื้อในของปริศนารูหลอนแตกต่างออกไปมาก ซึ่งเนื้อหารีวิวต่อจากนี้อาจจะมีสปอยล์จางๆ ปนอยู่ด้วย เพราะยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่เขียนถึงความพยายามยำใหญ่หลายแนวของเรื่องอย่าง วัยรุ่น ผี ไซไฟ อาชญากรรม จิตวิทยา ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นสปอยล์ไปแล้วว่าเรื่องนี้เป็นการรวมหลายแนวเข้าด้วยกัน ไม่ใช่ผีหรือสยองขวัญเพียวๆ แบบหนังแนวนี้ที่ผ่านมา

 

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน

โอเคการยำรวมหลายแนวเข้าไว้ด้วยกันอาจจะเป็นไอเดียที่ดีที่ทำให้การเดินเรื่องดูหลากหลาย สามารถบิดไปมาได้ตามใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็มาในแนวแบบนั้นเลย ด้วยการวางเรื่องชีวิตวัยรุ่นเป็นตัวเปิดเรื่องให้ดูเหมือนมีปมลึกลับ จากการที่เพื่อนชายร่วมโรงเรียนของพิมมีความลับบางอย่างซ่อนไว้ และพยายามเอาจุดนี้มาข่มขู่พัทน้องชายของเธอให้ร่วมมือ ก่อนที่จะตัดไปแนวลึกลับจากการมาของตัวละครตายายปริศนา ตามด้วยการพบรูในบ้านที่โยนเข้าเรื่องผีเต็มๆ ก่อนที่จะสับขาหลอกมาเฉลยด้วยแนวทฤษฎีไซไฟ ตามมาด้วยการบิดเรื่องไปแนวล้างแค้นอาชญากรรม ก่อนจะกลับมาด้วยแนวจิตวิทยา แล้วก็สลับมาผีอีกครั้ง ซึ่งการที่เรื่องพลิกไปมาหลายแนวอย่างที่เห็น เป็นการตั้งใจให้เรื่องดูมีหักมุมซับซ้อนชวนคิดติดตาม

 

 

ซึ่งก็ได้ผลในแง่นั้น แต่ปัญหาคือการพลิกในแต่ละครั้งมันดูไม่เนียน ทื่อๆ เหมือนอยากจะยัดอะไรก็ยัดมา อย่าง เรื่องแก่งแย่งชิงตำแหน่งเชียร์ลีดเดอร์ กับช่วงที่เกิดอาชญากรรมล้างแค้นคนที่ขับรถชนแม่ของพิม สองเรื่องนี้แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเส้นเรื่องหลักเลย เป็นได้แค่เนื้อหาหลอกคนดูให้คิดว่ามีอะไรกับรูในเรื่องแค่นั้น หรืออย่างการพยายามยัดให้เรื่องผีกลายเป็นทฤษฎีรูหนอนแนวไซไฟข้ามมิติ ก็เป็นอะไรที่เรียกว่ายัดมาทื่อๆ แบบไร้ชั้นเชิงมาก โดยไม่มีที่มาที่ไปอธิบายอะไรเพิ่มเติมด้วย ก่อนที่ช่วงท้ายจะกลายเป็นแนวจิตวิทยาไปอีก เป็นความพยายามทำให้เรื่องดูซับซ้อนหักมุมสุดๆ แต่ผลที่ได้มันกลับเป็นความพยายามมากไปจนดูไม่เนียนเอามากๆ แต่อย่างน้อยก็อาจจะมีข้อดีตรงที่ แม้เรื่องจะดำเนินไปแบบหลากหลายแนวรวมกันก็ไม่ได้ดูแล้วงงหรือเข้าใจยากอะไรครับ

 

