Tag Archives: หนังไทยออนไลน์ฟรี

เพื่อน.. ที่ระลึก การทวงคืนคำสัญญาที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต

เพื่อน.. ที่ระลึก ภาพปก

รีวิว เพื่อน.. ที่ระลึก การทวงคืนคำสัญญาที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต

หนังไทยมาใหม่ วันนี้อยากพูดถึง ค่ายหนังไทยอารมณ์ดีขวัญใจมหาชน อย่าง GDH มักปล่อยหนังแนว Horror มาให้ผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจอยู่บ่อยครั้งและครั้งนี้ก็ไม่พลาดเลยที่จะเรียก จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ผู้กำกับร้อยล้านจาก ลัดดาแลนด์ และเป็นมือเขียนบทที่มีความสำเร็จในหนังหลายเรื่อง เช่น ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ แฝด สี่แพร่ง ห้าแพร่ง ฯลฯ การมาทำงานในโปรเจกต์ใหม่ในเรื่อง เพื่อน.. ที่ระลึก

คราวนี้ จิม โสภณ ได้เลือกใช้ตึกร้าง ตึกสาธรยูนีค ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 มาเป็นฉากถ่ายในภาพยนตร์สยองขวัญใต้ชื่อ เพื่อน.. ที่ระลึก The Promise นี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่น่าสนใจจากจิม โสภณ ในการนำเรื่องราวที่น่าสยองขวัญมาย้อนกลับให้กลายเป็นผลงานภาพยนตร์ขวัญใจผู้ชม และเพื่อนๆสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง doonungvip.com สุดยอดเว็บดูหนังฟรี คุณภาพระดับวีไอพี ตามไปชมกันได้เลยค่ะ

ตัวละครกอดกัน

ข้อมูลทั่วไป

จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ มีความตั้งใจเพียงแค่ทำงานในแนวหนังผีเท่านั้นในบทบาทของผู้กำกับ และเขาได้สร้างหนังผีเฉลี่ยทุก ๆ 3 ปี ตั้งแต่ “วิญญาณอาฆาต” เมื่อปี 2551 ไปจนถึง “ลัดดาแลนด์” เมื่อปี 2554 และ “ฝากไว้ในกายเธอ” เมื่อปี 2557 แต่ก็มาถึง “เพื่อน..ที่ระลึก” ที่เป็นผลงานกำกับเรื่องที่ 4 ของเขาในแนวนี้

เพื่อน.. ที่ระลึก นักแสดงหญิง

จิมโซภณยังคงรับผิดชอบในการเขียนบทเองเหมือนเคย แนวคิด ก็มาจากพี่เก้ง จิระ มะลิกุล ที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับตึก “สาทรยูนิคทาวเวอร์” ที่มีชื่อว่า “Bangkok Ghost Tower” และจิมก็ได้คิดว่าน่าจะสร้างหนังเรื่องผีตึกร้างอย่างนี้และก็มีวันหนึ่ง วรรณฤดี ผู้อำนวยการสร้างก็ซื้อลิขสิทธิ์ไอเดียนี้ ซึ่งเรื่องราวในหนังจะเล่าถึงเพื่อนสองคนที่นัดกันไปฆ่าตัวตายร่วมกัน แต่คนหนึ่งกลับกลัวและไม่กล้าทำตาม จิมจึงนำไอเดียทั้งสองมาผนวกกันและสร้างเป็นบทภาพยนตร์ “เพื่อน..ที่ระลึก” ในที่สุด

นักแสดง

น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ แสดงเป็น ปาริมา (บุ๋ม)

ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ แสดงเป็น ด.ญ.ปาริมา (บุ๋ม) (ตอนสาว)

อภิชญา ทองคำ แสดงเป็น เบล

ปาณิสรา ริกุลสุรกาน แสดงเป็น อิ๊บ

เบญจามิน โจเซฟ วาร์นี แสดงเป็น อ๊อฟ

นางเอก

ธีรภพ ทรงวาจา แสดงเป็น หม่อน

เดือนเต็ม สาลิตุล แสดงเป็น วาณี (แม่อิ๊บและอ๊อฟ)

เสาวนีย์ อุทุมมา แสดงเป็น ป้าชุ (แม่บ้าน)

ชาลีดา กีลเบิร์ต แสดงเป็น แต้ว (เพื่อนเบลล์)

สุชาดา พูนพัฒนสุข แสดงเป็น กระจ่าง (แม่บุ๋ม)

สุรชัย นิงสานนท์ แสดงเป็น สมัย (พ่อบุ๋ม)

เรื่องย่อ

ในปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เรียกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมทางการเงินครั้งสำคัญที่ทำให้ นักธุรกิจร้อยล้านกลายเป็นบุคคลล้มละลายในชั่วข้ามคืน เช่นเดียวกับครอบครัวของอิ๊บและบุ๋ม ซึ่งต้องพบกับความพินาศเมื่อตึกคอนโดหรูที่พ่อของพวกเธอลงทุนร่วมกันถูกระงับการก่อสร้าง ทำให้กลายเป็นคนที่มีหนี้สินหนักมาก บ้านที่เคยอยู่มาทั้งชีวิตก็ถูกยึดสมบัติและขายไปในราคาถูก อิ๊บและบุ๋มจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายพร้อมกันบน ตึก ที่เคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่คนที่ตายกลับเป็นแค่อิ๊บเพียงคนเดียว

เพื่อน.. ที่ระลึก บี น้ำทิพย์

ผ่านไป 20 ปี บุ๋ม (บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) เติบโตและกลายเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และได้กลับไปที่ตึกนั้นอีกครั้ง พร้อมกับ เบล (ลิลลี่ อภิชญา ทองคำ) ลูกสาวที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ คืนนั้นหลังกลับจากตึกก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับเบล เมื่อบุ๋มตื่นขึ้นมาพบเบลนั่งคุยกับใครบางคน แม้จะอยู่ในความมืด บุ๋มก็รู้ว่าที่นั่งฝั่งตรงข้ามของเบลว่างเปล่า ไม่มีใครเลย…

แล้วทุกคืนหลังจากนั้นก็กลายเป็นฝันร้ายของบุ๋ม เมื่อทุกครั้งที่หลับตานอน เบลจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการละเมอที่หนักขึ้นเรื่อยๆ และที่ร้ายแรงที่สุดคือ เบลจะละเมอพูดหรือทำในสิ่งที่ทำให้บุ๋มระลึกถึง อิ๊บ เพื่อนเก่าที่เธอทิ้งให้รออยู่ที่ตึกอย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน นี่อาจเป็นการกลับมาทวงคำสัญญาสุดท้ายที่อิ๊บเคยขอไว้ก่อนจากโลกนี้ไป…กับคำพูดที่ว่า”สัญญานะ ว่าแกจะไม่ปล่อยให้ฉันตายคนเดียว”

ความรู้สึกหลังชม เพื่อน.. ที่ระลึก

เนื้อเรื่อง เป็นหนังที่น่าสนใจมากด้วยพลอตที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับผีอาฆาตที่ทวงสัญญาที่จะฆ่าตัวตายไปด้วยกัน โดยภาษาอังกฤษของหนังชื่อว่า “The Promise” ชื่อนี้เป็นเครื่องมือที่ดีในการเพิ่มความน่าสนใจในเรื่องและเป็นการเชื่อมโยงกับเนื้อหาผีของหนังอย่างดี การใช้ตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ในการถ่ายทำก็เพิ่มความสยองและความลึกลับให้กับเรื่อง โดยที่มีรายงานเหตุการณ์ที่มีผู้ตายในตึกเหล่านี้ในอดีต ที่เคยมีช่างภาพพบศพฝรั่งผูกคอตาย ที่เป็นเรื่องจริงที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ผีและสร้างความสนใจในวงกว้างได้

เนื้อหาของเรื่องในปี 2540 ที่เกี่ยวกับ อิ๊บ และ บุ๋ม 2 เพื่อนรักที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าในวิกฤตต้มยำกุ้งเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นมาก ความเปลี่ยนแปลงของชีวิตของพวกเขาจากความสุขสบายมาสู่ความท้าทายและความทุกข์ยากเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง ฉากที่พวกเขาเลือกที่จะคิดถึงการปลิดชีวิตกันที่ชั้น 47 ของตึกเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทีมงานได้เน้นสร้างความรู้สึกที่สื่อสารออกมาอย่างแรงกล้าให้กับฉากนี้

เรื่องราวในปี 2540 เป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมหวนกลับไปคิดถึงบรรยากาศในยุคนั้นและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งความทรงจำที่ดีและความทรงจำที่ลำบาก เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่ชัดเจนและน่าสนใจในประวัติศาสตร์ของตัวละครและสังคมในยุคนั้น ทั้งนี้ ทีมงานได้ตีพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตเศรษฐกิจในปีนั้นอย่างละเอียดและน่าสนใจ รวมถึงการอธิบายถึงช่วงเวลาเคยวนเวียนกับเพจเจอร์ ตู้สติกเกอร์ และสเก็ตซ์น้ำแข็งที่ทำให้ผู้ชมมีความทรงจำที่ดีและเป็นบทเรียนในวิกฤตต้มยำกุ้งที่เคยเกิดขึ้นในยุคนั้น โดยได้เน้นที่ความรู้สึกและความทรงจำให้กับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเรื่องที่น่าสนใจในทุกมุมมองของมัน

ฉากน่ากลัว

หนังยาวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เดินเรื่องได้เร็ว พอตัดเข้าเรื่องราวในปีปัจจุบัน ก็ใช้เวลาไม่นานกับการกลับมาของ “อิ๊บ” ที่จัดเต็มตอบสนองคอหนังผีได้อย่างอิ่มเอม เพราะผีอิ๊บถือว่าแค้นและดุมาก ยิ่งเพิ่มโจทย์เรื่องกรอบเวลา ที่ผีอิ๊บจะต้องเอาชีวิตของเบลไปให้ได้ก่อนที่เบลจะอายุครบ 15 ปี ในอีก 6 วันข้างหน้า เพราะอิ๊บและบุ๋มก็อายุ 15 ในวันที่ทั้งคู่นัดกันฆ่าตัวตาย

เราก็เลยได้ดูการรังควานของผีอิ๊บที่ตามแม่ลูกมาถึงที่พัก ก็เปิดโอกาสให้ใส่ฉากลุ้นผีได้ถี่ ๆ มีทั้งหลอกให้ลุ้นเก้อ และลุ้นแล้วก็เจอตุ้งแช่แรง ๆ หนังเขียนมาให้แม่ลูกอยู่กันแค่ 2 คนในคอนโดหรู สถานะผู้หญิง 2 คนโดนผีหลอกกลางดึก จัดได้ว่าเป็นเหยื่อที่น่าสงสารในหนังผี แต่ขณะเดียวกันจุดนี้ก็กลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ในบทหนังที่ไกลความเป็นจริง ชวนให้ตั้งคำถามว่าทำไมไม่หาใครมาอยู่ด้วยในสภาวะเช่นนี้

เรื่องยาวเกือบ 2 ชั่วโมงแต่เดินเนื้อเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ที่ตัดเข้าเรื่องในปีปัจจุบันและมีผีอิ๊บที่ต้องกลับมาเพื่อตอบสนองความอยากรู้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจและมีความลุ้นแบบตื่นเต้น การเพิ่มโจทย์ในเรื่องเกี่ยวกับกรอบเวลาที่ผีอิ๊บจะต้องเอาชีวิตของเบลไปให้ได้ก่อนที่เบลจะอายุครบ 15 ปี ในอีก 6 วันข้างหน้า เพราะอิ๊บและบุ๋มก็อายุ 15 ในวันที่ทั้งคู่นัดกันฆ่าตัวตาย เราก็เลยได้ดูการรังควานของผีอิ๊บที่ตามแม่ลูกมาถึงที่พัก ก็เปิดโอกาสให้ใส่ฉากลุ้นผีได้ถี่ ๆ เพิ่มความตื่นเต้นและเร้าใจให้กับเนื้อเรื่อง มันเป็นการสร้างการดันให้กับเรื่อง เพราะผู้ชมต้องติดตามว่าเบลจะสามารถหลบหนีจากผีอิ๊บได้หรือไม่ 

เรื่องไม่มีใครอื่นอยู่ในคอนโดหรูและให้แม่ลูกสองคนเป็นเหยื่อยังไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลที่ไม่มีใครมาอยู่ด้วยในสภาวะเช่นนี้ อาจทำให้ผู้ชมมีคำถามเกี่ยวกับสภาวะและตัวละครเพิ่มเติม เช่นทำไมไม่มีผู้ใหญ่ในบริเวณนี้ หรือทำไมไม่มีการช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ ที่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ของแม่ลูก อย่างไรก็ดี นี่อาจเป็นสิ่งที่ผู้กำกับและเขียนบทของหนังควรคิดถึงเพื่อให้บทหนังที่มีความน่าสนใจมีความสมเหตุสมผลและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต

สิ่งที่น่าสนใจ เพื่อน.. ที่ระลึก

นักแสดงนำอย่างเมนเทอร์บีและลิลลี่ ลูกทีมของเธอเองจาก The Face Thailand Season 2 นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมมีความสนใจและคาดหวังเกี่ยวกับการแสดงของพวกเขา อีกทั้งการใช้ทั้งฉากภายนอกและภายในตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ในการสร้างความสยองที่อยู่ในระดับสูง

รวมถึงการนำเสนอมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของตึกนี้ รวมถึงภาพโดรนจากภายนอกตึกและกล้องบินวนรอบ สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมเรื่องและความสวยงามของที่สถานที่ถ่ายทำให้มีความน่าสนใจ ดังนั้น จึงเป็นหนังที่มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องราวและการใช้สถานที่ในการสร้างความลึกลับและความสยองให้กับผู้ชม เป็นหนังที่คนชื่นชอบหนังผีควรดูแน่นอนและน่าตื่นเต้นมากในทุกมุมมองของมัน

เพื่อน.. ที่ระลึก ตึกร้าง

จริงๆ แสดงการใช้ทัศนียภาพของตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์อย่างยอดเยี่ยมเพื่อสร้างความน่ากลัวและความลึกลับในเรื่อง การใช้ภาพโดรนจากภายนอกตึกและกล้องบินวนรอบทำให้ผู้ชมได้เห็นมุมมองที่แปลกในตึกที่คนกรุงเทพฯคุ้นเคยมากันมายาวนาน โดยการถ่ายทำจากมุมสูงช่วยเพิ่มความลึกและความน่าสนใจให้กับฉากต่างๆ ในเรื่อง การใช้ทั้งความสวยงามและความน่ากลัวของตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ในการสร้างฉากที่มืดมิดและน้ำแฉะในภายในตึกเหล่านี้ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสความสยองที่เหมาะสมกับเนื้อหาของเรื่อง ความน่ากลัวและความลึกลับที่เกี่ยวกับตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ก็ถูกนำเข้าสื่อในภาพยนตร์อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การใช้ตัวตึกเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว โดยมีการนำเสนอทั้ง 2 ช่วงเวลาที่ห่างกัน 20 ปีในเรื่อง เป็นจุดประสงค์ที่น่าสนใจและทำให้เรื่องมีความลึกลับและความสวยงามอย่างมาก เปรียบเสมือนตัวตึกนี้เป็นตัวละครสำคัญที่มีบทบาทในเรื่องเองทั้งหมดนี้ทำให้ เป็นหนังที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นทั้งในเรื่องราวและการสร้างสรรค์ฉากและบรรยากาศที่เกี่ยวข้อง และคงไม่ผิดหวังสำหรับผู้ชื่นชอบหนังผีและความลึกลับของตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์

การใช้จินตนาการของผู้ชมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความน่าสยอง  เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้แตกต่างจากหนังผีแบบทั่วไป โดยเน้นการใช้สื่อทางอารมณ์เพื่อสร้างความลึกลับและความสยองให้กับผู้ชม โดยไม่จำเป็นต้องมีภาพของผีที่น่ากลัวอยู่ตลอดเรื่อง

การใช้เสียง แสง และฉากที่ดูเรียบง่ายในการสร้างบรรยากาศของหนังเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมต้องพยายามจินตนาการและสร้างสรรค์สถานการณ์ในจินตนาการของตนเอง และการแสดงของลิลลี่ที่สื่ออารมณ์ความความสยองอย่างน่านับถือเพิ่มความคิดถึงบรรยากาศของเรื่องไปอีก

อีกจุดที่น่าสนใจคือการใช้การสื่อสารระหว่างเบลและผีอิ๊บ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องมีความหลอนมากขึ้น การเล่นบทที่เบลต้องพูดกับผีอิ๊บและการแสดงอารมณ์ของเบลในสถานการณ์ที่เหมือนโดนผีเข้าเป็นบทที่ท้าทายและลึกลับสำหรับนักแสดง ลิลลี่ได้รับบทนี้อย่างดีและนำเสนออย่างน่าติดตาม

สรุปภาพรวม เพื่อน.. ที่ระลึก

เรื่องราวเปลี่ยนแปลงจากเรื่องที่สร้างความระทึกตกใจและลุ้นระทึกไปสู่เรื่องที่เน้นความหวังและความรัก อาจทำให้บางคนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าคาดหวังว่าเรื่องจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของเหตุการณ์ฆ่าตัวตายในปี 2540 ที่มีการนำเอาตึกร้างมาใช้เป็นจุดเด่น แต่เรื่องนี้เน้นไปทางดราม่าความรักและความเสียสละของแม่ต่อลูกเป็นหลัก

การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาอาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางคนที่คาดหวังเรื่องราวที่ดูน่าสนใจมากขึ้นในส่วนของเหตุการณ์ฆ่าตัวตายในปี 2540 แต่อาจมีผู้ชมคนอื่นที่รักความรักและความหวังที่นำเสนอในเรื่องนี้ โดยการเน้นให้แม่เป็นตัวละครที่หันมาปกป้องลูกของเธอในเวลาที่ผีเข้า มาเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เรื่องมีความอบอุ่นและเน้นความรักในครอบครัว

เพื่อน.. ที่ระลึก นางเอกผี

การแสดงของนักแสดงในหนังนี้ได้รับความชมจากคุณเป็นอย่างดี แม้จะเป็นครั้งแรกที่เป็นนักแสดงหลักและเรื่องแรกของพวกเธอ การแสดงของ บี น้ำทิพย์ และลิลลี่ได้รับคำชมในเรื่องของการแสดงอารมณ์และความมุ่งมั่นในบทบาทของพวกเธอ การแสดงที่เรียบง่ายและน่าสนใจของพวกเขาได้สร้างความสัมพันธ์และความอบอุ่นในเรื่องราว ได้อย่างน่าประทับใจ

อ่านกันจบแล้ว อยากเปลี่ยนแนว เปลี่ยนอารมณ์กันบ้าง ทีมงานของเราขอแนะนำ รีวิวละครเรื่อง หมอหลวง สุดยอดหนังรักย้อนยุคที่ผสมผสานการแพทย์แผนไทยเข้าไปในเรื่อง ถือว่าน่าสนใจและต้องชม ห้ามพลาดเลยนะคะ

ไบค์แมน2 หนังไทยเรื่องใหม่ ความสนุกและตลกที่ยังคงรักษามาตรฐานของภาคแรก

ไบค์แมน2 ภาพปก

รีวิว ไบค์แมน2 ความสนุกและตลกที่ยังคงรักษามาตรฐานของภาคแรก

ไบค์แมน2 หนังไทยมาใหม่ แนวคอมเมดี้ที่มีการคิดและทำแบบเร็วมากๆและยังทำได้จริงแบบที่คิดไว้อีกด้วย หลังจากไบค์แมนภาคแรก ทำรายได้จากการฉายในประเทศไทยมากกว่า 100 ล้านบาท แบบที่ยังไม่รวมการขายสิทธิ์ในหลายประเทศอื่นทำให้ “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นหนังคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปีนั้น โดยเป็นหนังจากค่าย รฤก โปรดั๊กชั่น ของ ยอร์ช ฤกษ์ชัย

