รีวิวหนังไทยมาใหม่ สวัสดีค่ะกลับมาพบกันในวันนี้เราจะมารีวิวหนังเรื่อง ขุนบันลือ ภาพยนตร์ไทยแนว คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ซึ่งภาพยนตร์เริ่มเรื่องราวทั้งสิ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ซึ่งในยุคนั้นมีขุนบันลือเป็นขุนนางในกระทรวงมหาดไทย เขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปทําธุระให้กับ พระยาปันตานัยนิรัณ เมืองจังหวัดเชียงราย
เรื่องราววุ่นวายก็เลยได้เริ่มขึ้นในในเวลานั้น ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแบบไหนมาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อมๆกันในบทความนี้ได้เลยนะคะ
ข้อมูลภาพยนตร์
กำหนดฉาย: 27 ธันวาคม 2561
แนว: ตลก
นำแสดง: เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, เอ็นดู วงษ์คำเหลา, สุนารี ราชสีมา, เพทาย วงษ์คำเหลา, ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ, ธนา ฉัตรบริรักษ์, ศักราช ศรีวังพล, เจสสิก้า เอสพินเนอร์, สายสิน วงษ์คำเหลา, สมรักษ์ คำสิงห์, นพรุจ แย้มขะมัง, นก วนิดา เชิญยิ้ม, ปลาคราฟ เชิญยิ้ม, อรชร เขิญยิ้ม, นงค์ เชิญยิ้ม, โรเบิร์ต สายควัน, เอกชัย ศรีวิชัย, ณัฐรภัทร์ กริษฐาเมธาสิริ, ไนกี้ นิธิดล ป้อมสุวรรณ
กำกับ: เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
รีวิวหนัง ขุนบันลือ ผลงานการกำกับของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
เป็นอีกรอบที่พี่หม่ำกลับมาเล่นเอง ควบคุมเอง กับหนังสไตล์ตลกโปกฮาเบาสมอง ซึ่งส่วนตัวแล้วเห็นว่ามันเป็นการมัดเรื่องของมุกตลกขบขันคาเฟ่ จะยิง 5 บาท 10 บาท ก็เอาหมด แนวๆเดียวกับละครชิงร้อยชิงล้านนั่นแหละ
เพียงแค่มีเนื้อหาที่มากขึ้น มีการเชื่อมโยงเรื่องหละหลวมๆซึ่งมันก็จะไม่ใช่หนังที่มีบทคงที่เท่าไรนัก หลายๆครั้งเลยทำให้บทพังทลาย เพราะว่าผู้กระทำระกระโดดของฉาก (เป็นถ่ายซีนมุกไว้เป็นชอตๆแล้วตัดมาต่อกันเพื่อเก็บได้ทุกมุก แล้วก็มองเป็นการเป็นงาน)
ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หลังจากห่างหายไปนานกว่า 4 ปี นับจาก ทาสรักอสูร (2014)
งานนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้จะสามารถทำรายได้เทียบเท่าผลงานของลูกสาว เอ็ม บุษราคัม จาก ส่มภัคเสี่ยน (2017) ในแนวตลกที่กวาดรายได้ทั่วประเทศทะลุ 100 ล้านบาทได้หรือไม่นะ? ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์
หนังเรื่องนี้เองก็ไม่ได้หนีพ้นไปจากหนังในกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากว่าพี่หม่ำ รวมทั้งคณะละครในหนังประเด็นนี้ล้วนขบขัน …หนังมันเลยเฮฮา