ปัญหาของบทหนัง ปริศนารูหลอน

สปอยหนัง ปริศนารูหลอน ปัญหาของบทอาจจะค่อนข้างแย่แล้ว แต่ที่แย่กว่าคือ แอคติ้งการแสดงของตัวละครทุกคนในเรื่องดูไม่เป็นธรรมชาติเอามากๆ โอเคตัวตายายที่เล่นโดย หมู-สมภพ เบญจาทิกุล กับ ก้อย-ทาริกา ธิดาทิตย์ อาจจะเป็นตัวละครที่ต้องการให้แอคติ้งออกมาประหลาดๆ ดูไม่เหมือนคนปกติอยู่แล้วเพื่อสร้างความน่าสงสัยแบบหลอนๆ ให้กับคนดู แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันออกมาประหลาดแบบแข็งๆ มากกว่าจะเป็นในแนวลึกลับน่าสงสัยแบบเนียนๆ อย่างที่ควรจะเป็น ส่วน ปันปัน สุทัตตา กับ แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทของพิมกับพัทที่เป็นตัวเอกหลักในการเดินเรื่องราวกลับแสดงออกมาแข็งๆ แอคติ้งไม่ผ่าน ประกอบกับบทพูดที่ไม่เป็นธรรมชาติด้วย ทำให้ปันปันที่ว่าเป็นนักแสดงที่เก่งก็ยังเอาตัวไม่รอดในเรื่องนี้ กลายเป็นเหมือนกำลังเล่นหนังเกรดบีท่องบทพูดไปแทน ซึ่งเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก แอบแถมด้วยว่าแม้แต่บทแมว “ลาเต้” ในเรื่องที่ดูเหมือนมีความสำคัญ เพราะมีการใช้ภาพแมวตัวนี้ขึ้นในโปสเตอร์โมทโมทเรื่องด้วย แต่ก็กลับไม่ได้ใช้แมวตัวนี้ให้เป็นส่วนสำคัญกับเรื่องเลย

 

 

นอกจากข้อเสียที่ว่ามาแล้ว ในเรื่องยังมีส่วนที่แอบน่ารำคาญอยู่ด้วยจากการใช้เสียงซาวเอฟเฟ็กต์ประกอบแบบโฉ่งฉ่างเกินพอดีในทุกๆ ฉาก อะไรนิดหน่อยก็ใส่เข้ามาจนล้นมากเกินไป และฉากผีในเรื่องก็ออกมาแบบซ้ำๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไรแล้วกับแนวผีคลานเหมือนพวกผีญี่ปุ่น กับเล่นเรื่องอ๊วกเป็นเลือดวนไปวนมา ซึ่งก็เป็นคำใบ้ของเรื่องว่าสุดท้ายแล้วพอเฉลยมาคนดูจะเข้าใจว่าทำไมผีต้องทำอะไรซ้ำๆ แบบนั้น แต่มันก็กลายเป็นข้อเสียไปด้วยเมื่อไม่สามารถครีเอทฉากผีหลอกเว่อร์ๆ ไปกว่านั้นได้จากข้อจำกัดที่ว่าครับ ถามว่าน่ากลัวไหมก็น่ากลัวพอประมาณ แต่ก็ไม่ได้มีฉากน่าจดจำด้วยเช่นกัน

สรุปว่าไม่ผ่านจริงๆ แม้ตัวหนังอาจจะดูได้ไม่แย่แบบเกินทนอะไร แต่พอดูจบก็รู้สึกเสียดายเวลากับความคาดหวังก่อนดูมาก ซึ่งถ้าใครต้องการดูแบบฆ่าเวลาก็คงดูได้ แต่ถ้าให้แนะนำก็คงต้องบอกผ่านเลยกับเรื่องนี้ครับ ปริศนา รู้ หลอน 123HD

สปอยหนัง 4 Kings

สปอยหนัง 4 Kings

สปอยหนัง 4 Kings

 

 

ประเภท: ดราม่า / อาชญากรรม

ผู้กำกับ: พุฒิพงษ์ นาคทอง

นำแสดงโดย: อารักษ์ อมรศุภศิริ, อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี, ภูมิ รังษีธนานนท์, ณัฏฐ์ กิจจริต

ความยาว: 139 นาที

กำหนดฉายในไทย: 9 ธันวาคม 2021 (ในโรงภาพยนตร์)

 

เรื่องย่อ 4 Kings

สปอยหนัง เรื่องย่อ: จากเหตุการณ์จริงของเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่าง 4 สถาบัน สู่ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตที่พวกเขาได้พบเจอ เมื่อความคึกคะนองในช่วงวัย สร้างมิตรภาพ และศัตรูมาพร้อมกัน
เป็นอีกโปรเจกต์หนังที่ใช้เวลาเดินทางมาอย่างยาวนานทีเดียวกว่าที่ พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับที่จบจากวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธารามจะเริ่มไล่ล่าความฝันการเป็นนักสร้างหนัง โดยไต่เต้าจากเด็กกองจนมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ได้ในที่สุด และเขาก็พกพาเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังมาในสมัยเรียนเขียนออกมาเป็นบทหนังออกเร่หาทุนเป็นเวลาหลายปีจนแทบนึกว่าโครงการจะล่มไปเสียแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ได้มาทำหนังยาวกับค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม จำกัด ค่ายหนังไทยหน้าใหม่ที่ดูมีวิสัยทัศน์น่าสนใจทีเดียว

 