และทางค่ายก็ไม่รีรอให้เสียจังหวะ ได้ทำการออกคำสั่งให้สร้างหนังไบค์แมน2 ในปีต่อมาและมอบหน้าที่ให้บริหารจัดการโดย พฤกษ์ อมะรุจิ ผู้กำกับที่มาจากภาคแรกเพื่อสร้างความสำเร็จต่อไป สำหรับเรื่องราวในไบค์แมน2 จะสนุกแค่ไหน จะประสบความสำเร็จได้แบบภาคแรกหรือไม่ ติดตามต่อในรีวิวของทางเราได้เลย และเพื่อนๆสามารถ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้ทาง doonungvip.com สุดยอดเว็บหนังดูฟรี คุณภาพระดับวีไอพี ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ

พระเอกนางเอก

ข้อมูลทั่วไป

ไบค์แมน 2 ในปี 2562 สานต่อ เรื่องราวหลังจากตอนจบของภาคแรกไม่นานนัก เมื่อศักดา (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) พ่อแท้ๆของจ๋าย (ฝน ศนันธฉัตร) กำลังสงสัยว่าลูกสาวกำลังจะมีแฟน ทำให้ฉากเปิดเรื่องของหนังภาคนี้ถูกเล่าด้วยอารมณ์ตลกขบขันว่า จ๋ายให้ศักรินทร์ขี่รถมอเตอไซค์หนีพ่อของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีนตลกโปกฮาขายขำ แต่เมื่อมองลึกไปกว่านั้น นี่ถือเป็นซีนที่จัดได้ว่า จ๋ายกำลังทำให้พ่อของตัวเองและคนที่ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุด้วยความไม่มีสติของคนหนุ่มสาว

ไบค์แมน2 เต๋า สมชาย

เส้นเรื่องในหนังภาคนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ศักดาต้องการจะทำความรู้จักครอบครัวของศักรินทร์ ด้วยการเชิญพวกเขามาที่บ้านต่างจังหวัด แต่แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นความวุ่นวายเมื่อเหล่าแก๊งตูดหมึก ทั้ง ปรีชา(ค่อม ชวนชื่น ) หลง (โรเบิร์ต สายควัน) รวมไปถึงสุรีย์(เจนนิเฟอร์ คิ้ม) แม่ของศักรินทร์ ต้องไปเผชิญหน้ากับศักดา จนกลายเป็นที่มาของความปั่นป่วน

นักแสดงนำ

พีช พชร จิราธิวัฒน์ รับบทเป็น ศักรินทร์

ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล รับบทเป็น จ๋าย

สมชาย เข็มกลัด รับบทเป็น พ่อของจ๋าย

ค่อม ชวนชื่น รับบทเป็น ลุงปรีชา ลุงของศักรินทร์

โรเบิร์ต สายควัน รับบทเป็น องอาจ เพื่อนของศักรินทร์

เจนนิเฟอร์ คิ้ม รับบทเป็น สุรีย์ แม่ของศักรินทร์

โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน รับบทเป็น เอ แฟนเก่าของจ๋าย

น้าค่อม

– พี่เอ แฟนเก่าของจ๋าย ซึ่งรับบทโดย โอ๊ต ปราโมทย์ จะต้องพูด และร้องเพลงโดยแลบลิ้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลพวกมาจากอุบัติเหตุในภาคที่แล้ว นับว่าเป็นจุดที่ท้าทายความสามารถมาก และเรียกเสียงฮาให้กับคนดูได้

– ในภาคนี้ มุกใส่ชุดมาหลอกพ่อ/แม่ ของแก๊งเพื่อนศักรินทร์ ยังมีมาให้คนดูได้ตลกอีกเหมือนเคย โดยในปีนี้จะมาในธีมอะไร ติดตามได้ใน Bikeman 2 ครับ

– คุณยายของศักรินทร์ ถึงแม้จะไม่มีบทที่ต้องออกจากบ้านเลย แต่ยังเรียกเสียงฮาให้ได้เสมอ

เรื่องย่อ ไบค์แมน2

ในเรื่อง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ตอนจบทิ้งไว้ให้ผู้ชมรับรู้ความรักที่กำลังก่อกวนจิตใจของศักดิ์และจ๋าย ซึ่งทั้งสองคนดูเหมือนกำลังก้าวสู่การเป็นคู่รักที่ดี ภายหลังจากที่ผ่านมาอยู่ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนตลอดเรื่อง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อศักดิ์พูดโกหกที่บ้านว่าเป็นนักธนาคาร ในขณะที่เขาทำงานเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และยังหลอกจ๋ายให้เป็นเพื่อนสาวของเขาตั้งแต่เด็กๆด้วย ภาคนี้เนื้อหาของหนังยังคงต่อเนื่อง โดยยังคงโฟกัสที่ภารกิจที่ต้องพิชิตใจของจ๋าย

ในปี 2562 เรื่องไบค์แมน 2 สานต่อเรื่องราวหลังจากภาคแรกไม่นาน เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อศักรินทร์ (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) พ่อของจ๋าย (ฝน ศนันธฉัตร) กลัวว่าลูกสาวอาจมีแฟน จึงมีฉากเปิดที่ตลกโปกฮาว่า จ๋ายสั่งศักรินทร์ขับรถมอเตอร์ไซค์หนีพ่ออย่างจงใจ แม้ว่าฉากนี้จะเป็นตลกขบขัน แต่เมื่อพิจารณาอย่างลึกลงไป จะพบว่าฉากนี้สร้างความตื่นเต้นและกึกก้องให้กับพ่อของจ๋ายและผู้ใช้ถนนในประเทศไทยหนึ่งราวกับต้องเผชิญกับอุบัติเหตุจากความไม่มีสติของนักขับหนุ่มสาวนี้

ไบค์แมน2 โรเบิร์ต สายควัน

เรื่องในภาคนี้คือเรื่องของการที่ศักดาต้องการให้ครอบครัวของเธอและเพื่อนๆไปเยี่ยมบ้านต่างจังหวัด เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว ทุกอย่างก็กลายเป็นความวุ่นวายเมื่อเหล่าแก๊งตูดหมึก คือ ปรีชา (ค่อม ชวนชื่น), หลง (โรเบิร์ต สายควัน) และ สุรีย์ (เจนนิเฟอร์ คิ้ม) แม่ของศักรินทร์ ต้องเผชิญหน้ากับศักดา ทำให้เกิดความปั่นป่วน

ความรู้สึกหลังดู ไบค์แมน2

ในขณะที่หนังทำการบ้านมาดี รู้ว่าคนดูชอบอะไร และไม่ชอบอะไรจากภาคแรก ทีมเขียนบทก็เลือกเน้นในสิ่งที่คนดูชอบ และเลือก “ตัด” ในสิ่งที่คนดูไม่ชอบ ในภาคนี้เราก็เลยเห็น ศักดิ์เอ่ย”คำคม”เพียงแค่ครั้งเดียว 

ผู้ที่รับภาระหนักในภาคนี้ก็ยังคงเป็น “น้าค่อม” เช่นเคย การใส่บท “ศักดา” เข้ามาในฐานะคู่ปรับ ก็เหมือนกับเปิดช่องทางให้น้าค่อมตบมุกได้อีกมาก ด้วยภาพลักษณ์นักเลงของเต๋า สมชาย จึงทำให้เต๋ามักได้บทแนวโหดดุอยู่เสมอ แต่ทุกครั้งที่เต๋าเอ่ยเสียงขึ้นมาเมื่อไหร่ พลังความเข้มมันตกฮวบเสียทุกที ถ้าเต๋าผ่าตัดกล่องเสียงตั้งแต่ยังหนุ่ม น่าจะรุ่งกว่านี้นะ เสียงเต๋าดูอ่อนนุ่มขัดกับภาพลักษณ์อย่างมาก แต่ด้วยภาพลักษณ์หนวดเครารุงรังก็ดูเหมาะกับบทเจ้าพ่อเหมืองแร่ ขอชื่นชม

ในขณะที่หนังเดินหน้าไปด้วยเส้นเรื่องหลัก ว่าด้วยการสร้างสัมพันธ์ของ 2 ครอบครัว เส้นเรื่องรองก็คือเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างศักดากับเจ้าพ่อที่ต้องการซื้อเหมืองแร่ของศักดาในราคาต่ำ ก่อให้เกิดความอลหม่านยุ่งเหยิงในฉากท้ายเรื่อง ดูแล้วชวนให้นึกถึงสูตรสำเร็จแบบที่ แฟรนไชส์ “บุญชูสระอูยาว” ชอบใช้ในทุกภาค สร้างสถานการณ์ให้ตัวละครมารวมกัน เขียนบทให้หยอดมุกฮาเรี่ยรายทางไปเรื่อย แล้วจบด้วยความวุ่นวายยุ่งเหยิง แล้ววกเข้าแฮปปี้เอนดิ้งในตอนจบ 

ไบค์แมน2 ก็มาด้วยสูตรนี้แบบเป๊ะ ๆ แต่ด้วยเหตุที่ว่านี่คือหนังชื่อ “ไบค์แมน” พระเอกของเรื่องคือหนุ่มผู้รักความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ฉะนั้นก็ต้องมีฉากให้ศักดิ์ได้โชว์ความสามารถในการขี่มอเตอร์ไซค์ ก็ถือว่าทีมงานหาทางใส่ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ให้ศักดิ์เข้าไปในเรื่องราวได้อย่างลงตัว แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าแม้จะเป็นสูตรสำเร็จ แต่ฉากจบด้วยบรรยากาศกุ๊กกิ๊กของ ศักดิ์และจ๋ายก็ทำให้ดูแล้วอดยิ้มตามเสียไม่ได้ ฝน ศนันธฉัตร ยังทำหน้าที่สีสันความสดใสเพียงหนึ่งเดียวของเรื่องได้อย่างดี อยากฮาก็ได้ฮาอยู่นะ แต่ก็ไปได้ไม่เท่าภาคแรก

หนังเรื่องนี้ถอดมาจากส่วนที่สำคัญของภาคแรกโดยหยิบเอาสูตรสำเร็จจากภาคแรกมาใช้โดยเนื้อหาที่สำคัญคือการโกหกในเรื่องราวนี้ ในภาคนี้ ก๊วนแก๊งต้องโกหกว่า จ๋ายกับศักดิ์เป็นแฟนกันจริง ซึ่งพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกแก๊งซึ่งต้องช่วยกันตั้งเรื่องมาหลอกศักดาคุณพ่อของจ๋าย ศักดิ์เองก็เล่นตามน้ำไปกับก๊วน ถึงแม้ว่าในใจของเขาอยากเป็นแฟนกันจริงๆ

แต่ก็ไม่ต้องการที่จะโกหกอย่างนี้ หนังก็จึงใช้สูตรการโกหกแบบภาคแรกมาใช้ในภาคนี้อีกครั้ง เมื่อตัวละครหลักมารวมกันอยู่หมด การจะเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ทำได้ง่ายขึ้น หนังก็เลยมีฉากเรียงเสียงฮาได้ถี่ ๆ แต่พลังความฮายังด้อยกว่าภาคแรกนัก การเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ง่ายขึ้นและฉากฮาที่บ่งบอกถึงความสนุกของเรื่องก็มีมากขึ้น โดยภาคนี้มีฉากเรียงฮาอยู่ตลอด 1 ชั่วโมง 47 นาที งานนักแสดงในการเรียกเสียงฮาได้ดี แต่ความฮายังไม่มากเท่าที่ภาคแรกมี ฉากที่น่าจะเป็นฉากเด็ดที่สุดในภาคนี้คงเป็น “ฉากงูเห่า” นั่นเอง

ฉากตลก

จุดเด่น - จุดด้อย

จุดเด่นของ ไบค์แมน 2

ไบค์แมน 2 คือความสนุกและตลกที่ยังคงรักษามาตรฐานของภาคแรก ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกขัดเมื่อดูต่อจาก “ศักรินทร์ ตูดหมึก” ซึ่งเป็นภาคที่ 1 แม้ว่าเนื้อเรื่องของภาค 2 จะต่างออกไป มีการขี่มอเตอร์ไซค์น้อยลง แต่ภาคนี้เน้นที่แอ็คชั่นมากขึ้น มีฉากการขับหนีการตามล่าหรือขับฝ่าระเบิดเป็นอีกส่วนหนึ่งของหนัง

อย่างไรก็ตามความขลังของเรื่องยังคงอยู่ที่ความตลกที่มีการเน้นมากขึ้น เรียกได้ว่ามีเสียงฮากั๊กจนเกือบตลอดเรื่อง นักแสดงทุกคนทำได้ดีและเข้าถึงอารมณ์ของเรื่อง ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดเนื้อเรื่อง การเน้นความรักระหว่างพ่อกับลูกอาจทำให้ผู้ชมคิดถึงพ่อแม่หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ

ไบค์แมน2 ชายเล่นกีต้าร์

จุดด้อยของ Bikeman 2

ความด้อยของหนังในด้านบทละครที่ไม่ซับซ้อนและสามารถคาดเดาได้ง่าย อาจทำให้บางคนไม่ตื่นเต้นกับเนื้อเรื่องมากนักแต่เพื่อความตลกและการเน้นเรื่องครอบครัวของเรื่อง โดยใช้เป้าหมายหลักเพื่อทำให้ผู้ชมเกิดความสนุกสนานและเรียกให้หัวเราะ ผู้เขียนขอให้ทุกคนมองข้ามข้อด้อยที่สามารถคาดเดาในเรื่องนี้ไป

สรุปภาพรวม ไบค์แมน2

“ไบค์แมน 2” เป็นหนังที่ดีมาก ที่มาพร้อมความสนุกและความฮาที่สามารถทำให้คุณยิ้มได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะติดตามเนื้อเรื่องตั้งแต่ภาคแรกหรือไม่ก็ตาม นักแสดงทุกคนแสดงบทบาทของตัวละครได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะคุณปราโมทย์ที่มอบการแสดงที่น่าติดตามในฉากที่ร้องเพลง “ง้อจ๋ายที่สถานนี้รถไฟ” ฉากนี้เป็นที่ชื่นชมมากเพราะเขาแสดงความรักที่ลึกซึ้งและสนุกสนานของตัวละครอย่างสมบูรณ์

ไบค์แมน2 ขี่มอเตอร์ไซด์

เพราะพี่เขาร้องเพลงพี่ปั๊บ รักแท้ดูแลไม่ได้ เพราะมากจริง ๆ ขนาดว่าต้องแลบลิ้นร้องยังเพราะเลย และเป็นหนังที่จบได้สวยงามมาก ๆ เพราะลุ้นมาตลอดว่าให้จ๋ายยอมรับศักรินทร์เป็นแฟน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักที่จริงใจและแสดงความฮาอย่างเก่งหลายมุมมุ่ง นอกจากนี้ การสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกและเต็มไปด้วยความฮาทำให้ผู้ชมติดตามเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้นจนจบด้วยความสนุกแน่นอน หากคุณยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ขอแนะนำให้คุณลองหามาดู เพราะมันคือหนังที่น่าสนใจและยิ้มได้ตลอดเวลา

สุดท้ายนี้ทีมงานของเราขอฝากรีวิวหนังไทยอีกเรื่อง เสือเผ่น 1 สุดยอดหนังไทยแนวตลกมาใหม่ มาแรง นำแสดงโดย แจ๊ส ชวนชื่น แค่ชื่อก็ขำแล้ว

หมอหลวง สุดยอดละครย้อนยุค ผลงานเรื่องเยี่ยมของมาริโอ้ และช่อง 3HD

หมอหลวง ภาพปก

H1 รีวิว หมอหลวง

หมอหลวง หนังไทยย้อนยุค ละครโทรทัศน์แนวโรแมนติกแฟนตาซีข้ามเวลา ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมอย่างล้นหลามตั้งแต่การออกอากาศในตอนแรก และเป็นกระแสที่น่าติดตามอย่างมาก โดยละครเรื่องนี้มีความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนไทยที่น่าสนใจและการหลงไหลในความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทยต่างๆ ซึ่งได้ถูกร้อยเรียงในละครเรื่องนี้อย่างเข้มข้นและน่าติดตาม

การเปิดตัวของละครเป็นที่ประสบความสำเร็จมากๆ โดยมีเรตติ้งสูงถึง 6.01 ในกรุงเทพมหานครและเรตติ้งทั่วประเทศ ในวันแรกของการออกอากาศ. ละคร “หมอหลวง” มีความน่าสนใจในการนำเสนอเรื่องราวและบรรยากาศในละครที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหล ทำให้ผู้ชมต้องติดตามเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง แบบแทบจะอดใจรอตอนต่อไปไม่ไหวเลยทีเดียว เพื่อนๆสามารถรับชมละครสนุกๆได้ทาง doonungvip.com เว็บหนังออนไลน์วีไอพี คุณภาพความคมชัดระดับ 4K ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ

มาริโอ้

ข้อมูลทั่วไป

ละครโทรทัศน์ “หมอหลวง” เป็นผลงานละครไทยที่มีเนื้อหาผสมผสานระหว่างแนวย้อนยุค,ตลก, และดรามาเข้าด้วยกัน ละครนี้ถูกผลิตโดยผู้จัด ปิยะ เศวตพิกุล และ รวมถ่ายทอดเรื่องราวโดยนักแสดงนำระดับแนวหน้าของเมืองไทย คือ มาริโอ้ เมาเร่อ ที่รับบทเป็น ทองอ้น และ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส ที่รับบทเป็น บัว ร่วมกับนักแสดงอื่น ๆ ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้ ได้ออกอากาศในช่อง 3 ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566 ในวันจันทร์และอังคารเวลา 20:25 น.

เนื้อเรื่องของละครนี้เกิดขึ้นในยุคสมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีนักศึกษาแพทย์ชื่ออัคริมาย้อนยุคกลับมาในหมู่บ้านสำนักดาบบ้านครูหาญ ซึ่งมีการนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและสนุกสนานสำหรับผู้ชมผ่านการผสมผสานของตัวละครที่สนุกและตลกพร้อมกับการให้ความรู้เรื่องสมุนไพรต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญในเรื่องราว.

