Tag Archives: หนังเก่าไทยน่าดู

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

 

สปอยหนัง วันเลขสวยอย่าง 9.09.2009 มีหนังที่หลายคนคงรอชมอยู่แน่ๆ “5 แพร่ง”(phobia 2) หนังภาคต่อจาก “4 แพร่ง” ที่ฮิตมากเมื่อปีก่อน กระแสหนังผีเป็นตอนๆ มาเรียงร้อยกันแบบนี้ฮิตสร้างกันมาหลายเรื่องแล้วทั้ง อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต,ผีสามบาท แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ จนมาถึง 4 แพร่ง ของค่าย GTH นี่เอง

 

เรื่องย่อ 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง งวดนี้มี 5 ตอนจาก 5 ผู้กำกับชั้นนำของ GTH ผมได้ดูแล้วค่อนข้างชื่นชม และสนุกไม่แพ้ภาคก่อน ตอนแรกกังวลนิดหน่อยว่า เพิ่มมาอีกตอนเวลาน้อยลงจะทำให้ห้วนและไม่สนุก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ยังคงแนวทางจากภาคก่อนไว้อย่างเหนียวแน่นทีเดียว หนังอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เคยขึ้นหน้า1 หนังสือพิมพ์มาเป็นไอเดียในการเขียนเป็นบทหนัง เพราะฉะนั้นความสดใหม่ของเรื่องราวเป็นจุดนึงที่ทำให้ 5 แพร่งน่าติดตามจนแทบต้องกั้นลมหายใจไปด้วยทีเดียว ผมขอไม่เล่าเนื้อเรื่องนะครับอยากให้คนดูไปรับรู้เอาเองไม่งั้นจะเป็น การ spoil ไม่สนุกกันพอดี เริ่มจาก ดูหนังฟรี

หลาวชะโอน
นักแสดงนำ เก้า-จิรายุ ละอองมณี
ผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ยันต์สั่งตาย)
เรื่องนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์ปาหินที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกทีในเวลานี้ มุมที่หนังเล่าผมว่าคงสะใจใครหลายๆคนทีเดียว นับว่าเป็นตอนที่ผมเองก็อยากรู้มากว่าจะลงเอยเช่นไร ข้อดีของหนังสั้นก็คือจับประเด็นสำคัญ ที่ต้องการเล่าและพุ่งเป้าไปที่ตรงนั้น อย่างตอนนี้ เรื่อง “กรรม” เป็นสิ่งที่หนังต้องการจะเล่า และเรื่องเล่านี้ทำได้กระแทกใจคนดูมากทีเดียวเป็นยังไงต้องไปดูกัน รวมๆผมชอบครับห้องเตียงรวม

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

นักแสดงนำ แดน-วรเวช ดานุวงศ์
ผู้กำกับหน้าใหม่ วิสูตร พูลวรลักษณ์
เชื่อไหมครับว่าตอนนี้พอผมทราบว่าใครจะกำกับ ผมนี้เฝ้ารอเลยทีเดียว คุณวิสูตร บอสของค่ายลงมากำกับซะเอง ฝีไม้ลายมือไม่เลวเลยทีเดียวแม้ พล็อตเรื่องจะทำให้นึกถึงหนังฝรั่งอย่าง skelaton key ไปบ้างแต่ก็เล่นเอาคนข้างๆผมที่ไปดูด้วยกระตุกหลายครั้งทีเดียว และเป็นตอนที่เรียกเสียงกรี๊ดในรอบที่ผมไปดูได้เยอะสุดด้วยไม่รู้ว่าเค้า กรี๊ดแดนหรือกรี๊ดหนังกันแน่นะครับ รวมๆก็สนุกไม่เลวแม้จะไม่แปลกใหม่แต่ก็ได้เห็นฝีมือผู้กำกับใหม่(ใหญ่)ที่ น่าติดตามอีกท่านนึง มุมกล้องแปลกๆในตอนเปิดเรื่องและหลายๆช็อตเป็นรายละเอียดที่ผู้กำกับใช้เวลาน้อยแต่เล่า เนื้อเรื่องได้มากอย่างดี ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

นักแสดงนำ แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์
ผู้กำกับ ทรงยศ สุขมากอนันต์ (เด็กหอ)
ผมว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยถ้าได้ดูเรื่องนี้คงไม่ชอบใจนัก เพราะคงทำให้นักท่องเที่ยวคงกลัวที่จะมาเที่ยวบ้านเรา ตอนนี้คือการตั้งคำถามว่า ในตู้คอนเทนเนอร์ นั้นมีอะไรอยู่ ? ตรงกับข่าวอะไรนั้นผมว่าคุณๆคงเดากันได้หนังมีแตะเรื่องการลักลอบเข้าเมืองของบ้านพี่เมืองน้องของไทยด้วยเพื่อจูงเข้าเรื่อง หลักๆตอนนี้ผมว่าผู้กำกับอยากทำอะๆไรที่แหวกพล็อกเรื่อง และ charactor ผีไทยออกไปบ้างโดยการหยิบ “ยาเสพติด” มาเป็นประเด็น ผมดูจบนึกถึงหนังฝรั่งหลายเรื่องทีเดียว แม้จะดูสนุกแต่ถือว่าเป็นตอนที่เนื้อหาจับต้องได้น้อยสุด แม้จะชอบเป็นส่วนตัวจากการแสดงของคุณบุ๋มบิ๋ม ที่แรงดีครับ

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

รถมือสอง
นักแสดงนำ นิโคล เทริโอ
ผู้กำกับ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (เที่ยวบิน 224)
ถ้าตอนที่แล้วจะทำให้การท่องเที่ยวฯ เค้าค้อนเอาให้ สำหรับตอนนี้ ผู้กำกับคงเดินเข้าเต๊นท์รถมือสองไม่ได้แน่ๆ เพราะเล่นเอาไอเดีย(ความจริง) มาบอกชาวบ้านเค้าหมดเลย แล้วนี้จะมีใครกล้าซื้อรถมือ 2 อีกไหม ประเด็นของตอนนี้เล่นกับการ “การโกหก หลองลวงและความซื่อสัตย์” นิโคลเล่นดีครับ plot เรื่องว่ากันตรงๆ เดาจุดจบได้ไม่ยากจะเป็นอย่างไร การใช้มุมกล้องล่อหลอกคนดู รวมถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดทำให้ผมค่อนข้างอินกับตอนนี้มาก นับเป็นอีกตอนที่เล่นเอากระอักกระอ่วนกับบทสรุปของหนังได้ไม่แพ้ตอนแรกเลยทีเดียว

 

เรื่องที่ 5 ของหนัง 5 แพร่ง

คนกอง
นักแสดงนำ มาช่า วัฒนพานิช
ผู้กำกับ บรรจง ปิสัญธนะกูล (คนกลาง)
ตอนสุดท้าย ต้องบอกว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เป็นตอนที่ผ่อนให้คนดูถอนหายใจได้ยาวๆ นอกจากเรียกเสียงกรี๊ดในโรงมาหลายตอนแล้วเป็นหนังซ้อนหนังอีกที สมกับเป็นตอนจบปิดท้ายของหนังที่ทำให้คนดูเดินออกจากโรงได้อย่างสบายใจ การนำนักแสดงทั้งสี่จากตอน “คนกลาง” ใน 4 แพร่งกลับมา ไอเดียดีจนทำให้ผมคิดว่า คุณบรรจงผู้กำกับ น่าจะทำหนังใหญ่ที่แยกตัวออกมาทำเองกำกับเอง ทั้งเรื่องได้แล้วหลังจากเป็นผู้กำกับร่วมทั้ง shutterและแฝด ร่วมกันจนฮิตมาแล้ว ผมคนนึงล่ะที่จะขอตามไปดูเลยทีเดียว ประเด็นเรื่อง “ความรับผิดชอบ” และสำนวนที่ว่า the show must go on แท้ๆทำให้มุขที่สอดแทรกเข้ามาตลอด กับการเล่นเอาล่อเอาเถิดกับคนดู แพรวพราวมาก ขอปรมมือให้ดังๆเลยทีเดียว และช๊อคมากกับบทบาทของ มาช่าที่ปล่อยกันเต็มที่เลยทีเดียว ขอปรมมือให้ดังๆเลยครับ โดยเฉพาะมุขในห้องน้ำนี่เล่นเอาผมอึ้ง ทึ่ง เสียวเลยทีเดียว ไม่นึกว่าทั้งผู้กำกับและมาช่าจะกล้าเล่นมุขนี้ ชูนิ้วโป้งสองนิ้วให้เลย ที่สำคัญผมคิดเล่นๆนะครับถ้าจะแยกนักแสดงทั้งสี่มาทำเป็นซี่รีย์ ซักชุดน่าจะมันดีครับ ทุกคนเล่นดีรับส่งมุขกันน่าดู สนุกมาก อยากดูอีกคร้าบบบคุณบรรจง

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

 

สรุปภาพรวมของภาคนี้มีดีจนน่าติดตามครับ ทั้งประเด็นต่างๆของหนังที่สอดแทรกลงไป น่าจะทำให้วัยรุ่นอันเป็นกลุ่มหลักของหนังน่าจะฉุกคิดได้บ้างอย่างน้อยก็ทำให้เรื่อง บาปบุญคุณโทษไม่ใช่ของเชยที่หลุดยุคนี้ไปได้

 

ความประทับใจหนัง 5 แพร่ง

รีวิวหนัง 5 แพร่ง ล่าสุดได้ข่าวมาว่าหนังทำรายได้วันแรกทุบสถิติหนังผีทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่นางนากได้สำเร็จหนังทำเงินแน่ๆแต่ทำได้เท่าไหร่และจะทุบสถิติภาคแรกได้ไหมคงต้องรอดูผลกันอีกในสุดสัปดาห์นี้ก็ทราบและพยากรณ์กันได้แล้วครับ
ไปชมกันครับ สนุกและมีดีอย่างที่บอกครับ
บทเรียนสอนใจได้ดี มีมุมสะเทือนใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ทีเดียว

โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล สร้างความประทับใจ “คนกลาง” ในภาคก่อนด้วยความน่ากลัวบวกความฮา มาในภาคนี้ก็ไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวังอย่างเคย เพียงแต่สิ่งที่อาจจะทำได้ไม่เท่า “คนกลาง” ก็คงจะเป็นที่ “คนกอง” ดูจะไม่น่าสะพรึงกลัวสักเท่าไหร่ หากเน้นไปที่ความฮาเสียมากกว่า สังเกตได้จากเสียงหัวเราะลั่นโรง เมื่อได้ทีมนักแสดงกลุ่มเดิมที่มากันอย่างครบถ้วน พร้อมตัวชูโรงตัวใหม่ กับการล้อเลียนหนังผีอีกหน โดยเฉพาะ “แฝด” ที่ มาช่า วัฒนพานิช คนเดิมเคยฝากความทรงจำเอาไว้ เรื่องราวในฉากหนึ่งของการถ่ายทำหนังผี ที่น้องคนนั้นที่เล่นเป็นผี เธอเกิดตายระหว่างถ่าย แต่ห่วงว่างานแสดงครั้งแรกของเธอจะไม่ลุล่วง จึงกลับมาป่วนกองถ่ายอีกครั้ง แพร่งนี้ คุณจะได้พบกับมาช่าในมุมที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหน
ความเห็นนี้ อาจจะไม่ตรงกับบางคนได้ อย่าว่ากันเลยนะ
ฉากที่ดูร้ายแรงที่สุด คงเป็นตอนจบของมัน ที่บ่งบอกอะไรบางอย่างได้ดี

 

 

ผมยอมรับว่า ประทับใจกับหลายแพร่งในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่แพร่งที่ดูจะได้ใจจากผมไปน้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็น “ห้องเตียงรวม” ของผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เลือก แดน วรเวช ดานุวงศ์ มารับบทหนังส่วนใหญ่เอาไว้เกือบจะคนเดียว กับเรื่องราวของ ตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาเรียกร้องห้องเดี่ยวแต่กลับต้องมาอยู่ร่วมห้องกับชายแก่ที่รอวันถอดเครื่องช่วยหายใจ การดำเนินเรื่องทำได้ดีในการสร้างความน่ากลัว แต่กลับสอบตกเรื่องการอธิบายที่มาที่ไป และไม่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการสื่อ
เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของมาช่าจริงๆ

 

รีวิวหนัง 5 แพร่ง

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สลัดภาพจากแฟนฉัน และเด็กหอ โตขึ้นเป็นหนุ่มบนรถบรรทุก ที่รับสองหนุ่มสาว “Backpackers” ชาวญี่ปุ่นนักโบกขึ้นร่วมทาง ก่อนที่จะได้เห็นว่าอะไรที่เขาขนมา จากหนังตัวอย่าง เราคงได้เห็นภาพคล้ายซอมบี้วิ่งตามไล่ล่ารถบรรทุกคันนั้น ในแพร่งนี้ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ เปิดเผยที่มาที่ไปของพวกมัน เขาหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้าควบรวมจนกลายเป็นหนังซอมบี้ขึ้นมา หนังมีที่มาที่ไปอยู่พอควร แต่อาจจะไม่ทำให้บางคนเข้าใจมากนัก อันนี้ มันเป็นสไตล์ ซอมบี้ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้จากหนังผีไทยนัก แต่มันถูกนำมาใช้เพื่ออธิบาย “ความบ้า” ของบางสิ่งหรือเปล่า

 

 

โดยรวม ผมประทับใจตรงแง่มุมของหลายแพร่งที่ผู้กำกับพยายามนำเสนอ โดยส่วนตัว ผมไม่ได้กลัวผีในแต่ละแพร่งแต่อย่างใด แต่ผมรู้สึกสนุกดีที่เห็นคนข้างๆ ผมรู้สึกกลัวภาพบนจอยักษ์ และเห็นคนอีกข้างก็ดูจะกลัวเอามากเช่นกัน เห็นปิดหน้าปิดตาใหญ่เชียว มุกตกใจถูกนำมาใช้ไม่บ่อยนัก ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่มันทำให้ผมสะดุ้งได้ในจังหวะที่เขาอยากให้ผมสะดุ้ง แต่ละเรื่อง ผมรู้สึกถึงจุดร่วมที่พูดถึง “เหตุบนท้องถนน” ทั้งการปาหินเข้าใส่รถ ความประมาทที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ การขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย ธุรกิจที่มาหากินกับสมบัติของคนตาย ส่วนอีกแพร่งที่ดูเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ก็ยังมีฉากอุบัติเหตุบนท้องถนน ผมไม่มีปัญหากับการเรียงเรื่อง เรียงแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว คนดูอื่นๆ ก็น่าจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

 

ความจริงชื่อของอีเรียมซิ่งผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ในโปรแกรมมาตั้งแต่ต้นปี 2020 แล้วและนี่น่าจะเป็นหนังไทยตกค้างมาจากช่วงการระบาดของโควิด-19 เมื่อตอนต้นปีที่อยู่ในการรับรู้ของคนไทยมากที่สุดแล้ว และหลังจากที่เลื่อนไปมาจนลงตัวในที่สุดเราก็จะได้เห็นเบลล่า ราณี แคมเปน ในมาดอีเรียมวีรสตรีแห่งบางน้ำกร่อยกันแล้ว สปอยหนัง

เนื้อเรื่อง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง เมื่อโจรปากแดงสุดโฉดออกล่าพรหมจรรย์สาว ๆ เพื่อความเป็นอมตะ และจุดหมายของมันคือ อีเรียม (ราณี แคมเปน) สาวแสบแห่งบางน้ำกร่อยที่ต้องรวบรวมความกล้าและของดีของหลวงพ่อไปช่วยแม่และแรม (ณปภา ตันตระกูล) พี่สาวกุลสตรีแสนเรียบร้อยของนาง

แต่งานนี้อีเรียมไม่ได้สู้เพียงลำพังเพราะยังมีพรรคพวกสุดแสบทั้งฟักทอง (เดียร์ริส สุภัทรภณ กสิกรรม) เพื่อนกะเทยร่วมเรือน, ศรฆ้อนมหากาฬ (น้าค่อม ชวนชื่น), โตโล่บิน (โรเบิร์ต สายควัน) และ หมอ (บอล เชิญยิ้ม) หมอยาสมุนไพรวิเศษ งานนี้อเวนเจอร์แห่งบ้านบางน้ำกร่อยจะช่วยครอบครัวจากโจรร้ายได้หรือไม่ หนังไทยมาใหม่

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

เมื่อโจรปากแดงสุดโฉดออกล่าพรหมจรรย์สาว ๆ เพื่อความเป็นอมตะ และจุดหมายของมันคือ อีเรียม (ราณี แคมเปน) สาวแสบแห่งบางน้ำกร่อยที่ต้องรวบรวมความกล้าและของดีของหลวงพ่อไปช่วยแม่และแรม (ณปภา ตันตระกูล) พี่สาวกุลสตรีแสนเรียบร้อยของนาง แต่งานนี้อีเรียมไม่ได้สู้เพียงลำพังเพราะยังมีพรรคพวกสุดแสบทั้งฟักทอง (เดียร์ริส สุภัทรภณ กสิกรรม) เพื่อนกะเทยร่วมเรือน, ศรฆ้อนมหากาฬ (น้าค่อม ชวนชื่น), โตโล่บิน (โรเบิร์ต สายควัน) และ หมอ (บอล เชิญยิ้ม) หมอยาสมุนไพรวิเศษ งานนี้อเวนเจอร์แห่งบ้านบางน้ำกร่อยจะช่วยครอบครัวจากโจรร้ายได้หรือไม่ ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

สิ่งที่ทำให้คนดูสนใจในตัวหนังอย่าง อีเรียมซิ่ง คงหนีไม่พ้นบรรดามุกกาว ๆ สไตล์หนังผจญภัยตลกและการได้เห็นเบลล่า ราณีมาทำหน้าเป็นและเล่นมุกสไตล์ตลกคาเฟ่พร้อมเสริมทัพด้วยบรรดานักแสดงตลกขาประจำทั้งน้าค่อม คุณโรเบิร์ต สายควันและคุณบอล เชิญยิ้มที่เห็นหน้าก็การันตีได้เลยว่าหนังต้องสนุกสนานและสร้างเสียงหัวเราะได้แน่นอน แต่ผิดคาดเราไม่แน่ใจว่าด้วยความที่หนังออกฉายช้าหรือตัวหน้งจริงมีปัญหาการถ่ายทำอะไรหรือเปล่าถึงทำให้มันออกมาเป็นต้มยำที่ไม่จี๊ดจ๊าดและดูจืดชืดเกินไปหน่อย

ปัญหาแรกต้องยอมรับเลยว่าตัวบทหนังดูจะยังไม่สามารถทำให้เรารักอีเรียมได้มากพอจะเอาใจช่วยนางเท่าไหร่นัก คือจากตัวอย่างเราเห็นเรียมเปิ่นฮาและก๋ากั่นยังไงตัวหนังจริงก็ไม่ได้ให้อะไรเรามากกกว่านั้นสักเท่าไหร่ และยิ่งการให้เบลลาเล่นมุกตลกแบบรวมฮิตทั้งมุก “ท่านเกียรติผู้มีแขก” มุกปักตะไคร้ หรือบรรดามุกสังขารต่าง ๆ ก็ทำให้เบลลาดูเป็นหุ่นยนต์ก๊อปปี้มุกตลกมากกว่าจะสร้างเสน่ห์ให้เธอเหมือนอย่างบทแม่การะเกดในบุพเพสันนิวาส แม้ว่าต้องยอมรับว่าเธอก็เล่นตลกแบบไม่ห่วงสวยจนสร้างความครื้นเครงให้หนังได้อยู่บ้างก็ตามส่วนปัญหาต่อมาแม้ว่าหนังจะมีคอนเซ็ปต์การเป็นหนังผจญภัยสไตล์นิยายเพชรพระอุมาที่มีทั้งจระเข้ยักษ์