ซึ่งในส่วนของมุก มีหลายมุกที่ทำเป็นดี ยิงตรงเป้า บางมุกก็บางทีก็อาจจะแป้กไปบ้าง แม้กระนั้นรวมๆรวมทั้งเป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินนะ
เพียงแค่พวกเราบางครั้งก็อาจจะจำต้องรู้จักพี่กินดีโดยประมาณนึง เนื่องจากมุกที่เล่นในประเด็นนี้ก็จะวนๆแถวจังหวัดเชียงราย แถวครอบครัวพี่หม่ำ
เรื่องย่อ ขุนบันลือ
เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัย ร.ศ. 123 (พ.ศ. 2447) เมื่อ ขุนบันลือ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ได้รับมอบหมายให้ไปราชการที่เมืองเชียงราย แต่ขุนบันลือเองกลับกังวลใจ เพราะถูก มด (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) ทาสหญิงที่ขุนบันลือแอบมีความสัมพันธ์ด้วย จับได้ว่าท่านขุนเคยมีซัมติงกับซัมวันที่เมืองเชียงรายมาก่อน
รวมถึงความชุลมุนวุ่นรัก เมื่อเพื่อนรักของท่านขุน พาลูกสาวลูกชายมาฝากให้ช่วยดูแลระหว่างที่ไปราชการต่างประเทศ และทั้งคู่กลับมีเรื่องชอบพอกับบรรดาทาสในเรือนท่านขุนซะอีก
เรื่องราวความรักระหว่างชนชั้นจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยันรุ่นลูก ท่านขุนจะหาทางออกอย่างไร มาติดตามอ่านรีวิวกันต่อเลยค่ะ
เรียกว่าการกลับมากำกับและพ่วงตำแหน่งนักแสดงนำของ หม่ำ เพ็ชรทาย ครั้งนี้เรื่องราวของหนังก็ยังคงเป็นความตลกโปกฮาที่เป็นจุดขายของเจ้าตัวเหมือนเดิม คราวนี้ได้หยิบเอาเรื่อง
ส่วนตัวเกี่ยวกับการนอกใจภรรยาไปมีเมียน้อยเชียงรายที่แก๊งตลกสามช่าอำกันจนหลายคิดว่าเป็นเรื่องจริงมาปรับเป็นบทภาพยนตร์หวังให้แฟนๆ ได้ฮากัน
พร้อมด้วยการพาบรรดาคนในครอบครัวทั้งภรรยา ลูกชาย และน้องชายมาร่วมแสดง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ได้สร้างความสนุกเฮฮากันท้องคัดท้องแข็งได้มากอย่างที่คาดหวังไว้
ด้วยมุกตลกที่ปรากฏอยู่ในหนังนั้นไม่ได้มีความแปลกใหม่เลย ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นมุกเหล่านี้ในโชว์ตามรายการต่างๆ หรือภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของ หม่ำ เพ็ชรทาย จังหวะในการตบส่งมุกรวมก็ดูธรรมดาสร้างเสียงฮาได้เพียงน้อยนิดพอได้ขำในลำคอ
ในส่วนของพล็อตเรื่องที่ดูเหมือนจะน้ำเน่าอารมณ์คล้ายละครย้อนยุคสมัยก่อน แม้จะมีการแทรกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาเป็นช่วงๆ ก็ไม่ได้ทำให้หนังน่าสนใจมากขึ้น ดูๆ ไปก็แอบเบื่อเล็กน้อย และเชื่อว่าหลายคนน่าจะเดากันออกและมันก็ไม่สร้างเสน่ห์อย่างที่ควรจะเป็นเลย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตั้งความหวังเพื่อที่จะไปสนุกเฮฮากับ ขุนบันลือ netflix นั้นช่างเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร เหตุผลก็ดังที่กล่าวมาข้างต้นว่าหนังค่อนข้างจะซ้ำซาก
