รีวิว บ้านเช่า บูชายัญ
บ้านเช่า บูชายัญ กับกระแสการกลับมาของหนังไทยมาใหม่ แนวสยองขวัญในไตรมาตรแรกของปี 2566 กับเรื่องราวอันลึกลับของการเปิดบ้านให้เป็นบ้านเช่าของคู่สามี-ภรรยา ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวของนักแสดงคุณภาพระดับซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทยอย่าง เวียร์ ศุกลวัฒน์และมิว นิษฐา
การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนแต่ไม่ยากที่จะเข้าใจ และการนำสไตล์ของหนังสืบสวนสอบสวนมาใช้ในการเล่าเรื่อง ทำให้เนื้อหามีความซับซ้อน และน่าติดตามเป็นอย่างมาก การันตีคุณภาพจากการเป็นภาพยนตร์ไทยที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในปี 2566 หลังจากผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของการเข้าฉาย
เรียกได้ว่าถือเป็น 1 ในภาพยนตร์ไทยที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2566 กันเลยทีเดียว ท่านผู้อ่านสามารถติดตามดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้อย่างจุใจได้ที่ doonungvip.com กดได้ที่ลิงก์เลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไป บ้านเช่า บูชายัญ
“บ้านเช่า บูชายัญ” (อังกฤษ: Home for Rent) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญและอ้างอิงจากเหตุการณ์จริง ภาพยนตร์นี้ผลิตโดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม และ เอ็นเอท สตูดิโอ
และจัดจำหน่ายโดย บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า โดยการกำกับของ โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ และนำแสดงโดย นิษฐา คูหาเปรมกิจ, ศุกลวัฒน์ คณารศ, และ เพ็ญพักตร์ ศิริกุล เข้าฉายครั้งแรกในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566
เนื้อเรื่องของภาพยนตร์เกี่ยวกับคู่สามี-ภรรยาที่ตัดสินใจเปิดบ้านให้คนเช่า แต่อยู่ๆสิ่งที่ผิดปกติก็ได้เกิดขึ้นเมื่อผู้เป็นภรรยาค้นพบว่าผู้เช่าของพวกเขามีความลึกลับและกำลังปกปิดอะไรบางอย่างอยู่
ในขณะเดียวกันสามีของเธอก็เริ่มแสดงท่าทีที่แปลกไปจากเดิม ภาพยนตร์นี้นำเสนอความสยองขวัญที่สะท้อนความไม่แน่นอนและอารมณ์ที่ผิดปกติของตัวละคร และยังเล่าเรื่องราวในมุมมองของคู่สามี-ภรรยาที่ผู้ชมอาจพบว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม ทั้งหมดนี้มีผลทำให้เกิดความสงสัยและความลึกลับในบ้านเช่าหลังนี้
ภาพยนตร์เปิดตัวอย่างสำเร็จในวันแรกของการเข้าฉายทางเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 โดยมีรายได้ในวันแรก 4.51 ล้านบาท รายได้รวมทั่วประเทศถึง 9.10 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลตอบรับที่ดีและเป็นภาพยนตร์ไทยที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในปี 2566
หลังจากผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของการเข้าฉาย (ฉายอย่างเป็นทางการถึง 4 วัน) ภาพยนตร์ได้ทำรายได้รวมทั้งประเทศไปถึง 16.33 ล้านบาท หรือรายได้รวมทั่วประเทศถึง 29.90 ล้านบาท ในช่วงเวลา 18 วันของการฉาย ภาพยนตร์ได้ทำรายได้รวมทั่วประเทศถึง 74.58 ล้านบาท (ณ วันที่ 23 เมษายน 2566) ในปัจจุบันภาพยนตร์มีรายได้จากพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเชียงใหม่ อยู่ที่ 41.23 ล้านบาท (ณ วันที่ 27 เมษายน 2566)
ประเภท: สยองขวัญ / ดราม่า
ผู้กำกับ: โสภณ ศักดาพิศิษฏ์
นำแสดงโดย: นิษฐา คูหาเปรมกิจ, ศุกลวัฒน์ คณารส
ความยาว: 124 นาที