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

งูเห่าเพลิง มีคาถาอาคมแต่ด้วยคุณภาพงานสร้าง CG ต่าง ๆ ที่ทำได้ไม่ถึงพอมันอยู่ในหนังก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นอะไรนักและด้วยจังหวะหนังที่เหมือนถูกบังคับท่าไม้ตายให้เป็นหนังตลกหรือเปล่าก็ไม่ทราบมันเลยถูกนำเสนอแบบขอไปที แถมยังต้องเจียดเวลาของหนังมาให้น้าค่อม โรเบิร์ตสายควันและบอล เชิญยิ้ม ได้เล่นมุกสังขารปากบวมตัวบวมอะไรอีก จนฉากผจญภัยที่ควรสร้างความตื่นเต้นหมดพลังไปอย่างน่าเสียดาย

แต่กระนั้นตัวหนังก็ยังมีจุดที่ทำให้เราได้สนุกไปกับมันอยู่บ้างโดยเฉพาะการมีอยู่ของแพท ณปภา ตันตระกูล ที่สามารถฉายเสน่ห์ในมุกโดนวางยาว่านราคะที่ทั้งเซ็กซี่และฮาสุด ๆ รวมไปถึงมุกบีตบ็อกซ์ที่ต้องยอมรับเลยว่าขโมยซีนเบลลาเห็น ๆ แถมการปรากฎโฉมของแพทในชุดเกาะอกแบบไทย ๆ ยังน่าจะได้ใจหนุ่ม ๆ ได้ไม่ยากเลยทีเดียว ดูหนังอีเรียมซิ่ง netflix

และอีกส่วนที่ดีงามมากของหนัง อีเรียมซิ่ง คือคอนเซ็ปต์ของการแอบหยอกหนังนอกทั้งดนตรีประกอบฉากที่อีเรียมเตรียมไฝ่ว์นี่อย่างกับดนตรีในเทรลเลอร์ Wonder Woman 1984 หรือการคิดคอนเซ็ปต์ให้บรรดาแก๊งน้าค่อม คุณโรเบิร์ตและคุณบอลได้กลายเป็น Thor, Captain America และ Doctor Strange แบบเพี้ยน ๆ ก็เรียกเสียงฮาได้ดีเลยทีเดียว และเป็นจุดแข็งแรงที่ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของนักแสดงตลกทั้ง 3 ท่านที่ถือเป็น MVP ที่ทำให้หนังอย่าง อีเรียมซิ่ง ยังคงมีความสนุกอยู่บ้าง

 

อีเรียมซิ่ง หนังใหม่ไทยที่มาพร้อมกับความฮา

อีเรียมซิ่ง เป็นภาพยนตร์ไทยซึ่งอันที่จริงต้องเข้าฉายไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นๆ แต่เพราะพิษ Covid-19 ทำให้ต้องเลื่อนฉายมาจนป่านนี้ และกลายเป็นงานภาพยนตร์ลำดับสุดท้ายของพี่โรเบิร์ต สายควัน ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ และหากใครกำลังมองหางานที่จะรับชมเพื่อ Tribute ให้แก อีเรียมซิ่งก็สามารถเป็น 1 ในตัวเลือกนั้นได้อย่างไม่ยากไม่เย็น แต่ถ้าจะไปดูเอาสนุก เอาบันเทิงตามที่หน้าหนังได้โฆษณาไว้… อีเรียมซิ่งก็ยังเป็นคำตอบที่ใช่อยู่ดี เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยฮาจัดส่งท้ายปีที่สามารถไปดูกันได้โดยไม่ติดขิดตะขวงใดๆ

อีเรียมซิ่ง เป็นผลงานกำกับลำดับที่ 4 ของผู้กำกับ “ตุ๋ย” พฤกษ์ เอมะรุจิ ถัดจาก ป้าแฮปปี้ She ท่าเยอะ และ ไบค์แมนทั้ง 2 ภาค ซึ่งส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าแกเป็นเหมือน Legacy ของ “ยอร์ช” ฤกษ์ชัย พวงเพชร อดีตผู้กำกับดังที่ตอนนี้ก็นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ค่าย “รฤกษ์” ซึ่งทำหนังเรื่องนี้นี่แหละ เนื่องจากพวกจังหวะยิงมุกหรือการคัทฉากเพื่อให้เกิดเป็นซีนลั่นๆ ขึ้นมานี่คล้ายสไตล์ของคุณยาร์ชสมัยทำหนังซีรีส์ “ส่ายหน้า” มากๆ อี เรียมซิ่ง 037

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

 

และด้วยความที่ผมค่อนข้างซื้อมุกสไตล์นี้อยู่พอสมควร เลยค่อนข้างไฮป์ตอนไบค์แมนภาคแรกมากๆ แม้ภาค 2 จะดรอปมาหน่อยแต่ในภาพรวมผู้กำกับพฤกษืก็ยังไม่สิ้นเครดิตในสายตาผมนัก และผมยินดีจริงๆ ที่อีเรียมซิ่งเหมือนเป็นงานคืนฟอร์มเบาๆ ของแกอีกครั้ง แม้เนื้อเรื่องกับพล็อตจะธรรมดาไปหน่อย แต่การเล่าเรื่องที่จงใจให้คอนทราสต์กับยุคสมัยและการรัวมุกจากดาวตลกและดาราสายฮาระดับแถวหน้าของเมืองไทย ก็ช่วยให้อีเรียมซิ่งกลายเป็นเมนูธรรมดาที่อิ่มอร่อยไปโดยปริยาย

อีเรียมซิ่ง เป็นหนังตลกที่มาแรงมากมาก เข้าฉายเพียงไม่นานก็ปักธงจะมุ่งสู่ร้อยล้านแล้ว ด้วยหน้าหนังตอนแรก แอบนึกว่านี่เป็นหนังตลกที่ออกมาดาษดื่น แต่พอได้ข้อมูลว่าเป็นของค่ายรฤก เราก็แอบวางใจ เพราะผลงานของค่ายนี้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าแม้จะเป็นหนังตลกตบมุก แต่ก็ได้เสียงหัวเราะแน่นอน

 

พล็อตของหนัง อีเรียมซิ่ง

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้จริง ๆ แล้ว ไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องของ เรียม ที่อิจฉา แรม พี่สาวของตน ซึ่งมีคนรักเยอะ เพราะเป็นสาวเรียบร้อย ตามแบบอย่างกุลสตรีในอุดมคติ แบบกรอบของสังคมสมัยก่อน ในขณะที่เรียมเป็นสาวห้าว ทะมัดทะแมง เล่นต่อสู้กับผู้ชาย

บทหนังเดินเป็นเส้นตรง ๆ ตามสไตล์หนังขายตลกในลักษณะคาเฟ่ แต่ก็มีการผูกโยงเรื่องกันแบบหลวม ๆ แม้ว่าโครงเรื่องหลักจะเดาได้ไม่ยาก แต่ก็ทำออกมาได้ตลก และมีมุกที่อาศัยเซอไพร์สหลายอย่าง ซึ่งบางมุกอาจจะเหมาะกับคนที่ตามข่าวสารวงการบันเทิงอยู่แล้วนิดหน่อย แต่ถึงไม่ได้ตามผมก็ว่ายังฮาได้ครับ โดยรวมหนังเรื่องนี้ขายขำ เอาฮา ใครอยากดูหนังคลายเครียดผมแนะนำเลยครับ จังหวะตบมุกเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย ใครชอบหนังของค่ายนี้อย่าง ไบค์แมน เรื่องนี้ก็มาในสไตล์เดียวกันครับ ดูหนังอีเรียมซิ่ง doomovie

 

 

สิ่งที่ทำให้คนดูสนใจ

สิ่งที่ทำให้คนดูสนใจดูหนังออนไลน์ในตัวหนังอย่าง อีเรียมซิ่ง คงหนีไม่พ้นบรรดามุกกาว ๆ สไตล์หนังผจญภัยตลกและการได้เห็นเบลล่า ราณีมาทำหน้าเป็นและเล่นมุกสไตล์ตลกคาเฟ่พร้อมเสริมทัพด้วยบรรดานักแสดงตลกขาประจำทั้งน้าค่อม คุณโรเบิร์ต สายควัน และคุณบอล เชิญยิ้มที่เห็นหน้าก็การันตีได้เลยว่าหนังต้องสนุกสนานและสร้างเสียงหัวเราะได้แน่นอน แต่ผิดคาดเราไม่แน่ใจว่าด้วยความที่หนังออกฉายช้าหรือตัวหน้งจริงมีปัญหาการถ่ายทำอะไรหรือเปล่าถึงทำให้มันออกมาเป็นต้มยำที่ไม่จี๊ดจ๊าดและดูจืดชืดเกินไปหน่อย

แม้ว่ามุกตลกในหนังที่ใส่เข้ามาจะไม่ได้มีอะไรหวือหวาและแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่นัก แต่การแสดงของ เบลล่า ราณี ก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เธอสามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัด โชว์ทักษะการแสดงบ้าๆ บอๆ และไม่กลัวสวยออกมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะการหยอดมุกที่ดูเข้าขากับนักแสดงตลกมืออาชีพได้อย่างลงตัวและไม่มีติดขัดสักฉาก หากดูที่หน้าจอทีวีในเวลาก็น่าจะเป็น เบลลา ราณี

ในอีกคาแรกเตอร์กับละครเรื่องแซ่บ แต่หากมาอยู่บนจอใหญ่ก็จะได้เห็นเธอในอีกคาแรกเตอร์ที่พลิกขั้วเป็นสาวชาวบ้านที่แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์ความก๋ากั๋น และสร้างอารมณ์ขันได้เป็นอย่างดี จึงเป็นการงัดทักษะการแสดงของนักแสดงสาวผู้นี้ออกมาและได้ปล่อยของในอีกมุมอีกด้านที่ไม่ค่อยได้เห็นเธอในมุมนี้เท่าไหร่

 

รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง

ปัญหาแรกต้องยอมรับเลยว่าตัวบทหนังดูจะยังไม่สามารถทำให้เรารักอีเรียมได้มากพอจะเอาใจช่วยนางเท่าไหร่นัก คือจากตัวอย่างเราเห็นเรียมเปิ่นฮาและก๋ากั่นยังไงตัวหนังจริงก็ไม่ได้ให้อะไรเรามากกกว่านั้นสักเท่าไหร่ และยิ่งการให้เบลลาเล่นมุกตลกแบบรวมฮิตทั้งมุก “ท่านเกียรติผู้มีแขก” มุกปักตะไคร้ หรือบรรดามุกสังขารต่าง ๆ ก็ทำให้เบลลาดูเป็นหุ่นยนต์ก๊อปปี้มุกตลกมากกว่าจะสร้างเสน่ห์ให้เธอเหมือนอย่างบทแม่การะเกดในบุพเพสันนิวาส แม้ว่าต้องยอมรับว่าเธอก็เล่นตลกแบบไม่ห่วงสวยจนสร้างความครื้นเครงให้หนังได้อยู่บ้างก็ตาม

ส่วนปัญหาต่อมาแม้ว่าหนังจะมีคอนเซ็ปต์การเป็นหนังผจญภัยสไตล์นิยายเพชรพระอุมาที่มีทั้งจระเข้ยักษ์ งูเห่าเพลิง มีคาถาอาคมแต่ด้วยคุณภาพงานสร้าง CG ต่าง ๆ ที่ทำได้ไม่ถึงพอมันอยู่ในหนังก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นอะไรนักและด้วยจังหวะหนังที่เหมือนถูกบังคับท่าไม้ตายให้เป็นหนังตลกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ มันเลยถูกนำเสนอแบบขอไปที แถมยังต้องเจียดเวลาของหนังมาให้น้าค่อม โรเบิร์ตสายควันและบอล เชิญยิ้ม ได้เล่นมุกสังขารปากบวมตัวบวมอะไรอีก จนฉากผจญภัยที่ควรสร้างความตื่นเต้นหมดพลังไปอย่างน่าเสียดาย

แต่กระนั้นตัวหนังก็ยังมีจุดที่ทำให้เราได้สนุกไปกับมันอยู่บ้างโดยเฉพาะการมีอยู่ของแพท ณปภา ตันตระกูล ที่สามารถฉายเสน่ห์ในมุกโดนวางยาว่านราคะที่ทั้งเซ็กซี่และฮาสุด ๆ รวมไปถึงมุกบีตบ็อกซ์ที่ต้องยอมรับเลยว่าขโมยซีนเบลลาเห็น ๆ แถมการปรากฎโฉมของแพทในชุดเกาะอกแบบไทย ๆ ยังน่าจะได้ใจหนุ่ม ๆ ได้ไม่ยากเลยทีเดียว และอีกส่วนที่ดีงามมากของหนัง อีเรียมซิ่ง คือคอนเซ็ปต์ของการแอบหยอกหนังนอกทั้งดนตรีประกอบฉากที่อีเรียมเตรียมไฝ่ว์นี่อย่างกับดนตรีในเทรลเลอร์ Wonder Woman 1984 หรือการคิดคอนเซ็ปต์ให้บรรดาแก๊งน้าค่อม  ดูหนังออนไลน์

 

 

คุณโรเบิร์ตและคุณบอลได้กลายเป็น Thor, Captain America และ Doctor Strange แบบเพี้ยน ๆ ก็เรียกเสียงฮาได้ดีเลยทีเดียว และเป็นจุดแข็งแรงที่ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของนักแสดงตลกทั้ง 3 ท่านที่ถือเป็น MVP ที่ทำให้หนังอย่าง อีเรียมซิ่ง ยังคงมีความสนุกอยู่บ้าง

โดยรวม

โดยภาพรวมของ อีเรียมซิ่ง ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์คนดูในทุกๆ ทาง แม้ว่าจะเป็นเพียงหนังตลกสูตรสำเร็จเรื่องหนึ่งก็ตาม แต่ภายใต้ความสำเร็จรูปในแบบต่างๆ ก็สามารถสร้างอรรถรสความบันเทิงให้กับคนดูได้อย่างตรงไปตรงมา ตลอดระยะเวลากว่าชั่วโมงครึ่งของหนังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้คนดูได้ ผ่อนคลายและปล่อยเสียงหัวเราะออกมาได้แบบไม่เคอะเขิน และที่สำคัญหนังยังมาพร้อมกับการเซอร์ไพรส์แบบคำโตๆ ที่ทำให้คนดูต้องร้องว้าวที่เป็นไฮไลท์เด่นอีกส่วนหนึ่งของหนัง และยิ่งเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับหนังเข้าไปอีก ดูอีเรียมซิ่ง hd พากย์ไทย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

 

สปอยหนัง yes or no อยากรัก ก็รักเลย เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2553 กำกับโดยสรัสวดี วงศ์สมเพ็ชรนำเสนอมุมมองการรักเพศเดียวกันในผู้หญิง เป็นเรื่องราวของนักศึกษามหาวิทยาลัยในที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมห้องพักเดียวกัน ดูแลกันจนพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นความรัก บทภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือสองเล่มโดย ลลนล “yes รักนี้ใช่เลย” และ “no ก็ว่าจะไม่รัก” โดยสำนักพิมพ์สีม่วงอ่อนและ comeon

 

เนื้อเรื่อง yes or no อยากรัก ก็รักเลย

พาย (ออม-สุชารัตน์) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหา’ลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง “เจน” (ดิว-อริสรา) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้พายเองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง “คิม” (ติ๊นา-ศุภนาฎ) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก..การมาเรียนวันแรกที่นี่ของคิม ทำให้ เจน ที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที หนังไทยย้อนยุค

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

แต่ พาย เธอกลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของคิมที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็กๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจากพายเท่าไหร่นัก

การมาอยู่หอพักในมหา’ลัยของ พาย นั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม “แวน” (บอล-สรณัฐ) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของพาย โดยเฉพาะแม่ของพายที่คาดหวังว่าพายและแวน จะได้เป็นแฟนกัน และแน่นอน แวน นั้นแอบรักพายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

ตัวละครเรื่อง yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปของตัวละครทีละขั้นและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นโดยตัวละครและคนรอบข้าง เดิมพายและแม่เกลียดทอม ส่วนคิมก็ไม่เคยชอบใครไม่ว่าหญิงหรือชาย เมื่อทั้งสองคนได้มาเป็นเพื่อนร่วมห้องพักกัน ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปเป็นลำดับ ขณะที่มีพี่แวนมาจีบพายและเจนมาจีบคิม คิมและพายต้องค้นหาตัวเองและฝ่าฟันอุปสรรคในบริบทของสังคมไทยเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักที่ตนเองต้องการ จนในที่สุดสองคนก็รักกันและคบกันอย่างเปิดเผยโดยที่สังคมรอบข้างและคนใกล้ตัวรับรู้

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

yes or no 2.5 เต็มเรื่อง อยากรัก ก็รักเลย ถูกจัดอยู่ในเรต 4 “น 15+” ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งดูจากหน้าปก ก็แน่นอนว่าเป็นนิยายวัยรุ่นแนว y ตามสมัยนิยม เดี๋ยวนี้วัยรุ่นเค้าไม่อ่านนิยายรักแล้ว

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

พายมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องในหอพักจึงต้องย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับคิม แรกทีเดียวนั้นพายรังเกียจที่คิมมีพฤติกรรมคล้ายทอม ทั้งหน้าตาและอากัปกิริยาคล้ายผู้ชาย จึงลากเทปสีแดงกั้นเขตในห้อง ห้ามมิให้คิมล่วงล้ำข้ามไปถึงตัวพาย คิมปฏิเสธว่าตนเองมิใช่ทอมและถามว่าทอมคืออะไร คิมบอกพายว่ายังไม่เคยชอบใครไม่ว่าหญิงหรือชาย และพูดต่อไปว่าถ้าเราชอบใครสักคน ชอบที่จะอยู่กับเขา ชอบที่จะเล่นกับเขา แต่เขาดันเป็นผู้หญิง เราก็กลายเป็นทอมเลยใช่หรือเปล่า แล้วความเป็นเราจะเปลี่ยนไปไหม เราก็ยังเป็นคนเดิม แต่จะมีใครมองเห็นบ้างไหมนอกจากจะตราหน้าว่าเราเป็นทอม yes or no 3 เต็มเรื่อง

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

 

คิมผูกมิตรกับพายด้วยการทำอาหารในหม้อหุงข้าวแล้วชวนให้พายทาน โดยยื่นข้ามเส้นแดงไปให้ ทั้งสองจึงรู้จักกันมากขึ้น คิมเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว ส่วนพายชอบเลี้ยงปลา คิมได้โอกาสจึงถามพายว่าทำไมเลี้ยงปลาตัวเดียว พายจึงอธิบายให้ฟังว่าปลาดุต้องเลี้ยงตัวเดียว คิมจึงถือโอกาสแซวว่าเหมือนเจ้าของ และถามต่อว่ามีปลาที่เป็นทอมหรือปลาที่ไม่ชอบทอมบ้างไหม พายตอบได้เพียงว่ามีปลาที่รักเพศเดียวกัน แต่พายงอนไปเมื่อรู้ว่าคำถามถึงปลาที่ไม่ชอบทอมเป็นการกระทบตนอีก คิมต้องตามหาร้านน้าอินเพราะพ่อฝากไวน์มาส่ง คิมหาร้านไม่พบจนในที่สุดพายต้องพาไปโดยถือเป็นการตอบแทนอาหารของคิม ตั้งแต่นั้นมาคิมก็ไปมาหาสู่ที่ร้านน้าอิน ทั้งไปทานขนม เล่นดนตรี และได้น้าอินเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ

ฝนตกน้ำเข้าห้องพักของทั้งคู่ เตียงของพายเปียก คิมจึงข้ามเส้นแดงเข้าช่วยเหลือ และเสนอให้พายนอนเตียงคิม ส่วนคิมนอนพื้นได้เพราะคิมเป็นลูกชาวสวน จากนั้นฟ้าคะนองจนไฟฟ้าดับคิมจึงเข้าไปกอดพาย ทั้งสองจุดเทียนเล่นเงาเป็นรูปนกอยู่ในห้อง ความสัมพันธ์จึงพัฒนาขึ้นเป็นลำดับโดยไม่ถูกกีดกันโดยเส้นแดงแบ่งเขตอีกต่อไป ทั้งสองเรียนรู้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายชอบและไม่ชอบและเลื่อนเตียงมาติดกัน

 

ด้านการแสดงและด้านต่างๆ yes or no อยากรัก ก็รักเลย

รีวิวหนัง yes or no อยากรัก ก็รักเลย ด้านการแสดง ขอพูดถึงนางเอกของเรื่อง ออม-สุชารัตน์ ที่เคยผ่านผลงานจากภาพยนตร์ ปายอินเลิฟ มาแล้ว ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง yes or no อยากรักก็รักเลย ถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของสาวออม ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยความสามารถที่มีเกินร้อยของเธอบวกกับด้านการศึกษาที่จบเอกการแสดงจากรั่วมหา’ลัย มามาดๆ ทำให้สาวออมได้คะแนนด้านการแสดงไปเต็มๆกับบทนี้ มากันที่พระเอกสาวหล่อของเรื่อง ติ๊นา-ศุภนาฎ เรียกว่าเป็นน้องใหม่แกะกล่อง แต่ก็เป็นกล่องคุณภาพซะด้วย น้องติ๊นาทำได้ดีมากในเรื่องของการแสดง เรียกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แจ้งเกิดสาวหล่อดาวรุ่งคนใหม่ขอวงการ ที่สาวๆเห็นเป็นต้องกรี๊ด ด้วยบุคลิคน่ารักอบอุ่นของติ๊นาทำให้เรื่องนี้เธอได้คะแนนจากเหล่าชะนีเทียมไปไม่น้อย ส่วนนักแสดงท่านอื่นก็แสดงได้ดีมาก

 

 

ด้านภาพ แสง สี เสียง ก็อยู่ในเกณฑ์ดี ภาพสวย วิวและโรเกชั่นก็สวย ถึงฉากสวยใหญ่จะอยู่ในห้องและมหาวิทยาลัย แต่ก็นับว่าเป็นการเลือกมุมภาพที่ลงตัว ถ่ายทอดออกมาได้สวยงาม yes or no คนที่ใช่ ใครที่ชอบ

 

รีวิว yes or no อยากรัก ก็รักเลย

ชื่อภาษาไทย Yes or No อยากรัก ก็รักเลย จัดจำหน่ายโดย Come On Sweet กำหนดฉาย 16 ธันวาคม 2553 เรื่องย่อ Yes or No อยากรัก ก็รักเลย “พาย” (ออม-สุชารัตน์) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหา’ลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง “เจน” (ดิว-อริสรา) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้พายเองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง “คิม” (ติ๊นา-ศุภนาฎ) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก..การมาเรียนวันแรกที่นี่ของคิม ทำให้ เจน ที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที แต่ พายเธอกลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของคิมที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็กๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง

ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจากพายเท่าไหร่นัก.. การมาอยู่หอพักในมหา’ลัยของ พาย นั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม “แวน” (บอล-สรณัฐ) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของพาย โดยเฉพาะแม่ของพายที่คาดหวังว่าพายและแวน จะได้เป็นแฟนกัน และแน่นอน แวน นั้นแอบรักพายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว… เรื่องราว ความรักของทั้งสี่ คน มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจ ความวุ่นวาย สับสน ในใจของ เธอและเธอ บทสรุปแล้ว..มันจะเป็นอย่างไร…? เพราะคำว่า “รัก”…เกิดขึ้นกับใครก็ได้ กับเพศไหนก็ได้ …เพราะสุดท้ายรักก็คือ “รัก” รายชื่อนักแสดงนำ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ออม-สุชารัตน์ มานะยิ่ง ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา บอล-สรณัฐ ยุปานันท์ อิน บูโดกัน ผู้กำกับ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร

 

 

ถือว่าเป็นหนังรักทางเลือกใหม่ ที่ผู้กำกับ นาย-สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ตั้งใจนำเสนอ แม้จะไม่เคยผ่ายงานด้านการกำกับภาพยนตร์มาก่อน แต่สำหรับ yes or no? อยากรักก็รักเลย ดูจะเป็นคำตอบให้ผู้กำกับหญิงคนนี้สอบผ่านได้แบบสวยงาม เพราะการถ่ายทอดเรื่องราวที่กลมกร่อมและลงตัว ได้เห็นความน่ารักของตัวละคร ความใสซื่อของพระเอกที่มีต่อนางเอก และที่สำคัญเข้าใจถึงอารมณ์ของหนังได้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังรักฉาบฉวย แต่เป็นความอบอุ่นความจริงใจที่ตัวละคร คิม มีต่อ พาย ถึงแม้จะเป็นหนังรักฟอร์มเล็กๆ แต่ฝีมือการกำกับไม่ทำให้ตกฟอร์มอย่างแน่นอนค่ะ ขอเป็นกำกัลใจให้คุณผู้กำกับ

เรียกว่าเป็นหนังรักทางเลือกใหม่ จากค่ายเล็กๆ ที่ดูจะเปิดตัวแรง ด้วยการกล้าที่จะส่งหนังรักโรแมนติก “หญิงรักหญิง” ออกสู่ตลาดภาพยนตร์ แต่ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป เพราะคนดูเริ่มจะรับได้กับสิ่งที่ผู้ผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์(ไทย) กล้าที่จะนำเสนอภาพยนตร์ในแง่มุมที่แตกต่างไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะหนัง “ชายรักชาย” หรือ “หญิงรักหญิง” ก็ดูจะกลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว เลยทำให้รู้สึกได้ว่าวงการภาพยนตร์ไทยเปิดกว้างมากขึ้นที่จะทำหนังรักทางเลือกใหม่ ออกสู่สายตาคนดู ที่จะมีภาพยนตร์ที่หลากหลายแนว หลากหลายรูปแบบมาให้คนดูได้เลือกชมกัน

ซึ่ง yes or no อยากรักก็รักเลย ก็เป็นหนังไทยอีกเรื่อง ที่น่าชม และทำในเข้าใจมุมมองของคำว่า “หญิงรักหญิง” เพิ่มมากขึ้น หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงแค่รักฉาบฉวย แต่คุณค่าของมันกลับทำให้รู้ว่า ผู้หญิงห้าว หรือ สาวหล่อ ก็มีดีไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน yes or no อยากรัก ก็รักเลย pantip

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

 

สปอยหนัง หากคุณอยากกลับไปนึกถึงคนแรกที่ทำให้คุณได้รู้จักคำว่า “รัก” อีกครั้งและเขาก็ยังคงเป็นรักแรกที่ติดตรึงอยู่ในหัวใจคุณตลอดเวลา มาวันนี้เรามีหนังที่จะพาคุณย้อนเวลาไปสู่ชีวิตวัยมัธยมซึ่งมีแต่ความสนุกสนาน มิตรภาพ เสียงหัวเราะ และน้ำตาอีกครั้งกับหนัง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” หนังไทยnetflix

ซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักกันดี ยิ่งใครอยู่มัธยมตอนที่หนังเรื่องนี้เพิ่งออกมาก็คงจะยิ่งติดใจจนดูซ้ำหลายรอบแน่นอน หนึ่งในนั้นก็คือเราค่ะ เพราะเรื่องนี้เลยทำให้เรารู้จักกับคำว่า “รักแรก” เหมือนกันเรื่องย่อของหนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก
หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “น้ำ”เด็กมัธยมหน้าตาขี้เหร่ถึงขั้นถูกเรียกว่า “ปลวก” เพราะไม่ค่อยสนใจดูแลตัวเองซึ่งน้ำได้ไปตกหลุมรัก “พี่โชน” รุ่นพี่ที่เป็นหนุ่มหล่อประจำโรงเรียน แต่เพราะมีคู่แข่งมากมาย
เธอจึงต้องลบคำสบประสามและทำให้เขาหันมาสนใจเธอให้ได้ ภารกิจแปลงโฉมจากปลวกน้อยให้กลายเป็นหงส์จึงเริ่มขึ้นท่ามกลางมิตรภาพของเพื่อนและความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟที่มีแววจะปั่นป่วนมากกว่าที่คิด ดูหนังออนไลน์

 

เนื้อเรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการตกหลุมรักรุ่นพี่ของน้ำ ซึ่งพี่โชนคนนี้ก็เป็นหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน แต่น้ำก็ไม่กล้าบอกกับพี่โชนไปตรง ๆ ว่าแอบรัก ก็ได้แต่ทำทุกวิถีทางให้พี่โชนสนใจในตัวเธอ สาวน้อยตัวดำ ๆ ก็ได้พวกเพื่อน ๆ ที่รู้มาโดยตลอดว่าแอบรักรุ่นพี่คนนี้มานานแล้ว ช่วยกันหลาย ๆ วิธีเพื่อที่ให้เพื่อนรักได้สมหวัง เริ่มจากการช่วยขัดสีฉวีวรรณเนื้อตัวให้ดูดีขึ้น สวยขึ้น แล้วไปสมัครเข้าชมรมการแสดง ไปเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ตั้งใจเรียน จนในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นสาวฮอตของโรงเรียน

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

จุดพีคมันอยู่ที่พี่โชนก็แอบหลงรักน้ำมานานแล้วเหมือนกัน แอบชอบตั้งแต่ตอนที่น้องน้ำยังมีหน้าตาขี้เหร่ และพี่โชนก็แอบตามถ่ายรูปเก็บและจดบันทึกไว้เป็นอัลบั้มเลย (แอบเขิน แอบมโนว่าตัวเองเป็นน้ำ) แต่สิ่งที่ทำให้พี่โชนกับน้ำไม่ได้เป็นแฟนกันสักที ก็เพราะว่าเพื่อนรักของพี่โชนที่ชื่อท็อปก็ดันตัดหน้าขอน้ำเป็นแฟนไปซะก่อน แถมทั้งสองก็เคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่เอาแฟนเก่าของเพื่อนมาเป็นแฟนของตัวเองเด็ดขาด (อิหยั่งว่ะ) จนวันที่น้ำตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกรักพี่โชนในวันที่พี่โชนจบการศึกษา ในวันนั้นเองที่ทำให้น้ำของเราต้องเศร้าใจอย่างหนัก เพราะพี่โชนได้ตกลงคบกันกับปิ่น ที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่นเอง แต่ลึกๆ แล้วเราก็ดูออกแหละ ว่าพี่โชนยังรักน้ำอยู่สิ่งเล็กๆ ดูหนังฟรี

 

ความน่าสนใจของหนัง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก มีความน่าสนใจตรงที่มีการถ่ายทอดให้เห็นถึงบุคลิกและชีวิตของตัวละครวัยมัธยมหลายตัวที่มีความเป็นธรรมชาติทำให้เรานึกถึงชีวิตของตัวเองในวัยมัธยมซึ่งมีโมเม้นต์หลายอย่างแบบนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแอบรักใครสักคน การคบหากับกลุ่มเพื่อนที่มีความเหมือนกันแม้จะไม่ใช่เพื่อนที่มีอะไรโดดเด่นแต่ก็ร่วมเป็นร่วมตายได้ตลอด

บทจะกรี๊ดรุ่นพี่ผู้ชายก็จะดี๊ด๊าเหมือนกันเป็นกลุ่มแบบสุมหัวเงียบ ๆ เพื่อนกันบางทีเราอยากทำอะไรก็มีอายเพราะกลัวโดนล้อ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้ช่วยเราเหมือนกับเพื่อนในกลุ่มที่ช่วยน้ำแปลงโฉมและใช้วิธีให้ของแทนใจแก่พี่โชนต่าง ๆ พยายามเข้าชมรมที่ทำให้มีคนสนใจซึ่งก็ได้เป็นชมรมละครเวทีที่น้ำในแสดงเป็นสโนไวท์

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

บอกเลยว่าฉากนี้เราฟินจิกหมอนตอนพี่โชนผู้น่ารักต้องมารับบทเจ้าชายจำเป็นและจูบลง สมองนี่คิดไปไกลก่อนนางเอกแล้วจ้า ตั้งแต่นั้นนางเอกก็เริ่มหน้าตาดีมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนซึ่งพี่โชนก็เริ่มจะเข้าหาเธอมากขึ้น แต่กับมีมารผจญคือเพื่อนพระเอกที่มาชอบนางเอกนี่ล่ะ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ดูได้ทางไหน

เราเสียน้ำตาให้กับฉากท้ายๆ หลายฉากมากไม่ว่าจะเป็นฉากที่นางเอกซึ่งห่างเหินจากเพื่อนๆ เพราะเอาแต่อยู่กับพวกพระเอกไปง้อจนกอดคอกันร้องเพลงวัน เดือน ปี และฉากที่นางเอกร้องไห้เปิดไดอารี่ซึ่งพระเอกเอามาให้ ในนั้นมีแต่รูปนางเอกทีเผลอที่พี่โชนแอบถ่ายไว้หลายรูปพร้อมข้อความบอกความในใจมากมายทำให้เราได้รู้ว่าพระเอกชอบนางเอกตั้งแต่ตอนหน้าปลวกแล้ว คือหน่วงมาก ณ จุดนี้ แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการค่ะ

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักทำให้เราได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพความรักของการเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างกันและกัน แม้ว่าเราจะทำตัวอย่างไรสายใยระหว่างเพื่อนก็ไม่สามารถตัดได้ขาด และในมุมมองของความรัก สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวตนจนบรรลุเป้าหมายให้อยู่ในสายตาเขามากแค่ไหน แต่เขาก็รักที่คุณเป็นตัวของคุณที่นิสัยด้วยนะ

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

 

หากอยากให้เขาอยู่ในสายตา วิธีที่สุดคือ เราอาจจะเข้าหาเขา คอยช่วยเหลือ ให้เขารู้จักเรามากขึ้นและเมื่อเริ่มสนิทแล้วจึงค่อยบอกความในใจไป แม้จะเร็วแต่ก็ดีกว่าเราบอกช้าจนถูกคนอื่นแซงหน้านะ
หนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งรับบทเป็น ” น้ำ ” กับ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ” พี่โชน ” ทั้งสองคนมีผลงานการแสดงก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วมากมาย แต่การรับบทบาทในหนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงและจดจำทั้งสองคนไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศจีนถึงขั้นคลั่งไคล้พี่โชนอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนิดที่ว่าต้องรู้จักพี่โชนกันแทบทุกคน และเมื่อปี 2562 ประเทศจีนก็ได้ทำภาพยนตร์ซึ่งมีเค้าโครงมาจากหนังเรื่องนี้โดยให้ชื่อว่า ” A Little Thing Called First Love ” มาริโอ้จึงกลายเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ ตราบจนทุกวันนี้ และใบเฟิร์นเองก็ยังแสดงได้น่ารักและสมบทบาทในภาพยนตร์อีกด้วย สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก จีน wetv

 

สรุปและให้คะแนน สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว หนังเรื่องนี้ฉายในปี 2553 ซึ่งถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ทุกครั้งที่ได้กลับมาดู ก็ยังสามารถทำให้หัวใจของเราพองโตได้เสมอ ไม่เพียงแค่สื่อถึงความรักใสใสในวัยเรียนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของความรักของเพื่อนแทรกเข้ามาให้รับรู้ และให้รู้สึกถึงความรักความผูกพัน ความหวังดีที่เพื่อนมีให้ต่อกัน ดูกี่ครั้งก็ยังแอบน้ำตาซึมได้กับฉากเดิม ๆ ตัวละครในเรื่องมีความลงตัวมาก ๆ ทั้งนักแสดงนำ พระเอก นางเอก ดูแล้วฟินตาม ส่วนตัวประกอบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพ้องเพื่อนของน้ำ ที่ดูบ้าน ๆ มีความน่ารัก ตลก ฮา ๆ แบบเป็นธรรมชาติ ซึ่งตั้งใจทำให้ต่างกับกลุ่มนักเรียนอีกกลุ่มที่มีแต่คนสวย ๆ เด่น ๆ ให้เห็นถึงความแตกต่างกันไปเลย กลุ่มตัวละครเสริมอีกกลุ่มก็คือเหล่าคณะครูอาจารย์ ที่ได้ตุ๊กกี้มาร่วมทีมสร้างความตลกให้ภาพยนตร์ได้มีเสียงหัวเราะอีกด้วย

เราให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 10/10 ไปเลย เพราะหนังสามารถย้อนกลับไปดูและยังทำให้เราอินกับตัวละครได้ไม่เบื่อ ทุกครั้งที่ดูก็ยิ่งทำให้เรานึกถึงตอนที่แอบชอบรุ่นพี่เมื่อครั้งที่เรายังเรียนอยู่มอต้น สปอยให้ฟังขนาดนี้แล้ว ใครที่ยังไม่เคยดูก็ควรไปหามาดูแก้เครียดนะคะ เผื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตอน 14 อีกครั้ง สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก ตอนที่ 1

 

 

บอกเลยว่าฉากนี้เราฟินจิกหมอนตอนพี่โชนผู้น่ารักต้องมารับบทเจ้าชายจำเป็นและจูบลง สมองนี่คิดไปไกลก่อนนางเอกแล้วจ้า ตั้งแต่นั้นนางเอกก็เริ่มหน้าตาดีมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนซึ่งพี่โชนก็เริ่มจะเข้าหาเธอมากขึ้น แต่กับมีมารผจญคือเพื่อนพระเอกที่มาชอบนางเอกนี่ล่ะ

เราเสียน้ำตาให้กับฉากท้าย ๆ หลายฉากมากไม่ว่าจะเป็นฉากที่นางเอกซึ่งห่างเหินจากเพื่อน ๆ เพราะเอาแต่อยู่กับพวกพระเอกไปง้อจนกอดคอกันร้องเพลงวัน เดือน ปี และฉากที่นางเอกร้องไห้เปิดไดอารี่ซึ่งพระเอกเอามาให้ ในนั้นมีแต่รูปนางเอกทีเผลอที่พี่โชนแอบถ่ายไว้หลายรูปพร้อมข้อความบอกความในใจมากมายทำให้เราได้รู้ว่าพระเอกชอบนางเอกตั้งแต่ตอนหน้าปลวกแล้ว คือหน่วงมาก ณ จุดนี้ แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะ เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการค่ะ
หนังเล่าเรื่องผ่านมุมมองของน้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) หญิงสาวหน้าปลวก (คำที่ใช้ในหนัง) เธอแอบชอบหนุ่มฮ็อตของโรงเรียนอย่างพี่โชน (มาริโอ เมาเร่อ) โดยตลอดทั้ง 3 ปีที่พี่โชนและน้ำเรียนอยู่ที่เดียวกัน เธอทำทุกอย่างเพื่อให้พี่โชนหันมาสนใจเธอ เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทั้งหน้าตาและการเรียน การยอมรับตำแหน่งสุดหินอย่างดรัมเมเยอร์ และทำอะไรหลายอย่างเพื่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัว และสุดท้าย เธอก็ได้บทเรียนเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อน ชีวิต ความรัก ครอบครัว และการไล่ตามความฝันของตัวเอง

 

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก รีวิว

ชมรมคนต่อต้านหนังฟีลกู้ดฟีลเลี่ยนทั้งหลายอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เพราะตัวหนังจริงๆ ทำได้ลงตัวและสนุกกว่าที่ผมเล่าให้ฟังในบรรทัดที่แล้วซะอีก การที่ผมซึ่งไม่ชอบหนังสไตล์ฟีลกู้ดแต่สนุกไปกับหนังเรื่องนี้นั้น ตอนแรกผมคิดว่า เป็นเพราะความ Pure และความสมจริงของหนัง แต่พอผมดูหนังเรื่องนี้รอบที่สอง ผมก็ได้ฉุกคิดว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้เพียวหรือสมจริงขนาดนั้น แต่หนังมันมีจุดเด่นตรงที่หนังสามารถกลบความ fantasy เอาไว้ได้อย่างพอเหมาะ จนคนดูหลับตาให้กับความ fantasy และความไม่สมจริงในหนังเรื่องนี้ได้อย่างสะดวกใจ หรืออีกนัยหนึ่งคือ หนังสามารถทรงตัวอยู่บนเส้นด้ายบางๆ ที่คั่นระหว่าง reality และ fantasy ได้อย่างน่าชื่นชม

หากพูดแบบหยาบๆ ก็คือ หนังเรื่อง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ก็คือ “ซินเดอเรลล่า” ที่ถูก ดัดแปลงให้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง ซึ่งถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คงต้องยกตัวอย่างหนังเรื่อง Ever After (1998, แอนดี้ เทนแนนท์) ซึ่งเป็นหนัง ”ซินเดอเรลล่า” ที่ลดโทนเทพนิยาย (นางฟ้า, แม่มดใจร้าย, รถฟักทอง) ลงไป เหลือแต่ฉากหลังในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวความคิดที่แฝงอยู่ใน Ever After ยังคงเป็น fantasy อยู่ดี ทั้งการที่นางเอกได้เลื่อนชนชั้นไปเป็นคู่รักของเจ้าชายได้อย่างรวดเร็วหรือ อุปสรรคในเรื่องถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย จนถึงแม้องค์ประกอบหนังจะถูกทำให้เป็น reality โคตรๆ ขนาดไหนก็ไม่ทำให้หนังดู real ขึ้นมาในภาพรวมได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับ Memories of Matsuko (2006, เท็ตซึยะ นาคาชิมะ) ซึ่งถึงแม้ภาพในหนังจะโอเว่อร์เหนือจริงขนาดไหน แต่ด้วยโทนเรื่องหลักก็ได้ทำให้ Memories of Matsuko กลายเป็นหนังสะท้อนชีวิตจริงได้อย่างน่าขนลุก!