แต่ถ้าไม่ได้คิดอะไรมากหวังดูเอาแค่เพลินๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะบางครั้งบางเรื่องราวก็อาจจะทำให้คนเราหัวเราะได้ไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้
ความน่าสนใจของภาพยนตร์
ด้วยการตัวทีเซอร์หนัง มีจุดน่าสนใจตรงที่มาเซตฉากเป็นแบบย้อนยุค แอบให้ความรู้สึกควันหลงจาก บุปเพสันนิวาส หน่อย ๆ แต่เส้นเรื่องของแต่ละตัวละครไม่ได้มีอะไรที่หนังหยิบมาขยายอะไรแบบจริงจัง
หนังไม่ได้โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของ ขุนบันลือ กับหญิงสาวคนไกลที่เป็นปริศนามากอย่างที่คิด แต่จะวนเวียนอยู่กับเรื่องราวในชีวิตประจำวันมากกว่า แล้วก็ขยันปล่อยมุก 5 บาท 10 บาท
บวกกับความตลกหน้าตายในแบบหม่ำสไตล์มาสร้างจุดขายเหมือนหนังของแกเรื่องอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าด้วยความที่มีนักแสดงรับเชิญหลากหลายมาสร้างสีสัน
นี่คือจุดที่ช่วยพยุงหนังให้ดูเพลินได้เรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วง 20 นาทีแรก ทุกอย่างดูสมูทกว่าที่คิด ที่หนังดูจะมีบรรยากาศที่ดี ไม่พยายามตลกเกินไป
ความรู้สึกหลังรับชม
คือถามว่ามันตลกมั้ย ผมว่ามันตลกนะ หลายๆชอตที่ยิงมานี่ฮาจริง แต่ถ้าคนไม่รู้ว่าเชียงรายคืออะไร พี่หม่ำมีประเด็นอะไรกับที่บ้าน ก็อาจจะงงๆ ไม่เกทมุกก็เป็นได้ แต่ถ้าเกทกับเรื่องที่เค้าแซวๆพี่หม่ำกันบ่อยๆ
ที่เหลือก็คือเข้าไปเสพความฮาล้วนๆ โดยรวมมองว่านี่เป็นหนังตลกส่งท้ายปีที่เรียกเสียงหัวเราะได้ดี สำหรับคนที่ชอบตลกสไตล์พี่หม่ำค่ะ หลายมุกหลายตัวละครปูมาดี เพื่อมาขยี้มุกซ้ำทีหลังก็มี
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเน้นไปทางความฮาเสียส่วนใหญ่ เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมากมาย ไม่ได้มีปนของตัวละคร หรือความซับซ้อนใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาภาพยนตร์ไว้ดูคลายเครียด กับภาพยนตร์เรื่อง ขุนบันลือ
รีวิวหนัง ขุนบันลือ จุดเด่นและจุดด้อยหนัง
อย่างไรก็ดี เนื่องจากว่าตัวหนังมันมิได้มีเส้นเรื่องที่จะพัฒนาต่อได้เป็นชิ้นเป็นอัน มันมีแต่ชายหญิงแต่ละคู่มองเห็นหน้าสบตากันแว้บแรกแล้วปิ๊ง แล้วไปจบกัน หรือไม่ก็มีเงื่อนที่เกี่ยวเนื่องกันมาก่อนแล้ว ที่ผ่านมามองเห็นกันเดินไปเดินมาในบ้านไม่คิดอะไร
แม้กระนั้นพอเพียงอยู่ๆไปก็เกิดอารมณ์เปลี่ยว อารมณ์เหงาหงอย อารมณ์คัน (ฮา) ความสัมพันธ์ของผู้แสดงที่เป็นข้ารับใช้ในเรือนกับตัวขุนนางนั้นเลยไม่ค่อยจะมีมากมายอย่างที่จะต้องเป็น
ทั้งยังหนังก็มิได้ตั้งใจจริงกับข้อความสำคัญประเด็นการเลิกขี้ข้าอีกเช่นเดียวกัน จริงๆจำเป็นต้องกล่าวว่าหนังมีพลอตซึ่งสามารถสร้างโอกาสต่างๆเข้ามาใส่ไว้ในเรื่องให้แข็งแรงขึ้นได้