สปอยหนัง 4 Kings

 

และอาจด้วยการฝ่าฟันผลักดันความฝันนี้มาอย่างยาวนาน เหมือนว่าเรื่องที่เขาอยากเล่ามันได้ถูกเคี่ยวถูกบ่มจนได้ที่ เค้นเนื้อเน้น ๆ ดีกรีแรงออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ ถ้าถามว่าความรู้สึกมันคล้ายหนังเรื่องไหน ก็คงเป็น ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ ในแบบฉบับที่จริงจังขึ้น และคมคายสมจริงขึ้นตามยุคสมัย ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

จุดเด่น 4 Kings

จุดเด่นของหนังคือการได้เด็กช่างตัวจริงที่ไปคลุกวงในเด็กช่างเด็กเทคนิคยุค 90s มาจริง ๆ จนได้วัตถุดิบที่สมจริงมาปรุงการเล่าเรื่อง แต่ละรายละเอียดในหนังเป็นการผสมผสานหลากหลายชีวิตและบทเรียนจากคนมากมายกว่าจะนำมาผูกสร้างเป็นตัวละครแต่ละตัว แม้จะยืนพื้นจากบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงและหลายคนก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ทว่าผู้กำกับก็ฉลาดพอที่จะทำให้มันเป็นเรื่องแต่งเพื่อไม่ให้กระทบคนจริง ๆ ที่ว่ามา และในแง่ดีคือมันใส่ลูกขยี้ลูกดราม่าชีวิตบัดซบให้ตัวละครได้มากขึ้นด้วย

 

สปอยหนัง 4 Kings

 

ต้องชมอย่างแรกเลยคือ การคัดเลือกนักแสดงมาเล่น ถือว่าดีมาก ๆ ไม่เห็นการคัดแบบเข้าท่าเข้าทางยกทีมยกเรื่องขนาดนี้มานานแล้ว ด้วยจำนวนตัวละครที่ค่อนข้างมากในเรื่อง ทีมสร้างจึงเลือกให้ศูนย์กลางเรื่องราวอยู่ที่ตัวละคร บิลลี่ อินทร ของ จ๋าย ไทยทศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ที่เป็นเหมือนผู้นำพาผู้ชมไปรู้จักโลกของเขาที่มีเพื่อนสนิท 2 คนคือ ดา อินทร ที่รับบทโดยเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ที่เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นใหม่และเป็นหัวโจกของกลุ่มเพื่อน และอีกคนคือ รูแปง อินทร ที่รับบทโดย ภูมิ ภูมิ รังษีธนานนท์ ซึ่งเป็นตัวแสบในกลุ่มโรงเรียนอินทรอาชีวะ

 

สปอยหนัง 4 Kings

จริงแล้วชื่อ 4 kings ตัวจริง ก็บอกในตัวอยู่แล้วว่ามี 4 สถาบันที่เป็นคู่แค้นกัน แต่เรื่องราวจะเล่าผ่านสายตาฝั่ง อินทรอาชีวะ เป็นหลัก โดยเจาะไปที่คู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เทคโนโลยีประชาชล (ซึ่งเพี้ยนชื่อมาจากของจริงคือ เทคโนโลยีประชาชื่น) ที่มีตัวละครนำอย่าง มด ชล หัวโจกของกลุ่ม รับบทโดย โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ และ โอ๋ ชล ที่เป็นเหมือนมือขวารับบทโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต

และจะยังมีอีก 2 สถาบันสุดแสบอย่าง กนกอาชีวะ และช่างกลบุรณพนธ์ เป็นตัวสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ โดยเล่าผ่านตัวนำอย่าง บ่าง กนก ที่รับบทโดย แหลม สมพล รุ่งพาณิชย์ หรือ แหลม 25Hours และ เอก บู รับบทโดย ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ ซึ่งหนังฉลาดในการค่อย ๆ พาจากกลุ่มอินทรไปรู้จักกลุ่มอื่น ผ่านตัวละครของบิลลี่ที่มีเหตุให้ต้องเข้าไปร่วมหัวจมท้ายกับ โอ๋ ชล และ เอก บู ในช่วงเวลาหนึ่ง

