Category Archives: หนังไทยnetflix

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

 

สปอยหนัง เป็นซีรีส์ที่รีเมคมาจากเกาหลีอีกที จากเรื่อง “Oh My Ghost ผีสาวกระตุกต่อมรัก” ที่มีให้ดูทาง Netflix ทั้งสองเรื่อง ส่วนสาเหตุที่ต้องมาดูเรื่องนี้ก็เป็นเพราะแฟนของผมเป็นคนชอบดูหนังผี แต่ผมดันชอบดูแนวโรแมนติก มันก็เลยขัดกัน ผมเลยต้องหาเรื่องเกี่ยวกับผี ๆ และก็มีโรแมนติกด้วยผสมกัน แบบว่าพบกันครึ่งทางครับ เรื่องนี้มีความชอบส่วนตัวที่ทำให้อยากดูบทบาทของ หนูนา ว่าจะทำได้แตกต่างจากเวอร์ชั่นเกาหลียังไง และก็ชอบหนูนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากครับ

 

เรื่องย่อ ผีป่วน ชวนรัก

เรื่องราววุ่นๆของ ข้าวปุ้น (ยิปซี-คีรติ) ผีสาวตนหนึ่งที่ยังไปผุดไปเกิดไม่ได้เพราะยังติดห่วงบางอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่คิดเอาเองว่าก่อนตายเธอยัง “เวอร์จิ้น” อยู่เมื่อตายไป “ห่วง” ที่ติดอยู่ก็คือเรื่่องอย่างว่าผีสาวตนนั้นจึงเร่ร่อนด้วยการสิงร่างหญิงสาวคนนั้นคนนี้เพื่อหาผู้ชายที่จะปลดปล่อยให้เธอได้ไปเกิดแบบหมดห่วง! แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไปเกิดใหม่ไม่ได้สักที…

จนวันหนึ่งในขณะที่ข้าวปุ้นผีสาวที่กำลังหนีการตามล่าของป้าปู (ท็อป-ดารณีนุช) หมอผีเธอก็ได้เข้าไปแอบสิงอยู่ในร่างของจิ๋ว (หนูนา-หนึ่งธิดา) สาวดวงตกพนักงานสารพัดประโยชน์ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคนมีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้แต่ความสามารถนี้ไม่ใช่สิ่งที่ “จิ๋ว” ต้องการเลยเพราะผลพวงจากความสามารถนี้ทำให้เธอถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆไม่มีเพื่อนขาดความมั่นใจร่างการอ่อนแอจนไม่เป็นอันทำอะไรและยังทำให้เธอต้องเกือบถูกไล่ออกจากงาน

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

แต่หลังจากที่ “จิ๋ว” ถูก “ข้าวปุ้น” ผีสาวจอมหื่นเข้าสิง “จิ๋ว” ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนจากคนขี้แพ้อ่อนแอกลายเป็นคนมั่นใจในตัวเองและในระหว่าง “ข้าวปุ้น” ที่อยู่ในร่างของเธอก็เกิดไปปิ๊งพระเอก “เชฟอาทิตย์” (เป้-อารักษ์) ซึ่งเป็นเชฟสุดฮอตชื่อดังเจ้าของร้านอาหารที่ “จิ๋ว” ทำงานอยู่และยังเป็นคนที่ “จิ๋ว” แอบปิ๊งอยู่ด้วยเช่นกันผีสาวเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้แหละที่จะช่วยปลดปล่อยวิญญาณของเธอได้ด้วยการมีอะไรกับเชฟผีสาวสุดหื่นจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กุ๊กกิ๊กกับ “เชฟอาทิตย์” แต่ทว่าผีสาวอยู่ในร่างนางเอกจอมซึมนี่สิ!

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ “ข้าวปุ้น” เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตายแต่จริงๆแล้วไม่ใช่….แต่เป็นเพราะเธอถูกฆาตกรรมและฆาตกรก็เป็นคนที่คาดไม่ถึงการสืบหาในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นพร้อมๆกับความวุ่นวายของความรักอลวนระหว่างคนและผี เธอคนไหน “คน” หรือ “ผี” จะเป็นผู้พิชิตใจ “เชฟอาทิตย์” ได้ติดตามความสนุกนี้ได้ในละครเรื่องนี้…ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

คาแร็กเตอร์นักแสดง ผีป่วน ชวนรัก

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ: เชฟอาทิตย์ เชฟใหญ่สุดหล่อเจ้าของร้านอาหารชื่อดังอายุ 33 ปีอีโก้จัดปากร้ายมั่นใจในตัวเองเกินร้อยจนเป็นที่หมั่นไส้ของลูกน้องแต่แท้จริงแล้วเป็นคนจิตใจดีที่ต้องการสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเองเนื่องจากมีปมในวัยเด็ก

หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ: จิ๋ว พนักงานร้านอาหารอายุ 27 ปีสาวน้อยร่างเล็กขี้กลัวไม่มีความมั่นใจในตัวเองวันหนึ่งเธอถูกผีสาวลัลล้าบ้ากามเข้าสิงเธอก็กลายเป็นสาวมั่นจอมยั่วยวนจ้องจะเผด็จศึกเชฟใหญ่เจ้าของร้านคนที่นางเอกแอบปิ๊งอยู่แต่พอผีออกเธอก็กลับเป็นสาวขี้กลัวคนเดิมสร้างความสับสนให้กับเชฟใหญ่เป็นอย่างมาก

ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ : ข้าวปุ้น หญิงสาวผู้เสียชีวิตตอนอายุ 27 ปีกลายเป็นผีสาวผู้แสนลั้ลล้าแสนหื่นที่สูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับการตายของตัวเองไปและเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนจะกลายเป็นผีร้ายเธอต้องแก้บ่วงของเธอให้ได้จึงจะได้ไปเกิดใหม่จิตใจดีเป็นจอมลุยรุกหนักจนผู้ชายอกสามศอกยังต้องถอย ยิปซี เล่น ละคร เรื่อง

ณัฐ-ศักดาทร นิยมพานิช : หมวดปริญ ตำรวจหนุ่มอ่อนละมุนแสนดีอายุ 32 ปีผู้มีความเป็นสุภาพบุรุษและเป็นมิตรกับทุกคนแต่ลึกๆมีปมที่ชวนค้นหาเป็นน้องเขยของเชฟใหญ่และเป็นชายในดวงใจของผีสาวจอมลั้นล้าเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่แต่เขาก็มีอีกด้านหนึ่งซึ่งต้องเรียกว่าเป็นด้านมืดที่ปิดบังเอาไว้ไม่ให้ใครรู้

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

ปอปปี้-บุญยิสา จันทราราชัย : น้ำมนต์ สาวน้อยอายุ 27 ปีน้องสาวเชฟอาทิตย์สาวน้อยผู้แสนดีผู้อาภัพเพราะขาพิการจากอุบัติเหตุนิสัยส่วนตัวเป็นคนมองโลกในทางบวกจนกระทั่งเสียขาแต่เธอก็กลับมาเป็นคิดบวกอีกครังหลังจากพบรักกับหมวดปริญสามีผู้เพียบพร้อม

มายด์-วรัทยา ว่องชยาภรณ์: ไอด้า โปรดิวเซอร์รายการทีวีคนเก่งอายุ 33 ปีสาวสวยฉลาดบ้างานเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของเชฟอาทิตย์และเชฟอาทิตย์ก็แอบชอบเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจนปัจจุบันก็ยังคงแอบชอบ แต่ไม่กล้าบอกเธอ

ซี้ด-ชโยดม สอนลี: นาวิน ผู้ช่วยเชฟจบจากกอร์ดองเบลออายุ 28ปี เป็นหนุ่มหล่อนักเรียนนอก มีเชฟอาทิตย์เป็นไอดอล แอบหลงรักจิ๋ว แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดความรู้สึกออกไปเป็นคนอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นโอปป้าเกาหลีของสาวๆคอยห่วงใยดูแลเทคแคร์จิ๋วอยู่ตลอดเวลา

ตี๋-วิวิศน์ บวรกีรติขจร : เรน เชพรองเป็นหนุ่มกะล่อนกร่างกวนมีพรสวรรค์ในการทำอาหารสูงแต่เรียนเป็นเชฟในเมืองไทยไม่ได้เรียนเมืองนอกเหมือนคนอื่น เลยพยายามลบปมตัวเองด้วยการวางอำนาจในร้านเวลาเชฟใหญ่ไม่อยู่ไม่ค่อยชอบหน้านาวินเพราะเรียนนอกและหล่อกว่าแต่จริงๆเป็นคนป๊อดขี้กลัวและไม่มีพิษมีภัย

เจม-จิตตริน กุลกัลยาดี: เชฟตุ๋ย ผู้ช่วยเชฟผู้มีความหวังมุ่งมั่นอยากมีร้านอาหารของตัวเองตุ๋ยที่จริงอายุ 35 แต่โกหกว่าตัวเองอายุ 30 เพื่อเรียนรู้งานเลยต้องคอยเป็นลูกไล่ของเรนด้วยความจำเป็น แต่จริงๆ แล้วหมั่นไส้เรนมากและหวังว่าสักวันจะเอาคืน

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

 

ส้วม-สุขพัฒน์ โล่ห์วัชรินทร์: พอล คุณชายในมาดผู้ช่วยเชฟเป็นคนประณีประนอมพร้อมไหลตามน้ำได้เสมอความจริงแล้วเป็นคุณชายจากบ้านมหาเศรษฐีปลอมตัวมาเรียนรู้การใช้ชีวิตทุกครั้งแวลากลับบ้านจะมีรถเบนซ์มาแอบรอรับอยู่หน้าปากซอย ผีป่วนชวนรัก ep 14 ดูย้อนหลัง 

ท็อป -ดารณีนุช : ป้าปู หมอดูร่างทรงปากร้ายใจดีตรงไปตรงมามีญานทิพย์เห็นผีและติดต่อกับสวรรค์ได้จริงมีพลังในการปราบผีได้จับผีได้ได้รับภารกิจต้องจับวิญญาณข้าวปุ้นให้ได้และเพราะตามจับข้าวปุ้นไม่ได้สักทีพลังของป้าปูก็ลดลงจนลูกค้าน้อยลงจนเริ่มไม่มีจะกินและก็ได้มีเรื่องมาสนิทกับจันทร์เจ้า

สุ่ย-พรนภา เทพทินกร : จันทร์เจ้า คุณแม่ยังสาวอายุ 51 ปีของเชฟอาทิตย์เป็นคุณแม่วัยทีนสุดเปรี้ยวเพราะมีลูกตั้งแต่อายุ 19 ปี สามีตายหลังจากมีลูกคนที่ 2 เป็นคนฉลาดเรียนเก่งได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโท-เอกจนไม่มีเวลาให้ลูกเป็นแม่ที่แสดงความรักไม่เก่งและมักเชื่อในเรื่องหมอดูและสิ่งลี้ลับจนสนิทกับป้าปูหมอดู

อาวอ-จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร : ลุงไข่ ชายแก่ใจดีวัย 60 ปีผู้สูญเสียลูกสาวเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆเป็นพ่อของข้าวปุ้นและโจ๊กภรรยาเสียต้ังแต่ลูกวัยรุ่นจึงมีลูกสาวคนโตเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการทำร้าน

ไบรท์-วิชเวช เอื้ออำพน : โจ๊ก น้องชายของข้าวปุ้นวัย 28 ปีเป็นวัยรุ่นไม่เอาถ่านติดเกมส์ชอบดื่มเหล้าขี้เกียจไม่ชอบช่วยขายของมีเพียงข้าวปุ้นที่ก็คอยกำราบได้

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

ธีมของซีรีส์ดำเนินไปในบรรยากาศของร้านอาหาร ที่มีความอบอุ่น สนุก และมีความเป็น คอมิดี้ แทรกนิดหน่อย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเชฟ และการทำอาหาร คนที่ชอบซีรีส์แนวเข้าครัวคงจะถูกใจไม่น้อยเลยเพราะเป็นฉากในร้านอาหารเกือบทั้งเรื่อง ดูแล้วอยากเป็นเชฟขึ้นมาตะหงิด ๆ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ซัน” หนุ่มมาดเท่ห์เจ้าของร้านอาหารที่จิ๋วเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟ ตกหลุมรัก จิ๋ว สาวที่มีสองบุคลิกเพราะโดนผีข้าวปุ้นสิงร่าง เลยทำให้เธอมีสองโหมดคือโหมดคลั่งรักที่พยายามจะปล้ำพระเอกตลอดเวลา และแบบปกติที่เป็นคนเงียบ ๆ ขี้กลัว ไม่มั่นใจตนเอง และนี่ก็เป็นสเน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้เลยครับ ที่ทำให้เรารอดูตอนนางเอกโดนผีเข้าสิง เพราะชอบบุคลิกของข้าวปุ้นสาวขี้เล่น ขี้เอาอกเอาใจ ทะลึ่งทะเล้น ชอบกวนใจและป่วนตลอดเวลา กับบุคลิกของ จิ๋ว สาวน้อยร่างเล็กที่น่าทะนุถนอม ขาดความมั่นใจ ที่เวลาร้องไห้ทีไรน้ำตามันปริ่ม ๆ ทุกที และการแสดงของหนูนาก็ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ กับบทบาทที่ต้องแสดงสองบุคลิกในคน ๆ เดียว หัวใจ เรือพ่วง วิ กิ พี่ เดีย

 

 

มีหลายฉากที่ทำเอาผมต้องเสียน้ำตา เพราะนักแสดงเล่นได้ดีจริง ๆ ครับ ซีนอารมณ์มาเต็ม ๆ โดยเฉพาะซีนความรักระหว่างพ่อกับลูกสาวที่ทำผมน้ำตาไหลในหลาย ๆ ฉาก เรียกว่าดนตรีขึ้นมาทีไร น้ำตาไหลทุกที ทุกตัวละครเล่นได้ดีเข้าถึงอารมณ์ ทำให้เราคล้อยตามได้ มีแอบยิ้ม หัวเราะ น้ำตาซึม ไปตามเนื้อเรื่อง เวอร์ชั่นเกาหลีว่าซึ้งแล้ว พอมาดูของไทย ซึ้งกว่าเดิม เพราะสอดแทรกเรื่องของไทย ๆ เข้าไปในเรื่อง เลยทำให้เราเข้าใจในตัวละครลึกซึ้งขึ้นมากกว่าเดิม หนังสอนให้เรารู้ว่า จะทำอะไรก็รีบทำในตอนที่เรายังมีโอกาสยังมีชีวิตอยู่ เพราะไม่งั้นมันอาจจะสายเกินไป และพอถึงเวลานั้นแล้วอาจจะย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้อีก และกลายเป็นเรื่องที่ติดในใจไปตลอด และพอตายไปก็กลายเป็นเรื่องที่ค้างคาให้ต้องมาตามแก้ไข

 

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก

“OMG ผีป่วนชวนมารัก” ออนแอร์ ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 22:00 น. ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง24 และมีให้รับชมย้อนหลังบน Netflix ทันที ถือว่ารวดเร็วมาก รอดูกันได้เลย

ผีป่วนชวนมารัก (อังกฤษ: OMG) เป็นละครโทรทัศน์แนว โรแมนติก-ดราม่า-คอมเมดี สร้างจากบทประพันธ์ของ สายขิม / กุศลิน / วาณี นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางทรูโฟร์ยู ในปี 2561 ผลิตละครโดย บริษัท สตูดิโอ ดราก้อน จำกัด โดยผู้จัด True CJ สร้างจากละครเกาหลี สาวขี้อายกับยัยผีจอมหื่น (Oh My Ghost) กำกับการแสดงโดย นพโรจน์ โชติมั่นคงสิทธิ์ นำแสดงโดย อารักษ์ อมรศุภศิริ, หนึ่งธิดา โสภณ, คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์, ณัฐ ศักดาทร, บุญยิสา จันทราราชัย, วรัทยา ว่องชยาภรณ์ ออกอากาศทุกคืนวันจันทร์ – วันอังคาร เวลา 22.00 – 23.30 น. เริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561 ต่อจากละคร My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก

 

ผีป่วน ชวนรัก ซีรี่ย์น่ารัก เบาสมอง

สปอยหนัง ผีป่วน ชวนรัก ถ้าใครกำลังมองหาซีรีส์เบาๆสมอง ดูเพลินๆอยู่ ลองไปดเรื่องนี้ กับซีรีส์ผีสุดน่ารัก “OMG ผีป่วนชวนมารัก” สร้างจากซีรีส์เกาหลีสุดฮิตที่รู้จักกันในชื่อว่า “Oh My Ghost” เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและโด่งดังไปทั่วเอเชียสร้างความสนุกสนานและประทับใจไว้ คราวนี้มาถึงผลงานในเวอร์ชั่นไทยบ้าง เป็นเรื่องราวของ เรื่องราววุ่น ๆ ของ “ข้าวปุ้น” ผีสาวที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด เพราะยังติดห่วงบางอย่างที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่คิดเองว่าก่อนตายเธอยัง “เวอร์จิ้น”อยู่ เมื่อตายไป “ห่วง” ที่ติดอยู่ก็คือเรื่องอย่างว่า ผีสาวข้าวปุ้น จึงเร่ร่อนสิงร่างหญิงสาวคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อหาผู้ชายที่จะปลดปล่อยให้เธอได้ไปเกิดแบบหมด “ห่วง” จนวันหนึ่ง ขณะที่ข้าวปุ้นกำลังหนีจากการตามล่าของหมอผี เธอได้แอบเข้าไปสิงร่างของ “จิ๋ว”สาวน้อยดวงตกที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้ ในระหว่าง “ข้าวปุ้น” สิงอยู่ในร่างของ “จิ๋ว” เกิดไปปิ๊งกับ “เชฟอาทิตย์” ซึ่งเป็นเชฟสุดฮอตชื่อดัง เจ้าของร้านอาหารที่จิ๋วทำงานอยู่ และเป็นคนเดียวกับที่ “จิ๋ว” แอบชอบอยู่ห่างๆ ด้วยเช่นกัน ผีสาว “ข้าวปุ้น” เข้าใจว่า “เชฟอาทิตย์” คือผู้ชายคนที่จะปลดปล่อยวิญญาณของเธอได้ด้วยการมีอะไรกับ “เชฟอาทิตย์”

 

.
ผีสาวสุดหื่นจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กุ๊กกิ๊กกับ “เชฟอาทิตย์” แต่เรื่องมันไม่ง่าย เพราะว่าผีสาวไปสิงร่างของ “จิ๋ว” สาวจอมซึมนี่แหละ ที่ทำให้ “เชฟอาทิตย์” และบรรดาเชฟในร้านต่างปรับอารมณ์ตามจิ๋วไม่ถูกที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนขี้แพ้อ่อนแอ กลายเป็นคนมั่นใจตัวเองสูง เรื่องราวกลับเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อ “ข้าวปุ้น” เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริง ๆ แล้วเธอถูกฆาตกรรมโดยฆาตกรที่คาดไม่ถึง การสืบหาฆาตกรจึงเกิดขึ้นไปพร้อมๆกับความวุ่นวายของความรักที่อลวนวุ่นวายวังเวงของคนและผี ยิปซี ยิ ป โซ การศึกษา

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

 

สปอยหนัง เด็กไทยล้วนรู้จักขุนช้างขุนแผน เพราะเป็นนิทานพื้นบ้านชื่อดังและเป็นวรรณคดีที่อยู่ในแบบเรียนที่บังคับเรียนโดยกระทรวงศึกษาธิการอีกด้วย ถึงแม้ว่าเมื่อสอบเสร็จ-เรียนจบ-โตแล้ว เราจะจำเรื่องราวหรือรายละเอียดนั้นได้บ้างไม่ได้บ้างแต่หากเราจดจำตัวละครหลักทั้งสามอย่าง ขุนแผน (แก้ว), ขุนช้าง (ช้าง), และนางพิมพิลาไลย (วันทอง) ได้นั้นก็เพียงพอเหลือแหล่แล้วที่จะไปดู ขุนแผน ฟ้าฟื้น ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของพี่ ก้องเกียรติ โขมศิริ (ผู้กำกับ ขุนพันธ์) ได้อย่างเพลิดเพลินและรู้เรื่อง ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ ขุนแผน ฟ้าฟื้น