หมอหลวง คิมเบอรี่

ประเภท ย้อนยุค/ตลก/ดรามา

กำกับโดย ชุดาภา จันทเขตต์

แสดงนำ มาริโอ้ เมาเร่อ/คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส

ผู้อำนวยการสร้าง ชุดาภา จันทเขตต์/ปิยะ เศวตพิกุล

สถานที่ถ่ายทำ สตูดิโอช่อง 3 หนองแขม เมืองโบราณ

ความยาวตอน 90 นาที

บริษัทผู้ผลิต โซนิกซ์ บูม 2013

นักแสดง

มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ทองอ้น บุตรชายของหลวงชำนาญเวชที่เกิดกับ แม่พิกุล ได้พบรักกับบัว และสุดท้ายได้เป็นหมอหลวง ตามพ่อ และพี่ชาย

คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส รับบทเป็น บัว / อัคริมา หญิงยุคปัจจุบัน ย้อนอดีตมายังสมัยรัชกาลที่ 3 จนได้พบรักกับ ทองอ้น และได้จดสูตรตำราอาหารเป็นยาพร้อมกับตีพิมพ์ที่โรงพิมพ์หมอบรัดเลย์

มาสุ จรรยางค์ดีกุล รับบทเป็น ทองแท้ / คุณหลวง บุตรชายคนโตของหลวงชำนาญเวชที่เกิดกับแม่เทียบ

ณปภา ตันตระกูล รับบทเป็น ผาด / แพท เพื่อนของบัวในปัจจุบันชื่อแพท ในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นชาวบ้านที่บัวมาอยู่ด้วยและได้เป็นเพื่อนกัน

ฉากในเรือ

ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบทเป็น หลวงชำนาญเวช (ทองคำ) พ่อของทองอ้นกับทองแท้

จริยา แอนโฟเน่ รับบทเป็น แม่เทียบ ภรรยาเอกของหลวงชำนาญเวช และแม่ของทองแท้

มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบทเป็น แม่พิกุล ภรรยาคนที่สองของหลวงชำนาญเวช และแม่ของทองอ้น

ทัศน์พล วิวิธวรรธน์ รับบทเป็น พระองค์เจ้าพันพิชากร

ศิริลักษณ์ คอง รับบทเป็น คุณแม้นวาด

ภาณุเดช วัฒนสุชาติ รับบทเป็น พระยาบำเรอราชแพทย์ หมอหลวง อาจารย์ของหลวงชำนาญเวช

เรื่องย่อ หมอหลวง

เรื่องราวเริ่มต้นขณะที่ “บัว” (คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส) นักศึกษาแพทย์ปี 4 กำลังผ่านวันที่ยากลำบาก เนื่องจากถูกอาจารย์หมอและเพื่อนนักศึกษาตำหนิและต่อว่าเธอ เธอรู้สึกเศร้ามาก ๆ และปล่อยน้ำตาให้ไหลอย่างเต็มที่

ในขณะที่พายุเซเปรสชันกำลังมาถึงกับส่งสายฟ้าฟาดมาโดนเธอ นำไปเข้าสู่มิติแห่งเวลาที่น่าสนใจมาอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยอยู่ในท่ามกายของ “บัว” และได้พบกับกลุ่มครูหาญ ซึ่งมี “ผาด” (แพท ณปภา) ที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายกับแพทย์เพื่อนนักศึกษาในโลกปัจจุบันอยู่ด้วย นี่เป็นเหตุที่ทำให้เธอเริ่มงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หมอหลวง นักแสดงนำชาย

นอกจากนี้บัวยังต้องพบกับเหตุการณ์ร้ายเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามาทำร้ายกลุ่มครูหาญ จนทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง แม้ว่า บัว จะถูกฟันเข้ากลางหลัง แต่ เดชะบุญที่ (หลวงชำนาญเวช หรือ หมอทองคำ) (ชาย ชาตโยดม) ทองแท้ (มาสุ จรรยางค์ดีกุล) และ ทองอ้น (มาริโอ้ เมาเร่อ) ทั้งสามคือ 3 พ่อลูกหมอที่มีความชำนาญในการแพทย์แผนไทยและมีชื่อเสียงตระกูลทอง ซึ่งมีความสามารถในการสืบทอดความรู้และช่วยเหลือกลุ่มครูหาญให้ได้รับการรักษาจนหายดี และให้พักอาศัยในบ้านตระกูลทอง 

และในตอนนั้นเองก็ได้มีพระบรมราชโองการให้จัดตั้งโรงเรียนหมอหลวง เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในวงกว้าง ด้วยการเปิดรับสมัครนักเรียนหมอหลวงจากผู้มีความรู้อ่านออกเขียนได้จากทั่วประเทศ แน่นอนว่าทองอ้นก็ได้เป็นหนึ่งในนั้น แถมยังมีนักเรียนคนอื่น ๆ มาสมทบเพิ่มความความสนุกและเป็นสีสันในเรื่องราวของการตามล่าทำความฝันในการเป็นหมอหลวง ให้สำเร็จ

ความรู้สึกหลังดู หมอหลวง

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตัวละครทองเอกออกมา ก็สร้างความฮาให้คนดูแล้ว แถมยังเสริมความรู้เรื่องแพทย์แผนไทยและสมุนไพรให้คนดูอีกด้วย ทำให้การแพทย์แผนไทยกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในวงกว้างมากขึ้น ครั้งนี้เราได้เห็นการเปิดเผยเนื้อหาการเรียนการสอนเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยอย่างแท้จริง

ทุกครั้งเราจะได้เห็นการรักษาที่ละเอียดอ่อนในฉบับของหมอหลวง และด้วยตัวละครและเส้นเรื่องที่นำเสนอ พระ-นาง ต่างก็เป็นนักเรียนหมอที่มุ่งมั่นอย่างมาก แม้จะเกิดในยุคและสมัยที่ต่างกัน แต่จิตวิญญาณการเป็นหมอยังคงมีอยู่เสมอ ทำให้บทละครของเรื่องนี้มีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น

เคมีพระนางที่ลงตัวแบบสุดๆที่ได้รับความสนใจจากทุกผู้ชม ความกวนของพระเอกคู่กับความแก่นแก้วอยากรู้อยากเห็นของนางเอก หรือความขี้อวดของพระเอกคู่กับความขี้แซะของนางเอก คู่นี้ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา เป็นเพื่อนและคู่รักที่น่าติดตามอย่างมาก ชวนอมยิ้มและสนุกสนานมาก บทบาทของเด็ก ๆ ในเรื่องก็น่ารักมาก เช่นเณรและลูกชายของทองแท้ ความสัมพันธ์และการสนทนาของพวกเขาทำให้เรื่องราวสนุกและน่ารักมากขึ้น 

ฉากชันสูตรศพ

ด้านมิตรภาพในละครนี้เป็นจุดเด่นที่น่าทึ่งจริง ๆ มิตรภาพระหว่างพระนางและพระเอกแสดงให้เห็นถึงความสนุกและความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่างพวกเขา การเล่นแบบมีความเข้าใจและรักกันจริงในบทบาท ทำให้ความรักและความเข้าใจระหว่างพวกเขาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและน่าหลงใหล พวกเขามีความสามัคคีและความกล้าที่จะทำให้ความรักกันดูอบอุ่นขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ

บทบาทของเจิดและทองอ้นมีเคมีที่ลงตัวมาก พวกเขาทำให้ความรักและความเข้าใจในระหว่างพวกเขาดูเป็นธรรมชาติและที่สำคัญคือมีความตลกขบขัน ความรักและความเข้าใจระหว่างพวกเขาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำให้ละครนี้น่าดูและน่าติดตามอย่างแน่นอน เรื่องนี้กลายเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตร่วมกันที่สร้างความสุขและความรักในครอบครัวและมิตรภาพ ระหว่างเพื่อนที่เห็นได้อย่างชัดเจน

ละครเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับการสอนและการเรียนในสมัยก่อน โดยการนำเสนอการแพทย์แผนไทยและการใช้สมุนไพรเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวทำให้ละครนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจมากขึ้น การเรียนรู้เรื่องการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนไทยและการค้นหาสมุนไพรก็เป็นส่วนสำคัญของภาพลักษณ์ของตัวละคร ทำให้พวกเขามีความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ การเน้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการเรียนการสอน รวมถึงการสร้างเสียงหัวเราะและความสนุกในช่วงเรียนระหว่างครูและนักเรียน ทำให้การเรียนการสอนเป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจมากขึ้น ละครนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สอนและสร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าจดจำและน่าสนุก ซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนมีความฝันเรียนต่อในสาขาการแพทย์แผนไทยด้วยความมั่นใจและความสนใจในสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย 

ละครเรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ในครอบครัวและการให้ความสนใจกับครอบครัวอย่างมาก เรื่องราวที่เน้นการเรียนหมอโดยตรงตามแบบฉบับหมอโบราณและความสัมพันธ์ที่อบอุ่นของครอบครัวที่เป็นหมอ ทั้งบ้านส่วนนี้เป็นเส้นเรื่องที่สร้างความสนใจและเป็นจุดเด่นของละคร นอกจากนี้ การเสริมเสียงต่อล้อและความสนุกในความขัดแย้งระหว่างตัวละครเป็นสิ่งที่เพิ่มความสนุกและน่าติดตามในละครนี้ การเปรียบเทียบความแตกต่างในความสัมพันธ์ของครอบครัวในสมัยก่อนและสมัยปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

เรื่องนี้นำเสนอการเปรียบเทียบว่าในสมัยก่อนหมอมีเวลาให้กับครอบครัวและมีความสัมพันธ์อบอุ่นกันมากกว่าในสมัยปัจจุบันที่หมอมักมีกิจกรรมทางวิชาการและอาชีพที่มีตารางเวลาแน่นมากขึ้น การเน้นความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นข้อควรสอนและต้องการการใส่ใจและความเข้าใจต่อกัน เป็นความคิดที่น่าติดตามและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้แน่นอน ละครเรื่องนี้จึงมีคุณค่าทางการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในครอบครัวที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในสมัยปัจจุบันและยังสามารถให้ความบันเทิงและความสนุกในการรับชมได้อีกด้วย

จุดเด่นของละคร หมอหลวง

จุดเด่นของละครเรื่องนี้คือการเล่าถึงความเป็นมาของหมอบรัดเลย์ เลย์ และวัฒนธรรมไทยที่เป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้ การนำเสนอและสืบทอดวัฒนธรรมไทยในละครเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจและสอดคล้องกับ หมอ และบทบาทของหมอในสังคมไทย นอกจากนี้ การสอดแทรกความหมายในหลายๆ ด้านของเรื่องเช่น การผ่าตัดแรกของประเทศ การสู้รบ การทำอาหาร การแต่งตัว และการกล่าวบทกลอนของสุนทรภู่ เพิ่มความคล้ายคลึงและความหลากหลายในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าติดตามและนำความรู้ทั้งในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยไปต่อยอดในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความลงตัวของตัวละครและความหลากหลายของเนื้อหา และการแสดงของนักแสดงในละครนี้ ที่เติบโตขึ้นจากประสบการณ์และการเรียนรู้ในปัจจุบัน ทั้งนี้ทำให้ละครเรื่องนี้มีความสนุกและน่าติดตามอย่างไม่ซ้ำซาก การผสมผสานของเนื้อหาที่ครอบคลุมและการแสดงที่ยอดเยี่ยม ละครเรื่องนี้จึงเป็นละครที่น่ารับชมและได้เปรียบในหลายๆด้าน

หมอหลวง พระเอกนางเอก

บทบาทของนักแสดงในการแสดงความเป็นหมอรักษาคนไข้และความมุ่งมั่นในการรักษาจริงๆ ของหมอในละครเรื่องนี้เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกความอบอุ่นและความเข้าใจในสายตากับตัวละครของหมอ และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหมอและคนไข้มีความเป็นมิตรและเป็นกำลังใจให้กันอย่างแท้จริง

การพบกับคนไข้ที่มีโรคต่างๆที่ไม่เคยพบมาก่อนเป็นประสบการณ์ที่น่าสนุกและท้าทายในการแสดงและการเรียนรู้เพิ่มเติมในสาขาแพทย์ นอกจากนี้ การสร้างความขำขันในฉากต่างๆ ในโรงเรียนหมอหลวงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ละครนี้น่าสนุกและน่าดูมากขึ้น ถึงแม้เรื่องการดูแลผู้ป่วยและการเป็นหมออาจจะเป็นเรื่องราวสั้นๆ ในแต่ละฉาก แต่มันสร้างความคล่องตัวและความคิดสร้างสรรค์ให้กับละครนี้อย่างมาก ถือเป็นความสำคัญที่ทำให้ละครนี้มีความหลากหลายและน่าสนใจในทุกด้านของเนื้อหาและความคิดของตัวละคร 

ละครเรื่องนี้ได้สร้างความรู้และข้อคิดที่ดีให้กับผู้ชม และยังเสนอแนวทางและความสนับสนุนในการสืบทอดวัฒนธรรมและคุณค่าในสังคมไทยให้แก่คนรุ่นหลังอย่างสร้างสรรค์ ละครเรื่องนี้อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังมองเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมและคุณค่าทางสังคม และอาจสร้างความรู้สึกที่จะมีส่วนร่วมในการสืบทอดและปรับปรุงสิ่งดีๆ ในสังคมต่อไปด้วย หวังว่าละครเรื่องนี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจและแหล่งเรียนรู้ที่ดีให้กับผู้ชมในทุกวัย

สรุปภาพรวม หมอหลวง

การกลับมาของตัวละคร มาริโอ้ เมาเร่อ และ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส ในละคร อาจทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นภาคต่อของละครทองเอก หมอยา ท่าโฉลง แต่ ไม่ใช่ภาคต่อหรือเกี่ยวข้องกับละครทองเอก หมอยา ท่าโฉลง แต่เป็นเรื่องแยกต่างหากที่มีความคล้ายคลึงในตัวละครนำเท่านั้น โดยมีเนื้อหาและพล็อตแนวการแพทย์แผนโบราณที่น่าสนใจและมีคุณค่า

รวมถึงการนำเสนอประวัติศาสตร์และสมุนไพรไทยอย่างน่าสนใจเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่น่าติดตาม ละคร มีความคล้ายกับซีรีส์แนวการแพทย์แผนโบราณของเกาหลีที่มีคุณภาพ โดยการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและมีความหมาย รวมถึงมีความสนุกและมีคุณค่าของเรื่องราวที่นำเสนอในแต่ละตอนของละคร

หมอหลวง ฉากตื่นเต้น

สำหรับละคร แน่นอนว่าเป็นละครที่มีคุณค่าทั้งในด้านความสนุกและสาระ เนื่องจากเนื้อหาที่หลากหลายและมีการนำเสนอสมุนไพรและวัฒนธรรมไทยที่สำคัญในเรื่องนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและสอดคล้องกับวัฒนธรรมไทยของเราอย่างชัดเจน แน่นอนว่าละครนี้ควรถูกเพิ่มในลิสต์ของคนที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การรักษาแบบโบราณและการแสดงให้เห็นถึงสรรพคุณสมุนไพรไทยในการรักษาคนไข้ได้อย่างชัดเจน

นอกเหนือจากความสนุกและความบันเทิง ละครเรื่องนี้ยังเน้นการเรียนรู้และการเสริมความรู้ทางการแพทย์ ด้วยการนำเสนอสมุนไพรและการรักษาด้วยวิธีแผนโบราณ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมที่สนใจด้านการแพทย์และสมุนไพรของไทยด้วยการรวมความฮาและความซับซ้อนในเนื้อเรื่อง ละคร  เป็นอีกหนึ่งละครที่ห้ามพลาดในลิสต์ของคนที่ต้องการความสนุกและความมีสาระในเวลาเดียวกัน

ก่อนจะจากกันไป ทีมงานของเราขออนุญาตแนะนำรีวิวหนังอีกเรื่อง เกมรักทรยศ The Betrayal (2023) ละครดังน้ำดีที่คุณต้องชอบอย่างไม่ต้องสงสัย ติดตามอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ

แค้น ละครไทยแนวโรแมนติกดราม่าสุดเข้มข้น ออกอากาศที่ช่อง 3HD

แค้น ภาพปก

รีวิวละคร แค้น ละครไทยแนวโรแมนติกดราม่า ออกอากาศที่ช่อง 3HD

และในวันนี้ รีวิวหนังไทยมาใหม่ ของเราจะมารีวิวละคร แค้น ละครเรื่อง ใหม่ของช่อง 3 ที่มีการแสดงของนักแสดงนำที่มีฝีมือและมีความสามารถมากมายได้ช่วยเสริมสร้างให้ละครเรื่องนี้กระแสแรงและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยหละค่ะ โดยบทบาทของแต้ว ณฐพร , นาย ณภัทร , แอฟ ทักษอร และ พุฒ พุฒิชัย ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นตัวละครที่มีความหลากหลายและมีเค้าโครงฉุดไม่อยู่

นอกจากนี้เรื่องราวของละครไทยในเรื่องนี้ได้บรรจุอารมณ์และความสร้างสรรค์เข้ามาได้อย่างสมบูรณ์และทันสมัย ทำให้ผู้ชมนั่งซูดปากกันเลยเมื่อรับชมละครนี้ ความสนุกและความสะใจในละครเรื่องนี้ เราก็เลยอยากจะเอามารีวิว ให้ทุกคนได้ดูกันว่าทำไม ละครไทยเรื่องนี้ถึงได้รับความนิยม อย่างล้นหลามมากที่สุด ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วเราไประเบิดความมันไปพร้อม ๆ กันเลย 

เพื่อนๆคนไหน อยากชมหนังหรือละครไทยออนไลน์ ทีมงานเราขอแนะนำเว็บ doonungvip.com เว็บดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง เรามีหนังฮิต หนังใหม่ บริการให้คุณแบบวีไอพี เชิญกดเข้าไปดูกันก่อนค่ะ

ซึ่งละครเรื่องนี้ก็ได้ผู้กำกับมือรางวัล ฉีกกฎละครผู้หญิง ‘แค้น’ ฟาดไม่ยั้งก็คือ โดยผู้จัด แอน ทองประสม ดึง ฟิวส์-กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล อดีตนักแสดงมา มานั่งแท่นกำกับละครเลือดผู้หญิงครั้งแรก! โดย หนุ่มฟิวส์ ได้เปิดใจว่า

“ตอนนี้ จากสิ่งที่ผมเจอในวันนั้น พี่แอนให้โอกาสเรา อ่านบท และเริ่มถ่ายทำ ผมต้องยอมรับว่า แค้น เป็นเรื่องราวที่เป็นเรื่องของผู้หญิงมากกกก มันเลยทำให้เราไม่สามารถใส่ความเป็นผู้ชายของเราลงไปได้เยอะมากเท่าไร พี่แอนก็ต้องการพลังความเป็นชายด้วย เรื่องนี้ก็แหกกฎของเราหลายครั้ง เราเปิดโลกใหม่แห่งการทำงาน ซึ่งผมเองก็ตื่นเต้นทุกวัน คือตอนงานเสร็จ จริงจังแค่ไหน แต่พอทำเสร็จแล้วเราก็กลับมาดูได้ เราก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนดูถึงดูแล้วชอบ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อย แต่ก็สนุก

นางเอก

รีวิวละคร แค้น เรื่องย่อ

แค้น เรื่องย่อ เหมือนแพร (แต้ว ณฐพร) เป็นหญิงสาวที่เคยอ่อนต่อโลกและเคยพ่ายแพ้เพราะความรักที่มีต่ออรรณพ (พุฒ พุฒิชัย) สามีของปรางทอง (แอฟ ทักษอร) น้าสาวของเหมือนแพร โดยเหมือนแพรได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจจนเกือบต้องตายเพราะความรู้สึกผิดและผิดหวังที่ถูกหลอกโดยอรรณพ

แต่เหมือนแพรกลับมาอีกครั้งและคาดหวังที่จะแก้แค้นและทำให้เป็นเจ้าของสิ่งที่เคยเป็นของตัวเองได้อีกครั้ง แต่อาจพ่ายแพ้ปรางทองเหมือนเดิม ในสงครามครั้งนี้ยังมีบทบาทสำคัญของพิธาน (นาย ณภัทร) น้องชายของอรรณพที่คอยช่วยเหลือเหมือนแพรอย่างลับๆ และเก่งกาจ (แซม พฤฒิชัย) ลูกชายของปรางทองและอรรณพที่ถูกเหมือนแพรใช้เพื่อหลอกลวง ผลสรุปของเรื่องราวความแค้นครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามต่อไปในละคร “แค้น”

แค้น แอฟ

นำแสดงโดย แต้ว ณฐพร, แอฟ ทักสร, นายณภัทร, พุฒิชัย ผู้สร้างละครแม่ “แอน ทองประสม” ทางช่อง 3 ทุกคืนวันพุธถึงคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรดตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2566

เรื่องราวความมันของการแก้แค้นเนื้อหาน่าสนใจแค่ไหนไปดู !!

เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของแม่ 4 คนในละครเรื่องเดียว เริ่มด้วย ผู้จัดมือทอง “แอน ทองประสม” ที่รับหน้าที่ผลิตละครที่สร้างจากนวนิยายที่ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2530 เช่น “สาวพรหมจารีดำ” ฉันรู้ว่าช่องซื้อเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีใครรับเลย นิยายเรื่องนี้ต้องผ่านการขัดเกลามาบ้างจนมาอยู่ในมือของแอน ทองประสม เพราะการดูละครจะฮอตเป็นพิเศษเมื่อต้องสร้างในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป แค่ปัดฝุ่นนิยายเก่าๆ ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพออยู่ดี

ดูเหมือนว่างานนี้จะกลายเป็นละครที่สร้างจากเนื้อเรื่องของสาวพรหมจารีผิวดำ ด้วยฝีมือการเขียนบท “ณัฐฐิญา ศิรากรวิไล” แทนที่จะถูกเรียกว่าปัดฝุ่นเพราะเนื้อหาในนั้นทำให้ร้องทุกข์หนักขึ้น ก็สมควรนำเนื้อหาเก่าๆ มาเป็นละครไซโคดราม่ามากกว่า (ไซโคดรามา) แต่ตัวละครยังคงเหมือนเดิม จุดประสงค์ของการเพิ่มคือเพื่อทำให้ตัวละครชัดเจนยิ่งขึ้น

นอนร้องไห้

การให้ปรางค์ทอง (แอฟ ทักษร) มีบทบาทชัดเจนในนิยายเรื่องนี้ร้อนแรงและลึกซึ้งยิ่งกว่าหลายรู และการปล่อยให้คนอย่างแพร (แต้ว ณัฐพล) ไม่พอใจมากกว่าโดนคู่หมั้นป้าแย่งไป ซักทั้งภายในและภายนอกซึ่งเรียกว่าการซักใหม่ จนกลายเป็นละครแก้แค้นสไตล์ไทยสมัยใหม่ ผลงานของผู้จัดอันดับ 1 คือผู้เขียนบทคนแรก นางเอกคนที่สอง อันดับ 1 เป็นการร่วมงานกันของราชินีทั้งสี่และได้รับความสนใจจากผู้ชมตั้งแต่สองตอนแรก ออกอากาศ ดึงดูดความสนใจของผู้คน

รีวิวละคร แค้น กระแสของละครไทย

ส่วนตัวผู้เขียนเห็นละครเรื่องนี้ถูกวิจารณ์โดยประชาชนในโลกออนไลน์ ฉากที่คล้ายคลึงกับบุคคลในชื่อ “เเพร” หรือ “ณฐพร” และ “แซม พฤฒิชัย” ที่คล้ายว่ากล้าหาญลูกชาย “ปรางทอง” ที่น่ารักมากที่เวทเนส ถูกออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ในที่สุดฉากนี้ดูไม่เหมาะสม

ข้อความนี้เป็นคำตอบสนองความคิดเห็นหรือคำถามเกี่ยวกับเรื่องซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุมากกว่า 30 ปีและผู้ชายที่อายุ 16-17 ปี ฉากที่อ้างถึงในข้อความมีความลึกลับในเรื่องเพศ ภาพลามกเต็มไปได้ และผู้เขียนเสนอข้อกำกับว่าผู้ชายในฉากนั้นอาจมีอารมณ์สำหรับหญิงนั่นเอง ทั้งนี้ประเด็นนี้อาจสื่อถึงความโกรธหรือความสะอิดสะเอียนของผู้เขียนเกี่ยวกับตัวละครหรือบริบทในเรื่องเพียงคำถามยังไม่เป็นที่ชัดเจนอีกว่าผู้ดูจะสนใจกระบวนการผลิตหรือผลลัพธ์ของผลงานเรื่องนี้

แค้น ตัวละครหลัก

จากนั้นก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ เข้ามาวิจารณ์แสดงความคิดเห็นว่า “จริงค่ะ เห็นด้วยมากๆ ดูแล้วอึดอัด, อึดอัดจริงๆ ค่ะ บทพยายามยัดเยียดให้ฟิน แต่เอาอะไรมาฟิน ตอนเหมือนแพรอายุ 18 เก่งกาจเพิ่งเกิดไม่กี่ปี ละตอนนี้แพร 30 กว่าๆ แล้ว ดันมาแก้แค้นด้วยการอ่อยเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะ คิดอะไรอยู่ ละนางเอกพูดเองด้วยนะคะว่า “ไม่หลอกใคร เพราะรู้ว่าการถูกหลอกมันเจ็บแค่ไหน” งงบทมากค่ะ แค้นตอนที่6 บทเรื่องนี้มันประหลาดมาก คสพ.ตัวละครใดๆ ละอันนี้คือมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วยเปล่า กะพุฒิคือก็เป็นน้าเขย มันแบบ” เป็นต้น 

หลังจากนั้นมีผู้ใช้ Twitter อื่นๆ เข้ามาให้ความเห็นและวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกกล่าวถึง พวกเขาเห็นด้วยว่าสถานการณ์ดูอึดอัดและไม่คุ้นเคย, และแสดงความเห็นว่าเนื้อหาพยายามทำให้ผู้อ่านรู้สึกฟิน แต่ไม่เข้าใจว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับบทเรื่อง แพรอายุ 18 ปีและตอนนี้เธออายุ 30 แล้ว พวกเขากล่าวถึงความแปลกประหลาดของบทเรื่องและสันนิษฐานถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร พวกเขาสงสัยว่าคำว่า “กะพุฒิ” อาจหมายถึง “น้าเขย” คนหนึ่ง

ละครไทยสนุกๆมีนักแสดงนำเป็นใครบ้างนะ

เหมือนแพร รับบทโดย แต้ว ณฐพร – เด็กสาวผู้พ่ายแพ้และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเพราะเธออ่อนแอต่อโลกและเธอเลือกที่จะกลับมาและเอาทุกอย่างกลับคืนมา และแก้แค้นชายผู้ที่พรากทุกอย่างไปจากชีวิตของเธอ

ปรางทอง รับบทโดย แอฟ ทักษอร – นักธุรกิจสาวสวยเบื้องหน้าน่ารักและทำงานได้ดี แต่ลับหลังเลือดเย็น และเป็นผู้บงการทุกอย่างเพราะความแค้นที่ฝังอยู่ในใจ

พระเอก

พิธาน รับบทโดย นาย ณภัทร – น้องชายของอรรณพ ที่ถูกพี่ชายส่งตัวไปดูแลเหมือนแพรอย่างลับๆ เป็นคนตรงไปตรงมา และพยายามที่จะหยุดความแค้นด้วยความรัก

อรรณพ รับบทโดย พุฒ พุฒิชัย- สามีของปรางทองอายุสั้นเริ่มขุ่นเคืองทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจจึงแก้ไขความผิดโดยไม่ให้ปรางทองรู้จึงส่งน้องชายมาดูแลเหมือนแพร

ดราม่าสุดมันส์รวมนักแสดงตัวพ่อและตัวแม่แห่งวงการ

นี่เป็นเรื่องราวย้อนหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมสับสนเลย และสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างไม่ต้องสงสัยแม้จะมีข้อสงสัยเล็กน้อยว่ายังคงถูกเรียกว่า แต่ต้องรอให้การแสดงค่อยๆ แสดงครบทุกด้านได้ไม่อึดอัด แสง และสีที่ออกมาชัดเจนนำเสนอบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างละครไทยและเกาหลี นี่เกือบจะกลายเป็นลายเซ็นต์ของละครจินหยิงไปแล้ว

และตัดสินจากบทที่เขียนใหม่เกือบทั้งหมด การรักษาตัวละครไว้เพียงบางส่วนจะช่วยเพิ่มปมและความโหยหาในหัวใจ แก้แค้นให้สมเหตุสมผลมากขึ้น ทำให้เราตั้งตารองานเขียนของณัฐติยา ศิรากรวิไลที่รอคอยมานานน่าจะน่าประทับใจ สมการรอคอยคนดูยิ้ม เราจะต้องรอตอนที่เหลือที่จะออกอากาศให้เห็นสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าของอาการปวดตับ

แค้น ฉากรัก

แต่ถ้าพูดถึงแค่สองตอนแรกที่ออนแอร์แล้วต้องบอกว่าการปรับใหม่ทำให้ความแค้นของตัวละครหลักทั้งสองมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น เป็นมนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการอภัยโทษอีกต่อไป เพราะการบาดเจ็บสามารถทำลายชีวิตได้ ถึงแม้จะต้องโตมากับคำดูถูกก็สามารถทำให้มนุษย์ทำสิ่งที่ไม่คาดคิดได้จริงๆ แม้กระทั่งตอนจบของตัวละครตัวนี้ ฉันยังนึกไม่ออกว่าจะทำข้อตกลงได้อย่างไร

เหมือนแพรจะแก้แค้นตามแบบในนิยายไหม? เราก็ต้องติดตามกันต่อไป ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ช่อง 3 กด 33 รับชมได้แล้ววันนี้บน 3Plus และ VIU

รีวิวละคร แค้น บทสรุป

ความแค้นยังไม่จบ…เกมต้องดำเนินต่อไป เหมือนแพรบงการจิตใจด้วยความรัก จนเขาเริ่มกบฏและกบฏต่อปรางค์ทองแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนและปรางทองก็เจ็บปวดมาก เธออดทนต่อความกดดันและพบทางแยกทั้งสองแห่งเข้าหากัน แต่ก็พบว่าจริงๆ แล้วมันไม่ดีมาก เขาพยายามทำให้หลานชายของเขาตั้งท้อง แต่ยิ่งถูกห้ามมากเท่าไร

ความเก่งกาจที่เร้าใจก็ยิ่งกลายเป็นเด็กที่ฉุนเฉียวมากขึ้นเท่านั้น และขัดขืนคำสั่งทั้งหมดของปรางทองและประกาศเมื่ออายุ 20 ปีว่าจะแต่งงานเหมือนแพรและละทิ้งความดูแลของแม่และลุงของเขา ทำให้พระปรางค์ทองเกือบล้มเพราะตามพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของทุกสิ่งถ้าแพ้แบบนี้นางก็ได้ทุกอย่าง  ปรางทองจะไม่มีวันยอมแพ้

แค้น ฉากประทับใจ

ความแค้นนี้จะจบลงที่ใด ? ติดตามได้ที่ ละคร แค้น ช่อง 3HD ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 นเริ่มตอนแรกวันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 นำแสดงโดย แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ นาย ณภัทร เสียงสมบุญ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ และ พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน

อ่านรีวิวจบกันแล้ว ใครยังอารมณ์ค้างกันอยู่ ทีมงานเราขอแนะนำรีวิว เพราะเราคู่กัน The Movie หนังไทยที่นำเนื้อเรื่องมาจากซีรี่ส์เรื่องดัง แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

เพราะเราคู่กัน The Movie หนังรักจากซีรีส์กระแสจิ้นอันดับหนึ่งในไทย

เพราะเราคู่กัน ภาพปก

รีวิว เพราะเราคู่กัน The Movie

จากความสำเร็จของซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่าง คั่นกู ที่ได้สร้างสถิติที่น่าทึ่งบนเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยการติดอันดับ 1 ในเทรนด์ทวิตเตอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนเกิดเป็นกระแส ไบร์ท – วิน คู่จิ้นสุดหล่อที่ทำให้เหล่าแฟนๆ ฟินกันแบบถล่มทลายมาแล้ว รีวิวหนังไทยมาใหม่ ขอนำเสนอเรื่องราวการกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์ กับ เพราะเราคู่กัน The Movie ที่มาพร้อมกับการร้อยเรียงเรื่องราวใหม่ให้กระชับและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ชมได้พบกับความรักและเรื่องราวที่เข้าใจง่ายและน่าติดตาม พร้อมกับการถ่ายทำใหม่เพื่อเพิ่มคุณภาพและความสวยงามในแบบของภาพยนตร์ และท่านสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง doonungvip.com เว็บดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง คุณภาพคมชัดระดับ 4K เชิญกดลิงค์ได้เลยค่ะ

เพราะเราคู่กัน ไบร์ท

ข้อมูลทั่วไป

“เพราะเราคู่กัน THE MOVIE” คือผลงานหนังเรื่องแรกจากการร่วมมือของ “GMMTV” และ “Disney+ Hotstar” ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งชื่อดังทั้งในระดับโลก เอเชีย และไทย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของซีรี่ส์วาย “เพราะเราคู่กัน” กลายเป็นกระแสแรงไม่แรงที่คนในวงการและผู้ชมหลายๆ คนต่างรู้จัก เมื่อซีรี่ส์นี้ออนแอร์ ก็ติดอันดับ 1 ในเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกตอน ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือต่างประเทศ

เพราะเราคู่กัน THE MOVIE เป็นซีรี่ส์ที่สร้างกระแสการตอบรับได้อย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่มีผู้ชมกรี๊ดนักแสดงนำอย่างไบร์ท – วิน คู่จิ้นสุดหล่อ และพวกเขายังคงมีความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเพราะเราคู่กัน THE MOVIE เป็นซีรี่ส์วายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปีนั้นเลยก็ว่าได้

นักแสดงนำในซีรี่ส์นี้ ได้ทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมากในช่วงเวลาอันสั้นๆ ทำให้นักแสดงนำมีความสำเร็จและความเปรี้ยงปร้าง ในขณะช่วงโควิด นักแสดงคนอื่น ไม่ค่อยมีงาน แต่นักแสดงคู่นี้กลับมีโอกาสได้งานต่อเนื่อง ทำให้เป็นหนึ่งในต้นแบบของซีรี่ส์วายที่สร้างสรรค์สื่อและกระแสในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้

เพราะเราคู่กัน ตัวละคร

เพราะเราคู่กัน The Movie เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ GMM TV ที่ถูกนำเสนอในโรงภาพยนตร์ โดยเนื้อหาของภาพยนตร์นี้เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ #ไบร์ทวิน ซึ่งได้สร้างความสั่นสะเทือนในวงการซีรีส์วายของประเทศไทยอย่างมาก

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการตอกย้ำความสำเร็จและความน่าสนใจที่มีอยู่แล้ว โดยเชิญชวนแฟนๆ ไปติดตามความมีเคมีที่เข้ากันแบบสุดๆของนักแสดง ภาพยนตร์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ชมได้พบกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและฝีมือการแสดงที่มีคุณภาพ เป็นโอกาสในการต่อยอดและนำเสนอความสัมพันธ์ของพวกเขาในแง่มุมใหม่ ผ่านการนำเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์ที่จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความคิดถึงให้แก่แฟนๆ อีกครั้ง

นักแสดง

วชิรวิชญ์ ชีวอารี (ไบร์ท) รับบท สารวัตร กันติธานนท์

เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร (วิน) รับบท ไทน์ ทีปกร

สัตบุตร แลดิกี (เดรก) รับบท มิล

ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล (แฟรงค์) รับบท ผู้กอง

ชินรัฐ สิริพงษ์ชวลิต (ไมค์) รับบท แมน

จิรกิตติ์ คูอาริยะกุล (ท็อปแท็ป) รับบท ไทป์

ศิวกร เลิศชูโชติ (กาย) รับบท ดิม

กรวิชญ์ บุญศรี (กันต์) รับบท กรีน

ชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์ (กันต์สมาย) รับบท บอส

ปลื้ม พงษ์พิศาล (ปลื้ม) รับบท เผือก

เพราะเราคู่กัน ฉากจิ้น

ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล (ข้าวตัง) รับบท ฟ่ง

ชยกร จุฑามาศ (เจเจ) รับบท โอม

ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากร (เลิฟ) รับบท แพร

รชานันท์ มหาวรรณ์ (ฟิล์ม) รับบท เอิร์น

สโรชา บุรินทร์ (จีจี้) รับบท แพม

ภัคจิรา กรรรัตนสูตร (นาแนน) รับบท แฟง

เรื่องย่อ

ไทน์คือหนุ่มที่มีความเท่ห์ หน้าตาหล่อ และมีจิตวิญญาณที่สนุกสนาน ร่าเริง และชอบเล่นเกม แต่เขากำลังปวดกับเรื่องความรัก เพราะมีหนุ่มหน้าหล่ออย่างกรีนมาตามจีบอยู่ตลอด

ด้วยความที่เหนื่อยกับสถานการณ์เช่นนี้ ไทน์จึงตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มที่เป็นคนดังและฮอตสุดๆ อย่าง สารวัตร เพื่อช่วยในการทำเป็นแกล้งจีบเขาเพื่อกันกรีนให้ออกห่างจากเขา

เพราะเราคู่กัน ฉากจูบ

แต่สิ่งที่ไทน์ไม่รู้คือ สารวัตรไม่ได้มาแกล้งจีบเพื่อกันกรีนให้ออกห่างจากไทน์ แต่เขามาเพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อสารวัตรได้พบกับไทน์ในงานคอนเสิร์ตของวงดนตรี Scrubb และตั้งใจเข้าไปพัฒนาความรู้สึกที่เกิดขึ้นตั้งแต่นั้น

เรื่องวุ่นวายจากการแกล้งจีบไทน์เพื่อกันกรีนให้ออกห่าง กลายเป็นรักจริงของพวกเขา ที่เปลี่ยนเป็นความรักจริงๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างสารวัตรและไทน์ พวกเขาต้องผ่านความสับสนและความรู้สึกที่วุ่นวายเพื่อที่จะออกสู่แสงสว่างของความรักที่แท้จริง ผ่านบทเพลงสุดฮิตจากวงดนตรี Scrubb ที่แสดงอารมณ์และความรู้สึกของไทน์และสารวัตรได้อย่างลงตัว

ความรู้สึกหลังดู

“เพราะเราคู่กัน The Movie” เป็นผลงานที่อ้างอิงเนื้อหาจากซีรีส์ทั้งสองภาคของเพราะเราคู่กัน โดยผู้กำกับทั้งสองคนอย่าง แชมป์-วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับ เพราะเราคู่กัน และออฟ-นพณัช ชัยวิมล ผู้กำกับจาก เพราะเรา (ยัง) คู่กัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้

พวกเขาได้สร้างเรื่องราวใหม่ให้กับความสัมพันธ์ของสารวัตร (ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี) และไทน์ (วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร) สองหนุ่มที่บังเอิญต้องมาแกล้งจีบกันและกลายเป็นคู่รักในที่สุด ซึ่งในเวอร์ชันภาพยนตร์นี้เราจะได้ชมเรื่องราวแบบ Complete Edition ให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นกลมกล่อมที่สุด

ภาพยนตร์รวมนี้เน้นในเรื่องราวแบบ Complete Edition ซึ่งได้ปรับแต่งเนื้อหาให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการขยายฉากบางส่วนให้เป็นจุดเด่นและเพิ่มความหนักในบทสนทนาของตัวละคร ผู้ชมจะได้เข้าสู่ความรู้สึกและประสบการณ์ที่หลากหลายของความสัมพันธ์ของสองหนุ่มอย่างสมบูรณ์แบบ

เพราะเราคู่กัน พระเอก

เราจะได้เข้าสู่โลกของซีรีส์ที่คุ้นเคยด้วยเนื้อหาที่นำมาจากทั้งสองพาร์ตคือ “เพราะเราคู่กัน” และ “เพราะเรา(ยัง)คู่กัน” แต่ในครั้งนี้เราได้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไป บางฉากที่เคยเป็นมุมกล้องหนึ่งอาจถูกขยายหรือเพิ่มเติมในมุมที่กว้างขึ้น เป็นการสร้างมุมมองใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นขึ้นมา แม้กระทั่งฉากที่ไม่เคยปรากฏในซีรีส์เดิมก็ถูกนำเข้ามาเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกและเนื้อหาใหม่ในเรื่องราว 

เราได้พบกับชีวิตของสารวัตรและไทน์ในบริบทและสิ่งแวดล้อมใหม่ที่เปลี่ยนไป ที่ทำให้เรามีโอกาสเข้าใกล้และเข้าใจตัวละครในมุมมองใหม่ เรายังได้พบกับคาแรกเตอร์ที่เติบโตขึ้นของตัวละคร เป็นการเสนอความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นแก่แฟนๆ ที่รอคอยการได้เห็นการเติบโตของตัวละครโปรดที่ตั้งตารอ

ข้อสังเกต

การนำเนื้อหาจากซีรีส์ทีวีมาพัฒนาให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่กระชับและตีตัดใหม่เป็น “เพราะคู่กัน The Movie” หรือเรียกว่า ‘คั่นกู’ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เนื้อหาคงความสนุกสนานและความได้ชัดเจนในเนื้อหาด้วยเวลาที่จำกัด

ซึ่งการที่แฟนๆ รอคอยและคาดหวังผลงานนี้นานหลายปี เมื่อได้เข้าไปรับชมแล้ว ความคาดหวังที่เคยมีอาจทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่เหมือนกัน เมื่อไม่ได้พบเนื้อหาใหม่ที่คาดหวังว่าจะเจอ และบางครั้งการที่เนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากซีรีส์ แบบที่เอาฉากเดิมในซีรี่ส์มาตัดแปะกัน ด้วยตัวภาพยนตร์ ที่ไม่ได้ถ่ายทำใหม่ เขียนบทใหม่ ในรูปแบบของภาพยนตร์ที่ควรจะเป็น แค่ใช้ฟุตเทจเดิม มาร้อยเรียงใหม่ ตัดต่อใหม่ และถ่ายเพิ่มอีกไม่กี่ฉาก