 

 

หนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งรับบทเป็น ” น้ำ ” กับ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ” พี่โชน ” ทั้งสองคนมีผลงานการแสดงก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วมากมาย แต่การรับบทบาทในหนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงและจดจำทั้งสองคนไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศจีนถึงขั้นคลั่งไคล้พี่โชนอย่างเอาเป็นเอาตาย ชนิดที่ว่าต้องรู้จักพี่โชนกันแทบทุกคน และเมื่อปี 2562 ประเทศจีนก็ได้ทำภาพยนตร์ซึ่งมีเค้าโครงมาจากหนังเรื่องนี้โดยให้ชื่อว่า ” A Little Thing Called First Love ” มาริโอ้จึงกลายเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ ตราบจนทุกวันนี้ และใบเฟิร์นเองก็ยังแสดงได้น่ารักและสมบทบาทในภาพยนตร์อีกด้วย สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักเต็มเรื่อง movie2free

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

 

ประเภท: ดราม่าผู้กำกับ: นัฐวุฒิ พูนพิริยะ หนังไทยnetflix

นำแสดงโดย: ธนภพ ลีรัตนขจร, ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์, วิโอเลต วอเทียร์

ความยาว: 136 นาที

กำหนดฉายในไทย: 10 กุมภาพันธ์ 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

สปอยหนัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ เชื่อว่าบางคนอาจจะมีอาการคล้ายกัน หลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้จบลงไป แม้ว่าตัวจะลุกเดินออกไปจากโรงหนังแล้ว แต่ข้างในหัวของเรายังคงวนเวียนอยู่กับสารที่หนังได้หยิบยื่นเอาไว้ให้อยู่เลย เพราะนี่คือ “One for the Road” (วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ) หนังสัญชาติไทยที่ผสมผสานความอินเตอร์ และประสบความสำเร็จด้วยดีตามเทศกาลหนังต่างประเทศ และกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีชชิ้นล่าสุดของผู้กำกับหนุ่ม “บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” ที่สามารถพูดได้ดังๆ เลยว่า เขาอนาคตไปอีกได้ไกลแน่นอน

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

เชื่อว่าบางคนอาจจะมีอาการคล้ายกัน หลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้จบลงไป แม้ว่าตัวจะลุกเดินออกไปจากโรงหนังแล้ว แต่ข้างในหัวของเรายังคงวนเวียนอยู่กับสารที่หนังได้หยิบยื่นเอาไว้ให้อยู่เลย เพราะนี่คือ “One for the Road” (วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ) หนังสัญชาติไทยที่ผสมผสานความอินเตอร์ และประสบความสำเร็จด้วยดีตามเทศกาลหนังต่างประเทศ และกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีชชิ้นล่าสุดของผู้กำกับหนุ่ม “บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” ที่สามารถพูดได้ดังๆ เลยว่า เขาอนาคตไปอีกได้ไกลแน่นอน ดูหนังออนไลน์ดูหนังฟรี

 

เรื่องราว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

เป็นเรื่องราวของ บอส หนุ่มนักธุรกิจที่ย้ายภูมิลำเนาจากบ้านเกิด มาเปิดกิจการบาร์ในมหานครนิวยอร์ก เขาได้ตัดสินใจย้อนเส้นทางกลับไปยังเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อพบกับ อู๊ด เพื่อนที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน นับว่าเป็นการพบเจอกันครั้งแรกในรอบหลายปีที่ห่างเหินกันไป พวกเขาร่วมกันออกเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อนึกย้อนและระลึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา เนื่องจากอู๊ดกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลามและเหลือเวลาอีกเพียงไม่มากแล้ว
คือแค่ฟังจากพล็อตเรื่องก็น่าจะพอเดาทางออกได้ว่าน่าจะมาแนวไหน ก็คงหนีไม่พ้นหนังแนวโร้ดทริปเพื่อกลับไปทบทวนเรื่องราวอดีตที่ผ่านมา พล็อตแบบนี้แน่นอนว่าไม่ค่อยหวือหวาอะไร แต่กลับ One for the Road ได้ใช้กิมมิกในการเล่าเรื่องที่มีเทคนิคชั้นเชิงเข้ามาช่วยส่งเสริม จึงพัฒนาให้หนังโร้ดทริปย้อนทางกลับไปหาแฟนเก่าเรื่องนี้ กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเรื่องเล่าสะกิดใจไปได้ทุกหลักกิโลเมตรของตัวละครที่พานพบมา วันสุดท้ายก่อนบายเธอ pantip

 

บทภาพยนต์ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ในส่วนของบทภาพยนตร์ของ One for the Road อาจจะไม่ได้ถึงขั้นดีเลิศสมบูรณ์แบบอะไร เพราะหลายๆ มุมก็ยังคงแฝงด้วยสูตรสำเร็จง่ายๆ ที่เข้าถึงคนดูได้ไม่ยาก แต่ลูกเล่นในการเล่าเรื่องและไดอะล็อกต่างๆ ที่ถูกวางเอาไว้อย่างบรรจงตลอดทั้งเรื่องนี้ ถูกปรุงออกมาเป็นสูตรที่กลมกล่อมและคมคาย โดยน่าจะแบ่งหนังออกได้เป็น 2 องก์หลักๆ ในขณะที่องก์แรกคือโร้ดทริปไปตามรายทาง องค์สองก็คือความบอบช้ำจากผลแห่งการกระทำทั้งหมด

ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้สร้างมิติให้กับตัวละครในทุกๆ ตัวเลยก็ว่าได้ จึงทำให้ทุกคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้มีมุมมองและเหตุผลในตัวเองเป็นอย่างดี เหตุและผลที่ไม่จำเป็นจะต้องเล่าออกมาเป็นภาพเพื่อขยายความ แต่ใช้ความรู้สึกของตัวละครนี่แหละ เป็นตัวขยายความในตัวของมันเองโดยอัตโนมัติ และนี่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ค่อนข้างดีในหนังเรื่องนี้ และถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างแข็งแรง สามารถประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้สบายๆ

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

ในขณะที่องค์ประกอบของนักแสดงนั้น คงจะต้องลุกปรบมือให้เลย เพราะแคสติ้งของหนังเรื่องนี้เลือกมาได้เป็นอย่างดีทุกตัวละคร “ต่อ ธนภพ” กับ “ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์” เป็นนักแสดงนำคู่ที่ช่วยกันประคองหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างสบายๆ การแสดงในระดับมืออาชีพของทั้งคู่ต้องยกนิ้วให้เลย เพราะทุกอย่างถ่ายทอดออกมาเป็นธรรมชาติ เล่นน้อยแต่อินเนอร์ออกมาเพียบ ซีนอารมณ์ต่างๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีแบบไม่มีใครยอมใคร
แต่อาจจะเทใจให้กับไอซ์ซึไปเล็กน้อย เพราะนี่คืออีกหนึ่งผลงานการแสดงที่ดีของเขาเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เพียงการทรานสฟอรม์ร่างกายตัวเอง เพื่อสวมบทบาทผู้ป่วยโรคร้ายจริงๆ กับการลดน้ำหนักแบบสุดขั้ว แต่อินเนอร์และการยั้งเข้าถึงบทบาทอารมณ์ของตัวละครก็ถือว่าแทบจะแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้เลย และเขาผู้นี้ก็น่าจะไม่พลาดที่จะได้เข้าชิงรางวัลทางการแสดงต่างๆ อย่างแน่นอน และคาดว่าน่าจะได้รางวัลติดมือด้วยซ้ำ

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

 

นอกจากนี้ 2 หนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นตัวนำเรื่องแล้ว บรรดาสาวๆ ที่เป็นองค์ประกอบแฟนส์เก่านั้น ก็ถือว่าทำได้ดีไม่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “พลอย หอวัง” ที่เฉิดฉายจากหนังเรื่องนี้แบบเซอร์ไพรส์ “ออกแบบ ชุติมณฑน์” ที่ให้การแสดงน้อยแต่มากได้ดี เช่นเดียวกับ “นุ่น ศิรพันธ์” ที่ไม่ต้องพูดอะไรมากเธอคนนี้อินเนอร์นักแสดงมาเต็ม และยังมี “วี วิโอเลต” ที่เป็นคนที่ไม่สามารถละสายตาไปได้ หนังเรื่องนี้ขับเสน่ห์และเทคนิคการแสดงของวีออกมาได้อย่างดี ยิ่งซีนอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเรียลจัดๆ ต้องปรบมือให้เธอเลย วันสุดท้ายก่อนบายเธอ 037

เราน่าจะทราบว่า “หว่องกาไว” ปรมาจารย์นักสร้างหนังระดับเอเชีย มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับหนังเรื่องนี้ และแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้จึงได้รับอิทธิพลความหว่องเข้ามาแทรกเสริมอยู่ประปราย แต่ก็ไม่ใช่เป็นการคัดลอกสูตรกันมา เพราะหนังเรื่องนี้เองก็ยังมีความเป็น บาส นัฐวุฒิ ผู้กำกับของหนังเองอยู่ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน และต้องบอกเลยว่านี่น่าจะเป็นหนังที่สร้างมาจากตัวตนและสิ่งที่ผู้กำกับอยากจะถ่ายทอดออกมาจริงๆ ด้วยซ้ำ

 

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ netflix ยังโดดเด่นเรื่องโปรดักชั่นดีไซน์ ที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างจากหนังไทยทั่วๆ ไปอย่างแจ่มแจ้ง การออกแบบฉากและจัดวางแสงสีต่างๆ สัมผัสได้ถึงความละเอียดและละเมียดละไมที่เป็นการถ่ายทอดที่ทำออกมาได้บิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ดี กลายเป็นกำไรของคนดูที่ได้เห็นหนังไทยสไตล์อินเตอร์แบบเรียลๆ ที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติองค์ประกอบแวดล้อมต่างๆ แทบจะทุกอณู และอีกสิ่งที่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดีไม่น้อยหน้าองค์ประกอบอื่นๆ

จนต้องหยิบเอามาชื่นชมก็คือ เทคนิคการแต่งหน้าในหนัง แม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบเล็กน้อยที่ส่วนใหญ่ผู้ชมไม่ค่อยให้ความสำเร็จกันสักเท่าไหร่ แต่หากว่าพินิจดูรายละเอียดจริงๆ แล้ว เทคนิคการแต่งหน้าให้กับนักแสดงเรื่องนี้เต็มไปด้วยกิมมิกที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวเป็นอีกนัยได้อย่างสมบูรณ์ มีการลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนดูอาจจะไม่ทันได้สังเกตเข้ามาใส่ไว้ ทั้งรอยสิวหรือรอยย่นบนใบหน้า เป็นสิ่งที่ช่วยแยกไทม์ไลน์ในการเล่าเรื่องได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

คงต้องบอกว่า One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ก็น่าจะเป็นหนังที่ บาส นัฐวุฒิ ได้มีอิสระในการเล่าเรื่องในสิ่งที่ตัวเองอย่างเล่าอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น หนังเรื่องนี้มีความเป็นส่วนตัวสำหรับเขาค่อนข้างมาก เป็นมุมมองที่สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างประเทศกับเรื่องราวดราม่าในชีวิต ที่ได้แรงบันดาลใจตัวผู้สร้างเองแท้ๆ และนี่จึงเป็นจุดที่ทำให้หนังเล่าเรื่องออกมาได้อย่างมีจังหวะ
กับเรื่องเล่าที่เล่าผ่านมุมมองของ แก้วเหล้า แก้วค็อกเทล ทุกๆ แก้วที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในตัวเอง รสชาติแต่ละแก้วแตกต่างกัน ก็เหมือนกับชีวิตในช่วงที่ผ่านๆ ต่างก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นหนังที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบดีเลิศที่ดีสุด แต่หลายๆ องค์ประกอบก็ถือว่าช่วยยกระดับความเป็นหนังไทยได้ดีขึ้นอีกเป็นกอง และเชื่อเหลือเกินว่า บาส นัฐวุฒิ ผู้กำกับชาวไทยผู้นี้ อนาคตยังไปต่อได้อีกไกลและน่าจะยิ่งใหญ่ได้ยิ่งกว่านี้

 

มีให้ดูแล้ววันนี้ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (อังกฤษ: One for the Road) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า ผลิตโดย เจ็ตโทน คอนเทนต์ส บล็อกทู ดิสทริบิวชัน และเฮาส์ตัน สตูดิโอ ของ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ อำนวยการสร้างโดย หว่อง ก๊า ไหว่ และจัดจำหน่ายโดย เจ็ตโทน คอนเทนต์ส โดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า เป็นผู้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร และ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ตัวภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานตัดสินใจออกเดินทางด้วยรถยนต์ด้วยกันเพื่อตามหาเพื่อนเก่าเพื่อคืนของสำคัญและบอกลากันก่อนจากไป

 

 

การฉาย ในส่วนของประเทศไทย ภาพยนตร์มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการผ่านการเปิดตัวโครงการใหม่ของจีดีเอช ห้าห้าเก้า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า ประกาศเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจาก เจ็ตโทน คอนเทนต์ส ก่อนเปิดเผยวันเข้าฉายอย่างเป็นทางการคือ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ผ่านมิวสิกวิดีโอ “Nobody knows” ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พร้อมทั้งปล่อยใบปิดภาพยนตร์ และตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ก่อนมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2565 ณ บ้านหับโห้หิ้น บางกอก ถนนสุขุมวิท และมีรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ออกฉายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 วันสุดท้ายก่อนบายเธอออนไลน์

 

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

 

สปอยหนัง หลังจากเรารอคอยการเข้าฉายของ Mother Gamer หรือ เกมเมอร์เกมแม่ กันมาตั้งแต่เดือนมีนาคมจนสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายในที่สุดวันนี้ Mother Gamer หนังที่หอบโจทย์ยากอย่างการทำหนังวัยรุ่นเกี่ยวกับกีฬาอีสปอร์ตโดยมีเกม ROV เกมโมบา (MOBA – multiplayer online battle arena ) ยอดฮิตเป็นแกนกลางของความสัมพันธ์ตัวละครที่พร้อมจะเติบโตผ่านวิวาทะทางความคิดระหว่างเด็กยุคใหม่กับผู้ใหญ่ยุคนี้ก็จะได้เข้าฉายเพื่อพิสูจน์ตัวเองในสนามโรงภาพยนตร์เสียที หนังไทยมาใหม่

 

เรื่องย่อ เกมเมอร์ เกมแม่

กล่าวอย่างสั้น ๆ หนังเล่าเรื่องความขัดแย้งระหว่าง เบญจมาศ (พิยดา อัครเศรณี) ครูคณิตศาสตร์ที่มองว่ามือถือคือศัตรูต่อการเรียน กับ โอม (ต้นหน ตันติเวชกุล) ลูกชายนักกีฬาอีสปอร์ตที่เหตุเกิดจากฝ่ายแรกไปขัดขวางความฝันของลูกชาย และเพื่อให้หนทางในสายกีฬาอีสปอร์ตต้องดับลง เบญจมาศจึงก่อปาร์ตี้ตั้งทีมอีสปอร์ตชื่อ Ohm Gaga ร่วมกับ กอบศักดิ์ (ลภัส งามเชวง) นักเรียนหลังห้องจอมเก๋าในฐานะอดีตสมาชิกของทีม Higher ที่โอมสังกัดอยู่เพื่อหวังโค่นทีมของลูกชายโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังให้บทเรียนสำคัญในฐานะแม่และครู

เสือ ยรรยง คุรุอังกูร ยังคงทำหนังวัยรุ่นในภาษาที่เข้าใจวัยรุ่นเจนนี้อย่างแท้จริง โดยในเกมเมอร์เกมแม่ก็มี ROV ที่กำลังมาทดสอบความสัมพันธ์ของแม่กับลูกชายวัยรุ่นยุคที่การเล่นเกมกลายเป็นกีฬาที่ทำเงินได้ และการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เบญจมาศแม้จะเป็นแม่ที่ยังไม่ได้ชราในแง่สังขารแต่ต้องยอมรับว่าสังคมที่เด็กกล้าพูดกล้าทำและความรู้ความสามารถในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเล่นเกมที่กลายเป็นอาชีพก็กลับผลักไสเธอให้กลายเป็นคนตกยุคอย่างช่วยไม่ได้
ยิ่งเรามาพิจารณาข้อมูลที่หนังให้เราเกี่ยวกับตัวเบญจมาศต้้งแต่ต้นเรื่องที่หนังแสดงให้เห็นว่าเธอเข้มงวดกับลูกเพียงใดในยุคที่การศึกษานอกจากคะแนนสอบยังมีคะแนนนอกระบบที่วัดตามค่าเงินบาทที่ผู้ปกครองจะยอมแลกกับโอกาสของลูกแล้วก็ยิ่งทำให้เห็นว่าในเกมที่อำนาจอยู่ที่ผู้ใหญ่เธอสอนโอมให้เล่นตามกติกาที่ไม่แฟร์กับเขามาทั้งชีวิตเพื่อหวังให้โอมเดินในเส้นทางสู่ความสำเร็จตามอุดมคติการศึกษาสร้างอนาคต ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

 

แต่แล้วปัจจุบันในเวลาของโอมก๋็กลายเป็นอนาคตที่เบญจมาศไม่เข้าใจทันทีเมื่อกีฬาอีสปอร์ตได้กลายเป็นเส้นทางที่ลูกเลือกเป๋็นอาชีพ โดยคนเป็นแม่ในฐานะครูในระบบการศึกษาไทยได้แต่ต่อต้านการเล่นเกมของนักเรียนจนถึงขั้นออกแคมเปญห้องเรียนปลอดมือถือเพื่อหวังอัปเงินเดือนด้วยผลงานเสริมหลักสูตรในเกมที่ผู้ชี้ถูกผิดคือผู้มีอำนาจในองค์กรนั้น ๆ แต่สำหรับในเกมที่เธอหวังจะชนะโอม เบญจมาศกลับเลือกทางลัดด้วย “ข้อตกลงแบบไทย ๆ ” กับกอบศักดิ์ให้ตั้งทีมกีฬาอีสปอร์ตแลกกับการช่วยให้จบ ม.6 หลังถูกยื่นคำขาดจากทีม Higher ให้จ่ายค่าเสียหายหลักแสนหากต้องการให้โอมออกจากทีม ดูหนังฟรี