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

ภาพยนตร์ ขุนแผน ฟ้าฟื้น เริ่มจาก แก้ว (มาริโอ้ เมาเร่อ) กับสหายรักของเขา เพชร (โจเซฟ สิรินัฎฐ์) เดินทางมาแสวงโชคที่เมืองยูท่า (หรืออยุธยา) แล้วมาเจอกับช้าง (ฟิลลิปส์ The Face Men) กับพิม (ฟ้า ยงวรี) ซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเด็กแก้วจำพวกเขาไม่ได้เพราะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็ตกหลุมรักนางพิมตั้งแต่แรกเห็นต่อมาแก้วได้เรียนวิชาอาคมกับอาจารย์เดช (ต๊อก ศุภกรณ์) และสมัครเป็นทหารอาสา เพื่อพิสูจน์ตนเองและลบล้างคำเหยียดหยามที่ว่าขุนไกร (ปีเตอร์ นพชัย) พ่อของเขาเป็นกบฏ แล้วก็ต้องมาแข่งขันแย่งชิงการเป็นที่หนึ่งกับช้างทั้งในเรื่องของหัวใจและเรื่องการเป็นทหารในขณะเดียวกัน จอมเวทย์สายดำ แสนตรีเพชรกล้า (ปราโมทย์ แสงศร) และพรรคพวก นำโดยมือขวา รัศมีจันทร์ (เจด แองเจลิน่า นางเอกโนราห์ 2018) ก็กำลังมีแผนก่อความไม่สงบในงานใหญ่ประจำเมืองและหวังลอบสังหารพระยาเดโช (น้านงค์ เชิญยิ้ม) ขุนแผนฟ้าฟื้น 2

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง หลังโด่งดังจากการร่วมเขียนบทหนังสยองขวัญอย่าง ลองของหรือเปนชู้กับผี แล้ว ก้องเกียรติ โขมศิริ ถือเป็นผู้กำกับที่ทำหนังหลากหลายแนวที่สุดทั้งดราม่าอาชญากรรมอย่าง ไชยา ระทึกขวัญอย่างเฉือนและสุขสันต์วันกลับบ้านหรือกระทั่งแอ็กชันอย่างอันธพาลและขุนพันธ์ทั้งสองภาค ซึ่งจากเครดิตจะเห็นว่าก้องเกียรติมักวนเวียนอยู่กับความดำมืด อาชญากรรม มนตร์ดำ มาตลอด นั่นทำให้ขุนแผนฟ้าฟื้นกลายเป็นงานขายตลกแฟนตาซีจริงจังที่เปิดซิงด้านสว่างของเขาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งด้วยชื่อชั้นงานเขียนบทที่ไม่ใช่ของไกลตัวทำให้บทหนังเต็มไปด้วยไอเดียเด็ดๆ มากมายทั้งการแอบแซวตัวเองในฉากเปิดเรื่องของขุนพันธ์ยันล้อไปยังตุ๊กตาผีแอนนาเบลหรือจะเป็นการเล่าเรื่องแบบโพสต์โมเดิร์นใส่องค์ประกอบโลกปัจจุบันเข้าไปในเนื้อหาที่ดูเป็นพีเรียตแบบไม่สนความถูกต้องเชิงประวัติศาสตร์ก็ทำให้ขุนแผนฟ้าฟื้น กลายเป็นงานหนังไทยขายครีเอทีฟที่น่าสนใจในเชิงแนวคิดไม่น้อยแต่อาจเป็นโชคร้ายที่กรอบการเล่าเรื่องของหนัง 2 ชั่วโมงอาจยังไม่สามารถรองรับไอเดียดีๆ หรือองค์ประกอบกาวๆ ที่พยายามจะเล่าได้มากนักผลลัพธ์คือหนังออกมาไม่ลงตัวเท่าที่ควรดังจะกล่าวถึงต่อไป

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

ว่าด้วยเส้นเรื่องของหนังเองเหมือนขุนแผนฟ้าฟื้นจะพยายามผูกโยงเส้นเรื่อง3เส้นไว้ด้วยกันได้แก่การตามหาความทรงจำเรื่องพ่อของแก้ว , เรื่องรักสามเส้าแต่ครั้งอดีตระหว่างแก้ว ช้าง และ พิม ส่วนสุดท้ายคือตำนานแห่งนักรบอัฐมารถที่ต้องปกป้องยูท่าจาก แสนตรีเพชรกล้าและเหล่าสมุนโดยมีแทรกการฝึกวิชาอาคมของแก้วกับอาจารย์เดชเป็นระยะซึ่งลำพัง 3 เส้นเรื่องหลักหนังยังไม่สามารถเล่าได้เคลียร์นัก เพราะพอยัดเส้นเรื่องที่คนต้องติดตามเยอะเกินไปเลยเกิดอาการความจำเสื่อมแก่คนดูเป็นระยะ คือพอแก้วอยากจะตามหาพ่อไปๆ มาๆ หนังก็จะไปเล่าเรื่องรักสามเส้าแถมพอแทรกเรื่องนักรบอัฐมารถเข้ามา กว่าจะมาสรุปเรื่องก็ปาไปเกือบหนังจบแล้ว จนคนดูประมวลผลอารมณ์ตัวเองได้ยากจริงๆ และ ยิ่งหนังเล่าไปเรื่อย ๆ เราก็สัมผัสได้เลยว่าก้องเกียรติไม่ถนัดกับงานคอเมดี้ยิ่งหนังพยายามดึงอารมณ์คนดูให้ตลกด้วยการถล่มมุกต่างๆ ทุก 30 วินาทีก็สัมผัสได้แต่ความฝืดเฝือไปพร้อมกับอาการสะดุดในการเล่าเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย

 

จุดขายสำคัญสำหรับหนัง ขุนแผนฟ้าฟื้น

จริงๆ คงหนีไม่พ้นเหล่านักแสดงที่ทำหน้าที่เรียกแขกได้ไม่ยากทั้งมาริโอ เมาเร่อที่มีชื่อเป็นพระเอกพันล้านจากพี่มากพระโขนงหรือจะเป็นหน้าใหม่ที่น่าสนใจมากๆทั้งฟิลลิปส์ ณัทธนพล ทินโรจน์ หนุ่มหล่อจากรายการ The Face Men ที่พกพาความหล่ออินเตอร์มาลบภาพขุนช้างอ้วนหัวล้านที่เราคุ้นเคยรวมถึงนางเอกสาวสวยอย่างฟ้า ยงวรี งามเกษมนางเอกช่อง3ที่เพิ่งผ่านละครเพชรกลางไฟ มาเรื่องเดียว รับบท พิม ชนวนเหตุรักสามเส้าแถมยังแพ็กนักแสดงรุ่นกลางอย่าง ปราโมทย์ แสงศร และ ต็อก ศุภกร กิจสุวรรณ กะมาเอาใจคอหนังรุ่นใหม่เต็มที่ ด้วยหน้าหนังขุนแผนสไตล์ซูเปอร์ฮีโร แต่สุดท้ายก็กลายเป็นความรับผิดชอบของผู้กำกับเมื่อภาพรวมทางการแสดงของหนังกลับออกมาพังพินาศอย่างเห็นได้ชัด ที่ออกหน้าออกตามากคือมาริโอ เมาเร่อ ที่พยายามทุ่มเทให้กับการเล่นมุกที่บทเขียนมาแบบไม่ห่วงหล่อแต่ด้วยจังหวะการกำกับตัดต่อที่ดูรีบๆ ขุนแผนฟ้าฟื้น imovie

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

 

จบซีนบ้างหรือตัดฉับแบบไม่ทันตั้งตัวบ้างก็ทำให้มุกต่างๆ ทำงานกับคนดูได้น้อยเหลือเกินส่วนฟ้า ยงวรี กับหนุ่ม ฟิลิป ก็ยังไม่อาจทำให้เราหลงรักหรือมีเสน่ห์มากพอให้ติดตามตัวละครได้มากเท่าใดนักผิดกับหมอริท เดอะสตาร์ ที่มาน้อยแต่บันเทิงมากๆ จนขโมยซีนนักแสดงอื่นๆ ที่เล่นมาทั้งเรื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อส่วนเจด แองเจลิน่า โฟรม็องโตนางเอกจากหนัง โนราห์ ปีที่แล้วก็มาในบทเหมรัศมี สีจันทน์ นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ จนหนุ่มๆ ละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว
หากจะสรุปแบบให้แฟร์กับหนังแล้วใครอยากดู ไอเดียของหนังหรืองานภาพ งานกำกับศิลป์ ก็ยังถือว่า ขุนแผนฟ้าฟื้นทำหน้าที่ของมันได้ดีพอสมควร แต่น่าเสียดายที่บทหนังและการแสดงกลับไม่สามารถสร้างความบันเทิงระดับบิ๊กอย่างที่คาดหวังไว้เลยกลายเป็นงานผิดฟอร์มไปอย่างน่าเสียดาย

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น วิเคราะห์ วิจารณ์

ขุนแผนฟ้าฟื้น ท้าวเวสสุวรรณ ไม่ใช่แค่การตีความวรรณคดีไทยใหม่ หากแต่เขาสร้างโลกใบใหม่ของขุนช้างขุนแผนและจักรวาลฮีโร่ไทยขึ้นมาใหม่ตามจินตนาการสุดบรรเจิดของพี่ก้องเกียรติเอง โดยมีการใส่บริบทยุคใหม่สมัยปัจจุบันลงไปในบริบทพีเรียดย้อนยุคนั้นอย่างลงตัว และมีการยำเอาหนังดังหลายเรื่องมาล้อมาเลียนอีกด้วย เช่น King Arthur, Aladdin, ฯลฯ รวมถึง pop culture อย่าง Annabelle ด้วย เป็นต้น อย่างฉากเปิดเรื่องและมีการนั่งรถไล่ล่ากันก็เล่นใหญ่ มัน(ส์)ตระการตามาก ราวกับฉากซิ่งเปิดฉาก Fast & Furious

ตัวละครเอกในขุนช้างขุนแผนเป็นไพร่ฟ้าหน้าใสและขุนนางธรรมดา จึงคิดว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมคงไม่น่าจะมาดราม่าเหมือนตอนเคสทศกัณฐ์ในเอ็มวีท่องเที่ยวไทยที่เป็นประเด็นเมื่อสองสามปีก่อน อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเราโอเคตั้งแต่เคสทศกัณฐ์จนมาถึงเคสขุนแผน ฟ้าฟื้นนี้ เพราะมันทำให้ตัวละครในวรรณคดีไทยกลับมามีชีวิตจับต้องได้และเป็นที่จดจำอีกครั้ง ดีกว่าปล่อยให้ขึ้นไปวางไว้บนหิ้งแล้วถูกคนรุ่นใหม่มองข้ามและหลงลืมกันไปตามกาลเวลา

 

 

จริง ๆ แล้ว ขุนช้างขุนแผนเองก็เป็นเรื่องที่มีการเล่าแต่งเติมเสริมแต่งหรือดัดแปลงต่อๆ กันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาอยู่แล้ว พอกรุงฯแตก ร.2 และเหล่ากวีชั้นครูในสมัยนั้นก็มารวบรวมและเอาเค้าโครงเดิมนั้นมาเสริมแต่งกันใหม่ โดยมีบริบททางสังคมของสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นสอดแทรกเข้าไปด้วยอีกเช่นกัน ดังนั้น ขุนแผน ฟ้าฟื้น ก็เป็นการเล่าขุนช้างขุนแผนในแบบที่มีบริบททางสังคมในปัจจุบัน เข้าไปสร้างสีสันร่วมสมัยไปด้วย เช่น การสะท้อนเกี่ยวกับการขนส่งสาธารณะในปัจจุบัน เป็นต้น

เอาเป็นว่า การมาดูหนังเรื่องนี้ ควรทำสมองให้โล่ง เปิดใจให้กว้าง และลืมขุนช้างขุนแผนที่คุ้นเคยออกไปชั่วขณะ แล้วจะบันเทิงกับหนังมาก เพราะหนังเขาทำมาค่อนข้างครบรสเลยทีเดียวตั้งแต่แอ็คชั่น แฟนตาซี ดราม่า โรแมนติก และคอเมดี้ โปรดักชั่นทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่จัดเต็มและซีจีที่ดูดีไม่ขัดตา หรือถ้าติดใจสงสัยเหมือนเราตอนก่อนมาดูว่า ทำไมขุนช้างมันหล่อจังวะ ไม่เห็นอ้วนและหัวล้านเลย สุดท้ายในหนังก็จะมีคำตอบให้เราเอง ไม่ต้องคิดเยอะ

 

ขุนแผน ฟ้าฟื้น สปอยหนัง

คือหนังแนว Postmodern ที่หยิบยืมเอาวรรณกรรมในอดีต นำมานำเสนอใหม่ภายใต้บริบทและวิธีการคิดแบบใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่ดูมีความเป็นคนที่มีความคิดหัวสมัยใหม่ แต่บริบทและฉากหลังเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา ทรงผม แฟชั่น หรือวิถีชีวิตของพวกเขา ล้วนแล้วแต่มีความเก๋ เปรี้ยว เป็นฮิปสเตอร์แตกต่างจากหนังไทยย้อนอดีตเรื่องอื่น

วัฒนธรรมร่วมสมัยที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบสไตล์หนังมิวสิคัลเอามาใส่ไว้ในช่วงต้นเรื่อง ตัวละครอย่างช้างและพิม มีวงดนตรีที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นระบบคมนาคมขนส่งในเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับแท็กซี่และรถประจำทาง สิ่งเหล่านี้ทำให้คนดูเห็นความพยายามใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี

 

 

แต่น่าเสียดายที่ความร่วมสมัยในหนัง กับบทภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสะเปะสะปะและไม่ค่อยคืบหน้าไปไหนทำให้ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” วนเวียนอยู่แต่ความทรงจำของแก้วที่ขาดหายไปคำถามถึงการหายไปของพ่อแก้ว ซึ่งเมื่อเราพิจารณาจิกซอว์ต่างๆหลังจากชมภาพยนตร์ไปสักระยะ ก็บทสรุปของหนังก็แทบไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายอีกทั้งความสัมพันธ์แบบรักสามเส้าของตัวละครเอก ก็ไม่ได้หนักแน่นเข้มข้นจนผู้ชมต้องรู้สึกอยากจะเอาใจช่วยตัวละครไหน เพราะท้ายที่สุดแล้วหนังก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะนำเสนอหนัง “ภาคนี้” ให้มีความเคร่งขรึมจริงจัง แต่มาในโทนหยอกล้อ ซึ่งอาจจะเป็นความ “ล้อเล่น” ที่มากเกินไปก็เป็นได้ ขุนแผน ฟ้าฟื้น ตอนจบ

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

 

ประเภท: ระทึกขวัญ / สยองขวัญ สปอยหนัง

ผู้กำกับ: เลิศศิริ บุญมี, วุฒิชัย วงศ์นภดล

นำแสดงโดย: กรภัทร์ เกิดพันธุ์, เฌอปราง อารีย์กุล, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์

ความยาว: 113 นาที

กำหนดฉายในไทย: 21 เมษายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

slr กล้องติดตาย หนังไทยสยองขวัญแอ็คชั่น ผสมจิตวิทยาแนวใหม่ กับหลายความเชื่อ ทั้งเรื่องปีศาจ และความเชื่อของคนโบราณ ที่ว่าการถ่ายภาพคือ การดูดพลังและวิญญาณ เนื้อหาชวนติดตาม มุมภาพใหม่ โทนเร้าอารมณ์ ภาพยนตร์สยองขวัญแอ็คชั่น จิตวิทยา ผสานแนว coming of ageแนวใหม่ กับความเชื่อโบราณที่ว่า การถ่ายภาพ คือ การถูกดูดวิญญาณ

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

slr มาจากคำว่า single lense reflex หรือ กล้องฟิล์ม นั่นแหละ หนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ผี แต่เป็น ปีศาจ ไม่เหมือนกับ shutter

ความเชื่อเรื่อง การถ่ายภาพ = การถูกดูดพลังหรือวิญญาณ ที่มาจากความเชื่อของคุณยายของ ผู้กำกับ มาร์ค-เลิศศิริ บุญมี ว่าคนสมัยก่อนไม่ชอบถ่ายรูปเพราะเชื่อว่าจะถูกดูดพลังไป แต่มาร์คมองว่ามันก็สอดคล้องวิทยาศาสตร์ตรงที่ กล้องคือกล่องเก็บภาพ ภาพคือแสง แสงคือพลัง กล้องเก็บแสงคือเก็บพลังส่วนหนึ่งของเรา ไปไว้ในฟิล์มนั่นเอง ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

เรื่องย่อ slr กล้องติดตาย

แดน (นนน-กรภัทร์) นักศึกษาหนุ่มที่กำลังมุ่งมั่นทำธีสิสจบ ด้วยการถ่ายภาพ แต่ถ่ายยังไงก็ไม่โดนใจอาจารย์เอ็ม อาจารย์เจ้าของธีสิส ทำให้เขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ไปตามฝันที่นิวยอร์ก พร้อมกับ เพื่อนและคนรัก อย่าง น้ำ และ เกรซ (เฌอปราง) (นนท์-ศดานนท์) จนกระทั่ง อาจารย์เอ็ม ได้มอบกล้อง slr ตัวหนึ่งมาให้แดน แนะให้ใช้กล้องตัวนี้ ทำธีสิส ให้ได้ โดยโจทย์คือ ถ่ายภาพบุคคลมาให้ได้ 7 คน ภายใน 14 วัน แต่ใครจะรู้ว่า… หลังจากถ่ายภาพไป คนที่ถูกแดนถ่าย กลับทยอย เสียชีวิตไปทีละคน จนกลายเป็นพวกเขา เข้าไปพัวพันกับความเชื่อในลัทธิปีศาจ ที่มีความตายเป็นเดิมพัน!