มันดูเหมือนเป็นงานยำรวมกันของซีรีส์ มากกว่าเป็นภาพยนตร์ และในบางช่วงที่มีการเอาฉากเดิม มาใส่ดนตรีใหม่ พากย์เสียง เล่าเรื่องใส่ จนบางทีก็ดูเยอะเกินไป ความรู้สึกเดิมๆที่ผู้ชมคุ้นเคย และเคยอิน เคยอมยิ้ม เคยฟิน จากซีรีส์ ฉากเดียวกัน แต่พอเอามาใส่ดนตรีใหม่ ใส่ซาวน์ประกอบใหม่ คือความรู้สึกนั้น มันหายไปหมดเลย เมื่อได้ดูหนัง ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ชมมีความรู้สึกผิดหวัง เกิดขึ้น

เพราะเราคู่กัน ฉากรัก

สำหรับผู้ที่คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่เฝ้ารอมานาน แต่พอได้เข้าไปดูภาพยนตร์ ก็อาจจะต้องเจอกับความผิดหวังเมื่อในภาพยนตร์จะเป็นการเล่าย้อนความของซีรีส์ ซึ่งผู้ชมบางท่านก็จำได้อยู่แล้ว และผู้ชมที่อยากดูสิ่งที่ใหม่จริงๆ ใหม่พอที่จะเป็นภาพยนตร์ กับการรอซีนใหม่ที่จะเกิดขึ้นในภาพยนตร์ ก็อาจจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนการเอาซีรีส์ทั้ง2เรื่องมารีรัน โดยเฉพาะในความรู้สึกของคนที่ดูซีรีส์วายมาเยอะ

สรุปภาพรวม

ภาพยนตร์ “เพราะเราคู่กัน THE MOVIE” นำเสนอเรื่องราวต่อจากซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย 2gether The Series” และ “เพราะเรา(ยัง)คู่กัน” โดยจัดทำในรูปแบบของภาพยนตร์ที่แตกต่างและเต็มเปี่ยมด้วยความน่าสนใจกว่าเดิม

การสานต่อความสำเร็จของทีวีซีรีส์จาก GMMTV ไปสู่รูปแบบภาพยนตร์ที่มีความกระชับและนำมาสานต่อเป็น “เพราะคู่กัน The Movie” หรือที่แฟนๆ ชื่นชอบเรียกว่า ‘คั่นกู’ จริงๆ เป็นสิ่งที่น่าติดตามและน่าจับตามของการพัฒนาเนื้อหาที่สร้างความสนใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก

การนำเอาเรื่องราวและตัวละครที่คนคุ้นเคยจากทีวีซีรีส์มาพัฒนาเป็นภาพยนตร์เป็นกระบวนการที่ต้องการใช้ความสามารถในการปรับปรุงเนื้อหาและนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าติดตาม เพราะคุณภาพของภาพยนตร์จอใหญ่ต้องมีความกระชับและเน้นความสำคัญของเนื้อหาอย่างชัดเจน นี่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เนื้อหาไม่เสียความหมายและมีความน่าสนใจต่อผู้ชมในช่วงเวลาที่จำกัด

เพราะเราคู่กัน ฉากประทับใจ

ภาพยนตร์นี้มีนักแสดงที่สำคัญอย่าง “ไบร์ท–วชิรวิชญ์ชีวอารี” และ “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย รวมถึงนักแสดงวัยรุ่นอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงในวงการ เพื่อนำเสนอความรู้สึกและเรื่องราวของเหล่านักเรียนในภาคเรียนที่ผ่านมา

“เพราะเราคู่กัน THE MOVIE” นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดของซีรีส์เรื่องนี้ในรูปแบบ Complete Edition โดยมีการถ่ายทำใหม่และปรับปรุงบางฉากเพื่อให้เนื้อหามีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Hidden Scene ที่เพิ่มเติมเพื่อเชื่อมต่อเรื่องราว นอกจากนี้ การทำเพลงประกอบและการตัดต่อก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ชม

ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแค่เสนอเรื่องราวที่เราคุ้นเคย แต่ยังมาพร้อมกับเซอร์ไพรส์ในตอนจบที่แตกต่างจากซีรีส์เดิม เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ความฟินและความสนุกที่ไม่เหมือนใคร และทีมงานขอแนะนำรีวิวอีกซักเรื่อง อ้ายคนหล่อลวง หนังตลกฟีลกู๊ด จากค่าย GDH ที่จะทำให้คุณยิ้มจนแก้มปริ

อ้ายคนหล่อลวง หนังตลกฟีลกู๊ดชั้นดี ไม้ตายค่าย GDH

อ้ายคนหล่อลวง ภาพปก

รีวิวหนัง อ้ายคนหล่อลวง ภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้จากGDH

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคนวันนี้ผู้เขียนจะมารีวิว หนังไทยมาใหม่  เรื่อง อ้ายคนหล่อลวง ให้เพื่อนๆทุกคนได้อ่านกัน และนี่คือภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่มีทั้งความตลกขบขันและการหักมุมของพระเอกและนางเอก บวกกับความน่ารักโรแมนติกในตอนจบของเรื่อง นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ 

เป็นเรื่องราวของกลุ่มมิจฉาชีพทางโทรศัพท์ที่โชคไม่ดีที่ได้พบกับอดีตพนักงานธนาคาร และพวกเขาต้องทำภารกิจฉ้อโกงเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับและส่งตัวให้ตำรวจ เราจึงอยากขอให้เพื่อนๆ ไปดูรีวิวกันดีกว่าว่ามีฉากไหนห้ามพลาดบ้าง

“แฟนเก่าเบี้ยวหนี้”

“หมาป่าดั่งเพชร” เขาอยากจะเข้าไปทุบแกะ คุณไม่คิดเหรอว่าแกะจะโกงมัน ?

“คนในสนามจะอ่านเกมได้อย่างไร”

งั้นนายก็ไว้ใจฉันได้ใช่ไหม?

นี่คือบทสนทนาระหว่างสองตัวละครหลักใน อ้ายคนหล่อลวง ที่ดูคมกริบเหมือนหนังปล้น…หนังการฉ้อโกง

และนี่คือภาพยนตร์คอมเมดี้ส่งท้ายปี “จีดีเอช” ของผู้กำกับฝีมือดี “เมธ ธราธร” ที่ฝากผลงานภาพยนตร์มาก่อน ฉัน- ก็.. ขอบคุณ.. รักนะ ครั้งนี้เขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง แม้แต่คนรักที่เราไว้ใจก็ยังนอกใจกันได้ เรื่องราวหลอกลวงสุดฮาที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง หากเพื่อนๆ ต้องพบกับคนโกหกหน้าตาดี คุณจะตกเป็นเหยื่อของความโลภ หรือตกเป็นเหยื่อของความรักหรือไม่นะ ?

เพื่อนๆสามารถดูหนังออนไลน์เต็มเรื่องได้ทาง doonungvip.com

อ้ายคนหล่อลวง ณเดชน์

รีวิวหนัง อ้ายคนหล่อลวง เรื่องย่อ

ในเรื่องหลักนี้ มีตัวละครชื่ออินา ซึ่งแสดงโดยใบเฟิร์น พิมพ์ชชนก อินาเป็นสาวแบงก์สุดเพี้ยนที่ติดหนี้มากเป็นอันมาก ในขณะเดียวกัน ทาวเวอร์ ซึ่งแสดงโดยณเดช คุกิมิยะ เป็นนักต้มตุ๋นคอลเซ็นเตอร์มืออาชีพ แต่พลาดท่าถูกอินาจับไต๋ จึงทำให้อินามีข้อเสนอให้ทาวเวอร์ไม่แจ้งตำรวจมาจับเธอ ในการแลกกัน คือ ทาวเวอร์ต้องคิดแผนต้มตุ๋นเพชร ซึ่งแสดงโดยแบงค์ ธิติ ซึ่งเป็นแฟนเด็กที่หลอกอินาให้เธอไปช่วยจ่ายค่าเทอมหลายแสน และหลังจากนั้นก็หนีไป ทำให้อินาเป็นหนีท่วมหัวไป

ณเดช ตำรวจ

ภารกิจถูกยกระดับขึ้นเพราะทาวเวอร์เปลี่ยนแผนการจากการต้มตุ๋นเงินแสนให้กลายเป็นการต้มตุ๋นเงินล้านจากเพชร ภารกิจนี้จำเป็นต้องตามหาครูนงนุชมาร่วมทีมแสดงเพื่อปลอมตัวเป็นนักธุรกิจสาว และพี่โจนเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่น ในขณะที่อินารับบทเป็นนักธุรกิจสาวปลอมตัว และพี่โจนรับบทเป็นพี่ชายของทาวเวอร์ซึ่งเขามีประสบการณ์ทางธุรกิจมาก่อน แต่พอเริ่มลงมือต้มตุ๋นเพชรระหว่างทาง อินาก็รู้สึกหวั่นไหว แต่ทาวเวอร์คุมอารมณ์ได้ไม่ให้รักใครได้ ภารกิจนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ สามารถติดตามเรื่องราวต่อได้ใน “อ้ายคนหล่อลวง”

พล็อตเรื่อง

เมื่อพิจารณาจากพล็อตแล้ว ผู้กำกับดูเหมือนจะเล่นเกมที่ยาก ด้วยการสวมบทบาทจอมโกหกของตัวเอกและนางเอกกลายเป็นสาวฉลาดที่รู้วิธีถูกหลอก อย่างไรก็ตามเธอพ่ายแพ้ให้กับแฟนสาวและเลือกที่จะรับเงินคืนผ่านมือของนักโกหกที่หล่อเหลาตัวละครของนางเอกคนนี้จะถูกหลอกครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะใจเธอหวั่นไหวง่าย นอกจากนี้ หวั่นไหวทุกครั้ง เลือกคนดี!

อ้ายคนหล่อลวง นางเอก

บอกเล่าเรื่องราวได้ง่ายเพราะเป็นการหลอกลวงเกี่ยวกับเงินและทอง ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้ฉันได้ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเราเป็นคนที่คิดอะไรง่ายๆ ไม่ชอบหลอกชาวบ้าน ยอมรับว่ามึนๆ บางจุด แต่พบว่าความเข้าใจผิดหายไปตามกาลเวลา

เรื่องราวมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อแถมมีมุกฮาแทรกตลอด มุกเล็กๆ สามบาทห้าบาทก็จัดมาไม่ยั้ง เรื่องตลกมากมายที่ไม่คิดว่าจะได้ผลก็กลับได้ผล แม้ว่าจะมีเรื่องตลกเล็กน้อยก็ตาม

นักแสดงนำและข้อมูลภาพยนตร์ อ้ายคนหล่อลวง

ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบท หอแต๋วแตก หัวหน้าแก๊งต้มตุ๋น หล่อเท่สุดเฟี้ยว

พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ รับบท อินา อดีตพนักงานธนาคารสาวสวยใจดีที่ถูกแฟนหลอก

ฐิติ มหาโยธารักษ์ รับบท เพชร แฟนเก่าของไอนาที่ชอบขโมยเงินผู้หญิง

พงศธร จงวิลาศ รับบท หัวขโมย พี่ชายของต้อล อดีตนักเลงเก่า

แคทรียา แมคอินทอช รับบท ครูนงนุช ครูประถมของไอนา

ใบเฟิร์น

ข้อมูลภาพยนตร์

ผู้กำกับภาพยนตร์: Mace Taraton

ผู้เขียนบท: ภัทรนาถ พิบูลสวัสดิ์, เมธราธร, ทศพล ฐิตินากร

นักแสดง : นาดิก คูจิมิยะ, พิณชนก ลู่วิเศษไพบูลย์, พงศธร โจนวิลาศ, แคทรียา แมคอินทอช, ติติ มหายศรักษ์ / ศานต์เวท ธนะเสวี

ความยาว: 130 นาที

ปี: 2020

ประเภท/ประเภท: ตลก, โรแมนติก

วันที่ฉายในประเทศไทย: 3 ธันวาคม 2020

สตูดิโอ/ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย: จอกว้างฟิล์ม, GDH559

หนังไทยดูเพลิน เนื้อเรื่องเดาง่าย แต่มีหักมุม

นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม และมีความสามารถในการเล่าตลกได้ทั้งกอง ไม่ว่าจะเป็น พระเอก ณเดชน์ ใบเฟิร์น แบงค์ แหม่ม หรือ เผือก ต่างก็ขโมยซีน แถมยังสนับสนุน เดอ ชานทิช (จากหนัง แฟนเดย์..แฟนเดย์) มุกตัวละครนี้อาจจะดูน่ากลัวไปหน่อย โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่าดูตลกและเพลิดเพลิน

สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะดูดีไหม ผู้เขียนว่า ไม่ควรพลาด ล่าสุดตอกย้ำความสำเร็จของงานประกาศรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564 หลวเคยคว้ารางวัลมามากมาย ทั้งนักแสดงสมทบชายปึก พงศธร

อ้ายคนหล่อลวง แบงค์

และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม แหม่ม คัทลียา และรางวัลทีมนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ณเดชน์ คูกิมิยะ ยังคว้ารางวัลรองชนะเลิศสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและรางวัลรองชนะเลิศบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

รีวิวหนัง อ้ายคนหล่อลวง ความประทับใจหลังดู

น่าดูมาก นักแสดงเล่นดีมากทุกคน โดยเฉพาะคู่พระนาง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ถือว่าเคมีเข้ากันสุดๆ เธอเล่นกับเฟิร์นอย่างไร้กังวล และทำให้เราเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้เป็นแกะที่ถูกโกงและจ่ายเงินอย่างโง่เขลา (ฉากผมร่วงในตำนานที่เห็นในตัวอย่างมันเข้ากับหนังมาก ยิ่งรู้สึก…คลาสสิค)

และการแสดงของณเดชน์ต้องบอกว่าเป็นธรรมชาติมาก ในทุกฉากที่ณเดชน์แสดง การแสดงของเขานั้นไม่มีข้อผิดพลาด โดยเฉพาะการเป็นคนโกหกแบบเนียนๆ! (แต่ถ้าประกอบเราชอบฉากแนะนำฉากแข่งรถเฟอร์รารี่นี่แหละคือการแสดงที่ดีที่สุดของณเดชน์ในหนังเรื่องนี้)

พระเอกนางเอก

เหตุผลที่นักแสดงพัฒนาฝีมือการแสดงได้ขนาดนี้ นาเดจิให้สัมภาษณ์เบื้องหลังว่านอกจากการแสดงตามบทแล้ว ผู้กำกับยังเปิดโอกาสให้นักแสดงได้ลองสวมบทบาทและตีความบทบาทด้วยตัวเองอีกด้วย บางฉากมีวิธีเล่น 4-5 แบบ

แต่เรื่องความโรแมนติกก็ยังดูน้อยไป บทนี้อาจจะไม่ได้มอบโอกาสโรแมนติกให้ทั้งคู่ แต่ก็มีฉากน่ารักๆ ของคู่นี้ที่ทำให้เรายิ้มและแอบเชียร์ได้

บทสรุปภาพยนตร์ อ้ายคนหล่อลวง

ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่า เนื้อเรื่องกระชับและโครงเรื่องพอคาดเดาได้ แต่มีจุดหักมุมในตอนท้าย ซึ่งจะทำให้ผู้ชมประหลาดใจอย่างแน่นอน หนังมีความยาว 2 ชั่วโมง 8 นาที แต่ดูแล้วไม่เบื่อเลยเพราะมีความตลกขบขันสอดแทรกอยู่ในหนัง จนคนดูรู้สึกเหมือนผ่านมานาน ความตลกของหนังเรื่องนี้ต้องยกให้ทาโร่กับโทคุที่แค่มองหน้าก็ขำแล้ว หล่อต้องไปที่ ณเดชน์ แสดงดี ใบเฟิร์น น่ารัก ดูแล้วหยุดขำไม่ได้ แบงค์ ธิติ กับ แหม่ม กมลลียา ก็แสดงได้ดีมาก รวมๆ แล้วเคมีของนักแสดงในเรื่องนี้ลงตัวสุดๆ

อ้ายคนหล่อลวง ขับรถ

ขอย้ำอีกครั้งในหนังเรื่องนี้ เป็นหนังไทยที่ครบรส ตลก และฮาเกือบทั้งเรื่อง ผู้ใหญ่ดูได้ เด็กก็ดูได้ แต่อย่าถามเหตุผลที่ดูหนัง คิดว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่จาก GDH นี้ อ้าย..คือคนโกหก ผ่านการทดสอบ ใครเครียดกับเรื่องนี้บ้าง? หนังเรื่องนี้รับประกันว่าจะทำให้ผู้ชมสบายใจ

โดยรวมแล้วถือได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำการบ้านมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปงเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพในประเทศไทยในรูปแบบต่างๆเบื้องหลังของเรื่องนี้ใช้เวลาประมาณสองปีในการทำบทให้เสร็จโดยศึกษาพฤติกรรมของนักต้มตุ๋นตัวจริง สิ่งนี้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ราบรื่นและสมจริงโดยไม่ทำให้เกินจริงหรือเกินจริงเลย เพราะมันคือพฤติกรรมจริงๆ ที่เราเห็นในข่าว

แต่พอเอาไปสร้างเป็นหนังแล้ว มันยังหลอกลวงอีก แต่เรากลับใช้ความกล้าหาญและช่วยเหลือภารกิจนี้แบบเดียวกับที่เราตามใจตัวเองในภาพยนตร์สายลับอย่าง Ocean’s Twelve หรือ Now You See Me อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง ดังนั้นหากเพื่อน ๆ เคยดูหนังมาแล้ว คงต้องกลับมาสำรวจกันใหม่ว่าเราตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า!