ดังนั้นเมื่อกติกาของโลกผู้ใหญ่ไม่อาจเปลี่ยนใจโอมได้ เบญจมาศจึงจำใจต้องลงสนามในเกมของเด็กยุคนี้ ซึ่ง ณ. จุดนี้เองที่หนังเริ่มให้เบญจมาศกลายเป็นตัวแทนผู้ใหญ่ที่หนังพาคนดูในฝั่งคนไม่เล่นเกมได้เกาะไปทำความเข้าใจกับทั้งเกม ROV ที่มีศัพท์แสงสุดบรรเจิดมากมายและพาไปรู้จักกับกีฬาอีสปอร์ตว่ามันมีการแข่งขันจริงจังแค่ไหน ซึ่งถือเป็นการเปิดโลกของผู้ชมในวงกว้างได้อย่างชาญฉลาดยิ่งเพราะผู้กำกับใช้บริบทในหนังมาบอกเล่ามันโดยอิงเกม ROV ตั้งแต่ฉากกอบ

 

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

ศักดิ์เล่นเกมในห้องเรียนวิชาสังคมไปจนถึงบทเรียน ROV 101 ที่เบญจมาศได้กลายสถานะเป๋็นนักเรียนบ้าง
กล่าวมาถึงตรงนี้คงชัดเจนแล้วว่าตัวละครเบญจมาศคือตัวแบกหนังทั้งเรื่องอย่างแท้จริงและถือเป็นโชคดีของผู้กำกับ (และคนดู) ที่มันได้ อ้อม พิยดา อัครเศรณี นางเอกยุค 90s ที่มารับบทแม่และครูอย่างเบญจมาศ เพราะเธอสามารถทำให้คนดูเชื่อว่าทุกการกระทำที่ผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมเซ็นเอกสารให้โอมไปเข้าทีม Higher หรือการหลอกใช้เด็กตั้งทีมมาโค่นทีมลูกชายล้วนนำเสนอด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบของตัวละครที่ดูมีเลือดเนื้อจิตใจจนคนดูสัมผัสได้

และทีละน้อยนอกจากดรามาของแม่ที่การตัดสินใจไม่ได้ถูกต้อง 100% หนังยังพาให้เบญจมาศค่อย ๆ เข้าสู่โลกแห่ง ROV ด้วยอุปสรรคในการทำทีมที่มีทั้งการซื้อตัวผู้เล่นหรือแม้แต่ความกากในการเล่นเกมของเธอเองก็เริ่มทำให้เริ่มตาสว่างว่าแม้แต่คนเป็นครูก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่อง เชื่อว่าคนดูจะต้องลุ้นระทึกและหลงรักอ้อม พิยดากับซีนแอบเล่น ROV ในห้องส้วมบนรถโดยสารคณะครูที่หนังทำออกมาน่ารักทีเดียว

 

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

 

และในขณะเดียวกันแม้หนังจะมีแกนกลางที่ความขัดแย้งระหว่างแม่ลูกแต่หนังก็สร้างตัวละครอย่างกอบศักดิ์ที่เป็นตัวแทนนักเรียนหลังห้องสุดเก๋าที่เกรดของวิชาในระบบการศึกษาอาจทำให้เขาถูกมองว่าเป็นคนโง่แต่ในโลกของเกมกอบศักดิ์คือฮีโร แต่ลึก ๆ แล้วมันก็สะท้อนภาพของวัยรุ่นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อได้เห็นภาพเพราะแม้เกรดในสมุดพกจะต่ำเตี้ยแค่ไหนการที่กอบศักดิ์มาเจอครูเบญจมาศก็นับว่าเป็นโชคดีของทั้งคู่เพราะในขณะที่กอบศักดิ์ขาดผู้ใหญ่มามองเห็นคุณค่าของเขาในฐานะเกมเมอร์ ด้านครูเบญจมาศเองก็ขาดคนช่วยลดช่องว่างระหว่างใจระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กอยู่ด้วยเหมือนกัน เกมเมอร์เกมแม่เต็มเรื่องพากย์ไทย facebook

ดังนั้นภาพที่ครูเบญจมาศต้องถูกบังคับให้มาเล่น ROV ร่วมกับบรรดาลูกทีม Ohm Gaga เลยแปรเปลี่ยนจากการพยายามเอาชนะลูกชายมาเป็นการเปิดใจยอมรับเส้นทางใหม่ ๆ ของเยาวชนชาวเกมเมอร์ และ ROV ยังสามารถผสานความรู้เดิมอย่างคณิตศาสตร์มาปรับใช้กับการวางแผนได้ดีทีเดียว และแม้ว่าหนังเรื่องเดียวจะไม่ได้ทำให้ภาพของเด็กติดเกมดีขึ้นแต่เชื่อว่าตัวหนังมันได้เสนอทางเลือกของการเล่นเกมอย่างฉลาดเอาไว้แล้วเหมือนการใช้ชีวิตที่ฉลาดที่ทั้งกอบศักดิ์และครูเบญจมาศได้เรียนรู้มันร่วมกัน

แต่กระนั้นบทหนังเองก็ยอมแลกดรามาและความสัมพันธ์แม่ลูกที่ค่อย ๆ หายไปหลังโอมกับเบญจมาศเริ่มมีปัญหากันเพื่อเทเวลาแทบทั้งหมดไปกับการเรียนรู้ของเบญจมาศในโลกของ ROV ซึ่งในด้านหนึ่งมันก็ทำให้พัฒนาการด้านความสัมพันธ์แม่ลูกในตอนท้ายไม่หนักแน่นเท่าที่ึควรแต่มันกลับส่งผลต่อฉากการฝึกเล่น ROVแต่ละฉากที่ผู้กำกับดีไซน์ช่วยให้คนดูเข้าใจตัวเกมและวงการอีสปอร์ตในเบื้องต้นได้ดีมากเรียกได้ยอมเจ็บกับการสูญเสียการเล่าดรามาไปกับสีสันอันฉูดฉาดของวงการเกมแทน แม้จะทำให้หนังไม่ลงตัวเท่าที่ควรก็ตาม เกม เม อ ร์ เกมแม่ Facebook

 

สรุปโดยรวม เกมเมอร์ เกมแม่

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่ ทิ้งท้ายขอพูดถึงเหล่าบรรดานักแสดงวัยรุ่นกันบ้าง เติร์ด ลภัส งามเชวง มีเสน่ห์ในแบบแบดบอยมาก ๆ ในบทของกอบศักดิ์ดูแล้วเชื่อได้เลยว่าจะเป็นคนพาเบญจมาศสู่โลกของเกมเมอร์เหมือนมอร์เฟียสฉบับกวน ๆ ที่จะพานีโอตื่นจาก The Matrix ยังไงยังงั้น ส่วน ต้นหน ตันติเวชกุล นี่เสียดายมากเพราะดรามjาช่วงท้ายของหนังเขาทำได้ดีมากแต่ด้วยช่วงเวลาที่หนังให้เขาถือว่าน้อยเกินไปจริง ๆ ส่วน วี วีรยา จาง ในบทมะปรางแม้จะให้ความสดใสกับหนังแต่บทของเธอแทบไม่มีผลอะไรกับเรื่องนอกจากเพิ่มซีนโรแมนติกให้กับกอบศักดิ์

 

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

 

โดยภาพรวมแล้วขอสรุปว่า เกมเมอร์เกมแม่ อาจยังไม่ใช่หนังที่ลงตัวนักในส่วนของบทภาพยนตร์แต่งานดีไซน์แต่ละซีนของหนังน่าสนใจและน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียวเพื่อให้คนไม่เล่น ROV อย่างผมเข้าใจในกติกาของตัวเกมและสนุกไปกับฉากแข่งขันในหนัง และยังมีการแสดงที่เชื่อมือได้ทั้งจาก อ้อม พิยดา อัครเศรณี กับ เติร์ด ลภัส งามเชวง มาทำให้หนังดูสนุกและน่าประทับใจจนอยากให้มีโอกาสที่ครอบครัวที่มีลูกเล่นเกมได้มาดูด้วยกันเพราะหนังนำเสนอวงการอีสปอร์ตได้เข้าใจง่ายและไม่มองผู้ใหญ่ในแง่ร้ายเกินไปเป็นการนำเสนอที่น่าจะกระชับพื้นที่ “ช่องว่างระหว่างใจ” ของผู้ปกครองและลูก ๆ เหล่าเกมเมอร์ได้ดีทีเดียว
เรียกว่า “Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่” เป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่มีความกล้าที่จะฉีกแนวเดิมๆ ด้วยการหยิบเอาพล็อตเรื่องของ e-Sport มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ

 

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่

เมื่อคำสั่งห้ามของแม่ใช้ไม่ได้ผล เบญจมาศจึงต้องหาทางสกัดกั้นไม่ให้โอมก้าวไปสู่ชัยชนะ ด้วยการยื่นข้อเสนอให้ “กอบศักดิ์” (เติร์ด ลภัส) เด็กหลังห้องอดีตโปรเพลเยอร์ของ Higher มาช่วยตั้งทีมอีสปอร์ตหน้าใหม่ “Ohmgaga” เพื่อแลกกับที่เบญจมาศจะช่วยให้กอบศักดิ์เรียนจบ กอบศักดิ์เลยพาเหล่าเกมเมอร์ตัวจี๊ดมาร่วมทีม Ohmgaga ทั้ง “มะปราง” (วี วีรยา) สาวเปรี้ยวสุดเท่, “ไกด์” (บอส ธนบัตร) นักวางแผนฝีมือฉกาจ, “แบงค์” (นนท์ ศุภวัจน์) สายเปย์ตัวเป้ง และ “แม็ก” (เตชินท์ ณัฐชนน) จอมโวยวายจากร้านเกม

แต่สิ่งที่เบญจมาศไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็คือ เธอต้องลงสนามในฐานะนักกีฬาของทีม เคียงข้างกับกอบศักดิ์ผู้พยายามพิสูจน์ตัวเอง พร้อมเผชิญหน้ากับโอมลูกชายที่อยากขีดเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง

 

 

บนเส้นทางแห่งการแข่งขันเกม RoV แบตเทิลครั้งนี้ “เกมเมอร์” หรือ “เกมแม่” ใครกันแน่จะเป็นผู้ชนะ
ไม่ต้องรู้เรื่องเกมก็ดูหนังได้
คำถามที่หลายคนอยากรู้ก็คือ ไม่ได้เล่นเกมนี้จะดูหนังรู้เรื่องมั้ย ตอบเลยค่ะ ดูรู้เรื่องและสนุกไปกับหนังได้เพลิน ๆ เลยค่ะ เพราะในหนังเองจะมีการค่อย ๆ ปูพื้นมาให้บ้าง ส่วนใครที่เป็นแฟนเกม ROV อยู่แล้วน่าจะทำให้อินกับเนื้อเรื่องไม่ยาก รวมถึงยังมีคนในวงการ e-Sport ที่คุ้นตามาร่วมแจมหลายคน ไม่ว่าจะเป็น นักกีฬา e-Sport ตัวจริง รวมถึงนักพากย์เกม หนัง rov เกม เม อ ร์ เกมแม่ เต็มเรื่อง

 

ความต่างระหว่างคนสองยุค เกมเมอร์ เกมแม่

รีวิว เกมเมอร์ เกมแม่ ส่วนเนื้อเรื่องเรียกว่าค่อนข้างเดินเป็นเส้นตรงตามสูตรสำเร็จ คาดเดาตอนจบได้ไม่ยาก มีการจิกกัดสังคมไม่ว่าจะเป็น ผู้ปกครอง-เด็ก, ระบบการศึกษาจนไปถึงการเล่นเกมเอง มีหยอดมุกตลกมาเป็นช่วงๆให้คนดูได้ผ่อนคลาย บทค่อนให้คะแนนกลางๆมีหลายประเด็นที่หนังปูไว้แต่ไม่ขยี้ต่อให้สุด ตัวหนังไม่ได้เล่าถึง Background ของหลายตัวละครหลักเท่าที่ควร นอกจากนั้นนักแสดงหลายคนน่าจะมีผลสำคัญต่อเนื้อเรื่องหรือบางประเด็นกลับไม่เล่นต่อซะงั้น หายไปดื้อๆ

สิ่งที่โดดเด่นคือเรื่องของโปรดักชั่นที่ใส่ Visual Effect ที่จัดเต็มแสงสีเสียง เหมือนเรากำลังเล่นเกมอยู่ มีการทดลองมุมกล้องแปลก ๆ ทำให้ดูตื่นตาตื่นใจ ซีนการแข่งขันเกมก็ทำออกมาสนุกทำให้เราลุ้น เอาใจช่วยตามไปด้วย ที่สำคัญยังใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างฉากดวลกันตัวต่อตัวนั้นท่าทางการสู้นั้นเอามาจากตัวละครในเกมจริง ๆเลยค่ะ
หนังนำเสนอความแตกต่างระหว่างคนสองยุคระหว่างครูเบญและโอม ซึ่งครูเบญก็เหมือนตัวแทนของผู้ใหญ่ที่เติบโตในสภาพสังคมแบบเก่า ยึดติดว่าการเรียนสูง ๆ เรียนให้เก่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีความสำเร็จในอนาคต มีความเจ้ากี้เจ้าการกำหนดชีวิตลูกให้เป็นอย่างที่ตัวเองเป็นโดยที่ไม่เคยถามเลยว่าลูกของเธอต้องการอะไร เธอมอง “เด็กเล่นเกม = เด็กติดเกม” ทั้งที่ไม่เคยลงไปสัมผัสด้วยตัวเองให้รู้ว่าเกมดีไม่ดียังไงน่าเสียดายที่หนังน่าจะเพิ่มปมของตัวละครนี้ว่าเคยเจออะไรมาบ้างถึงให้ให้เธอเป็นแบบนี้

 

 

ฝั่งของโอมถือเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีเฟื่องฟู มีนวัตกรรมและอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนนั้นก็คือ e-Sport เอาเกมแข่งเป็นกีฬา มีการฝึกซ้อม วางแผน เล่นเป็นทีม กลายเป็น Entertainment รูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ยิ่งนักกีฬาที่มีชื่อเสียงนั้นทำรายได้เป็นหลักแสนหลักล้านต่อเดือนก็มี

ตัวโอมถือเป็นเด็กที่โชคดีรู้ตัวว่าชอบอะไร โดยเฉพาะเรื่องพรสวรรค์ด้านการเล่นเกม แต่เขาเองก็พยายามแบกความหวังของแม่ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดทั้งเรื่องของการเรียนและการเล่นเกม แต่สุดท้ายกลับเป็น ผู้ใหญ่เองที่ไม่เคยถามความต้องการของลูกเลย ว่าจริงๆแล้วลูกเธอชอบไม่ชอบอะไร จนทำเกิดการแตกหักกับแม่ขึ้นมา

ฝั่งของทีม “Ohmgaga” เรียกว่าเป็นตัวแทนของเด็กเล่นเกมที่โตมาจากสังคมที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นได้จริงๆ ถ้าเพิ่มแรงจูงใจของแต่ละคนในการเข้าร่วมทีมน่าจะทำให้ดูสนุกกว่านี้ เพราะการรวมตัวเหมือนง่ายเกินไป อยากรวมก็รวมเหมือนเพื่อนชวนเล่นเกมก็มา

ในส่วนของไคลแมกซ์นั้นถ้าหากมีการสร้างปมของตัวละครแต่ละตัวให้ลึกขึ้นน่าจะทำให้ลุ้นได้มากกว่านี้
โดยรวมแล้ว Mother Gamer แม้จะยังไม่ได้เป็นหนังที่สมบูรณ์ไปทุกด้าน แต่มาตรฐานที่ทำออกมาบอกได้เลยว่าหนังไทยไม่แพ้ใคร ยิ่งถ้าเล่น ROV อยู่แล้วยิ่งทำให้ดูหนังสนุกขึ้นอีก หรือพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากรู้ว่าเด็กเล่นเกมสมัยนี้เป็นยังไงก็สามารถติดตามชมได้ในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ 10 กันยายนเป็นต้นไป เกม เม อ ร์ เกมแม่ เต็ม เรื่อง พากย์ไทย imovie

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

 

สปอยหนัง แต่หนังเรื่องนี้กลับทำให้ผมประหลาดใจ เพราะ เรียกเสียงฮาจากผู้ชมทั้งโรงได้ตั้งแต่ฉากแรกๆ แม้ฉากนั้นอาจจะดูโอเวอร์ ไม่สมจริงไปบ้างแต่ยอมรับว่า รีวิวหนัง สตรีเหล็ก ตบโลกแตก เรียกเสียงหัวเราะจากคนเส้นลึกอย่างผม ได้ ตลอดทั้งเรื่องยังมีการปล่อยมุกฮาสอดแทรกให้ได้ขำตลอด โดยเฉพาะทีมนักแสดง ที่ต้องขอปรบมือให้ ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ แทค ศรันยู แจ๊ส ชวนชื่น ตุ๊กกี้ และคนอื่นๆ พวกเขาสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้ตลอดเวลาด้วยการแสดงที่ตลกแนบเนียนแบบเป็นธรรมชาติมากๆ โดยเฉพาะ ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่แสดงได้ “สาว” สมบทบาทมากจริงๆ หนังไทยน้อยยุค

 

เนื้อหาของภาพยนต์ สตรีเหล็ก

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก ในส่วนของเนื้อหาภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีแต่ตลกที่เน้นเอาฮาแบบไร้สาระเพียงอย่างเดียว แต่หากได้สอดแทรกข้อคิดเชิงสะท้อนสังคมในเรื่องเพศที่ 3 ไว้อีกด้วย หากถามผมว่า “สตรีเหล็ก ตบโลกแตก” นี้ เมื่อเทียบกับ “สตรีเหล็ก” ใน เวอร์ชั่นก่อนๆ แล้วอันไหนดีกว่า ผมคงไม่อาจนำไปวิจารณ์เปรียบเทียบกันได้ เพราะแต่ละภาคหรือแต่ละครั้งที่สร้างนั้น ผู้สร้างผู้กำกับ ย่อมวิธีการนำเสนอและการเล่าเรื่องในแบบที่แตกต่างกันออกไป ดูหนังฟรี
ในส่วนของ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของนักแสดง ขอชมว่าเลือกสีมาได้ ฉูดฉาดน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ในหลายฉาก มีการโชว์เสื้อผ้าหน้าผมแบบอลังการสุดๆ แม้แต่ชุดกีฬาที่นักวอลเลย์บอลในเรื่องสวมใส่ แต่ละชุดก็สวยสดใสทั้งนั้น ยังไม่นับฉากที่มี

 

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

 

การถ่ายทำตามสถานที่สำคัญต่างๆ ของจังหวัดลำปาง ซึ่งงดงามมีเสน่ห์ ดูเพลินไปเลยสำหรับคนที่รักธรรมชาติและวิวสวยๆ
สตรีเหล็กในภาคนี้เป็นคล้ายๆการรีบูท เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องนั้นจะอยู่ในปี พศ 2530 ครับ เป็นเรื่องราวชีวิตของกลุ่มคนที่เป็นเกย์ตุ้ดกะเทยที่รักในการเล่นกีฬาวอลเล่บอลและได้ลงแข่งขัน ซึ่งก็เหมือนกับภาคก่อนแหละครับ ดูหนังออนไลน์

 

ข้อดีของหนัง สตรีเหล็ก

ข้อดีของหนังเรื่องนี้ เน้นไปที่ความฮาครับ ซึ่งระดับความฮาขอยกให้ไปเลย แต่ละมุขนี่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ทั้งโรงเลย โดยเฉพาะตัวผม แต่ในสตรีเหล็กภาคนี้นั้นจะออกแนวตลกสุภาพหน่อยครับ พวกคำหยาบๆมากๆ ไม่ค่อยมีเหมือนในเรื่องหอแต๋วแตก