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

มาต่อคิวกันด้วยอีกหนึ่งหนังไทย ที่เดี๋ยวนี้เสิร์ฟต่อเนื่องกันทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ล่าสุดติดเทรนด์ฮอตตั้งแต่วันแรกกับ #ชวนดูslrฉายวันแรก ที่เป็นการปรับโหมดมาสู่ความสะพรึงกลัวในหนังที่ดูเบื้องต้นแล้ว อาจจะรู้สึกซ้ำซากจำเจ กับ “slr กล้อง ติด ตาย” แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่า อย่าเพิ่งตัดสินหนังจากเพียงแค่ตัวอย่างและใบปิดหนังเลย เพราะจะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้ที่ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไปสุด ๆ ปนเปอารมณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็พอที่จะเป็นหนังผีไทยที่แตกต่างและพอจะพาไปไหนมาไหนด้วยได้อยู่

 

ผลงานหนัง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของ 2 ผู้กำกับหนุ่มรุ่นใหม่ “เลิศศิริ บุญมี” กับ “วุฒิชัย วงศ์นภดล” ที่พวกเขาแทบจะยังไม่มีชื่ออยู่ในวงการหนังไทยหรอก แต่ก็นับว่าเป็นการประเดิมเดบิวต์ผลงานเรื่องนี้ได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะส่วนหนึ่งเป็นการปลุกปั้นผลักดันของผู้กำกับมือฉมัง “โขม ก้องเกียรติ” ที่มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและที่ปรึกษาให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย เมื่อได้ครูที่ดี ผลงานออกมาจึงออกมาได้ในระดับที่พอถูไถไปได้

slr กล้อง ติด ตาย ที่ถ้าใครได้เห็นทีเซอร์ แน่นอนว่าจะต้องพาให้นึกไปถึงหนังไทยในตำนานอย่าง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ อะไรประมาณนั้นใช่ไหม? แต่บอกไว้เลยว่า…หนังเรื่องนี้แตกต่างจากทิศทางนั้นอย่างสิ้นเชิง เดินกันคนละทาง และมีคอนเซ็ปต์คนละแบบ เพียงแค่ใช้วิชาการถ่ายรูปเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนกันเพียงเท่านั้น โดยหนังเรื่องนี้มีแก่นเรื่องและจุดประสงค์ที่ค่อนข้างแข็งแรงและชัดเจนดี

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

 

ถึงแม้ว่าบทหนังจะยังคงค่อนสะเปะสะปะ ติดอยู่กับปัญหาจุดเดิม ๆ ของหนังไทยที่ยังแก้ไม่หาย บทหนังที่มีแก่นเรื่องหนักแน่นดี แต่ยังไม่กลมกล่อม และใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ยังไม่มีกิมมิกลูกเล่นอะไรที่ดึงดูดความสนใจได้มากเท่าไหร่ เพราะดันไปติดกลิ่นอายความเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำของฝั่งฮอลลิวูดมาปนเปเอาไว้รายทาง จึงพลอยทำให้หนังเกือบ 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ มีจังหวะที่ดีปะปนไปกับจังหวะที่ยังไม่ดี

บอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่อะไรที่คาดเดาได้ยากเลย ทุกอย่างปูทางและเปิดทางเอาไว้ให้คนดูกระจ่างตั้งแต่ตอนปูเรื่อง พอจะคาดถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ยากเย็นหนัก แต่การหยิบเอาประเด็นความเชื่อที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน แหวกแนวไปจากหนังผีไทยเดิม ๆ ตรงจุดนี้ต้องชื่นชมในกล้าหาญของหนังเรื่องนี้ เพราะนี่อาจจะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างไกลตัวคนไทย และอาจจะทำให้คนดูไม่รู้สึกคล้อยตามไปด้วยซ้ำ แต่ถือว่าผู้สร้างมีจุดยืนในเจตนานี้ด้วยดี และได้ปรุงแต่งรสชาติออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่กับวงการหนังไทย แต่ยังธรรมดา ๆ ไปเหมือนเทียบกับแวดวงหนังสากล slr กล้องติด รีวิว

 

นักแสดงจุดอ่อนของเรื่อง slr กล้องติดตาย

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย กลุ่มนักแสดงที่ตอนแรกดูจะเป็นจุดอ่อนของเรื่องที่สุด กลับกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของเรื่อง เคมีอาจยังดูไม่เข้ากันในที และอาจต้องใช้เวลาจูนกันอีกนิด แต่บทบาทส่วนตัวของแต่ละคนทำออกมาได้ดีและเกินคาดมาก โดยเฉพาะ นนน ที่ระเบิดฟอร์มอย่างเด่นชัด กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงน่าจับตาไปโดยปริยาย

 

 

ในขณะที่มายเมนเฌอปรางมีพัฒนาการจากตอน homestay ได้อย่างน่าดูชม เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังทั้งเรื่อง แต่ชอบเป็นพิเศษคงเป็นช่วงแรกของเรื่องที่แสดงความเป็นคาแรคเตอร์ของสาวขี้เล่นขี้หยอดได้น่ารักมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยได้เห็นเลยเวลาเธออยู่ในวง รู้สึกตกหลุมรักขึ้นมาอีกรอบเลย SLR กล้อง ติด นักแสดง

แม้ว่า slr จะโปะหน้าว่าเป็นหนังสยองขวัญ และมีจัมป์สแกร์เป็นบางช่วง แต่ส่วนตัวรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้เอาตายขนาดนั้น จริตของมันไปทางหนังสยองตะวันตกมากกว่า มีการพูดถึงความเชื่อ การบูชาซาตาน

 

สปอยหนัง slr กล้องติดตาย

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้รู้สึกประทับใจใน slr หนังผี ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบงานสร้างและดีไซน์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนัง โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ทั้งฉากที่รู้สึกพิถีพิถันและแปลกตาจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ดี การออกแบบมุมกล้องและแสงสีที่ใช้หนังเรื่องนี้ ผสมด้วยความเป็นหนังลึกลับอินดี้แบบฝรั่งหน่อย ๆ เข้าไป เป็นจุดเล็กน้อยที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าจังหวะในการเล่าเรื่องของหนังจะค่อนข้างโดดไปมา และพลอยทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องอยู่เนือง ๆ บ่อยก็ตาม

อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิธีการเล่าเรื่องในหนัง slr กล้องติดตาย ยังไม่ใช่สิ่งที่โปรดปรานโดยส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก หนังยังมีจุดขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ความพยายามที่จะกระตุกขวัญผู้ชมด้วยมุกเดิม ๆ อาจจะเป็นการสร้างความน่ารำคาญ หรือความสุดโต่งในการถ่ายทอดเรื่องราว ที่ยอมรับว่าเกือบจะไปได้สุด แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนังยังเก้กังติดอยู่กลางทางอยู่บ้าง เป็นองค์ประกอบที่น่าเสียดาย ที่ตรงจุดนี้หนังยังไม่สามารถซื้อใจไปได้

 

 

ขณะที่นักแสดงของ slr กล้องติดตาย ก็ถือว่าใช้งานนักแสดงเจนใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพทุกคน ไม่ว่าจะ “นนท กรภัทร์”, “เฌอปราง bnk48” หรือ “นนท์ ศดานนท์” พวกเขาทุ่มเทถ่ายทำบทบาทของตัวเองในหนังเรื่องนี้ได้เต็มที่ และหนังก็สามารถเกลี่ยบทให้กับทุกตัวละครนำได้ค่อนข้างดีใช้ได้ เพียงแต่มิติของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ เหล่านั้นยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากแค่หนุ่มสาว 3 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวบนความเชื่อของพวกเขา ทั้งที่น่าจะสามารถเค้นออกมาได้มากกว่านี้ แต่ก็เหมือนว่าการแสดงยังอยู่ในจุดเซฟโซนไปสักหน่อย

ว่ากันว่า ปี 2565 วงการหนังไทยจะรุกตลาดกับกระแสจักรวาลหนังมอนสเตอร์ไทย ๆ ชุดใหญ่ แต่คงต้องบอกว่า slr กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะถูกยังอยู่ในจักรวาลนั้นไปด้วยเรื่องหนึ่งแล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่เป็นหนังผี แต่ยังใส่ความสัตว์ประหลาดเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างแยบยล ถึงได้บอกว่าเป็นความทะเยอทะยานที่ไม่ค่อยจะเคยเห็นในวงการหนังไทยมาก่อน มันเป็นการพัฒนาที่ดี เพียงแต่ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกกว่านี้ แต่ก็นับว่าหนังไทยเรื่องนี้พยายามมาได้ค่อนข้างถูกทางในระดับหนึ่งแล้ว SLR กล้อง ติด เต็มเรื่อง

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

 

สปอยหนัง ณ ปางน้อยในปี 1997 ดิว (โอม-ภวัต) เด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาจากเชียงใหม่ได้พบและก่อความสัมพันธ์กับ ภพ (นนท์-ศดานนท์)เด็กหนุ่มลูกครึ่งจีนในพื้นที่ แต่ด้วยยุคสมัยที่ยังต่อต้านความรักระหว่างเพศเดียวกันก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพรากจากกัน จนกระทั่ง 23 ปีต่อมา ภพ (เวียร์ ศุกลวัฒน์) ได้หวนกลับมาเป็นครูยังปางน้อยอีกครั้งโดยมี อร (ญารินดา บุนนาค)ภรรยาของเขาติดตามมาด้วย แต่ในใจเขาก็ยังคงอยากตามหาดิวเพื่อสะสางเรื่องราวที่ติดค้างกันในอดีต ส่วนที่โรงเรียน ภพ ก็ได้มีโอกาสพบกับ หลิว (ปั๋น-ดริสา) เด็กสาวหัวดีแต่ดื้อที่ครูใหญ่ฝากให้ดูแล แต่แล้วความใกล้ชิดระหว่าง ภพ กับ หลิว ก็ทำให้เกิดข้อครหาขึ้น

 

เนื้อเรื่อง ดิว ไปด้วยกันนะ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า เนื้อหาต่อไปนี้พยายามจะเขียนไม่ให้สปอยล์ที่สุด แต่สำหรับใครที่เคยผ่านตาผลงานต้นฉบับของเกาหลีอย่าง Bungee Jumping of Their Own (번지점프를 하다) หนังโรแมนติกปี 2001 ที่ขึ้นชื่อเรื่องสร้างความเหวอแตกระดับหลายริกเตอร์กับบทสรุปความสัมพันธ์ของคู่รักที่ถูกความตายพลัดพรากในครึ่งเรื่องแรกที่สร้างทั้งความซาบซึ้งและชวนฉงนกับฉากจบอันเป็นปริศนาที่ให้คนดูคิดเอาเองก็ย่อมพอจะเดาปลายทางที่ ดิว..ไปด้วยกันนะ จะเดินทางไปถึงได้ไม่ยากนัก แต่โดยส่วนตัวแล้ว แม้จะถูกระบุยี่ห้อว่าเป็นหนังรีเมก แต่กับ Bungee Jumping of Their Own ก็ถือเป็นโจทย์ยากระดับคณิตศาสตร์โอลิมปิกเลยทีเดียว ด้วยว่าหนังผสมผสานทั้งความแฟนตาซี ความเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ไปจนถึงความเลื่อนไหลทางเพศ ที่หนังต้นฉบับถ่ายทอดไว้ได้น่าประทับใจและชวนคิดจนถึงทุกวันนี้ แต่ในเมื่อมันมาอยู่ในมือของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีรกุล ที่เล่นยกเครื่องปั้นหน้าหนังและตัดสลับเหตุการณ์ตลอดจนเปลี่ยนรายละเอียดจนแทบเหมือนหนังคนละม้วนแล้วผสมผสานเรื่องราวบาดแผลในช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่ตนถนัดลงไปก็ย่อมไม่อาจคาดหวังอะไรที่น้อยไปกว่าผลงานที่ท้าทายความคิดคนดูเหมือนผลงานที่ผ่านมา ดิวไปด้วยกันนะ เรื่องย่อ

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

ความกล้าหาญแรกที่มะเดี่ยวเลือกตัดผ่ายกเครื่องบทหนังโดยหยิบยกจุดพีคที่คอหนังต้นฉบับซูฮกมาไว้ในครึ่งแรกแทน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องแลกกับการทิ้งเซอร์ไพร์สที่ Bungee Jumping of Their Own เคยมอบให้คนดู โดยหนังเปลี่ยนรายละเอียดความรักคู่พระนางต้นฉบับในวัยเรียนมหาวิทยาลัย กลายมาเป็น ดิว กับ ภพ วัยรุ่น ม.ปลายในโรงเรียนชนบทยุค 90 ที่เพลงอัลเธอเนทีฟอย่าง ก่อน ของโมเดิร์นด็อก หรือ ดีเกินไป ของ สไมล์ บัฟฟาโล ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนทางเลือกใหม่ ๆ ทั้งที่สังคมในสมัยนั้นยังใช้คำว่า เบี่ยงเบนทางเพศ และใช้กระบวนการทางทหารและแพทย์มาใช้บำบัดพฤติกรรมรักร่วมเพศอยู่เลย ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าการเซ็ตสถานการณ์ภายใต้การควบคุมของทหารเอย การจำกัดกรอบเรื่องเพศเอย เป็นกลไกของบทหนังที่พยายามบีบบังคับให้ตัวละครไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ และแม้เราจะไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าการจำกัดกรอบโลกทัศน์เรื่องเพศในหนังเป็นความจริงสักกี่มากน้อย แต่ในทางกลับกันมันก็ให้ภาพสังคมไทยที่ไร้ประชาธิปไตย หมดสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตตัวเองโดยเฉพาะกับเพศทางเลือกอย่าง LGBTQ และกล่าวอย่างไม่เกินจริงบทหนังของมะเดี่ยวยังละเอียดลออด้วยรายละเอียดด้านชาติพันธุ์ ความเชื่อ ที่ถูกส่งต่อผ่านระบบครอบครัวของทั้ง ดิว และ ภพ ที่ช่วยทำให้เรื่องราวมีมิติมากกว่าแค่เรื่อง เด็กผู้ชายสองคน มาจิ้นกันแบบผิวเผินและที่สำคัญประเด็นบาดแผลระหว่างทางเติบโตของวัยรุ่นที่มะเดี่ยวเคยปูไว้ตั้งแต่ รักแห่งสยาม เกรียนฟิกชัน หรือตอนแรกของ โฮม ความรัก ความสุข ความทรงจำ ก็ถูกนำมาเน้นย้ำผ่านเรื่องราวของดิวและภพจนสามารถเชื่อมต่อเป็นจักรวาลหนังวัยรุ่นของมะเดี่ยวได้อย่างไม่ขัดเขินเลยทีเดียว ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

แต่แน่นอนล่ะว่าพอผ่าตัดและเปลี่ยนองค์ประกอบบทหนังใหม่ความท้าทายของมะเดี่ยวคือ ครึ่งเรื่องหลังที่ต้องคิดว่าทำยังไงให้ยังคงเรื่องราวความสัมพันธ์ต้องห้ามแบบหนังเกาหลีต้นฉบับไว้ได้ ซึ่งต้องยอมรับนะครับว่าพอย้ายจุดพีคมาไว้ตอนต้นและทำท่าเหมือนจะพูดเรื่องความหลากหลายทางเพศไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่กลับถูกบังคับให้เดินจุดพลิกผันตามบทหนังต้นฉบับจนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้การพูดเรื่อง LGBTQ แผ่วบางและหมดพลังทั้งที่อุตส่าห์ปูไว้ตอนต้นเรื่องเสียน่าสนใจและหนักแน่นจนไม่อาจคาดหวังอะไรที่น้อยไปกว่าความดุเดือดได้ แต่เมื่อถึงครึ่งหลังและหนังจำต้องเดินไปในทางที่ถูกกำหนดเลยกลายเป็นพลังของหนังมันแผ่วตามไปด้วย และแน่นอนอย่างที่บอกไปแล้วว่า ความเหวอแตก มันถูกยกไปกล่าวถึงในครึ่งเรื่องแรกแล้วเลยกลายเป็นว่าครึ่งหลังกับแนวทางที่หนังพยายามเดินไปให้เห็น “การซ้ำรอย” เพื่อนำไปสู่บทสรุปความรักของหัวใจดวงเดิมก็เลยดูไม่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก ยังดีที่ได้การแสดงอันหนักแน่นของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ญารินดา บุญนาค และ ปั๋น-ดริสา มาโอบอุ้มเรื่องราวภายใต้การกำกับที่ยังคงแม่นยำของมะเดี่ยวก็คงพอจะยกประโยชน์ให้จำเลยได้อยู่บ้าง

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

เช่นเคยที่หนังของมะเดี่ยวมักจะสร้างนักแสดงวัยรุ่นฝีมือฉกาจไว้ประดับวงการเสมอ สำหรับ ดิว..ไปด้วยกันนะ ก็ได้ นนท์-ศดานนท์ ที่เอาลุคแบดบอยมาทำให้ ภพ กลายเป็นหนุ่มในฝันของสาว ๆ ได้ไม่ยาก แถมบทดราม่าก็ยังแสดงได้ลื่นไหลทีเดียว รวมถึง ปั๋น ดริสา ที่บอกเลยว่างานเดบิวต์เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรที่น้อยไปกว่าบททดสอบโหดหินเลย ทั้งต้องรับบทเด็กมัธยมปลายหัวดื้อที่รู้สึกแปลกแยกจนต้องคบกับผู้ชายถ่อย ๆ แถมเธอยังต้องแบกจุดพลิกผันของเรื่องราวและถ่ายทอดออกมาให้น่าเชื่อถือที่สุด ซึ่งจากผลงานที่เห็นด้วยตาเปล่าแล้วก็ต้องบอกว่าเธอสอบผ่านได้อย่างสวยงาม และถือว่ามะเดี่ยว เคี่ยวกรำและเค้นเอาการแสดงที่ดีที่สุด ธรรมชาติที่สุดของเธอออกมาจนคนดูอดหลงรักเธอไม่ได้แน่นอน และไม่เพียงรุ่นเล็กเท่านั้นรุ่นใหญ่อย่าง อาภาศิริ นิติพน ก็ไม่ให้เสียชื่อ แม่แห่งชาติ เพราะเธอสามารถถ่ายทอดบทแม่ของดิวได้ชวนใจสลายมาก ๆ ใครดูซีนสารภาพความในใจกับดิวแล้วไม่ร้องไห้ก็ถือว่าใจแข็งมาก ส่วน เวียร์ ศุกลวัฒน์ ก็สานต่อโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือบนจอเงินถัดจากหนังมนิลา โดยเขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่ติดค้างในใจของ ภพ ที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีบาดแผลได้อย่างน่าชื่นชม

 

หนังแนะนำ ดิว ไปด้วยกันนะ

กล่าวอย่างเป็นกลางที่สุดแล้ว ดิว…ไปด้วยกันนะ ก็จัดเป็นงานหนังไทยคุณภาพในระดับที่น่าสนับสนุนนั่นแหละครับ เพียงแต่การต้องเดินตามร่องรอยของหนังต้นฉบับอาจทำให้หนังไม่สามารถพูดประเด็นหลักอย่างเสรีภาพของ LGBTQ ในไทยได้อย่างหนักแน่นเหมือนที่ปูไว้ตอนแรก แต่เหนืออื่นใดมันคือหนังที่ดูแล้วทำงานกับหัวใจที่สุดเรื่องหนึ่งของปี ตั้งแต่ต้นเรื่องยันหนังจบขึ้นต้นเอนด์เครดิตว่าอุทิศให้แก่ นพดล ขันรัตน์ ผู้ถ่ายทอดช็อตโดรนสวย ๆ สื่อความหมายอันลึกซึ้งให้หนังแต่ไม่มีโอกาสได้ชมผลงานในวันนี้เนื่องจากเขาเสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน ดังนั้นช็อตโดรนต่าง ๆ ในหนังจึงเป็นเหมือนของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาได้มอบให้ผู้กำกับและคนรักของเขาแทนคำขอบคุณที่อยู่ข้างกันตลอดเวลาที่เจ็บป่วย และคงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่ามันเป็นของขวัญที่งดงามที่สุดในโลก…

บรรยากาศภาคเหนือในปีพ.ศ. 2539 ที่ทำออกมาได้ถึงจนเราคิดถึง

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

 

ทั้งบรรยากาศเก่า ๆ ของเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งในภาคเหนือ เมืองที่ใครทำอะไรก็รู้กันทั้งเมือง วิถีชีวิตของเด็กที่ต้องเข้าตัวเมืองเพื่อไปเรียนพิเศษ เพลงที่ฟังกันในสมัยนั้น การคุยกันผ่านเพจเจอร์ เสื้อผ้าหน้าผมในยุค 90 บรรยากาศในโรงเรียนมัธยมที่เราจะต้องคิดถึงไม่ว่าเราจะเป็นคนยุคไหน ดิวไปด้วยกันนะ ต้นฉบับ

ถึงแม้ว่าคอนเท้นท์เกี่ยวกับยุค 80-90 ในตอนนี้จะมีให้เราเห็นจนชินตา แต่เรื่องนี้ก็ทำออกมาได้เป็นธรรมชาติมากเรื่องหนึ่งจนเราไม่รู้สึกขัดอะไร แถมในพาร์ทอดีตยังเป็นเรื่องราวที่สวยงามที่สุดในเรื่องนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้

 