และยังมีหนังไทยสนุกอีกเรื่องที่ไม่แพ้กันเลย  Ai Love you เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด หนังไทยจากผลงานของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก อีกเรื่องใครว่างๆ ลองไปอ่านรีวิวของเรากันก่อนได้เลยค่ะ

ขุนพันธ์ 3 ภาพยนตร์ปิดไตรภาคของแฟรนไชส์ฮีโร่พันธ์ุไทย

ขุนพันธ์ 3 ภาพปก

ขุนพันธ์ 3 ความมันส์สะใจแอคชั่นจัดเต็มพล็อตเรื่องเข้มข้น

ขุนพันธ์ 3 คือภาพยนตร์ปิดไตรภาคของแฟรนไชส์ฮีโร่สายพันธ์ไทยของค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลจัดเต็มหนังแอ็คชันฟอร์มยักษ์รับต้นปี และตอบแทนแฟนหนังขุนพันธ์ที่ติดตามกันมา 10 ปี ถือเป็นทีเด็ดหนังไทยย้อนยุค ประจำปีนี้เลยทีเดียว

ซึ่งเนื้อหาในภาคที่ 3 เกี่ยวกับการผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2493 ที่ส่งผลให้บ้านเมืองได้รับความเสียหาย ในขณะที่ชุมโจรเสือร้ายกำลังรุกล้ามไปทั่วทุกหนแห่ง ขุนพันธ์ นายตำรวจสุดเก่งที่มุ่งมั่นในความยุติธรรมถูกเรียกกลับมาปฏิบัติภารกิจจับกุมเสือร้าย 2 คนที่หลบหนีอยู่และเป็นผู้ก่อกวนอำนาจรัฐ

การจับตาย 2 เสือชื่อดังอย่าง เสือมเหศวรและเสือดำ ครั้งนี้อาจไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ขุนพันธ์จะสามารถบรรลุภารกิจท้าทายศรัทธา และเผชิญหน้าเหล่าเสือร้ายที่มีทั้งอาคมและ ความคงกระพันได้หรือไม่ เรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร เชิญติดตามได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวในจักรวาลของสาวกซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ไทย ที่เต็มไปด้วยการต่อสู้และการแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีของสังคม ตัวละครเอกเป็นคนที่ชำนาญในการศึกษาและมีกล้ามจัดด้านอาคม

ภาคหนังนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการต่อสู้ เจ้าขุนมูลนายแสดงถึงความตั้งใจในการรวบรวมอำนาจและมีความกรุณากับตนเองเป็นสำคัญ ตลอดเนื้อเรื่องเราเห็นการรักษาชีวิตของผู้คนต่างๆ ที่ต้องทำการที่อาจแย่งกินของคนอื่นโดยไม่สนใจความถูกต้อง

ดังนั้นนี่คือเรื่องราวในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ไทย ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นหนังไตรภาค และภาคนี้คือ ‘ขุนพันธ์ 3’ ภาคสุดท้ายซึ่งจะสรุปเรื่องราวไว้

ท่านสามารถดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ความคมชัดระดับ 4k ได้ทาง doonungvip.com

นี่คือภาคที่สามของภาพยนตร์จักรวาล ขุนพันธ์ ผลงานจากก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ผู้คนพูดถึงเกี่ยวกับเขาและผลงานเรื่อยๆ

อีกทั้งยังมีผลงานภาพยนตร์อื่นๆ ที่เขาได้ทำ เช่น “ลองของ” ในปี 24548, “ไชยา”, “เฉือน”, “อันธพาล”, “Take Me Home : สุขสันต์วันกลับบ้าน” และ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” โดยภาค “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” เป็นภาคต่อของภาคแรกที่ชื่อว่า “ขุนพันธ์” 

แม้ว่าภาคต่อจะเข้าฉายก่อนแต่ภาคแรก นอกจากนี้ยังมีผลงานเขียนบทภาพยนตร์และละครอีกจำนวนมาก และผลงานในการแสดงอีกด้วย เขาได้รับความชื่นชมและยอมรับจากผู้ชมตลอดเวลาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย และเขากลายเป็นผู้กำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ไทยภาคต่างๆในวันนี้

ขุนพันธ์ 3 นักแสดงนำ

ขุนพันธ์ 3 เรื่องย่อ

ขุนพันธ์ 3 เรื่องย่อ เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงปี พ.ศ. คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนปีทศวรรษ พ.ศ. เหตุการณ์ในปี 2493 ทำให้เมืองยังคงประสบปัญหาจากภัยสงคราม ทำให้ขาดแคลนข้าวและราคาขึ้นสูง สิ่งที่สร้างความตกใจยิ่งขึ้นคือสัตว์ป่าที่อันตรายเช่นเดิมยังคงอยู่

ในส่วนของข้าราชการก็ยังมีการทุจริตต่าง ๆ อยู่ นายตำรวจขวัญพันธ์ (ประสิทธิ์ ชนะเวทย์ จากการแสดงในหนังเรื่อง ‘อินทรีแดง’, ‘ชัมบาลา’ และ ‘ชั่วฟ้าดินสลาย’) ที่คิดจะลองหาผ่องปลอดภัยกับครูนุ่น (พลอย ชิดจันทร์ จากหนังเรื่อง ‘รับน้องสยองขวัญ’ และ ‘สวยลากไส้’) ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับสองตัวสัตว์ป่าอันตรายอีกครั้ง คือสัตว์ป่ามเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ จากการแสดงในหนังเรื่อง ‘พี่มากพระโขนง’ และ ‘ขุนแผน ฟ้าฟื้น’) และสัตว์ป่าดำ (โตโน่ ภาคิน จากการแสดงในหนังเรื่อง ‘ส้ม ปลา น้อย’ และ ‘Love Syndrome รักโง่ ๆ’)

ขุนพันธ์ 3 อนันดา

สิ่งนี้ทำให้เขาต้องกลับมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ร้ายที่แก่งใหญ่ที่มีลำน้ำที่มีจระเข้ยักษ์อาศัยอยู่ ทว่า การกลับมาของเขาก็คล้ายจะไม่เหมือนในครั้งก่อน เมื่ออาคมขลังในตัวเริ่มสั่นคลอน การต่อกรกับเหล่าร้ายจึงต้องสู้กับเวลา และอาจเป็นไปได้ว่า มือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์อาจต้องกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง

ขุนพันธ์ 3 หนังซูเปอร์ฮีโร่ไทยที่บอกเล่าเรื่องราวความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ในส่วนของพล็อตเรื่องก็ถือว่าเดินเรื่องได้อย่างกระชับเช่นกัน เริ่มด้วยการอธิบายจุดเริ่มต้นของเรื่อง ปมของเรื่อง และจุดคลี่คลายของเรื่อง บทถือว่าเข้มข้นสมจริง

ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วงท้ายเรื่องจะมีความแฟนตาซีอยู่มาก ส่วนการแสดงต้องคำนึงถึงนักแสดงระดับซุปตาร์หลายคน เช่น อนันดา มาริโอ้ โตโน่ ต่างก็เข้าถึงคาแรกเตอร์ของตน ให้คนดูเชื่อจริงๆว่าชุดตัวละครและฉากหนังย้อนยุคมาก เพราะเป็นหนังย้อนยุค. มันเหมือนจริงมาก

ขุนพันธ์ 3 ฉากแอ็คชั่น

ส่วนตัวผู้เขียนหนังเรื่องนี้คือนักแสดงที่แสดงเป็นตัวละครที่ดีจริงๆ ฉากบู๊ของทั้งคู่สนุกที่สุด ดราม่าที่สุด และถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอดจริงๆ เราชอบเสื้อผ้าแนววินเทจ ที่ทั้งเท่และเฟี้ยวสุดๆ ทั้งเป็นหนังที่สนุกสนานมีเนื้อเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังฮีโร่ไทย มีทั้งการใช้เวทมนตร์ การต่อสู้ และการใช้อาวุธก็เป็นแบบไทยๆ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอคชั่น รักหนังฮีโร่ไทย รักเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ รถยนต์ และสถานที่ ต้องดูหนังเรื่องนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ

ตัวละคร ขุนพันธ์ 3 ใหม่ที่ปรากฏในภาคนี้น่าสนใจ

ในภาคก่อนหน้านี้มีเสือใหม่เข้ามาเป็นสมาชิก และภาคนี้ก็เช่นกัน มีสมาชิกอย่างเสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) ซึ่งเป็นจอมโจรร้ายหน้าใหม่ที่เข้าร่วมกลุ่มโจรเชิ้ตขาว มีความฉลาดและความว่องไว

แม้ว่าเขาจะไม่เหลือเหล่ากับเสือคนอื่น แต่ก็มีคาถาที่เป็นอุปสรรคทำให้หลีกเลี่ยงความตายได้ เสือมเหศวรยอมที่จะเป็นคนนอกกฎหมายเพราะเกลียดชังความเหลื่อมล้ำในสังคม

ในเวลาเดียวกันก็มีคุณธรรมในส่วนใจที่ไม่น้อยกว่าขุนพันธ์ เขามีเพื่อนสาวที่สวยงามชื่อสาวิตรี (ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา) เธอเป็นหมอสาวที่คิดแบบคนรุ่นใหม่ และช่วยเหลือในการรักษาคนไข้ในศูนย์รักษาคนไข้ลับของเสือมเหศวร

ขุนพันธ์ 3 มาริโอ้

ส่วนเสือดำ (โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) คือตัวละครที่มีความคิดเด็ดเดี่ยวและดุเดือดอยู่ในใจ มีอารมณ์ที่เห็นใจลึกและกวนใจ

อีกทั้งยังมีความเกลียดชังต่อตำรวจอยู่ภายใน เขาเป็นคนที่มีความคิดตรงข้ามกับปกติ เรียกว่าเป็นคนที่โต้แย้งกับความคิดที่ไอ้แหวกไอ้เหวกเสมอ นอกจากนี้ นี่คือจุดที่พลทหารระดับสูงกว่า มีภูมิภัทร ถาวรศิริ เขาก็คือตัวละครที่ไม่เชื่อในดนตรีเสียงร้อง

ถึงแม้ว่าเขารู้จักดนตรี แต่ก็ยังชวนปวดร้าวอยู่หน่อยๆ ว่าเขาคือคนที่แปลกแยก พร้อมทั้งยังมีสิ่งของต่างๆ หรืออาจะเป็นคนที่จำนวนสติปัญญามากขนาดนั้น

งานโปรดักชั่น ขุนพันธ์ 3 เห็นได้ชัดว่าทุ่มเทแบบหมดหน้าตัก

หนังภาคนี้มีชื่อภาคเป็นของตนเองและชื่อเต็มว่า ‘ขุนพันธ์ 3: วันพิพากษา’ หรือ ‘Khun Pan 3: Judgement Day’ ซึ่งในหนังมีเรื่องราวที่เดินหน้าไปตลอดโดยไม่หยุดยั้ง บางฉากของหนังนั้นมืดเกินไปหรือไม่ชัดเจน บางช็อตที่ดูตลกอาจไม่สมบูรณ์ แต่โดยรวมแล้วหนังนี้ยังเป็นความบันเทิงที่ดีโดยรวม มีการเล่นใหญ่ พร้อมกับดนตรีประกอบที่ชวนให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปกับเรื่องราว

ขุนพันธ์ 3 ประกาศจับ

หนังนี้ยาวถึง 156 นาทีและตั้งคำถามเกี่ยวกับความถูกผิด ทำให้เรื่องมีความหนักแน่น พาร์ทแฟนตาซีก็มีความสำเร็จเช่นกันด้วยตัวละครที่อ้างอิงจากหนังเรื่องก่อนๆ บางฉากยังทำให้นึกถึงหนังซูเปอร์ฮีโร่ รวมถึงเซอร์ไพรซ์ที่ทำให้คนทั้งโรงปรบมือร้องยินดี หนังนี้ถือเป็นหนังที่บันเทิงสุดอยู่

รีวิวหนัง ขุนพันธ์ 3 บทสรุปภาพยนตร์

ในขณะที่หนังวางมาอย่างสนุกสนาน ทุ่มทุนสร้าง ระเบิดตูมตาม พร้อมเซอร์ไพร์สที่ต้องปรบมือให้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแก่นแท้ของจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ไทย จะเขียนเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม ชาวบ้านถูกทอดทิ้งจากรัฐ หากท้องถิ่น ผู้แข็งแกร่งเลือกใช้กำลังบีบบังคับคนจนไม่มีทางเลือกตั้งแก๊งโจรชำแหละคนจน ประชาชนต้องช่วยเหลือกันเพราะพึ่งรัฐไม่ได้ ทั้งๆ ที่ใจไม่อยากเป็นโจร

ขุนพันธ์ 3 ฉากตัดผม

แต่เมื่อมีคนถามถึงความถูกต้องตามกฎหมายของสิ่งที่เขาทำ เขาก็ต้องค้นหาด้วยตัวเอง

ขุนพันธ์ยังเป็นผู้ชายธรรมดาที่บางครั้งก็ล้มเหลว ไม่ใช่ฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบ

ถึงกับงงกับฉากจบที่แทรกระหว่างเอนด์เครดิตเหมือนขุนพันธ์เป็นหนังไตรภาค แต่โบนัสที่เพิ่มเข้ามาทำให้เราคิดว่าเขาต้องการภาคต่อ

ความรู้สึกหลังดูจบ

ส่วนตัวผู้เขียนเมื่อดูจบและอาจทำให้ต้องตะโกนออกมาว่า โครตตตตตมันส์ พี่โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ และนักแสดงทั้งหมดที่มีการโปรโมททางโฆษณาก็ไม่เกินจริงเลย

หนังนี้ออกแบบมาเพื่อที่จะทำให้ความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาคที่มีฉากแอ็คชันอย่างเต็มที่โดยไม่ให้เหล่าแฟนหนังได้พักผ่อน ฉากแอ็คชันในหนังดูเหมือนว่าผู้กำกับเอาเทคนิคที่ยังไม่ได้แสดงในภาคที่แล้วมาใช้ในภาคนี้ทั้งหมดเพื่อให้ได้เห็นฟัลเม่และนักแสดงที่มีการทำงานที่ดีในหนังแอ็คชันที่ดูชอบได้

ในส่วนของเนื้อหาในภาคนี้ยังคงมีความเข้มข้นอยู่และมีการพัฒนาเนื้อหาที่ดุเดือดกว่าสองภาคแรกอีกด้วย

ตอนนี้ขุนที่โดนโจมตีทางด้านการวิสามัญได้ถูกถามถึงว่าทำเกินกว่าเหตุในการจับกุมผู้ร้ายหรือไม่ ซึ่งทำให้เขาต้องออกจากราชการและกลับไปใช้ชีวิตกับภรรยาของเขาชื่อ ครูนุ่น ซึ่งกำลังท้องใกล้คลอด ก่อนที่เขาจะถูกเรียกกลับมาทำภารกิจสุดท้ายในการล่าสองเสือที่เหลืออยู่ นั่นคือเสือดำและเสือมเหศวร ในขณะเดียวกัน สภาพอาคมและความคงกระพันของขุนก็เริ่มเสื่อมลง

ภาคนี้เราได้เห็นว่าความเป็นมนุษย์ของขุนมีอยู่มากที่สุด โดยเขามีความต้องการจะรอดชีวิตและกลับไปหาเมียและลูกของเขา เราได้เห็นมุมการเกิดความกลัวของขุนที่เราไม่เคยเห็นในภาคก่อน บางครั้งเขาอาจเก่งและกายกรรมมาก แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์เหมือนเรา

ขุนพันธ์ 3 นักแสดงนำ มาริโอ้

สรุปสั้นๆ: ในภาคนี้, มาริโอ้และโตโน่ได้รับบทบาทของสองเสือ: เสือมเหศวรและเสือดำ ทั้งคู่ผ่านการสอบผ่านอย่างไร้ข้อกังขา บทบาทเสือมเหศวรที่มาริโอ้แสดงเป็นการแตกต่างจากผลงานอื่นๆ ของเขาซึ่งมักจะเป็นคอมเมดี้ ในบทบาทนี้เขาแสดงความเท่ในมาดของเสือมเหศวรอย่างมาก เหมือนจะลบภาพน่ารักของมาริโอ้แต่เป็นการโชว์ความเข้มข้นไปในสไตล์สุภาพบุรุษจอมโจร

แม้ว่าคำพูดทั้งหมดในบทความนี้จะถูกเสวนาในทิศทางที่ดี แต่หนังยังคงมีข้อบกพร่องที่มากเกินไปในบางส่วน แต่เนื่องจากระยะเวลาของหนังยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง บางส่วนอาจมีจังหวะที่ทำให้ดูอืดอาดเนื่องจากการเล่นให้ปล่อยของพลังในฉากแอ็คชันต่อเนื่อง และเมื่อถึงจุดที่ต้องเล่าเนื้อเรื่องต่อไป

มันอาจจะเหนื่อยขึ้นเพราะต้องรอคอยโอกาสในการดึงอารมณ์ความโกรธที่มีอยู่ออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง.

ผลสรุปที่สุดถ้าพูดถึง “ขุนพันธ์ 3” คือว่าเป็นหนังไทยที่ควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์มาก เพราะมีความสนุกเท่ากับหนังฮอลลีวู้ด อาจไม่เป็นหนังที่ดีอย่างยอดเยี่ยม

แต่ทีมงานนักแสดงและผู้สร้างไม่ดูถูกคนดูและแสดงความตั้งใจในการส่งท้ายแฟรนไชส์นี้ ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นงานแบบนี้ออกมาให้ชมอีกหรือไม่ อยากให้ลองเปิดใจเพื่อให้รู้ว่าวงการหนังไทยถ้าตั้งใจทำก็ไม่แพ้ใครเลย

อ่านรีวิวเรื่องนี้จบแล้ว เราอยากให้ทุกท่านตามไปอ่านรีวิว ผ้าผีบอก หนังไทยตลกแสนสนุกสนานอีกเรื่อง รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน (2023) รีวิวหนังไทยกลิ่นยุค Y2K

You & Me & Me ภาพปก

You & Me & Me เรื่องราวรักวุ่น ๆ ของวัยรุ่น Y2K

กลับมาในวันนี้เราอยากจะมา แนะนำหนังไทยมาใหม่ ภาพยนตร์อีกเรื่องที่มีกระแสดีมาก ๆ นั่นก็คือเรื่อง You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน (2023) ภาพยนตร์แนวโรแมนติกฟีลกู้ดในยุคมิลเลนเนียลของไทยที่เข้าฉายให้ชมกันแล้ว มีให้รับชมทาง Netflix ด้วย 

ใครที่เคยสงสัยว่า หนังฟีลกู๊ด ของสไตล์ค่าย GDH (หรือค่ายก่อนหน้านั้น) การรอคอยกำลังจะจบลง กับผลงานใหม่อย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่จะชวนคุณผู้ชมย้อนอดีตสู่ความทรงจำในวัยเด็ก และความรักครั้งแรกของวัยรุ่น

แต่ความแตกต่างของโปรเจกต์นี้ คือการใช้ตัวละครนำเป็นฝาแฝด และพาคุณผู้ชมเข้าสู่โลกของฝาแฝดที่มีรายละเอียดมากมายที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนผ่านสองผู้กำกับฝาแฝดหญิง วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ผู้ที่ทำงานเบื้องหลังของค่ายหนังนี้มาอย่างยาวนาน

กำกับการแสดงโดยผู้กำกับพันล้าน โต้ง บรรจง ก่อนจะได้รับโอกาสกำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องแรกพร้อมเครดิตการันตี

สำหรับใครที่พลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ เพื่อน ๆ ทุกคนสามารถร่วมย้อนยุคและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของปี 1999 ได้ที่ (เว็บหนัง) หรือจะลองแวะอ่านรีวิวของเราที่ด่านล่างนี้ได้เลยค่ะ

“You and Me & Me” (ยู แอนด์ มี แอนด์ มี) เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าสัญชาติไทย อำนวยการสร้างโดย GDH จะพาผู้ชมย้อนกลับไปในปี 1999 และสัมผัสบรรยากาศของแมลงยุคสหัสวรรษ ผู้เขียนบทและผู้กำกับ: แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์, แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์

สิ่งแรกที่ชื่นชมคือการแสดงของทุกคนในเรื่องที่เรียลมาก มีเพียงเล็กน้อยที่ทำให้นักแสดงรู้สึกแข็งกระด้างหรือไม่เข้าที่สำหรับบทบาทนี้ ส่วนนักแสดงหลักอย่าง “ใบปอ-ธิติยา จิรพรศิลป์” ที่รับบทแฝดยูมิได้อย่างยอดเยี่ยม 

หลายคนเข้าใจผิดว่าเธอมีฝาแฝดจริงๆ รวมถึงอีกหนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้ซึ่งต้องเป็นสแตนด์อินของยูมี

นอกจากนั้น การแสดงของนักแสดงที่เหลือในละครก็ดีมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของยูและมีมี่ ย่าของยูและมีหมาก (ครูสอนพิณ) หรือแม้แต่ลูกๆ ที่มาเรียนพิณจากครู โดยส่วนตัวชอบ ยู กับ มี้ เด็กสองคนที่เล่นพิณมาก เธอพบว่าผมหยิกน่ารักมาก

สามารถรับชม You and Me & Me เต็มเรื่อง ความชัดระดับ 4K ได้ที่ doonungvip.com

You & Me & Me ฉากวิวสวย

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน เรื่องย่อ

เธอกับฉันกับฉัน เรื่องย่อ หนังเล่าถึงเรื่องราวของฝาแฝดตัวน้อย ยู และ มี ที่ใช้ทุกอย่างในชีวิตร่วมกันตั้งแต่เกิด ทุกคนคือโลกของกันและกัน จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันชื่อ หมาก ได้เดินเข้ามาในชีวิตของพวกเขา

เขากลายเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา พวกเขาจะผ่านช่วงเวลาแห่งความสับสนนี้ไปได้หรือไม่? มาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

นางเอก

ข้อดีของหนังเรื่องนี้คือ mood and tone โดนใจวัยรุ่น ภาพสวย เรื่องราวย้อนไปในปี 1999 ปีแห่งสหัสวรรษใหม่ ปีนี้กับประเด็น Y2K ที่คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

จริงๆ แล้วเป็นประเด็นที่ผุดขึ้นมาหลายครั้งในวัฒนธรรมสมัยนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่เรื่องราวก็ดีพอๆ กับที่หนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และมันก็เข้ากับการกลับมาของแฟชั่นเก่าแก่นับพันปี