ส่วนเรื่องนักแสดงก็จะเป็นแก๊งซ์เดิมๆที่เราเห็นในหนังของพี่พจน์ครับ กลุ่มของสตรีเหล็กก็มาจากนักแสดง ม6/5 ดูหนัง ซึ่งขอบอกว่าน้องๆสามารถทำได้ดีมากในเรื่องของการแอ๊บเป็นตุ้ดเป็นแต๋ว สามารถทำให้เชื่อว่าน้องเค้าเป็นกันจริงๆ มีมุมเล็กน่ารักๆ ให้ฟิน ดูแล้วฟินไปและฮาไปด้วย และมีทีมรุ่นพี่ที่เป็นเหล่าเพศที่สามอีกมากมายที่มาร่วมกันสร้างสีสันครับ และเนื่องจากหนังเรื่องนี้นย้อนไปในสมัยอดีตซึ่งผมก็ยังไม่เกิด ทีมงานก็เก็บรายละเอียดได้ดีครับ เช่น พวกโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะเพลงนี่ ผมชอบมากเลยครับ ทำให้หนังดูมีกิมมิคในตัวเองมากยิ่งขึ้น

 

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

ตอนหลังก็มีเหล่านายแบบมาแข่งฟุตบอลในแมทสุดท้าย ถ้าสังเกตดีๆจะเห็น แทนไท แอ๊บแตกด้วย ผมนี่ฮาเลย ฮ่าๆ อ่อๆๆ เรื่องนี้มีฉากวันปีใหม่ด้วยครับ เหมือนจงใจจะ Happy New Year ผู้ชมไปในตัว และก็มีฉากที่แทคกับแจ๊คชวนชื่น เป็นของกันและกันด้วย ฮ่าๆ สตรีเหล็ก 2
สุดท้าย ถ้าใครอยากจะไปดูหนังเรื่องนี้เพื่อคลายเครียดเอาฮาก็ไปดูเถอะครับรับรองไม่ผิดหวัง ส่วนใครที่ซีเรียสมากก็ไม่ต้องดูมัน รอดูในเว็บแทน ฮ่าๆ สำหรับเรื่องนี้ ผมให้คะแนน 6.5/10 ครับ เพราะคิดว่าหนังมันยังไม่สุด เอาไปแค่นี้ก่อนละกัน

 

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

เมื่อครูบี๋ (สิริธนา หงส์โสภณ) โค้ชคนใหม่ก้าวเข้ามา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก็เกิดขึ้นกับทีมวอลเล่ย์บอลชายประจำจังหวัดลำปาง ซึ่งยังไม่เคยรู้รสชาติของชัยชนะมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว โค้ชคนใหม่พยายามทุกวิถีทาง ที่จะสร้างทีมให้แข็งแกร่ง มล (สหภาพ วีระฆามินทร์) และ จุง (ชัยชาญ นิ่มพูลสวัสดิ์) นักตบลูกยางฝีมือก๋ากั่น เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ แต่กลับสร้างความอึดอัดให้กับคนอื่นๆ จนพากันลาออกไป เพราะทั้งคู่เป็นกะเทย คงเหลือแต่
ชัย (เจษฎาภรณ์ ผลดี) มือเซ็ตตัวฉกาจ ที่พยายามทำใจ แต่ผู้เล่นแค่ 3 คน ไม่สามารถเป็นทีมได้ วิทย์ (เอกชัย บูรณผานิต), โหน่ง (โจโจ้ ไมอ๊อกชิ) และเปีย (กกกร เบญจาธิกูล) เพื่อนร่วมทีมของมลและจุงสมัยเรียน จึงต้องเข้ามาช่วยเสริมกำลัง

 

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

 

ภายใต้ชื่อทีมสตรีเหล็ก เหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ปากน้ำโพเกมส์ คือเป้าหมายของทีม วิบากกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดเส้นทางของการเป็นแชมป์ เหมือนจะทดสอบความแข็งแกร่งของกำลังกาย
และกำลังใจของทีมสตรีเหล็ก ทีมที่มีเป้าหมายเหมือนกัน โดยคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว กิตติผู้มีอำนาจในแวดวงกีฬา เมืองแมน อดีตสมาชิกทีมลำปาง ที่กลายมาเป็นหัวหน้าทีมคู่แข่งตัวเก็ง ต่างเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของด่านทดสอบที่จะพิสูจน์ใจ จนกว่าจะถึงวันแห่งการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย โดยมีเหรียญทองเป็นเดิมพัน สตรีเหล็ก 4

 

หนังที่มาพร้อมกับความฮา สตรีเหล็ก

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก เมื่อแรกที่ผมได้ยินว่าภาพยนตร์เรื่อง “สตรีเหล็ก” จะกลับมาสร้างใหม่นั้น ผมคิดว่าไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลยเพราะเป็นภาพยนตร์ที่เคยสร้างเคยฉายมาแล้ว รวมทั้งมั่นใจว่าของเก่าทำไว้ได้ดีมากๆ ด้วย ยิ่งพอเห็นชื่อผู้กำกับในเวอร์ชั่น “สตรีเหล็ก ตบโลกแตก” นี้คือ “คุณพจน์ อานนท์” ด้วยแล้ว ผมอดคิดไปไม่ได้ว่า คงออกมาแนวฮาๆ คาดหวังสาระอะไรมากมายไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ผมเป็นคนที่สนับสนุนภาพยนตร์ไทย จึงตัดสินใจตีตั๋วไปดู “สตรีเหล็ก ตบโลกแตก” ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายคือ วันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม 2557 โดยไม่คิดหรือคาดหวังอะไรมากมายนัก

แต่หนังเรื่องนี้กลับทำให้ผมประหลาดใจ เพราะ เรียกเสียงฮาจากผู้ชมทั้งโรงได้ตั้งแต่ฉากแรกๆ แม้ฉากนั้นอาจจะดูโอเวอร์ ไม่สมจริงไปบ้างแต่ยอมรับว่า เรียกเสียงหัวเราะจากคนเส้นลึกอย่างผม ได้ ตลอดทั้งเรื่องยังมีการปล่อยมุกฮาสอดแทรกให้ได้ขำตลอด โดยเฉพาะทีมนักแสดง ที่ต้องขอปรบมือให้ ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ แทค ศรันยู แจ๊ส ชวนชื่น ตุ๊กกี้ และคนอื่นๆ พวกเขาสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้ตลอดเวลาด้วยการแสดงที่ตลกแนบเนียนแบบเป็นธรรมชาติมากๆ โดยเฉพาะ ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่แสดงได้ “สาว” สมบทบาทมากจริงๆ

 

 

ในส่วนของเนื้อหาภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีแต่ตลกที่เน้นเอาฮาแบบไร้สาระเพียงอย่างเดียว แต่หากได้สอดแทรกข้อคิดเชิงสะท้อนสังคมในเรื่องเพศที่ 3 ไว้อีกด้วย หากถามผมว่า “สตรีเหล็ก ตบโลกแตก” นี้ เมื่อเทียบกับ “สตรีเหล็ก” ใน เวอร์ชั่นก่อนๆ แล้วอันไหนดีกว่า ผมคงไม่อาจนำไปวิจารณ์เปรียบเทียบกันได้ เพราะแต่ละภาคหรือแต่ละครั้งที่สร้างนั้น ผู้สร้างผู้กำกับ ย่อมวิธีการนำเสนอและการเล่าเรื่องในแบบที่แตกต่างกันออกไป
ในส่วนของ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของนักแสดง ขอชมว่าเลือกสีมาได้ ฉูดฉาดน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ในหลายฉาก มีการโชว์เสื้อผ้าหน้าผมแบบอลังการสุดๆ แม้แต่ชุดกีฬาที่นักวอลเลย์บอลในเรื่องสวมใส่ แต่ละชุดก็สวยสดใสทั้งนั้น ยังไม่นับฉากที่มีการถ่ายทำตามสถานที่สำคัญต่างๆ ของจังหวัดลำปาง ซึ่งงดงามมีเสน่ห์ ดูเพลินไปเลยสำหรับคนที่รักธรรมชาติและวิวสวยๆ สตรีเหล็ก ตัวจริง

 

รีวิวหนัง สตรีเหล็ก

ผมขอเริ่มจากข้อดีของหนังเรื่องนี้ไปก่อนนะครับและจะต่อด้วยข้อด้อย เริ่มจากสตรีเหล็กเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเน้นไปที่ความฮาครับ ซึ่งระดับความฮาขอยกให้ไปเลย แต่ละมุขนี่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ทั้งโรงเลย โดยเฉพาะตัวผม แต่ในสตรีเหล็กภาคนี้นั้นจะออกแนว ตลกสุภาพหน่อยครับ พวกคำหยาบๆมากๆ ไม่ค่อยมีเหมือนในเรื่องหอแต๋วแตก ส่วนเรื่องนักแสดงก็จะเป็นแก๊งซ์เดิมๆที่เราเห็นในหนังของพี่พจน์ครับ กลุ่มของสตรีเหล็กก็มาจากนักแสดง
ม6/5 ซึ่งขอบอกว่าน้องๆสามารถทำได้ดีมากในเรื่องของการแอ๊บเป็นตุ้ดเป็นแต๋ว สามารถทำให้เชื่อว่าน้องเค้าเป็นกันจริงๆ มีมุมเล็กน่ารักๆ ให้ฟิน ดูแล้วฟินไปและฮาไปด้วย คนที่ฮามากที่สุดในเรื่องคงจะยกให้กับ คุณต๊อบ ชัยวัฒน์ครับ ผมแอบนึกว่าเป็นเดอะ ฮอล์ค ยักษ์ตัวเขียวอยู่ตลอดเวลา ฮามากกกกกกกกกกกกกกก และมีทีมรุ่นพี่ที่เป็นเหล่าเพศที่สามอีกมากมายที่มาร่วมกันสร้างสีสันครับ สตรีเหล็ก 1

 

 

และเนื่องจากหนังเรื่องนี้นย้อนไปในสมัยอดีตซึ่งผมก็ยังไม่เกิด ทีมงานก็เก็บรายละเอียดได้ดีครับ เช่น พวกโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะเพลงนี่ ผมชอบมากเลยครับ ทำให้หนังดูมีกิมมิคในตัวเองมากยิ่งขึ้น ตอนหลังก็มีเหล่านายแบบมาแข่งฟุตบอลในแมทสุดท้าย ถ้าสังเกตดีๆจะเห็น แทนไท แอ๊บแตกด้วย ผมนี่ฮาเลย ฮ่าๆ อ่อๆๆ เรื่องนี้มีฉากวันปีใหม่ด้วยครับ เหมือนจงใจจะ Happy New Year ผู้ชมไปในตัว และก็มีฉากที่แทคกับแจ๊คชวนชื่น เป็นของกันและกันด้วย ฮ่าๆ โอเคข้อดีขอจบแค่นี้ก่อน ต่อไปมาดูข้อด้อยกันบ้างนะครับ

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

 

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: วัชรพงษ์ ปัทมะ, เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์
นำแสดงโดย: เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน, มาชิดา สุทธิกุลพานิช, ภูวรักษ์ คำสิงห์
ความยาว: 97 นาที
กำหนดฉายในไทย: 31 มีนาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

 

เนื้อเรื่องย่อ แดงพระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง เรื่องย่อ: เรื่องเล่าจากทุ่งพระโขนงที่ยังไม่เคยถูกพูดถึงกับลูกชายของนางนากอย่าง ไอ้แดง ความหลอน ความน่ากลัว และเสียงหัวเราะ กำลังจะนำมาซึ่งความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน มิตรภาพแห่งวัยเยาว์ที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาขวางกั้น
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจหลายประการสำหรับการรับชม ‘แดง พระโขนง’ ผลงานหนังยาวเรื่องแรกของ แจ็ค แฟนฉัน หรือ เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ ที่จับมือกำกับร่วมกับเพื่อนอย่าง เอ็กซ์ วัชรพงษ์ ปัทมะ เรื่องนี้ ซึ่งทราบว่าเป็นพล็อตที่คุยกันมานานและฟูมฟักมาพอสมควรจนได้รับโอกาสจากทาง M Pictures และ บั้งไฟ ฟิล์ม ของ หม่ำ จ๊กม๊ก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ที่ทั้งช่วยปั้นและช่วยร่วมแสดงในเรื่องนี้ สปอยหนัง

หนังไทยnetflix ประการแรก จากตัวอย่างหนังเราอาจเข้าใจว่ามันเป็นหนังแบบเดียวกับ ‘พี่มากพระโขนง’ ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นสยองขวัญผสมตลกผ่านสายตาของกลุ่มเด็กในพระโขนง ซึ่งก็ทำให้ดูแปลกใหม่และแตกต่างจากหนังก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่ทว่าเอาจริงหนังเรื่องนี้ยกระดับไปเป็นอีกมโนทัศน์หนึ่งเลย มันเป็นหนังที่เหมือนภาคต่อหลังจากพี่มากซึ่งชาวบ้านมีทัศนคติต่อผีที่ดีที่ไม่เป็นภัยได้แล้ว และชาวบ้านก็อยู่ร่วมกันกับไอ้แดงเหมือนเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ที่ชาวบ้านพระโขนงเอ็นดูช่วยกันเลี้ยงดูอยู่ห่าง ๆ มันเป็นแนวคิดที่ดูมีวุฒิภาวะมากอันนี้ขอชื่นชมเลย ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

แต่หนังก็ยังเป็นหนังมันต้องมีความขัดแย้งให้เรื่องเดินได้ ดังนั้นบทจึงให้ชาวบ้านในเรื่องเลือกไม่บอกพวกลูกหลานเรื่องไอ้แดงเป็นผี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนิทกันไม่ตะขิดตะขวงใจ ทำให้เกิดสถานการณ์เด็กหัวโจกเริ่มสงสัยไอ้แดงและพยายามพิสูจน์ว่าเป็นผีด้วยวิธีต่าง ๆ ที่พอได้เห็นในตัวอย่างหนังบ้างแล้ว

ประการต่อมา เราเห็นน้องเมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน ที่มารับบท ไอ้แดง และน่าจะเห็นพ้องต้องกันว่ามีความคล้าย แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สมัยเล่นหนัง ‘แฟนฉัน’ ไม่น้อย ซึ่งก็ทราบว่าเป็นความตั้งใจของแจ็คจริง ๆ อันนี้ทำให้เข้าใจได้ว่าแจ็คก็อยากลองเลียนสูตรสำเร็จบางประการคือถึงพรสวรรค์ไม่สูง แต่พรแสวงและประสบการณ์ที่คลุกคลีทีมงานหนังที่ประสบความสำเร็จมานาน ก็ก่อร่างสร้างแจ็คที่มีแนวทางการทำหนังของตนเองได้

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

หนังมีความเป็น ‘แฟนฉัน’ ในบางแง่มุม มันพูดเรื่องมิตรภาพที่บริสุทธิ์มาก ๆ และก็แบบเด็ก ๆ อะไรที่ผิดแผกจากความปกติเล็กน้อยก็อาจขยายกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนแบบสมัยเด็กเพื่อนเหยียบขี้หมาก็แบบจะไล่ให้ออกจากกลุ่มไปหรืออาจล้อกันข้ามเดือน แต่นี่เพื่อนเป็นผีมันก็ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในแง่มุมที่ดีคือเด็กเขาคืนดีกันง่ายและคิดไม่เยอะเท่าผู้ใหญ่ ทำให้อารมณ์ของหนังไม่หนักเกินไป ดูได้ทั้งครอบครัว

แต่ก็มีจุดติงบ้างว่าหนังยังมีแนวคิดแบบไทยจ๋า (ซึ่งเข้าใจได้เพราะกลุ่มเป้าหมายคือคนไทยวงกว้าง) ที่ยังเล่นตลกกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ผิวดำ ตัวอ้วน ตาเข ยิ่งเราเพิ่งมีเรื่องภรรยาของ วิล สมิธ ในงานออสการ์มาด้วยมันก็เป็นอารมณ์แปลก ๆ ดีที่สังคมบ้านเราก็ยังชอบดูหนังที่ใช้จริตแบบนี้กันอยู่ได้ตลอด อันนี้ไม่โทษคนทำหนังด้วยเพราะยอมรับว่าคนไทยก็ยังตลกกับอะไรแบบนี้จริง ๆ แต่ก็แค่ตะหงิดไม่ถึงกับทำให้หนังดูแย่หรอกครับ แค่อยากฝากไว้ในอนาคต

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

และหนังเรื่องนี้จึงน่าประหลาดใจที่ว่ามันมีตลกเบอร์ใหญ่มาร่วมแสดงหลายคนมาก จนเราก็เสียวว่าความอ่อนบารมีของแจ็คและเอ็กซ์จะทำให้คุมหนังไม่อยู่หรือไม่ คือถ้ามันจะเป็นหนังจั่วมุกรัว ๆ แบบ ‘โกยเถอะโยม’ ก็ไม่ผิดอะไร แต่มันก็มีให้เห็นหลายเรื่องที่มีเส้นเรื่องดราม่าแต่พอเอาตลกมาเล่นมาก ๆ ก็มักจะแป้กหรือก็ตลกกันหลงเส้นเรื่องไปเลย แต่เรื่องนี้ผู้กำกับถือว่าประคองอยู่ หนังให้อารมณ์ฟีลกู้ดแบบรสกลาง ๆ ไม่ฟินจัดแบบพวกหนัง GDH แต่ก็ไม่เบาจนไม่รู้สึก และแค่รักษาโทนนี้ได้โดยมีสารพัดตลกรุ่นใหญ่มาพร้อมปล่อยของ เท่านี้ก็รู้สึกว่าผู้กำกับทำหน้าที่ได้ดีมากแล้ว

 

งานภาพของหนัง แดงพระโขนง

หนังยังมีงานภาพ ทำสีคุมโทนหนังที่ดูดี และมีฉากโชว์ซีจีบางฉากที่ดูว้าวด้วย อย่างฉากบ้านที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป รวมถึงพวกการแต่งหน้าผีหลายฉากก็รู้สึกทำได้ดีให้อารมณ์หนังไทยสมัยก่อนที่แต่งหน้าผีกันโหดมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีซีจีหลายฉากที่มันยังดูลอย ๆ อยู่บ้างเช่นพวกยืดแขนยืดขา แต่ก็ไม่ใช่จุดที่ร้ายแรงเพราะเหมือนคนทำหนังก็รู้จุดอ่อนดีและไม่ได้เอามาเป็นฉากโชว์ขนาดนั้น อย่างฉากมะนาวตกใต้ถุนที่มีในหนังตระกูลแม่นาคทุกเรื่องนี่ ถือว่าเรื่องนี้ก็เลี่ยงซีจีได้ฉลาดมากทีเดียว แดงพระโขนงรีวิว

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

 

และความประหลาดใจสุดท้าย คือ 10 นาทีสุดท้ายของหนัง เหมือนโจทย์ของคนทำหนังมีว่าประคองหนังให้คนดูอยากดูไปถึงช่วงท้ายหนังให้ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะ 10 นาทีสุดท้ายนี่คือที่สุดจริง ๆ คือจากก่อนหน้านี้ที่ว่ามาทั้งหมดเราจะไม่แปลกใจเลยถ้าตอนท้ายเรื่องจะมี ใหม่ ดาวิกา หรือ มาริโอ้ มาโผล่รับเชิญในหนังที่เป็นเหมือนจักรวาลเดียวกันเรื่องนี้ แต่หนังเรื่องนี้ขยี้ได้ร้ายกาจไปยิ่งกว่านั้นอีก และทำให้ ‘แดง พระโขนง’ เป็นหนังที่ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ไม่แปลกใจเลยที่คนจะปรบมือให้กันทั้งโรงในบทสรุปของหนัง ชื่นชมครับ