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

ประเด็นเรื่องการรักเพศเดียวกันที่หนักหน่วงกว่าเรื่องอื่นๆ ไม่เพียงการเน้นประเด็นที่ว่าการรักเพศเดียวกันเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเดียว แต่ยังมีประเด็นโรคเอดส์ระบาดโดยเฉพาะในกลุ่มของชายรักชาย ทำให้โรงเรียนปางน้อยออกกฎให้คนที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศต้องไปรับการฝึกอบรมกับทหารอีกด้วย มันเริ่มทำให้เราเห็นความอึดอัดตั้งแต่เริ่มเรื่องกับประเด็นหนัก ๆ นี้ คนที่แสดงออกชัดเจนก็จะโดนแกล้งจากเพื่อน ๆ ส่วนคนที่ยังไม่แสดงออกก็ไม่กล้าที่จะเปิดตัว หรือแม้แต่การต้องออกไปฝึกกับค่ายทหารจนดึกเพื่อแก้พฤติกรรมเบี่ยงเบน แสดงให้เห็นว่าการรักเพศเดียวกันยังคงเป็นเรื่องที่ผิดในสังคม

 

 

หรือจะเป็นการโดน Bully จากเพื่อนๆ เมื่อรู้ว่าดิวชอบผู้ชายเหมือนกัน การไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวลามไปจนถึงการแตกหักกันในที่สุด ถึงแม้ในปัจจุบันจะดีขึ้นแล้ว แต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วทำให้เห็นว่ามันยังเป็นปัญหาใหญ่มากจริง ๆ จนหลายเรื่องผ่านไปอย่างไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก

อีกประเด็นหนัก ๆ อย่างเรื่องของศีลธรรม ความถูกต้อง และความรัก ด้วยความที่ภพแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่เมื่อกลับมาเจอคนที่ทำให้คิดถึงอดีต ก็ทำทุกอย่างเหมือนว่าจะรื้อฟื้นเรื่องที่ฝังอยู่ในใจ แถมยังเป็นความรักของครูกับลูกศิษย์ที่ไม่สามารถมองแค่ความรักอย่างเดียวได้ แต่ต้องมีความถูกต้องเข้ามาเกี่ยวด้วย

 

จุดไฮไลท์ของหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ

จุดไฮไลท์ Climax ของเรื่องอย่างการกระโดดบันจี้จัมพ์ ที่ไม่ได้ทำให้เชื่อมากพอว่าตัวละครมีความสนใจจริง ๆ จนต้องเลือกทางเดินแบบนั้นในตอนจบของเรื่อง เลยทำให้เรารู้สึกว่าประเด็นมันอ่อนกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้เห็นว่ากล้าเล่นให้แตกต่างจากเรื่องอื่น ทำให้กลายเป็นหนังรักที่ไม่ธรรมดาเรื่องหนึ่งเลย ดิวไปด้วยกันนะ ช่อง7

สำหรับใครที่คาดหวังว่าดิวไปด้วยกันนะจะเป็นหนังชายรักชายคงจะผิดหวังนิดหน่อยด้วยหลายปมที่อยู่ในเรื่อง พาร์ทที่มีทั้งดิวและภพในอดีต พาร์ทปัจจุบันที่กลายเป็นภพกับหลิว แต่มันคือหนังรักแบบที่ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย เพราะความผิดพลาดในอดีตที่ทำให้ตัวละครเลือกทางที่คิดว่าดีที่สุดในตอนนี้ มุ่งไปกับความรักอย่างเต็มที่เพราะไม่อยากจะสูญเสียไปอีก

หลายประเด็นในเรื่องนี้ทำให้เป็นหนังที่หากชอบก็ชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ชอบไปเลยเหมือนกัน จึงเป็นอีกเรื่องที่อยากให้เข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าเราจะเลือกเชื่อและอินไปกับสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอหรือเปล่า
“ดิว” เป็นหนังที่ใช้คำว่า “ภาพยนตร์ดัดแปลง” ได้อย่างเหมาะสมมาก ต้นฉบับคือ Bungee Jumping of Their Own ภาพยนตร์จากปี 2001 ของเกาหลี เป็นยุคที่หนังเกาหลีเพิ่งจะพัฒนาหลังจากกระแสความสำเร็จของ il Mare ในปี 2000 ซึ่งการที่ผมเลือกไม่ใช้คำว่า รีเมคก็เพราะว่า ตัวละครถูกเปลี่ยนไปมากแบบสลับขั้วกันเลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้อาจจะเพราะความมีเอกลักษณ์ของพี่มะเดียวล่ะมั้ง เพราะตอนแรกที่ได้เห็นทีเซอร์ของหนังเรื่องนี้ผมยังงงๆ เลยว่า ระดับมะเดียว จะมาทำงานรีเมคจริงหรอ? และเมื่อได้ดูผมก็บอกเลยว่าใช้คำว่า “รีเมค” ไม่ได้หรอก

 

 

ผมบอกไว้ตรงนี้ก่อนว่าผมชอบ “รักแห่งสยาม” มาก และหน้าหนังของ “ดิว” ไม่ว่าจะเป็นทีเซอร์ หรือโปสเตอร์ก็เป็นแบบที่ผมสนใจ ทำให้อยากดูเรื่องนี้สุดๆ

ว่ากันด้วยเรื่อง “ดิว ไปด้วยกันนะ” เพียวๆ แบบไม่เคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีมาก่อน
ย้อนกลับไป 23 ปีก่อน หนังเปิดฉากมาด้วยเมืองเล็กๆ ที่โคตรสงบอย่าง “ปางน้อย” ดิว นักเรียนชายที่เพิ่งย้ายมาใหม่ กำลังเดินทางไปโรงเรียนผ่านเมืองที่ไม่มีผู้คนสักคนเดียว และถูกทักโดย “ภพ” พระเอกของเรา ทั้งคู่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่สื่อถึงกันจนสนิทกันอย่างรวดเร็ว แต่ในสมัยนั้นความรักระหว่างเพศเดียวกันถือเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด และยอมรับไม่ได้ในสังคม ทำให้ทั้งคู่จำเป็นต้องจากกันในที่สุด แต่หลังจากนั้น 23 ปีให้หลัง โชคชะตาก็นำให้ ภพ และ ดิว ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช้การกลับมาพบกันแบบธรรมดาๆ ทั่วไป และนั่นก็นำพาเรื่องราวทั้งหมดไปสู่ตอนจบที่อินดี้สุดๆ ดิวไปด้วยกันนะ pantip

สิ่งที่สะดุดตา และเหมือนเป็นลายเซ็นของพี่มะเดียวก็คงเป็นการหา โลเคชั่น, อุปกรณ์ย้อนยุค และการถ่ายภาพที่สวยมากๆ เอาจริงๆ นี่มันงานศิลปะชัดๆ มุมกล้องก็มีมุมแปลกใหม่ให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ และก็อย่างที่หลายๆ คนรู้ว่าต้นเรื่องมาของหนังก็เปิดประเด็น LGBTQ เลย แต่นักแสดงนำทุกคนถือว่าเล่นได้ดีนะ ดูมันค่อนข้างพอดีไม่เยอะไป ไม่น้อยไป ค่อนข้างดูเป็นชายที่ต้องแอบรักชายดี ก่อนดูผมแอบกังวลเรื่องนักแสดงเด็กอยู่เหมือนกัน แต่พอดูแล้วผมว่าผ่าน ทุกคนเลย

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

 

สปอยหนัง วันเลขสวยอย่าง 9.09.2009 มีหนังที่หลายคนคงรอชมอยู่แน่ๆ “5 แพร่ง”(phobia 2) หนังภาคต่อจาก “4 แพร่ง” ที่ฮิตมากเมื่อปีก่อน กระแสหนังผีเป็นตอนๆ มาเรียงร้อยกันแบบนี้ฮิตสร้างกันมาหลายเรื่องแล้วทั้ง อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต,ผีสามบาท แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ จนมาถึง 4 แพร่ง ของค่าย GTH นี่เอง

 

เรื่องย่อ 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง งวดนี้มี 5 ตอนจาก 5 ผู้กำกับชั้นนำของ GTH ผมได้ดูแล้วค่อนข้างชื่นชม และสนุกไม่แพ้ภาคก่อน ตอนแรกกังวลนิดหน่อยว่า เพิ่มมาอีกตอนเวลาน้อยลงจะทำให้ห้วนและไม่สนุก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ยังคงแนวทางจากภาคก่อนไว้อย่างเหนียวแน่นทีเดียว หนังอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เคยขึ้นหน้า1 หนังสือพิมพ์มาเป็นไอเดียในการเขียนเป็นบทหนัง เพราะฉะนั้นความสดใหม่ของเรื่องราวเป็นจุดนึงที่ทำให้ 5 แพร่งน่าติดตามจนแทบต้องกั้นลมหายใจไปด้วยทีเดียว ผมขอไม่เล่าเนื้อเรื่องนะครับอยากให้คนดูไปรับรู้เอาเองไม่งั้นจะเป็น การ spoil ไม่สนุกกันพอดี เริ่มจาก ดูหนังฟรี

หลาวชะโอน
นักแสดงนำ เก้า-จิรายุ ละอองมณี
ผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ยันต์สั่งตาย)
เรื่องนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์ปาหินที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกทีในเวลานี้ มุมที่หนังเล่าผมว่าคงสะใจใครหลายๆคนทีเดียว นับว่าเป็นตอนที่ผมเองก็อยากรู้มากว่าจะลงเอยเช่นไร ข้อดีของหนังสั้นก็คือจับประเด็นสำคัญ ที่ต้องการเล่าและพุ่งเป้าไปที่ตรงนั้น อย่างตอนนี้ เรื่อง “กรรม” เป็นสิ่งที่หนังต้องการจะเล่า และเรื่องเล่านี้ทำได้กระแทกใจคนดูมากทีเดียวเป็นยังไงต้องไปดูกัน รวมๆผมชอบครับห้องเตียงรวม

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

นักแสดงนำ แดน-วรเวช ดานุวงศ์
ผู้กำกับหน้าใหม่ วิสูตร พูลวรลักษณ์
เชื่อไหมครับว่าตอนนี้พอผมทราบว่าใครจะกำกับ ผมนี้เฝ้ารอเลยทีเดียว คุณวิสูตร บอสของค่ายลงมากำกับซะเอง ฝีไม้ลายมือไม่เลวเลยทีเดียวแม้ พล็อตเรื่องจะทำให้นึกถึงหนังฝรั่งอย่าง skelaton key ไปบ้างแต่ก็เล่นเอาคนข้างๆผมที่ไปดูด้วยกระตุกหลายครั้งทีเดียว และเป็นตอนที่เรียกเสียงกรี๊ดในรอบที่ผมไปดูได้เยอะสุดด้วยไม่รู้ว่าเค้า กรี๊ดแดนหรือกรี๊ดหนังกันแน่นะครับ รวมๆก็สนุกไม่เลวแม้จะไม่แปลกใหม่แต่ก็ได้เห็นฝีมือผู้กำกับใหม่(ใหญ่)ที่ น่าติดตามอีกท่านนึง มุมกล้องแปลกๆในตอนเปิดเรื่องและหลายๆช็อตเป็นรายละเอียดที่ผู้กำกับใช้เวลาน้อยแต่เล่า เนื้อเรื่องได้มากอย่างดี ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

นักแสดงนำ แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์
ผู้กำกับ ทรงยศ สุขมากอนันต์ (เด็กหอ)
ผมว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยถ้าได้ดูเรื่องนี้คงไม่ชอบใจนัก เพราะคงทำให้นักท่องเที่ยวคงกลัวที่จะมาเที่ยวบ้านเรา ตอนนี้คือการตั้งคำถามว่า ในตู้คอนเทนเนอร์ นั้นมีอะไรอยู่ ? ตรงกับข่าวอะไรนั้นผมว่าคุณๆคงเดากันได้หนังมีแตะเรื่องการลักลอบเข้าเมืองของบ้านพี่เมืองน้องของไทยด้วยเพื่อจูงเข้าเรื่อง หลักๆตอนนี้ผมว่าผู้กำกับอยากทำอะๆไรที่แหวกพล็อกเรื่อง และ charactor ผีไทยออกไปบ้างโดยการหยิบ “ยาเสพติด” มาเป็นประเด็น ผมดูจบนึกถึงหนังฝรั่งหลายเรื่องทีเดียว แม้จะดูสนุกแต่ถือว่าเป็นตอนที่เนื้อหาจับต้องได้น้อยสุด แม้จะชอบเป็นส่วนตัวจากการแสดงของคุณบุ๋มบิ๋ม ที่แรงดีครับ

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

รถมือสอง
นักแสดงนำ นิโคล เทริโอ
ผู้กำกับ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (เที่ยวบิน 224)
ถ้าตอนที่แล้วจะทำให้การท่องเที่ยวฯ เค้าค้อนเอาให้ สำหรับตอนนี้ ผู้กำกับคงเดินเข้าเต๊นท์รถมือสองไม่ได้แน่ๆ เพราะเล่นเอาไอเดีย(ความจริง) มาบอกชาวบ้านเค้าหมดเลย แล้วนี้จะมีใครกล้าซื้อรถมือ 2 อีกไหม ประเด็นของตอนนี้เล่นกับการ “การโกหก หลองลวงและความซื่อสัตย์” นิโคลเล่นดีครับ plot เรื่องว่ากันตรงๆ เดาจุดจบได้ไม่ยากจะเป็นอย่างไร การใช้มุมกล้องล่อหลอกคนดู รวมถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดทำให้ผมค่อนข้างอินกับตอนนี้มาก นับเป็นอีกตอนที่เล่นเอากระอักกระอ่วนกับบทสรุปของหนังได้ไม่แพ้ตอนแรกเลยทีเดียว

 

เรื่องที่ 5 ของหนัง 5 แพร่ง

คนกอง
นักแสดงนำ มาช่า วัฒนพานิช
ผู้กำกับ บรรจง ปิสัญธนะกูล (คนกลาง)
ตอนสุดท้าย ต้องบอกว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เป็นตอนที่ผ่อนให้คนดูถอนหายใจได้ยาวๆ นอกจากเรียกเสียงกรี๊ดในโรงมาหลายตอนแล้วเป็นหนังซ้อนหนังอีกที สมกับเป็นตอนจบปิดท้ายของหนังที่ทำให้คนดูเดินออกจากโรงได้อย่างสบายใจ การนำนักแสดงทั้งสี่จากตอน “คนกลาง” ใน 4 แพร่งกลับมา ไอเดียดีจนทำให้ผมคิดว่า คุณบรรจงผู้กำกับ น่าจะทำหนังใหญ่ที่แยกตัวออกมาทำเองกำกับเอง ทั้งเรื่องได้แล้วหลังจากเป็นผู้กำกับร่วมทั้ง shutterและแฝด ร่วมกันจนฮิตมาแล้ว ผมคนนึงล่ะที่จะขอตามไปดูเลยทีเดียว ประเด็นเรื่อง “ความรับผิดชอบ” และสำนวนที่ว่า the show must go on แท้ๆทำให้มุขที่สอดแทรกเข้ามาตลอด กับการเล่นเอาล่อเอาเถิดกับคนดู แพรวพราวมาก ขอปรมมือให้ดังๆเลยทีเดียว และช๊อคมากกับบทบาทของ มาช่าที่ปล่อยกันเต็มที่เลยทีเดียว ขอปรมมือให้ดังๆเลยครับ โดยเฉพาะมุขในห้องน้ำนี่เล่นเอาผมอึ้ง ทึ่ง เสียวเลยทีเดียว ไม่นึกว่าทั้งผู้กำกับและมาช่าจะกล้าเล่นมุขนี้ ชูนิ้วโป้งสองนิ้วให้เลย ที่สำคัญผมคิดเล่นๆนะครับถ้าจะแยกนักแสดงทั้งสี่มาทำเป็นซี่รีย์ ซักชุดน่าจะมันดีครับ ทุกคนเล่นดีรับส่งมุขกันน่าดู สนุกมาก อยากดูอีกคร้าบบบคุณบรรจง

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

สรุปภาพรวมของภาคนี้มีดีจนน่าติดตามครับ ทั้งประเด็นต่างๆของหนังที่สอดแทรกลงไป น่าจะทำให้วัยรุ่นอันเป็นกลุ่มหลักของหนังน่าจะฉุกคิดได้บ้างอย่างน้อยก็ทำให้เรื่อง บาปบุญคุณโทษไม่ใช่ของเชยที่หลุดยุคนี้ไปได้

 

ความประทับใจหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง ล่าสุดได้ข่าวมาว่าหนังทำรายได้วันแรกทุบสถิติหนังผีทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่นางนากได้สำเร็จหนังทำเงินแน่ๆแต่ทำได้เท่าไหร่และจะทุบสถิติภาคแรกได้ไหมคงต้องรอดูผลกันอีกในสุดสัปดาห์นี้ก็ทราบและพยากรณ์กันได้แล้วครับ
ไปชมกันครับ สนุกและมีดีอย่างที่บอกครับ
บทเรียนสอนใจได้ดี มีมุมสะเทือนใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ทีเดียว

โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล สร้างความประทับใจ “คนกลาง” ในภาคก่อนด้วยความน่ากลัวบวกความฮา มาในภาคนี้ก็ไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวังอย่างเคย เพียงแต่สิ่งที่อาจจะทำได้ไม่เท่า “คนกลาง” ก็คงจะเป็นที่ “คนกอง” ดูจะไม่น่าสะพรึงกลัวสักเท่าไหร่ หากเน้นไปที่ความฮาเสียมากกว่า สังเกตได้จากเสียงหัวเราะลั่นโรง เมื่อได้ทีมนักแสดงกลุ่มเดิมที่มากันอย่างครบถ้วน พร้อมตัวชูโรงตัวใหม่ กับการล้อเลียนหนังผีอีกหน โดยเฉพาะ “แฝด” ที่ มาช่า วัฒนพานิช คนเดิมเคยฝากความทรงจำเอาไว้ เรื่องราวในฉากหนึ่งของการถ่ายทำหนังผี ที่น้องคนนั้นที่เล่นเป็นผี เธอเกิดตายระหว่างถ่าย แต่ห่วงว่างานแสดงครั้งแรกของเธอจะไม่ลุล่วง จึงกลับมาป่วนกองถ่ายอีกครั้ง แพร่งนี้ คุณจะได้พบกับมาช่าในมุมที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหน
ความเห็นนี้ อาจจะไม่ตรงกับบางคนได้ อย่าว่ากันเลยนะ
ฉากที่ดูร้ายแรงที่สุด คงเป็นตอนจบของมัน ที่บ่งบอกอะไรบางอย่างได้ดี

 

 

ผมยอมรับว่า ประทับใจกับหลายแพร่งในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่แพร่งที่ดูจะได้ใจจากผมไปน้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็น “ห้องเตียงรวม” ของผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เลือก แดน วรเวช ดานุวงศ์ มารับบทหนังส่วนใหญ่เอาไว้เกือบจะคนเดียว กับเรื่องราวของ ตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาเรียกร้องห้องเดี่ยวแต่กลับต้องมาอยู่ร่วมห้องกับชายแก่ที่รอวันถอดเครื่องช่วยหายใจ การดำเนินเรื่องทำได้ดีในการสร้างความน่ากลัว แต่กลับสอบตกเรื่องการอธิบายที่มาที่ไป และไม่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการสื่อ
เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของมาช่าจริงๆ

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สลัดภาพจากแฟนฉัน และเด็กหอ โตขึ้นเป็นหนุ่มบนรถบรรทุก ที่รับสองหนุ่มสาว “Backpackers” ชาวญี่ปุ่นนักโบกขึ้นร่วมทาง ก่อนที่จะได้เห็นว่าอะไรที่เขาขนมา จากหนังตัวอย่าง เราคงได้เห็นภาพคล้ายซอมบี้วิ่งตามไล่ล่ารถบรรทุกคันนั้น ในแพร่งนี้ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ เปิดเผยที่มาที่ไปของพวกมัน เขาหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้าควบรวมจนกลายเป็นหนังซอมบี้ขึ้นมา หนังมีที่มาที่ไปอยู่พอควร แต่อาจจะไม่ทำให้บางคนเข้าใจมากนัก อันนี้ มันเป็นสไตล์ ซอมบี้ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้จากหนังผีไทยนัก แต่มันถูกนำมาใช้เพื่ออธิบาย “ความบ้า” ของบางสิ่งหรือเปล่า

 