ดังนั้นจึงมีบรรยากาศที่หวนคิดถึงฝูงชน โดยมีไข่อีสเตอร์จำนวนมากเพื่อดึงดูดผู้คนเหล่านั้นให้เข้ามา จึงเป็นหนังฟีลกู้ดในแบบซิกเนเจอร์ของจีดีเอช

และที่เด็ดไม่พูดถึงไม่ได้คือเสน่ห์และแสงดาวของดาราหน้าใหม่ “น้องใบปอ” ที่เล่นแฝด “ยูแอนด์มี” เนียนมาก นึกว่าเป็นอีกคนจริง ๆ แถมน้องก็น่ารัก (เสียดายหน้าม้าก็แค่นั้น) แววดีมีอนาคต และอนาคตนั้น ใบเฟิร์น 2 ก็ได้ (แต่ไม่เอาดีกว่าเพราะเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด)

ส่วนน้องแอนโทนี่ก็น่ารักเป็นธรรมชาติ ถ้าคนจริงๆ เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรเหมือน “หมาก” ในเรื่อง อนาคตของหนุ่มสาวคงไม่ยากเย็นนัก

You & Me & Me ความสัมพันธ์ในครอบครัวแตกแยก

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้คือความสัมพันธ์ที่วุ่นวายระหว่างตระกูล Yu และตระกูล Mi และครอบครัวของไหม

การที่พ่อแม่ของไหมเลิกกัน ทำให้ไหมต้องออกจากโรงเรียนจากกรุงเทพฯ และย้ายไปอยู่ที่จังหวัดนครพนม ด้วยเหตุผลเดียวกัน ยูกับมี้จึงต้องไปบ้านคุณย่าที่นครพนมในช่วงปิดเทอม

ส่วนตัวชอบฉากที่ไมบอกไม่รักแล้วบอกเลิก ดีที่สุดคืออยู่กับความสัมพันธ์ เพราะในชีวิตจริงมีหลายครอบครัว พ่อแม่ก็คิดถึงลูกและหวังว่าครอบครัวจะได้อยู่ร่วมกัน แม้ว่าการเลิกกันอาจจะดีกว่าทะเลาะกับลูก

You & Me & Me พระเอก

เป็นอีกฉากหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจ  เพราะหลายคนที่มีพี่น้องต้องเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะลูกแฝดที่จะรู้สึกได้เวลาที่อีกฝ่ายรู้สึกแย่หรือมีเหตุการณ์อันตราย ราวกับมีลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อาจเป็นเพราะผู้กำกับหนังเรื่องนี้ คุณวรรณแววและคุณแวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ เป็นฝาแฝดกันด้วย แม้ว่าสิ่งนี้อาจไม่ใช่ความสามารถพิเศษที่แท้จริง แต่เป็นความผูกพันแบบพี่น้อง แต่ชอบซีรี่ย์นี้มาก

You & Me & Me เรื่องราวความสัมพันธ์แบบพี่น้อง

นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนพบว่าเป็นจริง นี่คือความสัมพันธ์ของฝาแฝดหรือพี่น้องที่มีอายุใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ฉันจำความได้ มีคนอีกคนเข้ามาในชีวิตฉัน อาจมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ

แต่พอนึกถึงวันที่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีเขา นึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง ข้อดีของการมีพี่น้องก็เหมือนมีเพื่อนซี้มาทั้งชีวิต ถึงจะมีจุดบกพร่องแต่ก็มีบางอย่างที่ต้องต่อสู้และต่อสู้เพื่อให้ได้มา 

เหตุการณ์ Y2K ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ทรงผม ดนตรี นิตยสาร โทรศัพท์บ้าน ทามากัส ฯลฯ รวมถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่บอกว่าโลกกำลังจะถึงกาลอวสาน

ในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เหตุการณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามาในปี 2000 มากกว่าเรื่องอื่นๆ เช่น ระบบคอมพิวเตอร์และเลขฐานสอง แต่จะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่ทำนายวันสิ้นโลกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมน้อยลง

คู่แฝด

สิ่งหนึ่งที่คิดว่าไม่เหมาะกับเรื่องนี้ น่าจะเป็นฉากเลิฟซีน ที่ดูจะไม่เข้าที่ในปี 2542 เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงไทยมักถูกปลูกฝังให้รู้จักรักตนเอง และยังไม่เปิดกว้างหรือเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกเหมือนในปัจจุบัน แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้

มีฉากหนึ่งยูเสนอตัวว่าอยากจูบกับหมาก มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกเล็กน้อยกับฉากนี้ ถึงจะรู้สึกว่าฉากนี้ยังไม่เหมาะกับยุคนี้แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นหนังรัก ต้องมีบางฉากที่รวดเร็ว

You & Me & Me เป็นหนังที่อบอุ่น เรียบง่าย ฟีลกู๊ด

บางคนอาจจะบอกว่าเป็นการเห็นแก่ตัวของ “มี” ที่จะบอกว่าวันนั้นไปสอบแทน “ยู” แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของมีนะ ตัวละครในเรื่องล้วนเป็นคนธรรมดา โลภ และหลงธรรมชาติ ทั้งคู่อิจฉาฝาแฝดของพวกเขา ทั้งคู่ต่างอิจฉาที่แฝดมีแฟน และเข้าใจว่า “ยู” อยากคบกับมาร์คทั้งสองขนาดไหน หรือความรู้สึกว่าแม่รักเราน้อยกว่าลูกคนอื่น ๆ ล้วนนำเสนอสถานการณ์ทางอารมณ์ที่แตกต่างกันไป

ทั้งหมดทำให้ซีนอารมณ์ต่างๆของตัวละครในหนัง เธอกับฉันกับฉัน ค่อนข้างที่จะมีมิติ ตัวละครมีความเป็นสีเทาๆ ไม่ได้ขาวหรือดำจนแบนเกินไป

You & Me & Me ฉากเศร้า

‘เธอกับฉันกับฉัน’ คือหนังที่ค่อยๆพาผู้ชมเข้าสู่โลกของฝาแฝด ที่ทั้งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

หลายอย่างอาจจะเป็นมุมอินไซด์ที่คนทั่วไปอาจไม่ได้รู้มาก่อน ทำให้เกิดพล็อตที่ทั้งสนุกสนานและยุ่งเหยิงได้มากมาย จากการที่เธอทั้งสองหน้าเหมือนกัน แทบจะเป็นคนๆเดียวกัน และในขณะเดียวกัน มันก็ถูกเล่าผ่านโครงเรื่องในลักษณะ รักแรก ผสมกับ รักสามเส้า ทำให้นอกจากมุมดีต่อใจแล้ว

ผู้ชมสามารถคาดเดาได้เลยว่า จะได้เจอมุมบีบหัวใจอย่างแน่นอน ทำให้หนังนอกจากจะน่าติดตามในปมเรื่องแฝดแล้ว ยังน่าจะทำให้ผู้ชมอินในประเด็นรักแรก หรือรักในวัยเรียนได้อีกด้วย

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน บทสรุป

แต่สุดท้ายแล้ว เธอกับฉันกับฉัน นี่คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องดูซ้ำ (หรืออาจไม่จำเป็นต้องไปดูในโรงเลยก็ได้ อย่างที่เราบอก) เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรใหม่หรือมีคุณค่าอะไรมากไปกว่าการนำความทรงจำในวัยเยาว์กลับคืนมา รักแรกของวัยรุ่น ปิดเทอม อารมณ์เสีย ฯลฯ

ในส่วนของความรักสามารถเดาใจความของเรื่องได้ตั้งแต่ 5 นาทีแรกว่าพระเอกรักใคร ความวุ่นวายที่ตามมาจะเป็นรูปแบบใด? (ไม่นับเทรลเลอร์ที่เล่าเกือบหมด) และความรักแบบเด็กๆ ก็มักจะโหยหา (เช่น เด็กงอแง จะทำมั้ย) เลยทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราไม่อยากช่วยเท่าไหร่

นักแสดงหญิงคู่แฝด

ปัญหาการหย่าร้างบางส่วนหรือการแยกครอบครัวได้รับการแก้ไขแล้ว การแยกทางน่าจะเป็นประเด็นหลักของหนัง เพราะหนังซ่อนอะไรไว้เยอะ ทั้งฉากฮาๆ แบ่งเป็นซาลาเปา แบ่งฉากกินไอศกรีมยักษ์คู่กัน เป็นต้น

จะเห็นว่าขยี้ได้ถ้าตั้งใจจะขยี้แต่หนังไม่ขยี้ ก็ไปไม่สุด เพราะหนังเน้นความรัก ของสองพี่น้องฝาแฝดสุดมหัศจรรย์ ตอน รักสามเส้า (ถึงน้องใบปอกับน้องแอนนี่จะฮาก็เถอะ)

ความรู้สึกหลังรับชม You & Me & Me

เนื่องจากผู้กำกับเป็นแฝดเอง แวว-แวววรรณ จึงถ่ายทอดเรื่องราวของแฝดหญิงได้อย่างละมุนละไมและอบอุ่น อีกทั้งงานภาพที่วิจิตรงดงามโดยใช้นักแสดงคนเดียวด้วยเทคนิคที่หลากหลาย

นอกจากนี้ ยังพยายามทำให้ตัวละครของ You และ Me โดดเด่นในใจผู้ชม มีทั้งรูปลักษณ์ ปาน ทรงผม สีเสื้อผ้า แม้กระทั่งนิสัยใจคอ อย่างหลังเป็นของ น้องใบปอ ที่เล่น 2 บทบาท แม้ว่านี่จะเป็นเพียงหนังเรื่องแรกแต่ออร่าของเธอก็ชัดเจนมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไปได้ไกลในอาชีพการแสดงของเธอ

You & Me & Me ฉากจบ

สรุปแล้วหนังเรื่อง เธอกับฉันกับฉัน เป็นภาพยนตร์ที่สะเทือนอารมณ์ อบอุ่นใจ ซาบซึ้ง และดราม่า และทำให้คุณรู้สึกดีกับความสัมพันธ์ของฉันกับฝาแฝด ของยูกับมี

แม้ว่าบางคนที่ผ่านมันมาจะเดาได้ก็ตาม ถือเป็นหนังโรแมนติกฟีลกู๊ดที่ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องมีบทวิเคราะห์หรือทฤษฎีมากมายมาให้ปวดหัว สามารถดูได้เพลินๆ

พล็อตเรื่องเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่น้องและครอบครัว แม้ว่าตัวโลเคชั่นจะเป็นต่างจังหวัดซะเยอะ และเต็มไปด้วยสิ่งที่หนังนำเสนอ เป็นหนังที่ทุกคนที่เกิดก่อนปี 1990 สามารถหวนนึกถึงยุค Y2K ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับผู้เขียนหรือ ใครชอบหนังแนวย้อนยุคหรืออยากย้อนเวลาสัมผัสบรรยากาศยุคนั้นก็ไม่ควรที่จะพลาดรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้

ถ้าอ่านจบแล้วยังอารมณ์ค้าง เราขอแนะนำรีวิวหนังเรื่อง ทิดน้อย ผลงานเรื่องสนุกของ เท่ง เถิดเทิง เชิญไปอ่านรีวิวกันก่อนได้เลยค่ะ

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ หนังอาร์ต Netflix ได้พี่หม่ำมาร่วมแจมด้วย

เมอเด้อเหรอ ภาพปก

รีวิวหนัง เมอเด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ หนังไทยแนวสืบสวน

เมอร์เด้อเหรอ ฉากเลิฟซีน

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นสมาชิกของแอพสตรีมมิ่งอับดับหนึ่ง Netflix ก็คงจะได้สัมผัสประสบการณ์การดูหนังไทยเรื่องใหม่ที่มีชื่อเรื่องว่า The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ   

อ่านรีวิวจบแล้วเชิญทุกท่านรับชม เมอร์เด้อเหรอ หนังไทยNETFLIX แบบเต็มเรื่องได้ที่ doonungvip.com

ซึ่งทุกๆ คน อาจจะกังวลว่ามันเป็นภาพยนตร์อาชญากรรมอย่างแท้จริงหรือไม่  และบางคนก็อาจยังไม่ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ หรือยังไม่มั่นใจว่าควรดูหรือไม่ ในวันนี้เราจะมาเสนอรีวิวเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ให้คุณฟังกันค่ะ 

The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ จาก Netflix เป็นหนังไทยที่มีความจริง และความเข้มข้นในตัวเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้กำกับ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นผู้ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์สักเท่าไหร่

ตัวเขาเองจึงตัดสินใจทำลงสตรีมมิ่ง ด้วยการเขียนบทหนังอย่างเรื่อง DEEP แต่ผลงานเรื่องนี้ออกมาแย่มาก 

จากนั้นเขาได้ทำ The Whole Truth ซึ่งดีขึ้นเล็กน้อย ต่อมาเขาตัดสินใจทำหนังแนวตลกไทย 

และคิดว่าอาจจะดีกว่าถ้าทำหนังลงโรงภาพยนตร์เพื่อเก็บเงินค่าตั๋ว แต่เขากลับพบว่ายากกว่าที่จะได้ผ่านนายทุนได้ เพราะไอเดียคอนเซ็ปต์หลายๆ อย่างที่มีความแปลกเกินไปจริงๆ

โดยเนื้อหาเรื่องนี้ มีความน่าดู เหมือนตัวอย่างในวีดีโออย่างแรกตั้งแต่ต้น ด้วยไอเดียที่สร้างความสนุกสนาน และน่าสนใจในแบบ ของแนวคาแรคเตอร์อีสานไทย

ซึ่งไม่เคยมีภาพยนตร์ ที่ไหนปรากฏมาก่อน ใครก็ตามที่ดูในช่วงแรกย่อมต้องมีความสนุกขี้นอย่างแทบจะทุกคน ที่เรื่องหยิบเรื่องเหล่านี้มารับชม

สิ่งเหล่านี้เช่น รอยสักไทย หรือมวยไทยตามแบบผู้ที่ชื่นชอบมวยไทย อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความเป็ยไทย เรื่องเงินหรือทองเท่าไหร่ก็ตามว่า งานฝีมือดีจนเป็นที่สุด

และคนไทยที่ดู ก็ต้องรู้ทั้งหมดเพราะไอเดียเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่เราเห็นตลอดเวลา แต่หนังเรื่องนี้ใช้ไอเดียเหล่านั้น ทำให้เกิดเรื่องราวที่น่าประทับใจ และตื่นเต้นกับสิ่งที่เป็นที่จับตามองดูได้อย่างชัดเจน

เรื่องย่อ เมอเด้อเหรอ

เมอร์เด้อเหรอ เรื่องย่อ หนังเริ่มต้นด้วยการฆาตกรรม 7 ศพในคืนเดียว ที่เกิดขึ้นในฉากเดียวกัน 

แต่วิธีการเล่าเรื่องใช้การสืบสวนของสารวัตร หม่ำ จ๊กมก ซึ่งมีอคติเสี่ยงเข่าฝรั่งแต่งงานกับคนอีสานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 

วิธีการเล่าเรื่องนี้ทำให้เรื่องมีความเร็ว และน่าติดตามมากโดยใช้ขั้นตอนในการสืบสวนพยานแต่ละคน หลักฐาน และเอกสารพัดที่พบมาเป็นตัวฉาก 

และไม่เล่าเรื่องตามลำดับ ย้อนกลับไปกลับมาในการสอบสวน โดยทุกคนจะมีซีนที่เป็นของตัวเอง

เมอร์เด้อเหรอ นักแสดง สุนารี

บางครั้งอาจตัดฉาก ที่เล่าเรื่องให้เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์สมมุติ แต่สุดท้ายผู้ชมจะต้องประเมินหาว่าสิ่งใดเป็นเรื่องจริงว่าจะเชื่อหรือไม่

ซึ่งนี่คือแนวทางในการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ของหนังไทยมันไม่ใหม่สำหรับคนที่ชอบดูหนังสืบสวนแฟนตาซีแปลกๆแบบนี้ 

แต่ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะใช้รูปแบบนี้ซ้ำ แต่เนื่องจากเป็นหนังไทยที่พูดอีสานเป็นหลัก ฝรั่งเป็นรอง และภาษากลางก็มีบ้าง พร้อมกับเหตุการณ์วุ่นวายแบบอีสานบ้านนา บวกฆาตกรรม 7 ศพ ทำให้เรื่องราวที่เล่ามาดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

การดำเนินเรื่อง เมอร์เด้อเหรอ

และในหนังเรื่องนี้ ก็มีความสนุกสนใจตั้งแต่ต้นเรื่องด้วยไอเดียตลกในอีสานไทยที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะมีหนังไทยตลกพื้นบ้านฉายออกมาก่อนแล้ว

เมื่อดูช่วงแรกนั้นทำให้เราหัวเราะไปทุกครั้งที่มีสิ่งตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏขึ้น อย่างเช่น สักลายมวยไทยติด และชอบมวยไทย 

การสักตัวของคนไทยต่ออาหาร ที่อร่อยและคล้ายคลึงกัน หรือแม้แต่คำพูดและพฤติกรรมของฝรั่งเกี่ยวกับเรื่องเงินและทอง ฉะนั้นคนที่ได้ดูเรื่องนี้จะต้องรู้สึกความสนุกตามมุกทุกตัวที่มีในเรื่องเนื่องจาก ไอเดียด้านบนเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในสังคมทั่วไป แต่ในกรณีนี้นำมาใช้เพื่อเล่าเรื่องให้น่าสะดุดตามได้อย่างเต็มที่

โดยที่หนังเรื่องนี้เล่าถึงการวางพล็อตเรื่อง เป็นเหตุที่ทำให้ ผกก.วิศิษฏ์ ตัดสินใจนำเสนอด้านภาพที่เขาถนัด

เมอร์เด้อเหรอ หม่ำ จ๊กม๊ก นักแสดงนำชาย

ในหนังมีการเล่นสีสันสไตล์จัดจ้าน โดยใช้สีขั้วเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม โดยผลงานนี้มีความดำเนินเนื้อเรื่องคล้ายกับหนังเรื่อง ฟ้าทะลายโจร

แต่ดูโบราณมากกว่าหนังเรื่อง “หมานคร” แน่นอนว่าผลงานเหล่านี้เป็นผลงานชั้นนำระดับโลกของผู้กำกับ วิศิษฏ์ทั้งหมด 

และเมื่อมีนักแสดงหน้าตลกยอดเยี่ยมของไทยอย่าง พี่หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ร่วมงานเข้ามา 

ก็ทำให้เกิดความสัมพันธ์กับผลงานการกำกับของหม่ำที่มีสีสันอีสานโดดเด่นเช่น “แหยม ยโสธร” 

โดยผู้ชมจะรับรู้ได้ว่าหนังนี้ต้องมีความขบขัน แต่เมื่อรับชมแล้วจะพบว่าหนังยังคงเล่าเรื่องอย่างจริงจังในครึ่งแรก ทำให้ผู้ชมอยากรู้คำตอบว่าเนื้อเรื่องจะไปในทิศทางไหน 

ดังนั้นเมื่อเรื่องมีความซับซ้อน ผกก.วิศิษฏ์ จึงพยายามใช้การเรียบเรียงที่ไม่ทำให้สับสนมากเกินไป หมายความว่า 

ตัวเรื่องอาจจะมีการเล่าเนื้อหาโดยการเปลี่ยนแปลงคำศัพท์และผลัดกัน แต่เนื้อหาจะยังคงเดินไปตามลำดับของเหตุการณ์

จนกระทั่งมีการทวนเหตุการณ์อีกครั้งในส่วนสุดท้ายของเรื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องที่กล่าวถึงถือเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนที่น่าสนใจ แต่ไม่ยากเกินไป โดยยังสามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ความรู้สึกหลังรับชม เมอร์เด้อเหรอ

ส่วนตัวเราที่ได้รับชมหนังเรื่องนี้แล้วนั้น คิดว่าภาพรวมของเหล่าดาราในเรื่องนี้เล่นได้ดีกว่าทุกเรื่องที่ดูมาใน Netflix