 

รีวิวหนัง แดง พระโขนง

วงการหนังไทยยังคงคึกคักต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ เพราะสุดสัปดาห์นี้ก็จะถึงคิวของอีกหนึ่งหนังผีไทยจะลงโรงฉายเป็นโปรแกรมใหม่ ที่ถือว่าเป็นหนังผีที่มีแนวคิดและไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจ กับการแตกหน่อตำนานเรื่องผีสุดอมตะของไทยออกเป็นอีกแขนง กับ “แดง พระโขนง” ที่ฟังดูเหมือนจะเป็นการต่อยอดจักรวาลตำนานนี้ มาพร้อมกับทีมผู้สร้างหนังตลกหน้าเดิม ๆ ที่แน่นอนว่าจังหวะและมุกต่าง ๆ ก็สไตล์เดิม ๆ มีทั้งอารมณ์ขำขันและขยะแขยงปะปนกันไป

แดง พระโขนง เป็นเรื่องเล่าหลังจากที่ผีนางนากแห่งทุ่งพระโขนง โดนสมเด็จโตปราบและได้นำปั้นเหน่งของนางนากไปบำเพ็ญเพียรกับพระมาก ทุ่งพระโขนงจึงกลับมามีความสงบสุข 10 ปีต่อมามีผีเด็กอาละวาดทำร้ายคนในทุ่งพระโขนงอีกครั้ง ชาวบ้านหวาดผวาว่าเป็นฝีมือของ ไอ้แดง ลูกของนางนากที่สมเด็จโตไม่ได้นำร่างไปบำเพ็ญเพียรด้วย ทำให้ชาวบ้านทุ่งพระโขนงหวาดผวาและหาทางที่จะทำให้หมู่บ้านกลับมาสงบสุขให้ได้ แดงพระโขนง ใครเล่น

หนังที่โหมโรงโปรโมตว่าเป็นผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของ “แจ็ค แฟนฉัน” กับเพื่อนซี้ของเขา “เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ” ที่เกิดแนวคิดดังกล่าวขึ้นมา ก่อนจะนำไปปรึกษา “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่ร่วมแสดงและทำหน้าที่อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ให้กับ ภายใต้งานสร้างของบั้งไฟ ฟิล์ม ของเขา แต่ความเป็นจริงแล้ว แจ็คเพิ่งจะถูกแฉมาหมาด ๆ ว่า…เขาลงพื้นที่มากองถ่ายในฐานะผู้กำกับแค่เพียง 2 คิวเท่านั้นเอง (แต่ก็ได้เครดิตเป็นผู้กำกับอยู่นะ)

 

 

แดง พระโขนง ก็มาพร้อมกับสไตล์หนังไทยดาดดื่นที่ให้ความรู้สึกฝืนที่จะกลืนลงคอ แม้ว่าจะมีไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย แต่การนำมาเล่าเรื่องและการกลั่นกรองออกมาเป็นบทหนังยังค่อนข้างล้มเหลว ไม่ต่างกับหนังตลกไร้สาระทีหาความบันเทิงใจเกือบจะไม่ได้เลย มุกตลกก็เต็มไปด้วยมุกโบราณที่ล้าสมัย ไม่ว่าจะเป็นมุกเหยียดผิว-เหยียดอัตลักษณ์บุคคล ที่ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ขำขัน แต่เป็นการคุกคามทางวาจาประเภทหนึ่งไปเสียแล้ว

หนังวางโครงเหมือนจะเป็นหนังที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน แต่เนื้อในของหนังที่มีภาพใส ๆ นี้นั้นยังเต็มไปด้วยมุกหยาบโลนในปริมาณหนึ่ง ที่ก็แอบรู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยที่ผู้ปกครองจะพาลูกหลานมาดูหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะมุกคำหยาบทะลึ่งต่าง ๆ ที่สามารถเลี่ยงได้ แต่หนังกลับใส่เข้ามาอย่างตรงไปตรงมา คำหยาบกลายเป็นมีชื่อที่ฟังทีไรต้องสะดุ้ง หนังที่มีเด็ก ๆ เป็นนักแสดงนำ กลับพังครื้นลงไปต่อหน้าต่อตาเพราะผู้ใหญ่พยายามยัดมุกหยาบ ๆ ให้หนังสอดแทรกไปด้วยพิษเสียอย่างนั้น

 

สรุปหนัง แดงพระโขนง

รีวิวหนัง แดง พระโขนง เป็นหนังผีตลกแบบไทย ๆ ที่ซ้ำซากจำเจเป็นที่สุด ไม่ต่างกับหนังเมื่อ 10-15 ปีก่อน ช่วงเวลาที่นั่งดูหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความอึดอัด นอกจากจะเต็มไปด้วยมุกขำเอาใจคนเจนเอ็กซ์ไล่ขึ้นไปถึงเบบี้บูมเมอร์แล้ว การเล่าเรื่องของหนังยังค่อนข้างเลวร้าย พอ ๆ กับบทหนังที่มีแค่หยิบมือเดียว หนังเสียเวลาไปกับการเล่าเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ฉากแล้วฉากเล่า ที่สารภาพเลยว่าก้มดูนาฬิกาตลอด และพบว่าหนังเล่าวนอยู่ในอ่างแบบนั้นครบ 1 ชั่วโมงพอดี ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่องในช่วง 30 นาทีสุดท้าย

การเล่าเรื่องที่พยายามยัดเยียดให้เห็นถึงมิตรภาพของแก๊งเด็กทุ่งพระโขนง ให้ความรู้สึกเหมือนย้ำคิดย้ำทำ ฉากละแวกนี้คล้ายกับนั่งดูละครก่อนข่าวที่ยืดไปมาและนำไปตัดเข้าโฆษณาได้ เนื้อเรื่องแทบจะไม่เดิน เด็ก ๆ ก็ต้องมาเล่นมุกตลกที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้เล่นไปตามน้ำ เป็นอะไรที่พยายามจะทำให้ตลก แต่กลับไม่ตลก เพราะมุกที่พวกเด็ก ๆ เล่นออกมานั้น คือการเหยียดมนุษย์กันเองทั้งนั้น แดงพระโขนงซูม

ซาวน์ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่…ทำให้รำคาญใจ เปิดฉากมาเริ่มแรกก็รู้สึกเพลินดีอยู่ เพราะหนังใช้ซาวน์ประกอบเดียวกันกับ นางนาก หนังเวอร์ชั่นปี 2542 ที่ทำให้รู้สึกสะพรึงและขนลุกไปกับความทรงจำที่หวนคิดถึง แต่พอหนังดำเนินไปเรื่อย ๆ แบบไม่ค่อยได้เคลื่อนที่เนื้อเรื่องไปไหน ซาวน์ที่ว่าน่าหลงใหลนี้กลับเป็นสิ่งที่รู้สึกหงุดหงิดที่เดี๋ยวตัดใส่ ๆ วนไปเรื่อยอยู่ตลอดทั้งเรื่องทีมนักแสดงของ แดง พระโขนง ก็ถือว่ามีความหลากหลายดี แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย เป็นนักแสดงตลกที่หยอดเข้าไปเป็นตัวโจ๊กคนละเล็กคนละน้อย บางตัวละครใส่มาให้เต็ม บางคาแรกเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่แคสติ้งนักแสดงเด็ก ๆ ก็ถือว่าพวกเขาทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่ก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยกันพยุงหนังทั้งเรื่องให้ไปตลอดรอดฝั่ง ในแบบอารมณ์หวานอมขมกลืน

 

 

แต่กระนั้น แดง พระโขนง ที่กระท่อนกระแท่นกับการเล่าเรื่องราวและนำเสนอไปเกือบจะทั้งเรื่อง กลับสามารถพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างกะทันหัน เพียงแค่ในช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้ายของเรื่อง กับอีสเตอร์เอ้กของหนังที่กลายเป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ไปโดยปริยาย แค่ฉากเดียวสามารถพลิกสถานการณ์ให้กับ แดง พระโขนง ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนต้องยอมสารภาพตรง ๆ เลยว่าเผลออุทานร้อง “ว้าวววว!” ออกมาโดยอัตโนมัติเลยทีเดียว

กลายเป็นว่าหนังที่เกือบจะพังครื้นไปกองตรงหน้า มีหน่วยกู้ชีพมาช่วยพยุงชีวิตของหนัง แดง พระโขนง เอาไว้ในช่วงโค้งสุดท้ายของเรื่องนี้ แม้ว่าหนังจะค่อนข้างล้มเหลวแทบจะทุก ๆ องค์ประกอบเลยก็ตาม แต่เพราะพลานุภาพของอีสเตอร์เอ้กที่หนังได้นำมาใส่เอาไว้ในช่วงท้าย ได้ช่วยยกระดับให้กับหนังเรื่องนี้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ และเป็นสิ่งที่ต้องให้ทุก ๆ คนไปพิสูจน์เอง และบอกไว้เลย…จะเจอสปอยล์หลุดตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายแน่นอน! แดงพระโขนง netflix

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

 

 

สปอยหนัง มาแรงไม่หยุดแบบฉุดไม่อยู่กับ “บุพเพสันนิวาส 2” หนังฟอร์มยักษ์น้ำดีที่พลิกจากละครดังระดับตำนานที่สร้างกระแสออเจ้าฟีเวอร์ด้วยประวัติศาสตร์ของยุคกรุงศรีอยุธยา สู่การปรับโฉมเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเปิดตัวไปเพียงแค่วันเดียวก็กอบโกยรายได้ไปมากถึงกว่า 50 ล้านบาท หนังไทยมาใหม่

 

เรื่องย่อ บุพเพสันนิวาส 2

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว เรื่องราวของ “บุพเพสันนิวาส 2” เรียกได้ว่าปังปุริเยสืบไปในทุกภพชาติ เพราะเปลี่ยนบรรยากาศของความเป็นอยุธยากรุงเก่า สู่ setting ของยุครัตนโกสินทร์ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าผ่านตัวละครเอกคู่ขวัญอย่าง “ภพ” , “เกสร”, และ “เมธัส” ในยุคสมัยที่นายห้างหันแตรนำเรือเอ็กซ์เพรสเข้ามาขายในสยาม ดูหนังฟรี

 

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

 

พล็อตเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส 2” ยังคงสไตล์คล้ายกับละครกล่าวคือ การเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในรูปแบบที่ดูทันสมัย เข้าใจง่าย ยิ่งได้ปิ๊ง อดิสรณ์ ผู้กำกับมือทองระดับแนวหน้ามาควบคุมดูแลผลงาน ยิ่งมีความบันเทิงศิลป์ ตบมุขโบ๊ะบ๊ะกันอย่างไม่ดูยัดเยียด และให้กลิ่นอายของความเป็นไทยที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ บุพเพสันนิวาส 2 กำหนดฉาย

 

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

ถ้าจะให้รีวิว “บุพเพสันนิวาส 2” คงอดชมไม่ได้ว่าพล็อตเรื่อง ฉากต่างๆ ถูกรังสรรค์และจัดวางมาอย่างลงตัวเป็นพล็อตเรื่องที่คาดเดาไม่ค่อยได้ไม่ดูถูกคนดูและมีเสน่ห์ในแง่ที่เต็มไปด้วยมุขตลกแต่ก็เต็มไปด้วยสาระ เกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์มากเช่นกัน ทั้งยังเป็น 3 นาทีที่ใส่ความเป็นไทยในรัตนโกสินทร์ลงไปได้ราวกับกิ่งทองใบหยก สำหรับใครที่มีความรู้ประวัติศาสตร์หรืออ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับยุคสมัยนั้นมาบ้าง จะยิ่งสนุกขึ้นไปอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องปาลเลอกัวซ์ นายห้างหันแตร หมอบรัดเลย์ และสุนทรภู่

หนังใหม่เข้าโรงตัวเดินเรื่องอย่าง “ภพ”, “เกสร” , และ “เมธัส” ก็เดินเรื่องได้ดี แทบไม่มีที่ติ #โป๊ปเบลล่า คือนักแสดงที่เหมาะแก่การเป็นคู่พระนางของเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของ “พี่หมื่น-น้องการะเกด” และ “พี่ภพ-น้องเกสร” นอกจากนี้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้คุณจะได้เห็นพัฒนาการการแสดงอีกขั้นของไอซ์ พาริส อย่างแน่นอน

 

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

 

MVP ของเรื่อง ขอยกให้ “อาภู่ (สุนทรภู่)” เพราะออกมาไม่บ่อยมาก ทว่าทุกฉากที่ออกมามักสร้างความพีคไม่หยุด บางฉากเล่นมุขง่ายๆ ที่เราอาจเคยเห็นมาบ้าง แต่ด้วยตัวละคร จังหวะ กรู๊ฟ มันเข้ากันอย่างเพอร์เฟ็กต์จนกลั้นขำไว้ไม่ได้
ตัวละครที่เซอร์ไพรส์ที่สุด คือ “พี่ปี่” เพราะปกติผู้ชมมักจะเห็นปุ๊กกี้ในเวอร์ชันที่ตลก ขายขำ ออกมาฉากไหนก็ต้องร้องออกมาว่า “ฮ่าๆ” ดังๆ สักหนึ่งแมตช์ แต่ในเรื่องนี้จะได้เห็นมุมเศร้าของพี่ปี่ที่เล่นได้ถึงพริกถึงขิงสัมผัสได้ว่ามันเรียลมากจริงๆ

ตัวละครที่แคสต์ได้ดีที่สุด คือ “ปาลเลอกัวซ์” เพราะแทบจะถอดร่างจากรูปภาพปาลเลอกัวซ์ในประวัติศาสตร์มาเลย ราวกับนั่งไทม์แมชชีนโดเรมอนมาแสดงให้เราดู คาแร็กเตอร์ก็เล่นได้อย่างน่าเชื่อถือดูเป็นคนมีความรู้กูรูและมีความลึกลับซับซ้อนของความคิดในบางครั้ง

 

งานภาพ แสง สี ของหนัง บุพเพสันนิวาส 2

ในส่วนของงานภาพ แสง สี ของ “บุพเพสันนิวาส 2” GDH ทำได้ตามมาตรฐานของตนเอง เพราะงานภาพคม ละเอียด และค่อนข้างสมจริงเป็นอย่างมากจะมองไปทางไหนก็สวยไปเสียทุกฉากไม่ว่าจะเป็นฉากเอฟเฟ็กต์ ฉากบู๊ ฉากรักโรแมนติก และอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้คุณมาชมด้วยตาตนเอง บอกตามตรงว่า CG เรื่องนี้ต้องใช้คำว่า “เริ่ดไม่ไหว”
ในด้านของงานเสียง “บุพเพสันนิวาส 2” ซาวด์เอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ ใส่เข้ามาในภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว งานเสียงที่ปังที่สุดคือเพลงประกอบภาพยนตร์ “ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง” ที่ได้นักร้องสาวพราวเสน่ห์อย่าง อิ๊งค์ วรันธร มาขับร้อง ความลงตัวของเพลง คือ การไม่ยัดเยียดความเป็นไทยมากจนดูขัดหู แต่เป็นการร้องสบายๆ ในสไตล์อิ๊งที่ฟังแล้วดูมีความไทยประยุกต์และชวนเคลิบเคลิ้ม เชื่อว่าหลายคนที่ดูภาพยนตร์จบไปจะต้องกลับไปเปิดเพลง “ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง” คลอไปตลอดวันตลอดคืน บุพเพสันนิวาส 2 ถอนตัว

 

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

 

สิ่งที่ชอบอีกหนึ่งอย่างของ “บุพเพสันนิวาส 2” คือ คำบรรยายภาพ เพราะเป็นภาษาอังกฤษที่สวยเข้ากับยุคสมัย มีการใช้คำภาษาอังกฤษโบราณมาประยุกต์กับการแปล เช่น คำว่า “thou” ที่เป็นสรรพนามภาษาอังกฤษในยุคสมัยก่อน
โดยรวมแล้ว ขอให้คะแนนรีวิว “บุพเพสันนิวาส 2” ที่ 9.8/10 ไม่รู้จะติอะไร แต่ขอหักคะแนนที่เอาพี่ปี่ออกมาน้อยไปหน่อย เพราะค่อนข้างคาดหวังกับตัวละครนี้มาก ส่วนภาพ แสง สี เสียง มันไม่รู้จะติอะไร ไปนั่งดูในโรงฯ ก็อุทานในใจตลอดว่า “ว้าวววววว” ขอรับรองว่าการซื้อตัวหนังเข้าชม “บุพเพสันนิวาส 2” คือ คุ้มค่ามาก ก.ไก่ล้านตัวอย่างแน่นอน

 

ผลงานล่าสุดของ GDH บุพเพสันนิวาส 2

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว ถ้ายังจำกันได้ ในงานเปิดไลน์อัปผลงานของ GDH ที่ชื่อว่า ‘GDH Xtraordinary 2021 Line Up‘ ที่จัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มีไตเติลอันหนึ่งที่เปิดตัวครั้งแรกในงานนั้นด้วย นั่นก็คือ ‘บุพเพสันนิวาส ๒’ ที่ถือว่าฮือฮามาก เพราะว่าเป็นผลงานร่วมทุนครั้งแรกของ GDH และ ‘บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น’ หยิบเอาผลงานละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ (2561) ที่เคยสร้างกระแส ‘พีหมื่น-การะเกด’ ที่เคยกวาดเรตติงละครสูงทะลุถึง 18.6 ส่วนวันพุธ-พฤหัสบดีที่ออกอากาศเพลาใด เทรนด์ทวิตเตอร์ก็ติดอันดับมิได้ขาดสาย มาสร้างในรูปแบบภาพยนตร์นะออเจ้า

และถ้านึกย้อนไปเมื่อตอนละครฉายนอกจากกระแสความสนุกประทับใจ ฟินเวอร์ของละครแบบถล่มทลายแล้วไอเทมสิ่งละอันพันละน้อยในละครยังกลายมาเป็นซอฟต์พาวเวอร์ให้ชาวไทยเพลานั้นแต่งตาม กินตามใช้ตามเที่ยวตามกันเป็นว่าเล่น ตั้งแต่กระแสการแต่งชุดไทย กุ้งเผา หมูกระทะ มะม่วงน้ำปลาหวาน พี่หมื่นแรปด่าการะเกด (เจ้าเป็นคนกำเริบ ฯ) โล้สำเภา พ่อม้ำน้ำ มนต์กฤษณะกาลี มีมพี่กิ๊ก สุวัจนี ฯลฯ แถมยังพาให้หนังสือนิยายต้นฉบับที่ประพันธ์โดย ‘รอมแพง’ (จันทร์ยวีร์ สมปรีดา) ขายดีจนพิมพ์ซ้ำนับไม่ถ้วน บุพเพสันนิวาส 2 ซูม

 

 

มาถึงปีนี้ ตัวหนัง ‘บุพเพฯ ๒’ ตัวหนังได้ ‘พี่ปิ๊ง’ (อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม) ผู้กำกับแห่ง ‘จอกว้างฟิล์ม’ เจ้าของผลงาน ‘รถไฟฟ้า มาหานะเธอ’ (2552) และละคร ‘น้ำตากามเทพ’ (2558) มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ แถมยังเปิ๊ดสะก๊าดด้วยการเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เปิดขายโทเคนดิจิทัลเพื่อระดมทุนสร้างผ่าน ‘Destiny Token’ ที่ขายหมดเกลี้ยงไปแล้วเรียบร้อยได้มูลค่าระดมทุนรวม 265 ล้านบาท ส่วนรายชื่อผู้ระดมทุนก็จะได้รับการขึ้นเครดิตท้ายในฐานะ Executive Producer

 