 

โดยรวม ผมประทับใจตรงแง่มุมของหลายแพร่งที่ผู้กำกับพยายามนำเสนอ โดยส่วนตัว ผมไม่ได้กลัวผีในแต่ละแพร่งแต่อย่างใด แต่ผมรู้สึกสนุกดีที่เห็นคนข้างๆ ผมรู้สึกกลัวภาพบนจอยักษ์ และเห็นคนอีกข้างก็ดูจะกลัวเอามากเช่นกัน เห็นปิดหน้าปิดตาใหญ่เชียว มุกตกใจถูกนำมาใช้ไม่บ่อยนัก ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่มันทำให้ผมสะดุ้งได้ในจังหวะที่เขาอยากให้ผมสะดุ้ง แต่ละเรื่อง ผมรู้สึกถึงจุดร่วมที่พูดถึง “เหตุบนท้องถนน” ทั้งการปาหินเข้าใส่รถ ความประมาทที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ การขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย ธุรกิจที่มาหากินกับสมบัติของคนตาย ส่วนอีกแพร่งที่ดูเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ก็ยังมีฉากอุบัติเหตุบนท้องถนน ผมไม่มีปัญหากับการเรียงเรื่อง เรียงแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว คนดูอื่นๆ ก็น่าจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

 

สปอยหนัง หากคุณอยากกลับไปนึกถึงคนแรกที่ทำให้คุณได้รู้จักคำว่า “รัก” อีกครั้งและเขาก็ยังคงเป็นรักแรกที่ติดตรึงอยู่ในหัวใจคุณตลอดเวลา มาวันนี้เรามีหนังที่จะพาคุณย้อนเวลาไปสู่ชีวิตวัยมัธยมซึ่งมีแต่ความสนุกสนาน มิตรภาพ เสียงหัวเราะ และน้ำตาอีกครั้งกับหนัง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” หนังไทยnetflix

ซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักกันดี ยิ่งใครอยู่มัธยมตอนที่หนังเรื่องนี้เพิ่งออกมาก็คงจะยิ่งติดใจจนดูซ้ำหลายรอบแน่นอน หนึ่งในนั้นก็คือเราค่ะ เพราะเรื่องนี้เลยทำให้เรารู้จักกับคำว่า “รักแรก” เหมือนกันเรื่องย่อของหนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก
หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “น้ำ”เด็กมัธยมหน้าตาขี้เหร่ถึงขั้นถูกเรียกว่า “ปลวก” เพราะไม่ค่อยสนใจดูแลตัวเองซึ่งน้ำได้ไปตกหลุมรัก “พี่โชน” รุ่นพี่ที่เป็นหนุ่มหล่อประจำโรงเรียน แต่เพราะมีคู่แข่งมากมาย
เธอจึงต้องลบคำสบประสามและทำให้เขาหันมาสนใจเธอให้ได้ ภารกิจแปลงโฉมจากปลวกน้อยให้กลายเป็นหงส์จึงเริ่มขึ้นท่ามกลางมิตรภาพของเพื่อนและความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟที่มีแววจะปั่นป่วนมากกว่าที่คิด ดูหนังออนไลน์

 

เนื้อเรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการตกหลุมรักรุ่นพี่ของน้ำ ซึ่งพี่โชนคนนี้ก็เป็นหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน แต่น้ำก็ไม่กล้าบอกกับพี่โชนไปตรง ๆ ว่าแอบรัก ก็ได้แต่ทำทุกวิถีทางให้พี่โชนสนใจในตัวเธอ สาวน้อยตัวดำ ๆ ก็ได้พวกเพื่อน ๆ ที่รู้มาโดยตลอดว่าแอบรักรุ่นพี่คนนี้มานานแล้ว ช่วยกันหลาย ๆ วิธีเพื่อที่ให้เพื่อนรักได้สมหวัง เริ่มจากการช่วยขัดสีฉวีวรรณเนื้อตัวให้ดูดีขึ้น สวยขึ้น แล้วไปสมัครเข้าชมรมการแสดง ไปเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ตั้งใจเรียน จนในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นสาวฮอตของโรงเรียน

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

จุดพีคมันอยู่ที่พี่โชนก็แอบหลงรักน้ำมานานแล้วเหมือนกัน แอบชอบตั้งแต่ตอนที่น้องน้ำยังมีหน้าตาขี้เหร่ และพี่โชนก็แอบตามถ่ายรูปเก็บและจดบันทึกไว้เป็นอัลบั้มเลย (แอบเขิน แอบมโนว่าตัวเองเป็นน้ำ) แต่สิ่งที่ทำให้พี่โชนกับน้ำไม่ได้เป็นแฟนกันสักที ก็เพราะว่าเพื่อนรักของพี่โชนที่ชื่อท็อปก็ดันตัดหน้าขอน้ำเป็นแฟนไปซะก่อน แถมทั้งสองก็เคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่เอาแฟนเก่าของเพื่อนมาเป็นแฟนของตัวเองเด็ดขาด (อิหยั่งว่ะ) จนวันที่น้ำตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกรักพี่โชนในวันที่พี่โชนจบการศึกษา ในวันนั้นเองที่ทำให้น้ำของเราต้องเศร้าใจอย่างหนัก เพราะพี่โชนได้ตกลงคบกันกับปิ่น ที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่นเอง แต่ลึกๆ แล้วเราก็ดูออกแหละ ว่าพี่โชนยังรักน้ำอยู่สิ่งเล็กๆ ดูหนังฟรี

 

ความน่าสนใจของหนัง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก มีความน่าสนใจตรงที่มีการถ่ายทอดให้เห็นถึงบุคลิกและชีวิตของตัวละครวัยมัธยมหลายตัวที่มีความเป็นธรรมชาติทำให้เรานึกถึงชีวิตของตัวเองในวัยมัธยมซึ่งมีโมเม้นต์หลายอย่างแบบนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแอบรักใครสักคน การคบหากับกลุ่มเพื่อนที่มีความเหมือนกันแม้จะไม่ใช่เพื่อนที่มีอะไรโดดเด่นแต่ก็ร่วมเป็นร่วมตายได้ตลอด

บทจะกรี๊ดรุ่นพี่ผู้ชายก็จะดี๊ด๊าเหมือนกันเป็นกลุ่มแบบสุมหัวเงียบ ๆ เพื่อนกันบางทีเราอยากทำอะไรก็มีอายเพราะกลัวโดนล้อ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้ช่วยเราเหมือนกับเพื่อนในกลุ่มที่ช่วยน้ำแปลงโฉมและใช้วิธีให้ของแทนใจแก่พี่โชนต่าง ๆ พยายามเข้าชมรมที่ทำให้มีคนสนใจซึ่งก็ได้เป็นชมรมละครเวทีที่น้ำในแสดงเป็นสโนไวท์

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

บอกเลยว่าฉากนี้เราฟินจิกหมอนตอนพี่โชนผู้น่ารักต้องมารับบทเจ้าชายจำเป็นและจูบลง สมองนี่คิดไปไกลก่อนนางเอกแล้วจ้า ตั้งแต่นั้นนางเอกก็เริ่มหน้าตาดีมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนซึ่งพี่โชนก็เริ่มจะเข้าหาเธอมากขึ้น แต่กับมีมารผจญคือเพื่อนพระเอกที่มาชอบนางเอกนี่ล่ะ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ดูได้ทางไหน

เราเสียน้ำตาให้กับฉากท้ายๆ หลายฉากมากไม่ว่าจะเป็นฉากที่นางเอกซึ่งห่างเหินจากเพื่อนๆ เพราะเอาแต่อยู่กับพวกพระเอกไปง้อจนกอดคอกันร้องเพลงวัน เดือน ปี และฉากที่นางเอกร้องไห้เปิดไดอารี่ซึ่งพระเอกเอามาให้ ในนั้นมีแต่รูปนางเอกทีเผลอที่พี่โชนแอบถ่ายไว้หลายรูปพร้อมข้อความบอกความในใจมากมายทำให้เราได้รู้ว่าพระเอกชอบนางเอกตั้งแต่ตอนหน้าปลวกแล้ว คือหน่วงมาก ณ จุดนี้ แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการค่ะ

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักทำให้เราได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพความรักของการเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างกันและกัน แม้ว่าเราจะทำตัวอย่างไรสายใยระหว่างเพื่อนก็ไม่สามารถตัดได้ขาด และในมุมมองของความรัก สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวตนจนบรรลุเป้าหมายให้อยู่ในสายตาเขามากแค่ไหน แต่เขาก็รักที่คุณเป็นตัวของคุณที่นิสัยด้วยนะ

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

หากอยากให้เขาอยู่ในสายตา วิธีที่สุดคือ เราอาจจะเข้าหาเขา คอยช่วยเหลือ ให้เขารู้จักเรามากขึ้นและเมื่อเริ่มสนิทแล้วจึงค่อยบอกความในใจไป แม้จะเร็วแต่ก็ดีกว่าเราบอกช้าจนถูกคนอื่นแซงหน้านะ
หนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งรับบทเป็น ” น้ำ ” กับ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ” พี่โชน ” ทั้งสองคนมีผลงานการแสดงก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วมากมาย แต่การรับบทบาทในหนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงและจดจำทั้งสองคนไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศจีนถึงขั้นคลั่งไคล้พี่โชนอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนิดที่ว่าต้องรู้จักพี่โชนกันแทบทุกคน และเมื่อปี 2562 ประเทศจีนก็ได้ทำภาพยนตร์ซึ่งมีเค้าโครงมาจากหนังเรื่องนี้โดยให้ชื่อว่า ” A Little Thing Called First Love ” มาริโอ้จึงกลายเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ ตราบจนทุกวันนี้ และใบเฟิร์นเองก็ยังแสดงได้น่ารักและสมบทบาทในภาพยนตร์อีกด้วย สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก จีน wetv

 

สรุปและให้คะแนน สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว หนังเรื่องนี้ฉายในปี 2553 ซึ่งถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ทุกครั้งที่ได้กลับมาดู ก็ยังสามารถทำให้หัวใจของเราพองโตได้เสมอ ไม่เพียงแค่สื่อถึงความรักใสใสในวัยเรียนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของความรักของเพื่อนแทรกเข้ามาให้รับรู้ และให้รู้สึกถึงความรักความผูกพัน ความหวังดีที่เพื่อนมีให้ต่อกัน ดูกี่ครั้งก็ยังแอบน้ำตาซึมได้กับฉากเดิม ๆ ตัวละครในเรื่องมีความลงตัวมาก ๆ ทั้งนักแสดงนำ พระเอก นางเอก ดูแล้วฟินตาม ส่วนตัวประกอบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพ้องเพื่อนของน้ำ ที่ดูบ้าน ๆ มีความน่ารัก ตลก ฮา ๆ แบบเป็นธรรมชาติ ซึ่งตั้งใจทำให้ต่างกับกลุ่มนักเรียนอีกกลุ่มที่มีแต่คนสวย ๆ เด่น ๆ ให้เห็นถึงความแตกต่างกันไปเลย กลุ่มตัวละครเสริมอีกกลุ่มก็คือเหล่าคณะครูอาจารย์ ที่ได้ตุ๊กกี้มาร่วมทีมสร้างความตลกให้ภาพยนตร์ได้มีเสียงหัวเราะอีกด้วย

เราให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 10/10 ไปเลย เพราะหนังสามารถย้อนกลับไปดูและยังทำให้เราอินกับตัวละครได้ไม่เบื่อ ทุกครั้งที่ดูก็ยิ่งทำให้เรานึกถึงตอนที่แอบชอบรุ่นพี่เมื่อครั้งที่เรายังเรียนอยู่มอต้น สปอยให้ฟังขนาดนี้แล้ว ใครที่ยังไม่เคยดูก็ควรไปหามาดูแก้เครียดนะคะ เผื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตอน 14 อีกครั้ง สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก ตอนที่ 1

 

 

บอกเลยว่าฉากนี้เราฟินจิกหมอนตอนพี่โชนผู้น่ารักต้องมารับบทเจ้าชายจำเป็นและจูบลง สมองนี่คิดไปไกลก่อนนางเอกแล้วจ้า ตั้งแต่นั้นนางเอกก็เริ่มหน้าตาดีมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนซึ่งพี่โชนก็เริ่มจะเข้าหาเธอมากขึ้น แต่กับมีมารผจญคือเพื่อนพระเอกที่มาชอบนางเอกนี่ล่ะ

เราเสียน้ำตาให้กับฉากท้าย ๆ หลายฉากมากไม่ว่าจะเป็นฉากที่นางเอกซึ่งห่างเหินจากเพื่อน ๆ เพราะเอาแต่อยู่กับพวกพระเอกไปง้อจนกอดคอกันร้องเพลงวัน เดือน ปี และฉากที่นางเอกร้องไห้เปิดไดอารี่ซึ่งพระเอกเอามาให้ ในนั้นมีแต่รูปนางเอกทีเผลอที่พี่โชนแอบถ่ายไว้หลายรูปพร้อมข้อความบอกความในใจมากมายทำให้เราได้รู้ว่าพระเอกชอบนางเอกตั้งแต่ตอนหน้าปลวกแล้ว คือหน่วงมาก ณ จุดนี้ แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการค่ะ
หนังเล่าเรื่องผ่านมุมมองของน้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) หญิงสาวหน้าปลวก (คำที่ใช้ในหนัง) เธอแอบชอบหนุ่มฮ็อตของโรงเรียนอย่างพี่โชน (มาริโอ เมาเร่อ) โดยตลอดทั้ง 3 ปีที่พี่โชนและน้ำเรียนอยู่ที่เดียวกัน เธอทำทุกอย่างเพื่อให้พี่โชนหันมาสนใจเธอ เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทั้งหน้าตาและการเรียน การยอมรับตำแหน่งสุดหินอย่างดรัมเมเยอร์ และทำอะไรหลายอย่างเพื่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัว และสุดท้าย เธอก็ได้บทเรียนเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อน ชีวิต ความรัก ครอบครัว และการไล่ตามความฝันของตัวเอง

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

ชมรมคนต่อต้านหนังฟีลกู้ดฟีลเลี่ยนทั้งหลายอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เพราะตัวหนังจริงๆ ทำได้ลงตัวและสนุกกว่าที่ผมเล่าให้ฟังในบรรทัดที่แล้วซะอีก การที่ผมซึ่งไม่ชอบหนังสไตล์ฟีลกู้ดแต่สนุกไปกับหนังเรื่องนี้นั้น ตอนแรกผมคิดว่า เป็นเพราะความ Pure และความสมจริงของหนัง แต่พอผมดูหนังเรื่องนี้รอบที่สอง ผมก็ได้ฉุกคิดว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้เพียวหรือสมจริงขนาดนั้น แต่หนังมันมีจุดเด่นตรงที่หนังสามารถกลบความ fantasy เอาไว้ได้อย่างพอเหมาะ จนคนดูหลับตาให้กับความ fantasy และความไม่สมจริงในหนังเรื่องนี้ได้อย่างสะดวกใจ หรืออีกนัยหนึ่งคือ หนังสามารถทรงตัวอยู่บนเส้นด้ายบางๆ ที่คั่นระหว่าง reality และ fantasy ได้อย่างน่าชื่นชม

หากพูดแบบหยาบๆ ก็คือ หนังเรื่อง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ก็คือ “ซินเดอเรลล่า” ที่ถูก ดัดแปลงให้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง ซึ่งถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คงต้องยกตัวอย่างหนังเรื่อง Ever After (1998, แอนดี้ เทนแนนท์) ซึ่งเป็นหนัง ”ซินเดอเรลล่า” ที่ลดโทนเทพนิยาย (นางฟ้า, แม่มดใจร้าย, รถฟักทอง) ลงไป เหลือแต่ฉากหลังในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวความคิดที่แฝงอยู่ใน Ever After ยังคงเป็น fantasy อยู่ดี ทั้งการที่นางเอกได้เลื่อนชนชั้นไปเป็นคู่รักของเจ้าชายได้อย่างรวดเร็วหรือ อุปสรรคในเรื่องถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย จนถึงแม้องค์ประกอบหนังจะถูกทำให้เป็น reality โคตรๆ ขนาดไหนก็ไม่ทำให้หนังดู real ขึ้นมาในภาพรวมได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับ Memories of Matsuko (2006, เท็ตซึยะ นาคาชิมะ) ซึ่งถึงแม้ภาพในหนังจะโอเว่อร์เหนือจริงขนาดไหน แต่ด้วยโทนเรื่องหลักก็ได้ทำให้ Memories of Matsuko กลายเป็นหนังสะท้อนชีวิตจริงได้อย่างน่าขนลุก!

 

 

หนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งรับบทเป็น ” น้ำ ” กับ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ” พี่โชน ” ทั้งสองคนมีผลงานการแสดงก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วมากมาย แต่การรับบทบาทในหนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงและจดจำทั้งสองคนไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศจีนถึงขั้นคลั่งไคล้พี่โชนอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนิดที่ว่าต้องรู้จักพี่โชนกันแทบทุกคน และเมื่อปี 2562 ประเทศจีนก็ได้ทำภาพยนตร์ซึ่งมีเค้าโครงมาจากหนังเรื่องนี้โดยให้ชื่อว่า ” A Little Thing Called First Love ” มาริโอ้จึงกลายเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ ตราบจนทุกวันนี้ และใบเฟิร์นเองก็ยังแสดงได้น่ารักและสมบทบาทในภาพยนตร์อีกด้วย สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักเต็มเรื่อง movie2free

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

 

ประเภท: ดราม่าผู้กำกับ: นัฐวุฒิ พูนพิริยะ หนังไทยnetflix

นำแสดงโดย: ธนภพ ลีรัตนขจร, ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์, วิโอเลต วอเทียร์

ความยาว: 136 นาที

กำหนดฉายในไทย: 10 กุมภาพันธ์ 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

สปอยหนัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ เชื่อว่าบางคนอาจจะมีอาการคล้ายกัน หลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้จบลงไป แม้ว่าตัวจะลุกเดินออกไปจากโรงหนังแล้ว แต่ข้างในหัวของเรายังคงวนเวียนอยู่กับสารที่หนังได้หยิบยื่นเอาไว้ให้อยู่เลย เพราะนี่คือ “One for the Road” (วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ) หนังสัญชาติไทยที่ผสมผสานความอินเตอร์ และประสบความสำเร็จด้วยดีตามเทศกาลหนังต่างประเทศ และกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีชชิ้นล่าสุดของผู้กำกับหนุ่ม “บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” ที่สามารถพูดได้ดังๆ เลยว่า เขาอนาคตไปอีกได้ไกลแน่นอน

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

เชื่อว่าบางคนอาจจะมีอาการคล้ายกัน หลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้จบลงไป แม้ว่าตัวจะลุกเดินออกไปจากโรงหนังแล้ว แต่ข้างในหัวของเรายังคงวนเวียนอยู่กับสารที่หนังได้หยิบยื่นเอาไว้ให้อยู่เลย เพราะนี่คือ “One for the Road” (วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ) หนังสัญชาติไทยที่ผสมผสานความอินเตอร์ และประสบความสำเร็จด้วยดีตามเทศกาลหนังต่างประเทศ และกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีชชิ้นล่าสุดของผู้กำกับหนุ่ม “บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” ที่สามารถพูดได้ดังๆ เลยว่า เขาอนาคตไปอีกได้ไกลแน่นอน ดูหนังออนไลน์ดูหนังฟรี

 