และยังฉลาดในการใส่ตัวละครตัวป่วนที่เข้าไปปั่นสถานการณ์ให้วุ่นวายหนักข้อโดยไม่เลือกหน้าอย่างกลุ่มเด็กเจ้าถิ่นที่เรียกว่าเด็กบ้านที่นำแก๊งโดย ยาท เด็กบ้าน รับบทโดย บิ๊ก อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล หรือ D Gerrard และเมื่อหนังแนะนำตัวละครสำคัญ ๆ ได้ครบ ทั้งยังให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่บ้างเป็นศัตรูอยู่ร่วมโลกไม่ได้ บ้างเป็นศัตรูที่ยอมรับให้เกียรติกัน บ้างก็เป็นมิตรที่อยู่คนละขั้วและต้องเลือกอยู่เสมอว่าระหว่างสถาบันกับเพื่อนน้ำหนักสิ่งไหนสูงกว่ากัน ซึ่งทำให้เนื้อหามันมีมิติความซับซ้อนที่ดีพอจะทำให้เกิดสถานการณ์ชวนเอาใจช่วยตัวละครมากมาย

 

สปอยหนัง 4 Kings

 

และที่ชอบมากอีกประการคือการสร้างบทสนทนา หนังเรื่องนี้มีบทสนทนาที่ดีมาก ๆ เกิดขึ้นระหว่างความขัดแย้งของตัวละครที่คมคายมาก ๆ ไม่ใช่เพียงระหว่างศัตรู แต่ระหว่างลูกกับพ่อแม่ เพื่อนกับเพื่อน ครูกับศิษย์ คนรักกับคนรัก และแม้ตัวเรื่องมันจะเป็นอะไรที่ดราม่าเชย ๆ แบบที่เราเห็นในหนังสะท้อนสังคมแทบทุกเรื่อง ทว่าบทสนทนาในเรื่องกลับทำให้มันแตกต่างและน่าจดจำอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่สำคัญมันไม่ได้แค่ชวนคิดชวนถกเถียงเท่านั้น แต่มันยังเปี่ยมด้วยทัศนคติที่ดี และเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากพอจริง ๆ และสำคัญอย่างยิ่งที่มันไม่ได้ตัดสินตัวละครจากสิ่งที่สังคมให้ค่าเลย ในเรื่องนี้ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เด็กก็อาจมีเหตุผลที่ดีกว่าก็ได้ในมุมมองของเขา อะไรเช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากในการเป็นหนังสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งในยุคแห่งเหตุและผลเช่นนี้

และแม้จะมีสิ่งดีมากมาย แต่หนังก็มีจุดด้อยสำคัญอยู่ นั่นคือมันไม่ตอบรับความคาดหวังของผู้ชมที่อยากดูหนังบู๊มัน ๆ แรง ๆ แบบลูกผู้ชายตามที่หน้าหนังนำเสนอไว้ได้มากพอ หนังแทบจะตัดส่วนรุนแรงอย่างภาพการตีกันแบบกดข้ามไปเลยด้วยซ้ำ และฉากใหญ่ที่คนรอคาดหวังอย่าง คอนเสิร์ตช็อต ชาร์จ ช็อก ที่เป็นตำนาน ก็แทบไม่คุ้มแก่การรอคอยเท่าไรเลย พอประกอบกับความยาวของหนังที่มากถึง 2 ชั่วโมงครึ่งแบบที่เส้นเรื่องเยอะมาก ใครหวังมาดูหนังแอ็กชันก็น่าจะมีผิดหวังไปพอสมควร แต่ส่วนตัวมองว่าใครที่ดูแล้วเอาข้อด้อยนี้มาตัดสินหนังทั้งเรื่องก็ออกจะใจร้ายไปสักหน่อย เช่นเดียวกับที่ตัวละครในหนังพูดไว้ว่า “เห็นมันเป็นอย่างนั้น ใครทำลงก็เ_ี้ยเกินไปแล้วล่ะ”

และนี่คือสิ่งสำคัญมาก ใครที่กำลังตัดสินใจไปดู ต้องเข้าใจก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอ็กชันแบบเด็กเกเรตีกันแบบพวกหนังเด็กนักเรียนญี่ปุ่นที่วัยรุ่นกำลังนิยม แต่มันคือหนังดราม่าหนังชีวิตที่เข้มข้นมาก ๆ และความรุนแรงด้านภาพก็ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญเลย เพราะความรุนแรงต่ออารมณ์และความรู้สึกผู้ชมนั้นมันสาหัสสากรรจ์กว่ามาก ๆ ต่อให้เป็นผู้ชายแมน ๆ ยังไง คุณก็มีโอกาสโดนสักฉากในหนังที่ทำเอาน้ำตาร่วงได้แน่นอน นี่จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วจะอยากบอกต่อใครสักคนเลยว่า ของมันดีจริง ๆ

 