และก็บางทีอาจครบรสมากยิ่งกว่าภาพยนตร์ตลกที่มาในอารมณ์เฮฮาคาเฟ่แต่ก่อน หลายมุก หลายเหตุการณ์ดูก็รู้ว่ามาแบบด้นสด ไหลไปบ่อย
ราวกับมองตลกคาเฟ่คณะ ป๋าเทพ เล่น เพียงแค่ตัวมุกไม่ค่อยฉีก รวมๆเลยค่อนข้างจะจาง จะมีตัดคะแนนหน่อยตรงที่จังหวะจะโคนไม่ค่อยดี จะไปงัดฉากตลกมาใช้ซะโดยมาก
ซึ่งนี่ก็เป็นเยี่ยมในสิ่งที่อยู่คู่หนังหม่ำมาตลอด พอๆกับหนังพชร์ แต่เข้าใจได้ว่ามันยังเวิร์กและเข้าถึงฝูงชนมองอีกกลุ่มนั่นแหละ
อันที่จริงดู ๆ ไป นี่เหมือนกับจะเป็นหนังที่หม่ำเคลียร์ตัวเองประเด็น ‘คนเชียงราย’ ให้ชัด ๆ กับเมียแกเองมากกว่าค่ะฮ่าๆ ซึ่งก็เป็นความโรแมนติกแบบกระด้าง ๆ ตามสไตล์คนขี้เขินแบบแกเอง ขณะที่น้องมิกซ์ ก็ได้ออกมาโชว์สกิลแร็พอยู่หลายซีน
โดยภาพรวม หนังขุนบันลือ เต็มเรื่อง สร้างความบันเทิงได้ในระดับที่ดูได้เรื่อย ๆ ไม่รู้สึกติดขัดหรือรำคาญอะไรมากนักค่ะ
บทสรุปโดยรวมของภาพยนตร์
ส่วนฝ่ายนักแสดงสมทบก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว ตัวแจมที่ต้องยกให้เขาเลยอย่าง “โรเบิร์ต สายควัน” ก็ทำออกมาได้ดี ทำให้หนังมีความน่าดูมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ใครที่กำลังหาหนังตลกดูคลายเครียด หัวเราะไปจนจบเรื่องล่ะก็ หนังขุนบันลือ เต็มเรื่อง พากย์ไทย ก็เป็นหนังที่แนะนำอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
หากว่ามุกขำขันรวมๆจะมองแกนๆจางแต่ว่าในช่วงท้าย หนังก็หมวดเงื่อนเข้าด้วยกันก้าวหน้าในเรื่องครอบครัว ที่จริงดูๆไป
นี่อย่างกับจะเป็นหนังที่กินจัดการตนเองประเด็น ‘คนจังหวัดเชียงราย’ ให้ชัดๆกับภรรยาเอ็งเองมากยิ่งกว่าฮ่าๆ ซึ่งก็เป็นความโรแมนติกแบบแข็งกระด้างๆตามสไตล์คนขี้เขินแบบแกเอง
ช่วงเวลาที่น้องมิกซ์ ก็ได้ออกมาโชว์สกิลแร็พอยู่หลายซีน ก็แค่ยังไม่ถึงกับฉายแววเมื่อมาอยู่บนหนัง อย่างไรก็แล้วแต่ ในรูปภาพรวม ขุนกึกก้อง สร้างความสนุกสนานได้ในระดับที่มองได้เรื่อยไม่เคยรู้สึกขัดข้องหรือหงุดหงิดอะไรเท่าไรนัก
และจะต้องดูว่าจุดหนึ่งที่ถูกใจเป็นเรื่องของการเก็บเนื้อหาในฉาก-รูปร่างหน้าตาสไตล์การแต่งตัว ทำเป็นดีมากกว่าที่คิดอย่างยิ่งจริงๆ
โดยภาพรวมหนังไม่ได้น่าเกลียด ไม่ได้แย่เข้าขั้นวิกฤต แน่นอนล่ะ..หนังแนวนี้เราไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขา ถ้าใครดูตัวอย่างหนังแล้วชอบ สนุกกับมุกในตัวอย่าง บอกเลยว่ามุกที่เหลือทั้งหมดในเรื่องคุณผู้ชมก็จะสนุกกับมันเช่นกัน
ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนัง อาตมาฟ้าผ่า หนังตลกไทยใหม่ล่าสุด นำแสดงโดย โอ๊ต ปราโมทย์ และ ป๊อป ปองกูล