เรื่องราว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

เป็นเรื่องราวของ บอส หนุ่มนักธุรกิจที่ย้ายภูมิลำเนาจากบ้านเกิด มาเปิดกิจการบาร์ในมหานครนิวยอร์ก เขาได้ตัดสินใจย้อนเส้นทางกลับไปยังเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อพบกับ อู๊ด เพื่อนที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน นับว่าเป็นการพบเจอกันครั้งแรกในรอบหลายปีที่ห่างเหินกันไป พวกเขาร่วมกันออกเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อนึกย้อนและระลึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา เนื่องจากอู๊ดกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลามและเหลือเวลาอีกเพียงไม่มากแล้ว
คือแค่ฟังจากพล็อตเรื่องก็น่าจะพอเดาทางออกได้ว่าน่าจะมาแนวไหน ก็คงหนีไม่พ้นหนังแนวโร้ดทริปเพื่อกลับไปทบทวนเรื่องราวอดีตที่ผ่านมา พล็อตแบบนี้แน่นอนว่าไม่ค่อยหวือหวาอะไร แต่กลับ One for the Road ได้ใช้กิมมิกในการเล่าเรื่องที่มีเทคนิคชั้นเชิงเข้ามาช่วยส่งเสริม จึงพัฒนาให้หนังโร้ดทริปย้อนทางกลับไปหาแฟนเก่าเรื่องนี้ กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเรื่องเล่าสะกิดใจไปได้ทุกหลักกิโลเมตรของตัวละครที่พานพบมา วันสุดท้ายก่อนบายเธอ pantip

 

บทภาพยนต์ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ในส่วนของบทภาพยนตร์ของ One for the Road อาจจะไม่ได้ถึงขั้นดีเลิศสมบูรณ์แบบอะไร เพราะหลายๆ มุมก็ยังคงแฝงด้วยสูตรสำเร็จง่ายๆ ที่เข้าถึงคนดูได้ไม่ยาก แต่ลูกเล่นในการเล่าเรื่องและไดอะล็อกต่างๆ ที่ถูกวางเอาไว้อย่างบรรจงตลอดทั้งเรื่องนี้ ถูกปรุงออกมาเป็นสูตรที่กลมกล่อมและคมคาย โดยน่าจะแบ่งหนังออกได้เป็น 2 องก์หลักๆ ในขณะที่องก์แรกคือโร้ดทริปไปตามรายทาง องค์สองก็คือความบอบช้ำจากผลแห่งการกระทำทั้งหมด

ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้สร้างมิติให้กับตัวละครในทุกๆ ตัวเลยก็ว่าได้ จึงทำให้ทุกคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้มีมุมมองและเหตุผลในตัวเองเป็นอย่างดี เหตุและผลที่ไม่จำเป็นจะต้องเล่าออกมาเป็นภาพเพื่อขยายความ แต่ใช้ความรู้สึกของตัวละครนี่แหละ เป็นตัวขยายความในตัวของมันเองโดยอัตโนมัติ และนี่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ค่อนข้างดีในหนังเรื่องนี้ และถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างแข็งแรง สามารถประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้สบายๆ

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

ในขณะที่องค์ประกอบของนักแสดงนั้น คงจะต้องลุกปรบมือให้เลย เพราะแคสติ้งของหนังเรื่องนี้เลือกมาได้เป็นอย่างดีทุกตัวละคร “ต่อ ธนภพ” กับ “ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์” เป็นนักแสดงนำคู่ที่ช่วยกันประคองหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างสบายๆ การแสดงในระดับมืออาชีพของทั้งคู่ต้องยกนิ้วให้เลย เพราะทุกอย่างถ่ายทอดออกมาเป็นธรรมชาติ เล่นน้อยแต่อินเนอร์ออกมาเพียบ ซีนอารมณ์ต่างๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีแบบไม่มีใครยอมใคร
แต่อาจจะเทใจให้กับไอซ์ซึไปเล็กน้อย เพราะนี่คืออีกหนึ่งผลงานการแสดงที่ดีของเขาเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เพียงการทรานสฟอรม์ร่างกายตัวเอง เพื่อสวมบทบาทผู้ป่วยโรคร้ายจริงๆ กับการลดน้ำหนักแบบสุดขั้ว แต่อินเนอร์และการยั้งเข้าถึงบทบาทอารมณ์ของตัวละครก็ถือว่าแทบจะแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้เลย และเขาผู้นี้ก็น่าจะไม่พลาดที่จะได้เข้าชิงรางวัลทางการแสดงต่างๆ อย่างแน่นอน และคาดว่าน่าจะได้รางวัลติดมือด้วยซ้ำ

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

นอกจากนี้ 2 หนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นตัวนำเรื่องแล้ว บรรดาสาวๆ ที่เป็นองค์ประกอบแฟนส์เก่านั้น ก็ถือว่าทำได้ดีไม่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “พลอย หอวัง” ที่เฉิดฉายจากหนังเรื่องนี้แบบเซอร์ไพรส์ “ออกแบบ ชุติมณฑน์” ที่ให้การแสดงน้อยแต่มากได้ดี เช่นเดียวกับ “นุ่น ศิรพันธ์” ที่ไม่ต้องพูดอะไรมากเธอคนนี้อินเนอร์นักแสดงมาเต็ม และยังมี “วี วิโอเลต” ที่เป็นคนที่ไม่สามารถละสายตาไปได้ หนังเรื่องนี้ขับเสน่ห์และเทคนิคการแสดงของวีออกมาได้อย่างดี ยิ่งซีนอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเรียลจัดๆ ต้องปรบมือให้เธอเลย วันสุดท้ายก่อนบายเธอ 037

เราน่าจะทราบว่า “หว่องกาไว” ปรมาจารย์นักสร้างหนังระดับเอเชีย มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับหนังเรื่องนี้ และแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้จึงได้รับอิทธิพลความหว่องเข้ามาแทรกเสริมอยู่ประปราย แต่ก็ไม่ใช่เป็นการคัดลอกสูตรกันมา เพราะหนังเรื่องนี้เองก็ยังมีความเป็น บาส นัฐวุฒิ ผู้กำกับของหนังเองอยู่ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน และต้องบอกเลยว่านี่น่าจะเป็นหนังที่สร้างมาจากตัวตนและสิ่งที่ผู้กำกับอยากจะถ่ายทอดออกมาจริงๆ ด้วยซ้ำ

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ netflix ยังโดดเด่นเรื่องโปรดักชั่นดีไซน์ ที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างจากหนังไทยทั่วๆ ไปอย่างแจ่มแจ้ง การออกแบบฉากและจัดวางแสงสีต่างๆ สัมผัสได้ถึงความละเอียดและละเมียดละไมที่เป็นการถ่ายทอดที่ทำออกมาได้บิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ดี กลายเป็นกำไรของคนดูที่ได้เห็นหนังไทยสไตล์อินเตอร์แบบเรียลๆ ที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติองค์ประกอบแวดล้อมต่างๆ แทบจะทุกอณู และอีกสิ่งที่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดีไม่น้อยหน้าองค์ประกอบอื่นๆ

จนต้องหยิบเอามาชื่นชมก็คือ เทคนิคการแต่งหน้าในหนัง แม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบเล็กน้อยที่ส่วนใหญ่ผู้ชมไม่ค่อยให้ความสำเร็จกันสักเท่าไหร่ แต่หากว่าพินิจดูรายละเอียดจริงๆ แล้ว เทคนิคการแต่งหน้าให้กับนักแสดงเรื่องนี้เต็มไปด้วยกิมมิกที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวเป็นอีกนัยได้อย่างสมบูรณ์ มีการลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนดูอาจจะไม่ทันได้สังเกตเข้ามาใส่ไว้ ทั้งรอยสิวหรือรอยย่นบนใบหน้า เป็นสิ่งที่ช่วยแยกไทม์ไลน์ในการเล่าเรื่องได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

คงต้องบอกว่า One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ก็น่าจะเป็นหนังที่ บาส นัฐวุฒิ ได้มีอิสระในการเล่าเรื่องในสิ่งที่ตัวเองอย่างเล่าอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น หนังเรื่องนี้มีความเป็นส่วนตัวสำหรับเขาค่อนข้างมาก เป็นมุมมองที่สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างประเทศกับเรื่องราวดราม่าในชีวิต ที่ได้แรงบันดาลใจตัวผู้สร้างเองแท้ๆ และนี่จึงเป็นจุดที่ทำให้หนังเล่าเรื่องออกมาได้อย่างมีจังหวะ
กับเรื่องเล่าที่เล่าผ่านมุมมองของ แก้วเหล้า แก้วค็อกเทล ทุกๆ แก้วที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในตัวเอง รสชาติแต่ละแก้วแตกต่างกัน ก็เหมือนกับชีวิตในช่วงที่ผ่านๆ ต่างก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นหนังที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบดีเลิศที่ดีสุด แต่หลายๆ องค์ประกอบก็ถือว่าช่วยยกระดับความเป็นหนังไทยได้ดีขึ้นอีกเป็นกอง และเชื่อเหลือเกินว่า บาส นัฐวุฒิ ผู้กำกับชาวไทยผู้นี้ อนาคตยังไปต่อได้อีกไกลและน่าจะยิ่งใหญ่ได้ยิ่งกว่านี้

 

มีให้ดูแล้ววันนี้ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (อังกฤษ: One for the Road) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า ผลิตโดย เจ็ตโทน คอนเทนต์ส บล็อกทู ดิสทริบิวชัน และเฮาส์ตัน สตูดิโอ ของ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ อำนวยการสร้างโดย หว่อง ก๊า ไหว่ และจัดจำหน่ายโดย เจ็ตโทน คอนเทนต์ส โดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า เป็นผู้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร และ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ตัวภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานตัดสินใจออกเดินทางด้วยรถยนต์ด้วยกันเพื่อตามหาเพื่อนเก่าเพื่อคืนของสำคัญและบอกลากันก่อนจากไป

 

 

การฉาย ในส่วนของประเทศไทย ภาพยนตร์มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการผ่านการเปิดตัวโครงการใหม่ของจีดีเอช ห้าห้าเก้า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า ประกาศเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจาก เจ็ตโทน คอนเทนต์ส ก่อนเปิดเผยวันเข้าฉายอย่างเป็นทางการคือ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ผ่านมิวสิกวิดีโอ “Nobody knows” ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พร้อมทั้งปล่อยใบปิดภาพยนตร์ และตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ก่อนมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2565 ณ บ้านหับโห้หิ้น บางกอก ถนนสุขุมวิท และมีรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ออกฉายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 วันสุดท้ายก่อนบายเธอออนไลน์

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

 

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: วัชรพงษ์ ปัทมะ, เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์
นำแสดงโดย: เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน, มาชิดา สุทธิกุลพานิช, ภูวรักษ์ คำสิงห์
ความยาว: 97 นาที
กำหนดฉายในไทย: 31 มีนาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

 

เนื้อเรื่องย่อ แดงพระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง เรื่องย่อ: เรื่องเล่าจากทุ่งพระโขนงที่ยังไม่เคยถูกพูดถึงกับลูกชายของนางนากอย่าง ไอ้แดง ความหลอน ความน่ากลัว และเสียงหัวเราะ กำลังจะนำมาซึ่งความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน มิตรภาพแห่งวัยเยาว์ที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาขวางกั้น
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจหลายประการสำหรับการรับชม ‘แดง พระโขนง’ ผลงานหนังยาวเรื่องแรกของ แจ็ค แฟนฉัน หรือ เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ ที่จับมือกำกับร่วมกับเพื่อนอย่าง เอ็กซ์ วัชรพงษ์ ปัทมะ เรื่องนี้ ซึ่งทราบว่าเป็นพล็อตที่คุยกันมานานและฟูมฟักมาพอสมควรจนได้รับโอกาสจากทาง M Pictures และ บั้งไฟ ฟิล์ม ของ หม่ำ จ๊กม๊ก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ที่ทั้งช่วยปั้นและช่วยร่วมแสดงในเรื่องนี้ สปอยหนัง

หนังไทยnetflix ประการแรก จากตัวอย่างหนังเราอาจเข้าใจว่ามันเป็นหนังแบบเดียวกับ ‘พี่มากพระโขนง’ ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นสยองขวัญผสมตลกผ่านสายตาของกลุ่มเด็กในพระโขนง ซึ่งก็ทำให้ดูแปลกใหม่และแตกต่างจากหนังก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่ทว่าเอาจริงหนังเรื่องนี้ยกระดับไปเป็นอีกมโนทัศน์หนึ่งเลย มันเป็นหนังที่เหมือนภาคต่อหลังจากพี่มากซึ่งชาวบ้านมีทัศนคติต่อผีที่ดีที่ไม่เป็นภัยได้แล้ว และชาวบ้านก็อยู่ร่วมกันกับไอ้แดงเหมือนเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ที่ชาวบ้านพระโขนงเอ็นดูช่วยกันเลี้ยงดูอยู่ห่าง ๆ มันเป็นแนวคิดที่ดูมีวุฒิภาวะมากอันนี้ขอชื่นชมเลย ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

แต่หนังก็ยังเป็นหนังมันต้องมีความขัดแย้งให้เรื่องเดินได้ ดังนั้นบทจึงให้ชาวบ้านในเรื่องเลือกไม่บอกพวกลูกหลานเรื่องไอ้แดงเป็นผี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนิทกันไม่ตะขิดตะขวงใจ ทำให้เกิดสถานการณ์เด็กหัวโจกเริ่มสงสัยไอ้แดงและพยายามพิสูจน์ว่าเป็นผีด้วยวิธีต่าง ๆ ที่พอได้เห็นในตัวอย่างหนังบ้างแล้ว

ประการต่อมา เราเห็นน้องเมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน ที่มารับบท ไอ้แดง และน่าจะเห็นพ้องต้องกันว่ามีความคล้าย แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สมัยเล่นหนัง ‘แฟนฉัน’ ไม่น้อย ซึ่งก็ทราบว่าเป็นความตั้งใจของแจ็คจริง ๆ อันนี้ทำให้เข้าใจได้ว่าแจ็คก็อยากลองเลียนสูตรสำเร็จบางประการคือถึงพรสวรรค์ไม่สูง แต่พรแสวงและประสบการณ์ที่คลุกคลีทีมงานหนังที่ประสบความสำเร็จมานาน ก็ก่อร่างสร้างแจ็คที่มีแนวทางการทำหนังของตนเองได้

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

หนังมีความเป็น ‘แฟนฉัน’ ในบางแง่มุม มันพูดเรื่องมิตรภาพที่บริสุทธิ์มาก ๆ และก็แบบเด็ก ๆ อะไรที่ผิดแผกจากความปกติเล็กน้อยก็อาจขยายกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนแบบสมัยเด็กเพื่อนเหยียบขี้หมาก็แบบจะไล่ให้ออกจากกลุ่มไปหรืออาจล้อกันข้ามเดือน แต่นี่เพื่อนเป็นผีมันก็ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในแง่มุมที่ดีคือเด็กเขาคืนดีกันง่ายและคิดไม่เยอะเท่าผู้ใหญ่ ทำให้อารมณ์ของหนังไม่หนักเกินไป ดูได้ทั้งครอบครัว

แต่ก็มีจุดติงบ้างว่าหนังยังมีแนวคิดแบบไทยจ๋า (ซึ่งเข้าใจได้เพราะกลุ่มเป้าหมายคือคนไทยวงกว้าง) ที่ยังเล่นตลกกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ผิวดำ ตัวอ้วน ตาเข ยิ่งเราเพิ่งมีเรื่องภรรยาของ วิล สมิธ ในงานออสการ์มาด้วยมันก็เป็นอารมณ์แปลก ๆ ดีที่สังคมบ้านเราก็ยังชอบดูหนังที่ใช้จริตแบบนี้กันอยู่ได้ตลอด อันนี้ไม่โทษคนทำหนังด้วยเพราะยอมรับว่าคนไทยก็ยังตลกกับอะไรแบบนี้จริง ๆ แต่ก็แค่ตะหงิดไม่ถึงกับทำให้หนังดูแย่หรอกครับ แค่อยากฝากไว้ในอนาคต

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

และหนังเรื่องนี้จึงน่าประหลาดใจที่ว่ามันมีตลกเบอร์ใหญ่มาร่วมแสดงหลายคนมาก จนเราก็เสียวว่าความอ่อนบารมีของแจ็คและเอ็กซ์จะทำให้คุมหนังไม่อยู่หรือไม่ คือถ้ามันจะเป็นหนังจั่วมุกรัว ๆ แบบ ‘โกยเถอะโยม’ ก็ไม่ผิดอะไร แต่มันก็มีให้เห็นหลายเรื่องที่มีเส้นเรื่องดราม่าแต่พอเอาตลกมาเล่นมาก ๆ ก็มักจะแป้กหรือก็ตลกกันหลงเส้นเรื่องไปเลย แต่เรื่องนี้ผู้กำกับถือว่าประคองอยู่ หนังให้อารมณ์ฟีลกู้ดแบบรสกลาง ๆ ไม่ฟินจัดแบบพวกหนัง GDH แต่ก็ไม่เบาจนไม่รู้สึก และแค่รักษาโทนนี้ได้โดยมีสารพัดตลกรุ่นใหญ่มาพร้อมปล่อยของ เท่านี้ก็รู้สึกว่าผู้กำกับทำหน้าที่ได้ดีมากแล้ว

 

งานภาพของหนัง แดงพระโขนง

หนังยังมีงานภาพ ทำสีคุมโทนหนังที่ดูดี และมีฉากโชว์ซีจีบางฉากที่ดูว้าวด้วย อย่างฉากบ้านที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป รวมถึงพวกการแต่งหน้าผีหลายฉากก็รู้สึกทำได้ดีให้อารมณ์หนังไทยสมัยก่อนที่แต่งหน้าผีกันโหดมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีซีจีหลายฉากที่มันยังดูลอย ๆ อยู่บ้างเช่นพวกยืดแขนยืดขา แต่ก็ไม่ใช่จุดที่ร้ายแรงเพราะเหมือนคนทำหนังก็รู้จุดอ่อนดีและไม่ได้เอามาเป็นฉากโชว์ขนาดนั้น อย่างฉากมะนาวตกใต้ถุนที่มีในหนังตระกูลแม่นาคทุกเรื่องนี่ ถือว่าเรื่องนี้ก็เลี่ยงซีจีได้ฉลาดมากทีเดียว แดงพระโขนงรีวิว

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

และความประหลาดใจสุดท้าย คือ 10 นาทีสุดท้ายของหนัง เหมือนโจทย์ของคนทำหนังมีว่าประคองหนังให้คนดูอยากดูไปถึงช่วงท้ายหนังให้ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะ 10 นาทีสุดท้ายนี่คือที่สุดจริง ๆ คือจากก่อนหน้านี้ที่ว่ามาทั้งหมดเราจะไม่แปลกใจเลยถ้าตอนท้ายเรื่องจะมี ใหม่ ดาวิกา หรือ มาริโอ้ มาโผล่รับเชิญในหนังที่เป็นเหมือนจักรวาลเดียวกันเรื่องนี้ แต่หนังเรื่องนี้ขยี้ได้ร้ายกาจไปยิ่งกว่านั้นอีก และทำให้ ‘แดง พระโขนง’ เป็นหนังที่ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ไม่แปลกใจเลยที่คนจะปรบมือให้กันทั้งโรงในบทสรุปของหนัง ชื่นชมครับ

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

วงการหนังไทยยังคงคึกคักต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ เพราะสุดสัปดาห์นี้ก็จะถึงคิวของอีกหนึ่งหนังผีไทยจะลงโรงฉายเป็นโปรแกรมใหม่ ที่ถือว่าเป็นหนังผีที่มีแนวคิดและไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจ กับการแตกหน่อตำนานเรื่องผีสุดอมตะของไทยออกเป็นอีกแขนง กับ “แดง พระโขนง” ที่ฟังดูเหมือนจะเป็นการต่อยอดจักรวาลตำนานนี้ มาพร้อมกับทีมผู้สร้างหนังตลกหน้าเดิม ๆ ที่แน่นอนว่าจังหวะและมุกต่าง ๆ ก็สไตล์เดิม ๆ มีทั้งอารมณ์ขำขันและขยะแขยงปะปนกันไป