กำหนดฉายในไทย: 6 เมษายน 2023 (ในโรงภาพยนตร์)
เรื่องย่อ บ้านเช่า บูชายัญ
เนื้อเรื่องของเริ่มขึ้นเมื่อ สองสามีภรรยาชื่อหนิงและกวิน ที่เป็นพ่อแม่ลูกหนึ่ง ตัดสินใจที่จะปล่อยบ้านของตนเพื่อเปิดเป็นบ้านเช่าให้แก่ราตรี เขมารักษ์ แม้ในตอนแรกกวินจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ แต่กลับเปลี่ยนใจยินยอมหลังจากได้พูดคุยกับราตรี
จากนั้นทั้งสามคนได้ย้ายออกจากบ้านเดิมเพื่ออยู่ในหอพัก
เรื่องที่น่าตกใจได้เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนบ้านส่งข้อความและรูปภาพมาให้พวกเขา ที่เป็นการแสดงว่าราตรีกำลังประกอบพิธีกรรมบางอย่างโดยการนำเครื่องรางจากขนอีกาและซากศพของอีกามาประดับรอบบ้าน และทุกคืนในตีสี่ จะมีเสียงสวดพระคำประหลาดออกมา
จากนั้นหนิงได้พยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับผู้เช่า ภาพยนตร์เพิ่มความสนุกและความลึกลับเมื่อเธอเริ่มสงสัยว่ากวินอาจจะมีส่วนหนึ่งใน “ลัทธิ” ที่แปลก ประหลาดนี้
นักแสดงและบทบาทที่ได้รับ
ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท กวิน
นิษฐา จิรยั่งยืน รับบท หนิง
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท ราตรี เขมารักษ์
ธัญญภัสร์ มยุรลีลา รับบท อิง
น้ำฝน ภักดี รับบท นุช
สุพิทักษ์ ฉัตรสุริยาวงศ์ รับบท ต้อม
ในส่วนของการแสดง หนังได้ให้โอกาสแก่นักแสดงในการมีช่องว่างให้นักแสดงได้พัฒนาและปล่อยพลังในการแสดงออกมาอย่างเต็มที่
มิว นิษฐา ถือเป็นตัวยืนเรื่องในครึ่งแรกของหนัง ที่เรียกให้เห็นพลังการแสดงที่น่าประทับใจ ภายในเวลาอันสั้น ซึ่งเธอทำออกมาได้อย่างเต็มเหนี่ยว และแสดงถึงความสามารถในการแสดงของเธออย่างชัดเจน
ในครึ่งหลังของหนัง การเปลี่ยนเนื้อหาเพื่อให้แสงไฟสาดสู่เวียร์ ศุกลวัฒน์ ทำให้เราเห็นพลังการแสดงที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นบทบาทที่คาดเดาได้แล้ว แต่เวียร์ ได้ทำออกมาอย่างมืออาชีพและนำเสนอได้ด้วยความน่าเชื่อถือ
น้องกัสจัง ก็เป็นซุปเปอร์เซอร์ไพรส์ในหนัง แม้เป็นนักแสดงเด็กแต่การแสดงของเธอในบทบาทนี้ทำได้ด้วยความสามารถและความเป็นมืออาชีพ และน่าประทับใจ แม้เรื่องราวอาจจะมีเพียงบทเสริมสมทบในครั้งแรก แต่เนื้อหาที่แนบเนียนทำให้เราเห็นพลังการแสดงของเธอ
การดำเนินเรื่อง บ้านเช่า บูชายัญ
เรื่องราวเริ่มต้นจากคู่สามีภรรยา กวิน (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หนิง (นิษฐา คูหาเปรมกิจ) และ อิง ลูกสาววัย 7 ขวบ ที่ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านเพื่อไปอาศัยอยู่ที่คอนโดมีเนียม และปล่อยบ้านให้คนมาเช่า จนกระทั่งมีผู้เช่าอย่าง ราตรี (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) คุณหมอวัยเกษียณ และ นุช ลูกสาว คู่แม่ลูกที่ดูแปลกประหลาดมาขอเช่าบ้านหลังนี้ นับแต่นั้นก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น
เมื่อหนิงเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้เช่า ทั้งการแขวนเครื่องรางที่ทำจากขนนกอีกา แขวนซากอีกาไว้รอบบ้าน และทุก ๆ 04.00 น. ชาวบ้านรอบข้างก็มักได้ยินเสียงสวดประหลาด ๆ สร้างความหวาดกลัวให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียง
จนกระทั่งกวินเองก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป และมีรอยสักสัญลักษณ์สามเหลี่ยมที่ดูไม่น่าไว้วางใจ และอิง ลูกสาวตัวน้อยที่เข้าไปพัวพันกับอันตรายบางอย่างที่มองไม่เห็น