โดยเฉพาะเรื่องของ เจมส์ ลีฟเวอร์ ที่ไม่มีความจำ แต่เครดิตบอกว่าเขาเคยเล่นใน Netflix และเล่นในหลายเรื่องของโลก ในเรื่องนี้เขากลายเป็นเขยอีสานที่อยากช่วยเพื่อนแฟนและพ่อแม่ แต่เขาไม่รวยและมีความคิดอคติตลอดเรื่อง 

ในบทของเขา ที่แสดงเป็นตำรวจที่อคติได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ชมจะได้เกิดความสนุกกับรอยแผลที่อยู่ตรงปากทุกครั้งที่หนังฉาย

เมอร์เด้อเหรอ หม่ำ ฉากสอบสวน

แต่บทของเขาไม่ชัดเจนมากนัก (เพราะว่าเรื่องราวมีลักษณะคนย้อนอดีตหลายตัวละคร) แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือนางเอกที่แสดงโดยอิษยา ฮอสุวรรณ (เกรซจากหนังฉลาด เกม โกง) ที่สวยน่ารักทุกฉาก 

และบทที่เล่นเข้ากับรูปร่างและหน้าตาของเธอ ซึ่งเธอคือตัวดึงให้ผู้ชมติดตามเรื่องที่ดีกว่าเขยอีสานตัวเอกซึ่งเป็นคนร่างกายเธออย่างเดียว

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

ก่อนอื่นผู้เราต้องขอชื่นชมทีมแคสนักแสดงของภาพยนตร์ ที่สามารถแสดงบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยมเลยค่ะ 

โดยเฉพาะนักแสดงหลักที่ เล่นเป็นตัวละครเด็กที่สดใสออกมาได้ดีมากๆ โดยมีการเล่นบทที่น้องต้องเล่นคู่กับนักแสดงหลักที่เรียกว่าพี่หม่ำซึ่งทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ 

เพราะยิ่งพี่หม่ำสอบสวนน้องแสดง นั้นเราจะรู้สึกว่าทั้งคู่มีความลึกซึ้งอยู่ในใจ งานแสดงของทั้งคู่เป็นอย่างดีที่ไม่ค่อยพบในภาพยนตร์ไทยบ่อย ๆ

จุดเด่นภาพยนตร์ เมอร์เด้อเหรอ น่าสนใจมากๆ เพราะเรื่องราวของหนังดึงดูดใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคมความทุกอย่างให้จบแบบที่ไม่มีคำถามค้างอยู่ ซึ่งเป็นลายเซ็นของผู้กำกับอยู่แล้ว 

และสำคัญที่สุดคือความเรียบง่าย ในการเรียบเรียงและเล่าเรื่องของหนังนี้ที่ถูกคิดโดยดีแล้ว ซึ่งหลังจากดูเราจะไม่เจองานระดับนี้ในภาพยนตร์ไทยเท่าไหร่นัก

เมอร์เด้อเหรอ ฉากตลก หนังไทย

หากพูดถึงความละเอียด ของทีมผู้สร้างหนังที่ดีมาก ๆ ตั้งแต่คอสตูม ชุดของจูน และการเสียดสีเกี่ยวกับเมียฝรั่ง ผู้หญิงที่ทำงานที่บาร์ เราคิกว่าหนังเรื่องนี้ไม่พูดถึง มากจนเกินไปค่ะ

ส่วนทางด้าน จุดด้อยเกี่ยวกับหนัง ซึ่งเริ่มต้นด้วยเรื่องตลกแต่ที่สิ้นสุดเป็นเรื่องสืบสวนฆาตกรรม มีประเด็นที่ทำให้ผู้ชมสงสัยว่าฆาตกรคือใครและศพตายได้อย่างไร ส่วนนี้เป็นเรื่องสำคัญมากในการสื่อสารหนัง

แต่กลับไม่มีการเฉลยที่น่าตื่นเต้นตามมา การเล่าเรื่องยาวและเปิดเผยทั้งหมดฉบับเต็ม ทำให้ผู้ชมประทับใจอย่างมาก 

ซึ่งเป็นคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน ซึ่งภาพรวมของหนัง มีคนหลายคนที่ไม่ชอบการพลิกสุดขั้วแบบนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังทำให้เรื่องดู ไม่สมเหตุผลมากขึ้น เหมือนหนังอินเดียที่พลิกตอนจบโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนทั้งหมด

รีวิวหนัง The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ภาพยนตร์เว้าอีสานเรื่องแรกจาก Netflix

สำหรับหนังเรื่องนี้ น่าจะถูกชื่นชมเพราะได้กระตุ้นความรู้สึกของผู้ชม ให้สนุกสนานอย่างมากภายในแนวหนัง นอกจากนี้ยังมีการเล่นแบบดราม่าที่น่าเชื่อถือจากนักแสดงอุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ ในบทของทราย พยานที่เป็นเมียฝรั่ง เอี้ยง สวนีย์ อุทุมมา 

ในบทของพยานคนที่ 2 เป็นแม่ของทรายที่มาแบบไม่เด่นมาก แต่สามารถประคองทุกคนให้เข้าร่องได้อย่างดี และชนันทิชา ชัยภา ในบทของจูน ตัวหลักในเรื่องราว

พยานเด็กคนสุดท้ายที่เล่นหน้าเล่นตาได้น่ารักน่าชัง นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสายละครเวทีเช่นเจมส์ เลเวอร์ ในบทของเอิร์ล เป็นเขยฝรั่งสามีของทรายและผู้ต้องสงสัยหลักที่ทำให้เรารู้สึกสับสนว่าเขาน่าสงสารหรือน่ากลัวกันแน่

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกร

หนังเรื่องนี้ใช้ตัวละครหม่ำ เป็นตัวแทนในการค้นหาความจริงแทนผู้ชม ผู้ชมรู้สึกงุนงงและได้เข้าใจอารมณ์ของหม่ำได้ง่าย 

เพราะมีการเข้าถึงง่ายและความสนใจคุ้นเคยกับตัวละครหม่ำ เราสามารถเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้ใช้กลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นผู้ชมในหลายวิธี

จุดที่สามารถพูดคำวิจารณ์เกี่ยวกับหนังได้ที่ไม่ใช่เรื่องหลักของเรื่องราวที่มุก นอกจากนี้ยังมีคำวิจารณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพในกราฟฟิกแสดงอารมณ์ของภาพ เช่น 

การเล่นสีที่ไม่เนียนตาในบางฉาก ชาววิจารณ์ยากที่จะกล่าวว่ามันเป็นความจงใจที่จะทำให้ดูดิบเหมือนหนังโบราณหรือไม่ แต่ถ้าทำให้เนียบเป็นไปตามสมัยก็น่าจะดี

สรุปโดยรวม

โดยสรุปแล้วหนัง ฆาตกรรมอิหยังวะ  ก็คือหนังไทยที่สร้างโดยผู้กำกับให้ฉายกับ Original Netflix คือคุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นหนังที่ดีกว่าเรื่องก่อนอย่างมาก 

แต่ยังมีปัญหาเดิมๆ เกี่ยวกับเรื่องบทที่แปลกๆ ซึ่งไม่ลงตัวจนทำให้ไม่สามารถพูดถึงว่าเป็นหนังที่ดีได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีความสนุกในการเล่าเรื่องที่มีความแปลกๆ

เมอเด้อเหรอ หม่ำ จ๊กม๊ก ตำรวจสอบสวนคดี

และไอเดียจิกกัดของ คนอีสานที่ยังค่อนข้างจะต้อง ยิ้มได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นขอแนะนำให้คนดูได้ แต่ก็อย่าคาดหวังมากเกินไปก็พอค่ะ เพราะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ หนังสไตล์แบบนี้

ทีมงานกระซิบมาว่า เห็นหนังสีสดๆแบบนี้แล้วกลับทำให้นึกถึง หนังผีโมโนโทน The Medium ร่างทรง ถึงแม้สีสันของฟิล์มหนังจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ความน่ากลัวระดับ 10 กระโหลก ยังทำให้ใครหลายคนบอกว่า จนถึงวันนี้ยังไม่กล้าเข้านอนคนเดียว

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

รีวิวหนังไทยย้อนยุค  จะมา รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางการเมือง 2549 ที่ พลอย และลูกของเธอ เขากำลังใช้ช่วงเวลาเป็นคืนสุดท้ายกับ ปาล สามีซึ่งเป็นนักการเมือง ก่อนที่เขาจะเดินทางลี้ภัยตามคำสั่งคณะรัฐประหารไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา ติดตามรับชมกันได้เลย ที่ เว็บดูหนังเถื่อน

เนื้อเรื่องของหนัง

เหตุการณ์เรื่องราวของภาพยนตร์ พญาโศกพิโยคค่ำ  เป็นการเอารูปจากปี  2516 ตอนที่ พลอย อายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น กำลังป่วยเข้าขั้นโคม่า ปราสาท ผู้เป็นพ่อหายตัวไปอย่างไร้วี่แวว ส่วน ไพลิน แม่ของเธอที่เพิ่งฟื้นตัวจากการรักษาอาการป่วยทางจิต กลับมาพบกับหมอประจำตระกูลอีกครั้ง เกิดเป็นรักในความลับที่ชวนเสน่หา

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

เมื่อสุริยุปราคาได้เข้ามาบดบังจนทุกสิ่งอย่างมันมืดดำ เรื่องราวบางอย่างก็เปลี่ยนแปลง เงาสุริยุปราคานั้นได้กลืนกินหมอให้หายไป และคายปราสาทที่หายตัวไปให้กลับมา บาดแผลจากอดีต ก่อตัวขึ้นเป็นความมืดมิดภายในใจ ห้วงเวลาที่สุริยุปราคาพาทุกอย่างให้หยุดนิ่งไป ชะตากรรมและอนาคตของครอบครัวนี้ ถูกครอบงำไว้ด้วยความรุนแรงและความหวาดกลัว ไม่มีใครรู้ว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงเมื่อใด

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ THEEDGE OF DAYBREAK หนังดี

ปี 2564 น่าจะเป็นปีที่ ไทยดูห่างหายไปเยอะเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในสายการประกวดนานาชาติแล้วหนังไทยก็ยังคงไม่ได้ห่างหายไปตามจำนวนการสร้างที่ลดลง และ ‘พญาโศกพิโยคค่ำ (The Edge of Daybreak)’ ของ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์

พญาโศกพิโยคค่ำ HDมาสเตอร์  เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ไปคว้ารางวัล FIPRESCI Prize จากเวที International Film Festival Rotterdam 2021 (IFFR) จากประเทศเนเธอร์แลนด์มาได้สำเร็จ ในสายประกวด Tiger Awards Competition

หนังเรื่องนี้ได้ทำมาเลียนแบบ หนังเรื่อง ‘Wonderful Town เมืองเหงาซ่อนรัก’ (2550) ‘Mundane History เจ้านกกระจอก’ (2552) ‘Eternity ที่รัก’ (2554) และ ‘Vanishing Point’ (2558) ซึ่งเราคงเห็นได้ว่านี่คือตระกูลหนังที่ไม่ได้เน้นเรื่องของการขายวงกว้าง แต่เป็นหนังที่เน้นการถ่ายทอดตัวตนของผู้สร้างและบูชาความเป็นศิลปะในภาพยนตร์เสียมากกว่า

THEEDGE OF DAYBREAK หนังเอเชีย

อย่างเช่นเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ นั้น เล่าถึงการเมืองเรื่องภายนอกบ้าน ที่กัดกินจิตใจของหญิงสาว 3 รุ่นในครอบครัวนี้ บ้านเมืองที่เขาบอกว่ามันเป็นประชาธิปไตย แต่หลายครั้งหลายหนมันกลับอยู่ในคราบของเผด็จการ ทั้งยังถูกฝังกลบไม่ให้คนไทยส่วนใหญ่ได้จดจำ บ้านนี้เมืองนี้กลายเป็นเศษซากที่เน่าเปื่อยผุพัง รอวันชำระล้าง

เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่สุดยอดมากเพราะได้ไปโชว์บนเวทีโลกเมื่อช่วงต้นปีนี้ก็คือ “The Edge of Daybreak” ต้องเรียกว่าเป็นหนังนอกกระแสที่ชือไทยๆ คือ “พญาโศกพิโยคค่ำ” ผลงานของผู้กำกับ “ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์” ที่ได้ไปเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัม 2021 ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่จัดขึ้นครบรอบ 50 ปีในปีนี้ โดยหนังเรื่องนี้ได้รับโอกาสไปเปิดตัวฉายเป็นรอบปฐมทัศน์โลก และยังมีชื่อติดเข้าประกวดในสาย Tiger Competition เพื่อลุ้น “ไทเกอร์ อวอร์ดส์” และล่าสุดผลรางวัลก็ได้ประกาศออกมาแล้ว

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

The Edge of Daybreak Pantip  เป็นผลงานยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับรางวัล FIPRESCI Award จากเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัม 2021 โดยรางวัลดังกล่าวเป็นเสียงโหวตและคะแนนความนิยมจากสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากทั่วโลก นั่นเท่ากับว่าบรรดาตัวแทนนักวิจารณ์จากที่ต่างๆ รู้สึกประทับใจและชื่นชมในผลงานหนังไทยเรื่องนี้ และได้เทใจเทคะแนนให้ ก่อนมอบรางวัลนี้ให้ เพื่อการสนับสนุนผลงานในฐานะหนังคุณภาพที่ควรค่าแก่นำไปพัฒนาต่อ

เรื่องราวปัญหาภายในสังคมและครอบครัว

โดยรวมๆแล้วในงานเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัมที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นการจัดงานณูปแบบออนไลน์ทั้งหมด และในงานประกาศผลรางวัลก็จัดขึ้นในรูปแบบสตรีมมิ่งเช่นเดียวกัน โดยรางวัลใหญ่ ไทเกอร์ อวอร์ดส์ ปีนี้ตกเป็นของ “Pebbles” หนังดราม่าเรื่องเล็กๆ จากทีมผู้สร้างหนังชาวอินเดีย ขณะที่ “The Dog Who Wouldn’t Be Quiet” หนังจากประเทศชิลี คว้ารางวัลใหญ่ในหมวด Big Screen Competition

ทั้งนี้ เรื่องย่อ พญาโศกพิโยคค่ำ นับว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกเลยที่ได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีระดับโลก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีหนังไทยนอกกระแสหลายๆ เรื่องคว้ารางวัลมาครองได้สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น “Vanishing Point” ของผู้กำกับ “เก่ง จักรวาล” หรือ “Wonderful Town” ของ “อาทิตย์ อัสสรัตน์”

พญาโศกพิโยคค่ำ เป็นหนังที่ดีมากเกี่ยวกับ ปัญหาของครอบครัวที่ประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากการประท้วงในอดีต และเหตุการณืได้ต่อเนื่องมาจนถึงเหตุรัฐประหารปี 2006 ที่กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ทุกคนล้วนแต่มีจิตใจที่บอบช้ำจากการเจริญเติบโตกับเหตุการณ์ต่างๆ นำแสดงโดย “โดนัท มนัสนันท์”, “ชลัฏ ณ สงขลา” และ “สุนิดา รัตนากร” ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดเข้าฉายเมืองไทยแต่อย่างใด

แนะนำให้ลองรับชมดูนะครับเผื่อจะชอบ

ได้เห็นจากข่าวแล้วเราจะรู้ได้ว่า The Edge of Daybreak ดูฟรี หรือ พญาโศกพิโยคค่ำ เป็นหนังอีกเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนดูและได้รับความนิยมจากคนดูในเทศกาลหนังร็อตเตอร์ดัมประจำปีนี้ แต่น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ ไทเกอร์ อวอร์ดส์ กลับมาเชยชมที่เมืองไทยได้ แต่อย่างน้อยหนังก็ยังได้อีกหนึ่งรางวัลติดมือกลับบ้านได้อยู่

หนังได้ทำการเล่าเรื่อง สลับกันไปมา น่าสนใจมากๆ แต่มีสิ่งที่ไม่เหมือนหนังเรื่องอื่นคือ งานภาพที่เปลี่ยนเป็นสีขาวดำทั้งหมด ทำให้แม้แต่เลือดก็มองเห็นเป็นเพียงน้ำสีดำ แต่เพราะดนตรีประกอบนี่แหละที่ส่งเสริมให้ภาพต่าง ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้นไปอีก

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ เป็นหนังที่ไม่มีสีเลยสักนิด นัยยะของมันคือหนังงานศพดี ๆ นี่เอง ให้อารมณ์เหมือนจะไว้อาลัยให้กับการจากไปของบางสิ่ง เมื่อรวมกับดนตรีประกอบที่ใช้เครื่องดนตรีสองสามอย่างเล่นไม่เชิงเป็นทำนอง แต่ระคายหูสั่นเครือ เจือความเศร้าและปวดร้าวอยู่ข้างใน

นี่คือหนัง The Edge of Daybreak เต็มเรื่อง  ที่มีความยาวๆมากเรื่องแรกของผู้กำกับคนนี้  เขาได้สร้างหนังออกมาแนวศิลปะในแกลเลอรี่ ภาพทุกช็อต รวมเข้ากับดนตรีประกอบ สามารถวางตัวเป็นงานศิลป์ในแกลเลอรี่ได้ทั้งหมด เป็นส่วนที่ต้องใช้ความคิดในการตีความ ซึ่งก็ต้องอาศัยทั้งเวลาและประสบการณ์ของผู้ชม

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ตัวละครทุกคนในเรื่องนี้ แสดงได้ดีมากๆเลยทีเดียว แต่ที่โดดเด่นสุดก็เป็นโดนัทที่แสดงทั้งสีหน้า แววตา ของคนที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ ของคนที่เฝ้ารอคอยสามีมาตลอด ของคนที่เหงา ว่างเปล่า และรู้สึกผิด เธอทำได้ดีอย่างน่าทึ่งในฉากที่ต้องพูดไดอะล็อกยาว ๆ

จะเรียกว่า The Edge of Daybreak รีวิว บางคนคิดว่าเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะดูยาก ผมคิดว่าอยู่ที่คนชอบนะ  เพราะว่าหลายๆฉากที่ชวนสงสัยว่า เขากำลังสื่อสารอะไร บางช่วงอาจพางุนงงในทีแรก ก่อนที่เรื่องราวจะถูกบอกเล่าจนเค้าลางบางอย่างมันชัดเจนขึ้น แต่ก็คงไม่แปลก ถ้าดูในครั้งแรกแล้วพบความไม่เข้าใจในหลายจุด จนอาจจะต้องใช้การพูดคุยสนทนาหาข้อมูล แล้วกลับไปดูซ้ำใหม่ซึ่งก็ย่อมจะเข้าใจได้มากขึ้น

รีวิว พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak หนังไทยที่ได้รับรางวัล

สิ่งที่ชอบและชื่นชมก็คือ งานองค์ประกอบภาพที่ผสานกับงานดนตรีประกอบ ต่างส่งเสริมกันให้  ออกมาดูทรงพลัง แม้จะยังตีความได้ไม่ครบนัก เป็นงานหนังที่มีความเป็นศิลปะอยู่สูง แต่ก็เป็นกลิ่นใหม่ ๆ ที่นายแพทได้พาตัวเองเข้าไปพบ และก็หวังว่าใครหลายคนที่ได้อ่านบทรีวิวนี้จะได้ลองเปิดใจพาตัวเองเข้าไปพบเจอบ้าง สนใจติดตามรับชมหนังเรื่องอื่น ได้ที่ บอดี้ ศพ19

ชื่อภาพยนตร์ พญาโศกพิโยคค่ำ / The Edge of Daybreak
ผู้กำกับ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์/Taiki Sakpisit
ผู้เขียนบท ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์/Taiki Sakpisit
นักแสดง มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, ชลัฏ ณ สงขลา, สุนิดา รัตนากร, ชมัยภร แสงกระจ่าง
แนว/ประเภท Drama, History
เรท
ความยาว 114 นาที
ปี 2021
เข้าฉายในไทย 16 ธันวาคม 2021
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย 185 Films, Common Move, White Light, FahFuenFactory, SAC Gallery, Purin Pictures
The Edge of Daybreak