แดง พระโขนง เป็นเรื่องเล่าหลังจากที่ผีนางนากแห่งทุ่งพระโขนง โดนสมเด็จโตปราบและได้นำปั้นเหน่งของนางนากไปบำเพ็ญเพียรกับพระมาก ทุ่งพระโขนงจึงกลับมามีความสงบสุข 10 ปีต่อมามีผีเด็กอาละวาดทำร้ายคนในทุ่งพระโขนงอีกครั้ง ชาวบ้านหวาดผวาว่าเป็นฝีมือของ ไอ้แดง ลูกของนางนากที่สมเด็จโตไม่ได้นำร่างไปบำเพ็ญเพียรด้วย ทำให้ชาวบ้านทุ่งพระโขนงหวาดผวาและหาทางที่จะทำให้หมู่บ้านกลับมาสงบสุขให้ได้ แดงพระโขนง ใครเล่น

หนังที่โหมโรงโปรโมตว่าเป็นผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของ “แจ็ค แฟนฉัน” กับเพื่อนซี้ของเขา “เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ” ที่เกิดแนวคิดดังกล่าวขึ้นมา ก่อนจะนำไปปรึกษา “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่ร่วมแสดงและทำหน้าที่อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ให้กับ ภายใต้งานสร้างของบั้งไฟ ฟิล์ม ของเขา แต่ความเป็นจริงแล้ว แจ็คเพิ่งจะถูกแฉมาหมาด ๆ ว่า…เขาลงพื้นที่มากองถ่ายในฐานะผู้กำกับแค่เพียง 2 คิวเท่านั้นเอง (แต่ก็ได้เครดิตเป็นผู้กำกับอยู่นะ)

 

 

แดง พระโขนง ก็มาพร้อมกับสไตล์หนังไทยดาดดื่นที่ให้ความรู้สึกฝืนที่จะกลืนลงคอ แม้ว่าจะมีไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย แต่การนำมาเล่าเรื่องและการกลั่นกรองออกมาเป็นบทหนังยังค่อนข้างล้มเหลว ไม่ต่างกับหนังตลกไร้สาระทีหาความบันเทิงใจเกือบจะไม่ได้เลย มุกตลกก็เต็มไปด้วยมุกโบราณที่ล้าสมัย ไม่ว่าจะเป็นมุกเหยียดผิว-เหยียดอัตลักษณ์บุคคล ที่ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ขำขัน แต่เป็นการคุกคามทางวาจาประเภทหนึ่งไปเสียแล้ว

หนังวางโครงเหมือนจะเป็นหนังที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน แต่เนื้อในของหนังที่มีภาพใส ๆ นี้นั้นยังเต็มไปด้วยมุกหยาบโลนในปริมาณหนึ่ง ที่ก็แอบรู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยที่ผู้ปกครองจะพาลูกหลานมาดูหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะมุกคำหยาบทะลึ่งต่าง ๆ ที่สามารถเลี่ยงได้ แต่หนังกลับใส่เข้ามาอย่างตรงไปตรงมา คำหยาบกลายเป็นมีชื่อที่ฟังทีไรต้องสะดุ้ง หนังที่มีเด็ก ๆ เป็นนักแสดงนำ กลับพังครื้นลงไปต่อหน้าต่อตาเพราะผู้ใหญ่พยายามยัดมุกหยาบ ๆ ให้หนังสอดแทรกไปด้วยพิษเสียอย่างนั้น

 

สรุปหนัง แดงพระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง เป็นหนังผีตลกแบบไทย ๆ ที่ซ้ำซากจำเจเป็นที่สุด ไม่ต่างกับหนังเมื่อ 10-15 ปีก่อน ช่วงเวลาที่นั่งดูหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความอึดอัด นอกจากจะเต็มไปด้วยมุกขำเอาใจคนเจนเอ็กซ์ไล่ขึ้นไปถึงเบบี้บูมเมอร์แล้ว การเล่าเรื่องของหนังยังค่อนข้างเลวร้าย พอ ๆ กับบทหนังที่มีแค่หยิบมือเดียว หนังเสียเวลาไปกับการเล่าเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ฉากแล้วฉากเล่า ที่สารภาพเลยว่าก้มดูนาฬิกาตลอด และพบว่าหนังเล่าวนอยู่ในอ่างแบบนั้นครบ 1 ชั่วโมงพอดี ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่องในช่วง 30 นาทีสุดท้าย

การเล่าเรื่องที่พยายามยัดเยียดให้เห็นถึงมิตรภาพของแก๊งเด็กทุ่งพระโขนง ให้ความรู้สึกเหมือนย้ำคิดย้ำทำ ฉากละแวกนี้คล้ายกับนั่งดูละครก่อนข่าวที่ยืดไปมาและนำไปตัดเข้าโฆษณาได้ เนื้อเรื่องแทบจะไม่เดิน เด็ก ๆ ก็ต้องมาเล่นมุกตลกที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้เล่นไปตามน้ำ เป็นอะไรที่พยายามจะทำให้ตลก แต่กลับไม่ตลก เพราะมุกที่พวกเด็ก ๆ เล่นออกมานั้น คือการเหยียดมนุษย์กันเองทั้งนั้น แดงพระโขนงซูม

ซาวน์ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่…ทำให้รำคาญใจ เปิดฉากมาเริ่มแรกก็รู้สึกเพลินดีอยู่ เพราะหนังใช้ซาวน์ประกอบเดียวกันกับ นางนาก หนังเวอร์ชั่นปี 2542 ที่ทำให้รู้สึกสะพรึงและขนลุกไปกับความทรงจำที่หวนคิดถึง แต่พอหนังดำเนินไปเรื่อย ๆ แบบไม่ค่อยได้เคลื่อนที่เนื้อเรื่องไปไหน ซาวน์ที่ว่าน่าหลงใหลนี้กลับเป็นสิ่งที่รู้สึกหงุดหงิดที่เดี๋ยวตัดใส่ ๆ วนไปเรื่อยอยู่ตลอดทั้งเรื่องทีมนักแสดงของ แดง พระโขนง ก็ถือว่ามีความหลากหลายดี แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย เป็นนักแสดงตลกที่หยอดเข้าไปเป็นตัวโจ๊กคนละเล็กคนละน้อย บางตัวละครใส่มาให้เต็ม บางคาแรกเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่แคสติ้งนักแสดงเด็ก ๆ ก็ถือว่าพวกเขาทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่ก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยกันพยุงหนังทั้งเรื่องให้ไปตลอดรอดฝั่ง ในแบบอารมณ์หวานอมขมกลืน

 

 

แต่กระนั้น แดง พระโขนง ที่กระท่อนกระแท่นกับการเล่าเรื่องราวและนำเสนอไปเกือบจะทั้งเรื่อง กลับสามารถพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างกะทันหัน เพียงแค่ในช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้ายของเรื่อง กับอีสเตอร์เอ้กของหนังที่กลายเป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ไปโดยปริยาย แค่ฉากเดียวสามารถพลิกสถานการณ์ให้กับ แดง พระโขนง ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนต้องยอมสารภาพตรง ๆ เลยว่าเผลออุทานร้อง “ว้าวววว!” ออกมาโดยอัตโนมัติเลยทีเดียว

กลายเป็นว่าหนังที่เกือบจะพังครื้นไปกองตรงหน้า มีหน่วยกู้ชีพมาช่วยพยุงชีวิตของหนัง แดง พระโขนง เอาไว้ในช่วงโค้งสุดท้ายของเรื่องนี้ แม้ว่าหนังจะค่อนข้างล้มเหลวแทบจะทุก ๆ องค์ประกอบเลยก็ตาม แต่เพราะพลานุภาพของอีสเตอร์เอ้กที่หนังได้นำมาใส่เอาไว้ในช่วงท้าย ได้ช่วยยกระดับให้กับหนังเรื่องนี้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ และเป็นสิ่งที่ต้องให้ทุก ๆ คนไปพิสูจน์เอง และบอกไว้เลย…จะเจอสปอยล์หลุดตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายแน่นอน! แดงพระโขนง netflix

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

 

 

สปอยหนัง ในยุคปัจจุบันที่มีวงดนตรีเกิดใหม่มากมาย คุณยังคิดถึงวงดนตรีคุณภาพอย่างบอดี้แสลม ,So Cool ,โมเดิร์นด็อก ,พาราด็อกซ์ และอื่น ๆ อยู่อีกหรือไม่ หากคุณยังคิดถึงพวกเขาเหล่านั้นก็แนะนำให้หาหนังเรื่อง “SuckSeed ห่วยขั้นเทพ” มาดูกันให้ได้เลย แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนกับตัวเองหลุดไปอยู่ในช่วงเวลานั้นอีกครั้ง แต่ก่อนจะไปหาหนังมาดูก็สามารถมาอ่านรีวิวคร่าว ๆ จากเรากันก่อนได้เรื่องย่อหนัง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ หนังไทยnetflix

 

เนื้อเรื่อง ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ

หนัง SuckSeed ห่วยขั้นเทพได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “เป็ด” “คุ้ง” และ “เอ็กซ์”ที่ตัดสินใจก่อตั้งวงดนตรีของตัวเองขึ้นมาด้วยเป้าหมายที่อยากจะเป็นนักดนตรีระดับประเทศ แต่เพราะเวลานี้พวกเขาเป็นคนที่ห่วยในด้านการเล่นดนตรีและร้องเพลงในระดับขั้นเทพจนถูกเพื่อนร่วมชั้นและคนอื่นมองแบบดูถูกแต่ก็ไม่ย่อท้อจึงได้ตั้งชื่อวงของตัวเองว่า “SuckSeed” ขึ้นมา

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

 

พวกเขาต้องพยายามเพิ่มทักษะให้ตัวเองเก่งพอก่อนจะไปแข่งงานประกวดวงดนตรีของค่ายเพลงดังระดับประเทศให้ได้ ทว่ามันกลับยากมากยิ่งขึ้นเมื่อทั้งเป็ดและคุ้งต่างหลงรัก “เอิญ” เพื่อนวัยเด็กที่เพิ่งย้ายเข้ามาเหมือนกัน เธอเป็นคนร้องเพลงเก่ง แต่กลับไปเป็นนักร้องนำให้วงอารีน่าซึ่งเป็นวงดนตรีคู่แข่งของโรงเรียนตัวสำคัญป๊อปปูล่าร์เกินเบอร์ที่มีเป้าหมายจะไปแข่งในงานระดับชาตินี้เหมือนกัน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่! ดูหนังฟรี

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

ความน่าสนใจของหนัง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย หนัง SuckSeed ห่วยขั้นเทพมีความน่าสนใจตรงที่ตัวละคร “เป็ด” “คุ้ง” และ “เอ็กซ์” เหมือนถูกสร้างให้มาเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ที่อยากสร้างวงดนตรีเป็นของตัวเองแต่มีทักษะในระดับห่วย อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ SuckSeed กลายเป็นหนังที่โด่งดังมากในหมู่วัยรุ่น ณ ตอนที่เข้าโรงภาพยนตร์ก็คือ มีนักร้องนำจากวงดนตรีระดับเทพของไทยเรามารับเชิญให้ร้องเพลงดังประจำวงตัวเองในฉากต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ของทั้งสามกันอย่างลึกซึ้งไม่ว่าจะเป็นอารมณ์อินเลิฟตกหลุมรัก อารมณ์อกหัก หรืออารมณ์ท้อแท้

ทำให้เรากลับมาคิดถึงพวกเขาอีกครั้ง และทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จักเพลงเก่ามากยิ่งขึ้นด้วยจนกลับมาฮิตอีกครั้ง ในตัวหนังทำให้เราเห็นถึงการฝึกซ้อมที่ต้องอาศัยความพยามยามเล่นบ้างจริงจังบ้าง และไหนจะมีเรื่องความรักวัยเรียนเข้ามาโดยพระเอกหรือก็คือ “เป็ด”นี่ล่ะที่ดันไปตกหลุมรักนางเอกที่เพิ่งปฏิเสธ “คุ้ง”ไป กลายเป็นว่านางเอกเองก็ตกหลุมรักพระเอกด้วยเช่นกันเพราะเป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงขนาดแต่งเพลงที่ชื่อว่า “เพลงที่ฉันไม่ได้แต่ง” ให้นางเอกซึ่งนางก็นำไปร้องบนเวทีประกวดการแข่งขันระดับชาติ ซักซีด หวยขั้นเทพ เต็มเรื่อง 037

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

 

พอคุ้งรู้เข้าก็เหมือนพระเอกทรยศความไว้ใจของเพื่อนจนกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของวงSuckSeed ที่ทำให้เราได้รับบทเรียนในด้านมิตรภาพของเพื่อนด้วย ทุกคนสามารถมีความรักได้แต่ก็ต้องมีในทางที่เหมาะสม หนังเรื่องนี้มีเพลงประกอบไพเราะมากมายเลยนะคะ ลองไปหาฟังกันได้ แต่ที่เราชอบที่สุดก็คือ “ทุ้มอยู่ในใจ” ที่เก้า จิรายุร้องคู่กับณัฐชานี่ล่ะ
ข้อคิดดี ๆ จากหนัง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ
หนัง SuckSeed ห่วยขั้นเทพได้สอนให้เรารู้ว่า ทุกคนย่อมมีดนตรีอยู่ในหัวใจ แม้คุณจะเป็นคนที่เล่นดนตรีห่วยก็ตามแต่เมื่อมีความพยายามและกำลังใจในหมู่เพื่อนฝูงที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน เดี๋ยวทักษะที่ห่วยขั้นเทพมันก็จะเพิ่มเป็นต้นใหญ่ได้ขึ้นมาเอง

นอกจากนั้นการซื่อสัตย์และการคงเส้นคงวาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ทำให้อุปสรรคต่าง ๆ มาสั่นคลอนมิตรภาพของเพื่อนได้ ทุกอย่างมันคือบททดสอบให้เราเติบโตขึ้นเพื่อเป็นคนเก่ง
เป็นภาพยนตร์จากค่ายหนังไทยที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง GTH ภาพยนตร์ได้ผู้กำกับอย่าง ชยนพ บุญประกอบ หรือพี่หมู มากับกับหนังเรื่องนี้ ซึ่งพี่หมูนั้นได้กำกับหนังดังหลายๆ เรื่องที่เรารู้จักกันดีอย่าง เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ, พรจากฟ้า, friend zone ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ แจ้งเกิดนักแสดงทั้ง 4 

Suck Seed ภาพยนตร์ไทยแจ้งเกิดนักแสดงอย่าง เก้า จิรายุ(เป็ด) พีช พชร(คุ้ง) แนท ณัฐชา(เอิญ) เอิร์ธ ธวัช(เอ็ก) ท้อป ณภัทร(ตวง) รับบทหลักของเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์แจ้งเกิดของนักแสดงวัยรุ่นที่ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา ซักซี้ด ได้ฉายไปเมื่อวันที่ 17มีนาคม 2554 ซึ่งใช้ทุนสร้าง 20ล้านบาทแล้วได้กวาดรายได้ไปถึง 78.32ล้านบาท อีกทั้งได้ไปฉายที่งานเทศกาลหนังไทเป ฟิล์ม เฟสติวัล ที่ประเทศไต้หวันอีกด้วย

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ มันคือภาพยนตร์วัยรุ่นแนวดนตรีที่เป็นเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นสุดห่วย อย่างคุ้งผู้ที่มีแฝดชื่อเค ซึ่งคุ้งและเคนั้นถึงหน้าจะเหมือนกันมากแต่นิสัยและการกระทำนั้นต่างกันมาก เคนั้นเป็นหนุ่มฮอตแสนเท่ที่เป็นนักกีต้าของวงชื่อดังของโรงรียน ส่วนคุ้งนั้นเป็นแฝดอีกคนที่ไม่เอาอ่าว ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยและเปลี่ยนงานอดิเรกหรือสิ่งที่ทำไปตามใจตัวเอง ซึ่งเขาจะมีเป็ดเป็นเพื่อนสมัยเด็กๆ ที่คอยติดสอยห้อยตามไปทุกที่

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

 

เป็ด ตัวเอกของเรื่อง รับบทโดย เก้า จิรายุ ชีวิตเขานั้นห่วยมากในด้านการตัดสินใจขี้ขาดและเป็นคนขี้อาย แค่จะบอกชอบผู้หญิงที่ตัวเองรักยังไม่กล้าที่จะบอก ซึ่งผู้หญิงคนนั้น ก็คือ เอิญ สุดท้ายเป็ดก็ไม่ได้บอกความรู้สึกให้เอิญรู้ อีกทั้งยังมีข่าวลือว่า คุ้งโทรไปสารภาพรักกับเอิญ ซึ่งทำให้เอิญเสียใจมาก ทำให้เป็ดไม่กล้าจะบอกความจริงว่าคนที่โทรไปนั้นคือ เขานั่นเอง ซักซีด หวยขั้นเทพ เต็มเรื่อง facebook

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ รีวิวหนังไทย จนเวลาผ่านเลยไป คุ้งและเป็ด ได้เติบโตกันจนอยู่มัธยม ปีที่ 6 เอิญก็ได้ย้ายกลับเข้ามาเรียนที่เดียวกันกับคุ้งและเป็ดแล้วเรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้น เมื่อคุ้งได้เกิดหลงรักเอิญขึ้นมา เพราะความสวยของเอิญ บวกกับความทรงจำในสมัยก่อน ซึ่งเป็นตอนที่เอิญเสียใจมันทำให้คุ้งกลับรู้สึกชอบเอิญ ส่วนเป็ดที่รู้ว่าเอิญกลับมาเรียนด้วยกันความรู้สึกต่างๆ ก็หวนคืนกลับมา
คุ้งรู้ว่าเอิญเล่นดนตรีเป็น คุ้งเลยชวนเอิญมาตั้งวงด้วย แล้วได้ชวนเป็ดมาด้วย ซึ่งเป็ดได้รับเลือกให้เล่นเบส คุ้งเป็นนักร้องนำและกีต้าร์ เอิญได้เล่นกีต้าร์ จากนั้นเขาจึงชวน เอ็กหนุ่มนักกีฬา ที่ได้มาเป็นมือกลองของวง ที่บ้านทำร้านเบเกอรี่ โดยมีคุณพ่อสนับสนุนยกห้องเก็บอุปกรณ์ทำขนมปังเป็นห้องซ้อมให้พวกเพื่อนๆ ซึ่งเอ็กนั้นก็มีความห่วยเหมือนกัน เขานั้นได้ชอบหญิงสาวสวยคนหนึ่งแต่ก็ถูกทอมแย่งไป หลังจากตั้งวงดนตรี พวกเขาก็จะไปประกวดฮอตเวฟ ซึ่งกติกาก็คือการแต่งเพลงรักที่ห้ามมีคำว่ารัก แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เอิญนั้นต้องออกจากวงไปทำให้พวกเขาทั้ง 3คนต้องมาตั้งวงและทำเพลงเข้าประกวด ซึ่งการรวมตัวของพวกห่วยที่หวังจะชนะฮอตเวฟจึงทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าดึงดูด
สิ่งที่หน้าสนใจของหนังเรื่องนี้ คงเป็นการที่แทรกเพลงต่างๆ ให้เข้ากับเนื้อเรื่องที่ทำให้คนอินกันสุดๆ แต่ถ้าพูดแบบนี้ผู้อ่านคงคิดว่าเรื่องอื่นๆ เขาก็ทำกันเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่หนังเรื่องแตกต่างและทำให้ผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมากคือการที่มีการถ่ายทำเอ็มวีของเพลงต่างเข้ามาผสมกับเนื้อเรื่องและได้นักร้องของเพลงมาร่วมแสดง ได้แก่เพลง ก่อน ที่ได้พี่ป๊อดโมเดิร์นด็อก เพลงมีแต่เธอที่ได้ต้าพาราด็อก เพลงน้ำตาที่ ได้แด๊กซ์บิ๊กแอส ยิ่งโตยิ่งสวยที่ได้ ปูแบล็คเฮด ความเชื่อ วงบอดี้แสลม และเลี้ยงส่ง ที่ได้โจ๊กโซคูลมาร่วมแสดงและสร้างสรสันให้กับภาพยต์เรื่องนี้อีกด้วย

แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูรู้สึกแปลกใจและยังคงเป็นสิ่งใหม่ที่วงการภาพยนต์คงเป็นเรื่องของการเล่าเรื่องโดยมีภาพอนิเมชั่นประกอบเข้ากับตัวหนัง ซึ่งทำให้หนังนั้นมีมิติที่แตกต่างจากหนังวัยรุ่นที่ผ่านๆ มา ส่วนในด้านการแสดงต้องบอกเลยว่าเก้าจิรายุทำได้ดีมาก แต่นักแสดงนำคนอื่นก็ไม่น้อยหน้า ซึ่งถ้าในตอนนั้นแต่ละคนยังคงเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของวงการเลยก็ว่าได้ แต่ที่ต้อง ตบมือให้คงเป็นการแสดงของพีช พชร ที่เล่นเป็นแฝดที่มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้วและเขายังทำได้ดีมากอีกด้วย เรียกได้ว่าการแสดงของพวกเขานั้นเป็นตัวส่งให้หนังมีชีวิตชาวามากยิ่งขึ้น
การที่หนังเรื่องนี้ดูน่าสนใจอีกอย่างคงเป็นเรื่องราวความรักในหลายๆ แง่มุม ของตัวละคร และเรื่องราวมิตรภาพของเพื่อน ที่แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปก็ไม่อาจทำให้มิตรภาพของเราจางหายไปได้ ซึ่งตัวหนังทำได้ดีมากในการให้แง่คิดและยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นที่สนใจในการเล่นดนตรีอีกด้วย

 

 

หนังเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องราวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยไม่ว่าวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ใครๆ ก็สามารถดูได้ ซึ่งหนังสร้างความเฮฮาสนุกสนานและความประทับใจในทุก ๆด้านทุกแง่มุม DooDiDo ผู้เขียนให้คะแนนรีวิวเรื่องนี้ 9/10 คะแนน หากใครอยากรับชมก็ลองหาชมดูได้ที่ทางช่องสตรีมมิ่งต่างๆ ได้เลยจ้า
“หนังวัยรุ่น” จัดเป็นหนึ่งในประเภทของหนังปราบเซียน คือไม่ใช่ว่ามันไม่ทำเงิน กำกับยากหรืออะไร แต่เพราะเป็นหนังประเภทที่คนทำมาเยอะ(มาก)แล้ว และยากที่จะฉีกแนวจากหนังวัยรุ่นทั่วไป คือถ้าเราหลับตาดูก็จะนึกภาพตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบได้เลย ซักซีด หวยขั้นเทพ ภาค1

 

ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ สรุปเรื่อง

เริ่มต้นด้วยพระเอกหล่อ นางเอกสวยใส -> ฝันอยากจะตั้งวงดนตรี/ประกวดเต้น/แข่งกีฬา -> เจออุปสรรค ที่บ้านไม่เห็นด้วย เล่นไม่เก่ง อุปกรณ์ไม่ดี -> ปิ๊งสาว -> จบที่งานประกวด พลิกชนะเลิศ ได้รางวัล สาวชอบ ที่บ้านยอมรับ Happy Ending จบ .. แค่นี้ก็รู้สึกถึงความเอียน~~~~

Suck Seed ห่วยขั้นเทพ มีหน้าหนังที่เหมือนข้างบนว่าไว้ทุกประการ .. เด็กวัยรุ่น ตั้งวงดนตรี ประกวด Hot Wave ปิ๊งสาว มีอุปสรรคที่ทุกคนเป็นตัวห่วย .. มีเพียง 2 อย่างที่ทำให้ก่อนจะดูแล้วรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าจะดี คือนางเอก (น้องแนท ณัฐชา นวลแจ่ม) ที่เล่นดนตรีเอง และโปสเตอร์หนังมีโลโก้ GTH ประกันคุณภาพอยู่ต้องชมทีมงานแคสนักแสดงของ GTH ที่เลือกนักแสดงได้ตรงกับบทและดูเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ GTH ในการปั้นนักแสดงหน้าใหม่ โดยการเลือกนักแสดงให้เป๊ะกับบท พอแสดงออกมาก็ดูดีสมกับตัวละคร
ไล่มาตั้งแต่ บอล ต่าย season change, ซันนี่ นุ่น เอ๋ เพื่อนสนิท, แพตตี้ ปิดเทอมใหญ่, พีค สายลับจับบ้านเล็ก, หนูนา กวนมึนโฮ และต่อไปเราคงจะได้เห็น เก้า แนท เอิร์ท พีช Suck Seed

 

 

สรุปแล้วชอบครับ แตกต่างจากหนังวัยรุ่นทั่วไป นักแสดงทุกคนก็สมบทบาทดี เสียดายที่ช่วงไคลแม๊กยังเรียกอารมณ์ได้ไม่จี๊ดเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วโดนเลยทีเดียว หนังสนุกมาก ดูแล้วรู้สึกเสียดายที่ทำไมสมัยเราเป็นวัยรุ่นถึงไม่มีหนังแบบนี้บ้าง ซักซีด หวยขั้นเทพ เต็มเรื่อง imovie

ช่วงนึงของหนังก็ทำให้นึกว่า เออ ชีวิตวัยรุ่นมันก็มีแค่ เพื่อน ดนตรี กีฬา กะโชว์หญิงนี่หว่า .. ก็แล้วมันต้องมีอะไรมากกว่านั้นด้วยเหรอ ? เกิดมาเป็นวัยรุ่นได้แค่ครั้งเดียว มันก็ต้องขอทำอะไรมันส์ๆ กะเค้าบ้าง … ซักซี๊ดนึง

รีวิว มึงกู…เพื่อนกันจนวันตาย

รีวิว มึงกู...เพื่อนกันจนวันตาย

รีวิว มึงกู…เพื่อนกันจนวันตาย

สปอยหนัง เป็น ภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องหนึ่ง ที่เลื่อนกำหนดฉายหนี “น้ำท่วมกรุงเทพ” ตามกำหนดเดิมจะฉายในราวๆ เดือน ธันวาคมของปีที่แล้ว รีวิวหนัง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย เลือนมาลงโปรแกรมต้อนรับปีใหม่ ปีมังกรนี้แทน กับภาพยตร์เรื่อง “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย”
รีวิว มึงกู...เพื่อนกันจนวันตาย
หนังไทยnetflix “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย” เป็นอีกหนึ่งผลงานของค่าย “พระนครฟิลม์” ผมต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่า มาช่วงหลังๆนี้ ผมไม่ค่อยได้หยิบยกหนังของค่าย พระนครฟิลม์ มาแนะนำให้แฟนๆ ชาวสนุก รู้จักกันเท่าไหร่นัก แต่ผมยังจำได้ว่า เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นหนังไทยยังเฟื่องฟูกว่าสมัยนี้ ค่ายพระนครฟิลม์ เป็นอีกหนึ่งค่ายหนังที่ผลิตภาพยนตร์ออกสู่สายตานักชมภาพยนตร์เยอะที่สุด เรียกว่าตลอดทั้งปีเราจะได้ดูหนังของค่ายนี้แทบทุกเดือน ด้วยศักยภาพของทีมทำงานของค่ายนี้ ผมว่าสามารถสู้ค่ายอื่นๆ ได้สบายมาก ภาพสวย การถ่ายทำดี นักแสดงดี เสื้อผ้าหน้าผม ของนักแสดงก็ดี แต่หนังของค่ายนี้เกือบ 80% ที่ผมเห็นว่าไปไม่ถึงฝั่งฝัน มีหนังที่ประสบผลสำเร็จจริงๆ เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น นอกนั้นแป้กหมด
รีวิว มึงกู...เพื่อนกันจนวันตาย
เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น ผมมาวิเคราะห์ดู ก็เห็นจะเป็นเรื่องของ “บท” หนังของค่ายนี้ จะดำเนินเรื่องมาดีน่าติดตามมาโดยตลอด แต่พอมาถึงตอนจบ หลายคนร้องออกมาว่า “อะไรวะ” เรียกว่าจบไม่ดี จบไม่สวย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ตกม้าตายตอนจบ” รีวิวหนังไทย แทบทุกครั้งไป จนทำให้หนังของค่ายนี้หดหายไปเรื่อยๆ ออกฉายในจำนวนน้อยลง เอาชนิดที่ว่า ออกฉายแล้วไม่ขาดทุน เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี

รีวิว มึงกู…เพื่อนกันจนวันตาย

รีวิว มึงกู...เพื่อนกันจนวันตาย

และ “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย” จะมาเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง ของค่ายนี้ ที่จะมาทดสอบว่า หนังของค่ายนี้ ควรจะอยู่หรือจะไปได้แล้ว
สำหรับผู้กำกับที่เข้ามากุมบังเหียนเรื่องนี้ให้ก็คือคุณ อัศจรรย์ สัตโกวิท ดูจากชื่อแล้วก็ไม่ใช่ผู้กำกับหน้าใหม่เสียทีเดียว เพราะก่อนหน้านั้นคุณอัจรรย์ เคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง Soul’s Code ถอดรหัสวิญญาณ และอีกเรื่องคือ กขค โรงเรียนนอก ก่อนที่จะมากำกับเรื่อง “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย”
หนังเป็นเรื่องราวช่วงชีวิตวัยรุ่นที่เกิดขึ้นระหว่าง ‘กัน’ กับ ‘สอง’ เด็กหนุ่มสองคนที่มีบุคลิกลักษณะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ‘กัน’ เด็กหนุ่มที่ถูกมองจากคนรอบข้างว่าเป็น ‘เด็กเกเร’ เนื่องจากเป็นหัวโจกในกลุ่มเพื่อนที่ชอบหาเรื่องทะเลาะวิวาท แต่สาวๆ ต่างพากันกรี๊ดในความหล่อ เท่ และฐานะที่ร่ำรวย
‘กัน’ เป็นลูกคนเดียวของเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาว การที่พ่อแม่ใช้เงินเลี้ยงดูมากกว่าความรักความใส่ใจ ทำให้กันเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว เขาจึงพยายามไขว่คว้าความรักความอบอุ่นจากเพื่อน เขาให้ความสำคัญกับความรักระหว่างเพื่อนมากกว่าความรักแบบหนุ่มสาวซึ่งต่าง จากวัยรุ่นทั่วๆ ไป ถึงแม้จะมี ‘แอล’ สาวสวยมาคอยตามสนใจก็ตาม
‘สอง’ ดูหนังฟรี เด็กหนุ่มที่ถูกแม่เลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวด เขาไม่เคยได้คิดตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง การขาดอิสระทำให้เขากลายเป็นเด็กเก็บตัว แม้ว่าเขาจะอึดอัดมากแต่ไม่มีทางออก จนกระทั่งแม่แต่งงานใหม่เขาจึงใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้างในการขอย้ายไปเรียนต่อ กับพี่สาวที่เชียงใหม่ เพราะไม่ต้องการอยู่กับพ่อเลี้ยง
วันแรกของการเปิดเรียน สองได้รู้จักกับ ‘เนม’ เพื่อนร่วมห้อง สิ่งแรกที่เนมเตือนสองก็คือให้ระวังตัวและอย่าเข้าใกล้กัน เพราะกันเป็นตัวแสบของกลุ่มวัยรุ่นระดับจังหวัด
เว็บดูหนังฟรี เนม แนะนำให้สองรู้จักกับเพื่อนรุ่นพี่อย่าง ‘ดิว’ ซึ่งเรียนอยู่วิทยาลัยเดียวกัน สองชอบดิวตั้งแต่แรกเห็น ดิวเองก็สนใจสองไม่น้อยเหมือนกัน แต่ความรักระหว่างสองกับดิวกลับถูกกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ขัดขวาง สองถูกดักทำร้าย ความกลัวทำให้สองยอมถอยห่างและหลบหน้าดิว
กันแอบเห็นเรื่องราวที่สองถูกรังแก จึงตัดสินใจชวนสองเข้าแก๊งค์ Sperm ซึ่งมี ก้า, ต๊อด,แนิค, แชมป์, อาร์ม, เบียร์ เป็นสมาชิกร่วมแก๊งค์
วิถี ชีวิตของสองเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้เข้าร่วมแก๊งค์ของกัน สองได้เรียนรู้ชีวิตด้านมืดของวัยรุ่นที่นิยมยกพวกตีกัน การลองผิดลองถูก ความหมายของคำว่าเพื่อน และข้อแตกต่างระหว่างคำว่าอันธพาลกับลูกผู้ชาย
มิตรภาพ ระหว่างเพื่อนกับเพื่อนและเรื่องราวการต่อสู้แบบลูกผู้ชายจะสามารถทำให้ กัน,เว็บดูหนัง
สอง และเพื่อนๆ ก้าวผ่านวัยแห่งความรุนแรงนี้ไปได้หรือไม่อย่างไรนี่คือบทพิสูจน์ที่แท้จริง ของวัยเดือด วัยที่คำว่าเพื่อนสำคัญที่สุด
ก่อนที่ผมจะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ อย่างที่ไม่ได้หวังอะไรมากนัก เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า หนังของค่ายนี้แป้กมาหลายเรื่องแล้ว แต่พอดูไปดูมา ผมว่านี่อาจเป็นหนังเรื่องแรกของค่ายนี้ที่มีการวางโครงเรื่องได้ดีมาก ดีกว่าทุกๆเรื่องที่เคยผ่านมาของค่ายนี้ ความสนุกและความตื่นเต้น ถ้าเทียบเรื่องนี้ ก็เป็นน้องๆ 2499 อันธพาลครองเมือง แต่ยังมีกลิ่นอายเรื่อง “เด็กเสเพล” และเรื่อง เรียกเขาว่า อีกา(หนังญี่ปุ่น) ปนอยู่บ้าง ตัวหนังตีแผ่ชีวิตของเด็กวัยรุ่นชายได้ดี เพราะเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ ไม่จีบหญิง เล่นกีฬาหรือดนตรี ก็จะเป็นพวกเกเร ชกต่อยกันไปเลย
สำหรับเรื่องนี้ผมขอปรบมือให้กับน้อง มาริโอ้ จากที่เคยเฝ้าสังเกตการแสดงของน้องมาหลายเรื่องแล้ว ตั้งแต่ รักแห่งสยาม เรื่องแรกที่เล่น มาถึงเรื่องนี้ โอ้สามารถพัฒนาการเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อยากจะบอกน้องดังๆ ว่า น้องเล่นไม่แข็งเป็นท่อนไม้อีกแล้ว สอบผ่าน
ไม่มีพล็อตเรื่องไม่มีคติสอนใจ มีแต่ตัวละครเล่นกัน สู้กัน ดูหนัง เพื่อแย่งความเป็นจ่าฝูงหรือประกาศอาณาเขต หลายครั้งผู้เขียนต้องถามตัวเองว่ามาดูหนังวัยรุ่นแอคชั่นดราม่า “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย” หรือมาเข้าเรียนวิชามนุษยวิทยาอีกครั้งหนึ่ง
“มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย” หนังแอคชั่นดราม่าที่ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของผู้กำกับ บอม – อัศจรรย์ สัตโกวิท เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สอง (เมาส์ – ณัชชา จันธพันธ์) น้องใหม่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เข้าร่วมแก๊งค์วัยรุ่นเกเรที่มี กัน (มาริโอ้ เมาเร้อ) เป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่เหตุการณ์พาไปมีเรื่องกับอีกแก๊งค์หนึ่ง จึงต้องพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายและมิตรภาพความเป็นเพื่อน หนังฟรี หนังใหม่

ความรู้สึกส่วนตัว

บทภาพยนตร์จะแน่นมากขึ้นถ้าทั้งเรื่องเน้นไปที่ สอง เพราะเขามีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด จากเด็กที่ไม่มีเพื่อน อยู่ในเมืองที่ไม่รู้จัก และไม่กล้ามีเรื่องกับใครแม้เพื่อปกป้องตัวเอง จนได้มีกลุ่มเพื่อนสนิทเป็นโหล รักเพื่อน และสามารถปกป้องเพื่อนได้ แต่ด้วยบทที่ต้องเจียดเวลาให้ กัน ในเรื่องของความรักกับ เนม (โม – มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) ความคลั่งไคล้ของ แอล (อาย – กมลเนตร เรืองศรี) พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาให้ และความเข้าใจผิดเรื่องหนึ่ง จึงทำให้สองมีความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สมบูรณ์และไม่น่าเชื่อถือ (จากที่เป็นเด็กแหยๆ ทำไมถึงกล้าต่อยคนอื่น) และปัญหาของ กัน ถูกแก้ไขเร็วเกินไป (เนมเข้าใจ กัน จากคำพูดคำเดียวของแม่)
และส่วนใหญ่ของบทก็ทุ่มให้ฉากสังสรรค์ (เที่ยวผับ เตะบอล ดื่มเหล้า) และฉากต่อยกัน ไม่แน่ใจว่าต้องการสื่อว่าเด็กผู้ชายก็ต้องมีเรื่องชกต่อยบ้างเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่เห็นคือความไม่สมเหตุสมผล สองถูกอีกแก๊งค์หนึ่งขู่ให้เลิกกับแฟนสาว ดิว (เบลล่า – ราณี แคมเปญ) แต่เด็กแก๊งค์นั้นกลับไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ดิว เลย กันและเพื่อนยกพวกตีกับอีกกลุ่มเรื่องแย่งสาว แย่งบุหรี่ หรือเพราะแค่เกลียดขี้หน้า และทั้งหมดนี้ได้ขัดกับสิ่งที่ กัน บอกกับ สอง ว่า เขาและเพื่อนไม่ได้เป็นอันธพาลยกพวกตีกัน แต่แค่สู้กันเพื่อรู้แพ้รู้ชนะ และที่เลวร้ายที่สุดแน่จะเป็นตอนจบที่ยาวเกินไป และหักมุมแบบไม่จำเป็น
นอกจากบทที่ไม่แน่นแล้ว หลายฉากยังสะดุดทางด้านอารมณ์มาก ฉากที่ กัน พา เนม หนีอีกแก๊งค์หนึ่งก็ตัดเข้าเป็นมิวสิควิดีโอเพลงรักโรแมนติกอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว หรือฉากที่ขึ้นรถหนีหลังจากยกพวกตีกันก็มีมุขตลกโผล่มา
นักแสดงเกือบทั้งหมดยังไม่สามารถสื่อความเป็นเพื่อนได้ แม้พวกเขาอาจจะโอบใหล่กัน แต่ด้วยลักษณะท่าทาง คำพูด และความห่างของร่างกาย รีวิวหนัง ผู้เขียนยังไม่รู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนสนิท บทของมาริโอ้นั้นไม่ต่างจาก พี่โชน “ในสิ่งเล็กๆ” เท่าไหร่ก็เลยไม่มีความถ้าทายมาก ส่วน เมาส์ พระเอกอีกคนหนึ่ง ยังคงใช้สีหน้าเดียวกันไม่ว่าจะกลัว โกรธ หรือตกใจ
ในช่วงชีวิตวัยรุ่นชาย ที่มีเกเรบ้าง ลองผิดลองถูกบ้าง โดนแฟนสาวทิ้งบ้าง เพื่อน มักอยู่ข้างๆเรา ช่วยให้เราผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้ ดังนั้น คำว่า “เพื่อน” จะมีความหมายที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิตวัยรุ่นชาย นี่คือสิ่งที่ “มึงกูฯ” อยากจะสื่อแต่ไม่สามารถสื่อออกมาได้ ด้วยพล็อตเรื่องที่ดำเนินอย่างไร้เป้าหมาย อารมณ์ที่ไม่ต่อเนื่อง บทสรุปตอนท้ายที่ยืดเยื้อเกินไป และการแสดงที่ติดขัด สิ่งที่เรากลับเห็น คือชีวิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่รักสนุก รักที่จะอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม และรักที่จะสู้กลับกลุ่มอื่นเพื่อพิสูจน์ความเป็นใหญ่ เหมือนกับฝูงหมาป่า ลิง หรืออะไรสักอย่างหนึ่ง แค่นั้น ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์