สปอยหนัง 4 Kings

องค์ประกอบต่างๆ ใน 4 kings อาชีวะยุค 90’s เต็มเรื่อง อาจจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เพราะยังคงมีช่องว่างและจุดโหว่ปะปนอยู่ตลอดทาง แต่เนื้อหาที่เข้มข้นของหนังก็สามารถช่วยกลบเกลื่อนอุดรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ผู้ชมมองข้ามไปในบางจุด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของหนังนั้น ถือว่าสอบผ่านและทำดีใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปูเรื่องราวและสร้างมิติให้กับตัวละครต่างๆ

รวมไปทั้งการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เก็บทุกเม็ดของความสภาพสังคมในยุค 90 ที่สัมผัสเห็นได้ถึงงานละเอียดที่ทีมงานและผู้สร้างบรรจงใส่มาทั้งในรูปแบบนามและวัตถุที่้ต้องขอยกนิ้วให้กับการทำการบ้านที่ดีใช้ได้อย่างหนังเรื่องนี้เลย แต่น่าเสียดายที่ในช่วงครึ่งหลังของหนังนั้น ค่อนข้างยืดเยื้อไปนิด ด้วยการใส่นู้นนี่เข้ามามากเกินจำเป็น หากมีการตัดทอนและปรุงแต่งให้กระชับกว่านี้หน่อย ลดไปอีกสัก 10 นาที เชื่อว่าอาจจะดีกว่านี้

 

 

และแน่นอนว่าจุดเด่นหลักๆ ของหนังเรื่องนี้คือทีมนักแสดง ที่ต้องยกย่องและยอมใจในการคัดเลือกแคสติ้งชุดนี้เข้ามาประชันบทบาทอย่างถึงพริกถึงขิง ทีมนักแสดงชายของหนัง 4Kings ถือว่าเป็นทีมคุณภาพชุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกเขาสามารถขับและบิวต์มิติของตัวละครที่ได้รับเป็นอย่างดี นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่หนังเรื่องนี้สามารถได้นักแสดงที่ถ่ายทอดได้เข้าถึงบทแทบจะทุกตัวละคร

เพียงลำพัง “เป้ อารักษ์” อาจจะไม่สามารถพยุงหนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องได้ ถึงแม้ว่าการแสดงของเขาจะไม่ได้แย่เลยก็ตาม แต่กลับได้พลังส่งเสริมที่ดีจากเพื่อนๆ นักแสดงสมทบ ไม่ว่าจะเป็น “ภูมิ รังษีธนานนท์” หรือ “อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี” (จ๋าย ไททศมิตร) โดยเฉพาะรายหลัง ถือว่าเป็นการโชว์ศักยภาพทางการแสดงที่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก

 

สรุป 4 Kings

หนังยังมี “โจ๊ก-อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ” ที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเขาเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทกับคาแรกเตอร์แนวนี้ได้ดีอยู่แล้ว และเขาก็ยังเล่นได้ดีตามมาตรฐาน “ทู-สิราษฎร์ อินทรโชติ” ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูได้ไม่น้อย โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่เล่นได้ดีถึงกับขนลุก แต่คนที่โดดเด่นสุดๆ ก็ต้องยกให้ “ณัฏฐ์ กิจจริต” ที่อินเนอร์แรง แอคติ้งได้ และทุกซีนที่มีเขาอยู่ด้วยนั้น ขับอารมณ์ออกมาได้ดีถึงใจ

และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เราสามารถพูดอย่าเต็มปากได้ว่า 4 kings Full Movie อาชีวะยุค 90 เป็นหนึ่งไทยที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ อีกทั้งยังเชื่อเหลือเกินว่า หนังน่าจะมีบทบาทไม่น้อยบนเวทีแจกรางวัลจากสถาบันต่างๆ ในช่วงต้นปีหน้า เพราะอย่างน้อยๆ ทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ก็คือความโดดเด่นที่ลงตัว เผลอๆ ที่นั่งประจำสาขานักแสดงนำชายและสมทบชายอาจจะถูกจับจองเอาไว้แล้ว

 

 

โดยสรุปแล้วนั้น 4 kings อาชีวะยุค 90 ถือว่าเป็นดราม่าแอคชั่นที่น่าจะมาช่วยลบคำสมประมาทและปรับทัศนคติใหม่ให้กับคนไทยที่มีต่อหนังไทยในยุคหลังๆ และนี่คือหนังไทยที่คนไทยอยากจะเห็นแบบนี้บ้าง แม้ว่าจะมานานๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปในทุกๆ องค์ประกอบ แต่จุดเด่นจุดดีของหนังก็ยังมีมากกว่าจุดด้อย เชื่อว่าตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ คนดูจะคุ้มค่าไปกับการเสพเรื่องราวของพวกเขา