เรื่องราวนี้กลายเป็นการผสมผสานระหว่างความลึกลับและความสยองขวัญในบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและความสนุกในการตามหาความจริงของตัวละครในเรื่อง
ผู้ชมจะได้รับความสนุกสนานจากการตามล่าหาความจริงของเรื่องราวลึกลับและเปิดเผยสิ่งที่แฝงอยู่ในบ้านหลังนั้น ความน่าติดตามของเรื่องราวเกิดขึ้นจากการมองเห็นผ่านมุมมองของหลาย ๆ ตัวละคร ที่ทำให้ผู้ชมได้เข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อพวกเขาและบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่
ในการเล่าเรื่อง ผู้กำกับได้ใช้วิธีการต่างๆ เพื่อเรียบเรียงเรื่องให้มีความน่าสนใจและเข้าใจได้ง่ายตามลำดับของตัวละครและเนื้อหา
- การค่อยเผยปม การเล่าเนื้อหาที่เริ่มจากการรู้น้อยที่สุด และรู้มากขึ้นเรื่อยๆ จากตัวละครหนิงและค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเส้นเรื่องที่รู้มากขึ้น ผ่านกวินและคุณหมอราตรี เป็นวิธีที่ช่วยสร้างความตึงเครียดให้กับผู้ชม และทำให้ผู้ชม ต้องติดตามเรื่องราวในหนังอย่างใจจดจ่อเพื่อค้นหาคำตอบ
- เนื้อหาแบบสามเหลี่ยม การเชื่อมโยงเนื้อหาระหว่างตัวละครหลายคน ที่ครอบคลุมความลึกลับและความน่ากลัว ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวให้มีความสัมพันธ์และมีความเชื่อถือได้มากขึ้น
- การใช้ตัวละครเป็นเครื่องมือ การใช้ตัวละครต่างๆ เป็นช่องทางในการเปิดเผยเรื่องราว โดยเริ่มจากหนิงที่รู้น้อยที่สุด ผ่านกวินที่เป็นคนรู้มากขึ้น และสุดท้ายถึงคุณหมอราตรีที่มีความรู้และความลึกลับมากที่สุด
- การใช้ Flashback การนำผู้ชมย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ในอดีตที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผย ช่วยให้ผู้ชมได้เห็นภาพรวมของเรื่องราวและความลึกลับเพิ่มเติม
- การเล่าที่ไม่เป็นลำดับเส้นตรง เช่น เริ่มจากเนื้อเรื่องในอดีตแล้วพุ่งไปสู่ปัจจุบัน หรือเริ่มจากจุดความสำคัญในเนื้อเรื่องแล้วกลับมาเติมรายละเอียดทีหลัง ทำให้ผู้ชมต้องติดตามความเคลื่อนไหวของเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ผลสุดท้ายคือการเล่าเรื่องที่มีความซับซ้อนและมีความสมดุลของความหลอนและความลับที่มืดมิด ที่สามารถดึงดูดผู้ชมให้ติดตามเนื้อหาไปจนจบ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคนิค Jump Scare หรือตัวละครผีในทางเนื้อหาเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นการใช้การเล่าเรื่องอย่างลงตัวและสร้างความน่าสนใจในแบบที่แตกต่างออกไปจากหนังอื่นๆ
การผสมผสานความลึกลับและความหลอนในลัทธิแฟนตาซีที่ไม่เหมือนใคร ทำให้หนังนี้เป็นผลงานที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกหลังดู
หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและความมืดมิดที่ไม่เหมือนใครในแง่ของเนื้อเรื่อง ถึงแม้จะมีผีและวิญญาณปรากฏตัวอยู่ในเรื่อง
แต่ความสนุกและความลึกลับมาจากบรรยากาศลี้ลับที่ถูกสร้างขึ้นอย่างดีเยี่ยม มีเสียงปริศนาที่ควบคู่ไปกับลัทธิประหลาดที่มีความแฟนตาซีรวมอยู่ด้วยกัน เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เรื่องราวนี้น่าติดตาม หนังเรื่องนี้ได้สร้างความสมดุลของธีมแฟนตาซีและความหลอนอย่างลงตัว หากเรื่องราวเน้นทางคำสาป ความลับของลัทธิประหลาด