หนัง GDH ที่ยังเหลือพื้นที่ให้ใส่ความเป็นแฟนตาซีจ๋าๆ รื้อสร้างคาแรกเตอร์ใหม่ให้กับบุคคลในประวัติศาสตร์ (แบบไม่ต้องแคร์ว่าจะดูเป็นการลบหลู่หรือไม่) และยังเหลือพื้นที่ให้เล่าเรื่องแบบกาว ๆ หรือโบ๊ะบ๊ะแค่ไหนก็ได้ แต่ยังคงอยู่ในกรอบของความเป็นบุพเพฯ อยู่นั่นเองซึ่งถือว่าเป็นการหารครึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกว่าโอเค เพราะถ้าขืนยัดความเป็นบทละครช่อง 3 หรือเอาวิธีการแบบจีดีเอชมาเล่าล้วน ๆ เลย มันอาจจะไม่เวิร์ก ออกมาไม่สนุกเหมือนอย่างที่ควรจะเป็นก็ได้

 

บุพเพสันนิวาส 2 รีวิว

ประกอบด้วยทุนสร้างที่ถือว่าค่อนข้างสูงตัวหนังก็เลยเล่นใหญ่ใส่เต็มทั้งโปรดักชันที่ทุ่มทุนสร้างงานเซตติง ฉาก พรอป ที่ถือว่าละเอียดใช้ได้ แม้งานซีจีอาจจะมีลอยนิด ๆ รวมทั้งตัวหนังเองก็ยังวางเรื่องราวใหญ่โต ที่เล่าตั้งแต่การบ้าน (คนรักกัน) ไปถึงเรื่องของการเมืองในประวัติศาสตร์ทำให้ตัวหนังยาวมากถึง 166 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 46 นาทีแน่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ต้องชมทีมเขียนบทนะครับว่าสามารถรักษาความเป็นแก่นของบุพเพฯ สำหรับแฟนๆ เอาไว้ได้ดีเลยแหละ คนเป็นแฟนๆ น่าจะชอบบุพเพฯ ภาคขยายนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น

ในขณะที่ก็ยังสามารถหยอดมุกฮา โรแมนติกและรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในประวัติศาสตร์ในแบบฉบับของ GDH เอาไว้ได้อย่างมันมือเต็มเหนี่ยวและลงตัวมากเสียจนคนที่ไม่เคยดูละครมาก่อนก็สามารถดูไปด้วยได้แบบเพลินๆ และดูรู้เรื่อง พาร์ตฮาก็ได้ฮา พาร์ตโรแมนติกก็ได้ฟิน โดยเฉพาะคู่โป๊ป-เบลล่านี่ไม่ผิดหวังครับ เข้าคู่กันทีไรก็ได้ฟิน น่ารักน่าหยิกทุกฉากไปโป๊ปก็เล่นทั้งหล่อทั้งตลกได้พอดีๆ ส่วนเบลล่าก็มีเสน่ห์มาก สวยขึ้นกล้องสุดๆ อีกคนที่มีผลต่อเรื่องก็คือ ‘เมธัส’ (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ซึ่งจริงๆ อีตานี่แหละคือตัวเดินเรื่องที่แท้จริง

 

 

แต่มันก็มีข้อสังเกตอีกนั่นแหละว่าพอเกิดอาการมันมือแล้วมันก็มีจุดที่เกิดอาการมันมือเกินไปอยู่เหมือนกันอาการแรกก็คือบางจังหวะของบางมุกที่แอบทำงานไม่เต็มสูบ บางจังหวะมุกที่ควรจะคมๆ หรือตั้งใจวางไว้ให้ฮากลับไม่คมแฮะ แต่มุกเล็กมุกน้อย มุกคำพูด หรือมุกจาก ‘พี่ปี่’ นี่คือฮาแตกมากๆ พี่ปุ๊กกี้ (ปวีณ์นุช แพ่งนคร) นี่คือฮาธรรมชาติจริงๆ อีกอย่างที่เกิดขึ้นคือการเล่าเรื่องในบางจังหวะก็เกิดอาการเตะถ่วงจนทำให้เรื่องหลวมและยืดยาวเกินความจำเป็น โดยเฉพาะไคลแมกซ์ที่แอบวางให้พลิกล็อกไปมาๆ จนยาวยืดตกท้องช้างไปบ้าง ซึ่งก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หนังมีความยาวมากเกินไปด้วย หากหนังเลือกหั่นฉากตัดซีนย้วยๆ ออกบ้างอาจทำให้ Pace สนุกกว่านี้ก็ได้

 

โดยรวมแล้ว ‘บุพเพสันนิวาส ๒’ เป็นภาคขยายพหุจักรวาลของละครบุพเพสันนิวาสในแบบฉบับของ GDH ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นรอมคอมพีเรียดอิงประวัติศาสตร์สไตล์ ‘ออเจ้า’ ได้อย่างสนุกสนาน เป็นหนังแฟนเซอร์วิสที่แฟนละครหลงรักแต่ก็ยังมีพื้นที่กว้างให้คนที่ไม่เคยดูละครได้ตามทันแบบสนุก ๆ แม้ว่าจะมีความขาดๆเกินๆ มุกทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง และตัวหนังเกือบ 3 ชั่วโมงที่หลายคนอาจรู้สึกว่ามันยาวเกินไปแต่ก็ถือว่าเป็นความบันเทิงที่เหมาะเอาไว้ดูแบบเพลินๆ ได้ฮา ได้ฟินแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะอย่างน้อยดูแล้วก็น่าจะไม่เบะปากคว่ำแบบพี่กิ๊ก สุวัจนี บุพเพสันนิวาส 2 ดูฟรี

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก

 

 

สปอยหนัง จะมีสักกี่คน ที่จะได้รู้จักและเข้าใจกับสิ่งๆนึ้ แม้บางคนจะเดินไขว้ขว้า ค้นหามันมากเท่าไหร่ ความรักนั้นยิ่งกลับเดินห่างออกไปไกลจากเราที่กำลังเดินหาอยู่ แต่ถ้าว่าความรักมันอาจเกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา โดยในบางทีความรักอาจจะวนเวียนอยู่รอบตัวเราทั้งๆที่เราอาจจะไม่รู้ตัว ด้วยความบังเอิญ ที่ทำให้คนสองคนนั้นได้พบกัน ได้รักกัน สิ่งๆนั้นผมเรียกมันว่า ความรัก… ดูหนังออนไลน์

เรื่องย่อ เขาเรียกผมว่าความรัก

“เค้าเรียกผมว่า ความรัก”หนังรักอารมดี จากผู้กำกับ “วศิน ปกป้อง”หนึ่งในสอง ของ ผู้กำกับ “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก”ที่เคยสร้างกระแสหนังรักวัยรุ่นในเมื่อ 2ปีที่ ผ่านมา โดยกวาดรายได้จากคอหนังรักไปกว่า 80ล้านโดยที่ผ่านมาคู่หูอย่าง “เสนาเพชร”ได้แยกตัวออกไปคิดบทและกำกับหนังรักอย่าง 30+ โสด On Sale ในช่วงปีที่ผ่านมา หนังไทยย้อนยุค
รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก
มาถึงปีนี้จะปล่อยให้เพื่อนฉายเดี่ยวนำหน้าแบบนี้อยู่คนเดียวได้อย่างไร พี่ “วศิน ปกป้อง”จึงพลักดันโปรเจคหนัง “เค้าเรียกผมว่า ความรัก”นี้ขึ้นมาโดยได้นักแสดงสุดฮอตอย่าง เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ มาประกบคู่นางเอกหน้าใหม่ อย่าง โบว์ -ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ และนักแสดงสมทบอย่าง สตาร์บัค , แจ๊ส ขวนชื่น , และตลกซุปเปอร์สตาร์อย่าง คอม ชวนชื่น มาเพิ่มสีสัน ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย เมื่อย้อนไปในวัยเรียนเชื่อว่าทุกคนจะต้องมี “ป๊อปปี้เลิฟ” บ้างล่ะ เช่น แอบปลื้มรุ่นพี่ แอบชอบเพื่อนในห้องเดียวกัน บางคนก็สมหวังในความรัก แต่มีบางคนที่เสียใจ พอโตขึ้นได้ทำงานได้เกิดความใกล้ชิด บางคนก็มีอาการแอบชอบพี่ หรือเพื่อนที่ทำงาน แอบรักข้างเดียวโดยที่เขาไม่รู้ตัว พยายามเอาใจทุกอย่าง แต่ไม่ยอมบอกความรู้สึกทีมีต่อเขาออกไป เป็นอาการของคนปากแข็ง กลัวถ้าบอกแล้วเราจะเสียใจ แต่ไม่ได้คิดว่าถ้าไม่บอกเราก็จะเสียใจเหมือนกัน

 

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก

ถ้าคุณเป็นคนปากแข็งไม่กล้าบอกความรู้สึกตัวเอง ขอแนะนำหนังเรื่อง “เค้าเรียกผมว่าความรัก” ผลงานของ “วศิน ปกป้อง” ผู้กำกับที่มีผลงานสร้างชื่อมาแล้วกับหนังเรื่อง “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” ที่ทำให้หลายคนประทับใจกันมาแล้ว ในเรื่องนี้ได้พระเอกหล่อ มาดเซอร์ “เป้–อารักษ์ อมรศุภศิริ” มารับบท “คิว” หนุ่มมาดกวน ที่ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้เขากลายเป็นกามเทพ และนางเอกน้องใหม่สาวสวย โบ–ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ รับบท “เก้อ” สาวข้างบ้านคิว หน้าตาสวย มีหนุ่มๆ มารุมล้อม หนังเรื่องนี้จะทำให้หัวใจของคุณพองโต แล้วอยากพูดว่า “รัก” ดังๆ

เล่าเรื่องตอนเด็ก เขาเรียกผมว่าความรัก

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก ตั้งแต่เด็กจนวัยรุ่น คิว (เป้ – อารักษ์) เป็นหนุ่มหล่อ เท่ห์ และป๊อปปูล่าที่สุดในโรงเรียน วันหนึ่งก็มีเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ ใส่แว่นตาหนาเตอะข้างบ้านอย่าง เก้อ (โบ – ธัญญะสุภางค์) มาแอบสารภาพรัก เขาจึงล้อเธอและแกล้งเธออย่างไม่ใส่ใจความรู้สึกของเก้อเลยแม้แต่น้อย วินาทีนั้นทำให้เก้อเสียใจมากจนถึงกับประกาศก้องว่า ” ถ้าวันใดที่เธอสวย ขึ้นมาเธอจะไม่มีวันรับรักคิวเด็ดขาด” ซึ่งคิวก็เชื่อว่าจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน จนเมื่อเก้อโตขึ้นเธอสวยราวกับนางฟ้า หนุ่มๆ ต่างรุมล้อมเธอผิดกลับคิวเมื่อโตขึ้นความฮอต ความป๊อปปูล่าที่เคยมีก็กลับหดหาย กลายเป็นแค่หนุ่มเซลล์แมนห่วยๆ คนหนึ่งในบริษัทฯ ของบิ๊ก
เพื่อนเก่าสมัยประถมที่เคยถูกคิวแกล้งจนต้องย้ายโรงเรียนหนี คิวยังมี โจ (สตาร์บัคส์) หนุ่มเพื่อนซี้ ปากแข็ง ที่แอบหลงรัก มิว (เฟย์ จิรประภา) สาวสวยสุดมั่น คู่กัดกับโจ ทั้งคู่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ติดอยู่ที่ปากแข็งกันทั้งคู่
รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก
จนวันหนึ่งที่คิวเผลอคลิกเว็บไซต์หนึ่งเข้าไปแบบไม่ตั้งใจ เขาถูกชักชวนให้เข้าไปประชุมลับกับองค์กรกามเทพ โดยกฎเหล็กขององค์กรนี้มีอยู่ว่า “กามเทพมีหน้าที่ทำให้คนอื่นรักกันเท่านั้น และไม่มีสิทธิ์ที่จะรักกับใครได้เลย” คิวจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จ เพื่อกลับมาเป็นคนปกติ เมื่อคิวเห็นบิ๊กสนิทกับเก้อมากขึ้น ทำให้เกิดอาการหึงหวง อยากบอกว่า “รักเก้อ” เขา เรียกผม ว่าความ รัก hd
แต่กลับพูดไม่ได้ เพราะยังเป็นกามเทพ

ความรู้สึกส่วนตัว เขาเรียกผมว่าความรัก

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก “เค้าเรียกผมว่า..ความรัก”เปนเรื่องราวของ คิว (เป้ อารักษ์) อดีตแบดบอยคนดังของโรงเรียน ผู้ไม่เคยเชื่อในความรัก เขาล้อเล่นกับความรักเป็นเรื่องฮาๆมาตลอด จนกระทั่งเขาหลงรัก เก้อ (โบ ธัญญะสุภางค์)สาวน้อยข้างบ้านเข้าอย่างจัง เธอกำลังจะทำให้เขารู้จักกับความรัก แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเธอคือคน ที่เขาเคยทำร้ายจิตใจและปฏิเสธความรักอย่างไร้เยื่อใยเมื่อ ครั้งยังเด็ก เธอจะเกลียดเขาไหม เขาจะต้องทำยังไงที่จะทำให้เธอรู้สึกดีและกลับมารักเขา…
เป็นหนังรักที่มีบทที่สามารถดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม ซึ่งนำเรื่องราวของกามเทพ มาตีความใหม่ในแบบของพี่ วศิน และสามารถทำให้คนดูเข้าถึง และเข้าใจความหมายของเหล่าบรรดา กามเทพ ในเรื่อง โดยผสมนำมุขตลกมากสอดแทรกกับความโรแมนติก ด้วยความหยาบคาย ได้อย่างลงตัว โดยได้ น้า คอม ชวนชื่น และแจ๊ส ชวนชื่น ตลกขาประจำของวงการหนังไทย มาสร้างสีสันทำหนังสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้ ไม่มากไม่น้อย ทำให้ตัวหนังมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
และตัวเอกอย่าง เป้ อารักษ์ และนางเอกใหม่อย่าง โบว์ – ธัญญะสุภางค์ ถึงแม้ตัวบทจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือพิเศษอะไรมาก แต่ทั้งคู่สามารถสื่อถึงบทและความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างดี ทำให้คนดูเชื่อ และอินกับความรักของตัวละครทั้งสองแต่น่าเสียดายที่หนังเน้นย้ำกับ คำว่าความรัก และ กามเทพ มากเกินไป ทำให้ตัวหนังเหลือความน่าสนใจแค่ไม่กี่ส่วน แต่ด้วยการที่ช่วงต้น ปูเรื่องมาดี มีมุขตลกคอยเสริม ทำให้หนังไม่น่าเกลียด จนไม่ให้อภัย ช่วงท้ายของเรื่อง ถึงแม้จะจับมาใส่รวมกันและรวดเร็วมากไปหน่อย ทำให้ไม่สามารถตราตรึงความรู้สึก เหมือนอย่าง”สิ่งเล็กๆที่เรียกรัก”และสามารถเดาทางสุดท้ายของตอนจบในเรื่องได้ แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน ในเรื่องบท การแสดง และที่ชอบเป็นพิเศษคือ ซาวค์และเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่เลือกมาเหมาะสมกับเนื้อเรื่องและเลือกใช้มันถูกจังหวะของอารมณ์
อาจจะไม่ใช้หนังรักที่กระแสแรง แต่เมื่อเราซื้อตั๋วเข้าไปชมแล้ว สามารถนั่งยิ้มได้ตลอดเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบและยังให้แง่คิดกับคนดูได้ว่า“เราไม่ควรมองข้ามความรักของใคร ถึงแม้ความรักนั้นเราอาจจะไม่ต้องการ แต่สักวันนึงมันอาจย้อนกลับมาในวันที่เราต้องการมันก้อได้…” เค้าเรียกผมว่าความรัก netflix

รีวิว เขาเรียกผมว่าความรัก

หนังเรื่องนี้สื่อถึง คนเราเมื่อมีโอกาสได้บอกคำว่า “รัก” เช่น รักพ่อ รักแม่ รักเพื่อน หรือคนที่เราแอบรัก ควรให้เขาเหล่านั้นรับรู้ อย่ามัวแต่ปากแข็งหรือเขินอาย ถ้าเมื่อไหร่ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว เรานั่นแหละจะต้องเสียใจที่ไม่ได้พูดว่า “รัก”
หนังเรื่องนี้ ให้คะแนน 7 เต็ม 10 เพราะว่า ถ้าพูดถึงความเป็นจริง คงไม่มีองค์กรกามเทพแบบนี้อยู่ในโลก และความรักก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายอย่างนั้น คนเราจะรักกันจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่สำหรับเรื่องความตลก ขอบอกว่าจัดเต็มเพราะมีดาราตลกมากฝีมือย่าง น้าค่อม ชวนชื่น แจ๊ส ชวนชื่น มาสร้างสีสัน รวมถึงนักแสดงทุกคนก็รับส่งมุกตลกได้ดี ทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมอยู่ตลอดเวลา
ไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้โปรโมทน้อยหรือยังไง… หารูปในอินเตอร์เน็ตมาประกอบบทวิจารณ์ได้ยากมาก… สำหรับรูปนี้จะบอกว่า นักแสดงตลกในเรื่อง เป็นชุดเดียวกับสุดเขตเสลดเป็ด ที่ต้องบอกว่า ลงตัวมากๆ กับพระเอกเป้ อารักษ์ ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้หนังเรื่องเค้าเรียกผมว่าความรัก… “ฮา” เอามากๆ และเรียกว่าไต่ระดับความฮาจากฮาเล็กไปจนฮาใหญ่ เก็บทุกเม็ดทุกรายละเอียด ขำจนแทบลืมหายใจ… จนบางทีมากไป จนต้องตัดคะแนนการดำเนินเรื่องไปที่ 7 คะแนน
ฉากนี้เป็นฉากแต่งงานที่นายสตาร์บัคไปยืนมึนๆ ใส่คู่บ่าวสาว เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องไปดูกันเอง เรื่องนี้วิจารณ์ไม่ค่อยถนัด เพราะตัวอย่างหนังไม่บอกอะไรเลย แต่ในตัวหนังจริงๆ รายละเอียดเยอะและยาวมาก ถ้าวิจารณ์ไม่ดีเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์… แต่รับรองด้วยคะแนนจากนาซีทีวีเลยว่า เรื่องนี้เด็ดจริงๆ  และตอนจบมีการหลอกคนดูด้วยว่าจะจบอีกแบบ แท้จริงแล้วจบอีกแบบ สรุปว่า “ฟิน” และ “อิ่มรัก” ไปตามๆ กัน…
อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มีคู่รักหลายคู่ที่ออกมาให้เราเห็นมุมมองความรักแบบต่างๆ และมีอยู่คู่หนึ่งด้วยที่ไม่ใช่ความรักแบบธรรมดาทั่วไป  เป็นความรักที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ แต่หนังก็ทำออกมาไม่น่าเกลียด กลับดูลงตัวและมีชั้นเชิงในการนำเสนอ ในประเด็นที่ว่า บางคนมีโอกาสบอกรักกับคนที่รักแต่ไม่ทำ ในขณะที่บางคนจะตายวันไหนไม่รู้หรือไม่สามารถพูดคำว่ารักได้ด้วยซ้ำ… หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นอก
เหนือจากเรื่องสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ที่ถือเป็นหนังที่สามารถนำเสนอมุมมองความรักได้อย่างมีชั้นเชิง ต้องชมผู้กำกับ “วศิน ปกป้อง” จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองของเขาแล้ว ขอให้รักษาระดับนี้ต่อไป และสร้างสรรค์หนังไทยดีๆ ออกมาอีกเรื่อยๆ นะครับ นาซีทีวีเป็นกำลังใจให้ สำหรับหนังเรื่องแรกที่กำกับแบบฉายเดี่ยวแถมยังเขียนบทเองด้วยนี้ “My name is Love เค้าเรียกผมว่าความรัก” รับคะแนน 8/10 คะแนนจากนาซีทีวีไปเลย เค้าเรียกผมว่าความรัก เต็มเรื่อง