ถือว่าหนังทำสำเร็จอย่างมากในการแสดงอารมณ์และความตึงเครียดของผู้ชม ด้วยฉากความสยองขวัญที่ไม่คาดฝัน ทั้งหลอกล่อและเน้นความมืดมิดได้อย่างลงตัว ไม่ใช่แค่การใช้เทคนิค Jump Scare เพียงอย่างเดียว ถึงแม้ว่าผีและวิญญาณจะเป็นตัวเรื่องหลัก แต่บรรยากาศและลัทธิประหลาดที่ปรากฏอยู่ร่วมด้วยก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความลึกลับของเรื่องนี้เติมเต็มขึ้นอย่างมาก
หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานที่ผสมผสานธีมแฟนตาซีและความหลอนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สามารถสร้างความรู้สึกตึงเครียดและคลุมเครือด้วยไปด้วยความลึกลับได้อย่างมีคุณภาพ
ภาพยนตร์เต็มไปด้วยจุดเด่นที่ทำให้หนังนี้เป็นผลงานสยองขวัญที่น่าสนใจและควรไปรับชม:
1.บทลึกลับและมีความลับที่ซ่อนอยู่: หนังนี้มีความลึกลับและความสปอยล์อารมณ์ที่ไม่ง่ายต่อการเดาได้ มีความลับที่หลบซ่อนอยู่ภายในเรื่องที่มากเกินจากตัวอย่าง จึงทำให้ผู้ชมต้องไปดูเพื่อค้นหาคำตอบเอง
2.บรรยากาศความหลอน: หนังไม่เน้นการหลอกลวงด้วยฉากผีหลอกตา แต่เน้นการสร้างบรรยากาศความหลอนอย่างมาก ทำให้ความละเอียดอ่อนและความรู้สึกอินกับหนังของผู้ชมเพิ่มมากขึ้น
3.เลือกสถานที่สำหรับการถ่ายทำอย่างชาญฉลาด: การเลือกบ้านยุคเก่าเป็นสถานที่ในการถ่ายทำช่วยสร้างบรรยากาศขรึมขลังและเป็นนัยบอกถึงระยะเวลาของเนื้อเรื่องได้อย่างน่าสนใจ
4.การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและไม่ยากที่จะเข้าใจ การนำสไตล์ของหนังสืบสวนสอบสวนมาใช้ในการเล่าเรื่องทำให้เนื้อหามีความซับซ้อน แต่ก็ยังเข้าใจได้ง่าย ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อถือได้ว่าเรื่องราวนี้ถูกกลั่นกรองเป็นอย่างดี
5.การสะท้อนปมดราม่าและปัญหาเศรษฐกิจ: หนังเรื่องนี้สะท้อนปมดราม่าของครอบครัวและปัญหาเศรษฐกิจอย่างแยบยล มีความเชื่อมโยงเรื่องราวในโลกที่แท้จริงกับโลกภาพยนตร์อย่างน่าสนใจ
สรุปภาพรวม
สรุปภาพรวม หนังอาจจะไม่ได้เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบไปซะทีเดียว แต่ก็เป็นผลงานที่ทางเราแนะนำให้ไปรับชมกันในโรงภาพยนตร์นะคะ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มีอรรถรสของความสยองที่ก่อให้เกิดความหลอนในใจ
รวมถึงความเฉลียวฉลาดในเรื่องดราม่าและเรื่องราวของลัทธิลึกลับที่เชื่อมต่อกับมนุษย์ในระดับที่น่าสนใจ การแสดงของนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ เช่น เวียร์ ศุกลวัฒน์, มิว นิษฐา และ ต่าย เพ็ญพักตร์ ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก
พวกเขาได้ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครแต่ละตัวออกมาได้อย่างดีและนำเสนอออกมาได้ดีทั้งความอารมณ์และความเชื่อถือ
สิ่งที่น่าประทับใจและเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงคือการแสดงของน้องกัสจัง ที่ให้ความประทับใจ ไม่เล่นใหญ่เกินไปและสามารถปรับคาแรกเตอร์ให้เข้ากับบทบาทได้ดีมากๆ เหมือนนักแสดงมืออาชีพ น่าประทับใจจริงๆ
ในภาพรวมของภาพยนตร์ เป็นหนังที่ผสมผสานความสยองขวัญและดราม่า ในสไตล์พี่จิม (ผู้กำกับ)โดยให้ความสำคัญกับความบันเทิงและความน่าสนใจ ซึ่งสามารถรวมธีมแฟนตาซีลงในนั้นได้อย่างลงตัว และวิธีการเล่าเรื่องที่มีความซับซ้อนแต่ไม่ยากที่จะเข้าใจ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่หาได้ยากในภาพยนตร์ไทย
อ่านรีวิว บ้านเช่า บูชายัญ หนังผีเรื่องเด็ดจบแล้ว เราขอแนะนำหนักรักคู่แฝดที่สร้างความประทับให้กับผู้ชมหลายคน You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน ผลงานการสร้างของ GDH เชิญตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